ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขโมย...หัวใจนายอันธพาล!!! ( YaOi )

    ลำดับตอนที่ #9 : Thief_Heart 9 : Chapter Special 4 : Love Story Is Time

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 53






     

    Thief_Heart 9 : Chapter Special 4 : Love Story Is Time

     

     

     

    Time  Talk

     

     

     

              ผมจะมาเล่าเรื่องที่ผมเจอกับไอ่แว่นครั้งแรก ทุกคนจะได้รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับมัน มันไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ ถ้ามันเป็นแค่นั้นคงจะดีไม่น้อยสำหรับผม  

     

    ผมเจอมันครั้งแรกก็ตอนม.1 วันนั้นเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ผมมาโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่สดชื่น พลางคิดในใจว่า วันแรกกูจะหาใครเป็นเหยื่อชิมตีนกูรายแรกดี 

     

    ไอ่ผมมันก็พวกเยอะตั้งแต่เด็กแล้ว ส่วนใหญ่ผมมักจะได้เป็นหนึ่งในหัวโจกเด็กเลวเสมอ(เลวตั้งแต่เด็ก) ด้วยความที่เป็นคนตัวสูง ใหญ่  ฝีมือ ฝีตีน ก็หนักและที่สำคัญที่สุด คือ ผมหล่อ!!!! ก๊าก กกกกกก  และเนื่องจากคนส่วนใหญ่ก็พอได้ยินเรื่องราวอันเลื่องลือของผมมานักต่อนัก เลยมักจะไม่มีใครกล้าหาเรื่องผม มักจะทำตามที่ผมสั่งอย่างว่าง่าย เนื่องจากถ้าไม่ทำตาม ก็คงจะรู้ๆกันอยู่ว่าจะได้แดกตีนผมเป็นแน่แท้

     

    ทั้งๆที่กำลังเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเข้าโรงเรียน ก็ดันมีใครไม่รู้ เอามือมาสะกิดหลังผมยิกๆ ไอ่ผมก็ไม่สนใจเดินผิวปากเข้าโรงเรียนต่อ ไอ่เจ้าของมือปริศนาก็ไม่ยอมแพ้ ดึงคอเสื้อข้างหลังผมไว้   ฮ่วย!! รำคาญแล้วนะเฟ้ย!! ใครมันบังอาจมากระตุกหนวดเสือสุดหล่อคนนี้ ผมรีบหันหน้าไปพร้อมกับแหกปากตระโกนด้วยเสียงอันดังกึกก้อง

     

     

     

     

     

     

     

              เชี่ย!!!! ดึงหาพ่อมึงไร เดี๋ยวพ่อปั๊ดเตะก้านคอแมร่ง!!! ปรากฏว่าคนดึงมันคืออาจารย์ชายคนนึง!!!!! แต่เรื่องไรผมจะกลัว ไม่มีทางที่สุดหล่อทาร์มคนนี้จะกลัวใคร

     

     

     

     

     

     

     

              นี่เธอ ช่วยอาจารย์ขนของหน่อยสิ ผมก็มองไปที่ข้างหลังอาจารย์ชายคนนั้น มีรถกระบะโตโยต้า วีออส สีดำ(มึงมั่วรึปล่าวไอ่ทาร์ม ได้ข่าวว่า โตโยต้า วีออส มันไม่ใช่รถกระบะนะ - ???) คันหนึ่งจอดไว้ พร้อมกับที่มีกล่องอะไรก็ไม่รู้เต็มหลังรถคนนั้น

     

     

     

     

     

     

     

              เรื่องไรล่ะ อาจารย์ก็ไปให้คนอื่นช่วยขนดิ พูดพลางยักคิ้ว ยิกๆ อย่างกวนตีนสุดๆ อาจารย์ก็อาจารย์เถอะวะ ไอ้ทาร์มไม่เคยกลัว

     

     

     

     

     

     

     

              ผมเป็นอาจารย์นะ!!!! ”

     

     

     

     

     

     

     

              ก็แล้วไงล่ะครับ เป็นอาจารย์มีหน้าที่แค่สอนหนังสือ ไม่ใช่ใช้งานเด็กนักเรียน โฮะๆ ยอดชายนายทาร์ม เหี้ยได้อีก แม้แต่อาจารย์ก็ไม่เว้น เพราะดูอาจารย์คนนี้ดูไม่น่ากลัวเลยซักนิด หน้ายังดูเหมือนกับพวกนักศึกษาพึ่งจบมาใหม่ๆ ผมเลยต้องสั่งสอนอาจารย์เล็กๆน้อยๆ จะได้จำนายทาร์มสุดหล่อไปจนวันตาย

     

     

     

     

     

     

                      

              ถ้าเธอไม่ช่วยอาจารย์ขนของ อาจารย์จะลงโทษเธอ

     

     

     

     

     

     

     

              จะลงโทษไรล่ะครับ อาจารย์กล้าด้วยหรอ

     

     

     

     

     

     

     

              อาจารย์จะหักคะแนนความประพฤติเธอ!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

              ตามสบายครับ และผมก็เดินจากไปเยี่ยงพระเอกผู้หล่อเหลาลากไส้   แค่หักคะแนน อ่ะโด่ นึกว่าอะไร กลัวตายล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

              นี่เธอ ถือว่าช่วยอาจารย์หน่อยนะ ผมหันกลับไปมองที่อาจารย์อีกครั้ง เสียงของอาจารย์นั้นอ่อนลงมาก ถือว่าอาจารย์ขอล่ะนะ วันนี้เป็นวันแรกที่อาจารย์จะมาสอน อาจารย์ยังไม่ได้ไปรายงานตัวกับอาจารย์ใหญ่เลย

     

     

     

     

     

     

     

              แล้วทำไมอาจารย์ไม่ไปรายงานตัวก่อนล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

              ก็อาจารย์ต้องขนของไปไว้ที่ห้องพยาบาลในตึกม.ต้นก่อน เพราะเดี๋ยวจะไม่มีเวลาเตรียมของ  เพราะงั้นช่วยอาจารย์หน่อยนะอ๋อ ที่แท้ก็เป็นอาจารย์ห้องพยาบาลก็ว่าทำไมหน้าอ่อนชิบ

     

     

     

     

     

     

     

              ไม่ อาจารย์ก็ไปใช้คนอื่นดิ เหอะ เรื่องไรกูจะยอม กูขี้เกียจโว้ย

     

     

     

     

     

     

     

              เฮ้!! นี่ทำอะไรกันเนี่ย ผมหันไปมองทางต้นเสียง ปรากฏว่าเป็นอาจารย์ชายอีกคน หน้าโคตรเถื่อน แล้วนี่อาจารย์ใหม่ไม่ใช่หรอ ยังไม่ไปรายงานตัวอีก เดี๋ยวก็ถูกอาจารย์ใหญ่ด่าหรอก

     

     

     

     

     

     

     

              คือว่าผมต้องขนของให้เสร็จก่อนน่ะครับอาจารย์

     

     

     

     

     

     

     

              งั้นก็ให้เด็กมันขนสิ ไป ไป เดี๋ยวผมจัดการเอง

     

     

     

     

     

     

     

              งั้นก็ขอบคุณครับอาจารย์ ขอบคุณเธอด้วยนะ อาจารย์ชายคนนั้นเหมาเอาเฉยเลยว่าผมจะช่วยขนของ พร้อมกับรีบวิ่งไปทันที แล้วเรื่องไรล่ะที่ผมจะช่วย ผมก็ก้าวเท้าเดินไปทันที

     

     

     

     

     

     

     

              นี่เธอ จะไปไหน มาขนของซะ เสียงอาจารย์ชายหน้าเถื่อนนั้น ดังขึ้นขัดจังหวะการเดิน

     

     

     

     

     

     

     

              อาจารย์ก็ขนเองดิ แล้วผมก็ก้าวเดินต่อทันที

     

     

     

     

     

     

     

              ถ้าเธอไม่ขน ฉันจะให้เธอไปล้างส้วม.......ทุกอาคารโหย อะไรวะ อาคารก็มีตั้งหลายอาคาร แถมล้างส้วม คนหล่อเซ็ง

     

     

     

     

     

     

     

              อาจารย์มีสิทธิอะไรมาสั่งผมล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

              งั้นลองดูมั๊ยล่ะ ไอ่ผมก็ขี้เกียจคุย เลยเดินไปที่รถกระบะคันนั้น อ้าว งงกันสิครับ ผมก็แค่ไม่อยากล้างส้วมเท่านั้นเอง แล้วดูก็รู้ว่า

    อาจารย์นี่มันทำตามที่พูดได้แน่นอน ผมก็เลยเดินไปเริ่มขนของ ซึ่งมันมีแต่กล่องกระดาษ แต่มันหนัก เวรเอ๊ย!! มีตั้งหลายกล่องกูจะขนหมดมั๊ยวะเนี่ย

     

     

     

    ผ่านไป 10 นาที

     

     

     

    ในความคิดผมในตอนนี้มีแต่คำว่า หนักชิบหาย  เฮ้อ~ ขนไปแล้ว 10 นาที ไอ่กล่องที่ว่ามันก็ดูไม่ลดลงเลย ไอ้ห้องพยาบาลนั่นก็อยู่ในตึกเรียนม.ต้น(โรงเรียนนี้มีทั้งม.ต้นและม.ปลาย) ต้องเดินลัดหลังอาคารไปตั้งหลายอาคารกว่าจะถึงตึกม.ต้น(โรงเรียนกว้างมีโคตรหลายอาคาร) แล้วไอ่อาจารย์อ่อนนั่นก็ดันจอดรถซะหน้าโรงเรียน 

     

    ให้กูขนอยู่ได้คนเดียว สงสัยคงต้องหาคนมาช่วยขนของซะแล้ว  หึ หึ เมื่อคิดขึ้นได้ ผมก็เริ่มสอดส่องสายตาหาผู้โชคร้ายทันที แต่เมื่อมองไปรอบๆตัว กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรเลย นอกจากสัตว์และต้นไม้ ใบหญ้า คนหล่อเซ็งว่ะ เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวเห็นอะไรแว๊บๆ ที่หน้าประตูโรงเรียน ผมไม่รอช้า จากที่ยืนพักเหนื่อยอยู่หลังตึกเรียนตึกหนึ่ง  ผมรีบออกตัววิ่งไปที่หน้าประตูโรงเรียนทันที   ว๊ะ ฮ่ะ ฮ่า คนจริงๆด้วยวุ้ย ฮ่า ฮ่า รอดแล้วกู รอดแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

              แฮ่ก แฮ่ก เดี๋ยว!!! มึงหยุดก่อน!!! ด้วยความที่เหนื่อยจากการวิ่ง เลยเผลอตะโกนใส่ผู้โชคร้ายซะเสียงดัง แล้วผมก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น

     

     

     

     

     

     

     

              ค..ครับ? ” เสียงที่ติดออกจะหวานดังขึ้น ทำให้ผมต้องแหงนหน้าขึ้นไปมอง เพราะไอ้นั่นมันยืนอยู่ แต่ภาพที่ผมเห็น ทำให้ผมต้องตาค้าง!!!!อ้าปากเหวอ ด้วยความ งงงวย ก็จะอะไรซะอีกล่ะครับ

     

    ก็ไอ่เหี้ยนั้น(สรรพนามเริ่มเปลี่ยนไป) มันอ่ะโคตรเด็กเฉิ่มตัวจริงเลย รูปร่างที่สูงโปร่ง ประมาณ 180ได้  ไอ่เอี้ย นี่สูงเว่อร์ (อย่างกับแกไม่สูงห๊ะ ไอ่ทาร์ม เอ๊ยย) ร่างกายที่ผอมแห้งปานกับอดอาหารมาได้ซักร้อยชาติ(เว่อร์เกิน)

     

    ทรงผมที่ตัดเป็นบ๊อบสีดำ เอ๋อโคตรๆ พร้อมกับแว่นตาขอบหนาสีดำ ขอบหนาซัก 10 นิ้วก็ว่าได้(เว่อร์ได้อีก) ผิวที่ขาวซีดเหมือนผีดิบที่ไม่เคยได้รับแสงแดดและใบหน้าที่แก้มมีสีแดงเล็กน้อยเหมือนเอามะเขือเทศมาถูแก้ม(ไอ่นี่ก็ เค้าเรียกว่าขาวอมชมพู เฟ้ย!!!) จมูกโด่งเหมือนไปทำศัลยกรรมมา จะโด่งไปไหนวะ พร้อมกับริมฝีปากที่บางเฉียบ สีแดงสด อย่างกับไปแดกเลือดมายังไงยังงั้น สรุปไอ้นี่เหมือนผีดิบเดินดินทุกประการ

     

     

     

     

     

     

     

              มึง...ไอ่แว่น มาช่วยกูขนของก่อน หลังจากใช้สายตาสำรวจร่างกายมันเสร็จ ผมก็ไม่รอช้า รีบสั่งมันทันที ไอ่แว่นมันเหมือนจะตกใจเล็กน้อย คงคิดล่ะสิ ว่าทำไมกูหน้าด้าน กูจะตอบให้ เพราะกูหล่อ!!!! ก๊าก กกกกกกกก

     

     

     

     

     

     

     

              ท..ทำไมล่ะครับ ไอ่ห่านี่ ดันมีหน้ามาถามอีก

     

     

     

     

     

     

     

              มึงไม่ต้องพูดมาก ไปขนกล่องที่หลังรถคันนั้นแล้วเอาไปไว้ที่ห้องพยาบาลในตึกม.ต้นซะ

     

     

     

     

     

     

     

              ทำไมผมต้องทำด้วย

     

     

     

     

     

     

     

              หือ? มึงว่าอะไรนะ ไอ่แว่น!!!! ” มันสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ยังยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหน ไอ่นี่วอนหาตีนซะแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

              น..นายก็ทำเองสิ แน่ะ ดันมีหน้ามาสั่ง ไม่รู้ซะแล้วว่าใครเป็นใคร   ผมกระชากคอเสื้อมันทันที ไม่ต้องกระชากอะไรมากเพราะส่วนสูงที่ไม่ค่อยห่างกันมาก ทำให้มันเซมาทางผมเล็กน้อย

     

     

     

     

     

     

     

              มึงหาเรื่องกูใช่มั๊ย! ไอ่แว่น!!! ”

     

     

     

     

     

     

     

              กร่อด   ป..ปล่าวครับ ผมไม่ได้หาเรื่องครับ หือ? ก่อนที่มันจะพูดออกมา เหมือนผมจะได้ยินเหมือนเสียงมันกัดฟัน เหมือนมันกำลังอดทนอะไรซักอย่าง คงไม่หรอกผมคงหูแว่วไปเอง อย่างมันคงไม่กล้าทำอะไรผมอยู่ดี

     

     

     

     

     

     

     

              งั้นก็ไปขนของสิวะ!!

     

     

     

     

     

     

     

              ไม่!!!!...เอ่อ..ไม่ปฏิเสธครับ แค่มันตะโกนคำว่า ไม่!!! ออกมา ผมก็รีบตวัดสายตาอาฆาตให้มันทันที มันเลยต้องจำใจเปลี่ยนคำพูด

     

     

     

     

     

     

     

              เหอะ ก็แค่นี้ แล้วไอ่แว่น มันก็เดินไปที่รถโตโยต้า วีออส(ในความคิดของไอ่ทาร์มมัน ไอ่ทาร์มมันโง่ทุกเรื่อง) แล้วก็เริ่มขนกล่องเหล่านั้นทันที แต่แปลกแฮะ เหมือนกล่องมันจะไม่หนักสำหรับไอ่แว่นมันเลย มันขนอย่างกับว่ากล่องที่อยู่ในมือมันเป็นกล่องเปล่า แต่สำหรับผม มันโคตร!!!!หนัก หรือไอ้นี่มันจะถึกเงียบ

     

    พอยืนมองดูมันขนของได้ซักพัก ก็ชักเมื่อย ผมเลยเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง แล้วผมก็นั่งดูไอ่แว่นมันขนของไป มันก็วิ่งเข้าวิ่งออกอาคารเป็นว่าเล่น ว่าแต่มันทำได้ไงวะ แค่กล่องเดียวกูยังแทบจะชักดิ้นชักงอตาย ไอ่เหี้ยนี่แมร่ง ขนครั้งละสองกล่อง บางทีก็สามกล่อง 

     

    ผมว่ามันชักจะแปลกๆแล้วสิ คนธรรมดามันไม่น่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ หรือว่ามันเป็น... เป็น...เป็นผีดิบ!!! เฮ้ย! ถ้าอย่างงั้นมันจะไม่จับผมดูดเลือดหรอวะเนี่ย คงไม่ใช่หรอก ไอ่ผมมันก็คิดไปได้  แต่ผมว่าไอ่แว่นมันแปลกจริงๆนะ ร่างกายผอมแห้งขนาดนั้น มันเอาแรงที่ไหนมายกกล่องหนัก มันเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ปลอมตัวมารึปล่าววะ ว่าแต่ผมเริ่มชักงงตัวเองแล้วสิ นี่กูบ้าหรือว่ากูเพี๊ยนวะ คิดซะไกลเชียว

     

     

     

     

     

     

     

              น..นี่นายน่ะ ไม่มาช่วยกันขนของล่ะ จู่ๆ ไอ่แว่นก็มาโผล่ยืนอยู่ข้างหน้าม้าหินอ่อนที่ผมนั่งเฉย ไอ่ผมก็มัวแต่นั่งคิดแล้วคิดอีกว่าไอ่แว่นมันเอาแรงมาจากไหน เลยไม่ทันสังเกตเห็นว่ามันเดินมาทางผมที่ใต้ต้นไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ไอ่เหี้ยนี่แมร่งเป็นผีดิบชัวร์ๆ ผลุบๆโผล่ๆ อย่างกับผี

     

     

     

     

     

     

     

              ห๊ะ! เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ!! ” จริงๆแล้ว ผมก็ได้ยินมันพูดทุกคำอย่างชัดเจน แต่ก็ถาม(ตะคอก)ไปงั้นเผื่อมันเปลี่ยนคำพูด ผมตอนนี้ก็เริ่มเดือดๆขึ้นมาบ้างแล้ว ไอ่แว่นนี่มันเป็นใครวะ ขยันยั่วโมโหกูจริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

              ผมบอกว่าทำไมนายไม่มาช่วยกันขนของล่ะ...ผวัะ!!! พอได้ยินแค่นี้แหละครับ ผมก็ลุกพรวดไปกระชากคอเสื้อมัน แล้วต่อยไปที่หน้ามันเต็มๆ หน้ามันหันไปตามแรงกระแทก แต่มันก็ไม่ยักกะล้มลงกับพื้นง่ายๆ ยังคงยืนค้างอยู่ท่านั้น

     

     ผมว่าผมต่อยแรงแล้วนะ อย่างน้อยๆมันก็น่าจะล้มลงไปบ้างสิ ไม่ใช่ยืนนิ่งแบบไม่รู้สึกอะไรแบบนี้ พอมันนิ่งไม่ตอบสนองอะไรผมซักอย่าง ท่าทางแบบนี้ยิ่งทำให้ผมเดือดเข้าไปใหญ่

     

    จนผมต้องกระชากคอเสื้อมันให้หันหน้ามาหาผม ผมถึงได้เห็นว่า บริเวณปากมันแตก เพราะดูจากที่มันมีเลือดกลบปาก จากปากที่แดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงเพราะเลือด เลยทำให้มันดูเหมือนผีดิบจริงๆ ส่วนมันทำตายังไงตอนนี้ผมก็ไม่รู้หรอกครับ เพราะแว่นมันเล่นบังซะเกือบครึ่งหน้า

     

     

     

     

     

     

     

              มึงจะขนของคนเดียวหรือว่าจะให้กูช่วยขนของอีก ผมกัดฟันพูด เน้นแต่ละคำ เพื่อข่มไอ่แว่นมัน

     

     

     

     

     

     

     

              ผมขนเองก็ได้ครับ หึ ที่จริงก็ป๊อดนี่หว่า ไอ่แว่นเอ๊ย

     

    ผมก็ปล่อยมือออกจากคอเสื้อมัน มันก็หันหลังแล้วเริ่มเดินไปขนของต่อ ว่าแต่ชักคอแห้งขึ้นมาแล้วสิ แล้วผมนายทาร์มสุดหล่อคนนี้ก็คิดเรื่องชั่วๆออกอีกแล้วสิ

     

     

     

     

     

     

     

              เดี๋ยวไอ่แว่น.... มันค่อยๆหันหลังกลับมา

     

     

     

     

     

     

     

              ไปซื้อน้ำให้กูทีดิ๊ มันทำหน้าเหวอเล็กน้อย    หรือว่ามึงมีปัญหาวะ

     

     

     

     

     

     

     

              ม..ไม่มีครับ แล้วมันก็เดินไปโดยที่ไม่เอาตังค์จากผมซักบาท เออ..ดีแฮะ กูไม่ต้องเสียตังค์

     

    ผมว่า ไอ่แว่นนี่มันมีหลายมุมมองนะครับ ส่วนมากผมเป็นคนดูคนออกเพราะจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอคนมาเยอะ เลยทำให้พอที่จะดูคนออกบ้าง จะว่ามันกลัวผมก็ไม่เชิง เพราะดูจากน้ำเสียงกับคำพูดมัน มันต้องเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่ายๆแน่นอน แต่จะบอกว่ามันแกล้งทำไปงั้น ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะแกล้งทำไปทำไม

     

    ไม่เคยมีใครกล้าขัดผม มีมันคนแรกนี่แหละที่กล้าขัด ถึงแม้พึ่งจะเจอกัน แต่คนอื่นๆก็กลัวผมกันหมดไม่รู้เพราะกลัวสายตาผมหรือว่าอะไร แต่ผมรู้สึกได้ว่าไอ่แว่นนี่มันไม่กลัวผมเลย แถมเวลาผมสั่งมัน มันจะสวนคำพูดปฏิเสธทันที ผมไม่เคยเจอใครแบบนี้เลย หึ หึ ว่าแต่ผมชักสนุกขึ้นมาแล้วสิ ไอ่นี่ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่นอน

     

     

    -------------------------------------------------------

     

     

    นับจากวันนั้นก็ผ่านมาได้ 5 ปีกว่าๆแล้ว ที่ผมคอยจับตาดูมันและคอยกระทืบมันเวลาที่มันทำผมขัดใจ และการมองหาไอ่แว่นในทุกๆวัน นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมทำมาจนเคยชิน ผมก็ไม่รู้ว่ามันได้เข้ามาอยู่ในใจผมตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    ผมไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งกับมัน ผมมักจะคอยขวางคนพวกนั้นเสมอ แม้พวกนั้นจะเข้าหามันในฐานะเพื่อน เพราะมันไม่ได้หน้าตาดีเลยซักนิด ตลอด5 ปีกว่าๆที่ผมเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตมัน ผมยังหาความหน้าตาดีจากมันไม่ได้เลย

     

    แล้วผมดันไปรักมันได้ไงวะ หรือเพราะว่ามันเป็นคนเดียวที่ทำให้ทุกๆวันผมไม่รู้สึกเบื่อ ทำให้ชีวิตผมมีความสุข เวลาที่ผมกระทืบมัน ผมก็เจ็บที่ใจนะ แต่ทำไงได้ ผมไม่อยากให้มันขัดใจผม อยากให้มันทำตัวว่าง่ายกับผมบ้าง ไม่ใช่คอยแต่จะปฏิเสธผมทุกเรื่อง ผมเลยต้องคอยสั่งสอนมัน

     

    หลายๆคนอาจคิดว่าที่ผมทำไปไม่ใช่ความรัก มีที่ไหนไปกระทืบคนที่รัก ผมก็อยากทำดีกับมันนะ แต่มันก็ขัดกับนิสัยผมน่ะสิ แล้วผมก็ชอบเวลามันโดนผมกระทืบ เพราะมันไม่มีเสียงร้องขอ อ้อนวอนเลยซักแอะ ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่โดนยังไม่เท่าไหร่ก็แทบจะกราบตีนผม เพื่อขอให้ผมหยุด หรือว่าผมจะเป็นพวกซาดิสม์ เห็นมันเจ็บแล้วมีความสุข แล้วมันจะเป็นมาโซมั๊ยเนี่ย???  

     

    แต่ผมก็ไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับไอ่แว่นของผมเด็ดขาด ก็จะมีแค่สามคนเท่านั้น ที่ผมไปขวางมันไม่ได้ ก็จะใครซะอีกล่ะครับ ก็พวกไอ่ชานั่นแหละ ขู่พวกมันยังไงก็แล้ว กระทืบก็แล้ว แต่ก็ไม่ยอมออกไปจากชีวิตไอ่แว่นเลย มันจะเป็นเพื่อนรักอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ คนหล่อเซ็ง

     

    ผมไม่เคยกลัวว่าจะมีใครกล้าแย่งไอ่แว่นไปจากผม จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ผมรู้สึกกลัว กลัวว่าจะเสียไอ่แว่นไป วันที่ไอ่ฮาร์ฟเพื่อนนักเลงแถวบ้านผม ได้ย้ายเข้ามาเรียนโรงเรียนเดียวกับผม เพราะมันดันถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่ามัน มันเป็นคนที่ผมสนิทด้วยที่สุด แค่มองตากันก็รู้แล้วว่า ใครคิดยังไง

     

    ผมว่าไอ่ฮาร์ฟมันคงรู้แล้วว่าผมคิดอะไรกับไอ่แว่น แล้วอีกอย่างไอ่ฮาร์ฟมันมีสเป็คคนที่ชอบเหมือนผม แบบว่านิสัยเหมือนกันเลยคบกันได้  ผมไม่รู้ว่าไอ่ฮาร์ฟเป็นเกย์รึปล่าว แต่ที่แน่ๆผมไม่ได้เป็น เอ้า ทุกคนคงจะงงกันล่ะสิ ว่าถ้าไม่ได้เป็นแล้วไปชอบผู้ชายได้ไง นั่นก็เพราะว่าผมรักแค่ผู้ชายคนเดียว นั่นก็คือไอ่แว่น ผู้ชายอื่น ผมไม่ได้ชอบ ไม่ได้รัก ออกแนวอยากต่อยซะด้วยซ้ำ แบบว่าเห็นหน้าแล้วคันไม้คันมือ

     

    ส่วนตัวผมก็มองผู้หญิงได้แบบปกติ ฟันแล้วทิ้งมีออกจะบ่อย ถ้าจะให้มีอะไรกับผู้ชาย ผมขอตายดีกว่า แต่ยกเว้นแค่ไอ่แว่นละกัน

     

    ผมเลยกลัว กลัวว่าไอ่ฮาร์ฟมันจะเผลอไปชอบไอ่แว่นเข้าให้  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไง คนนึงก็เป็นเพื่อนสนิท อีกคนก็เป็นคนที่แอบรัก ผมหวังว่ามันคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงๆ

     

    ตอนนี้หมดเวลาของผมละ ผมคงต้องลาทุกๆคนแล้ว ทาร์มสุดหล่อคนนี้ขอตัวไปก่อนนะครับ อย่าลืมเชียร์ผมกับไอ่แว่นด้วยนะคร๊าบบบ

     

     

     

    -------------------------------------------------------------------------------------

     

    ตอนนี้ยาวหน่อยนะคะ

    เอ๊ะ!!!

    หรือว่าใครบอกว่าไม่ยาว ห๊าๆๆ   ^^


    ตอนนี้เป็นตอนพิเศษของ ทาร์ม เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทาร์มได้เจอกับเคน อิอิ น่ารักรึปล่าวคะ??

    ทุกคนจะเชียร์ใครให้เป็นพระเอกเรื่องนี้คะ หุหุ หรือว่า 3p ดีเอ่ย???<<ต้องขอบอกว่าเราแต่ง 3p ไม่เป็น แต่ใจมันรัก อิอิ



    [ สุดท้าย เราต้องกราบขออภัยอย่างสูงต่อรีดเดอร์ทุกๆท่าน]

    ขอโทษจริงๆค่ะ คือ ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลยอ่ะค่ะ

    ขอโทษค่ะ ที่ไม่ได้มาอัพซะนาน มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ตอนนี้คงพูดได้แค่คำว่า ขอโทษ คำเดียวจริงๆค่ะ (- / \ -) ]


    ยังไงก็ขอขอบคุณที่ทุกคนยังรอคอยเรื่องนี้กันนะคะ

    เรามีความสุขมากๆๆๆเลย ที่รู้ว่ายังมีคนอยากอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณค่ะ  (^^)



    ---------------------










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×