ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Randolph The King Of Wolf (Old)

    ลำดับตอนที่ #7 : ผู้อำนวยการสกูร ลาร์ค

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 48






        ผมกลับเข้ามาอยู่ในห้องประชุมอีกครั้ง  มันยังคงดูเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด   เพียงแต่ว่าวันนี้มันกลับแน่นขนัดไปด้วยนักเรียน  ที่นั่งตามเก้าอี้ที่รูปร่างเหมือนเก้าอี้ที่ตั้งตามโบสถ์  ผมเลือกนั่งที่กลาง ๆ  เอ่อ...ไม่น่าจะเรียกว่าเลือกนะ   ที่จริงผมถูกเซลเดเรี่ยนลากมามากกว่า   ท้ายที่สุดผมก็ต้องนั่งกลางวงล้อมของนักเรียนกลุ่มพิงค์ (ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิง)   คุณเธอทั้งหลายชอบหันมาแอบมองเจ้าเซลเดเรี่ยนบ่อย ๆ แถมยังหัวเราะคิกคักอีกต่างหาก   ไม่รู้ว่าหมอนี่มันหน้าตาดีตรงไหน!  



        “ นี่ ๆ เธอดูอาจารย์ที่นั่งตรงกลางคนนั้นสิ  หล้อ หล่อ อย่างกับเทพบุตรเลยอ่ะ! ” เสียงกระซิบกระซาบของเด็กผู้หญิงกลุ่มพิงค์ดังขึ้นข้าง ๆ ผม   ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะ!  แค่ได้ยินเฉย ๆ (แล้วมันต่างกันตรงไหน)



        “ ว้าย!  หล่อจริง ๆ ด้วย  กรี๊ด~ ”เสียงของสาวน้อยอีกคนร้องขึ้นเบา ๆ จนผมอดใจไม่ได้    สาว ๆ โรงเรียนนี้เป็นอะไรไปหมด  เค้าส่งมาเรียนนะ!  ไม่ได้ส่งมาจีบหนุ่ม!  ไหนดูสิว่าจะหล่อสักแค่ไหน



        “..................................”



        “...............................................”



        “..........................................................”



        ท่ามกลางบรรดาอาจารย์ที่นั่งบนเก้าอี้ที่เรียงแถวหน้ากระดานบนเวที  มีอาจารย์คนหนึ่งที่ส่องรัสมีเจิดจ้า(กลบเพื่อนหมด)  อาจารย์คนนั้นหล่อจริง ๆ     ไม่ตองแปลกใจเลยว่าทำไมสองสาวคนนั้นถึงได้กรี๊ดนักกรี๊ดหนา   นัยน์ตาสีนิลกาฬลึกล้ำ  ผมสีดำขลับยาวละต้นคอ   ใบหน้าคมเรียวยาวดูดุดันและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน  ไหล่กว้าง  หลังตรง  ท่าทางดูไม่เฉื่อย   ผมว่าอาจารย์คนนี้ต้องไม่ใช่คนแน่!  เพราะแค่หน้าตาก็เกินมนุษย์แล้ว (- -“)



        “ หน้าตาไม่เลวนี่น่า ” ขนาดเจ้าเซลเดเรี่ยนยังอดชมไม่ได้เลย   เห็นไหมผมบอกแล้วไงว่าอาจารย์คนนี้หล่อจริง ๆ   เฮ้ย!   งั้นเมื่อกี้มันก็แอบฟังสองสาวคนนี้คุยกันเหมือนผมอ่ะดิ!



        “ ก็หล่อดี ” เสียงเรียบนิ่งเสียงอีกหนึ่งดังขึ้นเล่นเอาขนของผมตั้งชันอย่างกับเจอผี   ผมสาบานได้เลยว่าตอนแรกผมไม่เห็นหมอนี่  ไม่เห็นจริง ๆ นะ!!!  แต่ไหงอยู่ดี ๆ ถึงโผล่มานั่งหน้าผมได้ฟ่ะ  ผมเหลือบตามองโซเล็ม  หมอนี่ดูสยองน้อยกว่าเมื่อวานเยอะ (พอดีว่าเมื่อวานชุดขาวของหมอนี่มันแต่งแต้มด้วยอะไรซักอย่างที่สีแดง   ทำให้มีร่างกายของผมหลั่งสารบางอย่างที่บอกว่า ‘ห้ามเข้าใกล้หมอนี่เด็ดขาด!’) เสื้อคอปกกับกางเกงขาวยาวสีขาวดูเข้ากันกับเสื้อนอกสีดำประจำกลุ่มดาร์กได้อย่างน่ากลัว (น่ากลัวจริง ๆ นะ)   ถ้าใบหน้านิ่งเฉยนั้นแสดงความรู้สึกซักนิด   โซเล็มคงเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาว ๆ ที่ชอบของแปลกแน่! (นี่ตกลงจะด่าหรือชม! :  เซน่าจัง)



        “ อ้าว!  โซเล็ม  มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ”เซลเดเรี่ยนทักอย่างเป็นกันเอง   ไม่รู้สึกแปลกใจเท่าที่ควรเพราะไอ้บทสนทาของสองคนนี้ยังคงตราตรึงในหัวใจของผม   แบบว่าแน่นฝังติดจนขุดไม่ออกเลยล่ะ



        “ ก็ตั้งแต่พวกนายแอบฟังนักเรียนกลุ่มพิงค์คุยกันนั่นแหละ ”โซเล็มพูดหน้าตาเฉย   เด็กสาวที่กลุ่มพิงค์ที่นั่งข้างผมหันมาค้อนให้ผมวงโต  (ง่ะ!  แถมค้อนแต่ผมคนเดียวด้วย)



        “ ฮะ ๆ ๆ นายนี่ยังนิ่งเหมือนเดิมนะ  แรนดอล์ฟ  ฉันอยากเห็นอาของนายไว ๆ จัง   จากที่ฉันรู้มา  อาของนายเป็นพวกลึกลับ   แม้แต่ครอบครัวยังไม่เคยเปิดเผยมาก่อน   แถมยังเป็นคนที่มีพิษรอบด้านอีกต่างหาก  นายคงได้เรียนรู้จากอาของนายมาเยอะใช่ไหมแรนดอล์ฟ ”



        “ แหะ ๆ ” ผมหัวเราะแห้ง ๆ รู้สึกอยากจะตอบเซลเดเรี่ยนไปว่า ‘เค้าก็สอนฉันเยอะเมือนกัน   แต่สิ่งที่ฉันจำได้ขึ้นใจก็คือคำพูดของเขาในจดหมายที่ฉันได้เมื่อวาน   รู้ไหมเค้าอุตสาห์บอกว่าที่ฟิแลนเดอร์มีที่ซ่อนดี ๆ เยอะ  หาที่เหมาะ ๆ ซักที่แล้วซ่อนตัวซะ  ถือซะว่าเป็นการฝึกก็แล้วกัน  ฮะ ๆ ๆ เค้าหวังดีกับฉันจริง ๆ นั่นแหละ!!!!’



        “ ชั้นเคยได้ข่าวว่าเค้าเป็นเพื่อนสนิทกับรูดอล์ฟผู้ถือดวงตาหมาป่าคนสุดท้าย ” โซเล็มพูดอย่างเรียบนิ่ง    ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมหมอนี่มันรู้มากเหลือเกิน      



        “ ชั้นอยากลองสู้กับอานายสักครั้งดู ”เซลเดเรี่ยนพูดนัยน์ตาสีม่วงมีแววประกายกล้า   หมอนี่ไม่ใช่คนแน่ ๆ



        “ แต่นายคงไม่มีโอกาศหรอก ”โซเล็มพูดนิ่ง ๆ   ส่วนเซลเดเรี่ยนก็พ่นลมอย่างเซ็ง ๆ   เมื่อกี้หมายความว่าไงอ่ะ!  



        แสงไฟในห้องประชุมเริ่มหรี่ลง  นักเรียนในห้องประชุมต่างเงียบกริบอย่างรวดเร็ว   แสงไฟบนเวทีสว่างจ้าขึ้น  ชายที่ผมชมว่าหล่อเมื่อกี้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมายืนกลางเวที   เรียวปากของเขาคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรให้นักเรียนก่อนที่จะพูดว่า



        “ ยินดีต้อนรับสู่ฟิแลนเดอร์  ชั้นคือผู้อำนวยการสกูร  ลาร์ค  จะเรียกสั้น ๆ ว่าท่านลาร์คหรือท่านผู้อำนวยการก็ได้  แล้วแต่ตามใจเธอ ” เดี๋ยวก่อนนะ  ถ้าคน ๆ นี้คือผู้อำนวยการสกูร  ลาร์ค  งั้นก็หมายความว่าเค้าเป็นอาของผมอ่ะดิ!  



        “ เอาล่ะ!  ไม่ต้องเครียด  ชั้นจะเริ่มชี้แจงกฎสามสี่ข้อให้เธอพวกเธอฟังก็แล้วกัน   บางทีพวกเธออาจจะรู้จากอาจารย์ท่านอื่น ๆ แล้ว  แต่ยังไงก็ช่วยฟังท่านลาร์คคนนี้ด้วยนะ ” ผมเช็ดเหงื่อเบา ๆ   คน ๆ นี้นิสัยที่แท้จริงเป็นยังไงนะ   ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอาของผมจะหนุ่มขนาดนี้



        “ ข้อแรกเลยนะ  ในแต่ละภาควิชาห้ามขาดเรียนเกิน 7 ครั้ง  ไม่งั้นจะโดนปรับตก   ถ้ามีปัญหาไม่สามารถเรียนได้ก็ต้องยื่นขออนุญาตกับอาจารย์ประจำภาควิชา   ถ้าเธอถูกปรับตก   ทางเดียวที่จะแก้ได้ก็คือเรียนอีกปี!  ยกเว้นถ้าเกิดเธอสอบไม่ผ่านเธอจึงต้องรอสอบครั้งต่อไป    สองก็คือห้ามสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น  เพราะเราควรอยู่กันอย่างเกรงใจซึ่งกันและกัน  สามห้ามฆ่ากันตายเพราะชั้นไม่อยากตาเช็ดเลือดพวกเธอ   ยกเว้นตอนงานแข่งทักษะการต่อสู้ประจำโรงเรียน  ซึ่งเราอนุญาตให้สามารถสู้ได้ทุกรูปแบบ ” ท่านผู้อำนวยการพูดอย่างรวดเร็ว  รู้ไหม  เกิดมาผมเพิ่งเคยเจอโรงเรียนที่มีกฎอย่างนี้   โรงเรียนเก่าของผม   เหอะ ๆ อย่าให้บอก  กฎบ้ากฎบออะไรไม่รู้เยอะแยะจนจำไม่หมด



        “ ต่อมาชั้นจากจะบอกพวกเธอเกี่ยวกับกิจกรรมพิเศษในโรงเรียน   กิจกรรมแรกก็คือเราอนุญาตให้นักเรียนลงไปเที่ยวที่เมืองฟิแลนเดอร์ทุกวันเสาร์และอาทิตย์   โดยประตูหน้าจะเปิดตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์จนถึงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์  ซึ่งหากเธอมาช้ากว่านี้ทางเดียวที่เธอจะสามารถเข้าโรงเรียนได้ คือใช้ประตูหลังซึ่งในบริเวณเขตหวงห้าม   ซึ่งกว่าจะถึงประตูพวกเธอต้องผ่านป่าเวียรลินที่เธอใช้ในการทดสอบเข้าโรงเรียนนะ ” ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ  แต่เด็กสาวกลุ่มพิงค์ที่นั่งข้าง ๆ ผมมีอาการตัวสั่นทันทีที่อาผมพูดคำว่า ‘ป่าเวียรลิน’



        “ จะมีกลุ่มกิจกรรมอื่น ๆ ให้เลือกอีก  ซึ่งแล้วแต่เธอจะเลือกทำก็แล้วกัน   แต่ที่พวกเธอจะพลาดไม่ได้ก็คือการแข่งทักษะการต่อสู้ซึ่งเป็นงานประจำโรงเรียนเรา   จะมีนักเรียนจากหมู่บ้านอื่นมาแข่งด้วย   รางวัลปีนี้ก็คือดาบแบล็คไวท์   เงินรางวัล  และเราอนุญาติให้นักเรียนคนนั้นผ่านขั้นที่ 2 ของทุกวิชาดโดยไม่ต้องสอบ อย่าลืมสมัครเข้ามากันเยอะ ๆ ล่ะ ”เสียงกระซิบกระซาบอย่างตื่นเต้นดังขึ้นทั่วห้องประชุม   ดูท่าทางมันจะเป็นงานที่น่าสนใจจริง ๆ ล่ะ  แต่ผมคงไม่เข้าร่วมแน่



        “ เรื่องสุดท้ายที่ชั้นจะพูดในวันนี้ก็คือเรื่องของวันทดสอบ ” ผู้อำนวยการทำหน้าเครียดขึ้น “ นักเรียนที่เข้าทดสอบอย่างกังวลเรื่อชายชุดดำไปเลย  เพราะพวกเธอไม่ใช่เป้าหมายของพวกนั้นแล้ว  ที่ชั้นจะเตือนก็คือนักเรียนที่ได้สิทธิ์พิเศษไม่ต้องสอบเข้า   เพราะพวกมันจะพุ่งเป้ามาที่พวกเธอแทน ” ทั้งห้องเงียบกริบ   ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบ   ง่ะ  ลางสังหรณไม่ดีเลย



        “ เอาล่ะ!  ขอให้สนุกกับฟิแลนเดอร์!  เจอกันใหม่วันพุธหน้าเวลาห้าโมงครึ่ง  เลิกประชุมได้! ” นักเรียนต่างพากันลุกขึ้นและทยอยกันออกจากห้องประชุมไป   ผมนั่งรอให้คนอื่น ๆ ออกไปหมดก่อน  



        “ อาของนายท่าทางใจดีนะ ”โซเล็มพูดขึ้น  ไม่รู้เหมือนกันนะ   ถ้าพิจารณาจากข้อความในจดหมาย   ผมรู้สึกรับไม่ได้ยังไงไม่รู้  



        “ ชั้นว่าพวกเรากลับห้องเถอะ ”เซลเดเรี่ยนพูดพลางลุกขึ้น  ผมกับโซเล็มลุกขึ้นตาม   แต่ดูเหมือนว่าบุญผมมันจะน้อยไป  เพราะไม่ทันที่ผมจะได้เดินออกจากห้องประชุม  เสียง ๆ หนึ่งก็ดันมาขัดเสียก่อน



        “ แรนดี้  เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ” ผมเงยขึ้นเพื่อที่จะได้มองหน้าคนที่เรียกผมชัด ๆ   ใบหน้าเรียวได้รูปนั้นคลี่ยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร  นัยน์ตาสีดำขลับดูอ่อนโยน   ผู้อำนวยการสกูร  ลาร์ค อาของผมกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผม!   ผมรู้สึกงงเป็นไก่ตาแตกเพราะอยู่ ๆ เขาก็มายืนอยุ่ข้าง ๆ ผมเฉย (ทำตัวเหมือนโซเล็มไม่มีผิด)   ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ผมรู้สึกเสียวสันหลังยังไงไม่รู้



        “ เอ่อ...คือ ” ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก  โอ้ย!  จะพูดไรดีเนี่ย!



        “ อาดีใจจริง ๆ ที่แรนดี้น้อยของอายอมมาเรียนที่ฟิแลนเดอร์ ” อาของผมซับน้ำตาเบา ๆ (- -|||) อย่างซาบซึ้ง  ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผมถึงได้รู้สึกเสียวสันหลัง   ใครก็ได้ช่วยผมออกไปจากที่นี่ที!  พระเจ้าได้โปรดเอาชีวิตผมไปเถอะ!  ดีกว่าที่จะทิ้งให้ผมอับอายอยู่บนโลกที่แสนเศร้าแห่งนี้ (ชักจะเพี๊ยนไปใหญ่แล้วนะ : เซน่าจัง)



        “ พวกเธอสองคนเป็นเพื่อนแรนดี้ใช่ไหม ”อาของผมมุ่งเป้าไปยังเซลเดเรี่ยนกับโซเล็ม   โอ้!  แม่เจ้า  ผมอยากเอาหน้ามุดดินเสียจริง ๆ



        “ ฝากแรนดี้ด้วยนะ  หลานตัวน้อยของชั้นไม่เคยเหยียบย่างออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว   อยู่ในอ้อมอกของย่ากับแม่มาตลอด  แม้แต่ยุงก็ยังอดที่จะได้ไต่ตอมของแรนดี้เลย   ยังไงซะก็ช่วยเหลือแรนดี้เค้าบ้างล่ะ ” ไม่จริง!   ผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคนตรงหน้าเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน   โอ้ย  อยู่ก็หล่อ  ท่าทางก็ฉลาด  แต่ทำไมนิสัยถึงได้......ขนาดนี้ (ไอ้....นี้ใส่เอาเองละกัน)  โซเล็มและเซลเดเรี่ยนยืนอึ้งค้าง (ท่าทางจะช็อคไม่แพ้ผม)  



        “ โธ่  หลานรักของอา  ดีใจจนพูดไม่ออกเลยเหรอ ”อาหันมาพูดกับผม   ถูกต้อง  ผมพูดไม่ออกจริง ๆ แหละ  



        “ นี่ล่ะนะแรนดี้ของอา  ถึงจะ 15 แล้วก็ยังเป็นเด็กเหมือนสมัยก่อนไม่มีผิด   แต่ก่อนเวลาอาไปหาที่ไรเราต้องร้องไห้ทุกที ” ตอนนี้ผมก็อยากร้องไห้เหมือนกันครับ (ร้องไห้เพราะสงสารตัวเอง)  ชีวิตผมทำไมถึงได้รันทดขนาดนี้  มีย่า  ย่าก็โหดแสนโหด   มีคนรับใช้  คนรับใช้ก็เคี่ยวแสนเคี่ยว  มีอา  อาก็......   แล้วนี้ถ้าผมมีพ่ออีก  เฮ้อ   ผมไม่อยากนึกภาพเลย



        “ ระวังตัวไว้ล่ะ  พรุ่งนี้  ผู้ล่าจะออกล่าอีกครั้ง  ที่ ๆ อันตรายที่สุดจะเป็นที่ ๆ ปลอดภัยที่สุด   จำไว้  แต่อย่าลืมใช้สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ล่ะ ”  อาของผมพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับลูบหัวผมเบา ๆ  ก่อนที่จะเดินออกไป   เฮ้อ  พูดอะไรเป็นปริศนา  ผมล่ะเซ็งจริง ๆ     เมื่ออาของผมเดินออกจากห้องประชุมแล้ว  เซลเดเรี่ยนก็หัวเราะก๊ากขึ้นมาทันที  



        “ อุบ!  ฮ่า ๆ ๆ ๆ ทนไม่ไหวแล้ว  โธ่ ๆ แรนดี้น้อยผู้น่าสงสาร   แม้แต่ยุงก็ยังอดที่จะได้ไต่ตอมแรนดี้  หึหึหึหึ  โอ้ย!  ปวดท้อง ” ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อกี้เซลเดเรี่ยนถึงได้ไม่พูดอะไรเลย   เพราะหมอนี่มัวแต่กลั้นหัวเราะจนพูดอะไรไม่ออก  



        “ ผู้ล่าจะออกล่าอีกครั้ง   อืม...พรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวง   นายเป็นนักเรียนที่ได้รับสิทธิ์พิเศษไม่ต้องทดสอบเข้าเรียน  งั้นก็แปลว่าพวกชุดดำจะเริ่มบุกโจมตีนาย ” โซเล็มพูดขึ้น  ผมรู้สึกโหวง ๆ ในท้อง   พรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวง   ฝันร้ายกำลังจะหวนมาอีกครั้งแล้วอ่ะ  



        “ พวกนั้นคือใครเหรอ ”ผมถาม  อย่างน้อยรู้ว่าศัตรูเป็นใครก็ดีเหมือนกัน   แต่คงไม่เป็นไรหรอก  อย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกสามคน (ลูสเชอร์  ลิสเชอร์  และเวย์)



        “ พวกที่รวบรวมตราห้าเผ่าอยู่  ‘กลุ่มนักรบใต้เงา’  เป็นนักสู้ฝีมือเยี่ยมระดับ x เลยล่ะ ” ตราห้าเผ่า  อย่าบอกนะว่าไอ้พวกนี้มันจะมาแย่งดวงตาหมาป่าจากผมอ่ะ!  แล้วไอ้ระดับ x อะไรอีก  ยิ่งพูดยิ่งงงวุ้ย!  แง้!  งานนี้เละแน่  (ผมอ่ะเละชัวร์ ๆ)



        “ อืมจริงด้วยสินะ  ได้ข่าวมาแว่ว ๆ ว่ามีนักเรียนที่เป็นมนุษย์หมาป่าแฝงตัวเข้ามาเรียนที่ฟิแลนเดอร์   สงสัยพวกนั้นคงมาตามหาทายาทมนุษย์หมาป่ามั้ง  อยากรู้จังว่าหมอนั่นเป็นใคร ” เซลเดเรี่ยนพูดขึ้นมาลอย ๆ เล่นเอาเหงื่อผมไหลไม่หยุดเลย  เย็นไว้แรนดอล์ฟเอ๋ย  โอ้ย  เครียด! (เครียดมาก ๆ ระวังกระเพาะจะถามหาเน้อ : เซน่าจัง)    



        “ เอ่อ  นายรู้ได้ไง ”ผมถาม  อยากรู้จริง ๆ ว่าไอ้หน้าไหนมันปล่อยข่าวเรื่องผมออกไป



        “ ได้ยินจากคนรู้จักน่ะ ”เซลเดเรี่ยนพูดยิ้ม ๆ แต่รอบยิ้มครั้งนี้ของเขาดูเย็นชายังไงไม่รู้   โห  อะไรมันจะทายแม่นปานนั้น



        “ ช่างเหอะ  เรากลับห้องดีกว่า ”โซเล็มพูดตัดบท   ก่อนที่จะเดินนำหน้าไป   เซลเดเรี่ยนยิ้มแบบเจ้าเล่ห์นิด ๆ ก่อนจะพูดว่า



        “ คุณชายขอรับ  เชิญเสด็จ  ผมจะค่อยระวังไม่ให้ยุงมาไต่มาตอมท่านได้ขอรับ อุบ  ฮ่า ๆ ๆ ๆ ” ไอ้หมอนี่ยังไม่เลิกล้อเลียนผมอีก  คอยดูนะ!  ซักวันผมจะเย็บปากไอ้หมอนี่ให้ได้!  ซักวัน! (จ้า ๆ  เซน่าจะคอยดู : เซน่าจัง)



    ......................................................................



        ท่ามกลางความมืดมิดอันเปล่าเปลี่ยว  กลุ่มคนในชุดดำต่างพากันมารวมใต้ต้นไม้ใหญ่กลางป่า ‘เวียรลิน’   ผู้ที่ท่าทางน่าจะเป็นหัวหน้าเก้าออกมายืนกลางวงล้อมของชายชุดดำ   ใบหน้าของเขาถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากสีขาวเป็นรูปใบหน้าของตัวตลก  ในมือของเขามีสร้อยคอที่มีจี้สีเป้นหินสีทองส่องประกายสว่างจ้า  ข้าง ๆ ชายหนุ่มมีหญิงสาวสวยคนหนึ่ง   ใบหน้าของเธองดงามราวกับเทพธิดา  แขนเรียวงามของเธอถือขลุยไม้เหลาอย่างดีไว้  



        “   ดวงตาแห่งหมาป่า  พิณวารี  ดอกมูลไลท์  อีกแค่สามอย่างเท่านั้นแล้วชั้นก็จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่!   ฮ่า ๆ ๆ  ”





    ........................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×