ตอนที่ 12 : [Chapter Nine]: ไรมง VS ชูโยเมโตะ
[CHAPTER NINE]
บทที่ 9 ไรมง VS ชูโยเมโตะ
การแข่งกับโรงเรียนมิคาเงะเซ็นโนได้จบลงไปแล้ว..และคู่แข่งคนต่อไปของพวกเราก็คือโรงเรียนชูโยเมโตะ
ถ้าทุกคนยังจำได้ก็คงจะรู้ว่าโกเอนจิคุงได้ประสบอุบัติเหตุในการแข่งครั้งก่อน และเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นนั่นเองที่ทำให้เขาไม่สามารถลงแข่งในการแข่งขันครั้งต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้..ทำให้พวกมาโมจังที่ปกติจะเป็นคนประเภทที่ชอบลุยเองมากกว่ามานั่งวางกลยุทธ์ต้องเปลี่ยนแผนมาเริ่มหาข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงๆจังๆเพื่อเตรียมการรับมือแทน
เพราะท่าไม้ตายประสานส่วนใหญ่ของทีมเราเป็นท่าที่ต้องพึ่งพลังของโกเอนจิคุงด้วย พอโกเอนจิคุงถูกคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้ลงแข่ง ท่าไม้ตายประสานที่พวกเรามีอยู่ก็เลยใช้ได้น้อยลงจนกลายเป็นปัญหา...
"ความจริงแล้วการไปหาข้อมูลของคู่แข่งก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่หรอกนะ แต่ว่า..."
ฉันกะพริบตาปริบๆมองตัวอักษรที่ถูกเขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกของอากิจัง อีกทั้งยังถูกเน้นย้ำด้วpไฮไลท์สีสวยเพื่อบอกว่าข้อมูลตรงจุดนี้เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก...
และ'คาเฟ่สาวใช้'ก็คือตัวอักษรที่เขียนอยู่ตรงนั้น...
ทำไมถึงต้องเป็นที่นี่?
"เห็นว่าคนของชูโยเมโตะชอบไปขลุกอยู่ที่นั่นตอนที่มีเวลาว่างน่ะ น่าขนลุกจริงๆ"นัตจังที่ยืนอยู่ใกล้ๆเอ่ยบอกเหมือนรู้ทันว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งฉันก็ได้แต่พยักหน้ารับคำของน้องสาวพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ ทว่าในใจลึกๆก็แอบนึกเป็นห่วงพวกมาโมจังอยู่บ้างเหมือนกัน
คาเฟ่สาวใช้..จำได้ว่าเป็นที่ที่พวกโอตาคุชอบไปกันนี่นา แล้วพวกมาโมจังที่ไม่รู้อะไรเลยแบบนั้น..พอไปที่นั่นแล้วจะไหวรึเปล่านะ?(ถึงจะมีเมงาเนะคุงที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องอยู่คนหนึ่งงก็เถอะ)
แล้วเด็กๆจะไปหาข้อมูลกันท่าไหนล่ะเนี่ย?...
"เฮ้อ...น่าเป็นห่่วงจริงๆเลย หวังว่าคงจะไม่ไปติดนิสัยไม่น่ารักมานะ..."
ว่าแต่...
พอพูดถึงคาเฟ่สาวใช้แล้ว..ทำไมอยู่ๆถึงได้รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาแบบนี้กันนะ?...
เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย...
.
.
.
พอพวกมาโมจังไม่อยู่..ห้องชมรมที่ปกติจะมีเสียงพูดคุยกันดังขึ้นตลอดเวลาก็กลายเป็นสถานที่ที่เงียบสงบไปในทันที ฉันยกมือขึ้นท้าวคางพลางคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อยขณะที่กำลังนั่งรอเด็กๆกลับมาจากคาเฟ่สาวใช้อยู่ในห้องชมรมคนเดียว นัตจังขอตัวกลับไปก่อนแล้ว ส่วนอากิจังกับฮารุนะจังก็กำลังเอาของกลับไปเก็บที่ห้องเก็บของ อีกสักพักคงจะเดินกลับมาล่ะมั้ง?
พอได้มาอยู่คนเดียวแบบนี้แล้ว..ห้องชมรมที่เคยคิดว่าแคบก็ดูกว้างขึ้นมาถนัดตาเลยเหมือนกันนะ
ครืดดดดด!
"...กลับมาแล้ว"
"หืม? อ้าว..ทุกคน กลับมาแล้วหรอจ๊ะ^^?"ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งพลางส่งยิ้มกว้างไปให้เด็กๆที่เพิ่งเดินเข้ามา พวกเขามองหน้าฉันเล็กน้อยก่อนที่จะแสดงกริยาทุกคนที่ต่างกันออกไป บ้างก็หลบสายตาไปมองทางอื่น บ้างก็หันไปมองหน้ากันเอง บ้างก็ยกมือขึ้นเกาแก้ม บ้างก็..เอ่อ อีกหลายอย่าง
ฉันยืนมองท่าทางของสมาชิกแต่ละคนก่อนที่จะเอียงคอเล็กน้อย
ท่าทางแบบนั้น..เหมือนกับเด็กที่ไปทำความผิดมาแล้วกลัวว่าผู้ปกครองจะรู้เลย...
"พวกเธอทำตัวแปลกๆนะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?"
เด็กพวกนี้..คงไม่ได้ไปทำอะไรแปลกๆมาตอนที่ไปคาเฟ่สาวใช้หรอกนะ ใช่ไหม?
"เอ่อ..คือว่า..."มาโมจังที่ยืนอยู่หน้าสุดยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองเบาๆ สีหน้าที่ดูเหมือนกำลังลำบากใจของเขาทำให้ฉันเริ่มรู้สึกกังวลไปด้วย คราวที่แล้ว..ก่อนการแข่งกับโรงเรียนมิคาเงะเซ็นโน พวกเขาก็ถูกทีมคู่แข่งหาเรื่องมาแล้วรอบหนึ่ง อย่าบอกนะว่าคราวนี้เองก็ด้วย?
"...มาโมจัง"
"คือ..ฉันก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดีอ่ะนะ อ่า..คาเซมารุพูดแล้วกัน"มาโมจังว่าก่อนที่จะหันกลับไปดึงตัวคาเซมารุคุงที่ยืนอยู่ด้านข้างให้เขยิบมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแทนตัวเขาเองคนถูกดึงสะดุ้งสุดตัวก่อนจะตวัดสายตากลับไปมองกัปตันชมรมด้วยสีหน้าตกใจ ดูจากสายตาของคาเซมารุคุงแล้ว..เหมือนกับเขาอยากจะถามมาโมจังว่า'ทำไมถึงได้โยนมาให้ฉันแบบนี้ล่ะ' อะไรประมาณนั้นเลย=...=
"พวกเธอ..กำลังปิดบังอะไรฉันอยู่ใช่ไหม?"
เมื่อบทสนทนาถูกส่งไปแล้วฉันจึงเลื่อนสายตาไปมองคาเซมารุคุงแทน เจ้าตัวสบตาฉันกับครู่หนึ่งก่อนที่จะหันหน้าหนีไปอีกทาง เขายืนนิ่ง..คล้ายกับว่ากำลังทำใจอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้ามาแล้ววางมือลงบนไหล่ของฉันเบาๆ
"คือว่า..คือว่านะ ซาโยริ วันนี้พวกเราดันเผลอทำเรื่องผิดพลาดลงไปนิดหน่อยน่ะ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ แต่ยังไงก็ต้องบอกให้เธอรู้เอาไว้ก่อน ว่าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในวันที่เราไปแข่งกับโรงเรียนชูโยเมโตะ..ก็ต้องขอโทษเธอด้วยนะ"
"....."
...เอ๋?
.
.
.
และแล้ววันที่พวกเราต้องแข่งกับโรงเรียนชูโยเมโตะก็มาถึง
จนถึงวันนี้ฉันยังคงตีความหมายของสิ่งที่คาเซมารุคุงพูดเอาไว้ไม่ออก และไม่ว่าจะพยายามถามรายละเอียดอีกสักกี่ครั้ง เด็กพวกนั้นก็เอาแต่ทำท่าทีเลิ่กลั่กใส่และพูดคำตอบเดิมซ้ำไปซ้ำมา จนสุดท้ายแล้วฉันก็ปลง..กลายเป็นฝ่ายถอดใจและเลิกเซ้าซี้พวกเขาไปเองในที่สุด
แต่ก็เอาเถอะนะ..ถ้าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดอยู่ดี ก็ได้แต่ขอว่าอย่าให้เรื่องที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องแย่ๆก็แล้วกัน...
ว่าแต่ว่า..ก่อนหน้านั้น...
ฉันดึงสติของตัวเองกลับมาจากห้วงความคิด..ยืนกะพริบตาปริบๆมองชุดเมดสุดน่ารักที่ถูกส่งมาให้ และไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว ทั้งนัตจัง อากิจัง และฮารุนะจังเองก็ได้รับชุดเมดลักษณะเดียวกันนี้มาคนละชุดด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ส่งชุดพวกนี้มาให้เราก็ไม่ใช่ใครที่ไหน..พวกเธอคือผู้จัดการทีมของชูโยเมโตะที่ใส่ชุดเมดอยู่เหมือนกันนั่นเอง
พวกเราผู้จัดการทีมไรมงหันมามองหน้ากันอย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดกันไว้ ในใจก็พลันมีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาว่า...
นี่มัน..อะไรกัน?...
"การแข่งขันจัดขึ้นที่โรงเรียนเรา ดังนั้นเมเนเจอร์ทุกคนจึงต้องใส่ชุดที่เราเตรียมเอาไว้ให้ค่ะ ขอความร่วมมือด้วยนะคะ^^"ผู้จัดการทีมของฝ่ายตรงข้ามส่งยิ้มหวานมาให้ขณะที่อธิบายเหตุผลให้พวกเราฟังราวกับรู้ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่
"ใครสร้างกฏแบบนี้ขึ้นมายะ!?"
"หัวหน้า..เอ้ย! โค้ชน่ะค่ะ"ผู้จัดการคนเดินผายมือไปที่..เอ่อ คุณลุงคุณลุงคนหนึ่งที่กำลังนั่งกินแตงโมอยู่ตรงที่นั่งข้างๆสนามซึ่งอยู่ห่างจากพวกเราไปไม่ไกลนัก ลักษณะภายนอกของโค้ชคนที่ว่าทำให้พวกเราผู้จัดการยืนนิ่งเป็นหิน แม้แต่มาโมจัง(ที่บังเอิญยืนอยู่ใกล้ๆพวกฉันแล้วก็ได้ยินเรื่องที่คุยกัน)เองก็ยังหลุดทำหน้าเหวอออกมาเลย
"อ้าว..นั่นโค้ชหรอกหรอ?"
ฉันเองก็อยากจะถามเหมือนกัน=...=;;
ถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจ..แต่ทั้งฉันแลผู้จัดการทีมไรมงที่เหลืออีกสามคนก็ถูกดันเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อจนได้ โดยส่วนตัวแล้วฉันก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไรกับชุดที่ถูกบังคับให้ใส่นี่หรอกนะ เพราะว่าชุดลำลองเกือบๆ 80 เปอร์เซ็นที่ฉันมีอยู่ในตู้เสื้อผ้าเองก็เป็นชุดกระโปรงเหมือนกัน แค่ชุดกระโปรงที่มีผ้ากันเปื้อนลายน่ารักๆเพิ่มเข้ามาคงไม่แตกต่างจากชุดอื่นๆเท่าไหร่
...แต่ก็ต้องยอมรับว่าแอบรู้สึกเขินๆอยู่เหมือนกัน คงจะเป็นเพราะไม่ชินล่ะมั้ง?
คนที่รับไม่ได้มากที่สุด..แน่นอนว่าต้องเป็นนัตจัง เด็กคนนั้นทำสีหน้าบอกบุญไม่รับมาตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าต้องใส่ชุดเมดแล้ว และยิ่งเราเปลี่ยนชุดเสร็จ..เด็กคนนั้นก็ยิ่งแสดงสีหน้ารับไม่ได้หนักกว่าเดิม ถึงแม้ฉันจะชมนัตจังว่าใส่ชุดนี้แล้วน่ารักเพื่อให้เด็กคนนั้นอารมณ์ดีขึ้นบ้างไปตั้งหลายครั้งแล้วก็เถอะ แต่ก็ดูเหมือนว่าความตั้งใจของฉันจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่ ดูเหมือนนัตจังจะไม่ชอบชุดแบบนี้จริงๆ
เดี๋ยวคงได้อารมณ์เสียทั้งวันแน่ๆสงสัยข้าวเย็นวันนี้คงจะต้องทำเมนูที่นัตจังชอบซะแล้วสิ ถ้าเป็นวิธีนี้ล่ะก็อาจจะทำให้เด็กคนนั้นอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างก็ได้^^
"เอ่อ..คือว่า..."
?
ฉันที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อหันกลับไปมองตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นพร้อมๆกับแรงสะกิดเบาๆที่ต้นแขนข้างซ้าย และพอฉันหันไป..ฉันก็ได้พบกับดวงตานับสิบคู่ของ... เอ่อ..กลุ่มคนที่ฉันไม่รู้จัก?
ฉันยืนนิ่งไล่สายตามองกลุ่มคนตรงหน้าทีละคนก่อนที่จะเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย พวกเขาทุกคนล้วนใส่ชุดนักกีฬาฟุตบอลสีฟ้าสลับเทาเหมือนๆกันทั้งหมด ชุดนักกีฬา?..หมายความว่าพวกเขาคือสมาชิกของชมรมฟุตบอลโรงเรียนชูโยเมโตะที่จะต้องแข่งกับพวกมาโมจังในวันนี้สินะ
ว่าแต่..พวกเขามาทักฉันทำไมกัน?
"เธอคือผู้จัดการทีมไรมงที่ชื่อ..ฮานาบิระ ซาโยริ ใช่ไหม?"
"...ค่ะ ใช่ค่ะ"ฉันเอ่ยตอบพร้อมกับส่งรอยยิ้มทักทายไปให้ตามมารยาทแม้ในใจจะยังสงสัยไม่หาย ก็ได้แต่แอบคาดหวังว่ากลุ่มคนตรงหน้าจะช่วยอธิบายให้ฉันฟังว่าทำไมอยู่ๆพวกเขาถึงได้เดินเข้ามาทักฉันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้น่ะนะ
แต่ดูเหมือนสิ่งที่ฉันคาดหวังเอาไว้จะไม่กลายเป็นจริง...
หมับ!
"โมเอะ!~~~"
"สวยจังเลย!"
"เสียงก็เพราะด้วย แบบนี้ถ้าไปสมัครเป็นไอดอลล่ะก็คงจะผ่านเข้ารอบไปได้แบบสบายๆแน่_!"
"น่าอิจฉาทีมไรมงที่มีเมเนเจอร์น่ารักๆแบบนี้อยู่ด้วยชะมัด"
"ขอจับมือหน่อยได้ไหมครับ!?"
"มาถ่ายรูปคู่ด้วยกันเถอะนะ!"
นะ..นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!?
"ดะ..เดี๋ยว เอ่อ คือว่า..."ฉันผงะถอยหลังไปเมื่ออยู่ๆเด็กๆในทีมฟุตบอลของโรงเรียนชูโยเมโตะก็พุ่งเข้ามายืนล้อมรอบตัวฉันเป็นวงกลม มิหนำซ้ำมือทั้งสองข้างก็ยังถูกอีกฝ่ายคว้าเอาไปจับเอาไว้อย่างถือวิสาสะทั้งที่ฉันยังไม่ได้อนุญาต
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่ยืนส่งยิ้มแห้งๆไปให้กลุ่มคนตรงหน้าอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี จะเดินหนีไปเลยก็คงจะเสียมารยาท จะปฏิเสธ..ก็ไม่มีโอกาส เพราะคนพวกนี้พูดเร็วมาก ฉันหาช่องว่างระหว่างบทสนทนาของพวกเขาไม่ได้เลย
ทำยังไงดี? ฉันเองก็พิ่งจะเคยเจอคนนิสัยแบบนี้เป็นครั้งแรกซะด้วยสิ
ฉันยืนตีหน้ามึนอยู้สักพัก พอเริ่มตั้งสติได้จึงค่อยหันกลับไปหานัตจังเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ แต่..กลับปรากฏว่าสถานการณ์ของทางฝั่งนั้นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าทางฉันสักเท่าไหร่...
ภาพของน้องสาวสุดที่รักที่กำลังถูกอากิจังกับฮารุนะจังจับแขนเอาไว้คนละข้างและลากเข้าไปถ่ายรูปส่งผลให้ฉันหลุดยิ้มแห้งๆออกมาอีกครั้ง ก่อนที่จะมาช่วยฉัน..เด็กคนนั้นคงจะต้องช่วยเหลือตัวเองให้รอดก่อน^^;;...
ว่าแล้วก็ต้องหลุดถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ...
"สวยมากๆเลย เหมือนที่พวกเมงาเนะคุงบอกเลยเนอะ"
หืม?...
"ใช่ๆ ตอนแรกนึกว่าจะโม้ซะอีก ที่ไหนได้มีผู้จัดการน่ารักๆแบบนี้อยู่จริงๆด้วย"
อะไรนะ?...
ควับ!
สิ้นคำพูดนั้น ฉันก็ตวัดสายตาไปมองเด็กๆในทีมของตัวเองที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ตรงม้านั่งข้างสนามทันที ถ้าให้ฉันเดาเอาเองจากคำพูดของเด็กๆทีมชูโยเมโตะ คือ..พวกเขารู้จักฉันผ่านพวกเมงาเนะคุงอย่างงั้นหรอ? แต่ว่า..พวกเขาไม่น่าจะเคยเจอกันมาก่อนนี่นา แล้วพวกเมงาเนะคุงจะไปเล่าเรื่องของฉันให้คนพวกนี้ฟังได้ยังไง?
เดี๋ยวก่อนนะ...
หรือว่า..จะเป็นตอนที่พวกเขาไปหาข้อมูลที่คาเฟ่สาวใช้?
เมื่อคิดได้แบบนี้ฉันก็ยิ่งหรี่ตามองเด็กๆในทีมของตัวเองหนักกว่าเดิม และเหมือนพวกเขาจะรู้ตัว เหล่าเด็กๆปีหนึ่งที่เห็นว่าฉันกำลังยืนมองอยู่ก็พร้อมใจกันสะดุ้งสุดตัวและรีบพุ่งเข้าไปหลบหลังพวกคาเซมารุคุงที่เป็นรุ่นพี่ทันที เมื่อพวกเด็กๆหลบสายตาไปแล้ว..เป้าหมายต่อไปของฉันจึงกลายเป็นพวกคาเซมารุคุงที่ตอนนี้กำลังยืนนิ่งเป็นที่กำบัง(จำเป็น)ของรุ่นน้องในชมรมอยู่แทน
และแน่นอนว่าพอพวกเราสบตากัน..พวกคาเซมารุคุงก็พากันสะดุ้งตามเด็กๆปีหนึ่งไป แต่จะให้วิ่งไปหลบที่อื่นตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว สุดท้ายพวกเขาจึงได้กลายเป็นหน่วยกล้าตายของทีม ส่งรอยยิ้มแห้งๆมาให้ฉันพลางยกมือขึ้นประกบกันตรงกลางอกคล้ายกับกำลังไหว้ขอโทษ
ทันใดนั้นเอง..คำพูดที่คาเซมารุคุงพูดกับฉันหลังจากที่กลับมาจากคาเฟ่สาวใช้เมื่อวันก่อนก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว
'คือว่า..คือว่านะ ซาโยริ วันนี้พวกเราดันเผลอทำเรื่องผิดพลาดลงไปนิดหน่อยน่ะ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ แต่ยังไงก็ต้องบอกให้เธอรู้เอาไว้ก่อน ว่าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในวันที่เราไปแข่งกับโรงเรียนชูโยเมโตะ..ก็ต้องขอโทษเธอด้วยนะ'
เท่านั้นและค่ะ..ฉันก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าลางสังหรณ์ของตัวเองนั้นถูกต้อง(อีกแล้ว)...
เด็กพวกนั้นขายฉันT^T!
.
.
.
ปรี๊ดดดดดดดดดด!
ในที่สุดการแข่งขันระหว่างโรงเรียนไรมงและโรงเรียนชูโยเมโตะก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆโกเอนจิคุงและผู้จัดการทีมที่เหลือแบบปลงๆ หลังจากที่มีเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นเมื่อครู่..พวกมาโมจังก็ถูกฉันซักถามถึงสาเหตุของเรื่องอีกครั้ง และแน่นอนว่าคราวนี้พวกเขาไม่สามารถเลี่ยงที่จะให้คำตอบกับฉันได้อีกแล้ว
และคำตอบที่ฉันได้รับมา... ถ้าจะให้สรุปให้ฟังแบบสั้นๆเลยก็คือ พวกมาโมจังไปเจอกับเด็กๆของชูโยเมโตะที่คาเฟ่สาวใช้ แล้วพวกเขาก็คุยกันเรื่องอะไรสักอย่าง..ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องของฟิกเกอร์หรือเรื่องของชุดเมดอะไรสักอย่างนี่แหละ? และหลังจากนั้นก็มีคนในทีมพูดชื่อฉันออกมา ประมาณว่าฉันน่าจะเหมาะกับอะไรแบบนี้(ซึ่งฉันคิดว่าคนที่พูดน่าจะเป็นเมงาเนะคุง=...=) และเพราะคำพูดนั้นนั่นเอง..ที่กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กๆของชูโยเมโตะอยากเจอหน้าฉันขึ้นมาจนเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์อันแสนวุ่นวายเมื่อครู่...
"เฮ้อ..."ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหลุดถอนหายใจออกมาฉันยกมือข้างหนึ่งขึ้นท้าวคางขณะทอดสายตามองไปยังการแข่งขันตรงหน้าคนของชูโยเมโตะเป็นฝ่ายเริ่มเกม ไม่แน่ใจว่าฉันคิดไปเองรึเปล่านะ แต่ฉันคิดว่าวิธีการเล่นของเด็กๆพวกนั้นเป็นการเล่นที่..แปลก?
ตั้งแต่ที่ได้เป็นฝ่ายครองลูกบอล..สมาชิกของทีมชูโยเมโตะก็ส่งบอลให้กันไปๆมาๆพร้อมกับทำท่าทางพิลึกๆไปด้วยจนคนของฝั่งเราเดาทางไม่ถูก อ้อ..เมื่อกี้มีผู้เล่นคนหนึ่งยกมือขึ้นชี้หน้าคาเซมารุคุงและเรียกเขาว่า'วายร้าย'ด้วยล่ะ=O=;;
"อะไรกัน..การเล่นพิสดารแบบนั้นน่ะ?"
"...นั่นสิคะ"
ฉันหลุดถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา แอบเห็นด้วยกับบทสนทนาของอากิจังกับฮารุนะจังที่นั่งอยู่ข้างๆ เท่าที่ดู..เหมือนกับว่าเด็กๆของชูโยเมโตะจะไม่ได้สนใจเรื่องการทำประตูเลย พวกเขาเอาแต่ส่งบอลให้กันเพื่อถ่วงเวลาและไม่ให้พวกเราได้โอกาสในการบุก
ถึงวิธีการเล่นแบบนี้จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของนักกีฬาที่เราสามารถเห็นได้บ่อยๆก็เถอะ แต่..ฉันก็ไม่เคยเห็นใครที่ไหนเขาถ่วงเวลานานๆแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวนะ ใจคอจะรอให้หมดเวลาการแข่งครึ่งแรกไปเลยรึยังไงกันนะ..เด็กพวกนั้นน่ะ
แล้วแบบนี้พวกเราจะรู้ผลแพ้ชนะได้ยังไงกันล่ะ?
หรือพวกเขาตั้งใจจะทิ้งการแข่งครึ่งแรกแล้วไปเอาจริงในการแข่งครึ่งหลังเพื่อปิดเกมทีเดียวเลยกัน?
หลังจากนั้นไม่นานการแข่งขันครึ่งแรกก็จบลงโดยที่ไม่มีทีมไหนได้คะแนนไปเลยแม้แต่แต้มเดียว ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนที่จะเดินไปช่วยพวกอากิจังหยิบน้ำกับผ้าขนหนูมาให้เด็กๆในทีมที่กำลังเดินเข้ามาพัก ซึ่งดูจากสีหน้าของพวกเขาแล้ว..ฉันคงไม่ใช่คนเดียวที่เหนื่อยใจกับวิธีการเล่นของทีมชูโยเมโตะสินะ...
"พวกเขาไม่ยอมบุกเลย เกินกว่าที่ผมคาดเอาไว้ซะอีกนะครับ"เมงาเนะคุงพูดออกความคิดเห็น
"ไหนนายบอกว่าเข้าใจฟุตบอลของเจ้าพวกนั้นแล้วไม่ใช่รึไง=_=?"
"จะว่าไปแล้วทำไมพวกเราถึงแย่งบอลไม่ได้กัน?"
"เพราะพวกนั้นเล่นแปลกๆ จังหวะของพวกเราก็เลยรวนน่ะสิ"
ฉันยืนมองสมาชิกในทีมที่กำลังยืนปรึกษาเรื่องการแข่งขันกันอยู่ก่อนที่จะเบือนสายตาไปมองสมาชิกในทีมฝั่งตรงข้ามที่นั่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ก่อนที่จะพบว่า...
พวกเขากำลังเล่นเกมกันอยู่...
ท่าทางเหมือนกับพวกเขาแลดูจะจริงจังกับเกมยิ่งกว่าการแข่งขันครั้งนี้ซะอีก ไม่เข้าใจเลย..ทำไมทีมแบบนี้ถึงได้ชนะทีมโอคารูโตะจนผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้กันนะ?
"เป็นทีมที่ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ"
!?
ฉันกับนัตจังหันมามองหน้ากันอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเราสองคนพูดประโยคเดียวกันออกมาแบบพร้อมกันเป๊ะๆราวกับนัดกันไว้ และพอเราจ้องตากันไปได้สักพักก็อกไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา
นานๆทีพวกเราถึงจะมีความคิดเห็นที่ตรงกันแบบนี้นี่นะ^^
"ยังไง..ก่อนอื่นก็ต้องหาโอกาสแย่งบอลมาก่อนล่ะนะ"มาโมจังหันไปพูดกับทุกคน
"ฉันว่าระวังตัวเอาไว้ด้อวยก็ดีนะ ที่พวกเขาทิ้งกาแข่งครึ่งแรกไปแบบนี้ก็ไม่แน่ว่าในครึ่งหลังพวกเขาอาจจะวางแผนที่จะทำอะไรบางอย่างเอาไว้ก็ได้"ฉันเริ่มพูดออกความคิดเห็นบ้าง เด็กๆของชูโยเมโตะน่ะเป็นคนประเภทที่อ่านทางยากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย บางที..การพยายามอ่านความคิดของทีมเทย์โคคุอาจจะยังง่ายกว่าการพยายามอ่านความคิดของคนพวกนี้ด้วยซ้ำ
"ฉันเห็นด้วย"โกเอนจิคุงที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยสนับสนุน"ในการแข่งขัน..อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่ประมาทไว้ก่อนจะเป็นการดีกว่า"
"เข้าใจแล้ว!"
ปรี๊ดดดดดดดดดด!
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งโดยที่คราวนี้ทีมชูโยเมโตะเป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน และแล้วสิ่งที่ฉันคาดการณ์เอาไว้ก็ถูกต้องอีกครั้ง เพราะทันทีที่กรแข่งครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้น..สมาชิกของทีมชูโยเมโตะทุกคนก็วิ่งขึ้นมาในเขตุของพวกเราไรมงทันที การที่พวกเขาเล่นเหมือนกับไม่ตั้งใจในครึ่งแรกเป็นการเล่นเพื่อที่จะถ่วงเวลาและปั่นหัวพวกเราจริงๆด้วย
"พวกนั้น..."
"การเคลื่อนไหวเปลี่ยนไป!"
เด็กๆของทีมชูโยเมโตะบุกขึ้นมาพร้อมๆกัน ถึงแม้คราวนี้พวกเขาจะมีท่าทีจริงจังกว่าครึ่งแรกแต่สไตล์การเล่นแบบแปลกๆก็ยังทำให้พวกมาโมจังสับสนได้ พวกเขาส่งบอลต่อกันไปมาก่อนที่สมาชิดสองคนจะใช้ท่าไม้ตายยิงประตูจนได้แต้มแรกไป
[เข้าไปแล้วคร้าบบบบบ! เริ่มครึ่งหลังไปได้ไม่นานชูโยเมโตะก็เสียบเข้าช่องโหว่ของไรมงจนได้แต้มแรกนำไปแล้วครับ!]
รู้แล้วค่ะ! ไม่ต้องย้ำกันถึงขนาดนั้นก็ได้
หลังจากที่ได้แต้มแรกไปแล้วสมาชิกของชูโยเมโตะก็ถอยลงไปอยู่ตรงแนวตั้งรับกันหมดทุกคน พอคนของฝ่ายเราสามารถบุกเข้าไปได้..พวกเขาก็จะใช้ท่าไม้ตายอะไรสักอย่างที่ทำให้ฝุ่นดินทรายลอยกระจายไปทั่วเพื่อบดบังทัศนียภาพในการมองเห็น
มังกรขย้ำ!
โซเมโอกะคุงวิ่งขึ้นไปยิงประตูด้วยท่าไม้ตายที่ตัวเองถนัด ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นยังเป็นช่วงที่ฝุ่นควันยังคงกระจายอยู่บริเวณรอบๆประตูโกลด์ของทีมชูโยเมโตะ และพอกลุ่มควันที่ว่าจางลงไป..ภาพที่เราเห็นกลับกลายเป็นว่าลูกบอลที่โซเมโอกะคุงยิงไปนั้นวางนิ่งอยู่ข้างหลังโกลด์ซะอย่างนั้น
ฉันมองสิ่งที่เกิดข้นตรงหน้าพลางขมวดคิ้วยุ่ง เกิดอะไรขึ้น?..ท่าไม้ตายของโซเมโอกะคุงที่ยิงไปเมื่อกี้น่าจะเข้าตรงกลางประตูเลยแท้ๆ
หลังจากนั้นสมาชิกในทีมไรมงทุกคนต่างก็ช่วยกันบุกขึ้นไปยิงประตูเพื่อทำคะแนน แต่ไม่ว่าจะพยายามยิงลูกเข้าไปสักกี่ครั้ง..ลูกบอลก็มักจะถูกฝ่ายตรงข้ามทำให้ย้ายไปอยู่หลังประตูโกลด์ตลอดเลย
แปลก...
ฉันยกมือขึ้นจับคางพลางเม้มปากเข้าหากันอย่างที่เคยทำบ่อยๆเวลาใช้ความคิด ในช่วงที่เด็กๆของชูโยเมโตะทำให้ฝั่นทรายลอยกระจายขึ้นมาจะต้องเกิดอะไรบางอย่างขึ้นแน่ๆ พวกเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างที่สามารถทำให้ลูกบอลถูกดันออกไปอยู่หลังประตูโกลด์ได้
แต่..อะไรสักอย่างที่ว่านั้นคืออะไรกันล่ะ?
"ฮึ่ย!..."
น้ำเสียงหงุดหงิดของใครบางคนดังขึ้นมาจากข้างตัวเรียกความสนใจให้ฉันหันกลับไปมอง โกเอนจิคุงที่นั่งดูการแข่งอยู่เริ่มมีสีหน้าเจ็บใจ..มือทั้งสองข้างของเขากำเข้าหากันแน่นจนฉันกลัวว่าเดี๋ยวเขาจะเผลอจิกเนื้อตัวเองจนได้เลือด
ฉันช้อนตาขึ้นมองหน้าอีกฝ่านเงียบๆ สมาธิของโกเอนจิคุงยังคงจดจ่ออยู่ที่สนาม ไม่ได้รับรู้ถึงสายตาของฉันแต่อย่างใด ฉันนั่งมองเขาอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนที่จะหลุดยิ้มบางๆออกมา
คงจะอยากลงไปเล่นเองเต็มแก่แล้วสิ...
ฟึ่บ!
รู้สึกตัวอีกที มือของฉันก็เอื้อไปแตะลงบนไหล่ของเขาอย่างแผ่วเบา โกเอนจิคุงหันกลับมามองฉันที่นั่งยู่ข้างๆ ซึ่งพอเห็นดังนั้นฉันก็ส่งรอยยิ้มบางๆกลับไปให้เผื่อว่าเขาจะสบายใจขึ้น
ก็ถ้าอยากได้รอยยิ้มของใคร..เราก็ต้องแลกด้วยรอยยิ้มของตัวเองก่อนนี่เนอะ^^
"ไม่สบายใจหรอ? ไม่เป็นไรนะ..เชื่อมั่นในตัวทุกคนเถอะจ้ะ"ฉันว่าพร้อมรอยยิ้ม"โกเอนจิคุงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า'สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร'ไหม? เวลาในการแข่งยังไม่หมดนะ อีกไม่นานพวกมาโมจังจะต้องหาทางออกได้แน่ๆ ไรมงจะต้องเป็นฝ่ายชนะแน่นอนจ้ะ^^!"
มือของเขาที่กำลังกำเข้าหากันแน่นเริ่มผ่อนแรงลง โกเอนจิคุงยิ้มบางๆตอบรับคำพูดของฉันโดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา สีหน้าของเขาที่ดูดีขึ้นมาจากกตอนแรกเองก็ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจตามไปด้วยเหมือนกัน
เขายิ้มแล้ว ก็ถือว่าเป้าหมายสำเร็จไปได้ด้วยดีเนอะ^^
เมื่อทุกอย่างคลี่คลายแล้วพวกเราหันกลับไปสนใจการแข่งอีกครั้ง ซึ่งสถานการณ์ในสนามตอนนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม.ไม่ว่าพวกมาโมจังจะพยายามทำประตูสักกี่ครั้ง ลูกบอลก็จะถูกทำให้ย้ายไปอยู่หลังโกลด์
"ผมรู้แล้วครับว่าทำไมถึงยิงไม่เข้าน่ะ!"
ทันใดนั้นเองเมงาเนะคุงก็ตะโกนลั่นก่อนที่จะวิ่งเข้าไป...เอ่อ ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาดีไหม คือ..เขาวิ่งเข้าไปดึงกางเกงของผู้เล่นคนหนึ่งในทีมชูโยเมโตะระหว่างที่ฝุ่นทรายกำลังกระจาย และพอฝุ่นหายไป..ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าก็ทำให้พวกเราทุกคนตกตะลึง
"นี่น่ะหรอเหตุผลที่ยิงไม่เข้าน่ะ!?"โกเอนจิคุงอุทานเสียงดัง ฉันเบิกตากว้างมองเด็กๆของทีมชูโยเมโตะที่กำลังยืนมีปากเสียงกับเมงาเนะคุงอยู่ในสนามอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เดี๋ยว..เดี๋ยวก่อนนะ...
เด็กพวกนั้นเลื่อนประตูอย่างนั้นหรอ!? แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าโกงหรอ!?
หลังจากที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น..การแข่งขันก็ยังคงดำเนินต่อไป ลูกบอลถูกสมาชิกในทีมเราเตะขึ้นไปที่หน้าประตูของทีมชูโยเมโตะที่มีเมงาเนะคุงวิ่งนำอยู่ พอเมงาเนะคุงได้บอลแล้วก็ส่งต่อไปให้โซเมโอกะคุงที่กำลังวิ่งตามมาทันที
มังกรขย้ำ!
ท่าไม้ตายของโซเมโอกะคุงถูกยิงออกไปอีกครั้ง ถึงแม้จะถูกรู้ความจริงเรื่องวิธีการเล่นแล้วแต่คนของชูโยเมโตะยังคงเล่นฟุตบอลแบบเดิม..ประตูโกลด์ของพวกเขากำลังจะถูกเลื่อนออก ทว่าตอนนั้นเอง..เมงาเนะคุงก็วิ่งเข้าไปใช้หัวของตัวเองโหม่งลูกบอลจนกระเด็นเข้าประตูไปได้สำเร็จ
ตอนนี้คะแนนของทั้งสองทีมตีตื้นขึ้นมาจนเสมอกัน เมงาเนะคุงถูกหน่วยพยาบาลพาตัวออกไปนอกสนามเนื่องจากได้รับบาดเจ็บตอนที่โหม่งลูกบอลเมื่อครู่ แต่ก็ดูเหมือนการลงทุนโดนลูกบอลอัดหน้าของเด็กคนนั้นจะไม่เสียเปล่า...
สมาชิกของชูโยเมโตะที่เห็นความทุ่มเทของเมงาเนะคุง..ดูท่าทางว่าจะเริ่มคิดได้แล้ว พวกเขาเปลี่ยนวิธีการเล่นในวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน กลับมาเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังและใสสะอาดอีกครั้ง ไม่มีการโกงเหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้อีกแล้ว
ก่อนที่จะหมดเวลาการแข่งขัน ไรมงสามารถทำประตูเพิ่มจนเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายขึ้นนำได้สำเร็จ พวกเราได้รับชัยชนะมาอย่างสวยงาม^^
ในที่สุดการแข่งขันก็จบลงไปอีกหนึ่ง..ถ้าเป็นแบบนี้เด็กพวกนั้นจะต้องชนะต่อไปได้เรื่อยๆแน่นอน!
.
.
.
[แถมท้าย]
หลังจากที่การแข่งขันจบลง สิ่งแรกเลยที่ฉัน(และพวกนัตจัง)ตัดสินใจทำก็คือการเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดนักเรียนของไรมง และพอเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วพวกเราจึงค่อยมาช่วยพวกมาโมจังเก็บของเตรียมตัวนั่งรถกลับโรงเรียน
ฉันก้มตัวลงหยิบขวดน้ำที่ร่วงลงไปอยู่ตรงพื้นข้างล่างขึ้นมาวางเอาไว้บนม้านั่งโดยมีฮารุนะจังช่วยเก็บเรียงเข้ากล่องที่เราเตรียมมา ทันใดนั้นเอง..ฉันก็รู้สึกได้ถึงแรงสะกิดเบาๆที่ต้นแขน เมื่อหันกลับไปมองจึงพบกับเมงาเนะคุงที่ยืนอยู่พร้อมกับกระดาษอะไรสักอย่างในมือ
ฉันกะพริบตาปริบๆก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยเมื่อเมงาเนะคุงส่งกระดาษแผ่นนั้นมาให้"นี่คือ..."
"คนของชูโยเมโตะฝากมาให้น่ะครับ"
ชูโยเมโตะ...
ฉันเอื้อมมือไปรับกระดาษแผ่นนั้นมาพร้อมรอยยิ้มแม้ในใจจะรู้สึก..ไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะความประทับใจแรกของฉันที่มีต่อเด็กๆจากทีมชูโยเมโตะไม่ค่อยดีด้วยล่ะมั้ง ก็เลยทำให้ฉันค่อนข้างระแวงเด็กพวกนั้นพอสมควร
แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ไหนดูสิว่ากระดาษแผ่นนี้เขียนอะไรเอาไว้...
ฉันคิดพลางไล่สายตามองตัวอักษรที่เขียนอยู่ในกระดาษ..หรือบางทีฉันควรจะต้องเรียกมันว่าใบปลิว? ไม่จำเป็นต้องอ่านเนื้อหาทั้งหมด แค่เห็นคำพูดประโยคแรก..ฉันก็รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของตัวเองที่กำลังดีๆอยู่เพราะพวกมาโมจังเพิ่งชนะการแข่งถูกกระชากลงเหวไปภายในเสื้ยววินาที
ใบรับสมัครพนักงานที่คาเฟ่สาวใช้...
"....."
"....."
"....."
ฉันส่งใบปลิวคืนกลับไปให้เมงาเนะคุงพร้อมกับ(ฝืน)ยิ้มกว้าง ก่อนจะเอ่ยตอบออกไปอย่างเสียงดังฟังชัดว่า...
"ขอปฏิเสธจ้ะ"
ให้ตายฉันก็จะไม่ยอมใส่ชุดเมดแบบนี้อีกแล้วT^T!
***************************************************************
[Talk with writer]
มาแล้วค่ะ! หายไปนานอีกแล้ว ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นค่ะ ต้องขอโทษรีดเดอร์ที่รักทุกท่านด้วยจริงๆนะคะ//กราบงามๆ
พูดถึงเนื้อหาในตอนนี้... ไม่ค่อยมีโมเมนต์ของน้องกับเหล่าว่าที่พระเอกสักเท่าไหร่ มีแต่ความวุ่นวายที่ตามมาเพราะความอวยเมเนเจอร์ของเด็กๆในชมรม ทำเอาไรท์ไม่แน่ใจเลยค่ะว่าควรจะรู้สึกอิจฉาที่น้องสวยจนมีแต่คนมารุมล้อมหรือควรจะรู้สึกสงสารที่น้องต้องมาเจออะไรแบบนี้ดี^^;;
ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ^0^
ปล. นิยายตอนนี้เป็นฉบับที่ยังไม่ได้แก้คำผิดค่ะ เพราะฉะนั้นถ้ารีดเดอร์คนไหนอ่านแล้วเจอคำผิดก็สามารถคอมเมนต์บอกไรท์ได้นะคะ จะรีบแก้ไขให้ในทันทีเลยค่ะ
*อย่าลืมคอมเมนต์และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ*
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอตอนต่อไปนะคะะ เยะ
ไรท์คัมแบ็คแล้วววว เย้ !!
ขำความเอนโดโยนให้คาเซมารุจริงๆ ส่วนคาเซมารุก็แบบมีความเลิ่กลั่ก 5555
นานๆทีก็ต้องแบ่งบทไปให้คาเซมารุบ้าง เดี๋ยวจะน้อยใจ😅