ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Cinderella: เพราะนายเป็นซินเดอเรลล่าของฉัน

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่หนึ่ง: ชีวิตของเจ้าชาย ชีวิตของซินเดอเรลล่า >> Cinderella and the prince

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 51



    บทที่หนึ่ง


    ปารีส เธอคิดจะทำยังไงเรื่องโครงการจัดงานวัฒนธรรมตอนปลายปีของโรงเรียนจ้ะ >o<”
    ปารีส ฉันออกแบบเสื้อที่จะใช้ในงานแข่งเสก็ตระดับจังหวัดของหล่อนแล้วนะ แบบว่า หล่อนเห็นแล้วต้องกรี๊ดสลบแน่นอน ทีน่ารับรองฮ่ะ!”
    แย่งฉันพูดอีกแล้วนะทินกร! ปารีส เธอต้องฟังฉันก่อน เรื่องนี้สำคัญมาก ฉันต้องการลายเซ็นเธอเพื่อนอนุมัติการเข้าค่ายน่ะ >_<”
    มีนาพูดพลางแกว่งกระดาษบางๆสีเปลือกไข่ตรงหน้า
    เรียกฉันว่าทินกรอีกแล้วนะยะ! ฉันชื่อทีน่า! ปารีส หล่อนต้องไปดูชุดเร็ว อีชะนีทั้งหลายต้องอิจฉาแน่ย่ะ!”
    กระเทยตนเท่ายักษ์ในชุดสูทกระโดดเหยงๆไปมาด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้ง
    แย่งเค้าพูดอ่ะ! ~”
    อะไรยะ ปารีสสสส หล่อนต้องไปดูๆๆๆๆๆ
    =_= อยากจะบอกว่าช่วยพูดทีละคนได้ไหม 
    พอมองเลขาทั้งสองคนของฉันแล้วก็คิดในใจไม่ได้ว่า ทำไมประธานนักเรียนถึงต้องมีเลขาตั้งสองคน =_= ทำงานมาเองตั้งแต่ตอนม.ต้นแล้ว ทำไมพอขึ้นม.ปลายปุ๊บเกิดง่อยรับประทานทำงานกันเองไม่ได้หรือ? เพราะตั้งแต่มีสองคนนี้เข้ามาวุ่นวายในชีวิต การจะทำงาน ทำกิจกรรม หรือแม้แต่กระดิกกระเดี้ยวก็ต้องมี

    ปารีสสสส >o< สรุปเธอจะเอายังไงจ้ะ เรื่องงานวัฒนธรรม แล้วก็ช่วยคิดธีมของงานพร็อมด้วยนะจ้ะ ^-^ พวกเราต้องไปจองโรงแรมด้วย แถมต้องจัดซุ้มจัดดอกไม้…”
    ต๊าย มีมี่ หล่อนไม่ต้องเลย ใช้ฉันพูดก่อนย่ะ สรุปหล่อนจะไปดูชุดของฉันชาตินี้หรือชาติหน้ายะ..”
    ตายแล้ว ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วทินกร ว่าฉันชื่อมีนา!”
    กรี๊ดดดดด อย่าเรียกชื่อนั้นนะยะ เดี๊ยนรับไม่ด้ายยย
    ว่าแต่….”
    ว่าแต่….”
    พวกเขาสองคนจะสังเกตการแอบหนีออกมากลางวงของฉันหรือเปล่านะ? =_= ชีวิตฉันจะยุ่งยากขึ้นทุกวันเพราะเลขาทั้งสองของฉันนี่แหละ ฟังจากเมื่อกี้เคงจะเข้าใจ พยายามไปอ้อนวอน ข้อร้อง บังคับ ขู่เข็ญ ถึงแอบใต้โต๊ะ แต่อาจารย์ใหญ่ยังคงยืนยันนอนยันว่ายังไงก็ตามฉันต้องมีเลขาสองคน! T_Tใครก็ได้ช่วยปารีสที
    ปารีสสสสสสสสสสส >____<”
    ทีงี้พร้อมใจกันเรียกนะ =o=
    พอรีบใช้วิชาเท้าแมวหลบออกจากห้องทำงานอันน่าสะพรึงกลัวมาอีกตึกหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของนักเรียนชายหญิงจำนวนมากของโรงเรียนเซนต์ลูซิเฟลแห่งนี้รอยยิ้มที่ไม่ค่อยได้มีทั้งวัน ฉันก็ได้ยิ้มมันแล้ว ^^
    ขาคู่นี้ได้มาฉันมาหยุดที่สถานที่ที่ฉันชอบที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้
    ลานเสก็ตน้ำแข็งนั่นเอง
    เหตุผลหลักที่เลือกที่จะมาเรียนในโรงเรียนที่ค่าเทอมแพงหูฉี่ขนาดนี้ ก็คือเพราะสิ่งนี้

    โรงเรียนเป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งเดียวในประเทศที่มีลานเสก็ตน้ำแข็งในตัว
    ลานน้ำแข็งนี้ แม้จะไม่ใหญ่ แต่เป็นลานเสก็ตที่ฉันชอบมากๆ ความรู้สึกเมื่อได้ทรงตัวบนรองเท้าที่มีใบมีดโลดแล่นไปบนน้ำแข็งสีครามนั่น มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้ความเหนื่อยล้า ความหนวกหู ความรำคาญของทุกสิ่งรอบๆตัว เหมือนจะพาลหายไปในไอเย็นของน้ำแข็งที่ปะทะที่หน้า 

    แน่ะ ยิ้มออกแล้วนี่ ^-^”
    เสียงหวานเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาขำๆ พร้อมกับใบหน้าเรียวคมนัยน์ตาโตสีดำ

    อ้าว เรนะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
    มาทันเธอวิ่งหนีสองมารจากห้องประธานนักเรียนแล้วกันน่า ยัยบ้า
    ฮะๆ ^^”จับได้เสียแล้ว T^T
    เรนะหันมายิ้มหวาน 

    เรนะเป็นสาวญี่ปุ่นที่น่ารักสุดใจขาดดิ้น >_< แก้มชมพูเนียนปลั่ง ปากนิด จมูกหน่อย แก้มใสๆ ตาโตๆกับผมสีดำขลับ ขอยอมรับว่า ฉันเคยแอบหวั่นไหวอยากเป็นเลสเบี้ยนกับเธอ T^T แต่ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวโดนตาอินโฮ แฟนตรากิมจิของยัยนี่ซัดหัวเข้า รายนั้นเป็นถึงหัวหน้าชมรมคาราเต้เชียวนะรายนั้น 

    เอ๊ะ
    รองเท้าเสก็ตสีเงินวาวขอบสีฟ้า มีเกล็ดน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มสกรีนบนตัวรองเท้า กับใบมีดเงินเหลือบฟ้าถูกยื่นมาตรงหน้า
    จำได้มั้ยเอ่ยว่าของใคร >___<”
    ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ
    เธอก็รู้นี่ว่าฉันเล่นไม่ได้
    ข้อเท้าเธอยังไม่ได้หายดีอีกเหรอ?
    อืม ^^”
    เรนะยิ้มเศร้าๆพลางวางรองเท้าเสก็ตของฉันลงและนั่งลงข้างๆบนม้านั่งสีขาว
    เธอรู้มั้ยปารีส…”
    หืม?
    ดวงตากลมโตจ้องไปบนลานน้ำแข็งกว้างที่มีไฟสีฟ้าอ่อนๆเรืองรอง พวกเราต่างก็เงียบปล่อยให้ไอเย็นของน้ำแข็งบนลานกว้างนั้นพัดผ่านใบหน้าช้าๆ เห้อ รู้สึกดีจังเลย

    เธอรู้ใช่มั้ย?
    ว่า?
    ฉันตกหลุมรักการเสก็ตของเธอนะ ^^ น่าเสียดายจัง คนมีพรสวรรค์…”
    พอเถอะเรนะจัง
    ขอโทษที ฉันอดไม่ได้จริงๆ เธอก้มหน้าหลบสายตาจากฉัน ให้ตายสิ นี่เธอรู้สึกผิดอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย แล้วเธอเปลี่ยนจากคาบพละเป็นลงคาบอะไรแทนล่ะจ้ะ?
    เออจริงสินะ =__= ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย ต้องไปเปลี่ยนคาบเรียนกับยัยป้าหน้ายักษ์นั่นนี่หว่า T[]T ขาอย่างงี้เล่นพละไม่ไหว เลยโด่นอาจารย์ใหญ่สั่งย้ายคาบ ชิชะ -.- ต้องไปเจอยัยป้านั่นอีกแล้วเหรอเนี่ย 

    อาจารย์พรีมว่ายังไงบ้าง ให้เปลี่ยนหรือเปล่า
    “T____T”
    อ้อ ยังไม่ได้ไปสินะ ฉลาดมากจ้ะ =_= อ่านหน้าฉันออก 

    เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ฉันเป็นคนที่ไปทำเรื่องเปลี่ยนตารางสอนบ่อยมาก เพราะวิชาที่ทางโรงเรียนนั้นจัดมาให้ไม่ค่อยตรงกับเวลาว่างจากการซ้อมเสก็ตของฉัน และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ฉันไปเสนอหน้า(กัด) กับอาจารย์วัยทองหน้ายักษ์นั่นจนเธอจำชื่อแส่สกุลของฉันจนขึ้นใจเสียแล้ว 

    แต่พอขาฉันบาดเจ็บจนหมอวินิจฉัยว่าไม่สามารถเล่นเสก็ตได้อีกแล้ว 

    ความฝันและความผ่อนคลายแห่งเดียวในโรงเรียนนี้ ก็เหมือนจะดับวูบไปตรงหน้า

    คาบพละของเธอตรงกับอังกฤษนี่ ^^ เข้าเรียนคาบอังกฤษสิ เรนะเสนอ

    จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ เหมือนได้คาบนอนหลับเพิ่มมาอีกคาบ -_,-* อาจารย์ซาร่าไม่สนใจอยู่แล้ว ชีวิตนี้สนใจแต่หาจอร์จมาประจำใจ =_=
    อือ ฉันก็ว่าจะลงคาบอังกฤษล่ะ ^_^”
    โนเอลล่ะ?
    ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ
    ในโรงเรียนอันน่ากลัว(?) แห่งนี้ ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่เพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งก็คือ เรนะ และ โนเอล แต่เดี๋ยวนี้ฉันชักจะสนิทกับเรนะมากกว่าเพราะตั้งแต่โนเอลมีแฟนเป็นรุ่นพี่ชมรมยิงธนูที่ปลื้มมาแรมปีก็ดูเหมือนจะลืมไปเลยว่าเคยมีเพื่อนอยู่กับเขาเหมือนกัน บางคนเคยบอกว่าฉันขี้อิจฉาว่าแต่ ขี้อิจฉาเรื่องอะไรล่ะ?

    โนเอลคงอยู่กับแฟนเขามั้ง
    เหรอ
    เรนะยืนขึ้นพลางยื่นมือมาตรงหน้าฉัน
    จริงสินะ ^^ เล่นเสก็ตไม่ได้แต่โลกของฉันคงไม่แตกหรอกมั้ง คงมีสักวันเองแหละที่ฉันจะได้ไปยืนบนล่านน้ำแข็งนั้นอีกครั้งหนึ่ง
    แต่ก่อนที่ฉันจะได้ยื่นมือออกไปรับมือนั้น….
    ปารีสสสสสสสสสสสสสส หล่อนจะไปดูชุดของหล่อนหรือยังย้า!~”
    กรี๊ด ปารีสสส มาเซ็นเอกสารอันนี้ด่วนจ้ะ!! และเรื่องงานพร็อมเอายังไง!!”
    ยัยมีมี่! แย่งฉันพูดอีกแล้วนะยะ เด๊ะแม่ตบเปรี้ยง!”
    อะไรทินกร งานฉันสำคัญกว่างานเธอนะ!”
    ( -_-)---*---(-_- )
    ใครก็ได้ ช่วยปารีสที T^T 
     
    ณ อีกมุมหนึ่งของโรงเรียนเซนต์ลูซิเฟล 

    ใบไม้สีเขียวอ่อนสลับแก่แห้งกรอบทำให้ทุกฝีเท้าของร่างสูงที่กำลังขยับผ่านทางเดินมีเสียงดังกรอบแกรบ ใบหน้ากร้านถูกผมสีดำสนิทรุงรังปกปิดก้มลงต่ำมองทางเดินแลดูเหมือนกำลังก้มหลบสายตา ไหล่กว้างทรุดลงเนื่องจากกองหนังสือเล่มหนาๆในมือจำนวนมากกำลังถ่วงน้ำหนักร่างกาย ฝีเท้าจึงถี่ลงเรื่อยๆเมื่อน้ำหนักหนังสือเริ่มรู้สึกเหมือนมากขึ้น 

    ทางเดินสีขาวกว้างก็ดูเหมือนจะลาดยาวขึ้นเรื่อยๆ ไม่ไปถึงสักที 

    แดดก็ร้อนเหงื่อก็ออกหนักก็หนักเสื้อสูทที่ใส่กับเนกไทเส้นนี้ไม่ได้ช่วยให้บรรเทาความหนักหรือร้อนได้เลย รังแต่จะทำให้หนักหนาสาหัสขึ้น

    ทางเดินสีขาวก็ได้มาหยุดหน้าตึกอิฐในที่สุดถึงสักที 

    ช่วยบ่ายอย่างนี้ ตามปกติแล้วจะไม่มีนีกเรียน เนื่องจากส่วนมากจะเข้าเรียนไปแล้ว มีเฉพาะบางพวกเท่านั้น ที่ตารางสอนพิเศษ จึงไม่มีเรียน ทางเดินขามาตึกแห่งนี้จึงค่อนข้างเงียบถึงเงียบมาก

    พอก้าวเข้าไปในตึก ชายหนุ่มก็เป็นที่จับจ้องของสายตานับไม่ถ้วนที่เรียงรายกันอยู่หน้าห้อง
    ก็แหงล่ะสิ นี่มันหน้าห้องอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้นี่นา

    ปกติถ้าไม่ใช่เด็กเกเรโดดเรียน หรือเด็กมีปัญหา ก็ไม่จำเป็นต้องมาเหยียบที่ตึกนี้ด้วยซ้ำ 
    หลายสายตามองเขาด้วยความสงสัย 

    มือหนาตัดสินใจผลักประตูกระจกสีขุ่นที่อยู่ตรงกลางแถวเก้าอี้ที่เต็มไปด้วยนักเรียนขาโจ๋ทั้งหลายนั่งรอถูกเรียกเข้าพบ

    อ้าว เอเธน เข้ามานั่งสิจ้ะ
    ไม่เป็นไรฮะ ผมแค่เอาเอกสารกับหนังสือมาให้น่ะครับ
    ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงนุ่ม พลางส่ายหน้าเบาๆ อาจารย์สาวยิ้มกลับอย่างอ่อนโยน และผายมือทางเก้าอี้ด้านข้าง 

    นั่งเถอะจ้ะ ครูต้องคุยกับเรานะจ้ะ
    ครับ
    เอเธนนั่งลงอย่างว่าง่าย ดวงตาสีฟ้าใสภายใต้ผมรุงรังสังเกตเห็นแผ่นกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำตาตัวใส

    อาจารย์ใหญ่คาเรน นั่งลงช้าๆที่โซฟาข้างเก้าอี้ตัวโปร่ง 
    คือเรื่องที่อาจารย์ต้องคุยน่ะ…”
    เรื่องค่าเทอมผมใช่ไหมครับ เขาขัดขึ้นพลางยิ้มแบบเหนื่อยๆ ผมทราบแล้วครับ ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้าไปบ้าง
    อาจารย์เข้าใจนะจ๊ะ ว่ากิจการของพ่อเราตอนนี้ไม่สู้ดีนัก และพ่อเราก็ไม่ต้องการให้เราหยุดเรียนด้วย แต่ว่า…”
    ผมทราบครับ ^^ เข้าใจ
    หญิงวัยกลางคนยิ้มอ่อนๆ พยักหน้า และหันไปหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ

    อาจารย์ก็หาทางช่วยเราอยู่เหมือนกันจ้ะ พอดีอาจารย์เจอนี่ ว่าแล้วก็ยื่นกระดาษให้เขา
    ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนดีเด่น

    เอเธนยิ้มอย่างขอบคุณ แต่แล้วก็เลื่อนกระดาษไปไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมท่ามกลางสายตาฉงนของอาจารย์

    ขอบคุณมากครับ แต่ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาไปสอบน่ะครับ
    ตายจริง! นี่เรายังทำงานพิเศษมากมายขนาดนั้นอยู่เลยเหรอ?
    ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา มีเพียงยิ้มเหนื่อยๆเช่นเคยจากร่างสูง 

    ผมก็แค่ทำเท่าที่ผมทำได้น่ะครับ พอดีคุณพ่อค่อนข้างเหนื่อยมาก
    แต่ยังไงครูก็ไม่แนะนำให้เราทิ้งการเรียนกับกิจกรรมทางโรงเรียนอย่างนี้นะจ้ะ เหมือนเดือนก่อนที่เธอลาออกจากทีมเสก็ตน้ำแข็ง โรงเรียนเราก็ขาดนักเรียนชายมือดีไปเลย มันจะเป็นผลดีกับเราเวลาเข้ามหาลัยนะจ้ะรู้ไหม?
    ครับ ผมทราบอยู่
    ครูก็เลยอยากให้เรามีกิจกรรมอย่างอื่นบ้างนะจ้ะ ยังไงก็ขอให้เก็บไปคิดบ้าง ริมฝีปากบางยิ้มเช่นเคย 

    อธิกรณ์ วิถีสุวรรณ เคยเป็นหนึ่งในนักเรียนดีเด่นและเป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียนลูซิเฟลแห่งนี่ แต่ตั้งแต่ บริษัทของพ่อเขากำลังล้มละลาย จึงทำให้ ผู้เป็นพ่อทำงานตัวเป็นเกลียว แถมชายหน่อยยังออกจากกิจกรรมทั้งหมดที่โรงเรียนและไปทุ่มกับการทำงานพิเศษหลายแหล่เพื่อแบ่งเบาภาระทางบ้านได้บ้าง

    ยังไงเขาก็ยังเป็นเด็กที่เธอเอ็นดูและเป็นห่วงไม่เคยเปลี่ยน

     เอ่อ ถ้าอย่างนั้น…”
    It’s become so hard… for me to be surprised but you’re bringing back the real me, no judgment in your eyes~ [new classic – Drew Seeley]

    อ่า ขอโทษนะฮะฮัลโหล…”
    เมื่อได้รับเสียงที่กรอกลงมา นัยน์ตาสีฟ้าสวยก็หมานตาลงอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว

    ครับแม่ เดี๋ยวผมไปทำงานพิเศษแล้วไปเอาให้ครับครับครับ เข้าใจแล้ว
    พอหันมาพบสีหน้าเป็นห่วงของอาจารย์ เขาก็ยิ้มเนือยๆ 

    ผมต้องขอตัวก่อนนะฮะ ^^ ต้องไปทำงานแล้ว
    จ้ะ เชิญจ้ะ
    และร่างสูงก็ก้มหน้าเดินออกไป



    -------------------------------------------------------------------------------------
    End ตอนที่หนึ่ง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×