คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 2 พี่เหนือจะมีแฟน-2
“เดี๋ยวเหนือไปซื้อกวางตุ้ง พริกกับมะนาวให้แม่หน่อยนะ แม่จะไปซื้อหมู” แม่หันมาบอกผมเมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของตลาดสด หลังจากพาแม่ไปทำธุระที่ธนาคารจนเสร็จแล้วแม่ก็ชวนผมมาเดินตลาดต่อ
ตอนนี้ผมกำลังเดินฝ่าฝูงชนไปตามทางเดินตรงกลางเพื่อหาร้านที่ขายผักตามที่แม่สั่ง แต่มันก็เป็นไปได้ยากเหลือเกินเมื่อตอนนี้คนเดินสวนกันไปมาจนแน่นไปหมด
“เอากวางตุ้งสองมัดครับ” ในที่สุดผมก็เจอร้านขายผักในที่สุด ผมหยิบเอาตะกร้าพริกกับมะนาวส่งให้แม่ค้า จากนั้นก็ยืนรอแม่ค้าคิดเงิน เมื่อได้ของตามที่แม่สั่งครบแล้วผมก็รีบเดินออกจากโซนตลาดทันที เป็นอะไรที่ผมโคตรจะเกลียดเลยแหละ ที่ที่คนเยอะๆ แบบนี้อ่ะ
หลังจากออกจากโซนตลาดสดได้แล้วผมก็เอาถุงผักไปเก็บไว้ที่รถมอเตอร์ไซต์ของตัวเองก่อนจะขึ้นคร่อมนั่งรอแม่อยู่บนรถแบบนั้น ระหว่างที่รอผมไม่รู้จะทำอะไรก็ได้แต่นั่งมองผู้คนมากหน้าหลายตาเดินเข้าออกไปซื้อของในตลาด
และแล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาผมจนทำให้ผมละสายตาไปไหนไม่ได้ เอาแต่มองตามตั้งแต่หน้าตลาดจนมาถึงจุดจอดรถ ผู้หญิงผมสั้นเท่าปกคอเสื้อใส่ชุดพลศึกษาของโรงเรียนประจำอำเภอเดินถือของออกมาเต็มสองมือแต่ใบหน้ายังยิ้มสดใสนั้นทำเอาผมหายใจสะดุด ‘คนอะไรน่ารักจัง’ ผมมองตามเธอจนมาถึงรถที่จอดอยู่ ซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากผมสักเท่าไหร่ คิดดูว่าผมมองตามจนเธอรู้ตัวอ่ะ สายตาผมมันต้องขนาดไหน
พอเธอรู้ว่าผมมองเธออยู่ เธอก็ยิ้มให้ผมพร้อมกับก้มหน้าเล็กน้อยเหมือนกับเป็นการทักทาย ผมจึงยิ้มกลับไปให้เธอ ‘เชี่ยเอ้ย!!! ตรงสเปคทุกอย่างเลยว่ะ แบบนี้ต้องจีบแล้วแหละ’ เมื่อเห็นว่าเธอเหมือนจะยืนรอใครสักคนไม่ไปไหนสักที ไฟแห่งความร่านของผมก็ปะทุออกมาจนผมทนยืนนิ่งแล้วปล่อยให้เธอไปโดยไม่ทำความรู้จักไม่ได้
“เธอ รอใครหรอ” อดไม่ได้จริงๆ จนต้องเดินไปคุยด้วย
“รอแม่อ่ะ มีอะไรหรือเปล่า” คำถามนี้ผมอยากจะตอบไปตามตรงว่า ‘พอดีเธอน่ารักอ่ะ เป็นแฟนกับเรามั้ย’ อะไรประมาณนี้ แต่มันอาจจะเร็วเกินไปไง ผมเลยต้องทำตามลำดับขั้นตอนไม่จู่โจมเธอมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เธอจะกลัวแล้วหนีผมไปเลยก็ได้
“ไม่มีอะไร เห็นเธอยืนอยู่คนเดียวอ่ะก็เลยมาชวนคุย เราก็มารอแม่เหมือนกัน”
“พาแม่มาทำธุระหรอ” ผมคิดว่าเธอน่าจะรู้ว่าผมไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะผมใส่เสื้อของโรงเรียนมา เธอจึงถามผมแบบนั้น
“ช่าย ทำธุระเสร็จก็มาเดินตลาดต่อ”
“น่ารักอ่ะ พาแม่มาเดินตลาดด้วย” ‘ไอเชี่ยเอ้ย!!!!’ เธอชมผมด้วยว่ะ ไม่คิดว่าจะได้เป็นคนน่ารักสำหรับผู้หญิง ผู้หญิงชมแปลว่าผู้หญิงชอบใช่หรือเปล่า ผมขออนุมานว่าใช่เลยแล้วกันแบบนี้ก็จีบต่อไม่รอแล้วนะไม่งั้นกลัวหมาตัวอื่นจะคาบไปแดกซะก่อน
“ชมแบบนี้ คิดอะไรกับเราปะ”
“หือ…ทำไมถามแบบนั้นอ่ะ”
“ป่าวๆ เราแค่ถามเล่นเฉยๆ”
“อุ้ย แม่เรามาล่ะขอตัวก่อนนะ” เธอบอกเมื่อเห็นแม่ของตัวเองกำลังเดินออกจากตลาด ผมได้ยินดังนั้นก็ทำตัวไม่ถูกเมื่อเธอกำลังจะไปแล้ว ผมต้องทำอะไรสักอย่างล่ะไม่งั้นเรื่องของเราคงจบตั้งแต่วันนี้
“อย่าเพิ่ง! เราขอเฟสเธอหน่อยได้ไหม” ผมเรียกเธอไว้พร้อมกับล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเพื่อที่จะค้นหาเฟสบุ๊คของเธอ ทำขนาดนี้แล้วได้โปรดให้ผมเถอะอย่าหักหน้ากันเลย
“ฝน อทิตยา” เธอบอกมาทันที ก่อนจะเดินมาใกล้ๆ แล้วชะเง้อหน้ามาดูว่าผมพิมพ์ถูกหรือเปล่า ตึก! ตึก! ตึก! เสียงหัวใจของผมเต้นดังจนกลัวว่าเธอจะรู้ มือที่กดแป้นพิมพ์ก็สั่นยิกๆ พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกจนเธอแย่งโทรศัพท์ไปพิมพ์เอง ‘แม่งเอ้ย!! แค่กลิ่นน้ำหอมที่เธอฉีดยังทำกูตื่นเต้นได้ขนาดนี้’
“อ่ะ เราพิมพ์ให้ล่ะ” เธอคืนโทรศัพท์ให้ผมหลังจากพิมพ์ค้นหาชื่อเฟสบุ๊คของตัวเองจนเจอแล้ว
“ขอบคุณครับ เราแอดไปแล้วอย่าลืมรับแอดนะ”
“อื้ม เราไปก่อนนะ”
“โอเค แล้วเราจะทักไป” ผมยืนโบกมือลาเธอที่กำลังเดินห่างออกไปจนเธอนั่งรถไปกับแม่ จากนั้นก็กลับมานั่งส่องโปรไฟล์ของเธอ ดูรูปภาพต่างๆ ที่เธอโพสต์ลงโซเชียล อืม..น่ารักจริงๆ
20.30 น. เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงแล้วที่ผมนั่งจ้องจอโทรศัพท์เพื่อรอการแจ้งเตือนจากเฟสบุ๊คที่ชื่อ ฝน อทิตยา เมื่อไหร่จะรับแอดนะผมรอนานแล้วเนี่ย
“เหนือ เป็นอะไรเนี่ย แม่เห็นนั่งมองโทรศัพท์นานแล้วนะ” ผมว่าผมคงจะมองมันมากเกินไปจริงๆ นั่นแหละ ถึงขนาดที่แม่ทักแล้วอาการผมคงหนักพอสมควร
“ไม่มีะไรครับ แม่ไปนอนเหอะ” ผมบอกแม่ก่อนจะเปิดประตูห้องนอนของตัวเอง เข้าไปนั่งรอในห้องดีกว่าแม่จะได้ไม่สงสัย
ผ่านไปสักพักที่แถบแจ้งเตือนของเฟสบุ๊คก็ขึ้นเลข1สีแดงเข้ม ผมไม่รอช้ารีบกดเข้าไปดูทันทีในใจผมคิดไว้ว่าจะต้องเป็นแจ้งเตือนของฝนแน่ๆ ผมยิ้มร่าออกมาด้วยความดีใจมือที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่สั่นเล็กน้อย เอาจริงๆ ผมไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลยนะ
กันยนา ได้ส่งคำขอเป็นเพื่อนกับคุณ จากที่ยิ้มร่าตอนนี้กลับหุบยิ้มแทบไม่ทัน แจ้งเตือนนี้ไม่ได้เป็นของเธอคนนั้น ผมมองชื่อคนที่แอดผมมาก่อนจะกดเข้าไปดูโปรไฟล์เพราะไม่รู้ว่าคนที่ชื่อกันยนานี่คือใคร
เด็กผู้หญิงใส่ชุดลูกเสือเนตรนารียืนอยู่ที่สนามบาสเกตบอล เป็นรูปที่เจ้าของเฟสบุ๊คตั้งไว้เป็นรูปโปรไฟล์ผมจึงกดเข้าไปดูรูปใหญ่เพื่อที่จะมองให้เห็นหน้าคนได้ชัดขึ้น ‘กอบัว’ ใช่แล้วครับคนที่ทำให้ความฝันผมสลายก็คือเจ้าเด็กม.ต้นที่ชื่อกอบัวนั่น
ในฐานะที่น้องมันทำให้ผมดีใจเก้อ ผมจะไม่รับแอดน้องจนกว่าเธอคนนั้นคนที่ผมรอคอยรับแอดผม ถึงวันนั้นผมค่อยรับแอดกอบัว ให้มันรู้ซะบ้างทำให้คนอื่นดีใจเก้อมันเป็นยังไง
22.00 น. จนเวลานี้แล้วผมยังไม่ละสายตาไปจากจอโทรศัพท์แม้แต่น้อย ในใจผมยังหวังให้เธอมารับแอดผมภายในคืนนี้อยู่ ถึงแม้ว่าความหวังมันจะเริ่มจะริบหรี่แล้วก็ตาม เพราะตอนนี้ก็ปาไปสี่ทุ่มแล้วบางทีเธออาจจะนอนแล้วก็ได้แต่ผมก็ยังอยากที่จะรอ ถ้าผ่านเที่ยงคืนไปแล้วเธอยังไม่รับแอดนั่นแหละผมถึงจะเข้านอน ถือซะว่าเธอไม่อยากให้ผมจีบก็แล้วกัน
แต่พอผ่านไปห้านาที หน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างวาบขึ้นมาแต่ครั้งนี้ผมกลับไม่รีบหยิบมันขึ้นมาดูเพราะกลัวว่าจะผิดหวังเหมือนครั้งก่อน ใจมันบอกว่าไม่ใช่แต่ร่างกายกลับเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาถือไว้แล้ว เอาไงเอากันวะ ถ้าคราวนี้ไม่ใช่ผมคงต้องนอนจริงๆ ล่ะ ไม่รงไม่รอมันถึงเที่ยงคืนล่ะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนด้วย
ฝน อทิตยา ได้ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของคุณแล้ว เชี่ย!!! คืนนี้ผมคงไม่ได้นอนแล้วแหละทุกคน เธอรับแอดผมแล้ว!!
ผมรีบกดเข้าไปดูการแจ้งเตือนนั้นทันทีก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเก็บไม่มิด ผมจะมีแฟนก็คราวนี้แหละทุกคน เป็นกำลังใจให้ผมจีบเธอได้สำเร็จด้วยนะ
“ทักครับ” ไม่รอช้าผมรีบส่งข้อความไปหาเธอทางเมสเสจทันที ใจผมนี่ลุ้นยิ่งกว่าซื้อหวยว่าเธอจะตอบผมตอนไหน
“ดีค่าาา ขอโทษที่รับแอดช้านะ ฝนติดธุระนิดหน่อย” ไอเชี่ย!!! เธอจำผมได้ด้วยทุกคน ถ้าเธอจำได้ก็แสดงว่าเธอสนใจผมใช่ปะ ใช่แน่ๆ ไม่เกินอาทิตย์นี้ผมมีแฟนแน่ๆ
“ไม่เป็นไรครับ เรารอได้” รอได้จริงๆ นะ ผมรอตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม
“ยังไม่นอนอีกหรอ สี่ทุ่มแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนิ” ก็รอเธอรับแอดนั่นแหละครับ คืนนี้คงหลับฝันดีตลอดทั้งคืนแน่ๆ
“รอส่งฝนเข้านอนก่อน” เริ่มจีบตั้งแต่วันนี้เลยละกัน ไม่อาจช้าไปกว่านี้แล้วหมาตัวอื่นที่สนใจเธอคงมีไม่น้อยผมต้องรีบทำคะแนน
“หืม… งั้นก็นอนพร้อมกัน โอเคมั้ย”
“ค้าบบบ ฝันดีนะครับเดี๋ยวเราจะไปหาในฝัน”
“โอเคค่าาา แล้วเจอกันในฝันนะ” อ่าาาทุกคน….คิดว่าคืนนี้ผมจะนอนหลับฝนดีมากขนาดไหนเนี่ย พรุ่งนี้คงต้องขอเป็นแฟนแล้วมั้ย
“เหนือ…หันมาทางนี้หน่อยสิ” ฝนเรียกผมขณะที่พวกเรากำลังนั่งเล่นอยู่ที่อ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของหมู่วัยรุ่น
“ว่าไงระ…จุ๊บ” ทันทีที่ผมหันไปหาฝน จู่ๆ เธอก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบผมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
“ฝนชอบเหนือ เรามาเป็นแฟนกันมั้ย” ผมได้ยินดังนั้นก็อึ้งที่เธอบอกชอบและขอผมเป็นแฟน
“ว่าไง เป็นแฟนกันมั้ย…จุ๊บ” ฝนถามผมเสร็จก็เข้ามาจูบผมอีกครั้ง หลังจากผละออก เธอก็ยิ้มหวานมาให้ผมพร้อมกับรอคำตอบ
“อืม…” ตกลงสิครับ ใครจะปฏิเสธได้ลงคอ ผู้หญิงที่สวยและน่ารักในคราเดียวกัน จะหาได้จากที่ไหนอีก
“อืมนี่คือ…” ดูเหมือนฝนจะอยากให้ผมพูดเป็นประโยคมากกว่านะ
“ก็เราตกลงเป็นแฟนกับฝนไง ต่อไปนี้เราคือแฟนกัน” ผมบอกฝนพร้อมยิ้มออกมาอย่างดีใจ ฝนเองก็เช่นเดียวกัน พอได้ยินผมพูดออกมาแบบนั้นเธอก็ดึงผมเข้าไปกอดทันที
เรากอดกันอยู่สักพักจนเป็นผมที่เป็นฝ่ายผละออกมา แต่สองมือของผมก็ยังคงโอบรอบเอวเธอเอาไว้ไม่ได้ปล่อยไปไหน เราสองคนมองสบตากันอยู่เนิ่นนานโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมจึงค่อยๆ เลื่อนมือที่โอบเอวเธอขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นการประคองใบหน้าเธอแทน
จากนั้นผมก็ค่อยๆ ขยับใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ๆ เธอ สายตาผมตอนนี้โฟกัสอยู่ที่ปากนุ่มของเธอเท่านั้น ในที่สุดผมก็ตัดสินใจประกบปากจูบกับปากของเธอ สอดเรียวลิ้นของตัวเองเข้าไปหาความหวานในโพรงปากของคนตรงหน้าอย่างเชื่องช้า ฝนเองก็ทำเช่นเดียวกันกับผม เธอขบเม้มริมฝีปากของผมอย่างดูดดื่มสองมือนุ่มก็ขยับขึ้นมาประคองท้ายทอยของผม แล้วผมก็ค่อยๆ ผลักเธอให้นอนเอนราบไปกับพื้นก่อนที่จะพาตัวเองขึ้นคร่อมตัวเธอเอาไว้ มือข้างหนึ่งอยู่ที่หัวของเธอ ส่วนอีกข้างกำลังวุ่นวายอยู่กับเสื้อยืดสีฟ้าที่รู้สึกว่ามันโคตรจะเกะกะ ใช่แล้วครับผมพยายามจะถอดมันออกจากตัวของเธอไปให้พ้นซะ!!
“เราขอนะ”
“อื้ม…อยากทำก็ทำละ…ปังๆๆ!!!!” ขณะที่ผมกำลังจะถอดเสื้อของเธอออก จู่ๆ เสียงทุบประตูก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ แต่นี่พวกเราอยู่ที่อ่างเก็บน้ำนะ จะมีประตูให้เคาะได้ยังไง
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงเคาะประตูยังคงดังมาเรื่อยๆ จนผมทนไม่ไหว รีบผละออกมา
ฟึ่บ! ผมสะดุ้งตื่นลุกมานั่งอยู่บนที่นอนของตัวเอง สายตาชำเลืองมองหาคนที่ผมเพิ่งจะจูบไปเมื่อกี้ ไม่เห็น?
“ไอ้เหนือ!!! เมื่อไหร่จะตื่นมาอาบน้ำ นี่มันเจ็ดโมงกว่าแล้วนะ ไม่ไปโรงเรียนหรือไง” เสียงที่ดังแสบแก้วหูอยู่ในตอนนี้เป็นเสียงของแม่ผมนั่นเอง หือ…งั้นก็แสดงว่าสิ่งที่ผมทำไปเมื่อกี้คือความฝันงั้นหรอ? ไอเชี่ย!!นี่ผมถึงขนาดเอาเธอไปฝันเลยหรอวะ ได้คุยกันแค่ไม่กี่ประโยคเองนะ
ผมยกมือขึ้นลูบผมตัวเองสองสามทีก่อนจะเลิกผ้าห่มตัวเองขึ้น มองดูบางสิ่งบางอย่างกลางแก่นกายที่ตอนนี้ตั้งตระหง่านอยู่จากอารมณ์ในฝันเมื่อสักครู่ ให้มันได้อย่างงี้สิ ต้องลำบากตัวเองตั้งแต่เช้าเลยวุ้ย!!!
ผมรีบลุกจากที่นอนแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวลงตรงไปที่ห้องน้ำทันที โชคดีที่ห้องของผมมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนผมจึงสามารถเข้าไปคลายอารมณ์ตัวเองได้ง่าย นี่ถ้าเป็นทั้งบ้านมีห้องน้ำแค่ห้องเดียวละก็ผมคงต้องทรมานแน่ๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาผมก็ทำธุระของตัวเองในห้องน้ำจนเสร็จ รวมถึงการอาบน้ำด้วย ผมเปิดประตูออกจากห้องน้ำแล้วเดินมาเปิดไดร์เป่าผมทันที เมื่อกี้อยู่ในห้องน้ำนานจนเหงื่อแตกพลั่กไปหมดจนต้องได้สระผม
7.50 น. ผมเปิดประตูห้องออกมาพร้อมกับสมุดในมืออีกสองเล่ม อย่างที่บอกไป ม.6แล้วไม่จำเป็นต้องมีกระเป๋าไปก็ได้ พกแค่สมองไปก็พอ
“ตื่นสายป่านนี้ จะจบม.6กับเขามั้ยไอ้ลูกชาย” ทันทีที่ขาของผมแตะพื้นกระเบื้องชั้นล่าง แม่ก็เอ่ยทักทายผมในตอนเช้าทันที
“แค่7โมงกว่าเองแม่ ไม่ได้สายอะไรเลย”
“กล้าพูดมาได้ว่าไม่สาย อีก10นาทีก็จะขึ้นเรียนล่ะ แกยังอยู่บ้านอยู่เลยเนี่ย” แม่บ่นผมแต่สองมือก็ยังล้วงหาเงินในกระเป๋าเพื่อเป็นเงินไปโรงเรียนให้ผม
“ขอบคุณคร้าบบบ ผมไปเรียนแล้วนะแม่ สวัสดีครับ” หลังจากนั้นผมก็ออกมาใส่รองเท้าที่หน้าบ้านแล้วขับรถออกไปทันที แต่ปลายทางที่ผมจะไปยังไม่ใช่โรงเรียน แต่เป็นร้านขายของชำในอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นร้านประจำของผมไปแล้วตั้งแต่ผมรู้ว่าที่นั่นขายบุหรี่ให้กับเด็ก
ใช่แล้วครับ ผมแอบแม่ไปซื้อบุหรี่ที่ร้านนี้เป็นประจำโดยที่แม่ก็ยังไม่รู้ว่าผมสูบบุหรี่ เมื่อได้บุหรี่มาแล้วผมจึงขับรถไปที่โรงเรียนทันที ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงห้านาทีเท่านั้น ใกล้จะถึงเวลาเข้าแถวในตอนเช้าแล้ว ผมจึงรีบบิดรถเพื่อไปให้ทันเข้าแถวเพราะโรงเรียนจะมีการเช็คชื่อเป็นคะแนนกิจกรรมของโรงเรียนเอาไว้ด้วย ถึงผมจะเลวแต่ผมก็ยังเป็นเด็กดีอยู่นะครับ อย่างเช่นรีบบึ่งรถเพื่อให้ทันเข้าแถวในตอนนี้
ความคิดเห็น