ตอนที่ 11 : TIN : 10/2 100%
TIN 10/2
นอนห้องธีร์ PART 2
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณธีร์ คุณอิน” ผมเอ่ยทักสองคนที่เดินลงมาพร้อมกัน คนหนึ่งอยู่ในชุดพร้อมไปเรียน อีกคนก็สวมชุดศึกษาที่พึ่งซักเสร็จเมื่อตอน 4.00 นาฬิกา โดยฝีมือของป้ากลอน แม่บ้านประจำบ้านหลังนี้
“ครับคุณเบลล์” คนตัวเตี้ยกว่าบอกด้วยรอยยิ้ม ผิดกับลูกท่านประธานที่ได้แต่ปรายตามองเหมือนไม่สบอารมณ์มาให้
“เชิญที่โต๊ะอาหารเลยครับ คุณธันกำลังทำอาหารอยู่เลยครับ” คุณอินเลิกคิ้วถามแต่ยังติดยิ้มอยู่เล็กน้อย ส่วนคุณธีร์ทำหน้าฉงนออกมาอย่างปิดไม่มิด แววตาเขาวูบไหวชัดเจนจนมีมือขาวเรียวบีบที่ข้อมือใหญ่เบาๆ เขาก็กลับมานิ่งเหมือนอย่างปกติ
คุณอินเหมือนพี่เลี้ยงที่เข้าใจเด็กทุกประเภท แม้แต่เด็กอย่างคุณธีร์
เด็กที่ปิดกั้น... แม้กระทั่งพ่อของเขาเอง
“เชิญครับ” ผมเร่งเมื่อเห็นทั้งคู่ยืนบีบมือกันนานพอสมควร เราสามคนเดินตรงที่เข้าห้องอาหาร มีโต๊ะสี่เหลี่ยมที่ถูกเปลี่ยนมาจากโต๊ะตัวยาวโดยคำสั่งของคุณธัน เพราะอยากให้บรรยากาศอบอุ่นกว่าเดิม “น่าทานนะครับ” ผมเอ่ยชมยิ้มๆ ทำเอาคนทำหันมาฉีกยิ้มกว้าง
“นั่นสิครับ อาธันทำเก่งกว่าพ่อผมอีกนะครับ” คุณอินพูด
“โห อาต้องไลน์ไปอวดมันซะแล้ว” เขาพูดขำๆ สายตาย้ายมาจับจ้องคนที่นั่งตรงข้ามแทน ใบหน้าคุณธันสะท้อนความรู้สึกคาดหวังออกมา อันที่จริงมันตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่เขาเลิกประชุมแล้ว
‘ฉันว่าธีร์ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น’
‘ครับ?’ ผมหันถามเจ้านายที่จู่ๆก็พูดขึ้นระหว่างเดินไปที่รถ ในเวลา 22.30 น. หลังจากการกลับไปทานข้าวบ้านและเข้าประชุมกับลูกค้าจากทางตะวันตกเมื่อสักครู่ ซึ่งผมนั้นรีบมากๆจนแทบจะไม่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ ส่วนสาเหตุที่ต้องรีบก็เพราะคำสั่งเอาแต่ใจของคุณหนูเมื่อตอนเย็นนั่นแหละ
‘ฉันบอกว่าธีร์ไม่ใจร้าย’
‘…’
‘ถ้าธีร์ใจร้ายจริง คงไม่ยอมทำเผื่อฉัน’ ผมพยักหน้าตามรอยยิ้มของชายแก่กว่าประมาณ 15 ปี ใบหน้าเขาตอนนี้กำลังคล้ายจะมีความสุขแต่ก็ไม่สุด ผมรู้สาเหตุดีเลยหันไปคุยกับเขาอย่างจริงจัง
‘ก็จริงครับ’ คนฟังยิ้มกว้างกว่าเดิม ‘แค่ว่าคุณธีร์ยังไม่แน่ใจกับคุณธัน’
‘ยังไง’
‘ผมรู้สึกว่าลึกๆแล้วคุณธีร์ก็ดีใจที่คุณธันพยายามมีเวลาให้เขาเหมือนกับสมัยก่อนหน้านู้น แต่ใครจะไปแน่ใจได้ละครับว่าคุณธันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป เพราะในช่วงที่เขากำลังโตเป็นวัยรุ่น คุณกลับไม่มีเวลาให้เขาเลย’
‘เบลล์.. ฉันรู้’ เจ้านายในภาพลักษณ์ที่ต่างไปกับเวลางานเอ่ยขึ้นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าเป็นตอนแรกๆเลยที่ผมพูดเรื่องนี้คงโดนเอ็ดไปแล้ว แต่พอได้คุยเรื่องนี้กับคุณธันบ่อยเข้า จนเขามั่นใจว่าผมหวังดีกับคุณหนูจริงๆ ผมก็กลายเป็นที่ปรึกษาให้เขาไปแล้ว ‘แต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะมีเวลาให้เขา ฉันจะไม่ปล่อยให้มันแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว’
‘ดีครับ ผมว่าช่วงนี้แหละครับที่คุณธันควรทำคะแนนมากที่สุด’
‘ทำไม’
‘ไม่รู้สิครับ ผมแค่รู้สึกว่าช่วงนี้คุณธีร์เปิดตัวเองขึ้น’ ผมบอกกับคนตัวสูงใบหน้าเหมือนกับที่คนเอ่ยถึงแทบทุกส่วน ขนาดเวลางงก็ยังเหมือนกันอยู่เลย ต่างกันตรงที่คุณธันไม่ได้เอียงหัวแบบคุณธีร์ตอนทำกับคุณอิน ‘ไม่รู้ว่าเปิดให้แค่คนเดียวไหม แต่ก็ควรอาศัยช่วงนี้แหละครับ’
‘แค่คนเดียว..?’
‘ครับ’
‘นายหมายถึง..อิน?’
‘ครับ’ ผมขานรับอย่างมั่นใจ มั่นใจยิ่งกว่าตอนเอาแกล้งจับแก้มคุณอินแล้วจะโดนลงโทษซะอีก ผมรู้สึกมาตั้งแต่วันที่คุณเขาทานข้าวด้วยกันแล้ว ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองคงรู้สึกไปเอง คุณธีร์คงไม่มีรู้สึกอะไรกับคุณอินทั้งๆที่เจอกันแค่สามชั่วโมงนั่นหรอก
แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมก็สัมผัสได้ว่าคุณอินมีบทบาทในชีวิตของคุณหนูมากขึ้น มากจนเขาบอกผมว่า โดนบังคับจะให้เป็นดรัมเมเยอร์ และจะไม่ยอมเป็นถ้าไม่ได้คุณอินมาสอนให้
ผมก็พอจะเข้าใจทุกอย่าง
ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นคุณอิน
แต่ถ้าคุณธีร์เลือกจะสบายใจกับคุณเขา ผมก็พร้อมสนับสนุนทุกทาง
‘ฉันคิดว่า...’ คุณพ่อวัยกลางคนทำหน้าไม่เชื่อ อึกอักเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง จนผมแอบคิดในแง่ไม่ดีไปแล้ว จึงชิงพูดดักเขาไว้
‘คุณธันจะไม่ยอมเหรอครับ’
‘ปะ.เปล่า’ เขาตอบเสียงเบา ทำเหมือนจะหันหน้าหนี ผมเลยขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิม ‘ฉันแค่คิดว่า คงไม่กล้าสู่ขอกับไอ้อาร์ต’
‘อย่าพึ่งคิดถึงจุดนั้นเลยครับ’ ผมบอกขำๆ ถึงมันจะมีโอกาสเกิดขึ้นก็เถอะ แต่โฟกัสที่ปัจจุบันก่อน ‘คุณธันคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้คุณธีร์เปิดใจให้คุณธันอีกคนก่อนดีกว่าครับ’
‘ทำยังไงดีละ’ คุณธันถาม ‘พึ่งอินดีไหม’
‘แล้วแต่ครับ’ ตอบด้วยรอยยิ้ม ผมรู้สึกชอบทุกครั้งเวลาเขาเครียดเรื่องคุณหนู อาจจะดูร้ายไปนิด แต่ผมชอบจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าคุณพ่อคนนี้กำลังพยายามเพื่อเอาลูกชายที่น่ารักของเขากลับมา
‘งั้นพรุ่งนี้ฉันจะทำอาหารเช้า ถ้าอินอยู่ ยังไงก็คงยอม’
‘ดีครับ เดี๋ยวผมปลุก’ พูดไปแบบมั่นใจนักหรอก ปลุกคุณธันก็คงจะต้องเช้ามากๆ แต่ผมน่ะจะลุกไหวหรือเปล่า 30 รอบกับบ้านหลังใหญ่ปานสนามบอลมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะครับ
‘รีบกลับดีกว่า ต้องรีบลิสต์ของโปรดธีร์’
‘โอเคครับ’ ผมก็ต้องรีบกลับไปวิ่งเหมือนกัน ชีวิตเบลล์ช่างแสนเศร้า
“เป็นไงธีร์ อร่อยไหม” คุณธันถามขึ้น สีหน้าเปื้อนยิ้มโดยแววตาคาดหวังอย่างมาก คนถูกถามเหลือบมองไปทั่วโต๊ะ หยุดสบตากับคุณอินที่มองเขาอยู่แล้วครู่หนึ่ง จึงหันกลับมาทางคนทำ ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะกดลงเบาๆ เรียกรอยยิ้มกว้างจากคุณพ่อ ผมแอบแตะไปบนหัวเข่าที่ใต้โต๊ะ เพราะตอนนี้เขายิ้มจนจะดูตลกแล้ว
“คุณอาต้องทำบ่อยๆแล้วครับ” คุณอินบอกเสริม ซึ่งนั่นถูกใจเจ้าของชื่ออย่างมาก
“อาจะพยายามว่างมาทำให้ธีร์ทุกวันนะ”
“คุณอินเขามีเรียนเช้าเหรอครับ” เอ่ยถามเมื่อรถยนต์ส่วนตัวของแขกคนสำคัญเคลื่อนนำไปข้างหน้า ก่อนจะหักเลี้ยวไปอีกทาง แต่ทว่าภายในรถกลับมีเสียงตอบคำถาม จึงอาศัยกระจกมองหลังให้สะท้อนว่าอีกคนกำลังทำอะไร ก็พบว่าคุณธีร์นั่งเอี้ยวตัวมองไปทางข้างหลัง คงไม่ต้องบอกว่าเป้าสายจะเป็นอะไรนอกจากท้ายรถคุณอินที่เป็นคันจิ๋วลิบตานั่นแหละ “คุณธีร์ครับ” เรียกย้ำ เขาหันมองด้วยสีหน้ายุ่งๆ เหมือนผมขัดจังหวะอะไรบางอย่าง
จังหวะมองรถเพลินๆงี้หรือเปล่า
“อะไร”
“ผมถามว่าวันนี้คุณอินเรียนเช้าเหรอครับ”
“เปล่า” ตอบพร้อมขยับนั่งด้วยท่าทางธรรมดาหน้าตรง “กิจกรรม”
“อ่อ” ผมขานรับแบบไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จะถามต่อก็คงไม่ใช่ธุระ พาลจะทำให้ร่างสูงเข้าใจผิดแล้วสั่งลงโทษผมอีก เพราะฉะนั้นในรถก็เลยเงียบลงชนิดที่ว่าได้ยินเสียงหาวจากคนข้างหลังชัดเจนมากๆ “ง่วงเหรอครับ”
“อืม” เลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่ออีกคนขานรับ ปกติคุณหนูนอนดึกแค่ไหนใช่ว่าผมไม่รู้ แต่ปกติไม่เคยจะทำอาการง่วง หรือหาวตาปรือคล้ายจะปิดลงทันทีเมื่อเจ้าของร่างทนไม่ไหว คุณข้างหลังก็จับสังเกตได้ว่าผมจะถามต่อ เขาเลยชิงตอบมาก่อน “นอนไม่หลับ”
“เอ้า.. ทำไมเป็นแบบนั้นละครับ” คิดว่าได้นอนกับคุณอินจะหลับสบายซะอีก
“อิน”
“คุณอิน?” ผมทวน “เขาดิ้นเหรอครับ” เอ่ยแซวออกไปด้วยใจที่ตลกขบขัน แต่เหมือนจะทำให้คนฟังไม่พอใจถึงได้หรี่ตามองมานิ่งๆ
“เปล่า…”
“แล้วคุณอินทำอะไรครับ” คุณธีร์เงียบไปเหมือนกำลังเหตุการณ์เกี่ยวกับคุณอินให้ผมฟัง แต่ก็นานเกินไป ผมจึงละสายตาจากถนนขึ้นมองกระจกที่สะท้อนใบหน้าหล่อของเด็กมัธยมข้างหลังอยู่
!!!
โชคดีที่เป็นช่วงเวลาที่ติดไฟแดงพอดี มิฉะนั้นผมคงเหยียบเบรกจนอีกคนตกใจและซ่อนรอยยิ้มมุมปากนั่นไปแล้ว
ใช่ครับ
ยิ้ม
คุณธีร์กำลังยิ้ม
คนอื่นอาจจะมองว่านั่นเป็นเพียงอาการกล้ามเนื้อปากกระตุกแค่นั้น แต่มันไม่ใช่ ผมสัมผัสได้ว่านั่นคือรอยยิ้มจริงๆ เพราะมันไม่เพียงแค่มุมปากบางที่ขยับขึ้น นัยน์ตาคู่คมของคุณเขาดูอ่อนลงและทอประกายความสุขออกมาให้เห็น
ถ้าบุคคลต้นเหตุของร่องรอยความสุขนั่นได้เห็นจะรู้สึกดีขนาดไหนกัน
ขนาดผมที่คงไม่มีความเกี่ยวข้องในความคิดของเขายังรู้สึกปิติหัวใจขนาดนี้
ขอบคุณนะครับคุณอิน
“มองอะไร” เสียงถามข้างหลังทำให้ผมได้สติ ยมใช้หลังมือปาดหยดน้ำที่มันคลอเตรียมจะไหลอยู่แล้วถ้ายังไม่มีอะไรมาขัดซะก่อน
“เมื่อกี้...คุณธีร์ยิ้ม” ก้อนสะอื้นอัดอยู่ที่คอจนกลายพูดมันยากทำลากยิ่งกว่าตอนถ่างตาประชุมกับคุณธันด้วยซ้ำ ผมรู้สึกดีใจมากจริงๆที่ได้เห็นรอยยิ้มจากใบหน้าคุณธีร์เป็นครั้งแรก ตั้งแต่พ่อฝากผมให้ทำงานกับคุณธันตั้งแต่อายุ 18 ในฐานะเด็กส่งเอกสาร จนตอนนี้ก็ 7 ปีแล้ว ผมพึ่งได้เห็นสีหน้ามีความสุขจากคุณคนนี้ แม้จะฟังจากผู้เป็นพ่อมาบ่อยว่าเมื่อก่อนลูกชายของเขาน่าเอ็นดูแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยคาดหวังว่าได้เห็นมันด้วยตาตัวเพราะพ่อแท้ยังถูกปิดกั้นเอาไว้เลย
“เหรอ” คุณธีร์คิ้วขมวดนิดหน่อย แต่ครู่เดียวก็คลายออกไป “อินอยากให้ยิ้ม”
“เมื่อกี้คุณธีร์เลยยิ้ม”
“ไม่รู้”
“...” ผมเงียบรอให้อีกคนพูดต่อ
“แค่นึกถึงอิน”
“ดีจังเลยนะครับ”
“อืม ดี”
“คุณธีร์ยังไม่ได้เล่าเลยครับ” เอ่ยต่อเพราะถ้าไม่พูดอะไรผมคงได้แต่ขับรถไปมองกระจกหลังไป แล้วก็นั่งหน้าแป้นแล้นอยู่คนเดียวแหงๆ “ผมอยากรู้แล้ว”
“อินกอด” คำพูดสั้นๆแต่ชัดเจนว่าใครทำอะไร แต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำ
“กอดคุณธีร์เหรอครับ”
“ใช่”
“คุณอินติดตุ๊กตาเหรอครับ” ผมแกล้งถามอีก ก็โดนหรี่ตามองอีก แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ผมกำลังมีความสุขกับการพูดถึงเรื่องนี้ มันยิ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวคุณธีร์อบอุ่นขึ้นจากเดิมที่นิ่งและเย็นชาราวกับไร้อารมณ์
“หมอนข้าง”
“อ่อ.. คุณธีร์ก็เลยเสนอตัวเป็นหมอนข้างให้เหรอครับ”
“ใช่” คุณเขาขานรับง่ายๆแบบไม่มีเขินอายใดๆกับสิ่งที่ตัวเองทำไป ถ้าเป็นแบบในละครที่พวกป้าๆในบ้านชอบดู คนที่เล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังก็เขินม้วนไปแล้ว “พูดเล่น แต่อินทำจริง”
“แล้ว..ทำไมนอนไม่หลับละครับ” แบบนั้นยิ่งน่าจะฝันดีนี่หน่า ผมแค่ไม่ได้พูดออกไป เดี๋ยวจะโดนคาดโทษว่าแซว แล้วจะไม่ได้ฟังต่อ
“ถามเยอะ”
“ก็ผมอยากรู้นี่ครับ”
“ขี้เกียจพูด”
“ใช่สิครับ” แกล้งทำเสียงงอนแสดงอาการตัดพ้อปลอมๆออกไป “ผมไม่ใช่คุณอินนี่ครับ”
“ใช่”
“ยอมก็ได้” แอบเสียดายที่ต้องเลิกคุยกันไปเพราะคุณธีร์พูดตัด ซ้ำยังหลับตาลงไปแล้ว แต่แค่นี้ผมก็พอใจจะแย่ ได้เห็นรอยยิ้มของเขาเชียวนะ อยากจะหาคุณธันที่บริษัทแย่แล้ว
“เย็นนี้กลับไวใช่ไหมครับ” จอดเทียบรถตรงฟุตบาทแถวป้ายชื่อโรงเรียน อันที่จริงมันสามารถขับเข้าไปส่งยันข้างในได้ แต่จะเคลื่อนตัวอยากมากๆเนื่องจากบรรดาเด็กนักเรียนเดินกันให้เต็มถนนไปหมด คุณธีร์เลยเสนอให้ส่งแค่ข้างหน้า โดยที่ผมก็อยากยอมนักหรอก ใครมันจะอยากให้คุณหนูของตัวเองต้องเหนื่อยกันละครับ
“ไม่ใช่”
“วันนี้คุณอินมีเรียนเลิกเย็นนี่ครับ” ผมจำได้ที่คุณอินเคยพูดไว้ว่ามีหนึ่งวันที่มีเรียนจนถึงห้าโมงเย็น ซึ่งก็คือวันนี้
“ประชุมสี”
“คุณธีร์จะเข้าประชุมเหรอครับ”
“ใช่”
“เดี๋ยวโดนบังคับอีกหรอกครับ” ผมชิงบอกไปเพราะไม่รู้ว่าจะโชคดีเหมือนกับการเป็นดรัมเมเยอร์สีฟ้าไหม ที่คุณอินสามารถมาสอนให้ได้
“ไม่เป็นไร” พูดทิ้งท้ายและลงจากรถไป ยังไม่ทันเข้าประตูก็มีร่างสูงไล่กันอีกสองคนเดินเข้าขนาบข้าง คุณติณ คุณตุลย์ ชวนคุณหนูพูดคุยตลอดทางจนแผ่นหลังทั้งสามคนหายไปในกลุ่มเด็กมัธยม ผมถึงได้ละความสนใจออกมาและเหยียบคันเร่งออกมา มุ่งตรงไปยังบริษัทชื่อดังที่ตัวผมนั้นทำงานอยู่
“นายพูดจริงเหรอเบลล์” บุคคลหลังโต๊ะท่านประธานพูดพร้อมกับลุกพรวดพราดขึ้นมา หลังจากที่เล่าเรื่องราวเมื่อ 30 นาทีก่อนหน้าให้ฟัง สีหน้าตื่นเต้นของเขาทำเอาผมหลุดยิ้มออกมาด้วย “ทีหลังฉันควรไปส่งธีร์กับนาย ฉันต้องเลื่อนเวลาเข้างานเป็น 10 โมง จะได้มีเวลาไปส่งเขาทุกวันซะแล้ว”
“เกินไปครับคุณธัน” ผมบอกเดินต้อนร่างสูงให้หย่อนตัวลงนั่งลงไปบนโซฟามุมห้อง “ถ้าทำแบบนั้นก็ขาดทุนกันพอดี”
“ตอนนี้ฉันยอมทุกอย่าง”
“...” ผมเงียบแต่ก็ยืนส่งรอยยิ้มให้กับคนนั่งอยู่ตลอด
“ขอแค่ให้ธีร์เปิดใจ รักฉันเหมือนเดิมก็พอ”
“ครับ อีกไม่นานหรอกครับ”
“ให้ความหวังกันหรือเปล่า” ประธานบริษัทใหญ่พูดขึ้นหน้ายุ่งๆ “แบบว่าเห็นฉันดีใจเลยพูดให้รู้สึกดี”
“ผมจะทำแบบนั้นทำไมครับ”
“ไม่รู้ แค่กังวล”
“ผมพูดจริงๆครับ แค่คุณธันดีแบบนี้ไปตลอด มีเวลาให้คุณหนูสม่ำเสมอ แค่นี้คุณเขาก็รู้สึกได้พ่อคนเดิมกลับมาแล้วครับ”
“พูดดีตลอดเลยนะ” เจ้านายเปรยขึ้นยิ้มๆ “สมแล้วที่เป็นเลขาส่วนตัวของฉัน”
“ต้องขึ้นเงินเดือนแล้วครับ”
“อยากได้เท่าไรก็เซ็นซ์เองเลย”
“เกินไปครับคุณธัน” เอ่ยขำๆ ลอบมองสีหน้าสบายใจของคนแก่กว่าไปด้วย ผมสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณธันที่กำลังจะดีขึ้นในไม่ช้า เมฆดำที่ก่อตัวมานานเหมือนกำลังจะหายไปจากจิตใจของลูกชาย เมื่อมีใครหนึ่งสามารถฝ่ามันเข้าไปในหัวใจที่ปิดมาตลอดได้ ความอ่อนโยนของคุณคนนั้นก็คงทำให้คุณธีร์แปรเปลี่ยนไปจากเดิม คุณพ่อยังหนุ่มคนนี้ก็จะได้มีความสุขแบบไม่รู้สึกผิดใจอกเสียที
------------------------------------
เป็นยังไงกับบ้างครับกับการบรรยายของคุณเบลล์
รู้สึกเลยว่าตอนนี้ได้พิมพ์บทพูดเยอะมาก เพราะปกติมีแค่จากพี่อิน แฮะๆ5555
หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ
ในส่วนของคุณพ่อธันกับคุณเบลล์ขอละให้ทุกคนคิดต่อกันเองนะครับ อาจจะมีหรือไม่มีอะไรก็ได้นึครับ5555
สองแอบเห็นคนถามว่าเป็นกะรัตไหม ตอบเลยว่าเป็นครับ มินวอนก็ชิปนะครับ เพราะว่าพี่วอนอูน่ารักอย่างกับแมวเลยจริงๆ5555
ขอบคุณ #ธีร์อย่าดื้อ นะครับ คอมเม้น กำลังใจ ทุกๆอย่างเลย มีความสุขมากๆ มีกำลังใจเต็มร้อยเลยครับผม
ไว้เจอกันตอนหน้านะครับบ
สวัสดีครับ :)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอมากไปไหมนะ อยากขอให้ในอนาคตข้างหน้าไม่รุ้ว่ากี่ปี จะได้เห็นตัวละครเล่านี้ทางทีวีบ้าง
แต่จะขอในทุกๆวันนะ💚
คุณเบลล์ทำตัวเป็นสปายเหรอ
งง เพราะตอนเริ่มบทไม่ได้บอกว่าเป็นบทของใคร เลยต้องอ่านทวนซ้ำ