ตอนที่ 9 : TIN : 09 100%
TIN 09
น่าแกล้ง
“สวัสดีค่ะคุณธีร์ คุณอิน” ก้าวเข้ามาในบ้านก็มีคนมาต้อนรับเหมือนเคย แต่ไม่ใช่คนเดิม เธอบอกด้วยรอยยิ้มยินดี แต่คนข้างหน้าทำเหมือนไม่เห็นและเดินผ่านไป ผมเลยหน้าที่ยิ้มให้เธอแทน
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้เพราะเธอดูมีอายุมากกว่าคนก่อน ท่าทางดูใจดีอีกด้วย
“คุณๆจะรับอาหารเย็นเลยไหมคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้ว”
“อ่อ.. คือธีร์บอกจะทำเองครับ” ผมบอกไปเบาๆเพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจเขาทำได้จริงไหม แม้จะถามมาเกือบ 10 รอบตั้งขึ้นรถมาก็เถอะ
“คุณธีร์จะทำอาหารเหรอคะ” สีหน้าไม่เข้าใจสุดของเธอทำให้ผมได้แต่กดหน้าลงช้าๆ “ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะคะว่าคุณเขาทำเป็นด้วย”
“นั่นสิครับ”
“อิน” ธีร์หยุดเดินแถวหน้าประตูครัว หันมาเรียกผมด้วยเสียงเรียบๆ ผมเลยได้แต่พยักหน้าให้กับคุณป้าคนนี้แล้วแยกออกมา โดยเธอบอกว่าจะเอาอาหารเซ็ตที่เตรียมให้ธีร์กับผมไปให้พวกคนงานในบ้านแทน
“ธีร์ทำเป็นจริงๆเหรอครับ” ผมถามซ้ำ คนตัวสูงไม่ตอบเพียงแต่ปรายตามามอง ทิ้งกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะกลางห้องทำอาหาร ตรงไปเปิดตู้เย็นสองฝาและย่อตัวตรงหน้า ผมขยับตามไปติดๆเพื่อดูท่าทางของอีกคน
“กินอะไร” เขาถาม
“เอ่อ..อะไรก็ได้ครับ”
“อืม” ธีร์ไม่ถามต่อเหมือนไอ้เกวที่ถ้าผมตอบแบบนั้นจะต้องเค้นจนตัดสินใจ “ไข่เจียว” คนรับหน้าที่ประกอบอาหารบอกขึ้น มือใหญ่หยิบไข่สามฟองที่ฝาตู้ มือถือด้วยมือเดียว ผักอีกสองสามชนิดถูกวางลงบนโต๊ะแถวนั้น เขาดูคล่องแคล่วหยิบแบบไม่ต้องคิดนาน เริ่มให้ความรู้สึกมั่นใจว่าอีกคนทำเป็นจริงๆบ้างแล้ว “หมูหรือกุ้ง”
“หมายถึงอะไรครับ” ผมถามและขยับไปมองในช่องแช่แข็งแบบเดียวกับธีร์
“ใส่ในไข่”
“อ่อ..” ผมเฉยๆกับทั้งกุ้งและหมู ไข่เจียวกุ้งสับกับไข่เจียวหมูสับทีเคยกินจากพ่อก็อร่อยเหมือนๆกันถ้าจิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้ที่ผมชอบ “กุ้งครับ” แต่คนทำน่ะชอบกุ้งมาก ผมรู้
“อืม” ครางรับในคอ หยิบกุ้งแช่แข็งปลอกเรียบร้อยวางลงในอ่างและเปิดน้ำให้ไหลผ่าน เดินผ่านหน้าผมไปหยิบอุปกรณ์ต่างมาหลายชิ้น และเริ่มลงมือทำโดยการกะเทาะไข่ใส่ในถ้วยขนาดกลาง ส่วนผมนั้นตอนนี้มีหน้าที่เดียวคือยืนมองธีร์ที่ขยับหยิบนู่นหยิบนี่ ขนาดโยนเปลือกไข่ใส่ถังขยะผมยังมองตาม
“พี่ขอโทษที่ถามบ่อยๆนะครับ”
“ถาม? อะไร” ถือไข่ค้างไว้และหันมาเอียงคอถาม ผมขยับเข้าไปหยุดยืนข้างๆและหยิบเศษเปลือกแข็งบนแก้มเนียนออก
“ถามว่าธีร์ทำเป็นไหมไงครับ” ไม่รู้ว่าผมคิดคนเดียวไหมว่าการถามบ่อยๆแบบนั้นเหมือนดูถูกฝีมือของธีร์ แต่ถึงยังไงผมก็คิดแล้วเลยเลือกขอโทษเผื่อไว้ดีกว่า
“ไม่ได้ว่า”
“รู้ครับ” ตอบยิ้มๆ การสนทนาจบลงโดยอีกคนหันไปสนใจไข่ในมือแทน ผมรู้สึกตัวเองจะว่างเกินไปแล้ว “ให้พี่ช่วยอะไรไหมครับ”
“หั่นกุ้ง”
“ได้ครับ” ผมยิ้มร่าเพราะอย่างน้อยก็มีอะไรทำ จัดการหยิบกุ้งที่แช่น้ำสักครู่เมื่อกี้ขึ้นมา มันยังแข็งอยู่บ้างแต่ก็มีบางตัวที่นิ่มพอจนหลุดจากแพแข็งๆบ้างแล้ว “พี่ต้องรอให้มันละลายหมดไหมครับ”
“ไหน” พ่อครัวใหญ่เดินมาในชุดนักเรียน ยื่นหน้ามาใกล้ผมที่ยืนใกล้อ่างนั่น “อีกนิด” ธีร์หันมาพูดโดยที่หน้าเราอยู่ใกล้กันมากๆ ชนิดที่ว่าลมหายใจเขาแตะผิวผมเลย
“อ่อ..งั้นให้พี่ทำอย่างอื่นไหม”
“นั่งรอ” น้ำเสียงจริงจังของธีร์ที่บอกมาทำให้ผมทำตามโดยดี ลากเก้าอี้ตัวที่คิดว่าจะเห็นอีกคนชัดที่สุด
ตอนนี้ธีร์ตอกไข่เสร็จกำลังหาช้อนอันพอดีมือมาเพื่อตีให้มันร่วมกันเป็นเนื้อเดียว เสียงช้อนกระทบชามดังมาแปบเดียวก็เงียบไปและเขาย้ายไปหั่นผักแทน ผมมองอยู่แบบไม่ได้สนใจตัวกุ้งงานตัวเองสักนิด มันน่ามองไปหมดกับการที่นักเรียนมัธยมขยับทำครัวอย่างคล่องแคล่วแบบนั้น มันเลยทำให้ผมเริ่มคาดหวังกับรสชาติบ้างแล้ว
“พ่อตกใจมากเลยนะที่พี่กลอนบอกว่าธีร์ทำอาหารเนี่ย” เสียงผู้มาใหม่ทำให้ผมขยับลุกจากที่นั่งหันไปหาท่าน ยกมือขึ้นตามมารยาทด้วยรอยยิ้ม “เป็นไงอิน อร่อยไหม” ธีร์ไม่ได้ตอบอะไรมา คุณอาธันเลยทักผมต่อ
“ยังไม่เสร็จครับ”
“เหรอ.. แบบนี้ถ้าอาอยากให้ทำเผื่อสัก 2 ฟองจะทันไหมเนี่ย”
“อ่อ..” ผมลากเสียงพร้อมหันมองคนทำ เขาหันมองหน้ามองไปทางประตูครัวนิดๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“งั้นไม่เป็นไร” คุณอาพูดด้วยสีหน้าฝืนยิ้มแบบชัดเจนมากๆ
“ธีร์ ทำเผื่อคุณอาด้วยนะครับ”
“อืม”
“ได้ครับคุณอา 2 ฟองนี่จะพอเหรอครับ” ผมถามและมองอีกคนที่สีหน้าดีขึ้นมาก
“พอสิ เดี๋ยวอาต้องไปประชุมต่อ แต่คนที่บ้านโทรไปบอกว่าธีร์จะทำกับข้าวอาเลยรีบกลับมา” เงียบกริบแบบไม่มีใครเอ่ยอะไรต่อมา ผมก็ไม่รู้จะขานรับยังไงเพราะบรรยากาศไม่ได้ดีขนาดที่คนนอกอย่างผมจะแสดงตัวตน เงียบไปสักพักผู้พูดส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง “เดี๋ยวอาไปจัดโต๊ะรอดีกว่า”
“ครับ”
“ผมขอฟองหนึ่งนะครับ” คุณเบลล์บอกทิ้งท้ายและเดินตามไป ผมได้ยินเสียงคุณอาตะโกนสั่งอะไรแว่วๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าเจ้าของแผ่นหลังข้างในห้องครัวนี้
“ธีร์..” เรียกเบาๆแล้วขยับไปใกล้ๆเขา “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ถึงจะไม่มีอะไรเปล่งออกมาหรือท่าทางที่แปลกไปใดๆ แต่ความรู้สึกที่ฉายจากแววตามมันไม่ได้เหมือนเดิมเลยสักนิด
“เปล่า”
“เป็นครับ” ผมตอบทันควัน เขาหลับตาลงครู่หนึ่งเหมือนสะกดกลั้นอารมณ์
“เป็น เป็นมาก”
“เป็นอะไรละครับ”
“...”
“ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรครับ พี่คนนอก แต่ถ้าธีร์ไม่รู้จะปรึกษาใครปรึกษาพี่ได้นะครับ” ดูก็รู้ว่าเป็นเรื่องในครอบครัวที่ผมไม่มีสิทธิเค้นถามหรือพยายามรับรู้ด้วยตนเอง เว้นแต่ว่าเจ้าตัวจะเป็นคนเริ่มก่อน
“ไม่ใช่คนนอก”
“...”
“เล่าได้” ผมคลี่ยิ้มเมื่ออีกคนพูดมาแบบนั้น มันมีความรู้สึกอุ่นใจเกิดขึ้นในอกผมด้วย “กินข้าวเสร็จ..นะ”
“ครับ” เมื่อเห็นแววตาธีร์แปรเปลี่ยนเป็นปกติ ผมเลยขานรับและเดินแยกที่อ่างล้างผักเพื่อทำหน้าตัวเอง ใช้มือช้อนกุ้งขึ้นพักบนเขียงแถวนั้น รับมีดที่ส่งมาโดยหัวหน้าพ่อครัว ลงมือทำในแบบที่เคยทำ หวังว่าหั่นกุ้งใส่ข้าวต้มกับใส่ในไข่เจียวจะเหมือนกันนะ
กลิ่นหอมลอยฟุ้งทั่วครัวใหญ่ ผมยืนเยื้ยงข้างหลังธีร์ด้วยใจที่จดจ่อกับสิ่งในกระทะ โชคดีที่ผมสูงน้อยกว่าธีร์นิดเดียวทำให้การชะเง้อมองผ่านหัวอีกคนไม่ใช่เรื่องยาก มันเลยทำให้ผมได้เห็นไข่เจียวแบบสุกแล้วสีเหลืองทองน่ากิน มันดูฟูกว่าที่พ่อผมทำให้กินด้วยซ้ำ แถมขนาดก็ใหญ่กว่าด้วย
ใช้ได้เลยเจ้าเด็กคนนี้
“ชิม” ธีร์บอกพร้อมกับใช้ช้อนทำลายความกลมมนในจาน ตักเนื้อไข่เจียวเน้นๆขึ้นมาให้จ่อแถวปากผม
“รอชิมทีเดียวก็ได้นะครับ พี่อยากลุ้น”
“ชิมก่อน”
“ครับๆ” ขานรับเบาๆ และอ้าปากงับคำที่อีกคนป้อน “อ้า! ร้อน!” มันร้อนมากจนแสบปาก จับมือข้อมือใหญ่ให้ชักช้อนออกจากปากทันที ผมก็ลืมไม่ได้เป่าทั้งๆที่เมื่อกี้ก็เพึ่งเห็นเขาเอาขึ้นจากกระทะ
“ขอโทษ” ธีร์บอก สีหน้าเขาสลดลงไป “โอเคไหม”
“โอเคครับๆ” ยิ้มเพิ่มความมั่นใจอีก “พี่พร้อมชิมแล้ว” ธีร์ยกคำเดิมขึ้นเป่า ผมขยับปากอ้าเพื่อรอรับ แต่กลับว่างเปล่าเพราะช้อนคันนั้นเข้าปากผู้ถือไปแล้ว “ธีร์..พี่กิน..”
“คำใหม่” เขาตีความผมผิด ผมหมายถึงคำนั้นน่ะผมมันเข้าปากผมไปแล้ว ไม่ใช่ว่าผมเรียกร้องจะกิน “เป่าแล้ว” สะดุ้งตรงที่เขาบอกเพราะเมื่อกี้แทบไม่ได้มีความรู้สึกกับอะไรตรงหน้า ในหัวผมกำลังกังวลว่าธีร์จะรู้ไหมว่า ไข่เจียวคำนั้นมันเข้าปากผมไปแล้วทั้งคำจริงๆ ชนิดที่ผมเกือบเคี้ยวแล้วถ้ามันไม่ร้อน “อ้า”
“อะ..อ่อ” เขาบอกย้ำผมเลยทำตาม รับเนื้อไข่และกุ้งอุ่นกำลังดีเข้ามา บรรจงเคี้ยวแบบมองหน้าคนทำไปด้วย เขาก็มองผมแบบไม่กะพริบตาคล้ายกับกำลังลุ้นในฝีมือตัวเอง ผมละไม่เข้าใจว่าจะลุ้นทำไม ในเมื่อมันอร่อยขนาดนี้
“เป็นไงบ้าง” เสียงถามเบาๆดังขึ้น ผมกลั้นยิ้มมองหน้าเขานิ่งๆ ขอแกล้งหน้าเครียดๆนั่นหน่อยเถอะ
“มัน..” แกล้งทำเสียงลำบากใจ มองจานไข่เจียวสลับกับหน้าเขาไปมา คนทำขยับคิ้วเข้าหากันเรื่อยๆ และเริ่มมองตาม ผมแทบจะหลุดขำออกมาเมื่อหน้าผากเขาย่นไปเป็นริ้วๆ
“เอาทิ้ง” ธีร์บอกและคว้าจานเตรียมจะคว่ำลงถังขยะแถวนั้น ผมฉุดมือคนแทบไม่ทัน อะไรมันจะซีเรียสขนาดนั้นกัน
“อย่านะครับๆ”
“มันไม่อร่อย” เสียงบอกและมองของในมือตัวเอง ผมรู้สึกผิดจนอยากจะตบหน้าผากตัวเอง ไม่น่าเล่นเลยจริงๆ ไม่น่าหมั่นเขี้ยวจนอยากให้อีกคนทำหน้ายุ่งๆเลยจริงๆนะ
“พี่ยังไม่ได้บอกเลย” ว่าพลางจับจานกลมลงบนโต๊ะเหมือนเดิมให้มันปลอดภัย “มันอร่อยจนพี่อยากแกล้งธีร์ต่างหาก”
“แกล้ง?”
“ครับ” ผมฉีกยิ้มให้ ขยับจนที่ว่างระหว่างกันมันน้อยลง “ธีร์น่าแกล้ง” พูดพร้อมยกมือขึ้นบีบแก้มอีกคนให้เต็มมือ แต่ก็ระวังไม่เล็บโดนเนื้อเขาด้วย
“เหรอ”
“อะ.อืม” ชะงักตัวตอนที่อีกคนทำแบบเดียวกับแก้มผมเหมือนกัน “ธีร์..อี่เอ็บ (ธีร์..พี่เจ็บ)” ร้องออกมาพร้อมกับเบ้หน้าเมื่ออีกคนไม่ใช่แค่บีบเฉยๆ แต่ยังดึงออกจนผมพูดแทบไม่รู้เรื่อง
“น่าแกล้ง”
“เอ็บ.(เจ็บ)” ถึงจะบอกไปแบบนั้นเขาก็ไม่หยุดที่จะดึงเข้าดึงออก ผมเลยทำบ้างแต่อีกคนกลับไม่แสดงอาการใดๆออกมาเลย “อย่าอึง..” แก้มดึงๆลำบากมากตอนจะพูด ไหนจะหุบปากสนิทจนกลัวน้ำลายไหลอีก น่าโมโหมากๆผมอยากจะหาทางเอาคืน แต่ไม่ว่าจะบีบแรงขยับขึ้นลง ซ้ายขวายังไงก็ดูไม่รู้สึก
แก้มตายแล้วเหรอ
“อะ.”
“คุณอินครับ ผมยกข้าว... อืม..ไม่ยกดีกว่า” ปล่อยมือและขยับออกห่างทันทีที่คุณเบลล์ทำท่าชะงักอยู่แถวประตูแล้วกำลังจะเดินออกไป
“คุณ..เบลล์มีอะไรครับ” ถึงแม้จะหนึบๆอยู่ที่แก้มขวาก็ต้องฝืนพูดถามออกไป
“ไม่มีอะไรเลยครับ ผมแค่เดินผ่าน ไม่ได้เห็นอะไรเลยด้วยนะครับ”
“เมื่อกี้คุณบอกยกข้าว” ผมถามย้ำแล้วเดินไปหาเขาด้วย รู้สึกไม่ชอบสายตาของเขาที่มองมาที่ผมและธีร์คู่นั้น มันแปลกๆ แค่นี้ก็อายจะแย่แล้ว
ผู้ชายสองคนยืนบีบแก้มกันไม่ใช่ภาพที่เห็นได้บ่อยๆนี่ครับ
“อ่อ.. อันที่จริงผมจะมาถามเรื่องข้าวน่ะครับ เผือคุณอินคุณธีร์หุงเพิ่ม จะได้เอาของคุณ”
“ไม่ได้หุงครับครับ ผมเห็นที่บ้านมี” ระหว่างที่ธีร์เจียวไข่ผมก็เดินเปิดหม้อดูแล้วซึ่งมันก็ยังมีอยู่เต็มหม้อ เลยไม่จำเป็นต้องทำเพิ่ม
“ครับ” เขารับคำแล้วเดินเข้ามา หยิบถ้วยใหญ่สำหรับใส่ข้าวมาด้วย ผมเลยถือทัพพีแถวนั้นเข้าไปช่วยเขา
“ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” ผมตักข้าวใส่ที่เขาถือในมือ แต่มันรู้สึกแปลกเหมือนโดนจ้องเลยหยุดการกระทำแล้วมองหน้าเขาแทน “มีอะไรหรือเปล่าครับ” ถามไม่เต็มเสียงเพราะไม่เข้าใจว่ามองทำไม
“ขอจับแก้มหน่อยได้ไหมครับ”
“อ่ะ..เอ่อ..ทำไมครับ”
“อยากลองบ้าง” คุณเบลล์ยิ้มมุมปากพร้อมกับยกมือขึ้นมาสัมผัสตามที่เขาขอ
ฟึบ!
“อ๊ะ!” คนตรงหน้าสะดุ้งยกมือจับแก้มตัวเองบริเวณที่ยางรัดแกงลอยมาโดนโดยฝีมือของใครก็คงทราบดี
“เจ็บไหมครับ” ผมถาม เดาได้ว่าเจ็บแน่นอนเพราะมันแดงเป็นปื้นขึ้นมา
“ไม่เป็นไรครับ”
“ธีร์” ถึงคุณเบลล์บอกไม่เป็นไร แต่ต้นเหตุก็ใช่ว่าจะต้องลอยนวล “ธีร์ดีดยางใส่คุณเบลล์ทำไมครับ”
“หลุดมือ” ตอบแบบไม่ใส่พร้อมขยับออกมาจากหลังโต๊ะ “ไปกัน”
“ไม่ครับ” ผมปฏิเสธ คนชวนหน้านิ่วฉับพลัน “ขอโทษคุณเบลล์ก่อน” ถึงธีร์จะมีอำนาจเป็นลูกเจ้านายคุณเบลล์ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเล่นแรงแบบนั้นได้ซะหน่อย “ถ้าเมื่อกี้เข้าตาคุณเบลล์ตาบอดนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับคุณอิน”
“เป็นครับ” ผมบอกกับคุณเบลล์และหันมองเด็กดื้อ เขามองผมกลับครู่หนึ่งก็เคลื่อนไปที่หน้าคุณเบลล์
“ได้”
“ดีครับ” ผมคลี่ยิ้มให้เมื่อเขาไม่ได้ดื้อรั้น
“รอบบ้าน 30รอบ”
“อะไร---“
“ขอโทษ” ยังไม่เข้าใจที่พูด ธีร์ก็เข้ามาเอ่ยขอโทษไวๆแล้วคล้องแขนผมออกจากตรงนั้นโดยในมือเขาถือจานไข่เจียวออกมาด้วยแล้ว แบบไม่รอคุณเบลล์เลยสักนิด
“คุณหนู! ผมเลิกประชุมดึกนะครับ!”
-------------------------------------------------------------
ขอบคุณมากๆๆเลยครับ ขอบคุณมากจริงๆ พอเห็นว่าเข้าท็อป 10 ดีใจมากๆเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ
ดีใจจนตอนแรกคิดว่าลงประมาณ 2 ทุ่ม ตัดสินใจลงเลยดีกว่าครับ ถือเป็นตอบแทนทุกคน ฮืออออ
คุณเบลล์เห็นอะไรนิดๆหน่อยๆเองครับ เป็นไงบ้าง เซอร์ไพรส์ไหมครับ5555
หวังว่าจะชอบตอนนี้กันนะครับ
ไว้เจอกันตอนที่ 10 นะครับ
แล้วก็...
ฝากทุกคนติดตามรอเรื่องของอิงค์กันด้วยนะค้าบบบ
สวัสดีครับ
#ธีร์อย่าดื้อ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุณเบลล์หาเรื่องให้ตัวเองแท้ ๆ