ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วันที่ชีวิตสิ้นสุด

    ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้นของการพบกัน

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 50


    เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่พระอาทิตย์ในยามเช้ายังคงสามารถที่จะปลุกผมให้ตื่นจากเตียงนอนที่น่านอนของผมได้เช่นเคย

    ผมค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงนอนที่ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสีฟ้าอ่อนก่อนที่จะเดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ถัดไปทางซ้ายจากห้องนอนของผม  แต่กว่าที่ผมจะเดินไปถึงห้องน้ำได้ผมต้องฝ่าฝันอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็น กองเสื้อผ้าที่ใช้แล้วซึ่งถูกปล่อยทิ้งไว้ กองของอุปกรณ์ปฐมพยาบาลต่างๆที่วางกระจัดกระจายเต็มพื้นไม้ซึ่งตอนนี้สีมันดูดำมากเนื่องจากผมไม่ค่อยมีเวลาที่จะทำความสะอาดมันเลย เช่นเดียวกับ ผนังต่างๆของบ้านของผมซึ่งไม่ได้ทำความสะอาดมานานหลายเดือนแล้ว แมงมุมต่างๆเลยได้โอกาสยึดเอามุมเพดานของผมเป็นที่พักอาศัยของพวกมันเสียเลย



    แต่ทว่าในที่สุดผมก็สามารถที่จะฝ่าฟันซากต่างๆที่ผมทิ้งเอาไว้จนเข้ามาในห้องน้ำได้ในที่สุด ถ้าสภาพต่างๆภายนอกบ้านของผมคือ นรก ละก็ สภาพของห้องน้ำของผมคือ สวรรค์ เลยละเนื่องจากส่วนใหญ่แล้วผมจะใช้เวลาต่างๆกับห้องน้ำเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้ผมดูแลรักษามันอย่างดี พื้นห้องน้ำถูกปูด้วยกระเบื้องสีขาวซึ่งตอนนี้มันก็ยังคงเป็นสีขาว เครื่องสุขภัณท์ ต่างๆเองก็เป็นเช่นเดียวกับพื้นห้องน้ำนั่นก็คือ มีสีขาวและสะอาดจนแทบจะไร้คราบสกปรก ผมเดินตรงไปยังอ่างล้างหน้าก่อนที่จะหมุนก๊อกน้ำแล้วเอาน้ำกวักน้ำขึ้นมาเพื่อล้างหน้า



    " เฮ้อ... ไม่ไปเรียนวันนี้ดีไหมเนี่ย " ผมพูดกับกระจกที่สะท้อนเงาของชายที่มีทรงผมหวีปัดไปด้านซ้ายและมีสีน้ำตาลแดง นัตย์ตาเป็นสีดำขลับ หน้าตาจัดได้ว่าหล่อทีเดียว



    บริเวณลำตัวของผมเต็มไปด้วยบาดแผลต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นแผลจากวัตถุมีคม ซึ่งมันมีทั้งแผลใหม่และแผลเก่าที่หายแล้วแต่เป็นรอยแผลเป็น จารึกไว้บนร่างกายเพื่อย้ำเตือนถึงเรื่องในวันก่อนๆ บริเวณกลางหลังของผมได้สักเป็นรูปไม้กางเขนกลับหัวสีดำเอาไว้ซึ่งมันมีขนาดใหญ่ทั่วทั้งแผ่นหลังของผม ให้ตายเถอะนี่เรามัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอีกแล้ว ถ้าไม่รีบมีหวังได้ไปโรงเรียนสายแน่ๆเลย ว่าแล้วผมก็ไม่รอช้ารีบถอดกางเกงขาสั้นสีดำโยนออกไปนอกห้องน้ำซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รู้ว่าทำไมบริเวณถายนอกห้องน้ำถึงได้รก ผมรีบจัดแจงอาบน้ำสักพักก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูสีครีม



    " เฮ้อ...เบื่อเรียนจัง " ผมถอดหายใจหนึ่งครั้งหลังจากที่ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าในห้องของผม



    ผมค่อยๆหยุดเสื้อนักเรียนสีขาวกับกางเกงสีดำสนิทมาสวมใส่ก่อนที่จะหยิบนาฬิกาหนังสีดำขึ้นมาใส่ที่ข้อมือด้านซ้าย หลังจาที่ผมสวมนาฬิกาเสร็จแล้วผมก็เดินไปหยิบกระเป๋าสีดำที่แทบจะไม่เคยใส่หนังสืออะไรไว้ในนั้นขึ้นมาก่อนล็อกกุญแจแล้วเดินออกจากบ้านเก่าๆโทรมๆของผม



    รถมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์ของผมถูกขับออกไปพร้อมกับร่างกายของผมและจุดหมายที่จะไปคือโรงเรียนของผม ซึ่งตลอดข้างทางนั้นเต็มไปด้วยบ้านที่สร้างจากไม้ ยิ่งเข้าใกล้โรงเรียนก็ยิ่งมีร้านอาหารตามข้างทางมากยิ่งขึ้นซึ่งมันก็เป็นเหล่าที่นัดรวมของกลุ่มต่างๆได้อย่างดี



    " เอี๊ยดดด " เสียงเบรกมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นพร้อมๆกับการหยุดรถของผม



    เนื่องจากผมได้มาถึงเป้าหมายของผมนั่นก็คือ โรงเรียนนั่นเอง โรงเรียนของผมนั้นจัดได้ว่ามีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับโรงเรียนอื่นๆแถวนี้ บริเวณทางเดินก่อนเข้าโรงเรียนนั่นเป็นลานกว้าง ซึ่งถูกจัดแบ่งออกเป็นโซนๆเพื่อมีไว้สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่เล่นฟุตบอล หรือ สนามเด็กเล่น ผมจอดมอเตอร์ไซค์ของผมไว้กับร้านอาหารแถวนั้นซึ่งเป็นร้านที่ผมมากินเป็นประจำจึงสนิทกับเจ้าของร้าน เนื่องจากกฎของโรงเรียนนั้นห้ามเด็กเอารถยนต์มาโรงเรียน



    หลังจากที่ผมฝากรถของผมเอาไว้ที่ร้านอาหารผมก็ได้มุ่งหน้าเข้าสู่โรงเรียน เนื่องจากมันเป็นเวลาที่ใกล้จะเข้าเรียนทำให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่มีผู้คนมากมาย มีทั้งเด็ก และ รุ่นเดียวกับผม



    " อุ๊ย ขอโทษค่ะ " เสียงๆหนึ่งดังมาจากด้านหลังของผมแต่มันค่อยดังขึ้นหลังจากที่ร่างของผมโดนชนจนเซไปด้านหน้าแล้ว



    " ไม่เป็นไรครับ " ผมหันหลังกลับไปตอบด้วยน้ำเสียงที่สุภาพเนื่องจากได้รับคำขอโทษ



    ผมมองไปที่คนที่มาชนผมอย่างสงสัยว่าทางเดินมีตั้งเยอะแล้วทำไมเธอกลับมาชนผมซะได้ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมซึ่งมันก็ทำให้ผมเห็นใบหน้าของเธอได้อย่างถนัดมากยิ่งขึ้น ผมของเธอยาวจนถึงหลังและสีดำสนิทเช่นเดียวกับดวงตาของเธอ ผิวของเธอเป็นสีขาว หน้าตาน่ารักมากเลยทีเดียว แล้วยิ่งตอนนี้เธออยู่ในชุดนักเรียนหญิงซึ่งเป็นเสื้อแขนสั้นสีขาว บริเวณแขนเสื้อได้มีแถบสีน้ำเงินล้อมรอบแขนเสื้อ เช่นเดียวกับชายเสื้อที่ถูกปล่อยออกมานอกกระโปรง กระดุมเสื้อเป็นสีทองซึ่งสะท้อนรับกับแสงของดวงอาทิตย์ยามเช้าได้อย่างดี กระโปรงของเธอเป็นสีน้ำเงินเข้มและมีแถบสีขาวอยู่รอบๆชายกระโปรงของเธอ รอบๆคอของเธอได้มีจี้เพชรรูปดาวเรียงร้อยรอบๆคอของเธอ และสิ่งที่ทำให้เธอดูน่ารักมากยิ่งขึ้นก็คือ ริบบิ้นสีแดงที่ถูกผูกเป็นรูปโบว์ไว้ถัดลงมาจากคอเสื้อ



    " ขอโทษนะคะ เผอิญฉันมัวแต่เดินเหม่ออยู่นะคะ " หญิงสาวพูดพร้อมกับหลบสายตาที่ผมจ้องมองเธอ



    " ครับๆไม่เป็นไรครับ " ผมพูดแล้วหันหลังกลับก่อนที่จะออกตัวเดินต่อไปเพื่อเข้าไปยังชั้นเรียนของผม



    ผมเปิดประตูหน้าของตึกเรียนที่ทำด้วยกระจกใสๆ เมื่อเข้าไปในตัวอาคารก็จะพบกับ บอร์ดที่นักเรียนต่างๆได้มาจัดนิทรรศการเอาไว้ บริเวณด้านซ้ายและขวาของบอร์ดนั้นเป็นบันไดที่ทำจากหินสีครีม ชั้นเรียนของผมอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งมันกินเวลาในการเดินไม่มากนักทำให้ผมสามารถที่จะเดินได้อย่างเรื่อยเปื่อยตามสไตล์ของผม



    6D  เป็นพียงแค่คำพูดเป็นคำเดียวที่ผมพูดในขณะที่เดินมายังห้องเรียนของผม แม้มันจะเป็นคำพูดที่ดูแล้วไม่มีอะไรเลยแต่มันก็สามารถที่จะทำให้ผมอารมณ์ดีได้ด้วยการร้องมันออกมาเป็นตามจังหวะและทำนองที่ผมแต่งเองและแล้วผมก็มาหยุดลงตรงหน้าห้องที่ผมพูดชื่อมันมาตลอดทาง ผมเปิดประตูห้องเข้าไปและแล้วห้องที่ครึกครื้นอยู่ก็เงียบลงทันที ทุกคนต่างจ้องมองมายังผมที่เดินอย่างไม่สนใจใครก่อนที่จะไปนั่งบริเวณโต๊ะริมหน้าต่าง



    " มีปัญหารึไงวะ มองหน้าเนี่ย " ผมตะคอกใส่ชายคนหนี่งที่กำลังจ้องมองมาที่ผม



    ด้วยเสียงตะคอกที่แสนจะดุดันทำให้ชายคนนั้นก้มหน้าลงมองพื้นด้านล่างทันที เสียงอื้ออึงเกิดขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้คงไม่ใช่เสียงพูดคุยกันธรรมดาเป็นแน่มันคงจะเป็นเสียงนินทาผมซะมากกว่า ด้วยการที่ผมเป็นหัวหน้าแก๊งมอเตอร์ไซค์ และเป็นคนที่ไม่เคยยอมให้ใคร จึงทำให้ทุกคนมองว่าผมคือ พวกอันธพาล บาดแผลที่มีมาโรงเรียนแทบจะทุกวันมันยิ่งเป็นการยืนยันว่าผมเป็นพวกนักเลงที่วันๆ ชอบเอาแต่ต่อยตีกับชาวบ้าน จนทำให้คนในห้องไม่สิ แทบจะทุกคนในโรงเรียน ไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับผมมากนักถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆ เหมือนดังเช่น ผู้หญิงเมื่อเช้านี้ ผมคิดเรื่องต่างๆไปโดยมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งมันสามารถที่จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบๆ



    " เฮ้ยๆ อาจารย์มาแล้ว เร็วเข้าๆ " เสียงๆหนึ่งดังขึ้น



    ซึ่งทำให้ทุกคนต่างแตกตื่นกันเป็นการใหญ่ ทุกคนในห้องเมื่อได้ยินคำนั้นก็ต่างรีบวิ่งเข้าที่นั่นประจำของตนในทันที และแล้วประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมๆกับการเดินเข้ามาของชายที่สวมแว่นตาหนาพอๆกับหนังสือเรียนของผม ผมเป็นสีดำแสกกลาง เสื้อที่ใส่เป็นเสื้อสูทสีน้ำตาลพร้อมกับผูกเน็คไทค์สีแดงสลับกับขาว



    " นักเรียนเคารพ " เสียงของหัวหน้าห้องพูดทำให้นักเรียนต่างๆทำความเคารพอาจารย์



    " เอาละ วันนี้มีนักเรียนใหม่ได้ย้ายเข้ามากระทันนะ เนื่องจากคุณพ่อของเขาต้องย้ายมาทำงานที่นี่ " อาจารย์กล่าวพร้อมกับมองไปที่ประตู



    " เข้ามาได้ " อาจารย์พูดเพื่อเป็นสัญญาณเรียกนักเรียนที่มาใหม่เข้ามาในห้อง



    ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมเองไม่ได้สนใจอะไรสักเท่าไหร่นักเนื่องจากมันยังไม่มีการเรียนการสอน แต่ถึงจะมีก็ตามผมเองก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรกับการเรียนสักเท่าไหร่นัก ผมยังคงปล่อยให้สติของผมล่องลอยออกไปนอกหน้าต่างอย่าเพลิดเพลิน



    " สวัสดี เราชื่อ เอริธ นะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน " นักเรียนใหม่แนะนำตัวเสร็จก็ทำให้เกิดเสียงอื้ออึงขึ้นอีกครั้ง



    แต่แล้วเสียงที่อึกทึกก็ต้องเงียบลงด้วยการปรามของอาจารย์ และช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่ระทึกสำหรับทุกคนว่านักเรียนใหม่คนนั้นจะมานั่งข้างใคร ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะสามารถทำให้เหล่านักเรียนชายรู้สึกตื่นเต้น แต่ถ้าเป็นนักเรียนชายก็จะทำให้เหล่านักเรียนหญิงตื่นเต้นแทน แต่สำหรับผมเองกลับรู้สึกเฉยๆในช่วงเวลาแบบนี้ เพราะ ผมเองยังไม่รู้เลยว่านักเรียนที่เข้าใหม่มานั่งเป็น ชาย หรือ หญิง เพราะ ผมมัวแต่นั่งมองอยู่นอกหน้าต่างแบบนี้



    " งั้นเธอไปนั่งตรงนั้นละกันนะ " อาจารย์พูดพร้อมกับเสียงฝีเท้าของนักเรียนใหม่ได้ก้าวเดินไปยังตำแหน่งที่อาจารย์ชี้



    " ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ " เสียงนี้ดังขึ้นข้างๆผม ซึ่งมันสามารถเรียกให้ผมกลับมาสนใจภายในห้องเรียนได้อีกครั้ง



    " เธอคนเมื่อตอนเช้านี่ "  ผมพูดอย่างตกใจเมื่อเห็นคนที่เจอเมื่อเช้ามานั่งบริเวณโต๊ะข้างๆผม



    มิน่าละเสียงอื้ออึงในห้องถึงได้เงียบไปตอนที่อาจารย์เลือกสถานที่นั่งให้เธอ หน้าตาเธอเองก็จัดได้ว่าน่ารักไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน ป่านนี้พวกผู้ชายในห้องคงอิจฉาผมกับเต็มไปหมดแล้วแหละ แต่ก็ไม่แน่นะพวกผู้ชายในห้องอาจจะรู้สึกสงสารเธอก็ได้ที่ต้องมานั่งกับผมกันนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×