ตอนที่ 2 : ข้าคือจวิ้นอ๋องหวงเทียนหยาง
จวิ้นอ๋อง หวงเทียนหยาง คือบุรุษที่มีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
หวงเทียนหยางเกิดเมื่อปีที่19 ในรัชสมัยฮ่องเต้หวงอี้หง บิดาคือจวิ้นอ๋ององค์ก่อนนามหวงฉีหง พระอนุชาในองค์ฮ่องเต้ หลังจากบิดาสิ้นชีพก็ได้สืบบรรดาศักดิ์จวิ้นอ๋องต่อ สาเหตุที่หวงเทียนหยางมีชื่อในตำราไม่ใช่แค่เพียงเป็นกุนซือมากฝีมือ แต่ยังเป็นเพราะเขาคือท่านอ๋องที่แต่งงานกับผู้ชาย จึงได้รับการจดบันทึกไว้ว่าเป็นอ๋องคนแรกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ว่ามีรสนิยมชอบตัดแขนเสื้อ
เหลียงจื่อซิ่นนั่งอยู่บนเตียง มือกำผ้าห่มแน่นจนยับยู่ ในหัวมีความรู้ประวัติศาสตร์สมัยมัธยมปลายแล่นวนซ้ำไปซ้ำมา สีหน้าของเขา..ไม่สิ สีหน้าร่างของ’หวงเทียนหยาง’ยังคงซีดขาว ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น ตาเบิกโพลงเหมือนเจอบางสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต
หางตาของเหลียงจื่อซิ่นมองเห็นใบหน้าแสดงความห่วงใยของผู้คนที่คุ้นบ้างไม่คุ้นบ้าง ผู้ที่อยู่ใกล้ตัวของเขามากที่สุดคือท่านหมอชราเคราขาวท่าทางมากวิชาคนหนึ่ง คนๆนั้นกำลังยกมือลูบเคราของตัวเอง สำรวจสีหน้าท่าทางของเขาไปมาแล้วพึมพัมสลับกับส่ายหน้าไปด้วย
“ใจว้าวุ่นร่างกายย่อมส่งผล ท่านอ๋อง โปรดสงบอารมณ์ไว้บ้าง” คำพูดเหมือนพระเจ้าในวัดทำให้คนฟังปรายมองด้วยดวงตาแข็งทื่อ เหลียงจื่อซิ่นสูดหายใจเข้าออกลึกๆแทนคำตอบ เขายังไม่สามารถเอ่ยปากพูดอะไรออกมาได้
สงบใจเหรอ? ก็อยากสงบอยู่หรอก แต่มันยังยากจะสงบได้ เมื่อวานนี้เองเขายังอยู่ในร่างของตัวเอง เป็นเหลียงจื่อซิ่นฉายาผีเสื้อราตรีควงหนุ่มน้อยออกเที่ยวแต่มาวันนี้พอลืมตาขึ้นอีกทีกลับกลายเป็นท่านอ๋องหวงเทียนหยางอะไรนี่เสียแล้ว โอเคว่าการเป็นท่านอ๋องเกย์นี่มันไม่ได้กระทบกระเทือนรสนิยมเขาสักเท่าไหร่ แต่อย่างอื่นล่ะ? มันเป็นเรื่องปกติเรอะที่ตายแล้วกลับมาเข้าร่าง..เอ่อ กลับมาฟื้นในร่างคนอื่นแบบนี้ นี่เขาเป็นวิญญาณ เป้นผี หรือเป็นอะไรกันแน่ ไม่พอดันฟื้นขึ้นมาเป็นบุคคลในตำนานที่ในความทรงจำแว้บๆนั่นมันช่างน่าสมเพชอย่างบอกไม่ถูก
“นายน้อย เหล่าไท่ทราบดีว่าท่านคิดมากเรื่องนายท่านหลิน แต่โปรดอย่าได้ปล่อยให้ความโกรธทำร้ายร่างกายอีกเลย ตาเฒ่าผู้นี้ขอร้องเถิด”
กำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงใครดังขึ้นมาอีก เหลียงจื่อซิ่นปรายตามองอีกฝ่าย เขาขมวดคิ้ว จ้องมองชายวัยไม้ใกล้ฝั่งที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าปานจะร้องไห้ ไม่พอยังคุกเข่าน้ำตาคลอ ตามมาด้วยด้านหลังที่มีเสี่ยวเฉียวและบ่าวสาวรับใช้หน้าตาจิ้มลิ้มอีกหลายคน ทำเอาคนยุคศตวรรษที่20 ซึ่งไม่คุ้นเคยกับอะไรแบบนี้สะดุ้ง รีบงอขาขึ้นแทบไม่ทัน อุวะ นี่มันอะไรกันเนี่ย!?
เหล่าไท่ จู่ๆชื่อนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว ขณะกำลังจะอ้าปาก เหลียงจื่อซิ่นขยับปากพะงาบๆ กวาดตามองชายหญิงในชุดโบราณที่กำลังคุกเข่า เอ่อ...อ้อนวอนเขาด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากปวดหัวจนสลบไปอีกพอลืมตาก็พบท่านหมอพร้อมด้วยบ่าวไพร่เต็มพรืด ชีวิตที่มีแต่คนไม่รู้จักในโลกที่ไม่คุ้นเคยทำเอาต้องระวังตัวเอง จื่อซิ่นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเผลอคิด ถ้าคนเหล่านี้รู้ว่าเขาไม่ใช่จวิ้นอ๋อง แต่เป็นวิญญาณที่ไหนไม่รู้จะกลายเป็นอย่างไร
จินตนาการน่ากลัวเกินไปทำเอาขนลุกวาบ เหลียงจื่อซิ่นกลืนน้ำลายลงคอแล้วสูดหายใจลึกๆอีกที เขาคลายมือที่กำผ้าห่ม เหยียดขา พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุดและฉีกยิ้มออกมาอย่างโง่ๆหนึ่งครั้ง
“ลุกขึ้น ทุกคนออกไปก่อนเถอะ ข้าอยากนอนพัก”
“นายน้อย”
“ข้าอยากนอนพัก เหล่าไท่” เหลียงจื่อซิ่นเรียกชื่ออีกฝ่ายที่พอจำได้อีกครา ที่สุดชายชราคนนั้นก็ยอมลุกขึ้นแม้ยังส่งสายตากังวลและสีหน้าห่วงใยมาอยู่ ความเอื้ออารีที่ไม่เคยพบมาก่อนซ้ำมาจากคนไม่รู้จักมักคุ้นทำให้อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้
เหลียงจื่อซิ่นเอนหลังลงนอนอีกครั้ง ตาจ้องมองเพดานเตียงสี่เสาแบบโบราณ ขณะที่เหล่าไท่เดินเข้ามาช่วยห่มผ้าให้ ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นสั่นไหวและเต็มไปด้วยความรู้สึกห่วงใยปนสงสารเปี่ยมล้น แต่เพราะระลึกได้ว่ามอบให้กับจวิ้นอ๋องไม่ใช่ตัวเอง เหลียงจื่อซิ่นจึงขนลุกแทน
“เหล่าไท่จะเฝ้าอยู่นอกประตูนะขอรับ นายน้อย”
“อืม”
เหลียงจื่อซิ่นตอบอย่างเก็บงำถ้อยคำก่อนจะถดตัวลงไปซุกในผ้าห่ม ผ้านวมผืนใหญ่ทั้งหนานุ่มนี่สบายตัวจนเขาต้องเอาเท้าซุกเล่นระหว่างนอนนิ่งๆรอจนได้ยินเสียงประตูงับปิดก็ถอนใจเฮือก สลัดผ้าห่มออกแล้วเปลี่ยนมานอนอ้าซ่า
“นี่มันอะไรวะเนี่ย”
ประโยคที่อยากบ่นที่สุดออกจากปากแต่ก็ต้องเบาลงแม้จริงๆนึกอยากตะโกนให้ลั่นห้อง เหลียงจื่อซิ่นเบิกตากว้างมองแพดานเตียง รู้สึกถึงหัวใจเต้นเป็นจังหวะถี่รัวบอกให้เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เยส นี่คือความจริงอันแสนบัดซบ ว่าด้วยการลืมตาตื่นในร่างชาวบ้านและไม่รู้จะโดนทวงคืนเมื่อไหร่ วู้ว นี่มันกรรมตามสนองชัดๆ
จะตะโกนก็กลัวโดนว่าเป็นคนบ้าจื่อซิ่นจึงเปลี่ยนมานวดขมับตัวเองที่เต้นตุบ ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วซุกหน้าลงไปนิ่งๆ อาการปวดหัวยังไม่สงบดีนักพอๆกับความจำมาๆไปๆ เดี๋ยวนึกได้เดี๋ยววูบหายของเจ้าของร่างเดิมทำเอาลำบากไม่น้อย จวิ้นอ๋องหวงเทียนหยาง ท่านอ๋องที่เป็นหลานชายไม่ก็น้าชายของฮ่องเต้ ครองเมืองถานเฟิ่งที่อยู่ชายแดนใต้แต่ส่งคนเข้าไปดูแลแทน ปัจจุบันอายุยี่สิบสอง แต่งงาน---แต่งงานกับผู้ชายด้วยกันมาแล้วหนึ่งปี
เหลียงจื่อซิ่นผุดลุกนั่งขัดสมาธิ ความทรงจำที่ชัดเจนที่สุดของร่างนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง ศึกสงครามหรือการค้าขาย กลับเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่มีฐานะเป็นสามีของตัวเอง สำหรับคนที่เคยเรียนประวัติศาสตร์มา เหลียงจื่อซิ่นรู้ดีว่าคนนั้นคือแม่ทัพหลิน จวินเจ๋อ แต่ใครจะไปคิด ว่าประวัติศาสตร์นี่มันจะผิดไปจากความจริงได้มากขนาดนี้
จื่อซิ่นจำประโยคนึงในบทเรียนได้ดี(เพราะเขาต้องท่องเพื่อใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย) ในนั้นเขียนว่าอย่างไรนะ..จวิ้นอ๋องได้รับสมรสพระราชทาน ให้แต่งงานอยู่กินกับแม่ทัพแดนใต้ หลิน จวินเจ๋อ ทั้งสองรักใคร่ปรองดอง กลายเป็นคู่บุรุษหนึ่งในใต้หล้า อยู่กินกันอย่างผาสุกชั่วชีวิต..
เฮอะ ผาสุกชั่วชีวิตบ้านบิดาพวกนายสิ
เหลียงจื่อซิ่นกัดฟันนวดขมับตัวเองขณะนึกย้อนไปถึงความทรงจำของหวงเทียนหยาง อะไรคือสมรสพระราชทาน? ก็เป็นสมรสพระราชทานจริงๆนั่นล่ะ แต่จวิ้นอ๋องไม่ได้’รับ’สมรสพระราชทาน แต่เป็นคน’ขอ’สมรสพระราชทานจากฮ่องเต้เพื่อให้ตัวเองได้แต่งกับผู้ชาย
เอาง่ายๆ ท่านอ๋องนี่บังคับผู้ชายมาแต่งกับตัวเอง
จิตวิญญาณของเกย์หนุ่มเจ้าของฉายาผีเสื้อราตรีรู้สึกปวดร้าวยังไงก็ไม่ทราบ ในฐานะที่เป็นผู้ชายและเป็นเกย์คนนึงเหลียงจื่อซิ่นรู้สึกว่านี่เป็นอะไรที่ชวนให้เสียเซลฟ์ชะมัด การต้องขอให้คนอื่นทำให้ตัวเองสมหวังเรียกว่าทำยังไงเขาก็ไม่เอาแล้วใช่ไหม เลยบังคับแทน อะไรมันจะหน้าด้านชวนอดสูและเสียศักดิ์ศรีได้เท่านี้อีก แล้วไหนบอกหลินจวินเจ๋อรักจวิ้นอ๋องหนักหนา ในความทรงจำของท่านอ๋องหวงเทียนหยางผู้นี้มันเล่าออกมาเป็นฉากๆเลยเชียวว่าจวิ้นอ๋องโดนรังเกียจแค่ไหน
อา..ข้าน้อยโดนนักประวัติศาสตร์หลอกลวง
จื่อซิ่นนวดขมับที่ปวดตุบๆแล้วก็บ่นในใจไปด้วยอย่างรันทดท้อ ไม่ทราบว่าพระผู้เป็นเจ้า พระยูไล พระตถาคต เจ้าแม่กวนอิม หรือเทพองค์ไหนส่งเขามาในร่างนี้ แต่จื่อซิ่นอยากจะบอกว่าถ้าหวังให้เขายกเลิกหรือแก้ไขเรื่องราวยุ่งยากซึ่งจวิ้นอ๋องก่อล่ะก็ บอกเลยไม่มีทางเป็นไปได้ ขนาดวิญญาณจวิ้นอ๋องยังเผ่นเลย นับประสาอะไรกับเหลียงจื่อซิ่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย
คนไร้สามัญสำนึกพลิกกายนอนหงายเท้าพาดต้นขากระดิกเล่นพลางนึกทวนถึงท่านแม่ทัพหลินคนนั้นไปพลางๆ จุ๊ๆ เห็นหน้าตารูปร่างและหุ่นก็พอบอกได้อยู่หรอกว่าทำไมจวิ้นอ๋องถึงได้หลงหัวปักหัวปำนัก นับแต่ตกหลุมรักตั้งแต่อายุสิบเจ็ดที่ได้รับตำแหน่งอ๋องแล้วไปตรวจเยี่ยมเมืองถานเฟิ่ง มาจนได้ร่วมรบ เป็นกุนซือคอยวางแผนทัพให้หลินจวินเจ๋อเอาชนะข้าศึก ในราชสำนักก็ช่วยวิ่งเต้นสนับสนุนจนอีกฝ่ายได้ขึ้นเป็นแม่ทัพแดนใต้ ความรักบริสุทธิ์ชนิดถวายหมดหัวจิตหัวใจของหวงเทียนหยางนี่น่านับถือจริงๆ เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้คิดว่าบุญคุณต้องตอบแทนด้วยหัวใจน่ะสิ
เหลียงจื่อซิ่นจ้องมองเพดานไปคิดทวนความทรงจำไป ท่านแม่ทัพหลินหน้าหล่อหุ่นล่ำน่าเซี๊ยะคนนั้นตอนไม่ทราบถึงหัวจิตหัวใจของจวิ้นอ๋องก็ยังสนิทสนมมีไมตรีต่อกันดีอยู่ ต่อมาทราบแล้วก็ออกจะกริ่งเกรงบ้างแต่ยังปฏิเสธความรักอย่างนุ่มนวล แต่แล้ว..เพล้ง ทุกอย่างมาพังย่ำแย่เอาตอนปีก่อนที่หวงเทียนหยางชนะศึกที่ทะเลตงไห่ ฮ่องเต้ถามว่าต้องการบำเน็จอะไร ก็ตอบไปอย่างชัดถ้อยชัดคำว่าสมรสพระราชทานของตนเองและแม่ทัพหลิน
ไม่แปลกที่หลังจากนั้นทุกอย่างจะย่ำแย่จนดูบัดซบ..
เหลียงจื่อซิ่นสั่นหัวตะครั่นตะคร้อ ท่านอ๋องหวงเทียนหยางผู้นี้น่าจะไปเกิดเป็นตัวละครในนิยายน้ำเน่าซะจริงๆ เป็นตัวเอกที่ทำดีแล้วโดนรังแก ไม่ก็พระรองผู้ทุ่มเททุกอย่างเพื่ออีกฝ่ายแต่ไม่มีใครเห็นหัว สภาพของท่านอ๋องที่เปิดเผยรสนิยมตัวเองกลางท้องพระโรงจากนั้นจะเป็นยังไงไม่ต้องเดาก็รู้ ขนาดทุกวันนี้โลกว่าเปิดกว้างมากแล้ว พอมีคนรู้ว่าเขาเป็นเกย์ยังถูกมองด้วยสายตารังเกียจ นับประสาอะไรกับเมื่อหลายพันปีก่อน ที่หวงเทียนหยางกล้าเอ่ยปากบอกรสนิยมตัวเองนี่ถือว่าอาจหาญเกินใครแล้ว
แต่เอาจริงๆจวิ้นอ๋องก็แอบขี้โกงไม่น้อยอยู่หรอก ถึงขั้นเอาสมรสพระราชทานมาบีบหลินจวินเจ๋อ ทำเอาท่านแม่ทัพหลินที่คิดเกี่ยวดองกับแม่คุณหนูตระกูลจ้าวต้องกัดฟันกรอดๆ ยอมก้มหน้ารับราชโองการแล้วแต่งเข้าวังจวิ้นอ๋องในฐานะสามี
วันเข้าหอของพวกเขาสนุกมากเลยทีเดียว หลินจวินเจ๋อดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ หยิบดาบเข้าห้องหอฟันผ้าปิดหน้าเจ้าบ่าวจนขาดไม่มีชิ้นดีแล้วสถบสาบานบอกชาตินี้ไม่มีวันแตะต้อง ไม่มีวันรับเป็นภรรยา วันๆถ้าไม่ทำงานก็ออกไปสังสรรค์ ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ทำเอาหวงเทียนหยางน้ำตาตกทุกคืน นอนกอดหมอนเป็นนางเอกผู้ถูกทำร้ายจิตใจ
เรื่องราวน่าปวดหัวนี่ยังไม่จบ หลังจากแต่งงานในสภาพลุ่มๆดอนๆมาครบปี หลินจวินเจ๋อซึ่งร้อยวันพันปีไม่คิดเหยียบเข้ามาในห้องกลับเข้ามาหาหวงเทียนหยาง ไม่ทันให้จวิ้นอ๋องได้ดีใจ อีกฝ่ายก็บอกว่าจะแต่งคุณหนูตระกูลจ้าวเป็นอนุ ยกกฏข้ออ้างที่บอกว่าภรรยาไม่มีสิทธิ์ห้ามสามีแต่งอนุภรรยามากางต่อหน้า ขู่ว่าถ้าไม่ยอมรับจะเขียนใบหย่า แล้วก็จากไปทิ้งให้หวงเทียนหยางนั่งน้ำตาตก(อีกแล้ว) ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นสาเหตุให้เขาเข้ามาอยู่ในร่างจวิ้นอ๋องกระมัง เพราะคนๆนั้นนั่งดื่มเหล้าด้วยความตรอมใจ และน่าจะตายไปทั้งอย่างนั้น
เป็นการตายที่น่าสมเพชระคนสงสารยังไงก็ไม่รู้
เหลียงจื่อซิ่นใช้นิ้วเกาจมูกร่างท่านอ๋องจวิ้นอย่างไม่สำรวมกริยาพลางถอนหายใจ เรื่องยุ่งยากแบบนี้จะให้เขาแก้อย่างไรไหว ไม่ต้องให้เขาพยายามทำให้มันดีขึ้นหรอกนะ เพราะทางที่ดีที่สุดน่ะคือเขียนใบหย่าไปเสียให้จบๆแล้วปล่อยหลินจวินเจ๋อแต่งเมียตามสบาย คนไม่ได้รักก็ไม่รู้จะยื้อไปทำไม แผ่นดินไม่สิ้นไร้ใบพุทรา ผู้ชายดีๆสักหลายคนมีเหรอเหลียงจื่อซิ่นจะหาไม่ได้
เอ๊ะ ไม่สิ ตอนนี้เขากลายมาเป็นหวงเทียนหยาง หรือว่าหวงเทียนหยางจะหน้าตาทุเรศ ขี้ริ้วขี้เหร่จนไม่มีใครเอา
เหลียงจื่อซิ่นลุกขึ้นจากเตียงแล้วคืนคลานไปยังโต๊ะที่มีคันฉ่องทองเหลืองวางอยู่ไม่ไกลด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ต่อให้ในประวัติศาสตร์จะมีคำบรรยายหน้าตาหวงเทียนหยางว่ารูปงามราวกับเทพเซียนก็เถอะ แต่เรื่องจริงของจวิ้นอ๋องกับหลินจวินเจ๋อเขาก็ยังถูกนักประวัติศาสตร์หักหลังไม่พอหรือ จื่อซิ่นสาบานเลยว่าจะไม่เชื่อตำนานเรื่องเล่าอะไรอีกแล้ว และถ้าหวงเทียนหยางหน้ากร้อคอสั้นฟันดำล่ะก็ ไม่แปลกเลยหากหลินจวินเจ๋อซึ่งรูปหล่อฟ้าประทานขนาดนั้นไม่คิดแล
ตามองกระจกทองเหลืองแล้วกระพริบปริบๆ ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง ยิ้มแล้วคนในกระจกก็ยิ้มตอบกลับมา เหลียงจื่อซิ่นอ้าปากค้าง ต่อให้เขาอ้าปากค้างเงาในกระจกก็ยัง...โอ้ย พระเจ้า ทำไมเขาถึงมาอยู่ในร่างของคนๆนี้ ไหนๆจะส่งมาแล้วให้ไปอยู่ในร่างของหลินจวินเจ๋อไม่ดีกว่าเหรอ รับรองว่าจื่อซิ่นจะทำตามประวัติศาสตร์อย่างดี จะรักทะนุถนอมหวงเทียนหยางจนสุดหัวใจ จะบูชาทุกเช้าค่ำมดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยจริงๆ!
ภาพที่สะท้อนอยู่เบื้องหน้าคือชายหนุ่มหน้าตาหล่อ..ไม่สิ จะเรียกว่าหล่อหรือสวยดี เอาเป็นว่าหน้าตาดีมาก ดีเหนือมาตรฐานมนุษย์เดินดินทั่วๆไป หน้าตาดีจนดารานักร้องทั่วเกาะฮ่องกงหรือจีนแผ่นดินใหญ่ก็ไม่อาจเทียบ ดวงตาคู่นั้นงดงามเหมือนเก็บดวงดาวเอาไว้ข้างใน แพขนตาหนางามงอนชนิดสาวๆมาเห็นแล้วต้องอิจฉา คิ้วเรียวงามพาดเฉียงเหมือนปลายดาบประเหมาะลงตัวกับปลาจมูกโด่งเชิดรั้นนิดๆ ริมฝีปากแดงเป็นกระจับได้รูปสวย เค้าโครงใบหน้ารูปไข่รับกับลำคอยยาวระหง ปลายนิ้วเรียวขาวที่กำลังแตะกระจกอยู่งามเหมือนลำเทียน เส้นผมสีดำยาวเหมือนม่านน้ำตก ไม่ว่ามองยังไงก็ดูดี ไม่ว่าอ้าปากค้างน้ำลายจะไหลก็ยังดูดี น่าเอ็นดูและน่าดูเอ็นจนเจ็บใจว่าทำไมต้องเป็นตัวเองด้วย!!
เหลียงจื่อซิ่นเอามือกุมอกเหมือนเจ็บปวดนักหนา แต่ตาก็ยังมองสีหน้าเจ็บใจที่สะท้อนจากกระจกไม่กระพริบ นี่มันเวรกรรมจริงๆด้วย ถ้าเขาไม่ทำบาปมามากพระเจ้าคงไม่ส่งเขามาอยู่ในร่างนี้ต่อให้มองแทบตายยังไงก็กินไม่ได้หรอก เขารู้สึกเหมือนจะกลายเป็นนาร์ซิสซัส เข้าใจความรู้สึกตกหลุมรักตัวเองอยางซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหล
จื่อซิ่นคิดว่าตัวเองในชาติก่อนนั้นหล่อเหลาดูดีแล้ว แต่ให้เทียบกับหวงเทียนหยางแล้วเขาจะนับเป็นอะไรได้ แค่เศษฝุ่นใต้เท้าคนงามยังไม่กล้าเทียบเลย หวงเทียนหยางเป็นเหมือนคนที่เกิดมาเพื่อจะหยิบเอาหัวใจทุกคนติดมือแค่เดินผ่านชัดๆ
แล้วนี่เจ้าหลินจวินเจ๋อมันโง่หรือมันโง่กันแน่ถึงได้กล้ามองข้ามความงามที่ฟ้าประทาน เทพบรรจงปั้นขนาดนี้ได้ แล้วยังกล้าทำให้คนสวยต้องร้องไห้อีก แค่นึกภาพใบหน้าในกระจกนี่ต้องน้ำตารินจู่ๆจื่อซิ่นก็รู้สึกอยากฆ่าคนขึ้นมา หลินจวินเจ๋อเจ้าคนถ่อย มีตาแต่ไม่มีแวว กล้าทำให้จวิ้นอ๋องต้องน้ำตาตกแล้วนี่ยังกล้าทิ้งขว้างหวงเทียนหยางไปหาคุณหนูอกแฟ่บสกุลจ้าว ทำให้จวิ้นอ๋องคนงามจิตใจดีคนเก่าต้องตายเพราะตอมใจ บัดซบ! คนเลวอะไรไม่เลวเท่าทำคนงามเสียน้ำตา แค้นนี้มันต้องชำระให้ได้!
เหลียงจื่อซิ่นจ้องมองกระจกแล้วแสยะยิ้ม ขนาดยิ้มเหี้ยมคนงามก็ยังงามอยู่วันยังค่ำ ชายหนุ่มใช้มือลูบกระจกเบาๆอีกครั้ง แค่เห็นรูปโฉมของหวงเทียนหยางความรู้สึกสับสนงวยงงทุกอย่างต่างปลิวออกไปจากหัวใจ ไม่ว่าพระเจ้าหรือยมบาลก็ตามที่ทำให้เขามาอยู่ในร่างของคนๆนี้ เหลียงจื่อซิ่นขอขอบคุณและขอสาบานเลยว่าจะชำระแค้นแทนคนงามหวงเทียนหยางให้จงได้
ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนี้ และด้วยฝีมือตกหนุ่มอันแพรวพราวของเหลียงจื่อซิ่นมีหรือจะพลาด เขาจะทำทุกวิถีทางให้หลินจวินเจ๋อหมอบราบคาบแก้วยอมปราวรณาตัวเป็นทาสรักจากนั้นก็จะเหยียบหัวมันให้จมดินสมกับที่เคยทำกับหวงเทียนหยางคนเดิม
จากนั้น...ไม่ว่าจะจีบหนุ่ม สร้างฮาเร็ม มีกิ๊กเป็นบุคคลระดับไฮโปรไฟล์ขนาดไหน เหลียงจื่อซิ่นแน่ใจว่าต้องได้ทุกอย่างมาในกำมือ แน่นอนว่าเขาเว้นที่ว่างในหัวใจช่องใหญ่ที่สุดไว้แด่หวงเทียนหยางที่ได้แต่มองผ่านกระจกไม่อาจครอบครองคนนี้
เหลียงจื่อซิ่นลูบกระจกอีกครั้ง ลูบซ้ำอีกครั้งด้วยความอาลัยอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะลุกขึ้นอย่างอาลัยอาวรณ์เป็นที่สุดเดินกกลับไปนอนที่เดิมเพื่อคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆของหวงเทียนหยางเพื่อรับบทจวิ้นอ๋องในแนบเนียนที่สุด
เขาไม่รู้เลยว่าที่ประตูมีร่างของเหล่าไท่แอบมองและยืนน้ำตาซึมอยู่..นายน้อยของมันคงเศร้าเสียใจเรื่องท่านเขยผู้นั้นจนเสียสติแล้วแน่แท้..
++++++++++++++++++++++++++++++
(หวงเทียนหยาง คนงามสุดอาภัพของเฮียจื่อ)
ในสายตาของจื่อซิ่น จวิ้นอ๋องในกระจกกับตัวเองคือคนละคนโดยสิ้นเชิง(55) นิสัยของเฮียจื่อคือเพลย์บอยไร้หัวใจที่ชอบของสวยๆงามๆเป็นที่สุดค่ะ เลยตกหลุมรักหวงเทียนหยางในกระจกซะอย่างนั้นก็พลอยเป็นเดือดเป็นแค้นแทนคนงามเรื่องที่ถูกสามีรังแกด้วย จากที่แต่เดิมไม่แคร์ พี่แกสติหลุดเพราะความงามของร่างตัวเองไปแล้ว//ลาก่อน
ส่วนตอนหน้ารอเจอท่านสามีกันค่ะ ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ของทุกคนด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบที่ว่าเว้นพื้นที่ให้หัวใจให้ร่างตนเองอ่ะ5555//จิ้นผิดเวลามาก---
สนุกดีค่ะ ^^