ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วันที่ชีวิตสิ้นสุด

    ลำดับตอนที่ #1 : นักเลง

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 50


    วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมได้มานั่งเล่นอยู่ที่สวนสารธารณะที่เดิม เวลานี้ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าที่เคยเป็นสีครามได้กลายเป็นสีส้มปนน้ำตาล เสาไฟที่อยู่ในสวนสารธาระที่ผมนั่งอยู่ถูกเปิดขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความมืดที่กำลังจะมาเยือน ชิงช้าเบื้องหน้าแกว่งไปมาราวกับมีคนนั่งอยู่



    " เฮ้อ... นี่เรานั่งเหม่อจนถึงเย็นเลยเหรอเนี่ย " ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ม้านั่งสีขาว



    ผมเดินไปด้านข้างซึ่งเป็นที่ที่ผมได้จอดมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์สีดำเอาไว้ ผมค่อยๆก้มลงมองกระจกที่ไว้มองด้านข้างพร้อมกับ ใช้มือของตัวเองปัดผมที่โดดลมพัดจนเสียทรงให้กลับมาเป็นทรงหวีปัดไปด้านซ้ายให้เหมือนเดิมและระหว่างที่ผมกำลังเพลิดเพลินไปกับการจัดแต่งทรงผมของตัวเองอยู่นั่นเอง



    " หัวหน้าครับ พวกเราแย่แล้ว " เสียงที่ดูเหมือนกับเหนื่อยหอบอย่างหนักดังมาจากด้านหลังของผมทำให้ผมต้องรีบหันไปมองทันที



    " มีอะไรเหรอ " ผมหันไปถามชายคนนั้น



    " พวกเราถูกแก๊ง ซัน เล่นงานเอานะครับ " ชายที่ใส่ชุดเสื้อโค้ทหนังสีดำพูด



    " เฮ้อ... นี่ขนาดเราไม่ไปยุ่งกับคนอื่นก่อนแล้ว พวกมันยังมายุ่งกับเราอีกเหรอเนี่ย " ผมพูดก่อนที่จะถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วงกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของผมออกมา



    เมื่อรถมอเตอร์ไซค์คู่กายของผมถูกติดเครื่อง ผมก็หันไปพยักหน้าให้กับชายคนที่มาเรียกผมซึ่งเขาเองเมื่อเห็นผมพยักหน้าเขาก็รีบวิ่งมาที่มอเตอร์ไซค์พร้อมกับขึ้นนั่งซ้อนท้ายผมในทันที



    " บอกทางด้วยละกัน " ผมหันหลังไปบอกกันเขาซึ่งเขาเองก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ



    และแล้วมอเตอร์ไซค์ของผมก็ได้แล่นตรงออกไปจากสวนสาธารณะนั้น และระหว่างทางชายคนนั้นก็ได้เล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับผมได้ฟังหลายต่อหลายเรื่อง มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงกับแล้วสินะว่าผมเป็นใครกันแน่ ผมชื่อว่า ลี เป็นหัวหน้าแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่ถูกกล่าวขานกันว่าเป็นแก๊งไร้พ่าย ผมขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งนี้ได้ตอนอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น  



    " ตรงนี้แหละครับ หัวหน้า " ชายคนที่นั่งซ้อนทายของผมพูด



    ผมเมื่อได้ยินแบบนั้นก็หยุดรถของผมลงพร้อมกับมองไปเบื้องหน้า และสิ่งที่ผมเห็นก็คือ โรงงานร้างๆเก่าที่มันดูเหมือนว่าจะพังลงมาเสียให้ได้ ภายในนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งยืนกอดอกถึงแม้มันจะอยู่ไกลแต่ผมก็ค่อนข้างแน่ใจว่ากลุ่มคนกลุ่มนั้นกำลังจ้องมองมาที่ผมแน่นอน

    " รอข้านานมากไหม " ผมพูดพร้อมกับหันหลังไปมองชายคนที่อยู่ด้านหลัง



    และดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะรู้ถึงสิ่งที่เขาควรจะทำ เขาเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ของผมพร้อมกับเปิดเบาะนั่งแล้วหยิบเอาเสื้อโค้ทหนังสีดำเช่นเดียวกับที่เขาใส่ออกมา แต่เสื้อโค้ทนั้นไม่เหมือนกับเสื้อโค้ทหนังของเขาซะทีเดียว  บริเวณกลางหลังของเสื้อโค้ทหนังนั้นมี สัญลักษณ์รูปตัว L ที่เขียนด้วยสีขาวและถูกล้อมรอบด้วยดาว 6 แฉกที่มีสีเดียวกับสีของตัวอักษร บริเวณตัว L นั้นได้มีเถาวัลย์หนามพันบริเวณรอบๆ ผมไม่รอช้ารีบสวมมันทับเสื้อแขนยาวสีขาวที่ผมใส่อยู่ทันที



    " พวกแกมีธุระอะไรกับลูกน้องของข้า " ผมพูดพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหากลุ่มคนกลุ่มนั้นอย่างไม่มีท่าทางว่าจะกลัวเกรงอะไร



    แต่ทว่ากลับไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมานอกจากเหล่าคนกลุ่มนั้นกรูกันเข้ามาหาผมพร้อมอาวุธในมือ ไม่ว่าจะเป็นไม้หน้าสาม หรือแท่งเหล็กที่ถูกลับจนคมกริบ สำหรับผมพวกนี้มันไม่ได้มีความสามารถอะไรเลยนอกจากพวกมันจะมาเป็นกลุ่ม ก็ไม่แปลกหรอกนะที่ลูกน้องผมจะแพ้พวกหมาหมู่แบบนี้



    " ไอ้พวกหมาหมู่เอ๊ย มากันเป็นฝูงเพื่อทำร้ายคนเพียงคนเดียว แถมยังใช้อาวุธอีก หน้าไม่อายบ้างหรือไงวะพวกแกนะ " ผมพูดอย่างโมโหพร้อมกับเอียงตัวหลบท่อนเหล็กที่ฝาดลงมา



    แล้วแล้วหมัดของผมก็พุ่งเข้าที่ปลายคางของคนที่คิดจะทำร้ายผมเมื่อครู่ทันที ร่างของมันลอยกระเด็นไปไกลหลายเมตรทีเดียว พวกมาต่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนของมันปลิวไปไกลแต่มันก็หาหยุดโจมตีผม อาวุธต่างๆถูกกระหน่ำลงมาราวกับเม็ดฝนที่ตกลงมาแต่มันก็ได้หาโดนผมแม้แต่น้อย ผมหลบอาวุธมันไปพลาดโจมตีพวกมันไปพลาดและด้วยเวลาเพียงไม่นานพวกมันก็ล้มลงกองแทบเท้าของผมจนหมด



    " หึๆ สมแล้วนะที่เป็นหัวหน้าแก๊ง Legend " ชายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มของคนพวกนั้นพูดพร้อมกับค่อยเดินออกมาจากมุมมืดของโรงงานร้าง



    ชายคนนั้นมีรูปร่างที่สูงใหญ่ราวกับนักมวยปล้ำทีเดียวเลยแหละ ผมของเขาเป็นผมทรงสกินเฮด ดวงตาสีดำขลับจ้องมองมายังร่างของผมที่ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าลูกน้องของเขา ลักษณะการแต่งกายของเขานั้นเป็นเสื้อยีดสีขาว ส่วนกางเกงนั้นเป็นกางเกงขายาวลายพราง บริเวณคอของเขาห้อย Tag ของทหารเอาไว้



    " ลูกน้องข้าอยู่ไหน " ผมพูดแล้วหันไปมองเขาพร้อมกับเดินข้ามร่างของเหล่าชายที่มาทำร้ายร่างกายของผมเมื่อครู่ไป



    " อยู่บนนั้นไง " ชายร่างใหญ่คนนั้นพูดพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นไปด้านบนทำให้ผมมองตามขึ้นไปทันที



    และสิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้นเมื่อผมได้เห็นร่างของลูกน้องของผมถูกแขวนคอไว้กับขื่อของโรงงาน ร่างของลูกน้องของผมนั้นมีสภาพจากการโดนซ้อมต่างๆซึ่งสังเกตุเห็นได้จากรอยช้ำที่เกิดเป็นจ้ำๆตามร่างกายของเขา



    " นี่แกถึงกับฆ่า เลยเหรอวะ " พร้อมพูดอย่างโมโหพร้อมกับหันหน้าไปมองชายร่างใหญ่



    แต่แล้วหมัดอันทรงพลังของเขาก็พุ่งเข้าปะทะที่หน้าของผม ซึ่งมันส่งผลให้ผมกระเด็นกระแทกกับพื้นอย่างแรงเขาไม่รอช้ารีบวิ่งตามพร้อมกับจับร่างของผมยกขึ้นด้วยมือเพียงแค่ข้างเดียวก่อนที่จะใช้ หมัดของเขาชกเข้าที่ท้องของผมอย่างแรงจนผมกระอักเลือดคำโตออกมา



    " ข้า ไบรอัน แห่ง เดอะ ซัน จำชื่อข้าไว้ก่อนไปนรกด้วยละ " ชายร่างใหญ่คนนั้นพูดพร้อมกับเหวี่ยงร่างของผมอย่างแรง



    ร่างที่ถูกเหวี่ยงออกไปลอยด้วยความเร็วสูงจนพุ่งไปปะทะกับกำแพงที่ทำจากปูนของโรงงาน เสียงโครมดังกึกก้องทั่วโรงงานพร้อมกับร่างที่ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นของผม ไบรอันเห็นแบบนั้นยิ่งทำให้เขาได้ใจเขาค่อยๆเดินตรงเข้ามาหาผม พร้อมกับเหวี่ยงเท้าเตะเข้าที่ใบหน้าของผมอย่างแรง



    " อ๊ากกก " เสียงร้องของไบรอันดังออกมาพร้อมกับการทรุดลงกับพื้นของเขา



    สาเหตุที่ทำให้ไบรอันล้มลงนั่นก็คือ มีดสีดำที่ปักที่เข้าของเขานั่นเอง ผมค่อยๆพยุงร่างกายของผมขึ้นพร้อมกับก้มลงดึงมีดนั้นออกมาจากเท้าของไบรอัน ทีนี้เป็นทีของผมบ้างละนี่คือการวิวาทไม่ใช่การต่อสู้กฏมันก็มีเพียงแค่ข้อเดียวนั่นก็คือ หาวิธีเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ ผมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อที่อยู่ด้านในและสิ่งที่ผมหยิบออกมานั่นก็คือ สนับมือสีทอง 2 ข้าง ผมสวมมันโดยไม่มีการลังเลพร้อมกับชกเข้าไปที่ปลายคางของไบรอันในทันที



    แต่นั่นมันยังไม่สาแก่ใจที่มันทำกับลูกน้องผมหรอกนะ หมัดที่ 2 ของผมตามออกมาทันทีหลังที่ผมปล่อยหมัดแรกออกไป หมัดนั้นพุ่งอัดเข้าที่แก้มของไบรอันจนหน้าของเขาเหวี่ยงไปตามแรงหมัด ร่างของไบรอันฝุบลงกับพื้นทันทีหลังจากที่โดนหมัดที่ 2 ของผมเข้าไป ดูเหมือนว่าไบรอันที่โดนสนับมือต่อยไป 2 ครั้งจะหมดสติไปแล้วแต่การล้างแค้นให้ลูกน้องผมมันยังไม่หมดเท่านี้หรอก ผมใช้เท้าของผมกระทืบหน้าของไบรอันที่นอนฝุบอยู่กับพื้นเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ที่โกรธแค้นของผม ผมเองก็ไม่ได้นับหรอกนะว่าผมกระทืบมันไปกี่ทีแต่เมื่อผมได้สติอีกครั้งพื้นบริเวณนั้นก็กลายเป็นสีแดงฉานด้วยเลือดของไบรอันซะแล้ว



    " ข้าขอย้ำนะว่า ถ้ามายุ่งกับพวกข้าอีกพวกแกไม่รอดแน่ " ผมหันไปมองเหล่าลูกน้องสวะๆของไบรอันพร้อมกับพูดตะคอกใส่ ก่อนที่จะเดินออกจากโรงงานร้างแห่งนั้น



    " เผามันทิ้งซะเลย " ผมพูดกับลูกน้องของผมที่ยืนอยู่ที่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ของผม



    และลูกน้องผมก็ดีดนิ้วให้สัญญาณกับบางอย่างทันใดนั้นเอง ระเบิดขวดนับร้อยก็ถูกปาเข้าไปยังตัวโรงงานพร้อมกับการปรากฏกายของเหล่าลูกน้องของแก๊ง Legend ของผม สำหรับคำว่าโอกาสหน้าของผมนั้นหมายความว่าถ้าพวกมันรอดจากที่นี่ตอนนี้ได้ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะไม่มีแล้วสำหรับพวกมัน

    เปลวไฟค่อยไหม้ตัวโรงงานเนื่องจากมีบางส่วนทำด้วยไม้ สังกะสีที่ขึ้นสนิมค่อยๆถูกไฟเผาไมห้จนกลายเป็นสีดำไม้บางส่วนของโรงงานสามารถที่จะเป็นเชื้อไฟเพื่อที่จะลุกไปยังส่วนอื่นๆของโรงงานได้อย่างดีทีเดียว ความร้อนอันมหาศาลทำให้กระจกที่แตกหักอยู่แล้วบางส่วนระเบิดออกพร้อมกับเศษกระจกจำนวนมากที่กระเด็นกระจายเต็มพื้น และนี่ก็คือการปิดฉากของแก๊งอันธพาล เดอะ ซัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×