ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ขอโทษ
ผมเองรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียวเชียวแหละที่เธอกล้ามาสนิทกับผมถึงขนาดนี้ หรือว่าเธอนั้นยังไม่ได้เรื่องราวต่างๆของผมจากผู้คนในโรงเรียนนี้กันนะ แต่นี่ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้วเธอน่าจะได้รับรู้เรื่องราวของตัวผมได้ไม่ยากเนื่องจากหน้าตาระดับเธอน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของชายหนุ่มทั้งหลายในห้องซี่งพวกนั้นเองคงจะพูดถึงเรื่องราวในการต่อยตีต่างๆนานาของผมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่พิสูจน์ได้ดีอีกอย่างนั่นก็คือการที่เธอสามารถมาหาผมที่ดาดฟ้าได้ทั้งๆที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ถ้าไม่ใช่การเดาสุ่มเธอก็คงถามผู้คนรอบๆข้างของเธอมาอย่างเป็นที่แน่นอน
" ได้ฟังเรื่องของฉันมาบ้างหรือยัง " ผมพูดแล้วหันไปมองหน้าของเอริธ
เอริธดูมีอาการแปลกใจเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆผมก็ถามคำถามแบบนี้ออกไป ทำไงได้ละผมมีนิสัยเป็นคนตรงไปตรงมานี่
" ได้ฟังแล้ว ได้ฟังมาเยอะมากเลยละ " เอริธมองหน้าผมแล้วตอบด้วยแววตาที่ใสซื่อ
" เรื่องดี หรือ ไม่ดี ละ "
" ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องไม่ดีนะ "
" ได้ฟังแบบนั้นแล้วยังกล้ามายุ่งกับคนอย่างฉันอีกเหรอ " ผมพูดแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอามือปัดกางเกงขายาวของตนเอง
" เชื่อเพียงบางส่วนนะ ในสายตาเราตอนนี้เรายังไม่เห็นท่าทีที่เลวร้ายของ ลี เลยนะ " เอริธพูดแล้วยิ้มพร้อมกับมองหน้าของผม
ดูเหมือนว่าเอริธนั้นจะเป็นคนที่อารมณ์ดีมากๆคนหนึ่งเลยละ ตั้งแต่ที่ผมคุยกับเธอจนถึงเวลานี้ผมยังไม่เห็นสีหน้าที่แผงความเศร้าไว้เลย แต่ถึงแบบนั้นเถอะนิสัยของคนอย่างเธอมันดีเกินไปที่จะมายุ่งกับคนอย่างผม ถึงแม้เธอจะเชื่อในเรื่องราวบางส่วนที่คนอื่นต่างพูดถึงผมแต่เธอเองก็ยังไม่เคยสัมผัสเข้าไปในโลกที่แสนโหดร้ายของผมอยู่ดี
" ได้เวลาเรียนแล้วนะ จะโดดเรียนให้เรานั่งคนเดียวทั้งวันเลยหรือไง " เอริธพูดพร้อมกับยื่นหน้าของเธอเข้ามาใกล้กับใบหน้าของผมในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่
" เอ่อ... เราไปเข้าเรียนกันเถอะ " ผมอึกอักอยู่สักก่อนจะตอบเธอออกไป
" ต้องให้ได้แบบนั้นสิ " เอริธพูดพร้อมกับจับแขนของผมแล้วพาผมวิ่งลงจากดาดฟ้าไปยังห้องเรียนในทันที
ไม่น่าเชื่อเลยว่าผมจะเป็นฝ่ายชวนเอริธไปเข้าเรียน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมกันเนี่ย หน้าของผมแดงเป็นลูกตำลึงเลยทีเดียวเนื่องจากใบหน้าของเอริธที่แทบจะแนบสนิทกับผม มันน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมพูดอะไรไปแบบไม่คิดดูเหมือนการเดินไปยังห้องเรียนของผมมันจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจกับบุคลรอบๆเป็นอย่างมากเนื่องจาก มือของเอริธที่จับอยู่ที่ข้อมือของผม เสียงซุบซิบเกิดขึ้นตลอดทางผมเองนะเรื่องแบบนี้มันชินไปแล้วละแต่สำหรับเธอละมันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเจอมาก่อนก็ได้
" นี่เอริธ คือ ปล่อยมือเถอะ ฉันเดินเองเป็น " ผมพูดเพื่อให้เอริธหยุดการเดินของเธอลง
เธอค่อยๆหันมามองผมเหมือนกับเธอกำลังงงว่าผมพูดเรื่องอะไร ผมจึงส่งสายตาของผมไปยังแขนที่ถูกมือของเธอจับไว้ ซึ่งเป็นผลเธอมองตามสายตาของผมไปในทันทีเมื่อ
" ว๊าย ขอโทษนะ ลี " เธอพูดอย่างใจพร้อมกับปล่อยมือออกในทันที
ผมยิ้มให้เธอก่อนที่จะเดินแซงเอริธที่หน้าแดงเช่นเดียวกับผมในตอนแรก เธอค่อยเดินตามหลังผมด้วยท่าทางที่เขินอายเล็กน้อย ไม่นานนักเราทั้ง 2 ก็เดินมาจนถึงห้องเรียนของเราทั้งสองคน และมันก็เป็นเหมือนกับตอนเช้าทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปเสียงอึกทึกในห้องก็เงียบกริบลงในทันที
" ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า เอริธ จะไปตามคนแบบนั้นลงมาเรียนได้นะ " เสียงของการสนทนาของผู้หญิง 2 คนที่ยืนอยู่มุมห้องพูดพร้อมกับมองมาทางผม
" ไม่ต้องกลัวหรอกเอริธแค่ยังไม่มีเพื่อนเท่านั้น พอนานๆไปเดี๋ยวเธอก็เลิกยุ่งกับไอ้หมอนี่เองแหละ " คู่สนทนาของเธอตอบ
พวกเธอคงไม่คิดหรอกว่าหูของผมดีขนาดไหน เสียงมอเตอร์ไซค์นับสิบๆเร่งเครื่องพร้อมกันผมยังสามารถยืนคุยกับลูกน้องของผมได้อย่างสบายแล้วนับภาษาอะไรกับห้องที่เงียบกริบแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะผมก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายผู้หญิงอยู่แล้ว ผมเดินตรงไปยังโต๊ะเรียนของผมและสิ่งที่ผมเห็นก็คือ หนังสือวิชาสังคมเล่นหนาที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมหันไปมองเอริธที่เดินตามมาด้านหลังผม เธอหลับตาก่อนที่จะส่งยิ้มให้ผม พระเจ้าเธอช่างน่ารักอะไรเช่นนี้กันนะ แต่ถึงกระนั้นผมก็พยามทำทีท่าว่าไม่สนใจ
ผมหันกลับมาหยิบหนังสือสังคมแล้วสอดไว้ใต้ลิ้นชัก แต่เมื่อหนังสือสังคมถูกยกออกผมก็ได้พบกับกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งวางไว้ ซึ่งมันชวนให้ผมเกิดอาการสงสัยผมจึงหยิบมันขึ้นมาดู ในกระดาษสีขาวนั้นถูกว่าเป็นการ์ตูนโดยแบ่งเป็นช่องๆ
ช่องแรก เป็นรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งทำท่าเหมือนว่าเธอกำลังจะอธิบายอย่างให้กับอาจารย์ที่มีเขาเหมือนกับยักษ์ โดยที่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆเธอ
ช่องที่สอง เป็นรูปประตูของชั้นเรียนถูกปิดกระแทกอย่างแรง
ช่องที่สาม เป็นรูปเด็กสาวคนนั้นกำลังพยามเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ
ช่องที่สี่ เป็นรูปเด็กหญิงคนนั้นมองตรงออกมาเหมือนกับว่าเธอกำลังมองคนอ่านและดูเหมือนว่าในมือเธอจะกุมอะไรไว้บางอย่างดสงตาดูเศร้าและมีน้ำตาคลออยู่เล็กน้อย
ช่องที่ห้า เป็นรูปเธอก้มหัวแล้วยื่นกระดาษมาด้านหน้า
ช่องที่หก เป็นเนื้อความในกระดาษซึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า ลี เราขอโทษนะ อาจารย์เขาไม่ยอมฟังเรา เลยว่าหนังสือนั่นเป็นของ ลี ขอโทษจริงๆนะ และ บริเวณมุมกระดาเป็นรูปเด็กหญิงคนนั้นยืนเอามือขยี้ตาพร้อมกับร้องไห้ออกมา
ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้หลังจากที่ดูการ์ตูนในกระดาษแผ่นนั้นจบ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเอริธที่ตอนนี้เธอกำลังพยามหลบสายตาของผมอยู่ แต่ดูเหมือนว่าตอนที่ผมกำลังอ่านอยู่นั้นเธอจะมองผมตาไม่กระพริบเลยทีเดียวละผมเดินตรงเข้าไปหาเธอ
" เธอวาดเหรอ " ผมถาม
" ก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะ " เอริธหันมาตอบผม
" วาดสวยดีนะ ยังไงอาจารย์นั่นก็ไม่เคยฟังอะไรฉันอยู่แล้วไม่ต้องขอโทษหรอกนะ "
" แต่... " เอริธพยามพูด
" เอาน่าๆ เรื่องแบบนี้นะฉันชินซะแล้วละ " ผมพูดแล้วยิ้มให้กับเธอ
" คือภาพมันสวยดีนะ ขอฉันเก็บไว้ได้ไหม " ผมพูดแล้วพับกระดาษนั้นเป็นชิ้นเล็กๆ
" ได้สิๆๆ " เอริธพูดอย่างตื่นเต้น
ผมค่อยๆหยิบกระเป๋าตังค์หนังสีดำของผมขึ้นมาแล้วใส่กระดาษนั้นเข้าไปในช่องที่มีรูปของผม หลังจากที่ผมเก็บภาพวาดของเอริธเสร็จแล้วผมก็นั่งลงยังที่ประจำของผมพร้อมๆกับใช้ท่าเดิมนั่นก็คือ มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย ทั้งๆที่ชั่วโมงต่อไปคือ ชมรม แต่สำหรับผมนะมันไม่มีชมรมอะไรที่เขาจะรับหรอก บอล บาส มวย ไม่มีชมรมไหนสักชมรมเดียวที่จะรับผมเข้าไป
" นี่ ลี ชั่วโมงต่อไปมัน ชมรมไม่ใช่เหรอ " เอริธถามเมื่อเห็นผมนั่งลงกับเก้าอี้แทนที่จะเดินไปเข้าชมรมตามที่คนอื่นเขาทำกัน
" อือ มันก็ใช่ แต่ฉันไม่มีชมรมหรอก เชิญเธอไปหาชมรมตามสบาย " ผมพูดในขณะที่สายตาของผมยังมองอยู่นอกหน้าต่าง
" แต่... " เอริธพูด แต่เธอก็ถูกขัดจังหวะโดนเพื่อนสาวของเธอที่เดินเข้ามากอดแขนของเธอเอาไว้
เพื่อนสาวของเอริธพยามกระซิบอะไรข้างๆหูของเธอ ก่อนที่จะพยามดึงเอริธออกไป ผมเดาไว้ว่างมันคงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผมอีกนั่นแหละ แต่เอริธมีทีท่าว่าเธอไม่อยากไปแต่สุดท้ายเธอก็โดนเพื่อนของเธอดึงออกไปนอกห้องจนได้ แต่จะว่าไปผมเองก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าคนอย่าง เอริธ จะเลือกเข้าชมรมอะไร
" ได้ฟังเรื่องของฉันมาบ้างหรือยัง " ผมพูดแล้วหันไปมองหน้าของเอริธ
เอริธดูมีอาการแปลกใจเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆผมก็ถามคำถามแบบนี้ออกไป ทำไงได้ละผมมีนิสัยเป็นคนตรงไปตรงมานี่
" ได้ฟังแล้ว ได้ฟังมาเยอะมากเลยละ " เอริธมองหน้าผมแล้วตอบด้วยแววตาที่ใสซื่อ
" เรื่องดี หรือ ไม่ดี ละ "
" ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องไม่ดีนะ "
" ได้ฟังแบบนั้นแล้วยังกล้ามายุ่งกับคนอย่างฉันอีกเหรอ " ผมพูดแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอามือปัดกางเกงขายาวของตนเอง
" เชื่อเพียงบางส่วนนะ ในสายตาเราตอนนี้เรายังไม่เห็นท่าทีที่เลวร้ายของ ลี เลยนะ " เอริธพูดแล้วยิ้มพร้อมกับมองหน้าของผม
ดูเหมือนว่าเอริธนั้นจะเป็นคนที่อารมณ์ดีมากๆคนหนึ่งเลยละ ตั้งแต่ที่ผมคุยกับเธอจนถึงเวลานี้ผมยังไม่เห็นสีหน้าที่แผงความเศร้าไว้เลย แต่ถึงแบบนั้นเถอะนิสัยของคนอย่างเธอมันดีเกินไปที่จะมายุ่งกับคนอย่างผม ถึงแม้เธอจะเชื่อในเรื่องราวบางส่วนที่คนอื่นต่างพูดถึงผมแต่เธอเองก็ยังไม่เคยสัมผัสเข้าไปในโลกที่แสนโหดร้ายของผมอยู่ดี
" ได้เวลาเรียนแล้วนะ จะโดดเรียนให้เรานั่งคนเดียวทั้งวันเลยหรือไง " เอริธพูดพร้อมกับยื่นหน้าของเธอเข้ามาใกล้กับใบหน้าของผมในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่
" เอ่อ... เราไปเข้าเรียนกันเถอะ " ผมอึกอักอยู่สักก่อนจะตอบเธอออกไป
" ต้องให้ได้แบบนั้นสิ " เอริธพูดพร้อมกับจับแขนของผมแล้วพาผมวิ่งลงจากดาดฟ้าไปยังห้องเรียนในทันที
ไม่น่าเชื่อเลยว่าผมจะเป็นฝ่ายชวนเอริธไปเข้าเรียน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมกันเนี่ย หน้าของผมแดงเป็นลูกตำลึงเลยทีเดียวเนื่องจากใบหน้าของเอริธที่แทบจะแนบสนิทกับผม มันน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมพูดอะไรไปแบบไม่คิดดูเหมือนการเดินไปยังห้องเรียนของผมมันจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจกับบุคลรอบๆเป็นอย่างมากเนื่องจาก มือของเอริธที่จับอยู่ที่ข้อมือของผม เสียงซุบซิบเกิดขึ้นตลอดทางผมเองนะเรื่องแบบนี้มันชินไปแล้วละแต่สำหรับเธอละมันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเจอมาก่อนก็ได้
" นี่เอริธ คือ ปล่อยมือเถอะ ฉันเดินเองเป็น " ผมพูดเพื่อให้เอริธหยุดการเดินของเธอลง
เธอค่อยๆหันมามองผมเหมือนกับเธอกำลังงงว่าผมพูดเรื่องอะไร ผมจึงส่งสายตาของผมไปยังแขนที่ถูกมือของเธอจับไว้ ซึ่งเป็นผลเธอมองตามสายตาของผมไปในทันทีเมื่อ
" ว๊าย ขอโทษนะ ลี " เธอพูดอย่างใจพร้อมกับปล่อยมือออกในทันที
ผมยิ้มให้เธอก่อนที่จะเดินแซงเอริธที่หน้าแดงเช่นเดียวกับผมในตอนแรก เธอค่อยเดินตามหลังผมด้วยท่าทางที่เขินอายเล็กน้อย ไม่นานนักเราทั้ง 2 ก็เดินมาจนถึงห้องเรียนของเราทั้งสองคน และมันก็เป็นเหมือนกับตอนเช้าทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปเสียงอึกทึกในห้องก็เงียบกริบลงในทันที
" ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า เอริธ จะไปตามคนแบบนั้นลงมาเรียนได้นะ " เสียงของการสนทนาของผู้หญิง 2 คนที่ยืนอยู่มุมห้องพูดพร้อมกับมองมาทางผม
" ไม่ต้องกลัวหรอกเอริธแค่ยังไม่มีเพื่อนเท่านั้น พอนานๆไปเดี๋ยวเธอก็เลิกยุ่งกับไอ้หมอนี่เองแหละ " คู่สนทนาของเธอตอบ
พวกเธอคงไม่คิดหรอกว่าหูของผมดีขนาดไหน เสียงมอเตอร์ไซค์นับสิบๆเร่งเครื่องพร้อมกันผมยังสามารถยืนคุยกับลูกน้องของผมได้อย่างสบายแล้วนับภาษาอะไรกับห้องที่เงียบกริบแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะผมก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายผู้หญิงอยู่แล้ว ผมเดินตรงไปยังโต๊ะเรียนของผมและสิ่งที่ผมเห็นก็คือ หนังสือวิชาสังคมเล่นหนาที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมหันไปมองเอริธที่เดินตามมาด้านหลังผม เธอหลับตาก่อนที่จะส่งยิ้มให้ผม พระเจ้าเธอช่างน่ารักอะไรเช่นนี้กันนะ แต่ถึงกระนั้นผมก็พยามทำทีท่าว่าไม่สนใจ
ผมหันกลับมาหยิบหนังสือสังคมแล้วสอดไว้ใต้ลิ้นชัก แต่เมื่อหนังสือสังคมถูกยกออกผมก็ได้พบกับกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งวางไว้ ซึ่งมันชวนให้ผมเกิดอาการสงสัยผมจึงหยิบมันขึ้นมาดู ในกระดาษสีขาวนั้นถูกว่าเป็นการ์ตูนโดยแบ่งเป็นช่องๆ
ช่องแรก เป็นรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งทำท่าเหมือนว่าเธอกำลังจะอธิบายอย่างให้กับอาจารย์ที่มีเขาเหมือนกับยักษ์ โดยที่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆเธอ
ช่องที่สอง เป็นรูปประตูของชั้นเรียนถูกปิดกระแทกอย่างแรง
ช่องที่สาม เป็นรูปเด็กสาวคนนั้นกำลังพยามเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ
ช่องที่สี่ เป็นรูปเด็กหญิงคนนั้นมองตรงออกมาเหมือนกับว่าเธอกำลังมองคนอ่านและดูเหมือนว่าในมือเธอจะกุมอะไรไว้บางอย่างดสงตาดูเศร้าและมีน้ำตาคลออยู่เล็กน้อย
ช่องที่ห้า เป็นรูปเธอก้มหัวแล้วยื่นกระดาษมาด้านหน้า
ช่องที่หก เป็นเนื้อความในกระดาษซึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า ลี เราขอโทษนะ อาจารย์เขาไม่ยอมฟังเรา เลยว่าหนังสือนั่นเป็นของ ลี ขอโทษจริงๆนะ และ บริเวณมุมกระดาเป็นรูปเด็กหญิงคนนั้นยืนเอามือขยี้ตาพร้อมกับร้องไห้ออกมา
ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้หลังจากที่ดูการ์ตูนในกระดาษแผ่นนั้นจบ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเอริธที่ตอนนี้เธอกำลังพยามหลบสายตาของผมอยู่ แต่ดูเหมือนว่าตอนที่ผมกำลังอ่านอยู่นั้นเธอจะมองผมตาไม่กระพริบเลยทีเดียวละผมเดินตรงเข้าไปหาเธอ
" เธอวาดเหรอ " ผมถาม
" ก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะ " เอริธหันมาตอบผม
" วาดสวยดีนะ ยังไงอาจารย์นั่นก็ไม่เคยฟังอะไรฉันอยู่แล้วไม่ต้องขอโทษหรอกนะ "
" แต่... " เอริธพยามพูด
" เอาน่าๆ เรื่องแบบนี้นะฉันชินซะแล้วละ " ผมพูดแล้วยิ้มให้กับเธอ
" คือภาพมันสวยดีนะ ขอฉันเก็บไว้ได้ไหม " ผมพูดแล้วพับกระดาษนั้นเป็นชิ้นเล็กๆ
" ได้สิๆๆ " เอริธพูดอย่างตื่นเต้น
ผมค่อยๆหยิบกระเป๋าตังค์หนังสีดำของผมขึ้นมาแล้วใส่กระดาษนั้นเข้าไปในช่องที่มีรูปของผม หลังจากที่ผมเก็บภาพวาดของเอริธเสร็จแล้วผมก็นั่งลงยังที่ประจำของผมพร้อมๆกับใช้ท่าเดิมนั่นก็คือ มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย ทั้งๆที่ชั่วโมงต่อไปคือ ชมรม แต่สำหรับผมนะมันไม่มีชมรมอะไรที่เขาจะรับหรอก บอล บาส มวย ไม่มีชมรมไหนสักชมรมเดียวที่จะรับผมเข้าไป
" นี่ ลี ชั่วโมงต่อไปมัน ชมรมไม่ใช่เหรอ " เอริธถามเมื่อเห็นผมนั่งลงกับเก้าอี้แทนที่จะเดินไปเข้าชมรมตามที่คนอื่นเขาทำกัน
" อือ มันก็ใช่ แต่ฉันไม่มีชมรมหรอก เชิญเธอไปหาชมรมตามสบาย " ผมพูดในขณะที่สายตาของผมยังมองอยู่นอกหน้าต่าง
" แต่... " เอริธพูด แต่เธอก็ถูกขัดจังหวะโดนเพื่อนสาวของเธอที่เดินเข้ามากอดแขนของเธอเอาไว้
เพื่อนสาวของเอริธพยามกระซิบอะไรข้างๆหูของเธอ ก่อนที่จะพยามดึงเอริธออกไป ผมเดาไว้ว่างมันคงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผมอีกนั่นแหละ แต่เอริธมีทีท่าว่าเธอไม่อยากไปแต่สุดท้ายเธอก็โดนเพื่อนของเธอดึงออกไปนอกห้องจนได้ แต่จะว่าไปผมเองก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าคนอย่าง เอริธ จะเลือกเข้าชมรมอะไร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น