คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ทายาทมนุษย์หมาป่า Re Write
“ อืม... ” ผมครางในลำคอพลางเอามือควานหาผ้าห่มทั้ง ๆ ที่ไม่ลืมตา ผมเป็นคนที่ค่อนข้างนอนขี้เซา ต้องนอนกลิ้งบนเตียงซักสิบนาทีก่อนจะลุกได้ สมองผมเริ่มแล่นอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาผมปรือขึ้นนิด ๆ ทำให้เห็นแสงสลัว ๆ บนเพดานสีขาวได้ โคมไฟระย้าที่ประดับประดาไปด้วยคริสตัลส่องแสงสีเหลืองนวลทำให้ห้องสว่างไสว เอ...ผมจำไม่ได้ว่าผมมีเพดานห้องแบบนี้เมื่อไหร่!!!
ทันทีที่ผมลืมตา ผมก็รู้ได้ทันทีว่าผมไม่ได้อยู่บ้านแล้ว ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้อง ๆ หนึ่ง ที่ผมต้องตะลึงค้างเลย
เพราะห้อง ๆ นี้เป็นห้องที่สวยมากเลยล่ะ กำแพงทำมาจากหินขัดสีหม่น ๆ มีการประดับตกแต่งด้วยรูปภาพโบราณ เตียงที่ผมนอนอยู่ทำมาจากทองหรือไม่ก็ทองเหลือ (ก็มันเป็นสีทองอ่ะ) มีโต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้นวม กระจกบานใหญ่ ตู้หนังสือ ทุกอย่างถูกจัดทำขึ้นอย่างประณีตแล้วจัดไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของห้องได้อย่างลงตัว มีหน้าต่างบานใหญ่อยู่อีกด้านทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืน แถมพระจันทร์ยังเต็มดวงสวยซะด้วย มีประตูสีขาวสองบาน ถ้าผมเดาไม่ผิดคงเป็นประตูที่เชื่อมไปถึงส่วนต่าง ๆ ของบ้านกับประตูห้องน้ำ (ก็ปกติบ้านคนเค้าจัดกันอย่างนี้ ไม่ใช่เหรอ?)
ผมขยี้ตาตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าตอนนี้ผมไม่ได้ตาฝาด ดวงตาของผมเริ่มสำรวจไปทั่ว จนไปสะดุดลงกับกระจกบานใหญ่ที่ติดไว้บนกำแพง ภาพของเด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฎขึ้นบกระจกเงา อายุของเขาคงไล่เลี่ยกับผม แต่เด็กหนุ่มคนนั้นแปลกประหลาดมากเพราะบนหัวของเขามีหูงอกขึ้นมาเหมือนหูหมาป่า แถมยังมีหางที่เต็มไปด้วยขนสีขาว ๆ ปุกปุยอีก เส้นผมสีเงินยาวคลอเคลียหลัง นัยน์ตาสีเงินจ้องสบกับดวงตาของผมอย่างสนใจ ผมนึกอยากจะถามเขาเหลือเกินว่าเขากำลังแต่งตัวไปงานฮาโลวีนเหรอ
ผมจ้องเด็กหนุ่มคนนั้น เขาก็จ้องผมกลับมา ผมเอียงคอปทางซ้าย เขาก็เอียงคอตาม ผมเกาหัว เขาก็เกาหัวตาม ผมต้องใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าผมจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้
“ ว๊าก!!! เฮ้ย!!! อะไรกันเนี่ย !!! ” ผมร้องขึ้นเสียงดัง เพราะไอ้สิ่งที่อยู่บนหัวของผมตอนนี้มันเป็นหู!!!!! ใช่แล้วหู
ลักษณะแบบนี้ต้องเป็นพวกหูสุนัขหรือไม่ก็หมาป่า แล้วผมก็ต้องช็อคอีกครั้งเมื่อผมที่เคยเป็นสีดำขลับของผม มันกลายเป็นสีขาว!!! สีขาวไม่พอมันยังยาวถึงเอวผมด้วย แล้วผมก็ต้องสะดุดกับสิ่งผิดปกติอีกอย่าง นั่นก็คือหาง!!! ผมมีหาง นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!!!!!!!
ผมหันกลับไปจ้องกระจกบานใหญ่อีกครั้ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าภาพในกระจกนั้นเป็นใคร โอ้พระเจ้า! นี่มันเชื้อไวรัสตัวใหม่หรือไง! หรือว่าเป็นโรคกลัวน้ำสปีชี่ใหม่ ยิ่งมองหน้าตัวเองในกระจกยิ่งอยากจะบ้าตายให้รู้แล้วรู้รอด
“ ใจเย็น ๆ แรนดอล์ฟ นายกำลังฝัน นายกำลังฝัน............ ”ผมพยายามขยี้ตาตัวเองหลาย ๆ ครั้ง มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยแถมยังทำให้ผมปวดตาหนักกว่าเดิมอีก ผมเดินไปมาในห้องเหมือนเสือติดจั่น หันไปมองกระจกเงาที หน้ามืดที จนในที่สุดก็ทนไมไหวทรุดตัวลงนั่งบนเตียงตามเดิม
แอ๊ด...
เสียงประตูห้องเปิดขึ้นเบา ๆ แต่ก็ไม่พ้นหูของผมไป ผมหันไปทางประตูอย่างรวดเร็วก่อนที่แทบจะเป็นลม
“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก! ”ผมร้องเสียงดังก่อนที่จะวิ่งไปทุบกำแพงอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับจะพังมันออกไป จะไม่ให้ตกใจได้ไงเล่า ก็ในเมื่อไอ้คนที่มันมาเปิดประตูห้องผมมันเป็นซอมบี้อ๊ะ! แถมท่าทางจะขึ้นอืดด้วยเพราะเล่นผิวเขียวมาเชียว เจ้าซอมบี้ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผมอย่างเชื่องช้า อาจจะเป็นเพราะหลังที่งองุ้มของเขาก็ได้ แต่ผมไม่สนใจหรอก! ตอนนี้ผมต้องหนีเท่านั้น!!!
ผมกวาดตาไปรอบ ๆ ห้องอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสะดุดเข้ากับหน้าต่างบานใหญ่ เอาไงเอากัน! งานนี้ไม่ตายก็เดี้ยง!
“ ว๊าก!!!!” ผมร้องเสียงดังก่อนที่จะกระโจนออกไปห้องหน้าต่าง เท่านั้นแหละผมก็ได้รู้ว่าห้องนี้มันอยู่ชั้นสี่! ร่างของผมพุ่งลงสู้พื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงร้องของผมที่ดังขึ้นเป็นแบล็คกราวน์ ก่อนที่เท้าของผมจะสัมผัสพื้นอย่างแผ่วเบาราวกับว่าผมลอยลงมาก็ไม่ปาน (ทั้ง ๆ ที่ตอนที่ตกลงมานั้นเร็วจี๋)
“ บ้าน่า” ผมพึมพำพลางหยิกแก้มตัวเอง ทำไมเมื่อกี้โดดลงมาแล้วไม่ยักกะขาหักแฮะ ผมเงยห้ามองจุดที่ผมเพิ่งโดดลงมาก่อนที่จะอ้าปากค้าง
อึ๋ย...สูงขนาดนั้นไม่ต่ำกว่าห้าเมตรแน่ ผมเงยหน้ามองอยู่นานก่อนที่จะสะดุดตาเข้ากับสิ่ง ๆ หนึ่งบนท้องฟ้า
ประจันทร์สีขาวนวลเปล่งประกายสว่างไสวงดงาม มันคงจะเป็นเรื่องธรรมดามากถ้าเกิดข้าง ๆ พระจันทร์ดวงนั้นดันไม่มีประจันทร์ครึ่งเสี้ยวลอยขนาบข้างซ้ายขวา ดวงข้างซ้ายนั้นเกือบจะเต็มดวงแล้ว ส่วนดวงข้างขวานั้นยังคงเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ อยู่ ง่ะ! ทำไมอยู่ ๆ ถึงมีพระจันทร์สามดวงได้!
“ คุณหนูขอรับ”เสียงแหบแห้งดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งโหยง ผมหันไปมองตามต้นเสียงก่อนที่แทบจะเป็นลม ก็ไอ้เจ้าซอมบี้ตัวนั้นมันยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว โดดลงมาตอนไหนเนี่ย!!!
“ กระผมมีนามว่า เมอร์ ควอตั้น เป็นคนรับใช้ประจำตัวคุณหนู คุณท่านเรียนเชิญคุณหนูไปยังห้องอาหารขอรับ ” ผมเอ๋อกินครับ เมื่อกี้เขาเรียกผมว่าอะไรน๊ะ!!!~ มันต้องเกิดการผิดพลาดครั้งใหญ่แน่ ๆ
“ เอ่อ...ผมไม่ใช่คุณหนูของคุณนะครับ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ”ผมพูดพลางสงบสติอารมณ์ เริ่มทำใจได้กับหน้าตาอันบิดเบี้ยวราวกับถูกใครตัดออกแล้วเย็บใหม่อย่างไม่ค่อยประณีตของเมอร์ เขาส่ายหัวให้ผมเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า
“ ตามผมมาขอรับ แล้วคุณหนูจะได้รับรู้ความจริงทั้งหมด ” ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่ผมรู้ว่าทางที่ดีผมควรตามชายคนนี้ไปดีกว่า เพราะจากประสบการณ์เมื่อกี้ผมว่าผมคงหนีเขาไม่พ้นแน่ ซวยแล้วไหมล่ะแรนดอล์ฟ ติดเชื้อไวรัสบ้าบอขึ้นมาจนกลายเป็นครึ่งคนครึ่งหมาไม่พอดันต้องมาเป็นคุณหนูของซอมบี้อีก ผมกับเมอร์เดินกลับเข้าคฤหาสน์อีกครั้ง ตอนที่อยู่ข้างนอกผมแทบจะตะลึงค้างเพราะคฤหาสน์แห่งนี้ปกคลุมด้วยเถาวัลย์ทั้งหลัง จนเกือบไม่มีเนื้อที่เหลือให้เห็นกำแพงสีขาวนวลเลย มีเพียงหน้าต่างบางบานเท่านั้นที่ยังสามารถเปิดออกได้ เมอร์ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่เพื่อที่จะเปิดประตูหน้าของคฤหาสน์ออก
“ ปกติกระผมจะใช้ทางใต้ดินเพื่อออกไปซื้อเสบียงน่ะครับ”เมอร์พูด ก่อนที่จะเดินนำผมเข้าไปในบ้าน
สถานที่ ๆ เมอร์พาผมไปเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ ซึ่งมีโต๊ะที่สามารถจุคนได้ถึง 20 คนตั้งอยู่ตรงกลางห้อง หากเพียงแต่ว่าบนโต๊ะนั้นมีเพียงคน ๆ เดียวที่นั่งอยู่ เธอคนนั้นเป็นหญิงชรา ซึ่งสามารถเดาได้ว่า 60 up ชัวร์ ๆ ผมต้องตกใจอีกครั้งเพราะหญิงชราคนนี้มีหูกับหางเหมือนผมเลย!!! เพียงแต่ว่าเส้นขนของผมจะมีสีขาวแต่ของหญิงชราจะมีสีน้ำตาลอ่อน รู้สึกว่าผมจะมีเพื่อนติดเชื้อไวรัสนี่กะเค้าด้วยแฮะ
ผมเดินไปนั่งข้างซ้ายของหญิงชราอย่างหวาด ๆ ตามคำเชื้อเชิญของเมอร์ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอหันมามองผมอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะพูดว่า
“ กินซะ เธอนอนหลับไปนานมาก คงหิวน่าดู ” โหย!!! เวลาแบบนี้ใครมันจะไปหวงกินได้เล่าคุณยายยยยย
โครก.....
โธ่เว้ยไอ้ท้องทรยศ! เห็นอาหารเป็นไม่ได้! กินก่อนก็ได้! ผมคิดอย่างหัวเสียก่อนที่จะจัดการอาหารตรงหน้า
ผมจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็วเพราะอยากรู้ความจริงทั้งหมดเร็ว ๆ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรที่ผมกินเข้า แต่มันก็อร่อยมากเลยล่ะ ผมได้แต่หวังว่าอาหารที่ผมพึ่งกินเมื่อกี้คงไม่ใช่ฝีมือของเมอร์นะ...
“ อืม...ฉันรู้ว่าเธอมีคำถามมากมายที่อยากจะถามฉัน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา? ”หญิงชราเริ่มถามขึ้นก่อน โหย! ไม่ใช่แค่ไม่ใช่คนธรรมดานะ แต่มันเล่นข้ามขั้นไปเป็นครึ่งคนครึ่งหมาเลยอ่ะยาย!
“ ครับ”ผมตอบ
“ รู้ไหมแรนดอล์ฟ ทุกคนเกิดมาล้วนมีหน้าที่”หญิงชราเริ่มเกริ่น ส่วนผมก็แทบจะหลับคาโต๊ะไปเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด ก็ไอ้เสียงเนิบ ๆ แบบนี้ไม่ต่างไปจากเสียงของอาจารย์วิชาประวัติศาสตร์เลยซักนิด
“ ชะตาชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน ต่อให้หนีแค่ไหน...ท้ายที่สุดทุกคนต่างก็ต้องรับหน้าที่ ๆ ทิ้งไว้เบื้องหลัง”เข้าญานขั้นที่หนึ่ง
“ เธอเองก็มีหน้าที่ของเธอเหมือนกันนะแรนดอล์ฟ”เข้าญานขั้นที่สอง
“ หน้าที่ของเธอก็คือ...”เข้าญานโดยสมบูรณ์แบบ
โป้ก!!!!!
ผมสะดุ้งสุดตัวก่อนที่จะรีบกุมหัวตัวเองอย่างรวดเร็วเนื่องจากโดนของแข็งอะไรซะอย่างกระแทกใส่เต็มรัก นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของหญิงชราครึ่งหมาป่าตรงหน้ามีแววโมโหอย่างเห็นได้ชัด มือข้างขวาของหญิงชรายังคงง้างค้างไว้ซึ่งผมคาดว่ามันคงจะเป็นของแข็งที่กระทบหัวผมเมื่อกี้ ผมกลืนน้ำลายเอือกอย่างห้ามไม่อยู่
“ นิสัยเหมือนพ่อเธอไม่มีผิดเลยนะแรนดอล์ฟ ไม่เคยฟังคำพูดของย่าเลยซักครั้ง”ผมนั่งเอ๋อทันทีที่หญิงชราพูดจบ ดูเหมือนสมองจะรับคำพูดเมื่อกี้ไม่ทัน หญิงชรามองหน้าผมอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะพูดว่า
“ แรนดอล์ฟ...หน้าที่ของเธอก็คือฝึกฝนตัวเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งราชันย์หมาป่า ให้สมกับเป็นทายาทของตระกูลมอร์ฟอลรัชและผู้รักษาดวงตาหมาป่า”หือ...ราชันย์หมาป่า ทายาทตระกูลมอร์ฟอลรัช ผู้รักษาดวงตาหมาป่า ตายจริง...ยายคนนี้แกจะล่อลวงผมไปเป็นผู้นำลัทธิเหรอ!!!
“ เอ่อ...ผมขอขอบคุณในความกรุณานะครับ แต่ผมคงไปเป็นผู้นำลัทธิให้คุณไม่ได้หรอก”ผมพยายามตอบให้นอบน้อมที่สุด แต่ทำไมมันเหมือนกับว่าผมยิ่งยั่วให้หญิงชราคนนี้โกรธมากขึ้นไปอีก
“ แรนดอล์ฟ รูดอล์ฟ มอร์ฟอลรัช! เธอคือลูกชายของรูดอล์ฟ ซีนดอล์ฟ มอร์ฟอลรัชลูกชายของฉัน ถ้านับกันตามศักดิ์เธอก็คือหลานชายของฉัน”เสียงของหญิงชราไม่ต่างจากเสียงของสายฟ้าฟาด ผมกระพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจ
“ เอ่อ...ผมชื่อว่าแรนดอล์ฟ วอริสครับ”คำตอบของผมทำเอาหญิงชราแทบกุมขมับ เธอสบถอะไรซักอย่างในลำคอ ซึ่งผมพอจะจับใจความได้ว่า
/ เอ๋อเหมือนพ่อไม่มีผิด /
“ ชื่อในโลกมนุษย์เธอคือแรนดอล์ฟ วอริส แม่ของเธอชื่อว่าเมแกนเนีย วอริส น้องสาวของเธอชื่อว่าอลิสเซีย วอริส พ่อของเธอก็ชื่อว่ารูดอล์ฟ วอริส แต่หลานรัก ชื่อจริง ๆ ของพ่อเธอก็คือ รูดอล์ฟ ซีนดอล์ฟ มอร์ฟอลรัช ซึ่งเขาคือทายาทผู้สืบเชื้อมอร์ฟอลรัชคนสุดท้ายของฉัน ซึ่งตระกูลมอร์ฟอลรัชคือตระกูลของราชันย์หมาป่าในอดีต”ผมอ้าปากค้างทันทีที่หญิงชราพูดจบ รู้สึกว่าเรื่องมันชักจะไม่ธรรมดาซะแล้วสิ
“ ครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมอ่ะ”ผมพูดอย่างไม่เข้าใจ หญิงชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดว่า
“ ฉันบอกแล้วไงว่า...หน้าที่ของเธอก็คือฝึกฝนเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งราชันย์หมาป่า ให้สมกับเป็นทายาทของตระกูลมอร์ฟอลรัชและผู้รักษาดวงตาหมาป่า”
ราชงราชาอะไรกันเนี่ย ยายคนนี้แกต้องเพี๊ยนไปแล้วแน่ ๆ คนอย่างผมเนี่ยนะราชันย์ กะอีแค่ดูแลตัวเองยังไปไม่รอดเลย
“ เอ่อ...ผมคงไม่มีความสามารถถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมน่ะนะหัวไม่ค่อยดี พละยิ่งห่วย แถมยังปกครองใครไม่เป็นอีกต่างหาก ”ขืนให้ไปเป็นราชันย์มีหวังพาประเทศล่มจม
“ ฉันถึงได้บอกไงว่าเธอต้องฝึกฝน” แหง่ะ...หัวดื้อเหมือนแม่ผมเลยอ่ะ
“ เอ่อ คุณส่งผมกลับบ้านดีกว่านะครับ”ผมพยายามพูดดี ๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลของหญิงชราจ้องผมอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า
“ ฉันชื่อว่ามีเรียล โคลอี้ มอร์ฟอลรัช เรียกฉันว่าคุณย่า ตอนนี้เธอกลับบ้านไม่ได้แล้วแรนดอล์ฟ เพราะเธอได้ทำพันธะสัญญาปิดเลือดแล้ว”
“ ห๊ะ”ผมร้องอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
“ พันธะสัญญาปิดเลือด ใช้กับพวกครึ่งสายเลือดที่ไม่ใช่พวกที่เลือดมีปฏิกิริยาต่อต้านกัน เช่นในกรณีของเธอคือมนุษย์หมาป่าและมนุษย์ เลือดของเธอนั้นจะไม่มีการรวมตัวว่าจะเป็นมนุษย์ หรือมนุษย์หมาป่าจนกว่าเธอจะอายุสิบแปดปี การทำพันธะสัญญาปิดเลือดจะเป็นการเร่งให้เลือดของเธอรวมตัวกันเป็นที่จะได้เป็นมนุษย์หรือมนุษย์หมาป่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งผลออกมาก็คือเธอเป็นมนุษย์หมาป่า”
“ แล้ว...แม่กับน้องของผม...ล่ะ เค้าคงเป็นห่วงผมนะ”ผมชักเริ่มพูดไม่ออกเมื่อรู้ว่าอาจจะไม่ได้หน้าแม่กับอลิสเซียอีกแล้ว คุณย่าก้มหน้านิด ๆ ก่อนจะพูดว่า
“ แม่ของเธอรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ส่วนน้องของเธอก็คงต้องรอจนกว่าจะอายุสิบแปดปีจึงจะรู้ว่าเป็นมนุษย์หมาป่าหรือไม่ ถ้าเป็นมนุษย์หมาป่าเราก็จะรีบนำตัวน้องของเธอมานี้ทันที”’
“ แต่ว่า...ผมทำไม่ได้หรอก”ผมพูดอย่างกระสับกระส่าย แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของหญิงชราที่จ้องหน้าผมนิ่งนั้นทำให้ผมหยุดค้างไปชั่วขณะ
“ ในโลกนี้ไม่มีคำว่าทำไม่ได้แรนดอล์ฟ มันมีแค่ทำกับไม่ทำเท่านั้น สงบสติอารมณ์ซะ...แล้วเธอจะได้ยินเสียงของดวงตาหมาป่า... ”
..
...แร...ล์ฟ....
...แรน...ดอ...ล์ฟ.....
...แรนดอล์ฟ!...
เฮือก!
ผมสะดุ้งตื่นพลางเกาหัวอย่างงง ๆ แสงอาทิตย์ส่องลอดบานหน้าต่างทำให้รู้ว่าตอนนี้เช้าแล้ว ผมชะงักก่อนที่จะรีบถลาไปหน้ากระจกเงา
“ กลับเป็นเหมือนเดิมแล้วววววววววววววววววววว” ผมตะโกนลั่นก่อนที่จะเต้นแร้งเต้นกาไปรอบ ๆ ห้องอย่างตื่นเต้น ไอ้หูกับหางหมาบ้านั่นหายไปแล้ว ในที่สุดผมก็กลับเป็นปกติซักที!
ผมกลับมานั่งเท้าค้างบนเตียงอย่างครุ่นคิด ก่อนที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอ้ที่กลับเป็นปกติมันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ ตามที่คุณย่าผมพูดผมต้องแปลงร่างเป็นครึ่งคนครึ่งหมาป่าทุกครั้งที่พระจันทร์ดวงใดดวงหนึ่งในสามดวงเต็มดวง แล้วถ้าวันไหนพระจันทร์ทั้งสามดวงเต็มดวง วันนั้นผมก็ต้องกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าเต็มตัว คิดแล้วก็...เฮ้อ...
ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ความเครียดก่อนที่จะเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ จ้องหน้าตัวเองในกระจกเงาอีกครั้งเพื่อความชื่นใจ หลังจากที่เกือบบ้าตายทั้งคืนเพราะไอ้หูบ้านั่นดันดีเกินมนุษย์ทำให้ได้ยินเสียงนู้นนี้ไม่หยุด กว่าจะหลับได้ก็ปาไปเกือบเช้า
“ คุณหนูครับ...ได้เวลารับดวงตาหมาป่าแล้วขอรับ”เสียงแหบแห้งของเมอร์ดังขึ้นเล่นเอาผมเกือบกลิ้งตกเตียง ผมค้อนเค้านิด ๆ เล่นโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้มีหวังผมหัวใจวายตายกันพอดี
“ เอ่อ...ผมยังไม่พร้อม” ผมพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ เมอร์ก้มตัวนิด ๆ ให้ผมก่อนทีจะพูดด้วย่าทางนอบน้อม
“ ผมเสียใจขอรับคุณหนู คุณท่านสั่งมาว่าถ้าคุณหนูขัดขืนให้ใช้กำลังได้เลยขอรับ” เท่านั้นแหละผมก็ต้องยอมตามเมอร์ไปแต่โดยดี...
ห้องที่เมอร์พาผมมานั้นเป็นห้องใต้ดินที่อยู่ใต้คฤหาสน์ ประตูขนาดยักษ์ของมันถูกแกะสลักเป็นลวดลายต่าง ๆ ที่ถ้าผมเดาคงเป็นตำนานเกี่ยวกับมนุษย์หมาป่าแหละ เมอร์ใช้มือข้างเดียวกระชากประตูยักษ์เปิดอย่างง่ายดาย ห้องนั่นเป็นห้องมืด ๆ ที่มีทางเดินหินสีเท่าหม่นปูยาวไป ทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในห้องคบไฟสองข้างทางก็ลุกพรึ่บขึ้นมา ผมจึงได้รู้ว่าข้างทางเดินทั้งสองด้านนั้นมีรูปปั้นรูปมนุษย์หมาป่าตั้งเรียงสลับคบเพลิง ผมหันมามองเมอร์อย่างงง ๆ เมืองไม่เห็นเขาก้าวเข้ามาในห้อง
“ ผมมีหน้าที่นำทางคุณหนูมาที่ห้องพิธีเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของคุณหนูที่จะเริ่มพิธี...
พูดจบเขาก็ปิดประตูห้องทันที ผมพยายามวิ่งไปที่ประตูแต่ก็ไม่ทัน ทันทีท่ผมสัมผัสประตูผมก็รู้ว่ามันหนักแค่ไหน
“ เมอร์! ปล่อยผมออกไปนะ!” ผมพูดพลางเคาะประตูอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ดูเหมือนว่าเมอร์จะไปแล้ว ผมหันกลับไปมองทางเดินที่บัดนี้สว่างไสวด้วยแสงไฟของคบเพลิงอย่างอยากรู้ ไอ้พิธีที่เมอร์นั่นเป็นอะไรอ่ะ
สุดปลายทางเดินนั้นเป็นแท่นบัลลังก์ซึ่งถูกสร้างมาจากหิน ผมเดินไปที่แท่นบัลลังก์อย่างงงนิด ๆ
...แรน...........ดอล์ฟ...
“ หือ...เสียงอะไรอ่ะ”ผมพูดอย่างหวาด ๆ นัยน์ตามองแทนพิธีอย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ แต่เท้ากลับไม่หยุดเดิน
กล่องไม้เล็ก ๆ ถูกตั้งไว้บนเก้าอี้ที่ตั้งไว้เป็นแท่นบัลลังก์ ผมหยิบมันขึ้นมาดูอย่างไม่ค่อยแน่ใจ บนกล่องไม้นั้นมีภาษาประหลาดสลักไว้อย่างประณีต
...หากจะสู้...จงเปิดออก...หากผมแพ้...จงหลีกหนี...ทางเดินเป็นของเจ้า...
เสียงประหลาดนั้นพูดกับผมเล่นเอาผมผวาทำกล่องนั้นตกลงบนเก้าอี้ เสียงประตูทางเข้าถูกดังเอี๊ยดอ๊าด ผมหันกลับไปมองตรงทางเดินก่อนที่แทบจะร้อยเย้ออกมาดัง ๆ เพราะตนอนนี้ประตูเปิดแล้ว ผมจัดการวิ่งไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องหยุดชะงักไป
ผมกำลังลังเล...อา...ผมเกลียดความรู้สึกแบบนี้ชะมัด ผมอยากรู้...อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง ผมหันกลับไปที่กล่องอย่างไม่แน่ใจ ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าถ้าเปิดกล่องนั่นออกชีวิตของผมจะไม่สามารถกลับมาเป็นแบบเดิมได้ตลอดกาล...
ถ้าของผมก้าวเดินไปหากล่องนั่นช้า ๆ นี่ผมกำลังปล่อยให้ความอยากรู้เข้าควบคุมร่างกายเหรอ??? ความอยากรู้ไม่ใช่เหรอที่จะพาเหล่าคนโง่ลงสู่ความตาย??? ไม่! มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกอยากรู้อย่างเดียวหรอก แต่มันมีบางอย่างบังคับให้ผมเข้าหาเจ้ากล่องนั้น ความรู้สึกบางอย่างที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน...
ผมเอี้อมมือ อันสั่นเทาไปเปิดกล่องนั่นช้า ๆ ทันทีที่ผมแง้มมันออกแสงสีทองก็ส่องออกมาจากกล่อง ผมเปิดมันให้อ้าเต็มที่ก่อนที่แสงสีทองจะสว่างไสวจนผมตาพร่าไป ผมรีบหลับ ก่อนที่จะกรีดร้องออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ ๆ ก็รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังแทรกซึมเข้าสู่หน้าผากของผม มันเหมือนเอามีดมากรีดเนื้อแล้วยัดอะไรเข้าไปในรอยแผลที่กรีดนั้น ผมรู้สึกเจ็บจนน้ำตาซึม แสงสีทองค่อย ๆ จางลงจนหายไปในที่สุด พร้อม ๆ กลับความรู้สึกเจ็บหน้าผากที่หายไปเป็นปลิดทิ้ง
“ เกิดอะไรขึ้น”ผมพูดอย่างงง ๆ ก่อนที่จะหันกลับไปที่ทางเดิน คุณย่ากับเมอร์กำลังยืนยิ้มมาให้ผม ผมอดที่จะเกาหัวแกรกอย่างงง ๆ ไม่ได้
“ ตอนนี้เธอคือ...แรนดอล์ฟ รูดอล์ฟ มอร์ฟอลรัช...ทายาทตระกูลมอร์ฟอลรัช...และว่าที่ผู้นำตระกูลคนที่ 17...หรืออีกนัยหนึ่งตอนนี้เธอคือว่าที่ราชาแห่งมนุษย์หมาป่าเต็มตัวแล้ว...”ความพูดของย่านั้นก้องกังวานไปทั่วห้อง
“ ห๋า!”ผมร้องตะโกนเสียงดังก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง โดยที่หารู้ไม่ว่าไอ้สิ่งที่ผมนั่งนั้นคือแท่นบัลลังก์!
“ เริ่มต้นไม่เลวหลานรัก แท่นบัลลังก์นั่นสักวันยังไงเธอก็ต้องได้ขึ้นนั่งอยู่แล้ว ” ย่าพูดพลางยิ้มมุมปากให้ผม ส่วนผมก็รู้สึกขนลุกขนพองอย่างอดไม่ได้ แค่ชั่วข้ามคืน...ชีวิตของผมกลับแปรเปลี่ยนได้อย่างเหลือเชื่อ! ผมแทบจะมองเห็นอนาคตที่วุ่นวายออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วสิ...
..................................................................
ความคิดเห็น