ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แม่กอบัวของพี่

    ลำดับตอนที่ #13 : 7 เจอกันครั้งสุดท้าย-1

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 66


    กรี๊ด!!! เฮ่!!! เย่!!!! เอาอีกๆ!!!

    เสียงที่ทุกคนได้ยินอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เสียงเชียร์มวยแต่อย่างใด แต่มันคือเสียงของกองเชียร์จากนักเรียนทั้งสองสีที่กำลังลงแข่งขันวอลเลย์บอลชายในสนามต่างหาก 

    ผมหันไปมองที่สนามเป็นระยะๆเวลาที่ได้ยินเสียงเชียร์ดังขึ้น ถามว่าทำไมถึงไม่ไปนั่งดูติดขอบสนามอ่ะหรอ ก็เพราะว่าสีที่ลงแข่งตอนนี้มันไม่ใช่สีส้มไง ผมจะไปดูทำไมเล่านั่งเล่นโทรศัพท์ที่เต็นท์สีของตัวเองดีกว่า ไปนั่งที่นั่นก็ร้อนแดดเปล่าๆ

    ขณะที่ผมกำลังนั่งดูการแข่งขันขากที่เต็นท์อยู่นั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็สั่นจนแทบจะโยนทิ้งทิ้งด้วยความตกใจ ผมหงายโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นฝนที่โทรเข้ามาก็เกิดความสงสัย เพราะปกติฝนไม่เคยโทรหาผมในเวลานี้

    “ฮัลโหลครับ” 

    “เหนือ ทำอะไรอยู่หรอ” 

    “นั่งเล่นครับ” 

    “ไม่ได้แข่งกีฬากับเขาหรอ” ฝนถามผมเพราะเมื่อคืนผมบอกฝนไปว่าช่วงนี้ที่โรงเรียนจัดกิจกรรมกีฬาสี 

    “เเหนือแข่งไปแล้ว” 

    “งี้ก็ว่างอ่ะดิ” พอได้ฟังฝนพูดผมก็ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก ฝนพูดเหมือนกับว่ามีธุรอะไรกับผมอย่างนั้นแหละ

    “ก็ว่าง ฝนมีอะไรหรือเปล่า” 

    “ไม่มีอะไร เรากำลังไปหาเหนือที่โรงเรียนนะ แล้วเจอกัน” พูดจบฝนก็วางสายไปทันที ส่วนผมก็ได้แต่นั่งมองโทรศัพท์เพราะยังงงกับสิ่งที่ฝนบอกเมื่อกี้ จะมาหาผมงั้นหรอ? เห้ย!!ฝนจะมาหาผม!!!เราจะได้เจอกันอีกแล้ว ผมต้องไปห้องน้ำเพื่อดูกระจกหน่อยล่ะ เพิ่งแข่งกีฬาเสร็จสภาพไม่น่าดูสักเท่าไหร่ คิดได้ดังนั้นผมก็ลุกไปห้องน้ำทันที

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผมที่กำลังนั่งรอฝนอยู่ในเต็นท์สีของตัวเองก็รีบเด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อมองเลยไปที่ถนนของโรงเรียนด้านซ้ายมือแล้วเห็นผู้หญิงสองคนขับรถมอเตอร์ไซต์เข้ามา ไม่รอช้าผมก็รีบเดินไปหาฝนทันที 

    “ขอบใจนะ” ฝนหันไปพูดกับเพื่อนที่ขับรถมาส่ง แล้วเพื่อนคนนั้นก็ขับรถออกไป

    “ทำไมไม่บอกเราตั้งแต่แรก จะได้ไปรับ” ผมถามฝนพร้อมกับแย่งของในมือมาถือเอง จากนั้นก็พาไปนั่งที่เต็นท์

    “ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์นะสิ ฝนซื้อขนมมาให้เหนือด้วยแหละ” ฝนพยักหน้าไปที่ถุงในมือของผม ยกมันขึ้นมาดูก็พบว่ามีแต่ห่อขนมเต็มถุงไปหมดตามที่ฝนบอกจริงๆ

    “โห ซื้อมาเยอะมาก หมดตังไปเท่าไหร่เนี่ย”

    “ไม่เยอะหรอก ฝนยังไม่ได้กินข้าวหน่ะ ก็เลยกะว่าจะมานั่งกินขนมกับเหนือ เพราะเหนือบอกว่าไม่มีแข๋งแล้วใช่มั้ย” 

    “ใช่ครับ ไปกินก๋วยเตี๋ยวมั้ยเดี๋ยวเราพาไป” พอได้ยินว่าเธอยังไม่ได้กินข้าวผมก็อดเป็นห่วงฝนขึ้นมาไม่ได้ ตอนนี้ร้านก๋วยเตี๋ยวในโรงอาหารน่าจะยังไม่ปิด ผมจะพาฝนไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านโปรดของผม

    “ไม่เป็นไร ฝนไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ กินแค่ขนมพวกนี้ก็พอแล้ว” 

    “จะเอาแบบนั้นหรอ” 

    “อื้ม…พาฝนไปนั่งได้แล้ว ยืนคุยจนเมื่อยแล้วเนี่ย” พอฝนพูดขึ้นมานั่นแหละทำให้ผมเพิ่งนึกได้ ยืนคุยกันอยู่ตั้งนาน

    “มาทางนี้ๆ” ผมจับมือฝนแล้วพาเธอเดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเก่าที่ผมเคยนั่งก่อนหน้านี้ 

    “เชิญนั่งเลยครับ” ผมผายมือให้ฝนนั่ง จากนั้นก็ไปลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆเธอ ระหว่างนั้นฝนก็หยิบขนมในถุงมาแกะแล้วนั่งกินด้วยกันกับผม พวกเรานั่งกินขนมไปดูเค้าแข่งขันวอลเลย์บอลไปอย่างเพลิดเพลิน 

    “อ่ะ!” ขนมชิ้นหนึ่งถูกยื่นมาจ่อปากของผมด้วยฝีมือของคนที่นั่งข้างๆ ผมจึงหันไปมองฝนก็พยักหน้าเป็นเชิงบังคับว่าให้ผมกินขนมที่ยื่นให้ ซึ่งผมก็ยอมทำตามแต่โดยดีที่เห็นนิ่งอยู่นั้นเป็นเพราะอึ้งต่างหากล่ะ ไม่คิดว่าฝนจะทำให้ขนาดนี้โคตรน่ารักเลย 

    “เดี๋ยวเราป้อนฝนบ้าง” พูดจบผมก็หยิบขนมในห่อยื่นไปตรงหน้าของคนข้างๆ 

    “อื้อ…ขนมชิ้นนี้อร่อยกว่าทุกชิ้นเลยเนอะ” 

    “ปากหวานนะเราอ่ะ”

    “เคยชิมแล้วหรอ” ฝนตอบกลับผมมาทันที พอหันไปมองก็เห็นสีหน้าท้าทายของคน้ขางๆมองมาที่ผมอยู่แล้ว

    “ยัง จะให้ชิมป่ะล่ะ” ผมยักคิ้วกวนๆใส่ฝนไปทีหนึ่ง เรื่องแบบนี้อย่าได้คิดท้าผมนะบอกเลย ผมพร้อมทำในทันที

    “ก็ไม่เคยห้ามอยู่แล้ว” พอได้ยินประโยคต่อมาใบหน้าของผมก็ยื่นไปหาฝนโดยอัตโนมัติ

    “เหนือ!!! ตรงนี้ไม่ได้นะคนเยอะ” ฝนรีบยกมือปิดใบหน้าของผมทันทีก่อนที่ปากของผมจะไปถึแก้มนุ่มนิ่มนั่น

    “ก็ไม่เห็นเป็นไร”

    “พูดมาได้ไงว่าไม่เป็นไร เขยิบไปนั่งดีๆเลยนะ” 

    “หึ! ทีหลังก็อย่าท้ากันแบบนี้เข้าใจมั้ย” ฝนพยักหน้าเข้าใจ ผมจึงถอยออกมานังดีๆที่เก้าอี้ของตัวเองแล้วหยิบขนมป้อนฝนต่อ 


     

    Part กอบัว

    วันนี้ที่โรงเรียนจัดกิจกรรมกีฬาสี โรงอาหารจึงเปิดให้สามารถซื้ออะไรกินได้ตลอดทั้งวัน ฉันที่ยืนต่อแถวซื้อลูกชิ้นนานนับสิบนาทีในที่สุดก็ได้มันมาครอบครอง หลังจากจ่ายเงินแล้วก็เดินตรงไปที่ร้านขายน้ำต่อสั่งน้ำสตอเบอร์รี่กับแม่ค้ามาสองแก้ว เมื่อได้ของตามที่ต้องการแล้วก็เดินถือมันไปที่บริเวณสนามกีฬาซึ่งตอนนี้กำลังทำการแข่งขันอยู่ แต่สีที่แข่งไม่ใช่สีของฉัน ฉันก็เลยไม่ได้สนใจมันมากนัก 

    “บัวมานั่งนี่!!” ขณะที่ฉันกำลังจะเดินผ่านสนามวอลเลย์บอลอยู่นั้น เสียงตะโกนเรียกชื่อฉันจากใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นซะก่อนจึงต้องหยุดเดินแล้วหันไปมองแหล่งที่มาของเสียง

    “ไม่ได้หรอก ฉันมีธุระต่ออ่ะ” 

    “ธุระที่ไหนหรอ” คะนิ้งเพื่อนร่วมห้องของฉันถามขึ้น ถึงแม้ในใจจะไม่อยากตอบเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ฉันรู้นิสัยเพื่อนคนนี้ดีสุดท้ายก็ยอมบอกไป

    “จะเอาลูกชิ้นไปให้พี่หน่ะ”

    “ให้พี่เหนืออ่ะหรอ” ฉันไม่ตอบคะนิ้งแต่เลือกที่จะหันหลังหนีออกมา แต่ว่า…

    “ฉันว่าลูกชิ้นนั่น เธอคงต้องกินเองแล้วแหละ เพราะว่าเมื่อกี้ฉันเห็นพี่เหนือกับแฟน!กำลังนั่งกินขนมอยู่ที่เต็นท์” จบคำพูดของคะนิ้งสองเท้าของฉันก็ชะงักกึก หมายความว่าไงอ่ะแฟนพี่เหนือหรอ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพี่เหนือมีแฟนแล้ว แล้วมีตอนไหน เมื่อไหร่? 

    “ถ้าไม่เชื่อก็เดินไปดูให้เห็นกับตาได้เลยนะ พี่เค้ายังนั่งอยู่ที่เดิม” จบคำพูดของคะนิ้งฉันก็ตัดสินใจเดินตรงมาที่เต็นท์สีส้ม ไม่ได้อยากมาดูให้เห็นกับตาหรือว่าอะไรหรอก แต่ฉันเองก็อยู่สีส้มเหมือนกัน ก็เลยจะมานั่งกินลูกชิ้นที่แสตนด์เชียร์ก็แค่นั้น

    แต่ฉันก็ดันมาได้จังหวะพอดี เมื่อภาพตรงหน้าในตอนนี้คือภาพที่พี่เหนือกำลังโน้มใบหน้าไปหาผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆทำท่าว่าจะจูบกัน ไม่รอช้าฉันรีบหันหน้าหนีไปอีกทางทันที เด็กที่อายุไม่ถึง18อย่างฉันไม่ควรเห็นเหุการณ์แบบนี้ใช่หรือเปล่า

     แต่ทำไมก็ไม่รู้แค่เห็นพี่เหนือนั่งใกล้กับผู้หญิงคนนั้นฉันถึงได้รู้หน่วงๆที่หัวใจขึ้นมา เสียใจงั้นหรอ? หรือว่าผิดหวัง?หรืออะไรกัน แต่พี่ชายจะมีคนรักทั้งทีฉันก็ควรต้องยินดีสิถึงจะถูก ใช่แล้วกอบัวเธอต้องรู้สึกแบบนั้น

    คิดได้ดังนั้นก็เดินอ้อมเต็นท์ไปทางแสตนเชียร์ด้านหน้า โดยที่สองมือในตอนนี้ถือแก้มน้ำรสสตอเบอร์รี่และนิ้วก้อยก็ห้อยถุงลูกชิ้นอยู่ 

    “เฮ้!!กอบัว” เสียงเพื่อนคนหนึ่งทักขึ้นเมื่อเห็นฉันเดินขึ้นมานั่ง 

    “ว่าไงเก่ง นั่งกินอะไรอยู่หรอ” มองเลยไปเห็นถ้วยบางอย่างวางอยู่ข้างๆเพื่อน ฉันก็เลยถามเพื่อเป็นการชวนคุย

    “ก๋วยเตี๋ยวหน่ะ แล้วเธอล่ะได้อะไรมากิน” 

    “ลูกชิ้นทอด กินกับเรามั้ย” ฉันถามเก่งพร้อมกับวางถุงลูกชิ้นและแก้วน้ำทั้งสองแก้วบนที่นั่งจากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆเก่ง 

    “ไม่เป็นไรเธอกินเลย ว่าแต่เธอกินน้ำทีละสองแก้วเลยหรอ”

    “บ้า! ใครจะกินเยอะขนาดนั้น พอดีฉันสั่งมาผิดอ่ะก็เลยต้องรับผิดชอบสองแก้ว” 

    “งั้นเราขอแก้วหนึ่งได้ไหม ปรุงก๋วยเตี๋ยวมาโคตรเผ็ดเลยไม่ได้ซื้อน้ำมาด้วย” 

    “ได้สิ อ่ะเอาไปเลย” พูดจบฉันก็หันไปหยิบน้ำสตอเบอร์รี่ให้เก่ง จากนั้นเราสองคนก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวและลูกชิ้นด้วยกัน จะว่าไปเก่งก็เป็นคนที่เฟรนลี่เหมือนกันนะเนี่ย ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาจะหยิ่งซะอีกเคยได้ยินเพื่อนๆเล่าให้ฟังว่าเวลาชวนเขาคุยทีไร เขาก็มักจะถามคำตอบคำตลอด แต่ทำไมกับฉันเก่งไม่ใช่คนแบบนั้นเลยกลับเป็นคนที่ชวนฉันคุยซะมากกว่า

    “เดี๋ยวเราขอเอาชามไปคืนแม่ค้าก่อนนะ” กำลังคุยกันสนุกๆเก่งก็ขอตัวเอาชามก๋วยเตี๋ยวไปเก็บที่โรงอาหาร ขยันสุดๆระยะทางจากโรงอาหารมาที่สนามกีฬาไม่ใช่ใกล้ๆแต่เก่งกลับถือมันมานั่งกินที่นี่ได้ สุดยอดมาก! 

    “โอเค เราก็จะเอาขยะไปทิ้งเหมือนกัน” 

    “ฝากเราทิ้งก็ได้นะ บัวจะได้ไม่ต้องเดินไป” เก่งบอกฉันพร้อมกับยื่นมารับถุงขยะลูกชิ้นและแก้วน้ำ

    “ไม่เป็นไร เราว่าจะลงไปล้างมือด้วย”

    “โอเค งั้นเราไปแล้วนะ”

    “อื้ม” พอเก่งเดินออกไปฉันก็ลงจากแสตนเชียร์เพื่อเอาขยะไปทิ้งและล้างมือ ระหว่างนั้นก็เดินผ่านสนามบาสเกตบอลหางตาเหลือบไปเห็นสีเขียวและสีฟ้ากำลังซ้อมอยู่ในสนาม ก็เลยตั้งใจว่าเอาขยะไปทิ้งแล้วจะกลับมานั่งดูบาสเกตบอล

    End Part กอบัว


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×