ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Ageha~

    ลำดับตอนที่ #6 : ~ Step Four ~ When I fall in love …

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 48




    …. เวลาที่ผ่านมานี้กี่สัปดาห์แล้วนะ ... นับตั้งแต่วันที่สวรรค์ได้ส่งนางฟ้าผู้น่ารักให้ได้มาเจอะกับผู้ชายธรรมดาคนนี้ ... นริศนั่งท้าวคางอยู่ข้าง ๆ หน้าต่างของห้องชมรมดนตรี  อิสราพยายามบุกใบ้ให้เพื่อน ๆ ดู ... ท่าจะใช่ ... เขากำลังมีความรัก ... รักที่เจ้าตัวพยายามวิ่งหนี ... แต่แล้วมันกลับมาทำพิษกับเขาอีกจนได้ ... เวรกรรม คราวนี้หลบยังไงก็คงไม่พ้นแล้วหล่ะ  เพราะดูท่าทางมันจะปะทะเข้าอย่างจัง ... กรรมมันจะตามทันผู้ชายอย่างนริศก็วันนี้แหละนะ

        … คิดถึงหน้าหวาน ๆ นั้นจังเลยน๊า ... ชายหนุ่มนั่งยิ้มอยู่คนเดียว  เพื่อน ๆ เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ... อีตานี่ท่าจะบ้านะ  เห็นมันนั่งยิ้มคนเดียวอยู่นานแล้วอ่ะ ...

        “ชั้นถามแกจริง ๆ อย่าหาว่าชั้นจุ้นนะ ปาร์คนะ” อิสราเปรยอย่างเซ็ง ๆ

        “มีไรหล่ะ  ว่ามาสิ”  เสียงเขาหวานเสียงจน เธอทำหน้าแหย ... ท่าจะหนักนะ ...

        “แกอย่ามองหน้าชั้นอย่างนั้นได้มั้ย ... จะอ้วกอ่ะแก ... คือช่วงนี้แกแปลก ๆ ไปหว่ะ ... ว่ามั้ย”

        “แปลกตรงไหน ... ชั้นว่าไม่เห็นแปลกเลย” อิสรามองหน้าอย่างไม่เชื่อ ... ก็ชั้นว่าเปลี่ยนนี่หว่า ... “สาบานได้  ชั้นก็ยังเป็นชั้น”

        “แปลกสิค่ะพี่ชาย ...” นริศราเดินมาเอ่ย  อย่างลอยหน้าลอยตา ... “ก็แปลกตรงที่พี่มานั่งใจลอยแบบนี้เป็นวัน ๆ เนี่ยแหละ”

        ... มานั่งใจลอยเป็นวัน ๆ หรอ  บ้าหน่าคนอย่างนริศเนี่ยนะมานั่งใจลอย  ทำอย่างอื่นดีเสียกว่า ... เฮ้อ ... ทำไมวันนี้ใจมันอยู่ไม่สุขนะ ....

        นึก ๆ ขึ้นได้คนใจอยู่ไม่สุขของเราก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา  กรอกเสียงเบา ๆ ไปสักครู่ใหญ่ พลางพยักหน้าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง ... เขากำลังคิดจะทำอะไรกับชีวิตตัวเองกันแน่ ... ไม่เห็นเข้าใจเลย  ตั้งแต่ที่จู่ ๆ หัวใจของเขาก็ยอมรับนางฟ้าเข้ามาอยู่ในหัวใจ  ดูเหมือนอะไร ๆ ที่เขาทำนั้นเขาจะไม่เข้าใจตัวเองเสียเท่าไหร่นะ ...

        “ฮัลโหล ...” เสียงทักทายอย่างน่ารักสองเสียงดังประสานกัน  อะไรกันนักกันหนา เห็นที่ของชมรมนี้เป็นอะไรกัน

        “ยัยเพชรยัยพลอย  ที่นี่ไม่ใช่ที่วิ่งเล่นนะย่ะ  อยากเล่นไปเล่นข้างนอก ไป๊”

        อิสราบ่นเด็กหญิงสองคน หน้าตาเธอทั้งสองเหมือนกันราวกับแกะ  ลอกแบบกันมาหรือเปล่าเนี่ย ยัยแจ๋นสองคนเนี่ย  สองพี่น้องเพชรพลอยมองอิสราตาแป๋ว  สาวพลอยหันไปกระซิบกับพี่สาวฝาแฝด  คนพี่พยักหน้า

        “เรามาหาพี่ปาร์คค่ะ” เพชรกล่าว

        “หา .... ปาร์ค” นริศราเหวอไป แล้วหันไปหาพี่ชาย “น้องเค้าเพิ่งมอสอง  แล้วนี่พี่คิดอะไรอยู่”

        “แกหน่ะสิคิดอไรอยู่ ยัยบ้า”  ร่างสูง ๆ ลุกขึ้นจากโต๊ะ  “ขอบใจที่มานะ เพชรพลอย”

        “ไม่เป็นไรมิได้พี่  โห ... นี่ตอนพี่โทรตามนะ พลอยแทบไม่เชื่อหู  คราวนี้ใครหล่ะ”  พลอยว่ายิ้ม ๆ

        ลืมบอกไรไปนิด ... คือสองพี่น้องเพชรพลอยหน่ะ เค้ามีความสามารถพิเศษในด้านสืบเสาะหาตามความต้องการ ... และที่สำคัญสองพี่น้องยังเป็นที่ปรึกษาด้านหัวใจที่ดีอีกด้วย ... (จะว่ามันเก่งดีป่าวเนี่ย “ – ๐ - )  ก็อะไรที่หลาย ๆ  คนไม่น่าจะทำ เพชรพลอยทำหมด ... กรรม

        “เฮ้ย ... เดี๋ยวนี้ว่าจ้างศิราณีทั้งสองเลยหรือว่ะ” ทิวไผ่แซว “เป็นเอาหนักนะแกหน่ะ”

        “อย่ายุ่งหน่า” เขาเอ็ดเบา ๆ “ไปทำไรก็ไป ไป๊”

        “เขินอ่าเด่ะ โด่เอ่ย ทำไมชั้นจะไม่รู้” นิลนัยสมทบ “ เพชรพลอย  คน ๆ นั้นอ่านะ  อยู่ม.4ห้องพวกเรานี้แหละ  นั่งอยู่มุมสุดหลังห้อง ด้านหน้า เค้าชื่อพฤติกานต์  ชื่อเล่นชื่อแพน  อย่างอื่นหน่ะ  พี่ว่าพวกแกน่าจะรู้”

        เพชรกับพลอยมองหน้ากัน  ชื่อนี้ไม่เคยได้ยิน แฮะ  ไม่ค่อยดังหน่ะสิท่า แต่ดูนริศนั่งหน้านิ่งพลางเขิน ๆ จนหน้าขาว ๆ เริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ  อย่างไม่มีเหตุผล  ทำไมผู้ชายที่ไม่เอาจริงเอาจังในความรักอย่างเขา  ถึงเป็นไปได้เสียขนาดนี้  ศิราณีทั้งสองงงเป็นการใหญ่

        “เอาหล่ะพี่ เพชรกะพลอยจะช่วยพี่เอง  ใช่มั้ยพลอย”

        “ไม่มีอะไรที่เพชรกับพลอยทำไม่ได้  ยกเว้นเรื่องที่จะให้เค้าชอบพี่นะ  เรื่องนี้จนปัญญา”

        มันก็ถูกของทั้งคู่  สองแฝดพยักหน้าเบา ๆ จนคนถูกถามเหนื่อยใจ  ที่เขาอับจนหนทางจนต้องมาขอความช่วยเหลือยัยศิราณี ค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือทั้งสองเนี่ยนะ  เวรรกรรม  ความมั่นใจหายไปไหนหมดว่ะเนี่ย  นริศคนเดิมดูเหมือนจะหายไปกับความน่ารักของนางฟ้าตัวน้อยเสียแล้ว

        ... นริศเงยขึ้นมองหน้าของสองพีน้อง แล้วเลิกคิ้วขึ้น ... ปรึกษายัยสองคนนี้เรื่องนี้ไม่แพร่ไปถึงหูพฤติกานต์แน่หรอว่ะ ...

        “พี่กำลังไม่ไว้ใจเพชรกะพลอยอยู่ใช่มั้ย  เพชรรู้นะพี่ว่าพี่หน่ะ  ไม่รักใครเค้าง่าย ๆ หรอก  อีกอย่างเราทั้งคู่ก็ไม่เคยเอาข้อมูลไปเปิดเผยที่ไหนด้วย  หรือพี่อยาก”

        “ไม่เอานะ  อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกแพนนะ  พี่ขอร้องทั้งคู่หล่ะ”

        เพื่อน ๆ พากันยืนมองแล้วส่ายหน้า  พลางพากันไปรวมตัวอยู่ที่ท้ายห้องชมรมโดยที่นริศนั่งปรึกษากับศิราณีทั้งสองนาง  

        “ท่าทางปาร์คมันจะแย่แล้วหว่ะ” อิสราออกความเห็น

        “ทำยังกะรักครั้งแรก  นี่ปาร์คมันไม่เคยมีความรักหรอว่ะ” ทิวไผ่เปรย

        “เคยสิ  แต่เพราะพี่เพลิน  ปาร์คเลยเป็นแบบเนี่ย” นริศรากล่าวเบา ๆ

        สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตดูเหมือนจะส่งผลต่อจิตใจของพี่ชายเป็นอย่างมาก  นริศราไม่รู้หรอกนะว่าพี่ชายฝาแฝดแอบหลงรักเพลินตามากมายขนาดไหน  รู้เพียงอย่างเดียว  ... มันทำให้คนดี ๆ คนนึงเปลี่ยนไปได้มากมายขนาดนี้ ... เปลี่ยนจากชายที่เคยยิ้มแย้มให้กลายเป็นคนที่ชิงชังความรัก ... จนกระทั่ง

          บรรยากาศทั้งห้องเงียบสงบ  .... คนถูกชาวบ้านพูดถึง นั่งท้าวคางหน้าเครียด  มือเรียว ๆ หยิบแว่นตาไร้กรอบคู่กายขึ้นสวม  แล้วก้มลงอ่านหนังสือ  

        ยัยสองพี่น้องเพชรพลอยไปแล้ว  ยิ่งคิดยิ่งอานาถใจ ( นี่แกเพิ่งจะรู้หรอว่ะเนี่ย )   อะไรทำให้เขาเป็นได้ขนาดนี้นะ  เวรกรรม ๆ

        “ปาร์ค ... ปาร์ค” นิลนัยตะโกนเรียก “ ปาร์ค โว้ ยยยยยยยยยยยยยยย”

        “หา ... ไรหรอ ๆ”

        กะแล้ว ... เขาส่ายหัวให้เพื่อนหน่าย ๆ นี่ขนาดเริ่มระยะแรกนะเนี่ย  อะไรทำให้หมอนี่เป็นไปได้ขนาดนี้นะ  ไม่อยากเชื่อเลย …

        “ชั้นว่าแกเป็นเอาหนักเหมือนกันนะ”

        “อะไรหนัก ... ชั้นเป็นไรว่ะนิล” เขาส่ายหน้าอย่างแรง  “ไม่ได้เป็นอะไรนะ  ไม่ได้เป็น ๆ”

        “อย่ามาทำไก๋หน่า เพื่อนเลิฟ  ชั้นดูออก” อิสรากอดอก “ปาร์ค  แพนหน่ะเค้า ...”

        “สูง ... ไม่คู่ควรกับผู้ชายอย่างชั้น  คนอย่างชั้นไม่ควรจะไปนั่งมองนางฟ้าอย่างเค้า  แกจะพูดอย่างนี่หรือเปล่าบีม” นริศยิ้มฝืด ๆ แล้วก้มหน้า “ แกไม่รู้หรอก  ไม่เป็นชั้นแกไม่รู้หรอก”

        “เฮ้ย ... คิดมากหน่า  ชั้นพอจะเข้าใจนะ” อันที่จริงทิวไผ่ไม่เข้าใจ

        ... ไม่เข้าใจว่า  ทำไมคนเงียบอย่างพฤติกานต์ทำให้คนอย่างนริศได้เพ้อถึงทั้งวันทั้งคืนอย่างนี้ ... ไม่รู้อะไรจะมาเปลี่ยนใจเพื่อนสนิทได้

        หน้าคมท้าวคางนิ่ง  ไม่ไหวติ่ง  มือข้างหนึ่งพลิกหนังสือไปมาทั้ง ๆ ที่ตานั่นไม่ได้อยู่ที่หนังสือเลย   หนังสือเล่มโตยังคงถึงพลิกไปจนถึงหน้าสุดท้าย  หากแต่มือนั่นยังคงพลิกอากาศต่อไป ( ท่าจะบ้านะนายเนี่ย )  สายตาเขาเฝ้ามองผ่านหน้าต่างไปยังสาวน้อยร่างเล็กที่นอกหน้าต่าง ...พฤติกานต์... สายตาคมมองตามร่างบางที่ลู่ไปตามสายลมแรง  ทั้งร่างของเธอโงนเงนไปตามสายลมแรง ๆ นั่น  ไม่ทันไร  ร่างสูงก็วิ่งไปที่ประตู รีบกระชากมันออกก่อนจะไปคว้าเอาร่างบอบบางทั้งร่างที่กำลังจะล้มกลางอากาศ

        “เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู

        “ไม่เป็นไร”  

        เขาพยุงคนในอ้อมกอดให้ลุกขึ้นยืนทรงตัวอยู่อย่างนั้น  หนังสือในมือคนตัวเล็กกระจัดกระจาดทั่วพื้น  เธอนั่งลงเพื่อเก็บมัน  เขาจึงรีบกระวีกระวาดเก็บให้

        “ไม่เป็นไรหรอก  แพนเก็บเองได้”

        “ไม่หรอก  ผมเก็บให้  ผมไม่น่ามาชนแพนเลย  ขอโทษจริง ๆ นะครับ”

        “บ้าจริง  ปาร์คจะมาขอโทษแพนทำไมหล่ะ”

        “ก็ไม่รู้สิครับ นี่กำลังจะไปไหนหรอ”

        “ห้องวิจัยจ้ะ  แล้ว ...”

        “ผมก็กำลังจะไปพอดี  ไปด้วยกันเลยสิครับ”

        ไม่ว่าเปล่า ... เขาคว้าเอามือสวย ๆ ของนางฟ้าผู้สูงศักดิ์ ( ในความคิดหมอนี่นะ ) อย่างนี่ทำให้ทุกคนในชมรมดนตรีหันมามอง  อย่างอึ้ง ๆ บวกกับงงนิด ๆ

        ... แล้วทำไม ... ทำไมนริศถึงไปโผล่อยู่นอกห้องได้หล่ะ  แล้ว ... จู่ ๆเขาก็จูงมือนางสาวพฤติกานต์ไปเนี่ยนะ ...

        “อะไนรของมันว่ะเนี่ย  จู่ ๆ มันก็ออกไปเนี่ยนะ” อิสราบ่นอุบ พลางเกาหัวอย่างงง ๆ

        งานนี้คงต้องถึงเวลาสุ่มหัวกันแล้วหล่ะ  เมื่อทุกคนในชมรมคิดจะ ... ตามหานางฟ้าพฤติกานต์ ... ผู้ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย

        ... ใช่ พฤติกานต์หน่ะสูงศักดิ์ ... นริศหน่ะคนเดินดิน  ดูยังไงนางฟ้าก็ไม่เหมาะกับคนเดินดินอย่างเขา ... แต่ว่า ... ในเมื่อมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว  ยังไงคนอย่างนริศก็ไม่มีวันถอย  ในเมื่อเขายอมเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง  เพื่อเธอคนนี้  คนเดียวเท่านั้น ... แพน พฤติกานต์ ...





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×