ตอนที่ 3 : [Chapter Two]: ไรมง vs เทย์โคคุ
[CHAPTER TWO]
บทที่ 2 ไรมง vs เทย์โคคุ
ดูเหมือนนัตจังจะกระตือรือร้นกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลยนะเนี่ย ทั้งๆที่ตอนแรกเคยบอกว่าไม่อยากจะยุ่งด้วยแท้ๆ
"ช่วยมาอยู่ชมรมฟุตบอลหน่อยครับ!"
"มาอยู่ชมรมฟุตบอลกันเถอะครับ!"
"สนใจมาอยู่ชมรมฟถตบอลไหมครับ!?"
ฉันยกยิ้มบางๆขึ้นอย่างนึกเอ็นดูขณะนั่งมองมาโมจังที่กำลังวิ่งวุ่นไปมาทั่วโรงเรียนเพื่อชักชวนให้นักเรียนคนอื่นมาเข้าชมรมฟุตบอล ซึ่งดูจากท่าทางแล้วก็เหมือนจะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ไม่ว่ายังไงมาโมจังก็ยังไม่ลดละความพยายาม
เป็นคนที่มุ่งมั่นดีจังเลยนะ...
แต่ก็เป็นเพราะความมุ่งมั่นของเขานั่นแหละนะ..ที่ทำให้'สี'ของเขาโดดเด่นขึ้นมาได้น่ะ...
คงจะเป็นเพราะนัตจังสินะ ความจริงแล้วก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าวันนี้เด็กคนนั้นให้ฉันไปตามมาโมจังไปที่ห้องครูใหญ่เพราะอะไรกันแน่ ที่ไหนได้..เพราะจะเอาเรื่องการซ้อมแข่งกับโรงเรียนเทย์โคคุไปบอกเขาตัดหน้าฉันนี่เอง
"อ้ะ! ซาโยรินี่นา!"มาโมจังที่สังเกตุเห็นฉันแล้ววิ่งเหยาะๆเข้ามาทักทาย
ฉันมองคนที่วิ่งเข้ามาก่อนที่จะยิ้มรับ"สวัสดีจ้ะ มาโมจัง วันนี้ก็พยายามน่าดูเลยนะ"
"อื้ม! เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ก็พวกเรากำลังจะได้ซ้อมแข่งกับโรงเรียนอื่นเป็นครั้งแรกเลยนี่นา แถมโรงเรียนที่ว่าก็ยังเป็นเทย์โคคุด้วย แค่นึกถึงก็เครื่องร้อนไปหมดแล้ว!"มาโมจังเอ่ยตอบเป็นประโยคยาวพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากำมือข้างหนึ่งแล้วชูขึ้นฟ้าอย่างมุ่งมั่น ซึ่งการกระทำของเขาก็ทำให้ฉันที่นั่งดูอยู่เผลอหลุดหัวเราะออกมา
"คิก..อย่างงั้นหรอ.."
จะทำตัวน่าเอ็นดูไปถึงไหนคะน้อง...
"อืม แต่ตอนนี้สมาชิกยังไม่ครบเลย ซาโยริจะมาตามหาสมาชิกใหม่ด้วยกันไหมล่ะ?"
"...ไม่ล่ะจ้ะ ฉันเกรงใจ พอดีฉันหน้าบางน่ะ"ฉันส่งยิ้มแห้งๆให้ฝ่ายตรงข้ามที่มองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่า'หน้าบาง'ที่ฉันพูดถึง โธ่..มาโมจัง หน้าบางก็คือหน้าไม่หนาพอนั่นแหละจ้ะ ฉันไม่กล้าถือป้ายใหญ่ๆแบบนั้นวิ่งไปวิ่งมาทั่วโรงเรียนแบบเธอหรอกนะ
อ้ะ..จริงสิ...
"มาโมจัง จะว่าไปแล้ว..เห็นว่าเด็กผู้ชายที่เล่นฟุตบอลเก่งๆ(ที่ฉันยังจำชื่อไม่ได้:-:)คนนั้นเขาย้ายมาที่โรงเรียนของเรานี่นา ทำไมเธอไม่ลองไปชวนเขาดูล่ะ?"
"อ๋อ! จริงด้วยๆ ฉันก็ว่าจะมาบอกเธอเรื่องนี้ด้วยแหละ"มาโมจังเอามือลงจากฟ้าก่อนที่จะหันมาพูดกับฉันตรงๆ"หมอนั่นชื่อ'โกเอนจิ ชูยะ' เห็นว่าย้ายมาจากคิโดกาว่าเซชูน่ะ ฉันเองก็เคยไปชวนหมอนั่นมาเข้าชมรมหลายรอบแล้วนะ แต่หมอนั่นก็ทำท่าทางเหมือนรำคาญแล้วก็เอาแต่ปฏิเสธลูกเดียวเลย ทั้งที่เล่นฟุตบอลเก่งขนาดนั้นแท้ๆ..อะไรของเขาก็ไม่รู้"
ฉันหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้ารับคำบ่นยาวๆของคนตรงหน้า มาโมจังเนี่ย..ยังชอบคิดมากเรื่องฟุตบอลเหมือนเดิมเลยนะ เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายดีจริงๆ ทีกับเรื่องอื่นก็ไม่เห็นว่าเขาจะเคยเก็บเอากลับมาคิดแบบนี้เลยแท้ๆ
หรือจะบอกว่านอกจากฟุตบอลแล้วเจ้าตัวก็ไม่สนใจอะไรอีกเลยดีนะ?
อืม..ความจริงแล้วจะว่าแบบนั้นก็คงไม่ผิด...
ว่าแต่เด็กผู้ชายคนนั้นชื่อโกเอนจิคุงสินะ คราวนี้แหละ..จะจำไม่ลืมแน่ๆ!
"บางทีโกเอนจิคุงคนนั้นเขาอาจจะมีเหตุผลบางอย่างล่ะมั้ง ยังไงก็พยายามเข้านะจ๊ะ มาโมจัง ฉันต้องกลับห้องเรียนแล้วล่ะ เอาไว้มีเวลาว่างเมื่อไหร่ฉันจะไปช่วยที่ชมรมนะ"ฉันว่าพลางลุกขึ้นจากที่ที่ตัวเองนั่งอยู่ ไม่ลืมที่จะก้มลงไปปัดฝุ่นที่ติดอยู่ตามกระโปรงของตัวเองเล็กน้อยเพื่อเตรียมตัวกลับ
"อื้ม ได้แน่นอน อ่า..จริงสิ ที่จริงแล้วช่วงนี้เจ้าพวกนั้นก็กำลังบ่นถึงเธออยู่เหมือนกัน"
"จริงหรอ? มาโมจังแน่ใจนะว่าพวกเขาบ่นถึงฉัน..ไม่ใช่ขนมของฉันน่ะ?"ฉันถามยิ้มๆ นอกจากกลุ่มเด็กประถมที่มาโมจังชอบไปซ้อมด้วยที่สนามฟุตบอลริมน้ำแล้ว เด็กๆในชมรมฟุตบอลเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ฉันเคยทำขนมไปแบ่งให้กินอยู่บ่อยๆเหมือนกัน และอาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นด้วยล่ะมั้ง..ก็เลยทำให้ฉันค่อนข้างสนิทสนมกับเด็กๆในชมรมพอสมควรเลย
โดยเฉพาะเด็กๆปี 1 ตอนที่พวกเขาเรียกฉันว่ารุ่นพี่น่ะ น่ารักมากๆเลยนะ!
ก็อย่างว่า เด็กผู้ชายกับเรื่องกินนี่เป็นของคู่กันสินะ
"เอ่อ..บ่นถึงเธอสิ"มาโมจังเอ่ยตอบกลับมาแบบไม่ค่อยเต็มเสียง เขาหันหน้าไปอีกทางหนึ่งก่อนที่จะยกมือขึ้นเกาแก้มพลางพูดพึมพำเสียงเบา"...ก็ต้องบ่นถึงซาโยริสิ ก็เจ้าพวกนั้นถามหาซาโยรินี่นา ถึงหัวข้อที่พูดกันจะเป็นเรื่องขนมก็เถอะ"
ฉันได้ยินนะเธอ...
เฮ้อ นั่นไง..ผิดจากที่ฉันคิดซะที่ไหนกันล่ะ...
ฉันยืนยิ้มค้างอยู่กับที่หลังจากที่บังเอิญหูดีได้ยินเสียงพึมพำของอีกฝ่าย ส่วนทางคนที่หลุดพึมพำออกมาให้ฉันได้ยินแบบไม่รู้ตัวก็กำลังทำท่าครุ่นคิดว่าสรุปแล้วสมาชิกในชมรมของตัวเองนั้นถามหาฉันหรือขนมของฉันกันแน่ แหม..ความจริงแล้วก็ตั้งใจว่าจะแกล้งทำเป็นน้อยใจสักหน่อยแท้ๆ แต่พอเห็นท่าทางของเด็กคนนี้แล้วก็ทำใจแข็งแกล้งเขาไม่ลงเลยจริงๆ
ยังเป็นคนทีซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนเดิมเลยนะ ไม่ว่าจะรู้สึกอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมดเลย ดูสิ..คิดมากจนคิ้วขมวดเข้าหากันจนจะกลายเป็นโบว์แล้วนั่น
เด็กซื่อๆน่ารักๆแบบมาโมจังเนี่ย..ใครแกล้งลงคงนิสัยไม่ดีน่าดู...
ยิ่งได้มองท่าทางของมาโมจังแบบนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกคิดถึงน้องชายบุญธรรมของตัวเองที่อยู่ประเทศไทย เด็กคนนั้นเองก็มีนิสัยร่าเริงและซื่อตรงคล้ายๆกับมาโมจังเหมือนกัน แถมยังชอบฟุตบอลมากๆด้วย ถ้าทั้งสองคนได้มาเจอกันล่ะก็ฉันว่าพวกเขาจะต้องเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยแน่ๆ
ฉันส่งยิ้มบางๆให้คนตรงหน้าเป็นเชิงบอกให้เขารู้ว่าฉันไม่ได้คิดมากหรือน้อยใจเกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันเลยแม้แต่น้อยก่อนที่ฉันจะโบกมือลาเขาและเดินแยกตัวออกมา ซึ่งพอเห็นแบบนั้นมาโมจังก็โบกมือลาฉันกลับแล้วก็วิ่งเหยาะๆกลับไปหาสมาชิกใหม่ตามเดิม
หลังจากนี้ยังเหลือเวลาอีกพอสมควรจนกว่าจะถึงวันที่เด็กพวกนั้นต้องแข่งกับโรงเรียนเทย์โคคุ...
ยังไงก็ขอให้ความพยายามของเธอประสบความสำเร็จก็แล้วกันนะ^^
.
.
.
"...ทำไม..สภาพถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ?"
ฉันยืนเหงื่อตกมองสภาพของเด็กๆในชมรมฟุตบอลทั้งสิบคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะต้องแข่งกับเทย์โคคุแล้วแท้ๆ..แต่ทำไมพวกเขาแต่ละคนถึงได้มีสภาพเหมือนกับคนที่เพิ่งกลับมาจากการไปเกณฑ์ทหารที่ประเทศไทยแบบนั้นได้ล่ะ?
อากิจังที่ยืนอยู่ข้างๆฉันส่งยิ้มแห้งๆมาให้ ดูจากท่าทางแล้ว..ความคิดของเธอก็คงจะไม่ต่างจากฉันสักเท่าไหร่
"ก็เห็นว่าพอเริ่มมีใจอยากซ้อมกันแล้วก็เลยติดลมอยู่ซ้อมกันจนดึกทุกคืนเลยน่ะสิ เพราะฉะนั้นสภาพก็เลยเป็นอย่างที่เห็น..."
"โธ่..ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันแข่งของพวกเธอแล้วแท้ๆนะ"ฉันหลุดถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะเริ่มไล่สายตามองสมาชิกแต่ละคนที่ยืนกองๆรวมกันอยู่ตรงกลางห้อง ถึงสมาชิกใหม่บางคนอาจจะดู..เอ่อ แปลกๆไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงพวกเขาก็จะเป็นกำลังสำคัญให้กับชมรมฟุตบอลแห่งนี้ได้ในอนาคต
พวกเราทุกคนเดินออกจากห้องชมรมไปที่สนามฟุตบอลของโรงเรียนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการซ้อมแข่ง อืม..วันนี้มีเด็กๆในโรงเรียนมาดูมากกว่าที่คิดนะ แตกต่างจากที่ฉันจินตนาการณ์เอาไว้ลิบลับเลย ตอนแรกฉันคิดว่าคงจะไม่มีคนมาดู..หรือถ้ามีก็คงจะน้อยมากซะอีก
แต่คิดใหม่อีกที ทีมที่พวกมาโมจังจะต้องแข่งด้วยในวันนี้ก็คือเทย์โคคุ ทีมฟุตบอลที่ได้เป็นแชมป์การแข่งกันฟุตบอลฟรอนเทียร์หลายสมัยติดต่อกันเลยนี่นะ เพราะอีกทีมหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง..จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่การซ้อมแข่งครั้งนี้จะได้รับความสนใจ
เมื่อไหร่เด็กๆในชมรมฟุตบอลของฉันจะได้รับความสนใจแบบนี้บ้างนะ...
ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ พี่สาวอย่างฉันคงภูมิใจจนน้ำตาไหลเป็นสายน้ำแน่ๆ
ครืนนนนนนนนนน
หลังจากที่ฉันและพวกมาโมจังทุกคนเดินมาถึงสนามฟุตบอลได้สักพัก รถสีดำคันใหญ่ที่ไม่คุ้นตาก็แล่นมาจอดที่หน้าประตูโรงเรียนพร้อมกับควันสีดำทึบ(ที่ฉันไม่รู้ว่ามาจากไหน)ที่ลอยขึ้นมาปกคลุมไปทั่วบริเวณ เดี๋ยวก่อนนะ..ใครก็ได้บอกฉันทีสิว่า... เอ่อ..สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือโรงเรียนเทย์โคคุ ไม่ใช่เอฟเฟ็คต์สร้างความน่ากลัวของบ้านผีสิงในสวนสนุก?
"ต้องเสียเงินลงทุนไปเท่าไหร่กันนะ..."ฉันพึมพำเสียงเบา อย่างน้อยที่สุดก็ต้องถึงหลักหมื่นแน่ๆ
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองนัตจังที่ยืนอยู่ในห้องผู้อำนวยการก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองรถสีดำคันนั้นอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่เด็กๆจากโรงเรียนเทย์โคคุวิ่งลงมาต่อแถวกันและทำท่าทำความเคารพแบบแปลกๆ หลังจากนั้นไม่นานสมาชิกตัวจริงของชมรมฟุตบอลเทย์โคคุจึงเดินตามลงมา
"....."โรงเรียนเทย์โคคุ..มีวัฒนธรรมที่แปลกดีนะ...
ตุบ!
อุ๊ย! ใครหน้าทิ่มคะ?
ฉันยืนกะพริบตาปริบๆมองสมาชิกแต่ละคนของโรงเรียนเทย์โคคุ คนตรงกลางที่สวมผ้าคลุมสีแดงดูเหมือนจะเป็นกัปตันทีม เห็นได้จากปลอกแขนที่เขาใส่อยู่เหมือนกันกับมาโมจัง ถึงฉันจะมองเห็นไม่ค่อยชัดเพราะผ้าคลุมของเขาบังอยู่ก็เถอะนะ
จะว่าไปแล้วเด็กคนนั้นเองก็เป็นตัวละครกลักในอนิเมะเรื่องนี้เหมือนกันนี่นา รู้สึกว่าเขาจะย้ายมาอยู่ทีมไรมงหลังจากที่โรงเรียนเทย์โคคุแข่งแพ้โรงเรียน..อะไรสักอย่างนี่แหละ ฉันจำชื่อโรงเรียนนั้นไม่ได้
เอ..รู้สึกว่าชื่อของเด็กคนนั้นคือ...
ชื่อของเขาคือ...
คือ...
ขอสารภาพบาป ฉันจำชื่อตัวละครหลักไม่ได้อีกแล้วค่ะT^T
คนของเทย์โคคุพากันเดินลงมาในสนาม ตัวฉันที่(ยัง)ไม่ใช่สมาชิกของชมรมฟุตบอลจึงตัดสินใจเดินหลบฉากออกมาอยู่ข้างนอก ฝ่ายตรงข้ามขอบอลไปซ้อมก่อนเพื่อที่จะลองสนาม ซึ่งพอซ้อมกันไปได้สักพักเด็กคนที่ใส่ผ้าคลุมสีแดงก็แตะบอลใส่มาโมจังอย่างแรงจนเขาเกือบจะรับเอาไว้ไม่ได้
...เป็นการทักทายที่สมกับเป็นเด็กผู้ชายอยู่หรอก แต่ก็รุนแรงน่าดูเลยนะ
ปรี๊ดดดดดดดดดด
หลังจากนั้นไม่นานการแข่งขันระหว่างไรมงกับเทย์โคคุก็เริ่มขึ้น ไรมงเป็นฝ่ายที่ได้เขี่ยบอลก่อนเพราะทางฝั่งเทย์โคคุเป็นคนบอกเองว่าให้เราทำตามใจชอบ แบบนี้จะเรียกว่าพวกเขามั่นใจในความสามารถของตัวเองหรือว่าพวกเขากำลังดูถูกพวกเราอยู่กันแน่นะ?
บางทีอาจจะทั้งสองอย่าง...
ในช่วงแรกๆของการแข่งขันพวกมาโมจังก็บุกขึ้นไปได้ดีอยู่หรอก แต่พอผู้รักษาประตูของฝั่งตรงข้ามได้บอลไป..สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยน
ฉันมองการซ้อมแข่งตรงหน้าอย่างเริ่มรู้สึกเป็นห่วง แค่การลองสนามของเทย์โคคุก็ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความเหนือชั้นมากพอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลื่อนไหว ความคล่องตัวตอนที่วิ่งอยู่บนสนาม การเลี้ยงลูก รับลูก และส่งลูก ถึงจะเป็นแค่การซ้อมกันเล่นๆ..แต่ก็สมแล้วกับตำแหน่งแชมป์ของการแข่งฟุตบอลฟรอนเทียร์
ไม่มีที่ติเลยจริงๆ
เป๊าะ!
เสียงดีดนิ้วของกัปตันทีมเทย์โคคุเรียกสติของฉันให้กลับมาจดจ่ออยู่กับการแข่งอีกครั้ง ลูกบอลถูกส่งต่อกันมาเป็นทอดๆก่อนที่กัปตันทีมคนนั้นจะกระโดดขึ้นไปและตวัดขาเตะลูกฟุตบอลอย่างแรง
และเป้าหมายของเขาก็คือ..มาโมจัง!...
ตู้มมมมมมมมมม
[เทย์โคคุได้คะแนนแรกไปแล้วครับ! รวดเร็วอะไรอย่างนี้!? นี่น่ะหรอฟุตบอลของเทย์โคคุที่ทำให้คนดูสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งประเทศ! ช่างไร้เทียมทานจริงๆ!]
ฉันเบิกตากว้างมองมาโมจังที่กระเด็นเข้าประตูไปพร้อมๆกับลูกฟุตบอล ในการแข่งขัน..ถึงแม้จะมีนักกีฬาของเราได้รับบาดเจ็บแต่การแข่งขันก็ยังคงดำเนินต่อไป ชมรมฟุตบอลไรมงในตอนนี้มีสมาชิกอยู่แค่ 11 คน..หรือก็คือพอดีกับจำนวนคนที่จะต้องลงไปแข่งในสนาม เราไม่มีนักกีฬาสำรองเอาไว้ให้เปลี่ยนตัวเมื่อมีคนได้รับบาดเจ็บ
แย่แล้ว...
สุดท้ายการแข่งขันครึ่งแรกก็จบลงด้วยคะแนน 10 - 0 โดยที่ทีมเทย์โคคุเป็นฝ่ายนำ
ฉันลุกขึ้นจากพื้นหญ้าที่ตัวเองนั่งอยู่ก่อนที่จะเดินตรงไปยังสนามฟุตบอล ระหว่างนั้นสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นกัปตันทีมของเทย์โคคุที่กำลังมองมาทางนี้พอดี
เอ๋..ทางนี้หรอ?...
ฉันลอบมองซ้ายมองขวาเพื่อหานักเรียนคนอื่นที่อยู่ใกล้ตัวเพราะรู้ดีว่าเด็กที่ใส่ผ้าคลุมคนนั้นคงจะไม่ได้มองมาที่ฉันแน่ๆ ก็..พวกเราไม่ได้รู้จักหรือเคยเจอหน้ากันมาก่อนสักหน่อยนี่นา
และแล้วสายตาของฉันก็บังเอิญเหลือบไปเห็น...
โกเอนจิ..คุง?...
ฉันหยุดมองโกเอนจิคุงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะรีบเร่งฝีเท้าเดินลงไปหาพวกมาโมจังในสนาม สภาพของพวกเขาที่ดูแย่กว่าตอนแรกอย่างเห็นได้ชัดทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจหาย แต่..การแข่งครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขา ถ้าพวกเขาก้าวข้ามผ่านมันไปด้วยตัวเองไม่ได้ พวกเขาก็จะไม่มีวันแข็งแกร่งขึ้น
"มาโมจัง ทุกคน เป็นอะไรรึเปล่า?"
"อ้ะ!..ซาโยริ"ถึงแม้ตัวเขาในตอนนี้จะเหนื่อยล้าแค่ไหน มาโมจังก็ยังเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มกว้างให้ฉันเหมือนทุกครั้งที่เราเจอกัน"ไม่เป็นไรหรอกน่า ยังไงๆครึ่งหลังพวกเราก็จะพยายามให้มากขึ้น จะต้องเอาแต้มกลับมาให้ได้เลยล่ะ!"
ฉันพยักหน้ารับคำพูดของมาโมจังพร้อมรอยยิ้มบางๆก่อนจะหันไปมองสมาชิกคนอื่นๆที่กำลังนั่งหอบหายใจอยู่บนพื้นอย่างเหนื่อยล้า เรื่องความพยายามน่ะพวกเขามีอยู่แล้ว ฉันรู้ดี ไม่อย่างงั้นพวกมาโมจังทุกคนก็คงจะไม่อยู่ซ้อมกันจนดึกทุกคืนแบบนั้นหรอก
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น..ระยะห่างระหว่างความสามารถของทั้งสองทีมก็ยังมีเยอะอยู่ดี
มาโมจัง..แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ?...
"รวมตัวได้! เปลี่ยนแดน! การแข่งครึ่งหลังจะเริ่มแล้ว!"
เสียงตะโกนของกรรมการทำให้พวกเราทุกคนตื่นตัว ฉันหันกลับไปมองพวกมาโมจังพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง เอ่ยพูดกับพวกเขาเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่จะเดินหลบออกมานอกสนาม
"การแข่งครึ่งหลัง..พยายามเข้านะจ๊ะ แต่ยังไงก็อย่าฝืนตัวเองจนเกินไปล่ะ ฉันเป็นกำลังใจให้นะ^^"
ตัวฉันในตอนนี้..ก็ทำได้แค่คอยให้กำลังใจพวกเขาเท่านั้นแหละ
ปรี๊ดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณบอกเวลาเริ่มการแข่งครึ่งหลัง คนของเทย์โคคุดูเหมือนจะมีท่าทีเปลี่ยนไปจากตอนแรกเล็กน้อย คราวนี้พวกเขาจะมาไม้ไหนกันแน่นะ?
"เอาล่ะ โซนมรณะ..เริ่มได้!"
การแข่งครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นโดยที่ฝั่งเทย์โคคุได้เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน สมาชิกของเทย์โคคุสามคนออกตัววิ่งขึ้นมาด้านหน้าพร้อมกับเตะลูกบอลให้ลอยสูงขึ้น รูปแบบการเล่นที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อนทำให้ฉันหยุดชะงักไป
นั่นมัน..หรือว่า...
โซนมรณะ!
ใช่จริงๆด้วย!
ลูกเตะไม้ตายที่มีความรวดเร็วและความรุนแรงพุ่งเข้าใส่มาโมจังจนกระเด็นเข้าไปในประตูโกลด์อีกครั้ง แต่คราวนี้ดูเหมือนจะหนักกว่าครั้งก่อนมาก
เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว..ก็ท่าไม้ตายเมื่อกี้นี้น่ะมัน...
ชิ้ง!
ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบราวกับถุกใครบางคนมองอยู่ทำให้ฉันลุกขึ้นยืนและเริ่มมองซ้ายมองขวาโดยไม่รู้ตัว รอบๆตัวของฉันไม่มีอะไรผิดปกติ ฉันจึงตัดสินใจมองขึ้นไปบนรถคันใหญ่ของเทย์โคคุโดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจ ก่อนที่ฉัน..จะพบกับสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมา
!
คนคนนั้น...
จริงสิ เขาเองก็อยู่ที่เทย์โคคุเหมือนกันนี่นะ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็..ท่าโซนมรณะเมื่อกี้เองก็คงจะเป็นฝีมือของเขา เขาเป็นคนสอนท่าไม้ตายนั้นให้กับเด็กๆในชมรมฟุตบอล
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ คราวนี้ดูเหมือนว่าคนของเทย์โคคุจะเริ่มเล่นโดยใช้ความรุนแรงมากขึ้น พวกเขาเตะลูกฟุตบอลใส่พวกมาโมจังแบบเรียงคนจนเด็กๆล้มลงไปนอนหมดสภาพอยู่กับพื้น
สุดท้ายแล้วทีมเทย์โคคุก็ทำคะแนนนำทีมเราไปได้จนถึง 20 – 0
เป็นทีมที่น่ากลัวอะไรแบบนี้นะ...
สมาชิกใหม่ของชมรมฟุตบอลไรมงที่ใส่แว่นตาวิ่งหน้าตั้งออกไปพร้อมกับถอดเสื้อเบอร์ 10 ทิ้งเอาไว้ที่ข้างสนาม อาจจะเป็นเพราะเด็กคนนั้นวิ่งออกมาตรงทางที่ฉันนั่งอยู่พอดีด้วยล่ะมั้ง ทำให้เสื้อที่ถูกถอดทิ้งนั้นปลิวมาตกลงบนตักของฉันแบบพอดิบพอดี
ฉันกะพริบตาปริบๆมองเสื้อนักกีฬาบนตักสลับกับแผ่นหลังของคนที่เพิ่งจะวิ่งออกไปอย่างทำตัวไม่ถูก
เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน ใครเอาเสื้อเบอร์ 10 ให้เด็กคนนั้นใส่เนี่ย!? เอาไปให้โซเมโอกะคุงใส่ยังจะดูเหมาะกว่าอีก!
มาโมจัง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจทำอะไร เธอได้ปรึกษาเพื่อนๆบ้างมั้ยเนี่ย!?
"โธ่เอ๊ย..."ฉันยกมือขึ้นกุมขมับพลางก้มหน้าลงอย่างจนใจ อยู่ๆก็รู้สึกปวดหัวเหมือนไมเกรนจะขึ้น แถวๆนี้มีเด็กคนไหนพกยาแก้ปวดหัวติดกระเป๋าเอาไว้บ้างรึเปล่านะ?...
"ยัง..มันยังไม่จบ!"
ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังสนามอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของคนที่คุ้นเคย มาโมจังที่ล้มอยู่ที่พื้นค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างยันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ดวงตาของเขายังคงแฝงความมุ่งมั่นเอาไว้อย่างเคย ถึงแม้ฉันจะนั่งอยู่ห่างจากเขามากแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความพยายามของเขา
แม้แต่'สี'ของเขาเองก็ยังโดดเด่นขึ้นด้วย
"การแข่งยังไม่จบ! ฉันไม่ยอมให้มันจบแค่นี้หรอก!"
ฉันเผลอกำมือแน่นอย่างลืมตัวยิ่งเขามีความมุ่งมั่นมากขึ้นเท่าไหร่'สี'ของเขาก็ยิ่งชัดเจนขึ้นมากเท่านั้น
ใช่..การแข่งยังไม่จบ...
จริงสิ...
ฉันค่อยๆเบนสายตากลับไปมองคนทางด้านหลังของตัวเองอย่างเชื่องช้า มือทั้งสองข้างที่เริ่มคลายออกก็ค่อยๆหยิบเอาเสื้อเบอร์ 10 ที่อยู่บนตักของตัวเองขึ้นมาถือเอาไว้ ฉันอยากให้โกเอนจิคุงเข้าไปช่วยพวกมาโมจัง แต่ถ้าฉันไปขอร้องให้เขาช่วย..มันจะทำให้เขายิ่งลำบากใจรึเปล่านะ?
ฟึ่บ!
"อ้ะ..."
"...ขอยืมก่อน"
ฉันที่นั่งนิ่งอยู่ชะงักไปอย่างตกใจหลังจากที่เสื้อเบอร์ 10 ที่ตัวเองถืออยู่ถูกดึงออกไปจากมือแบบต่อหน้าต่อตา ร่างของใครบางคนเดินผ่านฉันไปอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเอง..สมาชิกคนอื่นๆในโรงเรียนก็เริ่มส่งเสียงคุยกัน
[อะ..เอ๋! หรือว่าเขาก็คือฮีโร่ที่ลงแข่งฟุตบอลฟรอนเทียร์เมื่อปีที่แล้วและเป็นผู้ที่ใช้ลูกเตะอันดุเดือด เขาคนนั้นก็คือ...]
ฉันยกมือขึ้นทาบอกก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ ในที่สุด...
[โกเอนจิ ชูยะ คร้าบบบบบ! โกเอนจิคนนั้นสวมชุดยูนิฟอร์มของไรมงต่อหน้าเราแล้ว!]
ตัวแปรสำคัญของการแข่งขันได้ก้าวลงไปในสนาม ฉันหันหน้าไปมองคนของเทย์โคคุเพื่อที่จะสังเกตุปฏิกิริยาของพวกเขา ปกติแล้ว..พวกเขาจะต้องไม่พอใจที่มีนักเรียนคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในชมรมฟุตบอลยื่นมือเข้ามายุ่งแน่ๆ แต่ว่า...
พวกเขากำลังยิ้ม...
ฉันหรี่ตาลงเล็กน้อยขณะที่กำลังไล่สายตามองสีหน้าของเด็กๆจากเทย์โคคุ นี่สินะ คือเหตุผลที่พวกเขายอมตอบรับคำขอเรื่องการซ้อมแข่ง
โกเอนจิคุงเป็นคนเก่ง ความจริงแล้วเขาควรจะได้ลงแข่งกับเทย์โคคุในการแข่งฟุตบอลฟรอนเทียร์รอบชิงชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ทำให้เขาไม่สามารถไปร่วมแข่งได้ เทย์โคคุคงจะอยากเห็นความสามารถของเขา..ถึงได้ยอมลงทุนถึงขนาดนี้
[วิ่งไปแล้วครับ! ทำไมโกเอนจิถึงไม่ปกป้องเอนโดเลย แต่เขากลับบุกเดี่ยวขึ้นไปจนถึงประตูของฝั่งเทย์โคคุแล้ว! เขาคิดจะหนีศัตรูเหมือนเมงาเนะรึเปล่าครับเนี่ย!?]
ถ้าฉันบอกว่าอยากตบคนพากย์นี่จะผิดไหมคะ?
โกเอนจิคุงเขาวิ่งหนีศัตรูที่ไหนกัน แบบนั้นเขาเรียกว่าวิ่งเข้าไปหาศัตรูเองเลยต่างหากล่ะ
ฉันหันกลับไปมองการแข่งในสนามอีกครั้ง โกเอนจิคุงออกตัววิ่งขึ้นหน้าไปขณะที่คนของเทย์โคคุกำลังเตะบอลใส่มาโมจังที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูโกลด์ ดวงตาของมาโมจังฉายแววมุ่งมั่นยิ่งกว่าครั้งก่อนๆ
คราวนี้แหละ เขาจะต้องรับได้แน่
ฉันเดินไปยังต้นไม้ด้านหลังที่โกเอนจิคุงเคยยืนอยู่ก่อนที่จะก้มลงหยิบเสื้อนักเรียนที่เขาถอดทิ้งไว้ขึ้นมาจากพื้น เมื่อหันกลับไปมองที่สนามอีกครั้ง..ฉันก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มนิดๆ
มาโมจังสามารถรับลูกเตะของเทย์โคคุเอาไว้ได้ด้วยท่าไม้ตายที่ใครหลายๆคนไม่คิดว่าจะได้เห็น
'หัตถ์เทวะ'ในตำนาน!
[เอนโดรับลูกเตะของเทย์โคคุได้แล้วครับ! บอลถูกส่งขึ้นไปแล้ว ตอนนี้บอลอยู่ที่โกเอนจิ!]
ลูกบอลถูกส่งขึ้นไปแดนหน้าอย่างที่คนพากย์พูด โกเอนจิคุงรับลูกส่งจากมาโมจังก่อนที่จะเลี้ยงลูกขึ้นไปหาผู้รักษาประตูของฝ่ายตรงข้าม ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็กระโดดขึ้นใช้ท่าไม้ตายที่ตัวเองถนัดส่งลูกบอลเข้าประตูโกลด์ไปได้อย่างงดงาม
อัคคีสลาตัน!
[พุ่งเข้าประตูไปเรียบร้อยแล้วคร้าบบบบบ! ไรมงได้แต้มแรกจากเทย์โคคุมาแล้ว!]
ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วของเด็กนักเรียนโรงเรียนไรมง คนของเทย์โคคุก็พากันหันหลังกลับและเดินออกไปจากสนาม
ก็..นะ ก็พวกเขาได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วนี่นา
[ไม่น่าเชื่อ! เทย์โคคุถอนตัวออกจากการแข่งขัน ทำให้ไรมงได้รับชัยชนะในครั้งนี้ไปครับ!]
พิธีกรประกาศการถอนตัวของเทย์โคคุให้เด็กนักเรียนทุกคนได้ยินกันอย่างทั่วถึง ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่นั่งอยู่บนรถคันใหญ่ของเทย์โคคุเป็นครั้งที่สอง..ซึ่งเขาคนนั้นเองก็ชายตามองมาที่ฉันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะกลับเข้าไปในตัวรถพร้อมๆกับเด็กในโรงเรียนของเขา
ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี แต่ดูเหมือนว่านิสัยของคุณจะไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ
คุณลุงเรย์จิ
ตึก ตึก ตึก
"เธอ..."
เสียงของใครบางคนที่ดังขึ้นจากที่ใกล้ๆทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง ฉันหันกลับไปมองบุคคลที่เพิ่งจะเดินเข้ามาก่อนที่จะส่งยิ้มให้ตามปกติ
"สวัสดีจ้ะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอกันสินะ"ฉันพูดทักทายพลางส่งเสื้อนักเรียนที่ตัวเองถืออยู่คืนให้เขา โกเอนจิคุงมองเสื้อตัวนั้นสลับกับใบหน้าของฉันอยู่สักพักก่อนที่จะยอมรับเสื้อไปสวมแต่โดยดี
"ชื่อโกเอนจิคุงสินะ ฉันชื่อซาโยริ ขอบคุณมากนะที่ช่วยพวกเขาในการแข่งครั้งนี้น่ะ"ฉันเอ่ยขอบคุณเขาพร้อมรอยยิ้มพลางเบนสายตาไปมองพวกมาโมจังที่ยังคงยืนอยู่ในสนามฟุตบอล"กัปตันคนนั้นจะต้องดีใจมากแน่ๆ เขาอยากเล่นฟุตบอลกับโกเอนจิคุงมากเลยจริงๆนะ"
"...ก็แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละ มันจะไม่มีครั้งต่อไปแล้ว"โกเอนจิคุงพูดตอบฉันด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่ค่อนไปทางเย็นชาก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่
ฉันยิ้มบาง"ฉันว่าเธอน่ะ ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองให้มากขึ้นอีกสักนิดก็น่าจะดีนะ"
โกเอนจิคุงหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มออกตัวเดินอีกครั้งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันหลับตาลงเบาๆ ยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ถือสากับการกระทำของเขา เพราะไม่ว่ายังไงการที่เขาทำตัวแบบนี้มันก็มีเหตุผล
แต่ในความคิดของฉันแล้ว..เขาน่ะ...
"...เป็นคนที่ใจดีจังเลยนะ"
.
.
.
"นมปั่นเมล่อนของฉัน~~"
ฉันยิ้มกว้าง เอื้อมมือไปหยิบแก้วนมปั่นเมล่อนสีเขียวอ่อนมาจากนัตจังที่นั่งทำหน้าบูดอยู่ข้างๆ เธอส่งเสียงจิ๊จ๊ะเบาๆในลำคอคล้ายกับกำลังประท้วงว่าไม่พอใจก่อนที่จะยกมือขึ้นกอดอกด้วยท่าทีถือตัวเหมือนทุกครั้ง
"ขี้โกงนี่นา เธอพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าโกเอนจิ ชูยะคนนั้นจะยื่นมือเข้ามาช่วย"
"ฉันเปล่าขี้โกงสักหน่อย ก็แค่..มันมีโอกาสที่จะเป็นไปได้นี่นา"ฉันยิ้มบางพลางขยับหลอดคนเครื่องดื่มที่ตัวเองถืออยู่ไปมา"แต่ถ้าจะพูดแบบนั้นล่ะก็ นัตจังเองก็โกงฉันเหมือนกันนะ เธอเอาเรื่องการแข่งกับเทย์โคคุไปบอกมาโมจังก่อนฉัน ทั้งๆที่จะฝากให้ฉันไปบอกก็ได้แท้ๆ"
"ก็ฉันอยากจะให้คนพวกนั้นได้รับแรงกดดันบ้างน่ะสิ ถ้าให้เธอไปบอกล่ะก็นอกจากจะไม่ได้รับแรงกดดันอะไรแล้ว บางทีอาจจะได้กำลังใจเพิ่มด้วยซ้ำ เขารู้กันทั่วโรงเรียนแล้วว่าเธอน่ะโอ๋คนของชมรมฟุตบอลจะตาย"นัตจังว่าพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ฉันยิ้มค้างอยู่กับที่หลังจากที่ได้ยินคำพูดแนวประชดประชันของน้องสาว ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธอะไรออกไปเพราะสิ่งที่นัตจังพูดออกมานั้นจะบอกว่าผิดก็คงไม่ได้ ความจริงแล้วคือถูกต้องทุกอย่างเลยแหละ
...ช่วยไม่ได้นี่ ก็เด็กพวกนั้นน่ารักนี่นา
ว่าแต่ทำไมอยู่ๆฉันถึงได้รู้สึกเหมือนถูกนัตจังงอนกันนะ?
"ไม่รู้ล่ะ แต่ยังไงฉันก็จะไม่ยอมให้มันจบแค่นี้แน่ ฉันจะจัดการซ้อมแข่งครั้งต่อไปให้พวกเขา"
"ไม่ว่าจะทำยังไงพวกเขาก็จะชนะผ่านไปได้เรื่อยๆอยู่ดีนั่นแหละจ้ะ"
"ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ขอให้เป็นเพราะความสามารถ ไม่ใช่เพราะโชคช่วยเหมือนครั้งนี้นะ"
โกเอนจิคุงไม่ใช่โชคนะ นัตจังนี่ก็พูดซะเสียเลย...
ฉันยกยิ้มแห้งๆมองนัตจังที่กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนอื่นๆที่อาจจะได้มาซ้อมแข่งกับพวกมาโมจังในอนาคต แต่เอาเถอะนะ..ยังไงการที่ชมรมฟุตบอลของเราจะเก่งขึ้นได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความอยากยุบชมรมของนัตจังด้วยนั่นแหละ
ถึงนัตจังจะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังช่วยพวกมาโมจัง(ในทางอ้อม)อยู่ก็เถอะนะ
"นี่ นัตจัง"
"หืม?"
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าพวกเขาชนะการแข่งครั้งต่อไปได้อีกครั้งนึงล่ะก็..ทำไมไม่ลองสมัครชื่อชมรมฟุตบอลโรงเรียนเราเข้าแข่งฟุตบอลฟรอนเทียร์ซะเลยล่ะ?"ฉันว่าพลางส่งยิ้มกว้างให้คนข้างตัวที่เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโน๊ตบุ๊คทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฉัน
นัตจังขมวดคิ้วเข้าหากันพลางมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"เอาจริงหรอ? ชนะการแข่งแค่ครั้งสองครั้งไม่ได้หมายความว่าจะชนะโรงเรียนอื่นได้เสมอไปนะ"
"ก็เคยบอกไปแล้วนี่นา ว่าถ้าเป็นเด็กพวกนั้นล่ะก็..จะต้องไม่เป็นไรแน่"
ครืดดดดด ครืดดดดด
แรงสั่นสะเทือนเบาๆจากโทรศัพท์เรียกความสนใจของฉันให้หันกลับไปมอง ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเลื่อนอ่านข้อความใหม่ที่เพิ่งจะถูกส่งเข้ามาก่อนที่จะหยุดชะงักไปเมื่อเห็นชื่อผู้ส่งและเนื้อหาที่เขียนอยู่ในข้อความ
ข้อความนี้มัน...
‘เขา’ไปเอาเบอร์ของฉันมาจากที่ไหนเนี่ย...
"มีอะไรงั้นหรอ? ซาโยริ"
"...เปล่า เปล่าจ้ะ ไม่มีอะไรหรอก"ฉันตอบปัดคำถามของนัตจังไปก่อนที่จะส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเพื่อไม่ให้ดูมีพิรุธ มือข้างที่ถือโทรศัพท์อยู่กดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์เพื่อที่จะส่งข้อความโต้ตอบกับคนทางปลายสาย หลังจากนั้นจึงค่อยวางโทรศัพท์ในมือลงแล้วหันกลับมาสนใจเครื่องดื่มสุดที่รักในมือเหมือนเดิม
"...ก็แค่ธุระนิดหน่อยน่ะ ยังไงพรุ่งนี้ก็ช่วยลาโรงเรียนให้ฉันด้วยนะ^^"
ไม่ใช่แค่พวกมาโมจังหรอก หลังจากนี้..ดูเหมือนฉันเองก็จะต้องเจอกับเรื่องวุ่นวายอีกเยอะเลยล่ะ
[Talk with writer]
ในที่สุดก็จบไปอีกตอนนนนนน ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากเพราะส่วนใหญ่ก็จะบรรยายวนไปวนมาอยู่กับเรื่องการแข่งอย่างเดียว แต่ตอนอื่นๆจะพยายามใส่เรื่องราวเข้าไปให้เยอะกว่านี้นะคะ
ซาโยริดูจะเป็นที่รักของเด็กๆในชมรมฟุตบอลมาก ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก..เพราะน้องชอบไปโอ๋พวกเขาอย่างที่นัตสึมิพูดเนี่ยแหละค่ะ โดยเฉพาะเอนโด คนนี้ลูกรักของน้องเลยนะ เพราะบุคลิกของเขาดันมาคล้ายกับน้องชายบุญธรรมของซาโยริที่อยู่ประเทศไทยนั่นเอง
ตอนนี้มีการทิ้งปมเล็กๆน้อยๆไว้ให้ด้วยนะคะ แน่นอนว่าเรื่องแรกก็คือข้อความที่ใครบางคนส่งมา อีกเรื่องนึง..ความจริงไรท์ก็ทิ้งปมนี้เอาไว้ให้ตั้งแต่ตอนที่แล้วแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีคนสังเกตุรึเปล่า 'สี'ที่น้องชอบพูดถึงบ่อยๆนี่คืออะไรกันแน่นะ? กลับไปคิดกันมานะคะ ไรท์ให้เอาไว้เป็นการบ้าน(?) แต่จะเฉลยเมื่อไหร่นั้นยังไม่รู้..แต่คิดว่าคงอีกนานเลยล่ะค่ะ
ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ^0^
ปล. ถ้ารีดเดอร์คนไหนอ่านแล้วเจอคำผิดก็สามารถคอมเมนต์บอกไรท์ได้นะคะ จะรีบแก้ไขให้ในทันทีเลยค่ะ
*อย่าลืมคอมเมนต์และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ*
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไรท์แต่งดีมากเลยค่ะ สนุกมากๆ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะไรท์!