ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แม่กอบัวของพี่

    ลำดับตอนที่ #10 : 5 ทำอะไรให้น้องงอน-2

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 66


    10.00 น. ได้เวลาเปลี่ยนคาบเรียนไปเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ผมกับไม้เป็นฝ่ายเดินออกจากห้องหลังเพื่อน เราสองคนไม่ได้ตรงไปที่ห้องเรียนในทันทีแต่ปลายทางที่จะไปนั้นเป็นห้องน้ำชายต่างหาก ปวดฉี่ด้วยแล้วก็จะไปสูบบุหรี่ด้วย

    “มึงได้ซื้อมาเผื่อกูมั้ยเนี่ย” ไม้หันมาถามเมื่อพวกเราเดินมาถึงบริเวณหน้าห้องน้ำ ผมจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาสองมวนแล้วยื่นให้ไม้มวนหนึ่ง จากนั้นพวกเราก็ยืนดูดบุหรี่อยู่หน้าห้องน้ำจนควันโขมง

    “โห นี่สูบบุหรี่หรือเผาโรงเรียนเนี่ย” ระหว่างที่ยืนดูดบุหรี่อยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากบริเวณหลังห้องน้ำซึ่งเป็นสวนเกษตรของโรงเรียน คาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนที่มาเรียนวิชาเกษตรแต่ที่แน่ๆ เสียงที่ผมได้ยินเมื่อกี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องรักของผม

    “เห้อ! ร้อนก็ร้อน พอมาได้กลิ่นบุหรี่แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก คอยดูนะฉันจะไปฟ้องครูปกครอง!!” ผมยังยืนดูดบุหรี่แล้วฟังเสียงบ่นของกอบัวอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งบุหรี่หมดมวน ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลังห้องน้ำเพื่อหาเจ้าของเสียงไม่รู้ว่าไปมุดอยู่ส่วนไหนของสวน เพราะหญ้าที่ขึ้นสูงทำให้ผมมองหาน้องได้ยากลำบาก

    “พี่เหนือหาใครคะ” เสียงรุ่นน้องคนหนึ่งถามขึ้นเมื่อหันมาเห็นผมยืนชะเง้อเหมือนหาอะไรสักอย่าง

    “พี่เหมือนได้ยินเสียงกอบัว แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน”

    “ทางนู้นค่ะ” รุ่นน้องชี้บอกตำแหน่งที่กอบัวอยู่ ผมมองตามนิ้วที่ชี้ไปก่อนจะเห็นไอ้เด็กผมสั้นกำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่างอยู่ตรงนั้น เข้าไปป่วนสักหน่อยดีหว่าาาาา

    “ขุดแบบนี้วันนี้จะได้แปลงปลูกผักมั้ย”

    “ยุ่งอะไรด้วย ไม่ได้ไปปลูกให้พี่กินสักหน่อย” อ้าว? ไอ้เด็กคนนี้ น้องด่าผมว่าเสือกใช่มั้ยทุกคน

    “มานี่จะทำให้ดู เห็นแล้วมันขัดตา” ผมเดินไปแย่งจอบจากมือน้องมาถือเองก่อนจะจัดการขุดดินตรงหน้าตามแนวที่กอบัววาดเอาไว้ ด้วยความที่เป็นผู้ชายและทำงานจับจอบจับเสียมมาหลายต่อหลายครั้งผมจึงใช้เวลาทำตรงนี้ไม่นานก็ได้แปลงขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าออกมาอย่างสวยงาม

    “อ่ะ ทีนี้ก็สับดินต่อ” ผมยื่นจอบไปให้น้องตามเดิมก่อนจะยืนรอดูผลงานของน้อง

    “ไปไกลๆ หน่อยสิ มายืนขวางทำไมก็ไม่รู้” เอาอีกแล้ว ด่าผมอีกแล้ว อุตส่าห์มาช่วยขุดดินคำขอบคุณสักคำยังไม่มี แถมยังหลอกด่าผมอีก

    “นี่! พี่อุตส่าห์ช่วยเราขุดนะ คำขอบคุณยังไม่มีให้ไม่พอยังมาด่าพี่อีก”

    “แล้วได้ขอให้ช่วยมั้ย ก็ไม่ เสนอตัวมาช่วยเองเหอะ” ผมว่าผมควรจะชินกับคำพูดของน้องได้แล้วแหละ ครั้งแรกเป็นยังไงมันก็คงจะเป็นอย่างนั้นต่อ เป็นเด็กดีพูดจาๆ เพราะได้ไม่กี่เดือนเอง เห้อผมไม่น่ารู้จักกอบัวเลยจริงๆ เอาใจยากชะมัด

    “พูดมากอยู่นั่นแหละ สับดินได้แล้วจะได้เอาน้ำมารด” ผมเลือกที่จะเมินเฉยกับประโยคก่อนหน้าของน้องแล้วสั่งให้น้องสับดินแทน

    “ไม่ต้องมาสั่ง ไม่ใช่ครู”

    “ไม่ได้สั่งแค่บอกดีๆ เร็วๆ สิเพื่อนเขาจะเสร็จก่อนแล้วนั่น” ผมเร่งน้อง จริงๆ แล้วคนที่จะเสร็จก่อนใครเพื่อนก็คือกอบัวนี่แหละ เพราะคนอื่นกำลังขุดดินกันอยู่เลยแต่น้องได้สับดินแล้ว มีพระเอกมาช่วยก็งี้อ่ะดูสิผมมีน้ำใจขนาดไหน

    “พูดมาก จะไปไหนก็ไป” โดนไล่เฉย…ผมทำอะไรผิดอีกวะเนี่ย ทำไมวันนี้น้องดูไม่ชอบขี้หน้าพูดจาแปลกๆ กับผมอ่ะ

    “ไล่หรอ?”

    “อืม อยู่ไปก็ขวางหูขวางตา” ดูคำพูดคำจาของกอบัวสิ วันนี้ชักจะเอาใหญ่เกินไปล่ะไม่เกรงใจความเป็นพี่ของผมเลย มันน่านัก!

    “กอบัว! วันนี้เป็นอะไรเนี่ยทำไมพูดกับพี่แบบนี้” ผมอดไม่ได้ที่จะถามน้อง ตอนแรกที่บอกว่าควรจะชินแต่พอหลังๆ มาผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ ล่ะ มันดูผิดปกติอ่ะทุกคนน้องดูตึงๆ ใส่ผม หน้านี่ก็หยิกงอเหมือนใครไปทำให้โมโหมาอย่างงั้นแหละ

    “เอ้า? พี่ถามนี่ไม่ได้ยินหรอ”

    “ไม่ได้เป็นอะไร พี่หลบดิ๊บัวจะไปตักน้ำ”

    “พี่ไม่เชื่ออ่ะ บอกมาดิโกรธอะไรพี่” ในฐานะที่ผมรู้จักกับน้องมาห้าเดือนขอฟันธงได้เลยว่าตอนนี้กอบัวต้องโกรธอะไรผมสักอย่างแน่ๆ แต่ผมไม่รู้นี่สิว่าไปทำอะไรให้น้องโกรธ เมื่อวานก็ยังคุยกันดีๆ อยู่เลย

    “ถ้าไม่เต็มใจจะทำ ทีหลังก็บอกกันดีๆ” น้องหันมาพูดกับผมก่อนจะเดินถือบัวรดน้ำออกไป เดินตามไปสิครับรออะไร วันนี้ต้องรู้ให้ได้ผมไปทำอะไรให้น้องโกรธ

    “ทำอะไรอ่ะ” ผมถามน้องขณะที่เจ้าตัวกำลังก้มเขย่งปลายเท้าขึ้นไปตักน้ำบนแท่งปูนซีเมนต์ที่สูงขนาดเท่าอกของน้อง อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยตักให้แล้วยกมันมาวางไว้พื้นอย่างง่ายดาย

    “ว่าแล้ว…ใช่สิ้บัวไม่ได้สำคัญกับพี่อ่ะเนอะ”

    “อย่าเพิ่งงอน บอกพี่มาก่อนพี่จะได้รู้”

    “ช่างมันเถอะ พี่ไม้มาพาเพื่อนพี่ไปเรียนได้แล้ว” จู่ๆ น้องมันก็ตะโกนเรียกไม้ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าห้องน้ำให้มาลากตัวผมไป

    “เดี๋ยว! อย่าเพิ่งสิเรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ”

    “พี่ไม้!!” น้องไม่ฟังผมเลย เอาแต่ตะโกนเรียกไม้จนนักเรียนคนอื่นๆ เริ่มหันมามองล่ะ จะไม่ได้มองได้ยังไงเสียงดังลั่นสวนเกษตรขนาดนี้ ผมว่าอีกไม่นานครูคงจะเดินมาดูแน่ๆ ถ้าน้องมันยังตะโกนอยู่แบบนี้

    “เออ! ไปก็ได้ว่ะ งั้นไว้คุยกันตอนเย็นนะ” พูดจบผมก็เดินไปหาไม้ที่กำลังจะเดินมาทางนี้พอดี พอมันเห็นผมกำลังเดินไปมันก็หยุดยืนรอผมอยู่ที่เดิม

    “มึงไปแกล้งอะไรกอบัวอีก” ทันทีที่ผมมาถึงไม้ก็ถามขึ้น ไอนี่ก็มองผมในแง่ลบตลอดเลย ไม่คิดว่าผมจะถูกน้องแกล้งบ้างหรอวะ

    “กูไม่ได้แกล้งอะไรเลย ไปช่วยน้องมันขุดดินด้วยซ้ำ”

    “แล้วทำไมน้องมันเรียกกูให้ไปลากตัวมึงล่ะ” ไม้ถามต่อขณะที่พวกเรากำลังเดินไปเรียนวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งผ่านไปประมาณ20นาทีได้ล่ะ

    “กูไปทำอะไรให้โกรธก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็พูดจาตึงๆ ใส่”

    “กูเหนื่อยกับพวกมึงสองคนจริงๆ เลย แฟนก็ไม่ใช่งอนง้อกันอยู่นั่นแหละ”

    “ไปไหนมา!! ทำไมเข้าห้องเอาป่านนี้” ขณะกำลังถอดรองเท้าอยู่ชั้นวางรองเท้า เสียงอันทรงพลังก็ดังขึ้นจากชั้นบนของอาคาร ผมเงยหน้าไปมองสบตากับใบหน้าดุๆ ของครูประจำวิชาที่ยืนกอดอกพิงวงกบประตูอยู่ ซวยแล้วไง!

    “ปะ..ไปเข้าห้องน้ำมาครับ” ผมตอบคุณครูเสียงตะกุกตะกัก

    “เธอใช้เวลาเข้าห้องน้ำ20นาทีเลยหรอภาสกร”

    “ครับครู ผมปวดหนักครับ” เมื่อได้รับคำตอบจากผมคุณครูก็หันไปฟังคำตอบจากไม้บ้าง กลายเป็นว่าตอนนี้เราสองคนกำลังยืนอยู่นอกห้องโดยที่มีคุณครูยืนสอบสวนอยู่หน้าประตู

    “ธีรัชชัยล่ะ”

    “ผมก็ยืนรอภาสกรไงครับครู เพื่อนกันไม่ทิ้งกันครับ” ผมหันไปยกนิ้วโป้งให้ไม้อย่างแอบๆ หัวไวมากเลยเพื่อน

    “เคๆ งั้นก็เข้าไปทำแบบฝึกหัดในห้องได้ล่ะ” สุดท้ายพวกเราสองคนก็ไม่โดนคุณครูลงโทษ ผมรีบเดินมาที่โต๊ะของตัวเองก่อนจะเริ่มจดแบบฝึกหัดที่อยู่บนกระดาน โจทย์แค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอกแปบเดียวก็เสร็จแล้ว

    “ไอ้เหนือ เอามาลอกหน่อยดิ” ขณะที่ผมกำลังขีดเส้นใต้บรรทัดสุดท้ายของแบบฝึก ไม้ก็ยื่นมือมาดึงสมุดผมไปจนทำให้เส้นที่ขีดนั้นบิดเบี้ยวไปตามแรงดึง

    “ไอ้ไม้!!! เส้นกูเบี้ยวเลยเนี่ย!!”

    “กูขอโทษ ไม่ได้มองว่ะ” ไม้หันมาขอโทษด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด ผมเห็นดังนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรมันต่อทำเพียงเอาสมุดมาลบเส้นนั้นออกก่อนจะขีดใหม่แล้วยื่นให้มัน

    “ขอบใจ ลอกเสร็จเดี๋ยวกูไปส่งให้” พอทำงานที่คุณครูสั่งเสร็จแล้วผมก็ว่างขึ้นมาทันที ไม่รู้จะทำอะไรดีเหลือเวลาอีกตั้ง10นาทีกว่าจะหมดคาบ จะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าเกมก็คงไม่ทัน สุดท้ายก็ได้แต่นั่งเป็นหมาหงอยเลื่อนจอโทรศัพท์ไปมาด้วยความเบื่อหน่าย

    “กูส่งให้มึงแล้วนะ” ไม้เดินมาบอกผมหลังจากที่เอาสมุดไปส่งคุณครูแล้ว ผมพยักหน้าตอบรับก่อนจะก้มเล่นโทรศัพท์ต่อ

    “วันเสาร์ไปเตะบอลกันปะ” จู่ๆ ไม้ก็หันมาชวน ผมจึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัยร้อยวันพันปีไม่เคยชวนผมเตะบอลวันนี้กลับมาชวนซะงั้น

    “เตะที่ไหน”

    “ในเมืองสนามหญ้าเทียม” ผมชั่งใจอยู่สักพักว่าจะตอบตกลงเพื่อนไปดีไหม ใจหนึ่งก็ขี้เกียจด้วยเพราะเตะฟุตบอลมันต้องวิ่งผมไม่อยากวิ่งอ่ะ

    “ไปเหอะ กูรับปากพวกนั้นไปแล้วว่าจะพามึงไปเตะด้วย”

    “แล้วมึงก็ไม่ถามกูก่อนไอ้สัส!!” ผมหันไปด่าไม้ทันทีที่มันพูดจบ ถ้าตอบตกลงไปแล้วจะมาถามผมไปเพื่ออะไรวะ

    “สรุปไปนะ เจอกันที่สนามเลยประมาณบ่ายสาม”

    “เออ” พูดจบผมก็ลุกเดินออกจากห้องทันทีเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากโรงเรียนว่าได้เวลาเลิกเรียนแล้ว ใส่รองเท้าที่หน้าบันไดเสร็จก็เดินดึงเสื้อนักเรียนออกนอกกางเกงตรงไปที่โรงจอดรถเพื่อขับไปจอดรอกอบัวที่ข้างสนามตะกร้ออย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน

    ผ่านไปครึ่งชั่วโมงได้ที่ผมนั่งรอน้องอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน จนตอนนี้นักเรียนในโรงเรียนก็เริ่มเบาบางจนแทบจะไม่มีใครแล้วแต่ผมก็ยังไม่เห็นไอ้เด็กมอต้นเดินมาทางนี้สักที

    “ไปไหนอีกวะ” ผมสบถออกมาพร้อมกับลงจากรถแล้วเดินหาน้องตามอาคารเรียนใกล้ๆ แต่ก็ไม่พบ จนสุดท้ายก็ต้องเดินกลับมานั่งรอที่รถดังเดิมเผื่อว่าน้องมาแล้วไม่เห็นผม ต่างคนต่างหากันก็คงไม่ได้กลับบ้านกันพอดี

    “น้อง! พี่ถามอะไรหน่อยสิ” ขณะที่นั่งรอกอบัวอยู่นั้นผมก็หันไปเห็นเด็กมอต้นคนหนึ่งที่ผมพอจะจำได้ว่าเป็นเพื่อนในกลุ่มของกอบัว จึงเรียกน้องเอาไว้เพื่อถามไถ่หาไอ้เด็กแสบ

    “กอบัวอยู่ไหนหรอ”

    “อยู่สวนเกษตรค่ะ” ผมพยักหน้าให้น้องก่อนจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ของตัวเองแล้วขับกลับไปบริเวณหลังโรงเรียนเพื่อไปหากอบัวที่ไม่รู้ว่าอยู่ทำอะไรที่นั่น

    “กอบัว!!!!” ผมตะโกนเรียกคนที่ก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่างใกล้ๆ กับกอต้นกล้วยที่โรงเรียนปลูกเอาไว้เป็นสวน พอได้ยินชื่อของตัวเองน้องก็เงยหน้ามามองจึงพูดต่อ

    “กลับบ้านได้แล้ว มัวทำอะไรอยู่!!”

    “พี่กลับก่อนเลย บัวยังไม่กลับตอนนี้!!!” น้องหันมาตะโกนตอบผมก่อนจะหันไปทำงานของตัวเองต่อ สุดท้ายผมก็ต้องดับรถของตัวเองแล้วเดินไปหาน้อง

    “ทำอะไรอ่ะ”

    “พรวนดิน” น้องบอกผมมือก็ยังคงสาละวนอยู่กับจอบโดยไม่หันมามองผมแม้แต่น้อย อะไรวะทำตั้งแต่บ่ายโมงยังไม่เสร็จอีกหรอ

    “ทำตั้งแต่บ่ายโมง ยังไม่เสร็จอีกหรอ”

    “แล้วพี่เห็นมันเสร็จมั้ย” กอบัวเงยหน้ามาถามผมพร้อมกับใช้มือปาดเหงื่อที่มันค่อยๆ ไหลตามกรอบใบหน้าของน้อง ผมจะโดนด่าอีกมั้ยทุกคนไม่น่าถามเลยจริงๆ

    “มานี่เดี๋ยวทำเอง” ผมแย่งจอบจากมือน้องมาถือไว้ก่อนจะจัดการพรวนดินในแปลงผักที่ผมเป็นคนขุดให้เมื่อตอนบ่าย ส่วนกอบัวก็ทรุดตัวลงไปนั่งใต้ร่มต้นกล้วยอย่างหมดแรง เห็นแล้วก็แอบสงสารตัวเล็กแค่นี้แต่ต้องมาจับจอบขุดดินที่หนักเกือบสิบกิโลไม่เหนื่อยสิแปลก

    ผมช่วยน้องพรวนดินจนเสร็จสรรพเรียบร้อยก่อนจะให้น้องเอาจอบไปล้างเก็บ ส่วนผมก็เดินไปล้างไม้ล้างมือที่ก๊อกน้ำแล้วมานั่งรอน้องที่มอเตอร์ไซต์เพื่อที่จะได้กลับบ้านพร้อมกัน

    “วันเสาร์ว่างมั้ย” ขณะขับรถออกจากบริเวณโรงเรียนผมก็ถามคนที่นั่งซ้อนด้านหลังทันที

    “ว่าง ทำไมอ่ะ”

    “ไปในเมืองกับพี่หน่อยดิ บ่ายสามเดี๋ยวไปรับ”

    “ไปทำไม?”

    “เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองหน่า” พอผมพูดไปแบบนั้นน้องก็ไม่ได้ถามอะไรต่อจนผมขับรถมาจอดอยู่หน้าบ้านของน้อง ทันทีที่รถจอดสนิทกอบัวก็เดินเข้าไปในบ้านโดยไม่หันมาขอบคุณหรือบอกลาผมเลยสักคำ สไตล์เค้าแหละไอ้เรื่องไม่มีมารยาทเนี่ย!!!

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×