ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 - สู่ผาแลนดิส
ทั้งเลวิสและไคล์เงียบไปซักพัก  เพราะสำหรับพวกเขาแล้วไม่มีเหตุผลเอาซะเลยที่จะเชื่อว่าเด็กหนุ่มที่อายุราวสิบห้า สิบหก ปีจะเป็นราสเทียร์  ผู้นำแห่งเผ่าเอลวีทีส
\"ข้าไม่มีเหตุผลพอที่จะเชื่อเจ้า\"
เลวิสเอ่ยอย่างระแวง  ทำให้ผู้ที่เปลี่ยนจากสถานะระแวงกลายเป็นถูกระแวงแทนยักไหล่น้อยๆ ก่อนจะยื่นจดหมายลับของแซคคาเรี่ยนกลับมาให้ผู้ที่มีหน้าที่ส่งจดหมายนั้น
\"ข้าจะอ่านจดหมายต่อเมื่อเจ้าเชื่อว่าข้าคือราสเทียร์ละกัน\" เด็กหนุ่มเอ่ยเบาๆ ด้วยหน้าตาที่บอกว่าที่ไม่ได้อ่านจดหมายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร  ก่อนจะหันหลังทำท่าจะเดินไปอีกด้านหนึ่งของถ้ำ \"ตามมาสิ\"
\"แต่เรา...ต้องกลับไปหาขบวนสินค้า  พวกนั้นคงเป็นห่วงแย่แล้ว\" เลวิสพูดขึ้นมาก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินไป
\"มันจะเสียเวลาน่ะสิ\" เด็กหนุ่มบ่น \"มา เดี๋ยวข้าจัดการให้\"
เด็กหนุ่มก็กวักมือเบาๆ  ทันใดนั้นก็มีภูตตัวเล็กตัวหนึ่งบินเข้ามาเกาะที่นิ้วของเด็กหนุ่ม
\"เจ้าจะช่วยส่งสารให้ข้า\" เด็กหนุ่มเอ่ยกับภูต \"บอกหัวหน้าของขบวนสินค้าว่าไม่ต้องห่วงเพื่อนของเขา  พวกนั้นจะปลอดภัยดี  ไปได้\"
แล้วภูตตัวน้อยก็บินออกไปจากถ้ำ  เด็กหนุ่มจึงหันมาถามเลวิสกับไคล์สั้นๆ
\"ไปได้ยัง\"
โดยที่ไม่รอคำตอบร่างนั้นก็เดินนำไปก่อนแล้ว  เลวิสจึงหันไปมองไคล์เชิงปรึกษา  ไคล์ส่ายหน้าเหมือนจะบอกว่าไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้  เลวิสกับไคล์จึงเดินตามเด็กหนุ่มที่อ้างว่าตนเองคือราสเทียร์ไปตามทางอีกด้านของถ้ำ
------------------------------------------------------------------
ภายในถ้ำที่แทบจะไม่มีแสงไฟส่องลอดเข้ามาเลย  มีบุคคลสามคนเดินท่ามกลางความมืดนี้ไปอย่างช้าๆ  คนแรกที่เดินนำคือเด็กหนุ่มร่างเล็กชาวเอลวีทีส  ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้นำแห่งชาวเอลวีทีส ราสเทียร์  คนที่เดินตามมาคือเลวิส  และคนที่เดินรั้งท้ายคือไคล์
\"ตั้งแต่ตรงนี้มืดหน่อยนะ\" เด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เดินนำอยู่เอ่ยเบาๆ หลังจากเดินกันมานานซักพัก \"ระวังหน่อยละกัน\"
\"ทำไมไม่จุดไฟเอาล่ะ\" ไคล์ที่เดินรั้งท้ายถามขึ้นมา  เพราะในใจแล้วเขาอยากให้จุดไฟด้วยความค่อนข้างกลัวความมืดของตน
\"ไม่จำเป็นหรอก\" เด็กหนุ่มตอบมาด้วยท่าทางที่ไม่สนใจบุคคลที่ตามมาข้างหลัง  ไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ \"แต่ถ้าเจ้ากลัว...จะจุดก็ได้นะ\"
ไคล์กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ  แต่ว่าก็ไม่บ่นอะไรออกมาอีกเลย
หลังจากที่เดินคลำทางไปในความมืดได้ซักพัก  เด็กหนุ่มที่เป็นคนนำทางกล่าวเตือนเบาๆ อีกครั้ง...แต่ก็ยังคงยังพูดโดยไม่หันมามองเช่นเดิม...
\"เมื่อกี้แค่มืด  แต่ต่อจากนี้จะทั้งมืดแล้วก็ทั้งลื่น  ระวังเพิ่มขึ้นหน่อยละกัน\"
\"ต่อไปสงสัยจะมีตัวประหลาดอยู่บนพื้นอีกล่ะมั้ง\" ไคล์พูดเชิงประชด
\"เก่งนี่\" เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ \"ข้าไม่ทันบอกว่าจะมีอะไรก็เดาถูกซะแล้ว\"
คำตอบนั้นทำให้ไคล์เหงื่อตกและพูดไม่ออก  นิ่งเงียบไปเลยทีเดียว
\"เจ้ากำลังจะพาเราไปไหนกันแน่\" เลวิสอดถามไม่ได้ เพราะตั้งแต่เดินมาคนเดินนำไม่ได้บอกเลยซักคำว่าจะไปที่ไหนเพียงแต่บอกให้ตามมาเท่านั้น
\"ไม่อยากไปผาแลนดิสหรอกเหรอ\" เด็กหนุ่มตอบโดยที่ไม่หันมามองเช่นเดิม \"ไม่ต้องห่วงหรอก...นี่เป็นทางลับ\"
พื้นที่เดินต่อไปรู้สึกเหมือนจะลื่นขึ้นเรื่อยๆ  ถ้าไม่ระวังคงจะสะดุดล้มได้ง่าย  หลายครั้งเลวิสก้าวพลาดจนเกือบล้ม  ดีที่มือยังจับหินที่ยื่นออกมาจากผนังเป็นหลักได้  ไม่อย่างนั้นก็คงจะล้มไปแล้ว  ชายหนุ่มสังเกตว่าทุกครั้งที่เขาก้าวพลาด  ก็จะรู้สึกเหมือนว่าได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ คล้ายเยาะเย้ยดังมาจากข้างหน้า  แต่พอตั้งใจฟังเสียงหัวเราะนั้นก็เงียบหายไปเฉยๆ
\"หินนี่มันลื่นเป็นบ้า\" ไคล์บ่นหลังจากลื่นเป็นครั้งที่สิบ \"นี่ไอ้หนู  จะถึงยัง\"
เด็กหนุ่มที่เดินนำหน้าไปหยุดและหันกลับมามองชายหนุ่มทั้งสองเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินเข้ามาในถ้ำ
\"เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ\" เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทีที่ไม่พอใจนัก
\"ไอ้หนูไงล่ะ\" ไคล์ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ  ท่าทีเหมือนไม่พอใจเช่นกัน
\"อย่าเรียกข้าว่า\'ไอ้หนู\'\" เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจมากกว่าเดิม \"ขอเตือนไว้ก่อน  ว่าข้าอยากจะฆ่าเจ้าเมื่อไรข้าก็ทำได้  ทำอย่างไม่ปรานีด้วย\"
ไคล์ขยับตัวจะพูดโต้ตอบ  แต่เลวิสกลับยกมือแตะไหล่ไคล์เป็นเชิงห้าม
\"เลวิส  ทำไมเจ้า...\"
\"รีบไปต่อเถอะ\" เลวิสรีบพูดตัดบท  เด็กหนุ่มที่นำทางเข้ามาทำหน้าไม่พอใจก่อนจะออกเดินนำต่อไป...ด้วยความเร็วที่มากขึ้น
\"อยากโดนเอามีดจ่อคอแบบเมื่อกี้รึไง\" เลวิสหันไปพูดกับไคล์เบาๆ ก่อนจะเดินต่อไป  ไคล์บ่นอะไรพึมพำคนเดียวแต่ก็ตามมาโดยดี
------------------------------------------------------------------
เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้  แต่ความรู้สึกของเลวิสในตอนนี้คือ เริ่มรู้สึกเมื่อยขา  และล้าบ้างเล็กน้อย  สำหรับเขาแล้วทางในถ้ำนี่นึกไม่ถึงไม่ว่ามันจะยาวขนาดนี้  และไม่นึกเลยด้วยซ้ำว่าถ้ำที่เข้ามาหลบพายุทรายจะมีทางเชื่อมต่อไปผาแลนดิส
\"นี่ตาข้าไม่ฝาดใช่มั้ยเนี่ย\" ไคล์พึมพำเบาๆ พลางมองไปข้างหน้า
ข้ามองไปข้างหน้าตามไคล์ และก็เห็นแสงสว่างรำไรที่ปลายทาง
\"ไม่ฝาดหรอก  ข้าก็เห็นเหมือนกัน\" เลวิสพูดตอบไปเบาๆ
ไคล์หัวเราะน้อยๆ ก่อนจะพูดขึ้น \"ไม่ใช่ว่าเราตาฝาดใกล้ตายทั้งคู่หรอกเหรอ\"
\"ถ้าเราไม่ได้โดนหลอกมาฆ่าก็คงไม่ใช่ละมั้ง\" เลวิสพูดพอให้ไคล์ได้ยิน  แต่คนที่เดินนำหน้าคงต้องได้ยินเช่นกันด้วยระยะที่ไม่ห่างจนเกินไป
เด็กหนุ่มที่เดินนำทางต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีปฏิกิริยากับคำพูดของผู้ที่ตามหลังมาแม้แต่น้อย 
เลวิสสังเกตดูแล้วว่าในส่วนกลางของถ้ำนั้นเป็นที่ที่พื้นลื่นมาก  แต่เด็กหนุ่มก็ยังเดินต่อไปแบบสบายๆ ไม่มีการก้าวพลาด หรือลื่นเลย  เขากับไคล์เสียอีกที่ลื่นแล้วลื่นอีก  ถึงแม้จะเป็นคนชำนาญทางก็น่าจะมีการพลาดบ้างด้วยความมืดมิดที่แทบจะมองไม่เห็นอะไรไม่เห็น  การเดินก็ยังเป็นปกติ  ไม่มีทีท่าเหนื่อยอ่อนเลยแม้แต่น้อย  จนเขาอดคิดไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มร่างเล็กบางจะมีแรงขนาดนี้เชียวหรือ  จะว่าไปเขาเริ่มคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่เด็กหนุ่มปริศนาช่วยพาไคล์เข้ามาในถ้ำตอนหลบพายุทรายแล้ว
\"ไม่เห็นมีตัวประหลาดอยู่บนพื้นเลยแฮะ\" ไคล์พูดพลางหัวเราะน้อยๆ \"สงสัยจะโดนหลอกแล้วล่ะมั้ง\"
ร่างเล็กบางที่เดินนำไปก็ยังคงอย่างสบายๆ และเดินนำต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สนคำพูดของไคล์แม้แต่น้อย  แสงสว่างที่ปลายทางดูสว่างขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เลวิสสันนิษฐานว่าคงใกล้ถึงทางออกถ้ำแล้ว
หลังจากเดินกันมาอีกซักพัก  ก็ถึงทางออกของถ้ำมืดที่เดินทางกันมานาน  เด็กหนุ่มเดินนำออกไปเป็นคนแรก  ตามมาด้วยเลวิสและไคล์
ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เช้าแล้ว  พระอาทิตย์จึงกำลังสาดแสงอยู่ริมขอบฟ้า  ทำให้เห็นภาพข้างหน้าได้อย่างชัดเจน  ภาพหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่นัก  บ้านแต่ละหลังก็ดูเล็กและมีลักษณะแปลกตาสำหรับคนต่างแคว้น  แต่ที่น่าแปลกคือ  สภาพรอบด้านไม่มีความรู้สึกว่าแห้งแล้งอยู่เลย  ผิดกับทะเลทรายที่ล้อมรอบอยู่ข้างนอก  แม้จะมีต้นไม้ต้นใหญ่ที่ไม่น่าจะขึ้นได้ในสภาพอย่างนี้ขึ้นอยู่ตามที่ต่างๆ ไม่มากนัก  และพื้นก็ยังคงเป็นพื้นทราย  เลวิสคิดว่านี่คงเป็นหมู่บ้านของชาวเอลวีทีส  แต่เขาหันไปมองเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นคล้ายจะเป็นคำถาม
\"ที่นี่..\" ไคล์พูดแผ่วๆ
\"ยินดีต้อนรับสู่ผาแลนดิส  ดินแดนที่ได้รับการคุ้มครองจากเหล่าทวยเทพ\" เด็กหนุ่มเอ่ย \"ด้วยความประสงค์ของข้าราสเทียร์  ผู้นำแห่งเอลวีทีส  ผู้ครองผาแลนดิส  และผู้ได้รับบัญชาจากเทพ  พวกเจ้าได้มาถึงผาแลนดิสแล้ว\"
ภาพเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าหมู่บ้าน โดยมีพระอาทิตย์สาดแสงมาจากทางด้านหลังนั้นดูสวยจับตา และมีเสน่ห์จนยากที่จะละสายตา  ความคิดแวบหนึ่งของเลวิสทั้งสามสิ่ง เด็กหนุ่มคนนี้  หมู่บ้าน  และแสงพระอาทิตย์ เกิดมาเพื่อกันโดยแท้
\"ท่านราสเทียร์  กลับมาแล้วหรือขอรับ\" มีชายชราคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาหา \"ท่านไปที่ทะเลทรายข้างนอกอีกแล้วใช่มั้ยขอรับ\"
\"เมดิส  ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว\" ราสเทียร์บ่นอย่างระอาใจ \"เป็นห่วงอยู่ได้  ไม่เข้าท่าเลย\"
\"ท่านเลิกทำตัวเอาแต่ใจเสียทีสิขอรับ  ข้าจะได้เลิกเตือนท่าน\" แล้วเมดิสก็หันมามองผู้มาเยือนทั้งสองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก \"แล้วนี่ท่านพาใครมาอีกล่ะขอรับ\"
\"คนนำสารของคานาล  แต่ไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลพวกเขาเอง  ไม่ให้เจ้าต้องลำบากหรอก\" แล้วราสเทียร์ก็หันมามองชาวคานาลทั้งสอง \"ตามข้ามา  ข้าจะพาเจ้าไปที่พัก\"
แล้วราสเทียร์ก็เดินนำชายหนุ่มทั้งสองไปโดยไม่สนใจเมดิสที่อ้าปากเหมือนจะห้ามแม้แต่น้อย...
------------------------------------------------------------------
\"ข้าไม่มีเหตุผลพอที่จะเชื่อเจ้า\"
เลวิสเอ่ยอย่างระแวง  ทำให้ผู้ที่เปลี่ยนจากสถานะระแวงกลายเป็นถูกระแวงแทนยักไหล่น้อยๆ ก่อนจะยื่นจดหมายลับของแซคคาเรี่ยนกลับมาให้ผู้ที่มีหน้าที่ส่งจดหมายนั้น
\"ข้าจะอ่านจดหมายต่อเมื่อเจ้าเชื่อว่าข้าคือราสเทียร์ละกัน\" เด็กหนุ่มเอ่ยเบาๆ ด้วยหน้าตาที่บอกว่าที่ไม่ได้อ่านจดหมายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร  ก่อนจะหันหลังทำท่าจะเดินไปอีกด้านหนึ่งของถ้ำ \"ตามมาสิ\"
\"แต่เรา...ต้องกลับไปหาขบวนสินค้า  พวกนั้นคงเป็นห่วงแย่แล้ว\" เลวิสพูดขึ้นมาก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินไป
\"มันจะเสียเวลาน่ะสิ\" เด็กหนุ่มบ่น \"มา เดี๋ยวข้าจัดการให้\"
เด็กหนุ่มก็กวักมือเบาๆ  ทันใดนั้นก็มีภูตตัวเล็กตัวหนึ่งบินเข้ามาเกาะที่นิ้วของเด็กหนุ่ม
\"เจ้าจะช่วยส่งสารให้ข้า\" เด็กหนุ่มเอ่ยกับภูต \"บอกหัวหน้าของขบวนสินค้าว่าไม่ต้องห่วงเพื่อนของเขา  พวกนั้นจะปลอดภัยดี  ไปได้\"
แล้วภูตตัวน้อยก็บินออกไปจากถ้ำ  เด็กหนุ่มจึงหันมาถามเลวิสกับไคล์สั้นๆ
\"ไปได้ยัง\"
โดยที่ไม่รอคำตอบร่างนั้นก็เดินนำไปก่อนแล้ว  เลวิสจึงหันไปมองไคล์เชิงปรึกษา  ไคล์ส่ายหน้าเหมือนจะบอกว่าไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้  เลวิสกับไคล์จึงเดินตามเด็กหนุ่มที่อ้างว่าตนเองคือราสเทียร์ไปตามทางอีกด้านของถ้ำ
------------------------------------------------------------------
ภายในถ้ำที่แทบจะไม่มีแสงไฟส่องลอดเข้ามาเลย  มีบุคคลสามคนเดินท่ามกลางความมืดนี้ไปอย่างช้าๆ  คนแรกที่เดินนำคือเด็กหนุ่มร่างเล็กชาวเอลวีทีส  ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้นำแห่งชาวเอลวีทีส ราสเทียร์  คนที่เดินตามมาคือเลวิส  และคนที่เดินรั้งท้ายคือไคล์
\"ตั้งแต่ตรงนี้มืดหน่อยนะ\" เด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เดินนำอยู่เอ่ยเบาๆ หลังจากเดินกันมานานซักพัก \"ระวังหน่อยละกัน\"
\"ทำไมไม่จุดไฟเอาล่ะ\" ไคล์ที่เดินรั้งท้ายถามขึ้นมา  เพราะในใจแล้วเขาอยากให้จุดไฟด้วยความค่อนข้างกลัวความมืดของตน
\"ไม่จำเป็นหรอก\" เด็กหนุ่มตอบมาด้วยท่าทางที่ไม่สนใจบุคคลที่ตามมาข้างหลัง  ไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ \"แต่ถ้าเจ้ากลัว...จะจุดก็ได้นะ\"
ไคล์กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ  แต่ว่าก็ไม่บ่นอะไรออกมาอีกเลย
หลังจากที่เดินคลำทางไปในความมืดได้ซักพัก  เด็กหนุ่มที่เป็นคนนำทางกล่าวเตือนเบาๆ อีกครั้ง...แต่ก็ยังคงยังพูดโดยไม่หันมามองเช่นเดิม...
\"เมื่อกี้แค่มืด  แต่ต่อจากนี้จะทั้งมืดแล้วก็ทั้งลื่น  ระวังเพิ่มขึ้นหน่อยละกัน\"
\"ต่อไปสงสัยจะมีตัวประหลาดอยู่บนพื้นอีกล่ะมั้ง\" ไคล์พูดเชิงประชด
\"เก่งนี่\" เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ \"ข้าไม่ทันบอกว่าจะมีอะไรก็เดาถูกซะแล้ว\"
คำตอบนั้นทำให้ไคล์เหงื่อตกและพูดไม่ออก  นิ่งเงียบไปเลยทีเดียว
\"เจ้ากำลังจะพาเราไปไหนกันแน่\" เลวิสอดถามไม่ได้ เพราะตั้งแต่เดินมาคนเดินนำไม่ได้บอกเลยซักคำว่าจะไปที่ไหนเพียงแต่บอกให้ตามมาเท่านั้น
\"ไม่อยากไปผาแลนดิสหรอกเหรอ\" เด็กหนุ่มตอบโดยที่ไม่หันมามองเช่นเดิม \"ไม่ต้องห่วงหรอก...นี่เป็นทางลับ\"
พื้นที่เดินต่อไปรู้สึกเหมือนจะลื่นขึ้นเรื่อยๆ  ถ้าไม่ระวังคงจะสะดุดล้มได้ง่าย  หลายครั้งเลวิสก้าวพลาดจนเกือบล้ม  ดีที่มือยังจับหินที่ยื่นออกมาจากผนังเป็นหลักได้  ไม่อย่างนั้นก็คงจะล้มไปแล้ว  ชายหนุ่มสังเกตว่าทุกครั้งที่เขาก้าวพลาด  ก็จะรู้สึกเหมือนว่าได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ คล้ายเยาะเย้ยดังมาจากข้างหน้า  แต่พอตั้งใจฟังเสียงหัวเราะนั้นก็เงียบหายไปเฉยๆ
\"หินนี่มันลื่นเป็นบ้า\" ไคล์บ่นหลังจากลื่นเป็นครั้งที่สิบ \"นี่ไอ้หนู  จะถึงยัง\"
เด็กหนุ่มที่เดินนำหน้าไปหยุดและหันกลับมามองชายหนุ่มทั้งสองเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินเข้ามาในถ้ำ
\"เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ\" เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทีที่ไม่พอใจนัก
\"ไอ้หนูไงล่ะ\" ไคล์ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ  ท่าทีเหมือนไม่พอใจเช่นกัน
\"อย่าเรียกข้าว่า\'ไอ้หนู\'\" เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจมากกว่าเดิม \"ขอเตือนไว้ก่อน  ว่าข้าอยากจะฆ่าเจ้าเมื่อไรข้าก็ทำได้  ทำอย่างไม่ปรานีด้วย\"
ไคล์ขยับตัวจะพูดโต้ตอบ  แต่เลวิสกลับยกมือแตะไหล่ไคล์เป็นเชิงห้าม
\"เลวิส  ทำไมเจ้า...\"
\"รีบไปต่อเถอะ\" เลวิสรีบพูดตัดบท  เด็กหนุ่มที่นำทางเข้ามาทำหน้าไม่พอใจก่อนจะออกเดินนำต่อไป...ด้วยความเร็วที่มากขึ้น
\"อยากโดนเอามีดจ่อคอแบบเมื่อกี้รึไง\" เลวิสหันไปพูดกับไคล์เบาๆ ก่อนจะเดินต่อไป  ไคล์บ่นอะไรพึมพำคนเดียวแต่ก็ตามมาโดยดี
------------------------------------------------------------------
เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้  แต่ความรู้สึกของเลวิสในตอนนี้คือ เริ่มรู้สึกเมื่อยขา  และล้าบ้างเล็กน้อย  สำหรับเขาแล้วทางในถ้ำนี่นึกไม่ถึงไม่ว่ามันจะยาวขนาดนี้  และไม่นึกเลยด้วยซ้ำว่าถ้ำที่เข้ามาหลบพายุทรายจะมีทางเชื่อมต่อไปผาแลนดิส
\"นี่ตาข้าไม่ฝาดใช่มั้ยเนี่ย\" ไคล์พึมพำเบาๆ พลางมองไปข้างหน้า
ข้ามองไปข้างหน้าตามไคล์ และก็เห็นแสงสว่างรำไรที่ปลายทาง
\"ไม่ฝาดหรอก  ข้าก็เห็นเหมือนกัน\" เลวิสพูดตอบไปเบาๆ
ไคล์หัวเราะน้อยๆ ก่อนจะพูดขึ้น \"ไม่ใช่ว่าเราตาฝาดใกล้ตายทั้งคู่หรอกเหรอ\"
\"ถ้าเราไม่ได้โดนหลอกมาฆ่าก็คงไม่ใช่ละมั้ง\" เลวิสพูดพอให้ไคล์ได้ยิน  แต่คนที่เดินนำหน้าคงต้องได้ยินเช่นกันด้วยระยะที่ไม่ห่างจนเกินไป
เด็กหนุ่มที่เดินนำทางต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีปฏิกิริยากับคำพูดของผู้ที่ตามหลังมาแม้แต่น้อย 
เลวิสสังเกตดูแล้วว่าในส่วนกลางของถ้ำนั้นเป็นที่ที่พื้นลื่นมาก  แต่เด็กหนุ่มก็ยังเดินต่อไปแบบสบายๆ ไม่มีการก้าวพลาด หรือลื่นเลย  เขากับไคล์เสียอีกที่ลื่นแล้วลื่นอีก  ถึงแม้จะเป็นคนชำนาญทางก็น่าจะมีการพลาดบ้างด้วยความมืดมิดที่แทบจะมองไม่เห็นอะไรไม่เห็น  การเดินก็ยังเป็นปกติ  ไม่มีทีท่าเหนื่อยอ่อนเลยแม้แต่น้อย  จนเขาอดคิดไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มร่างเล็กบางจะมีแรงขนาดนี้เชียวหรือ  จะว่าไปเขาเริ่มคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่เด็กหนุ่มปริศนาช่วยพาไคล์เข้ามาในถ้ำตอนหลบพายุทรายแล้ว
\"ไม่เห็นมีตัวประหลาดอยู่บนพื้นเลยแฮะ\" ไคล์พูดพลางหัวเราะน้อยๆ \"สงสัยจะโดนหลอกแล้วล่ะมั้ง\"
ร่างเล็กบางที่เดินนำไปก็ยังคงอย่างสบายๆ และเดินนำต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สนคำพูดของไคล์แม้แต่น้อย  แสงสว่างที่ปลายทางดูสว่างขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เลวิสสันนิษฐานว่าคงใกล้ถึงทางออกถ้ำแล้ว
หลังจากเดินกันมาอีกซักพัก  ก็ถึงทางออกของถ้ำมืดที่เดินทางกันมานาน  เด็กหนุ่มเดินนำออกไปเป็นคนแรก  ตามมาด้วยเลวิสและไคล์
ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เช้าแล้ว  พระอาทิตย์จึงกำลังสาดแสงอยู่ริมขอบฟ้า  ทำให้เห็นภาพข้างหน้าได้อย่างชัดเจน  ภาพหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่นัก  บ้านแต่ละหลังก็ดูเล็กและมีลักษณะแปลกตาสำหรับคนต่างแคว้น  แต่ที่น่าแปลกคือ  สภาพรอบด้านไม่มีความรู้สึกว่าแห้งแล้งอยู่เลย  ผิดกับทะเลทรายที่ล้อมรอบอยู่ข้างนอก  แม้จะมีต้นไม้ต้นใหญ่ที่ไม่น่าจะขึ้นได้ในสภาพอย่างนี้ขึ้นอยู่ตามที่ต่างๆ ไม่มากนัก  และพื้นก็ยังคงเป็นพื้นทราย  เลวิสคิดว่านี่คงเป็นหมู่บ้านของชาวเอลวีทีส  แต่เขาหันไปมองเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นคล้ายจะเป็นคำถาม
\"ที่นี่..\" ไคล์พูดแผ่วๆ
\"ยินดีต้อนรับสู่ผาแลนดิส  ดินแดนที่ได้รับการคุ้มครองจากเหล่าทวยเทพ\" เด็กหนุ่มเอ่ย \"ด้วยความประสงค์ของข้าราสเทียร์  ผู้นำแห่งเอลวีทีส  ผู้ครองผาแลนดิส  และผู้ได้รับบัญชาจากเทพ  พวกเจ้าได้มาถึงผาแลนดิสแล้ว\"
ภาพเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าหมู่บ้าน โดยมีพระอาทิตย์สาดแสงมาจากทางด้านหลังนั้นดูสวยจับตา และมีเสน่ห์จนยากที่จะละสายตา  ความคิดแวบหนึ่งของเลวิสทั้งสามสิ่ง เด็กหนุ่มคนนี้  หมู่บ้าน  และแสงพระอาทิตย์ เกิดมาเพื่อกันโดยแท้
\"ท่านราสเทียร์  กลับมาแล้วหรือขอรับ\" มีชายชราคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาหา \"ท่านไปที่ทะเลทรายข้างนอกอีกแล้วใช่มั้ยขอรับ\"
\"เมดิส  ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว\" ราสเทียร์บ่นอย่างระอาใจ \"เป็นห่วงอยู่ได้  ไม่เข้าท่าเลย\"
\"ท่านเลิกทำตัวเอาแต่ใจเสียทีสิขอรับ  ข้าจะได้เลิกเตือนท่าน\" แล้วเมดิสก็หันมามองผู้มาเยือนทั้งสองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก \"แล้วนี่ท่านพาใครมาอีกล่ะขอรับ\"
\"คนนำสารของคานาล  แต่ไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลพวกเขาเอง  ไม่ให้เจ้าต้องลำบากหรอก\" แล้วราสเทียร์ก็หันมามองชาวคานาลทั้งสอง \"ตามข้ามา  ข้าจะพาเจ้าไปที่พัก\"
แล้วราสเทียร์ก็เดินนำชายหนุ่มทั้งสองไปโดยไม่สนใจเมดิสที่อ้าปากเหมือนจะห้ามแม้แต่น้อย...
------------------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น