ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วันที่ชีวิตสิ้นสุด

    ลำดับตอนที่ #5 : ส่งบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 50


    แสงแดดยามบ่ายส่องผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามายังใบหน้าของผมที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ชั่วโมงชมรมของโรงเรียนนั้นเริ่มตั้งแต่เที่ยงจนเลิกเรียน ซึ่งผมเองที่ไม่มีชมรมจะอยู่ก็ได้แต่นั่งคิดเรื่องอะไรไปเรื่อยๆเปื่อยๆรอเวลาเพียงสัญญาณอ๊อดเพื่อแสดงถึงการเลิกเรียน แต่จะว่าไปความจริงผมจะออกไปตอนนี้เลยก็ยังได้ แต่ไม่รู้เป็นอะไร

    ผมอยากรออยู่ตรงนี้รอ เอริธ กลับเข้ามาในห้องเพื่อเอากระเป๋าแล้วผมจะได้ถามเธอไปว่า เธอเลือกเข้าชมรมอะไร ด้วยเหตุนี้ผมจึงปล่อยให้เวลามันเดินไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็เป็นเวลา 5 โมงเย็น ท้องฟ้าที่เคยสดใสได้กลายเป็นสีส้มอมแดง นกนานาชนิดต่างบินกลับรังของมัน ดวงอาทิตย์กลมโตสีดำค่อยๆลาลับขอบฟ้า เช่นเดียวกับผมที่ลุกออกจากเก้าอี้พร้อมกับถือกระเป๋าเพื่อเตรียมจะกลับบ้านหลังจากที่ความอดทนในการรอ เอริธ ของผมหมดลง ผมเดินด้วยอาการเซ็งสุดขีดก่อนที่จะเลื่อนประตูออก



    " อ้าว ลี ยังไม่กลับอีกเหรอ " เสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมามอง



    ใช่จริงๆด้วย เสียงๆนี้เนเสียงของ เอริธ ซึ่งตอนนี้เธอยืนอยู่หน้าประตู ผมมองเธอสักพักก่อนจะเอียงตัวแล้วเดินผ่านตัวไป



    " เดี๋ยวสิ ลี รอเราแป๊ปหนึ่ง " เอริธพูดพร้อมกับเอามือคว้าแขนของผมเอาไว้ในทันที



    " มีอะไรเหรอ เอริธ " ผมตอบพร้อมกับหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเองลง



    " ลี เดี๋ยวเราเดินกลับด้วย รอแป๊ปหนึ่งได้ไหม " เอริธถามผมพร้อมกับวิ่งไปยังเก้าอี้ของเธอแล้วเก็บของอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่คิดจะรอคำตอบของผมเลย



    ทันทีที่เธอเก็บของเสร็จเธอก็วิ่งตรงเข้าหาผมพร้อมกับดึงแขนของผมแล้วออกวิ่งไปในทันที จนถึงตอนนี้ผมก็ยังสงสัยในตัวของผมเองอยู่ว่าทำไมร่างกายผมถึงอ่อนแอแทบจะทุกครั้งเวลาที่อยู่ใกล้กันเอริธ ผมยอมให้เธอดึงไปข้างหน้าได้อย่างสบายๆ โดยที่ไร้การขัดขืน เอริธลากร่างของผมจนมาถึงหน้าประตูโรงเรียนก่อนที่จะปล่อยมือเธอที่กำแขนของผมไว้จนแน่นออก



    " ไม่มีคนมารับหรือไง " ผมถามเธอในทันทีเมื่อเธอปล่อยแขนของผม



    " วันนี้ เราอยากเดินกลับนะ เพิ่งมาเมืองนี้ใหม่ๆอยากดู วิว สวยๆแถวนี้หน่อยนะ " เอริธพูดแล้วยิ้มให้กับผมอย่างมีเล่ห์นัย



    " จะให้ฉันพาเธอไปชมเมืองนี้ใช่มะ " ผมพูดเหมือนกับรู้จุดประสงค์ของเธอ



    " นะๆ ลี นะ เราขอร้องละ พาเราไปหน่อยนะ " เอริธรีบวิ่งเข้ามาขอร้องผมในทันทีที่เธอผมมีทีท่าว่าจะปฏิเสธคำขอร้องของเธอ


    แต่เรื่องแบบนี้ผมคงจะทำตามคำขอร้องของเธอไม่ได้หรอก แทบทั่วจะทั้งเมืองเหล่าอันธพาลทั้งหลายแทบจะรู้จักผม มันจะมีพวกไม่รู้จักแค่พวกแก็งใหม่ๆที่เพิ่งตั้งขึ้นมา หรือ ไม่ก็พวกที่คิดว่าการทำสิ่งแบบนี้เป็นเรื่องที่เท่ห์และท้าทายความสามารถของพวกมันเท่านั้น ดังนั้นถ้าพวกแก็งเหล่านี้เห็นผมไปกับ เอริธ ความปลอดภัยของเธอก็แทบจะหายไปเกือบ 90 เปอเซ็นต์เลยทีเดียว มีบางคนเคยบอกผมเอาไว้ว่างถ้าใจรักที่จะเป็นนักเลงจริงๆ มันต้องไม่ทำผู้หญิง เด็ก ถ้ามีเรื่องอะไรก็ต้องไปพูดกันตรงๆไม่ใช่ทำเจ้าตัวไม่ได้แล้วไปลอบทำร้ายบุคลที่เกี่ยวข้องแต่เดี๋ยวนี้มันหายากเหลือเกิน ไม่สิ ไม่ใช่หายากหรอกต้องพูดว่ามันแทบจะไม่มีเลยต่างหาก แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคนนี้แหละกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า หัวหน้าแก็งคนเก่าของผมนี่แหละที่เป็นคนแบบนั้น



    " คงพาเธอไปไม่ได้หรอก เอริธ " ผมตอบหลังจากที่ผมใช้ความคิดอยู่สักพัก



    " ทำไมละ ลี " เอริธพูดพร้อมกับมองผมด้วยสายตาที่อ้อนวอน



    " เธอเองก็รู้จากคนอื่นแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันเป็นคนแบบไหน "



    " แล้วมันเกี่ยวกันยังไงละ "



    " ก็พวกที่ไม่ชอบหน้าฉันมันมีอยู่ ทั่วเมืองไปหมด แล้วถ้าไปกับฉันเธออาจจะพลอยโดนพวกนั้นทำร้ายไปด้วยไงละ " ผมตอบด้วยเหตุผลที่ผมคิดเอาไว้ในสมองเป็นที่เรียบร้อย



    " แต่... " เอริธดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง



    ใบหน้าที่ร่างเริงมาตลอดทั้งวันศร้าลงในทันที เธอก้มหน้าลงซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด เธอผงกหัวดูเหมือนเป็นการตอบรับกับคำพูดของผมก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม



    " งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากลับบ้านเลยละกัน " เอริธยิ้มให้ผมซึ่งผมเองก็พอที่จะมองออกว่ามันเป็นการฝืนยิ้มออกมา



    เธอเดินทำหน้าจ๋อยออกไปทางประตูหน้าของโรงเรียน ผมเองก็พอที่จะเข้าใจความรู้สึกเธอนะแต่ทำไงได้ละก็คนอย่างผมมันเป็นตัวอันตรายนี่ แต่ทว่าดูเหมือนว่าสมองผมจะคิดอะไรบางอย่างได้



    " เอริธ " ผมพูดแล้ววิ่งตามหลังเธอไป



    " มีอะไรเหรอ ลี " เธอหันมาถามผม



    " ถ้าจะให้ไปส่งแค่บ้านเธอนะพอได้นะ " ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้กับเธอ



    " จริงเหรอ " น้ำเสียงของเธอดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันทีเมื่อได้ยินประโยคที่หลุดออกไปจากปากของผม



    ผมเดินนำเธอไปยังร้านอาหารที่ผมนั่งประจำในทันที เมื่อเจ้าของร้านเห็นผมเขาก็ทักทายกันตามปกติแต่เขาเองก็รู้สึกผิดสังเกตุที่เห็นมีผู้หญิงสวยๆน่ารักๆเดินตามผมมา ผมเองก็สังเกตได้ถึงอาการผิดปกติของเจ้าของร้านได้เช่นกัน แต่ในใจผมก็ขำเขานะ เพราะว่า เจ้าของร้านอาหารมีอายุ 30 กว่าๆแถมมีภรรยากับลูกๆแล้ว แต่แกก็ยังไม่เลิกที่จะมองสาวๆของโรงเรียนผมอยู่ดี เคยมีครั้งหนึ่งผมถามเขาว่าทำไมถึงมาเปิดร้านอาหารแถวนี้ทั้งๆที่ส่วนใหญ่นักเรียนจะเตรียมข้าวกลางวันมากินเอง เขาก็ตอบผมกลับมาในทันทีเลยว่า ก็มีไว้เหล่สาวๆโรงเรียนเอ็งไงละ



    " เอริธ หิวไหม " ผมหันไปถามเธอที่กำลังเดินตามหลังผมมา



    " หิวสิ ก็วันนี้วิ่งตามหา ลี จนลืมกินข้าวเลย " เอริธตอบ



    " งั้นก็กินร้านลุงนี่สิ อร่อยอย่าบอกใครเชียวนะ " ผมพูดแล้วยิ้มให้กับลุง



    " ลุงเมนูเดิม 2 จาน "



    " ได้เลย เห็นว่าวันนี้มีสาวสวยมากินด้วยนะเนี่ย จะทำให้เต็มที่เลย " ลุงเจ้าของร้านอาหารพูดพร้อมกับเดินไปหลังครัว



    " อ่าวลุง แปลว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้ตั้งใจทำให้ผมกินเหรอ " ผมที่เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารพูดด้วยเสียงกวนๆ



    แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำให้เอริธหัวเราะออกมา โต๊ะที่ผมนั่งมันเป็นโต๊ะประจำของผมเองซึ่งโต๊ะนั้นทำจากไม้และถูกปูไว้ด้วยผ้าใยสีเขียวอ่อน เก้าอี้เป็นเก้าอีที่มีพนักผิงหลังและทำจากวัสดุเช่นเดียวกับโต๊ะ บริเวณกลางโต๊ะมีเมนูที่ทำจากระดาษแข็งเสียบเอาไว้ซึ่งตอนนี้ผมแทบจะท่องได้แล้วละ
    เนื่องจากนี่ก็เป็นเวลาเย็นทำให้ไม่ค่อยมีลูกค้ามากินมาที่ควรจึงทำให้ลุงสามารถที่จะทำอาหารได้ด้วยเวลาไม่นานนัก สักพักลุงก็เดินออกมาพร้อมกับจานอาหารก่อนที่จะเอามาวางไว้ที่เบื้องหน้าของ ผม และ เอริธ



    " ลองกินดู เอริธ อาหารที่ฉันสั่งประจำ อร่อยสุดๆเลยละ " ผมพูดกับเอริธที่กำลังมองอาหารที่อยู่ตรงหน้า



    อาหารที่อยู่เบื้องหน้าของผมก็คือ ข้าวที่มีสีน้ำตาลเนื่องจากผัดกับกระเทียมและราดด้วยน้ำซอสสีน้ำตาลแดงๆซึ่งมาจาการเคี่ยวน้ำซุบด้วยเวลานาน และในข้าวมันมีเนื้อหมู และ ไก่ อีก  มันไม่แปลกเลยนะที่ผมสามารถรู้ได้ว่าข้าวพวกนี้มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง เพราะ ผมชอบตื้อลุงจนในที่สุดลุงก็ยอมบอกวิธีทำให้กับผม ลุงบอกผมว่านี่เป็นสูตรที่พอของลุงเคยทำให้ลุงกินมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เอริธค่อยๆตักมันเข้าปากแล้วเคี้ยวสักพักก่อนที่เธอจะกลืนลงไป



    " เป็นไงละ " ผมถามเมื่อเห็นเอริธกลืนมันลงไป



    " อร่อยดีแหะ " เอริธพูดแล้วมองหน้าผม



    " แน่นอนจ๊ะ สำหรับหนู ลุง ทำให้สุดฝีมืออยู่แล้ว " ลุงก้มหน้าลงมามองเอริธที่กำลังจ้องหน้าผมอยู่



    " ลุงไม่ต้องเลย ดูนู่นแฟนลุงจ้องอยู่นั่นอะ " ผมพูดพร้อมกับสะกิดให้ลุงดูแฟนลุงที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×