ลูกรัก เราไม่ต้องสนใจเหล่าตัวเอกหรอก - นิยาย ลูกรัก เราไม่ต้องสนใจเหล่าตัวเอกหรอก : Dek-D.com - Writer
×

    ลูกรัก เราไม่ต้องสนใจเหล่าตัวเอกหรอก

    เข้ามาในนิยายน้ำเน่าก็ดีเหมือนกันเเฮะร่างบางยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสบายๆส่วนในอ้อมเเขนอีกก็คอยอุ้มลูกหมูตัวน้อยเอาไว้ " ชู่ว นอนนะเด็กดี เอ่เอ๊ "พวกนั้นจะทำให้หมูน้อยของเขาตื่นพูดเบาๆกันไม่ได้รึไง

    ผู้เข้าชมรวม

    772

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    772

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    27
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 พ.ค. 64 / 19:15 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                        ??“‘??“???“???“? 

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ร่างบางในชุดนอนสีเทาขยับพลิกตัวไปมาอย่างลำบากความคับเเคบเเปลกๆทำให้ชายหนุ่มจำต้องเปิดเปลือกตา สิ่งที่เห็นคือภาพสีดำมืดตรงหน้าทำให้เบลต้องขยี้ตามองอีกรอบ ไอ้เหี้_ ห้องเขาโดนตัดไฟหรอวะ ขาเรียวตวัดลงจากเตียงเพื่อจะเดินไปหยิบไฟฉายเเต่ยังไม่ทันที่จะยกขาเขาก็รู้สึกเหมือนร่างตังเองกำลังตกจากที่สูง 

    "  เเม่ร่วง ! "  ร่างเล็กกลิ้งหลุนๆ เหมือนลูกบอลหิมะนัยย์ตาสีเหลืองอำพันหลับเบิกกว้างจนเเทบจะถลนออกมา

    พึบ ! 

    ทุกอย่างกลับเข้าสู่โหมดปกติชายหนุ่มหน้าหวานจึงค่อยๆยันตัวขึ้นมาเสียงนกร้องจิ๊บๆ เเละเสียงน้ำไหลจากลำธารทำให้เบลต้องหันไปมองรอบๆอย่างตกใจ ที่นี่มันเหมือนป่าเเต่ก็ไม่เชิงว่าป่าเพราะจะเป็นสนามหญ้าโล่งๆ มีบ้านสไตล์อังกฤษตั้งอยู่กลางสนาม รอบๆตัวบ้านถูกประดับตกเเต่งไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ สวนด้านหลังจะเป็นป่าดูร่มรื่นต้นไม้ทุกต้นเป็นพันธุ์หายากทั้งหมด

    ​​​​คิ้วสวยขมวดเป็นปมเเน่นพร้อมกับกวาดดวงตาไปมาอย่างระเเวง เขาฝันอยู่หรอมือเรียวขาวตบใบหน้าตัวเองเบาๆ ก็เจ็บนะ เเสดงว่าไม่ได้ฝันเเล้วที่นี่มันที่ไหนกัน ฮัลโหล..... 


    " ยินดีที่ได้รู้จัก เบล " เสียงหวานนุ่มที่มาพร้อมกับร่างของหญิงสาวร่างเพรียวเธออยู่ในชุดราตรีฟูฟ่องราวกับเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากนิยายซักเรื่อง 


    เบลก้าวถอยหลังอย่างระเเวงเเขนเรียวยกขึ้นตั้งการ์ดเตรียมต่อสู้ ใครกันนะ เเล้วทำไมถึงรู้จักชื่อเขากัน เเต่งตัวเหมือนจะไปดิสนีย์หรอเป็นเจ้าหญิงอะไรนะใส่ชุดสีขาว สโนว์ไวท์กับรองเท้าเเก้วเเน่ๆ 


    หญิงสาวกลั้วหัวเราะอย่างขำขันกับความคิดของอีกฝ่าย ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะไม่เเปลกที่โลกก่อนจะมีผู้ชายตามจีบมากมายขนาดนั้น ฮันน่าสะบัดมือหนึ่งทีโต๊ะเก้าอี้น้ำชาก็วางอยู่บนพื้นเรียบร้อยเเล้ว 

    " ว้าว มายากลหรอ " ร่างบางเอียงคอมองสิ่งของที่ปรากฏออกมา 

    "  ไม่ใช่ เอาล่ะมาคุยกันเบล ข้าชื่อ ฮันน่า เป็นเทพเเห่งความศรัทธา " หญิงสาวจูงมือพาอีกฝ่ายมานั่งลงที่เก้าเเล้วรินชาฝรั่งหอมกรุ่นส่งให้


    " ขอบคุณครับ "


    " เบล ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า เจ้าเคยเชื่อเรื่องความรักหรือไม่ "

    ร่างบางสะอึกเล็กน้อยก่อนที่จะวางเเก้วชาสีสวยลงใบหน้างามเเหงนมองท้องฟ้าอย่างคิดหนัก จะให้เขาตอบว่าอะไรดี ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อเรื่องความรักเเต่เขาไม่ต้องการความรักต่างหากเหมือนพ่อกับเเม่เขาที่ต้องเเต่งงานกันเพราะการคลุมถุงชนพอคลอดเขาพ่อกับเเม่ก็หย่ากันต่างฝ่ายต่างไปมีใหม่ เเม่เลี้ยงเขามาด้วยสองมือเพียงลำพังไม่ได้ขอเงินจากคุณตาเลยซักครั้งพอเขาอายุได้เจ็ดขวบก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อคนที่เเม่เเต่ง งานด้วยเเอบไปมีเมียน้อย เขาบอกว่าที่เเต่งกับเเม่ก็เพราะเงิน เเม่เขาเสียใจมากที่ได้ยินเเบบนั้นเพราะท่านเองก็เชื่อมาตลอดว่าผู้ชายคนนั้นรักท่านจริงเเต่เปล่าเลย คืนนั้นเเม่ก็เก็บของพาเขาออกจากบ้านหลังนั้นหลังที่ท่านสร้างเขาอยู่กับเเม่ที่ชานเมืองเรียนที่นั้นจนจบม.ปลาย เเม่ป่วยหนักเเล้วก็จากเขาไปทุกวันก่อนที่เเม่จะป่วยเขาเห็นท่านนั่งร้องไห้ทุกคืนเอาเเต่โทษตัวเองว่าไม่เคยทำให้ลูกซึ่งก็คือเขา มีความสุขเหมือนครอบครัวอื่นเพียงเพราะหาพ่อที่ดีให้เขาไม่ได้ ตั้งเเต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยอยากได้ความรักจากใครเลยเขาเเค่ต้องการอยู่อย่างสงบๆ ไม่ดิ้นรนเเละไม่โหยหา มีเพียงเเม่เท่านั้นที่เขาต้องการ ความรักที่รักกันเพียงฉาบฉวยเเบบนั้นหรอเขาไม่ต้องการ

    ฮันน่านั่งเงียบมองคนด้านหน้าอย่างสงสารจับใจเพราะเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเเม่ของชายหนุ่มทำให้เกิดบาดเเผลในใจนานวันเข้าจึงกลายเป็นสิ่งที่ฝังลึก ถ้าหากกล่าวเช่นนี้นางก็จะมอบสิ่งที่ดีเเทนคำตอบที่ได้ก็เเล้วกัน หญิงสาววางมือลงบนศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ ใบหน้าสวยเเต่งเเต้มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น


    " หากเจ้าไม่บอกข้าก็จะไม่ถาม มาเถิดข้าจะบอกอะไรบางอย่างเเก่เจ้า " ฮันน่ายื่นมือไปให้อีกคนจับ

    เบลจับมืออีกฝ่ายเเสงสีขาวส่องสว่างชั่วครู่ก่อนจะจางหายไปสิ่งที่เห็นคือ ป่าไผ่ทึบ ลมที่พัดทำให้ต้นไผ่เกิดการเสียดสีกันเป็นเสียงน่ากลัว ร่างเล็กเขยิบเข้าหาหญิงสาวอย่างหวาดๆ คงมะ...ไม่มีใช่ไหม


    " เอาล่ะ ฟังข้า ข้าต้องขอโทษด้วยที่ดึงวิญญาณของเจ้ามาผิดเวลา ข้าขอไถ่โทษให้ด้วยการมอบกำไลหยกมิติให้กับเจ้า บ้านหลังที่เราพึ่งจากมานั้นเเหละของในนั้นข้าให้เจ้าหมด " หญิงสาวกล่าวเสียงเศร้านางพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดมาทดเเทน เบลเเล้วเเล้วก็หวังว่าอีกฝ่ายจะให้อภัยกับการกระทำอันโง่เขลาของนาง


    เบลถลึงตาใส่สาวงามทันที เเต่พอเห็นสีหน้าสำนึกผิดเเล้วเขาก็โกรธไม่ลงนึกถึงตอนที่ตัวเองทำงานผิดผลาดบ้างก็ถอนหายใจเเละทำใจยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิด เฮ้อ เขายังอ่านนิยายเล่มนั้นไม่จบเลยเสียดายจริงถึงจะเป็นนิยายน้ำเน่าก็เถอะ


    " ก็ได้ " ฮันน่ายกยิ้มปลื้มปลิ่มหญิงสาวทำทีปาดน้ำตาออกจากหางตาเเต่ใบหน้ากับไม่มีหยดน้ำตาซักนิด


    " ขอบคุณเจ้า กำไลจะไม่เเตกหรือสามารถถอดออกจากข้อมือของเจ้าได้มันจะอยู่ไปกับเจ้าตลอด ส่วนสิ่งของด้านในมีของโลกปัจจุบันทั้งหมดหากอยากได้อย่างอื่นเจ้าก็เเค่พูดสิ่งของมันก็จะปรากฏขึ้นให้ " หญิงสาวนำกำไลหยกสีครามสวมเข้าห้อมือเรียวขาวของอีกฝ่าย


    เบลอ้าปากหวอใบหน้างามมองกำไงที่เเขนอย่างตื่นๆ OMG อะไรมันจะโกงขนาดนี้วะ เเต่มันก็คุ้มกับการที่เธอดึงเขามาผิดเวลานั้นเเหละนะ ซุ่มซ่ามจริงๆ ร่างบางไม่วายพูดเเขวะอีกฝ่าย


    "  เจ้าเลิกด่าข้าเเล้วไปได้เเล้ว หรือเจ้าจะอยู่ในมิติก่อนก็ได้หากพร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยออกมา อ่อ หากจะออกก็เเค่หลับตาเเล้วพูดว่า ออก เข้าก็เช่นกัน โชคดีนะ เบล " รอยยิ้มงามที่เเฝงไปด้วยอะไรบางอย่างจากหญิงสาวทำให้เขาหรี่ตามองฉงน

    ​​​​

    .

    .

    .

    .







    คำเตือน : นิยายเรื่องนี้เป็นเเค่เรื่องสมมติ  เนื้อหาเกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้เเต่ง ไม่อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ 

      เเอบมาเปิดเรื่องที่สามไว้ฮะ  อย่าลืมติดตามด้วยน๊าาา ??’“


    อัพใน Readawrite ด้วยนะฮะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น