ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1 : Nine Lives The Broken Song
1 : Nine Lives The Broken Song
“Nine Lives The Broken Songเหรอ เป็นเด็กสาวน่ารักที่รสนิยมดีมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มพูดเมื่อมองปกหนังสือเล่มใหญ่ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “แต่มันคงจะหนักไปหน่อยสินะครับ ฮ่าๆๆ”
“ไนน์? ไลฟ์? คะ?”
เด็กสาวที่ยังมึนงงเล็กน้อยทวนคำอย่างทุลักทุเล
“ครับ สนุกมากเลยนะถึงเล่มแรกจะเก่าไปหน่อยก็เถอะ ได้อ่านเล่มแรกไหมครับ”
ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูสดใสจนรู้สึกได้
สำหรับพลอยอย่าว่าแต่อ่านเล่มแรกเลย แค่ชื่อหนังสือในมือชายหนุ่มตอนนี้เธอยังจำได้ไม่ครบทุกคำเลยด้วยซ้ำ ซ้ำร้ายในตอนนี้เธอยังสนใจใบหน้าของนักศึกษาหนุ่มมากกว่าหนังสือเล่มใหญ่นั่นอยู่หลายขุมทีเดียว
“...ไม่ได้อ่านค่ะ” พลอยตอบอย่างลังเลก่อนที่เธอจะยิ้มออกมา “แต่ว่าจะซื้อเล่มนี้น่ะค่ะ คิดว่าต้องสนุกแน่ๆเลย”
คำพูดของเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มแปลกหน้ายิ้มสดใสยิ่งกว่าตอนพูดถึงหนังสือในมือเสียอีก เขารีบคืนหนังสือใส่มือของพลอย รอยยิ้มที่ดูอารมณ์ดีนั้นแสดงออกถึงความหลงใหลในหนังสืออย่างชัดเจนแม้ไม่ได้พูด สายตาของเขาออดอ้อนให้ซื้อเสียยิ่งกว่าแมวสีเทาตาขวางบนปกหนังสือเล่มใหญ่นี่เสียอีก และแน่นอนมันเข้าแผนของพลอยแบบลงล็อกทุกระเบียบนิ้ว
“แล้วพี่มีเล่มแรกไหมคะ”
เมื่อได้ฟังชายหนุ่มก็ทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ไม่มั่นใจเหมือนกันครับ มันเก่ามากแล้วด้วย จะหาซื้อใหม่คงลำบาก” คำตอบเชิงปฏิเสธของอีกฝ่ายทำให้พลอยแอบหวั่นใจเล็กน้อยว่าการตีสนิทนี้จะล้มเหลว แต่ชายแปลกหน้าก็เริ่มพูดต่อ “จริงๆจะไม่อ่านเล่มแรกก็น่าจะอ่านต่อได้ไม่ยากนะ แต่ถ้าน้องอยากได้ล่ะก็พี่อาจจะพอหาให้ได้ครับ”
“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ”
พลอยตอบด้วยท่าทางดีใจอย่างชัดเจน แม้ว่าในความเป็นจริงเธอจะไม่ได้ดีใจเพราะจะได้หนังสือก็ตาม สิ่งที่ทำให้พลอยดีใจนั้นคือการที่จะได้ขอวิธีติดต่อผู้ชายตรงหน้าอย่างเนียนๆมากกว่า
“งั้นหนูขอเบอร์พี่ได้ไหมคะ”
“อ๊ะ ได้สิ ถ้ายังไงจะแอดไลน์ผ่านเบอร์มาก็ได้ครับ เดี๋ยวถ้าหาหนังสือได้จะบอกนะครับ”
ความหวังของหญิงสาวเพิ่มพูนขึ้นอย่างเหลือล้นในขณะที่ยื่นโทรศัพท์ให้กับอีกฝ่าย ถึงแม้พลอยจะไม่ได้มีความสนใจที่จะรุกเข้าหาผู้ชายอย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่การได้มีคนรู้จักเป็นหนุ่มหน้าตาดีก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นผลดีกับเธออยู่ไม่น้อย
“เฮ้ย ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวสายนะ” เสียงพูดเร่งดังขึ้นจากด้านหลังของชายหนุ่ม
“พี่ชื่อชินนะครับ ถ้ายังไงไว้จะติดต่อไปนะ”
ชายหนุ่มพูดแล้วรีบเดินจากไป เขารีบเดินไปตามทางที่ได้ยินเสียงเรียกโดยไม่ได้หันกลับมามองพลอย ในขณะที่หญิงสาวได้แต่คิดว่าไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นผู้ชายที่ดูน่ารักจริงๆทั้งหน้าตาหรือน้ำเสียงในการพูด
“นั่นแหละค่ะเจ้ น่ารักมากเลย แบบว่าไทป์นุ่มนิ่มๆ” พลอยพูดด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง
“ค่าๆ ช่วยอยู่นิ่งๆหน่อยนะคะคุณน้อง ก่อนดินสอมันจะแทงตา”
เสียงแหบสูงพูดเตือนทำให้พลอยนิ่งขึ้นทันทีแม้สีหน้าจะแสดงถึงการอยากพูดต่ออย่างชัดเจนก็ตาม
แม้การพูดถึงผู้ชายจะเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับเจินเจิน แต่การพูดในขณะที่กำลังแต่งหน้านั้นไม่ดีเอาเสียเลย แม้นัดในตอนเช้าของพลอยนั้นจะล่มไม่เป็นท่าแต่นัดทำงานถ่ายแบบในสตูดิโอช่วงบ่ายยังคงเป็นไปตามกำหนดเวลา ซึ่งความจริงพลอยดูจะอยากมาคุยกับเจินเจินมากกว่าทำงานเสียอีก
เจินเจินหรือเจ้เจินของพลอยนั้นเป็นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นช่างแต่งหน้าประจำตัวพลอยไปแล้ว ทั้งที่ความจริงพลอยจะแต่งหน้าเองเป็นส่วนมาก แต่เพราะเจินเจินเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำเรื่องความสวยความงามของเด็กสาวคนนี้อยู่บ่อยๆจนสนิทสนม บางครั้งที่เจินเจินว่างจากการเรียนและงานหลักในตอนนี้ของเธออย่างการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ พลอยก็จะไหว้วานขอให้มาแต่งหน้าให้เวลาทำงานอยู่บ้าง โดยมีจุดประสงค์หลักคือการไปกินข้าว กินขนม หรือเดินช็อปปิ้งด้วยกันหลังเสร็จงานมากกว่า
“แล้วได้แอดไลน์หนุ่มคนนั้นไปหรือยังล่ะคะคุณน้อง”
เจินเจินถามด้วยความสนอกสนใจเมื่อทั้งสองนั่งอยู่ในร้านกาแฟหลังเสร็จงานแล้ว
“เรียบร้อยแล้วค่ะเจ้ขา”
“งั้นรออะไรล่ะ ขอดูรูปหน่อย”
เจินเจินคว้าโทรศัพท์จากมือของพลอยทันทีพร้อมกับรีบกดเข้าไปดูรูปโปรไฟล์ในไลน์ของคนที่พลอยเล่าถึง ชายหนุ่มผมสีดำผู้มีรอยยิ้มที่ดูสดใสราวกับพระอาทิตย์นั้นทำให้หัวใจของสาวๆเต้นแรงได้อย่างไม่ยากเย็น และมีได้ผลอย่างชัดเจนกับเจินเจินเช่นกัน
“เป็นไงคะ เป็นไง” เสียงสดใสร่าเริงของพลอยทำให้เจินเจินละสายตาออกจากหน้าจอโทรศัพท์คืนมันให้กับพลอยก่อนจะใช้มือป้องปากแล้วพยักหน้าเบาๆ แต่พลอยก็รับรู้ได้ว่าเธอกำลังปิดรอยยิ้มปลื้มปริ่มเอาไว้ใต้มือ “น่ารักเนอะเจ้”
“แล้วไปเอาไลน์เขามาได้ยังไงคะเนี่ย”
“คุยเรื่องหนังสือกันน่ะค่ะ” คำตอบของพลอยทำให้เจินเจินเบิกตาขึ้นเล็กน้อย
“...คุณน้องเนี่ยนะคะอ่านหนังสือ แค่เข้าร้านหนังสือยังเป็นเรื่องหายากเลยไหม”
เจินเจินพูดด้วยความแปลกใจปนสงสัยเจือไม่เชื่อ ปกติพลอยนั้นไม่ค่อยสนใจหนังสือสักเท่าไร เธอแทบจะซื้อมาประดับบารมีและสร้างภาพเพียงเท่านั้น เพราะงั้นการที่เธอจะคุยกับใครเรื่องนี้รู้เรื่องนั้นค่อนข้างจะเป็นโอกาสที่หายากทีเดียว
“พอดีมันบังเอิญหลายๆอย่างน่ะค่ะ ก็เลยตามน้ำไป”
“เพราะน้องพลอยน่ารักล่ะมั้งเนี่ยเขาถึงยอมให้มาง่ายๆ” เจินเจินพูดพลางใช้มือจับคางของพลอยเล็กน้อยแล้วคลี่ยิ้มออกมา
“แหม ก็มีมือโปรเรื่องความสวยความงามอยู่ด้วยนี่ไงคะเจ้” พลอยยอกลับทำให้ทั้งสองสาวนั่งหัวเราะคิกคักกันอยู่ในร้านกาแฟก่อนจะลุกขึ้นออกจากร้านเพื่อไปเดินเที่ยวต่อ
หลังจากเดินเล่นผลาญเงินไปกับเสื้อผ้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอางจนเย็นก็ได้เวลาแยกย้ายกลับบ้าน พลอยนั้นโบกมือลาเจินเจินจนถึงตอนที่รถของเธอเริ่มออกตัวแล้ว กว่าเธอจะยอมปิดกระจกรถก็ต้องรออีกฝ่ายลับตาไปเสียก่อน พลอยซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถเมอร์เซเดส เบนซ์คันหรูทิ้งตัวพิงไปกับพนักพิงของรถอย่างหมดแรง ก่อนจะควานหาถุงใบหนึ่งซึ่งปนอยู่ในของมากมายที่เธอไปซื้อมากับเจินเจิน
ถุงหนังสือที่มีหนังสือเล่มใหญ่อยู่นั้นถูกหยิบขึ้นก่อนที่พลอยจะหยิบหนังสือออกมา เธอพลิกมันไปมาเพื่อดูหน้าปกและปกหลังก่อนที่จะมีคำพูดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
“สนุกมากเลยนะครับ”
เสียงทุ่มนุ่มๆกับรอยยิ้มสดใสของชิน นักศึกษาหนุ่มที่เธอเจอเมื่อตอนกลางวันทำให้พลอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเปิดหนังสืออ่านในทันทีระหว่างที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านแล้วแทนที่จะกระตือรือร้นรีบสั่งให้คนขับรถยกของให้เหมือนทุกที พลอยกลับเงียบกริบจนคนขับรถสงสัย เธอลงจากรถพร้อมกับหนังสือในมือที่เธอไม่ยอมละสายตาเลยแม้แต่น้อย
“คุณหนูครับ ผมยกของไปไว้ที่ห้องนะครับ” คนขับรถถามด้วยท่าทางกังวลเล็กน้อย
“อื้อ”
พลอยตอบสั้นๆก่อนจะเดินจากไปทั้งที่ยังอ่านหนังสืออยู่ทำให้คนขับรถของเธอยิ่งกังวลเข้าไปอีก แต่เขาก็ถามอะไรมากไม่ได้และทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป พลอยนั้นนิ่งเงียบจดจ่ออยู่กับหนังสือก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเองโดยแทบไม่พูดคุยกับใครเลยจนทำให้ พล พี่ชายผู้เห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาตั้งแต่น้องสาวกลับบ้านแต่ดูเหมือนน้องสาวจะไม่ได้สนใจรู้สึกแปลกใจจนต้องหันไปถามคนขับรถ
“ยัยพลอยเป็นอะไรไปน่ะครับพี่เอก”
“ไม่ทราบครับคุณพล เห็นนั่งเงียบอ่านหนังสือมาตลอดทางเลยครับ” คนขับรถตอบในขณะที่กำลังยกของอยู่
“หนังสือ? ยัยพลอยเนี่ยนะครับอ่านหนังสือ” พลเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองทางห้องของน้องสาวแล้วทำท่าครุ่นคิด
พลอยหายเงียบเข้าไปในห้องจนถึงเวลาอาหารเย็น สองพี่น้องนั่งรับประทานอาหารด้วยกันอยู่ในห้องอาหารตามปกติ เพราะเป็นโอกาสหายากในรอบปีอยู่แล้วที่พ่อแม่ของพวกเขาจะว่างมาร่วมโต๊ะด้วย แต่วันนี้น้องสาวช่างจ้อของพลนั้นกลับนั่งเงียบ ไม่ร่าเริงตามปกติ
“เฮ้ พลอยวันนี้เป็นอะไร” พลถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วง
“เปล่าค่ะ” พลอยตอบพร้อมส่ยหน้าเบาๆก่อนจะพูดต่อ “อิ่มแล้วนะคะ”
เด็กสาวพูดก่อนจะลุกออกจากโต๊ะแล้วกลับไปที่ห้องของเธอ ห้องของเด็กสาวที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของน่ารักๆแม้แต่บนโต๊ะสำหรับทำงานหรือทำการบ้านนั้นคือห้องที่พลอยชอบหมกตัวอยู่ในนี้เป็นที่สุด เธอกลับเข้ามาแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆกับหนังสือเล่มใหญ่ที่ถูกวางคว่ำหน้าอยู่บนผ้าห่มหนานุ่มของเธอ ก่อนที่พลอยจะคว้าโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา
เมื่อหน้าจอสว่างขึ้นเธอก็เห็นแจ้งเตือนของข้อความ ทำให้เธอลืมไปว่าความจริงเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพราะจะเปิดเพลงและรีบกดเข้าไปดูข้อความนั้นทันที
พี่ชิน : หาเล่มแรกให้เจอแล้วนะครับ อ่านเล่มสองแล้วรึยังนะ?
ชายหนุ่มผู้ค้นหนังสือในบ้านของตัวเองจนเจอหนังสือที่รับปากกับพลอยไว้นั้นส่งข้อความมาด้วยความดีใจ แต่อยู่ๆเด็กสาวก็โทรมาหาเขาในทันทีหลังจากอ่านข้อความที่ชินส่งไป
“ฮัลโหลครับ” ชินรับสายอย่างประหม่าเล็กน้อย
“อ่านจบแล้วนะคะเล่มที่ซื้อมาน่ะ” เด็กสาวพูดนิ่งๆแต่ก็ทำให้ชินดีใจขึ้นมา
“แล้วเป็นยังไงบ้างครับ สนุกเนอะ”
“ไม่สนุกเลยค่ะ” พลอยพูดตอบในสายโทรศัพท์ทำให้ชินรู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย ก่อนที่อยู่ๆเด็กสาวจะปล่อยโฮออกมาซะเฉยๆ จนเขาแทบจะทำโทรศัพท์หลุดมือ “แบบว่า ฮึก...คุณหุ่นน่าสงสารมากเลย ทำไมเนื้อเรื่องมันเศร้าแบบนี้อ่า ไม่แฟร์เลย”
พลอยร้องไห้ยกใหญ่ทำให้ชินแทบหลุดหัวเราะออกมาแต่ก็พยายามอดกลั้นความเอ็นดูเอาไว้ ในตอนแรกเขากังวลว่าเธอจะเบื่อหนังสือที่เขาแนะนำ แต่ดูเหมือนว่าเด็กสาวจะอินเกินไปจนอารมณ์ติดค้างอยู่ในหน้าหนังสือเสียแล้ว
“แล้วก็นะ แบบว่า...ทำไมจบแบบนี้ล่ะ แบบนี้น้องแมวก็ไม่สมหวังสิ”
เสียงสะอื้นผสมการระบายเนื้อหาที่ได้อ่านทำให้ชินยิ้มไม่หยุด เขานั่งลงกับพื้นหน้าชั้นหนังสือของตัวเองพร้อมกับฟังเรื่องที่พลอยเล่าไปด้วย
หนังสือนิยายภาพประกอบNine live the broken songนั้นเน้นที่ภาพเป็นสื่อหลัก เนื้อหาด้านในไม่ได้มีตัวหนังสือมากมายเต็มหน้ากระดาษเหมือนนวนิยายทั่วๆไป เป็นเพียงข้อความเล่าเรื่องที่มีสัมผัสในการเขียนเป็นเอกลักษณ์ก้ำกึ่งระหว่างการเป็นกลอนกับการเขียนปกติ แม้จะดูเหมือนว่าเป็นหนังสือที่มีแมวเป็นตัวหลัก แต่ในความจริงเนื้อหาก็ไม่ได้พูดถึงความเป็นแมวเสียเท่าไหร่ ในทางกลับกันมันกลับมีเนื้อหาที่ซุกซ่อนแนวคิดอันละเอียดอ่อน โดยถ่ายทอดผ่านงานด้านภาพอันประณีตแบบเอเชีย และอบอวลไปด้วยบรรยากาศของความงดงามที่ลึกลับ เหนือจริง โศกเศร้า และโรแมนติก ซึ่งนั่นอาจจะดึงตัวของเด็กสาวให้ดำดิ่งลงไปในนั้นแล้วก็เป็นได้
“แบบนี้จริงๆแล้วก็แปลว่าดีหรือเปล่าครับ” ชินพูดหลังจากเด็กสาวจบประโยคสุดท้ายได้สักพัก “ท่าทางน้องจะเอ็นจอยกับการอ่านอยู่นะครับ”
คำพูดของชินทำให้พลอยฉุดคิดขึ้นมาเล็กน้อย แม้เธอจะไม่ชอบอ่านหนังสือเลย แม้มันจะเศร้า หรือแม้มันจะไม่น่ารักแบบหน้าปกของมันเลย แต่มันกลับทำให้เธออยากอ่านอีก อยากรู้เรื่องต่อไปอีก และยิ่งกว่านั้น เธออยากจะเปิดอ่านซ้ำเสียด้วยซ้ำ และแน่นอน มันเรียกร้องให้เธออยากอ่านเล่มแรกขึ้นมาจริงๆ
“แล้วพี่ชินหาเล่มแรกเจอแล้วเหรอคะ” พลอยถามขณะที่กำลังเดินหาทิชชู่ในห้องไปด้วย
“ครับ พอดีที่บ้านพี่เป็นร้านหนังสือน่ะครับ”
“โห จริงเหรอคะ ต้องมีหนังสือเยอะมากแน่ๆเลย” พลอยพูดอย่างสดใสหลังจากสั่งน้ำมูกออกไปจนหมด “แล้วแบบนี้พี่จะเอาหนังสือมาให้หนูยังไงเหรอคะ”
“สนใจมาที่ร้านไหมครับ ถ้าสะดวกพี่จะส่งโลเคชั่นไปให้นะ” ชินพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ไปที่ร้านหนังสือของพี่ชินเหรอคะ” พลอยทวนประโยคก่อนจะคิดเล็กน้อย
วันพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ซึ่งเธอจะต้องไปเรียน และเธอเองก็คงต้องเตรียมสอบในสัปดาห์นี้เสียด้วย แต่ก่อนที่พลอยจะปฏิเสธอย่างจำใจชินก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ถ้าไม่รีบจะเป็นวันหยุดหน้าก็ได้ครับ พี่จะอยู่ร้านทั้งวันช่วงวันหยุดอยู่แล้ว” ชินเสนอ “แต่ถ้าอยากอ่านมากๆพี่จะส่งเคอร์รี่ไปให้นะครับ”
“เอาเป็นวันหยุดหน้าก็ได้ค่ะ พอดีสัปดาห์นี้หนูติดสอบ” พลอยตอบด้วยความเสียดาย
“ครับ งั้นจะตั้งตารอนะครับ ไว้เจอกัน” ชินพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
ทั้งสองคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่จะแยกย้ายกันไป หลังจากวางสายแล้วพลอยก็หยิบหนังสือเล่มเดิมมาอ่านซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะเอามันไปวางไว้บนชั้นหนังสือที่บัดนี้ดูคล้ายชั้นวางเครื่องประดับเสียมากกว่า พลอยวางNine liveเล่นใหญ่นั้นลงบนชั้นหนังสือให้มันหันปกออกมาก่อนที่เธอจะจัดการถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงไปในอินสตาแกรมส่วนตัว
“พลอย นอนหรือยัง”
ยังไม่ทันที่พลอยจะได้ทำสิ่งที่ชอบอย่างการรออ่านข้อความแสดงความคิดเห็น เสียงของพี่ชายก็ดังขึ้นตามหลังเสียงเคาะประตูทำให้พลอยรีบเดินไปเปิดประตูทันที
“ค่า ยังไม่นอนเลย พี่มีอะไรอะ”
“พี่ซื้อเค้กมาให้ เห็นวันนี้อารมณ์ไม่ดีนี่นา” พลพูดพลางยื่นกล่องเค้กให้กับน้องสาว และใช้มืออีกข้างลูบที่ท้ายทอยของตัวเองไปด้วย
“หา? วันนี้หนูอารมณ์ดีมากเลยน้า!” พลอยพูดพร้อมกับพองแก้มเล็กน้อย “แล้วกินเค้กตอนดึกๆมันอ้วนนะคะ”
“อ่า อ้าว เหรอ โทษทีนะ” พลที่เห็นท่าทางปกติของน้องสาวรู้สึกแปลกใจและโล่งใจในเวลาเดียวกัน
“เอาล่ะๆไปได้แล้ว สาวน้อยกำลังอารมณ์ดีนะคะ ชิ่วๆ” พลอยพูดแล้วปิดประตูใส่พี่ชายในทันที
เธอกระโดดลงเตียงอีกครั้งแล้วเริ่มอ่านความคิดเห็นใต้รูปภาพของตัวเองในอินสตาแกรม และระหว่างที่เธอกำลังเพลินเพลินอยู่นั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนของข้อความดังขึ้นอีกครั้ง ชินได้ส่งสถานที่ตั้งของร้านมาให้ตามที่พูดเอาไว้เรียบร้อยทำให้พลอยไม่รอช้าที่จะรีบกดเข้าไปดู
“Red riding books Cafe?”
NINE LIVE THE BROKEN SONG
ทรงศีล ทิวสมบุญ
WRITER TALK
วี้~ บทแรกมาแล้วค่ะ เร็วกว่าที่คิดใช่ไหมคะ555 คือเราเขียนแบบ..เขียนตั้งแต่ยังไม่มีคนสมัคร ยังคิดตัวละครได้แค่พลอยตัวเดียวเลยค่ะ แล้วพอมีตัวละครก็ค่อยๆแอดเพิ่มเข้าไป ปรับไปตามตัวละครที่อยากใส่ คือดราฟแรกกับที่ลงนี่ห่างกันโขเลย55 เราจะแต่งไปรับตัวละครไปพร้อมๆกันนี่แหละค่ะ ลงราวๆสัปดาห์ละตอนถึงสองตอนค่ะ
เอาจริงๆแนวคิดแรกเนี่ยเกิดจากความค่อนข้างเนิร์ดหนังสือค่ะ จริงๆเราไม่ได้อ่านหลากหลายหรือเป็นหนอนหนังสือนะคะ แค่คิดว่าถ้าเอาอะไรที่เราชอบหน่อยมาแต่งมันคงสนุกดี ได้ป้ายยาหนังสือที่เราชอบด้วย555 เราไม่รู้ว่าตอนที่เราแต่งนี่มันสั้นไปไหม คือปกติเราจะพยายามให้ตอนหนึ่งยาวกว่านี้ค่ะ แบบ6-7หน้าอะไรแบบนั้นแต่กลัวว่าแต่งไปพอเข้าตอนลึกๆแล้วจะฝืนเอา แต่ถ้ารู้สึกว่าสั้นไปบอกได้นะคะ เพราะจริงๆลิมิตเราก็ยาวกว่านี้ได้
จริงๆเราไม่เคยแต่งแแนวนี้เลยนะคะ เราเคยเขียนพวกแฟนตาซีเวทมนตร์กับไล่ล่ากันมา555 เพราะงั้นเนื้อเรื่องมันอาจจะช้าๆหน่อย เรายังหาสมดุลย์นิยายรักนิยายวัยรุ่นแบบนี้ไม่ค่อยลงตัวเท่าไร ตอนนี้เราอัพตัวละครจนถึงคนล่าสุดที่ส่งเข้ามาแล้วนะคะ ลองไปดูกันได้ พอดีเรากดเผยแพร่ไปแล้วมันไม่ได้แจ้งเตือนค่ะ55
ขอบคุณทุกคนที่ส่งตัวละครเข้ามานะคะ แล้วก็ขอฝากตัวอย่างเป็นทางการยาวๆเลยน้า
♥ กดให้กำลังใจกันหน่อยน้า ♥
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น