คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter1 : เรื่องเหนือความคาดหมายเล็กๆน้อยๆ
หลังจากที่ไอน่าได้รับการฝากฝังกระต่ายตัวน้อย เอน่ากับพี่เลี้ยงก็ขนสัมภาระที่จำเป็นในการไปสืบเสาะที่ต่างประเทศเดินออกจากบ้าน ของที่นำไปดูน้อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาแต่ก็ทดแทนไปด้วยจำนวนเงินตราที่มากกว่าเดิมเช่นกัน
เอน่าดูซีดเซียวกว่าเดิมมาก เธอเหนื่อยและต้องการพักผ่อนจนอยากจะยกเลิกการตามหาแล้วไปนอนแผ่บนเตียงหนานุ่ม หากแต่คนที่ตามหากลับเป็นมารดาของตนจึงไม่ยกเลิกโดยเด็ดขาด ความจริงเอน่าไม่ได้รักแม่เลยด้วยซ้ำ เพียงแต่น้องของเธอขอร้อง ซึ่งดูท่าว่าหากเธอไม่ทำตามไอน่าจะไปเสียเอง เอน่าไม่ยอมเด็ดขาด เธอไม่รักแม่แต่เธอรักน้อง และศักดิ์ศรีความเป็นพี่คงค้ำคออยู่
การเดินทางครั้งนี้เอน่าอยากให้เป็นไปอย่างเร็วที่สุด เป็นไปได้ก็อยากให้เสร็จภายในเดือนเดียว พี่เลี้ยงของเธอคงทนกับการเอาแต่ใจมามากพอแล้ว....
ไอน่าไม่ได้ไปส่งพี่ที่สนามบิน นั่นเป็นเพราะมัวแต่สาละวนกับการปิดบ้านและเตรียมตัวไปตลาดเพื่อซื้อของ ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มแต่ก็ไม่สามารถหยุดพ่อค้าแม่ค้าเร่ที่ขายเครื่องประดับได้หรอก ไอน่ารู้ดี เธอชอบเครื่องประดับเป็นที่สุด! และที่ลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งของเธอก็เต็มไปด้วยเครื่องประดับซะเป็นส่วนใหญ่
ทางจากบ้านถึงตลาดนั้นไม่ไกลนัก เดินไปไม่นานก็ถึง ไอน่าดิ่งไปยังพ่อค้าเครื่องประดับเร่ทันที เครื่องประดับสวยๆเตะตามีอยู่มาก ไอน่านั่งยองๆพิจารณามันอยู่นาน มีทั้งจี้ สร้อย กำไล ต่างหู แหวน หรืออะไรอื่นๆอีกมากเกินกว่าจะคิดถึง พ่อค้าเร่มองไอน่าอย่างเอ็นดูในความจริงจังของเธอ มองปราดเดียวก็เห็นโชคเกอร์หนังเรียบๆสีดำที่ลำคอของสาวน้อย
“งั้นเดี๋ยวพี่แนะนำให้นะ จี้นี่เป็นไง?”
“เอ๋? แต่ว่าไม่เห็นมีสายสร้อยคล้องเลยนี่คะ มีแค่จี้?”
พ่อค้าเร่ยิ้ม เขาพยักพเยิดไปที่โชคเกอร์ของเธอ
“เดี๋ยวพี่เอาเครื่องเจาะหนังเจาะให้จะได้คล้องได้ไง ถูกใจอันนี้ไหมล่ะ?”
จี้ที่พ่อค้าแนะนำเป็นจี้รูปทรงแปลกประหลาดที่ไอน่าเห็นตั้งแต่เดินเข้าร้านมา ไม่ได้สวยมากมายแต่รู้สึกถูกชะตา เธอถอดโชคเกอร์หนังตอบตกลง
“พี่ได้มาจากแม่ค้าอีกคนน่ะ ได้มาค่อนข้างถูกเลย แต่พี่ไม่ค่อยไว้ใจแม้คนนั้นเลยรู้ป่าว ใส่เสื้อคลุมปิดหน้ารุ่มร่ามเชียว ทำเป็นลับๆล่อๆมีคมนัยกว่าจะขายให้พี่ได้” พ่อค้าเล่า พอใจกับความมีมารยาทของไอน่า เพราะปกติเขาจะเจอแต่ลูกค้าที่เป็นกันเองจนเรียกได้ว่าไร้มารยาท
เธอยิ้มและขอบคุณพ่อค้าเร่ ซักพักจึงตัดสินใจดูของเล็กๆน้อยๆก่อนกลับ แต่คงเป็นได้แค่การตัดสินใจเพราะฝนเริ่มสาดลงมาอย่างบ้าคลั่ง ดีที่พ่อค้าแม่ค้ายังมีเพิงร้านของตนเป็นที่กำบัง ไอน่าจึงตกลงใจที่จะไปบ้านเพื่อนสนิทที่อยู่แถวนี้ คงมีที่หลบฝนและผ้าเช็ดตัวแห้งๆนะ!
*************************
สนามบินพิเศษ
เมื่อเอน่ากับพี่เลี้ยงของเธอถึงสนามบิน ก็จำต้องรอแกร่วอยู่ที่นี่หลายชั่วโมงเพราะมาก่อนเวลาซะเยอะ! ตั้ง5-6ชั่วโมง! เอน่าคิดอย่างขัดใจ อุตส่าห์มาซะเช้าหวังจะได้ไปเร็วๆแต่เครื่องบินดันมีปัญหาต้องซ่อมซะตอนนี้!แย่จริงๆ!
พี่เลี้ยงของเธอดูจะรู้ความคิดของเอน่าจึงอนุญาตให้เธอไปเดินรอบๆแก้เซ็ง ส่วนพี่เลี้ยงเจ้าเนื้อจะเฝ้ากระเป๋าให้ เมื่อเอน่าได้ยินดังนั้นก็ดีใจเป็นอันมาก รีบวิ่งไปทันที
เอน่าเดินดูตามร้านขายของที่ระลึกของสนามบินพิเศษซึ่งส่วนใหญ่จะขายแพงกับชาวต่างชาติทั้งนั้น หากมาดูของที่สนามบินอย่าหวังเลยว่าจะได้ของถูกๆดีๆติดไม้ติดมือกลับไป แต่ก็นั่นแหล่ะ ของแพงมักจะสวยงามล่อตาล่อใจนัก! โมเดลแก้วคริสตัลเอย ตุ๊กตาผ้าไหมเอย กระเป๋าหนังจระเข้เอย
เมื่อพูดถึงกระเป๋าหนังจระเข้ เธอกับไอน่ามักจะเถียงกันบ่อยๆว่าดีหรือไม่ดี เอน่าบอกเสมอว่าเป็นกระเป๋าที่ทน,ใช้ดี,สวยงาม อีกทั้งทำให้จระเข้ดุร้ายลดลงเป็นของแถม แต่ไอน่ากลับบอกว่าไม่ดีเพราะทำมาจากหนังสัตว์ แล้วสัตว์ไม่ว่าชนิดไหนก็มีจิตใจด้วยกันทั้งนั้น ฟังดูน่ารำคาญสำหรับเอน่า แค่เพราะสิ่งนั้นแหล่ะ ทำให้เธอรักน้องสาวของเธอ
จะว่าไปแล้ว เอน่ากับไอน่าเป็นี่น้องที่ต่างกันสุดขั้วทีเดียว เอน่าใจเย็น-ไอน่าจะใจร้อน,เอน่าอารมณ์ร้ายชอบอาละวาด-ไอน่าก็จะคอยไกล่เกลี่ย, เอน่าอยู่ในโลกแห่งชีวิตจริงแต่เหลวไหล-ไอน่าชอบการจินตนาการแต่จริงจัง ความแตกต่างของบุคลิกเช่นนี้ทำให้เธอทั้งสองเข้าขากันได้ดี....หากคนหนึ่งเป็นไฟ อีกคนก็จะเป็นน้ำคอยปลอบประโลมให้สมดุล....
“ยัยหนูจ๋า มาดูซุ้มของยายหน่อยมั๊ยจ๊ะ” เสียงหมอดูริมทางพูด “ยายเห็นอนาคตของอีกคนหนึ่งของหนูนะ”
เอน่าหูพึ่งทันที ปกติเอน่าไม่ชอบพวกหมอดูเท่าไหร่ แต่คำว่า อีกคนหนึ่งของหนู ทำให้เธอเดินไปหายายนักทำนายผู้นั้น เอน่ารูว่าคำว่า อีกคนหนึ่งของหนู คือไอน่า เป็นน้องสาวของเธอ เธอจะไม่ยอมดูได้อย่างไร
“แพงไหมจ๊ะ” เอน่าถามเสียงใส แต่ก็ยอมมองเข้าไปในลูกแก้วลูกใหญ่ของนักทำนาย
“อีกคนหนึ่งของหนูมีอนาคตไกลเชียวหล่ะ แต่ก็ออกจะประหลาดนิดหน่อย” หมอดูเริ่ม ใช้มือลูบคลำลูกแก้วใส
“การใช้ชีวิตจะอันตราย แต่กต่าง แต่จะจบลงอย่างงดงาม...อ๊ะ!!!” หมอดูเบิกตาค้าง จ้องมองลูกแก้วอย่างไม่เข้าใจ
เอน่ารู้สึกประหลาดใจกับพฤติกรรมของหมอดู เธอรีบซักหมอดูทันที แต่หมอดูกลับสั่นเป็นเจ้าเข้า
“ความอันตราย!ความอันตราย!ความอันตราย!หนูอีกด้านจะมีแต่ความอันตรายประดั่งเข้ามาย่างกราย เพราะเก็บของสำคัญไว้!” ยายหมอดูพูดซ้ำไปซ้ำมา สั่นไม่หยุด เอน่ารีบเรียกคนมาช่วยในทันที ไม่กี่อึดใจเจ้าหน้าที่ประจำสนามบินพิเศษก็วิ่งมาช่วยเอน่ากับยายนักทำนายที่กำลังชัก
เวลาผ่านไปไม่นาน เอน่าสามารถได้สติจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครู่ เธอจึงเดินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใจของเธอกลับเต้นระทึกเมื่อมองไปยังหน้าต่าง เธอเห็นฟ้ามืดครึ้มด้วยใกล้เวลาแห่งรัตติกาล ซึ่งหลังจากพบกับนักทำนายแล้ว เอน่ารู้สึกเป็นห่วงน้องของเธอเหลือเกิน
“นี่ นี่ เธอ รู้มั๊ยกรมไฟฟ้าบอกว่าตอนนี้แถวบ้านฉัน จะตัดไฟซ่อมชั่วคราวน่ะ!”เสียงหญิงสาววัยกลางๆที่เอน่าคุ้นหน้าดังขึ้น ต่อด้วยเสียงเจาะแจะจอแจไม่หยุด
“ แหม เธอนี่รู้ไปหมดเลยนะ!แล้วกี่โมงล่ะ?”
“คงตอนที่มืดแล้วนั่นแหล่ะ อันตรายแย่เลย!โฮะ โฮะ โฮะ”
“เอน่า! เครื่องบินซ่อมเสร็จแล้วหล่ะ!รีบมาเร็ว!” เสียงพี่เลี้ยงเจ้าเนื้อดังจากโทรศัพท์ที่ดังเมื่อครู่ เอน่าดีใจที่เป็นเช่นนั้น เพราะเธอไม่อยากได้ยินพวกสาวๆพวกนั้นพูดกันเลย ให้ตายสิ!
“นี่ เอน่าเป็นอะไรหรือเปล่า? ถอนหายใจหลายครั้งแล้วนะ” พี่เลี้ยงถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย
เอน่าไม่อยากโกหกเลยเมื่อเห็นแววตาของสาวเจ้าเนื้อ
“.........หนูเป็นห่วงไอน่าค่ะ”
“โถ..!ไม่เป็นไรหรอก ไอน่าดูแลตัวเองได้”
‘หนูก็หวังอย่างนั้นนะคะ...’ เอน่าคิดอย่างกลุ้มใจ
‘หวังว่าคงไม่มีอะไรไม่ดีๆเกิดขึ้นนะ.....’ ไอน่าจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?
โอ๊ยยย! เรื่องเหนือความคาดหมายมันเยอะจริงๆ!!!....
*************************
ซ่า ซ่า ซ่า
เสียงฝนกระหน่ำลงมาไม่หยุด แต่ก็ยังได้ยินเสียงออดของบ้านหลังเล็กแต่อบอุ่น เด็กชายสองคนมาเปิดประตู ดูท่าจะซุกซนทีเดียว ไอน่าบอกเหตุผลที่มา คือมาหาโฮลี่เพื่อนของเธอ
“ไอน่านี่นา! ตัวเปียกเชียว เข้ามาก่อนสิ!” เด็กสาวแก่นแก้วทัก ผมสีน้ำตาลออกส้มๆถูกดัดเล็กๆที่ปลายอย่างเก๋ไก๋ นัยน์ตาซุกซนสีน้ำตาลเป็นประกายเหมือนนึกสนุกรื้นขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ดีจังที่เธอมา! แล้วเอาโชมาด้วยหรือเปล่า ฟลาวเวอร์ ทำตัวระริกระรี้ใหญ่เลยนะ!”
โฮลี่ดีใจจนแทบตะโกนออกมา ความจริงถ้าจะพูดให้ถูกคือ ตะโกนไปแล้ว
โฮลี่เลี้ยงหนูขาวชื่อ ฟลาวเวอร์ มันไม่ใช่หนูแฮมสเตอร์แบบโชของไอน่า แต่หน้าตาน่ารักไม่หยอกกับพฤติกรรมที่สดใสแบบหนูๆ ฟลาวเวอร์ก็ฟลาวเวอร์จริงๆ หนูตัวนี้ชอบที่จะดมดอกไม้ เล่นกับดอกไม้ และกินดอกไม้ หรือตามที่ไอน่าเรียกคือชำแหละดอกไม้ ซึ่งโฮลี่ไม่ใคร่จะพอใจนัก
จะว่าไป ฟลาวเวอร์เป็นหนูผู้หญิงตัวเดียวที่เข้ากับโชของไอน่าได้ดี ถ้าตัวอื่นเข้าใกล้โช โชจะหนี แล้วหนูตัวเมียจะวิ่งไล่กัดโช
“ อ่า ไม่ได้พามาน่ะ เอ่อ ขอผ้าเช็ดผมหน่อยได้ไหม”
ไอน่ารับผ้าขนหนู (คงไม่ได้ทำจาก ขนหนู จริงๆหรอกใช่ไหม..?)มาเช็ดผมพลางเดินไปที่กรงของฟลาวเวอร์ โอ้! มันกำลังชำแหละดอกไม้จริงๆด้วย เธอเอานิ้วไปแตะๆแก้มหนูสาวเบาๆ หนูสาวหันมาเอาจมูกดุนๆอย่างน่ารัก ถ้าหนูยิ้มได้คงจะยิ้มไปแล้วล่ะ
“ไอน่า!ที่โชคเกอร์ของเธออ่ะ สวยจัง ดูหน่อยนะ นะ~”
โฮลี่เอามือไปแตะจี้ที่เธอซื้อมาเมื่อครู่ จี้ของไอน่าเป็นรูปกุญแจสีเงิน ตรงหัวเป็นรูปดาวและปีก ดาวเป็นอัญมณีสีเขียวมรกต ปีกเป็นสีทองคำขาว ปีกนี้ติดกับก้านกุญแจ ตรงหัวกุญแจมีขนนกจริงติดอยู่ สีของขนนกนั้นพูดได้ยาก เพราะสีต่างกันเป็นแถบ มีทั้งสีฟ้า เขียว น้ำตาล แดง ขาว และดำอยู่ในก้านขนนกเดียวกัน
“น่ารักนะ ฉันไม่มีของที่คล้ายๆอย่างนี้เลย ถึงแม้จะมีพวกสร้อยเป็นสิบๆก็เถอะ”
โฮลี่พูดพร้อมๆกับไล่น้องชายสองคนที่มาแอบฟังหน้าประตู
กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง!
กริ่งหน้าบ้านกำลังดังต่อเนื่องไม่หยุด คนที่กดกริ่งคงเสียมารยาทมากที่รบกวนการปรึกษากันของทั้งสอง เด็กชายสองคนไปเปิดประตูอีกครั้งด้วยความฉงน
ฝนยังตก พรำ พรำ เรื่อยๆอยู่ไม่มีที่สิ้นสุด....พร้อมๆกับคนคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาเงียบๆ
“โฮลี่...ฉันมาหา..” เสียงเนิบๆนาบๆ ช้าชาเย็นดังขึ้น “อ้าว..ไอน่ามาด้วย..เหรอ..?”
ตรงหน้าของเธอทั้งสองมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ไว้ผมสั้นประบ่าย้อมสีแดง ดูมีสไตล์
ใส่เสื้อแขนยาวเปิดไหล่กับกางเกงตัวหลวมโคร่ง แขนข้างขวาหนีบแมวลายทางผสมกันมั่วสีเข้ม ส่วนแขนข้างซ้ายหนีบแมวลายทางสีอ่อนๆ ยากจะบอกได้ว่าแมวสองตัวนี้สีอะไร เพราะลายเยอะเหลือเกิน มีทั้งลายเสือสีดำ เทา น้ำตาลไหม้ น้ำตาลอ่อน หรือส้ม แต่สามารถบอกได้ว่าทั้งสองตัวมีนัยน์ตาสีเหลืองดูดุร้าย เป็นตัวเมีย และ กำลังร้องระงมเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุดปาก
บนหัวสีแดงนั่นมีนกขนกุดไม่เป็นระเบียบเกาะอยู่ เห็นได้ชัดว่าขนบางเส้นโดนตัดซะแหว่ง
หญิงสาวคนนี้ชื่อรูเซียน่า เธอเป็นเพื่อนรักของโฮลี่กับไอน่า หากเรียกเธอว่ารูเซียน่าเธอจะไม่หันเลย! ทุกคนจึงเรียกเธอว่า รูซ แมวสองตัวที่รูซเก็บมาชื่อเอ๋อ ที่เป็นตัวสีอ่อน และ ไลออนคิง ที่เป็นตัวสีเข้ม เจ้านกแหว่งๆนั่นคือ ฟอกซ์ สาเหตุที่โดนตัดขนแหว่งเพราะรูซไม่อยากให้บินไปไกลเกินตัวเธอ....ช่างบาปดีแท้
“รูซ! บอกแล้วไงว่าอย่าเอาเอ๋อกับไลออนคิงมา เธอก็รู้นี่!ดูซิฟลาวเวอร์ตัวสั่นใหญ่แล้ว!”
โฮลี่ว่า แต่รูซดันทำเฉยเมย
“ เอ๋อกับไลออนคิงไม่สนใจหนูตัวไหนนอกจากโชของไอน่าหรอก...”
พูดพลางปล่อยแมวสองตัวเข้ามาในห้อง มันไม่สนใจฟลาวเวอร์อย่างที่รูซว่าจริงๆ
ไอน่าทำหน้าเซ็ง
“ฉันไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่แมวของเธอสนใจหนูของฉัน”
**************************
สามสาวกับอีกสี่ตัวกำลังนั่งล้อมวงกันอ่านหนังสือ โฮลี่เป็นนักอ่านหนังสือตัวยงจึงมีหนังสือเก็บไว้มากมายจนสร้างเป็นปราสาทได้
“รูซดูจี้ของไอน่ารึยังน่ะ สวยนะ” โฮลี่ชวนคุยแล้วจับมือของรูซให้ไปแตะที่จี้ของไอน่า รูซดูจะไม่พอใจเท่าไหร่นักเมื่อถูกดึงมือ แต่ก็ยอมโดยดี
สำหรับรูเซียน่า จี้นั่นไม่ค่อยเตะตาเท่าไหร่นัก นั่นก็เพราะการแต่งตัวและสีผมของเธอดูโดดเด่นมากกว่าแมวมีปีกเสียอีก!
“อืม...ก็สวยดีนี่” รูซเอ่ยป่าก “ฝนใกล้หยุดแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ...”
“อ๊ะ จริงด้วย งั้นฉันก็จะกลับแล้วนะ ขอบคุณนะโฮลี่”
ไอน่ารีบเดินก่อนที่โฮลี่จะรั้งตัวไว้ ส่วนทางด้านของรูซก็กำลังหนีบแมวไว้ที่ข้างแขน เจ้านกฟอกซ์กระโดดเกาะผมสีจัดจ้านนั่น การกระทำนั้นทำให้ทั้งโฮลี่ทั้งไอน่าเอือมระอา แต่โฮลี่ก็ร่ำลาทั้งสองถึงแม้จะพอใจก็ตาม
ฝนเริ่มหยุดตกตามที่รูซบอก นั่นเป็นผลทำให้ไอน่าแวะไปตลาดอีกครั้งเพื่อซื้อของกินตุนเข้าบ้าน ก็เธอทำอาหารไม่เป็นนี่นา พึ่งได้ก็จะพึ่งอาหารสำเร็จรูปนี่แหละ!
หลังจากที่เลือกเสร็จเรียบร้อยฟ้าก็เริ่มมืด ไอน่าสาวน้อยต้องหิ้วถุงพะรุงพะรังทั้งสองมือเดินกลับบ้าน ทางดูยาวไกลเหลือเกินหากหิ้วของเดินไปแทนที่จะเดินตัวเปล่าอย่างทีแรก
ในที่สุด เธอก็แบกสัมภาระกลับถึงบ้านได้จนได้ อย่างแรกที่เธอทำก็คือดิ่งไปที่ห้องครัวเพื่อเก็บของที่ซื้อมาเต็มไปหมดลงในตู้เย็น,ตู้เก็บเสบียง ก็การเดินทางของพี่เธอครั้งนี้อาจยาวนานเป็นเดือนๆก็เป็นได้นี่นา ต้องเก็บเสบียงไว้ก่อน จริงไหมล่ะ?
เธอหยิบขนมบางอย่างติดมือเข้าห้องไปด้วย....
แกร็ก
“โชจัง มาทานขนมกันเถอะ!....เอ๊ะ?” น้ำเสียงตกใจเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของห้องไปเจอกรงแฮมสเตอร์ที่ว่างเปล่า!
โชจังของเธอหายไปไหนเสียแล้ว! ไอน่าโยนถุงขนมไว้บนเตียงแล้วเดินตรวจรอบห้อง ทั้งในห้องน้ำก็ไม่เว้น
“โชจัง~อยู่ไหนน่ะ?!” ไอน่าเริ่มใจเสีย เดินตรวจรอบบ้าน รวมถึงท่อระบายน้ำด้วย
“โช!?” เธอร้อง พลางไปที่ระเบียงตรวจดูตามกระถางต้นไม้กับจุดอับตรงประตูมันก็ยังไม่เจอ
ไอน่าเหนื่อยเหลือเกิน โชอาจยังอยู่ในห้องของเธอ คิดได้ดังนั้นแล้วเธอก็เดินกลับไปที่ห้องอย่างร้อนอกร้อนใจ แต่..
แกร็ก
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด! ขโมย!”ไอน่ากรีดร้องก่อนจะปิดปากตัวเอง
บนเตียงของเธอ..ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก บนเตียงของเธอ.... มีชายหนุ่มผมสีขาวๆเทาๆยาวระต้นคอนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์พลางฉีกถุงขนมที่ไอน่าซื้อมาแล้วควักทานซะเรียบ เขาหันมาพร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่สำหรับไอน่า รอยยิ้มนั่นคือรอยยิ้มเยาะโดยแท้!
“นะ...นาย นายเป็นใครอ่ะ?” เธอถาม ขาค่อยๆเดินไปใกล้ตู้เสื้อผ้าที่เก็บกริชไว้อย่างระวังตัว
เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียงเธอ ริมฝีปากบางกับจมูกโด่งประกอบกับดวงตาสีฟ้าทำให้เธอคลั่งด้วยความเดือดดาล ทำไมขโมยมันหล่ออย่างนี้ฟะ!
“นายเอาโชของฉันไปใช่มั๊ย!” ไอน่าถามเสียงดัง ช่างไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลย ดันไปห่วงหนูที่หายไป ชายคนนั้นกลอกตาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนเอ่ยปาก
“ฉันไม่ใช่โจรนะ โจรอะไรจะหล่อขนาดนี้”
อ๊ากกก ไอ้หลงตัวเอง โมโหเว้ ย แต่ เอ๊ะ?อะไรน่ะ? ชายหนุ่มรวบผมที่ปรกหน้าของเขาขึ้น สิ่งที่โผล่ออกมาคือหู...(เอ่อ..คงไม่ใช่เท้าหรอก เรื่องนั้นช่างมันเถอะ..) สิ่งที่ไอน่าตกใจนั่นก็คือหูของเขาไม่ใช่หูของคน มันกลับเป็นหูทรงกลมรีคล้ายค้างคาวแต่ไม่แหลม แถมยังเป็นสีเทาอีกต่างหาก
“นะ..นาย นายเป็นสัตว์ประหลาดใช่มั๊ย!” ไอน่าถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เธอยังไม่อยากถูกฆ่าทั้งๆที่อายุยังแค่สิบห้าปีนะ..
“โอ๊ย สัตว์ประหลาดอะไรจะน่ารักน่ากอดขนาดนี้~”
..คงเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่ากระทืบเพราะหลงตัวเองแน่ๆ ไอน่าสรุปในใจ
“เฮ้ย อย่าคิดอย่างนั้นสิ!” เขาพูด ลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปใกล้ไอน่า
“ไอน่า นี่เธอจำฉันไม่ได้เหรอ?” ชายคนนั้นจับไหล่เธอ แต่ไอน่ารีบปัด
“เจ้าปิศาจ! อย่ามาถูกตัวฉันนะ !! แล้วก็อย่ามาอ่านใจฉันด้วย! อย่าบอกนะว่ากินหนูของฉันไปแล้ว!?” ไอน่าคาดคั้น แต่ชายหนุ่มกลับไปนั่งบนเตียง
“อะไรกัน เมื่อกี้ยังเรียกฉันอยู่เลยนี่”
“นายชื่อโชหรือไงกัน!ฉันไม่เคยเรียกนาย!”
ชายผมสีหม่นออกอาการเหม็นเบื่อ เขาดิ่งไปที่เตียงแล้วฉีกขนมขึ้นมากินอีกห่อ ห่อที่แล้วจึงถูกลืมไป
ไอน่ามองผู้บุกรุกอย่างระแวงและสะบัดผมดำเงางามอย่างขัดใจ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอ แต่ก็ยังออกอาการไม่พอใจจนออกนอกหน้าเพราะเขา ดวงตาสีน้ำทะเลหรี่ลงอย่างมุ่งหมายจะจับเขา เธอตั้งใจจะคว้ากริชจากลิ้นชักตู้เสื้อผ้า ทว่า....มันไม่มี! อะไรกัน!?
พรึ่บ!!!
อยู่ๆไฟทั้งระแวกบ้านก็ดับลง ทั้งบ้านอยู่ในความมืดมิดเงียบสงบ ไอน่าส่งเสียงร้องอย่างตกใจเบาๆ คงถึงคราวซวยของเธอเสียแล้วที่ทั้งมีโจรอยู่ในบ้าน ทั้งไฟดับมืดสนิท หากเธอถูกฆ่าหมกส้วมเวลานี้คงไม่มีใครรู้เป็นแน่แท้
ประตูห้องของเธอที่ถูกเปิดแง้มค้างทิ้งไว้เริ่มส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดอย่างชวนขวัญผวา ขณะที่เสียงฝีเท้าอันแสนแปลกประหลาดดังขึ้น
ครืดดด......ตึก.......ครืดดด......ตึก.....ครืดดด......ตึก
ไอน่าตกอยู่ในความกลัว เสียงฝีเท้านั่นไม่เหมือนของ มนุษย์ เอาเสียเลย
ครืดดด......ตึก.......ครืดดด......ตึก.....ครืดดด......ตึก
เสียงฝีเท้าที่ผสมกับเสียงลากอะไรบางอย่างใกล้เข้ามาทุกที..ทุกที.... จนมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องของเธอที่เปิดแง้มไว้...มันแง้มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนที่เธอจะได้เห็นตัวของเจ้าของเสียง เธอก็ถูกปิดปากโดนลากตัวไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เธอขัดขืนเล็กๆ
“เงียบสิ! เดี๋ยวมันเห็นเราหรอก” เสียงของชายผู้บุกรุกกระซิบกระซาบ เขาจึ๊กจั๊กในลำคอบอกให้เธอเงียบและหยุดขัดขืน เธอและเขากำลังซ่อนตัวในอ่างอาบน้ำที่มีผ้าลายดาวกั้นเป็นฉากเวลาอาบน้ำ ถึงจะไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ก็ตาม เธอก็ทำตามเขา ในใจเต้นลุ้นระทึกกับเสียงประหลาดที่เงียบหายไป
แอ๊ดดดดดด
ไอน่ารูว่าตอนนี้ มัน กำลังเปิดประตูห้องของเธอออกจนสุด เสียงหายใจของ มัน เหมือนกับเสียงขูดเล็บยาวๆกับกระดานดำฟังดูแสบประสาทชวนให้ขนลุกตั้งชัน ชายข้างเธอโอบตัวเธอแน่นขึ้น..
ครืดดด.......ตึก.............ครืดดด....ตึก
.......มันคงกำลังกวาดตาดูรอบห้อง ค้นหาตัวเรา ไอน่าคิดอย่างใจเสียเป็นรอบที่สองของวัน
ครืดดดดด.................ตึก......ครืดดดดด ตึง!!! โครม!!!!!!!!
!!!.....มันรู้แล้วว่าเราไม่อยู่ ไอน่าตัวสั่นด้วยความกลัว เธอเกาะขอบอ่างแน่น ลืมไปว่ายังมีชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
เสียงกรีดร้องแหลมอย่างเดือดดาลดังขึ้นอีกครั้งจาก มัน ต่อด้วยเสียงโครมครามจากในห้องของเธอดังไม่หยุดเหมือนกับการทำลายข้าวของระบายอารมณ์
ความมืดของทั้งบ้านทำให้เธอไม่เห็นอะไรซักอย่างเดียว ไอน่าชำเลืองไปที่หน้าต่างห้องน้ำอย่างหวาดหวั่น มันมืดจนกระทั่งไม่เห็นแสงไฟของเพื่อนบ้าน ไฟคงดับหมดในระแวกนี้
จนกระทั่งเสียงโครมครามในห้องนอนเงียบลง เธอเริ่มลุกขึ้นจากอ่าง แต่ชายข้างๆดึงเธอให้นอนลงข้างๆเขา
“ยัง!!” หนุ่มคนนั้นกระซิบ จับเธอไม่ให้ลุกไปไหน
ทั้งๆที่อากาศเย็นลงเรื่อยๆในบ้านอันมืดมิด เธอกลับพบว่าเหงื่อของเธอค่อยๆไหลซึมทั่วใบหน้าอย่างช้าๆ
ดีแล้วที่เพื่อนร่วมอ่างของเธอฉุดเธอไม่ให้ลุก เพราะเสียงประหลาดนั่นเริ่มดังขึ้นและใกล้กับประตูห้องน้ำเรื่อยๆ ไอน่ากำเสื้อของคนข้างๆแน่น เธอซุกหน้ากับเสื้อของเขา
แกร็ก....แอ๊ดดดดด
ในที่สุดประตูห้องน้ำก็เปิดออก... ให้ตายสิ!ประตูทั้งบ้านคงทุกบานมีเสียงอย่างนี้ทั้งหมดแน่เวลาเปิดมัน! ไอน่าตั้งใจว่าหากรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้เธอจะลงมือหยอดน้ำมันหล่อลื่นให้กับประตูทุกบานในบ้าน ถ้ารอดน่ะนะ
เสียงนั่นใกล้เข้ามาจนเกือบจะถึงอ่างอาบน้ำ มันก้าวขึ้นบันไดเตี้ยๆที่พาไปสู่อ่างอาบน้ำ ไอน่าเห็นเงาโครงร่างที่บิดเบี้ยวผ่านผ้าพลาสติกลายดาวที่กั้นอยู่ ชายหนุ่มที่ร่วมเหตุการณ์เสี่ยงชีวิตกอดเอวเธอแน่น ค่อยๆลุกขึ้นนั่งอย่างเงียบกริบแล้วตั้งท่าเตรียมพร้อม
....มือที่เหมือนหญิงสาวเรียวเล็กสีช้ำเลือดช้ำหนองกับเล็บแข็งสีดำเมื่อมแตกๆที่ยื่นออกมาจากมือคล้ายซากศพนั่นค่อยๆกรีดกรายจับผ้าเลื่อนออก
ก่อนที่จะเผยให้เห็นคู่หนุ่มสาวเพียงนิดเดียว ชายผู้บุกรุกก็หิ้วเอวเธอกระโจนข้ามตัวประหลาดไปทันที!!
เขากึ่งวิ่งกึ่งกระโจนออกนอกห้องของไอน่าแล้วดิ่งลงข้างล่าง
ไอน่าไม่รู้ว่าเขามองเห็นในความมืดได้หรืออย่างไร แต่เธอจะไม่ถามตอนนี้แน่นอนเพราะเธอได้ยินเสียงขูดเล็บแปลกๆโหยหวนชั่วร้ายเปร่งๆขึ้นมาอีกครั้งคล้ายกับจะบออกว่า
ข้า...เจอ...แ...ก....เ..เ..ล้ว....
แล้วเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง ดังขึ้น และเร็วขึ้น ไอน่าที่โดนหิ้วอยู่รู้ทันทีว่ามันกำลังตามมา แต่ชายที่หิ้วเธออยู่ก็เร็วขึ้นเช่นกัน เขากระโจนไปยังห้องๆหนึ่งที่ไอน่ารู้ว่ามันเป็นห้องของแม่ของเธอ
เขาปิดล็อกประตูอย่างรวดเร็ว แล้วลากเธอเข้าตู้เสื้อผ้าเหมือนดั่งรู้แปลนบ้านของเธอ
ไอน่าและชายผมสีหม่นเงียบสนิทอยู่ในตู้เสื้อผ้าไม้ ไม่มีแม้กระทั่งเสียงจึ๊กจั๊กในลำคอ
เสียงฝีเท้าเริ่มช้าลงเหมือนจะรู้ว่าพวกเขาหนีไปไม่รอด แต่ก็ยังดังขึ้นเรื่อยๆ มันกำลังมาทางนี้
บรรยากาศเริ่มเย็นยะเยือกอีกครั้งเหมือนคราที่อยู่ในอ่างอาบน้ำ
ในใจของไอน่าเริ่มเต้นถี่รัว อะไรบางอย่างในตัวเธอกำลังร่ำร้องว่า มันจะหาเราไม่เจอ
เธอคิดว่ามันคงจะเหมือนกับสัตว์บนโลกบางชนิดที่เวลาหาเหยื่อจะปล่อยแรงกดดันให้เหยื่อที่ซ่อนอยู่วิ่งหนีออกมาจากที่ซ่อนให้เห็นตัว.........แรงกดดันของมันคงจะเป็นบรรยากาศที่เย็นเยือกนี่ แต่แรงกดดันของมันก็สามารถปิดบังจิตของผู้ที่อยู่รอบข้างได้เช่นกัน มันจะจับจิตของเราไม่ได้ และการปล่อยแรงกดดันเพื่อหาเรา นั่นก็แสดงว่า มันยังหาเราไม่เจอ!
ไอน่าหวังว่าความคิดของเธอคงถูกต้อง ไม่งั้นก็คงจบกัน
เสียงประหลาดหยุดลงตรงหน้าห้องที่เธอกับเขาซ่อนอยู่ สาวน้อยกลั้นหายใจเอื๊อก มันส่งเสียงแกรกๆอยู่หน้าห้องสักพัก ก่อนที่......
จะผ่านห้องไป.... เสียงฝีเท้าค่อยๆเบาลงแล้วเงียบสนิทหายไป..... คราวนี้เธอไม่กล้าลุกขึ้นก่อน ชายข้างๆก็ไม่ลุกเช่นกัน เขาและเธอไม่พูดอะไรเลย จนกระทั่ง....
พรึ่บ!!!
ไฟทั้งบ้านติดขึ้นพร้อมกัน ฝาตู้เปิดออก ชายผู้บุกรุกตัดสินใจลุกขึ้นก่อน
“ปลอดภัยแล้วล่ะ” เขาก้าวออกมาในห้องนอนห้องใหญ่ของแม่ของเธอ
“นะนั่นมันตัวอะไรน่ะ?” ไอน่าตะกุกตะกักถาม มีคำถามในหัวมากมายเกินจะพูด ทั้งเขาเป็นใคร มาที่นี่ได้อย่างไร หรือเกิดอะไรขึ้น
“ด้วยความสัตย์จริง- ฉันไม่รู้”
หลังจากที่ทั้งสองแน่ใจว่าไม่มีตัวอะไรแล้ว จึงขึ้นไปที่ห้องอีกครั้ง
ไอน่าพบของของเธอนอนกระจัดกระจายระเนระนาดเหมือนแรดบุกทะลวง หนังสือโดนเทกอง ชั้นหนังสือล้มกองกับพื้น ผ้าปูเตียงฉีกขาด ฝาตู้เอียงกระเท่เร่ ส่วนที่แย่ที่สุดเห็นจะเป็นกระจกหน้าต่างที่แตกละเอียด
“ฉันคงต้องทำใจเรื่องหนูของฉัน” ไอน่าพูดกับชายแปลกหน้า เวลานี้เธอหมดความระแวงโดยสิ้นเชิงหลังจากพบเหตุการณ์ขวัญผวาอันไม่น่าเชื่อ เธอกำลังโทรหาช่างทำกระจก , ช่างทำตู้ ตามลำดับ ต้องเสียเงินครั้งใหญ่ล่ะคราวนี้
“ว้า~ เหรอ” เขาพูดทำนองล้อเล่น ขณะที่ยกชั้นหนังสือไว้ตามเดิมตามที่ไอน่าขอร้อง(สั่ง)
“นี่มันเรื่องเครียดน่ะ!” เธอรู้สึกเสียมารยาทมากที่ยังไม่ถามชื่อเขา(ถึงเข้าจะเสียมารยาทกับเธอก่อนก็ตาม) “นายชื่ออะไรเหรอ?”
“โชไง ฉันชื่อโช” โชยกผ้าปูเตียงสำรองจากห้องเก็บของขึ้นมาแทนผ้าที่ขาดไป
“มิน่าล่ะ ที่นายบอกว่าฉันเรียกนาย แต่ชื่อเหมือนหนูของฉันจัง” ไอน่าเรียงหนังสือเก็บเข้าที่ ต่อด้วยเรียงของที่กระจัดกระจาย เธอชักไม่อยากเอาเรื่องเอาความกับผู้บุกรุกคนนี้ซะแล้วสิ! ก็เขาช่วยชีวิตเธอไว้นี่นา...
เสียงกริ่งดังขึ้น ข่างมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาขึ้นมาซ่อมตู้และกระจกที่พังไป นั่นเหมือนจะไม่ได้หนักหนาอะรสำหรับพวกเขาเลยเห็นจากที่ทำกระจกใส่กรอบเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงกลายๆ เธอขอให้พวกเขาหยอดน้ำมันหล่อลื่นกับทุกบานประตูตามที่ตั้งใจไว้ด้วย จากนั้นไอน่าก็ไปส่งพวกเขาแล้วจัดการล็อกประตูให้แน่นทั่วบ้าน
เธอทิ้งให้ความสงสัยในตัวของชายแปลกหน้าเป็นความสงสัยต่อไป....
เฮ้อ....วันนี้เป็นวันที่เหนือความคาดหมายจริงๆ.....
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น