ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 - สู่แดนทะเลทราย
เมื่อเลวิสเดินลงไปชั้นล่าง  ก็ได้เห็นว่าไคล์กำลังคุยอะไรบางอย่างอยู่กับเจ้าของโรงแรม  แล้วก็เด็กหนุ่มที่แต่งกายคล้ายๆ พ่อค้าอีกคนหนึ่ง  ซึ่งเลวิสสันนิษฐานไว้ว่าเป็นเฟอา  แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่คิดว่าเฟอาจะเด็กถึงเพียงนี้ก็ตาม  เมื่อไคล์หันมาเห็นเลวิสเข้าก็หันมาพูดกับเลวิส
\"เลวิส  นี่ไงเฟอา\" ไคล์บุ้ยปากไปที่เด็กหนุ่มในเครื่องแต่งกายคล้ายพ่อค้าคนนั้น \"พ่อค้าที่เราจะต้องเดินทางไปด้วย\"
\"ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ\" เฟอาบอกอย่างเป็นมิตรแล้วยิ้มออกมา
\"เช่นกัน\" เลวิสวางมือบนไหล่ของเฟอาตามประเพณีทักทายของแคว้นคานาล 
\"แล้วเรื่องฝากม้าก็เรียบร้อยแล้วล่ะ\" ไคล์พูดพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี \"เจ้าของโรงแรมจะคอยดูแลม้าให้ในระหว่างที่เราไปทำธุระน่ะนะ\"
\"ก็ดีแล้วนี่\"
\"ดูแล้วท่านเลวิสเป็นคนง่ายๆ ดีนะขอรับ\" เฟอาเอ่ยแล้วหันไปถามไคล์ \"ใช่มั้ยขอรับ ท่านไคล์\"
\"ข้าว่าเจ้าดูเป็นคนที่นิสัยเรียบง่ายมากกว่าเลวิสซะอีก  ยกเว้นคำพูดเพราะๆ ของเจ้าที่ฟังดูไม่ค่อยเรียบง่ายสักเท่าไหร่นะ  พูดจบก็ต้อง \'ขอรับ\' เรียกชื่อคนอื่นก็ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า \'ท่าน\' น่ะ  ไม่เคยมีคนเรียกข้าว่าท่านไคล์เลยนะ\" ไคล์ตอบแล้วหัวเราะเบาๆ
\"ข้าไม่เห็นรู้ตัวเลยนะขอรับ\" เฟอาหัวเราะผสมโรงไปกับไคล์
\"นั่นไง  ขอรับอีกแล้ว\" ไคล์ท้วงเฟอาแล้วก็หัวเราะต่ออย่างอารมณ์ดี
เลวิสได้ยินเจ้าของโรงแรมพูดถึงเฟอาว่าเป็นลูกชายคนเล็กของพ่อค้าที่ร่ำรวยคนนึง  กำลังจะออกไปค้าขายกับแคว้นเทรนต์  ตอนแรกเขาก็ไม่รู้สึกกังวลอะไรมากนักเพราะนึกว่าเฟอาจะมีอายุมากกว่านี้  แต่พอเห็นตัวจริงเข้า  เลวิสก็รู้สึกเป็นห่วงโดยไม่รู้สาเหตุ  และตั้งข้อสังสัยในใจว่านี่เป็นการนำขบวนสินค้าออกไปค้าขายเป็นครั้งแรกรึเปล่า  เพราะดูท่าทางอย่างเฟอาไม่น่าจะเชี่ยวชาญในการเดินทางเท่าไหร่นัก  เพราะเป็นคนอายุน้อย และยังดูเหมือนเป็นคนบอบบางอีกด้วย  ทำให้เลวิสอดสังหรณ์ใจไม่ได้
\"จะเป็นการรบกวนรึเปล่าที่พวกเราจะเดินทางไปกับเจ้าด้วย\" เลวิสถามขึ้นหลังจากที่ไคล์กับเฟอาหยุดหัวเราะแล้ว
\"ไม่หรอกขอรับ\" เฟอายิ้มอย่างอารมณ์ดี \"การที่มีผู้ร่วมเดินทางเพิ่มไปสักคนสองคนไม่ทำให้ลำบากหรอกขอรับ  อีกอย่างพวกท่านก็ไปที่ผาแลนดิส  ไม่ได้ร่วมเดินทางกับพวกเราไปไกลเท่าไหร่นี่ขอรับ\"
\"ถ้าเจ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ดี\" ไคล์พูด  แล้วหันมากระซิบกับเลวิส \"พวกเราจะได้ไม่โดนรีดไถด้วย\"
\"ว่าอะไรนะขอรับ\" เฟอาถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นไคล์กระซิบอะไรให้เลวิสฟัง  แล้วทั้งสองก็ยิ้มออกมา
\"ไม่มีอะไรหรอก\" ไคล์รีบปฏิเสธ  แม้สีหน้าจะบอกอีกอย่างที่ตรงข้ามกับคำกล่าวอ้างก็ตาม  แต่เฟอาก็ดูท่าทีไม่ติดใจสงสัยอะไรมากนัก  เฟอายังคงยิ้มแล้วถามอีกฝ่ายอย่างสุภาพ
\"แล้วเราจะออกเดินทางกันเลยมั้ยขอรับ\"
\"ไปเลยสิ\" ไคล์ตอบอย่างกระตือรือร้น
\"ขบวนสินค้าของเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ\" เลวิสหันไปถามเฟอา
\"อยู่ตรงทางออกเมืองนั่นแหละขอรับ  ตามข้ามาก็แล้วกันนะขอรับ\"
แล้วเลวิสกับไคล์ก็เดินตามเฟอาออกจากโรงแรม  แล้วก็เดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงทางออกของเมืองที่มีสินค้าพวกเครื่องเทศ  อาหารแห้ง  เสื้อผ้า  และห่อผ้ารวมเป็นห่อใหญ่ๆ  มีคนงานพื้นเมืองง่วนอยู่กับการลำเลียงของขึ้นบนหลังอูฐ
\"พวกท่านนั่งอูฐสองตัวนี้ไปก็แล้วกันนะขอรับ\" เฟอาชี้นิ้วไปที่อูฐสองตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด
แล้วเฟอาก็เดินออกไปบอกอะไรซักอย่างกับคนงานซักพัก  แล้วพวกนั้นก็รีบนำของขึ้นบนหลังอูฐ  แล้วปีนขึ้นไปบนอูฐของตนเอง  ไคล์ก็ขึ้นไปนั่งบนอูฐแล้ว
\"ขึ้นอูฐสิ\" ไคล์หันมาบอกเลวิส  เลวิสจึงปีนขึ้นไปนั่งบนหลังอูฐบ้าง
เมื่อพวกคนงานลำเลียงพวกสินค้าขึ้นบนหลังอูฐเสร็จหมดทุกคนแล้ว  เฟอาที่อยู่บนหลังอูฐตัวหน้าสุดตะโกนให้ทุกคนในขบวนสินค้าได้ยิน
\"เราจะไปกันแล้วนะขอรับทุกคน\" แล้วเฟอาก็นำอูฐของตนเดินนำหน้าไป 
\"พูดกับคนงานยังมีขอรับเล้ย  ให้ตายสิ\" ไคล์บ่นพึมพัมเบาๆ
\"ไปกันเถอะน่า\" เลวิสหันไปบอกไคล์เบาๆ  แล้วทั้งสองก็ขี่อูฐตามอูฐของเฟอาและขบวนสินค้าไป
------------------------------------------------------------------
\"เดี๋ยวเราพักกันสักหน่อยดีกว่ามั้ยขอรับ\" เฟอาที่ขี่อูฐนำไปข้างหน้าหันมาถามหลังจากเดินทางกันมาได้นานพอดูแล้ว  ไม่มีใครตอบคำถามของเฟอา  แต่เฟอาก็หยุดอูฐของตนเองเป็นการตัดสินใจแทนทุกคนในคณะ
\"รีบไปไม่ดีกว่าเหรอ\" เลวิสรู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆ จึงถามเฟอา
\"ท่าทางเหมือนทุกคนดูเหนื่อยๆ น่ะขอรับ\" เฟอากวาดสายตาไปมองรอบๆ \"หยุดพักกินน้ำ  กับอาหารที่นี่สักครู่แล้วค่อยไปต่อก็คงไม่ได้เสียเวลามากเท่าไหร่หรอกขอรับ\"
เฟอาลงจากหลังอูฐก่อนจะหันไปพูดกับคนงาน  แล้วพวกคนงานทุกคนก็ลงจากหลังอูฐกันมาเกือบหมด  ส่งผลให้เลวิสกับไคล์ก็ลงจากหลังอูฐตามคนอื่นด้วย  ไคล์มีท่าทีเหนื่อยล้าเช่นกัน  และสีหน้าของไคล์ก็แสดงออกชัดว่าดีใจที่ได้พัก  พวกคนงานจับกลุ่มกันนั่งลงกับพื้นทรายแล้วหยิบเสบียงที่เตรียมไว้ออกมานั่งกินไปคุยไป  เลวิสกับไคล์ก็หาที่นั่งและนำเสบียงออกมากินเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ  เฟอาเดินไปดูอูฐสักพักหนึ่ง  แล้วก็ลงมานั่งร่วมวงกับเลวิสและไคล์ด้วย  ไคล์กับเฟอาพูดอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย  ทำให้เลวิสไม่ค่อยสนใจทั้งสองนัก
\"เดี๋ยวข้าไปเดินยืดเส้นยืดสายหน่อยนะ\" ไคล์พูดพร้อมกับบิดขี้เกียจทันทีที่กินเสร็จแล้ว
\"อย่าไปไกลนักล่ะ\" เลวิสอดเตือนไคล์ไม่ได้  เพราะหลายครั้งที่รู้สึกว่าไคล์เป็นพวกชอบเดินไปเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยมีจุดหมาย และที่สำคัญเป็นคนจำทางไม่ค่อยแม่นด้วย
\"ท่านไคล์ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะขอรับ  ท่านเลวิส\" เฟอายิ้มออกมา \"ท่านไคล์คงไม่เดินไปไกลเท่าไหร่หรอกมั้งขอรับ\"
\"เจ้าไม่รู้อะไรหรอก\" เลวิสถอนหายใจอย่างหนักอกและพูดออกมา \"เวลาไคล์อยู่ที่บ้านแล้วขอออกไปเดินเล่น หรือซื้อของข้างนอก  ก็จะบอกว่าไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับ  แต่กว่าจะกลับก็เย็นซะแล้ว  พอถามว่าไปที่ไหนก็บอกว่าไปเดินเล่นที่เมืองข้างๆ ที่อยู่ไกลจากเมืองหลวงมา\"
\"ข้าเพิ่งรู้นะขอรับ  ว่าท่านไคล์เป็นนักเดินเรื่อยเปื่อย\" ฟาร์เอลก็ยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดีต่อ  จนทำให้เลวิสอดคิดไม่ได้ว่าพ่อค้าหนุ่มคนนี้ทำเป็นแต่ยิ้มรึเปล่า \"ไม่แน่นะขอรับ  ท่านไคล์อาจจะเดินไปถึงผาแลนดิสก่อนพวกเราก็ได้นะขอรับ\"
ไคล์กับเฟอาหัวเราะออกมา  มีเพียงแต่เลวิสคนเดียวที่ขำไม่ออกกับเรื่องล้อเล่นพรรค์นี้
\"ข้าไม่ทำให้พวกเจ้าเป็นห่วงหรอกน่า\" ไคล์โบกมือไปมาแล้วก็เดินออกจากบริเวณที่ทุกคนในขบวนสินค้ากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่
\"พวกท่านเป็นเพื่อนสนิทกันใช่มั้ยขอรับ\" เฟอาหันมาถามกับเลวิส  เพราะเมื่อไคล์ออกไปเดินเล่น  เฟอาก็ไม่รู้จะพูดกับใครดี
\"ก็ใช่  เรารู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว\"
\"ท่านเลวิสมีเพื่อนสนิทอยู่คนเดียวรึเปล่าขอรับ\"
\"ไม่หรอก  มีเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงน่ะ\" เลวิสอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าแสนงอนของฮิลเลที่ถือเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของเขากับไคล์ \"เจ้าจะถามไปทำไมเหรอ\"
\"เอ่อ...ข้าไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องส่วนตัวของท่านเลวิสหรอกนะขอรับ\" เฟอาก้มหน้านิ่ง  ก่อนจะพูดต่อ \"แค่รู้สึกว่าท่านนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเพื่อนสนิท  แล้วยิ่งรู้สึกว่าท่านโชคดียิ่งขึ้นอีก  ที่มีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ถึงสองคนน่ะขอรับ\"
\"พูดอย่างกับเจ้าไม่มีเพื่อนสนิทอย่างนั้นแหละ\"
\"เพื่อนธรรมดายังไม่ค่อยจะมีเลยขอรับ\" ฟาร์เอลยิ้มออกมาเศร้าๆ \"พวกคนอื่นๆ ไม่ค่อยอยากจะพูดกับข้าเพราะคิดว่าข้าเป็นลูกเศรษฐีที่โดนตามใจจนเสียคน  แล้วพวกส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็หวังผลประโยชน์เกือบทั้งนั้นขอรับ\"
\"แล้วครอบครัวล่ะ\"
\"ข้ามีพี่ชายสี่คนขอรับ  พวกท่านพี่ก็เก่งในด้านค้าขายทั้งนั้น  ส่วนข้าไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่  แล้วอายุข้ากับพวกท่านพี่ก็ค่อนข้างห่างกันมากด้วย  ข้าเลยไม่สนิทกับพี่ขอรับ  ท่านพ่อก็ชอบออกไปค้าขายต่างแดนบ่อย  ข้าก็เลยไม่ค่อยได้พูดกับพ่อ  ส่วนท่านแม่ก็สิ้นใจหลังจากคลอดข้าได้ไม่นานน่ะขอรับ\" เฟอาดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด  จนเลวิสรู้สึกว่าเขาไม่ควรพูดเรื่องนี้เลย
\"ข้าขอโทษ\"
\"ท่านเลวิสไม่ต้องขอโทษข้าหรอกขอรับ\"
แล้วหลังจากนั้นเลวิสกับเฟอาก็นั่งเงียบไปนาน  ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก  ทำให้บรรยากาศในการสนทนาอึดอัดพอสมควร  เมื่อเลวิสมองเฟอาครั้งแรก  เลวิสก็นึกว่าเฟอาจะเป็นลูกพ่อค้าที่ร่ำรวย  และโดนตามใจจนเสียคน  แต่เมื่อมาได้นั่งฟังสิ่งที่เฟอาพูดเมื่อครู่แล้ว  เลวิสก็รู้สึกราวกับว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นผิดไปจากความจริงโดยสิ้นเชิง  เพราะภายใต้หน้าตาที่ดูยิ้มแย้มมีความสุขนั้น  เฟอากลับซ่อนความเหงา  และโดดเดี่ยวเอาไว้มากมาย  และนั่นทำให้เลวิสอดนึกถึงตนเองเมื่อก่อน...ในตอนนั้นไม่ได้...
------------------------------------------------------------------
เลวิสยังจำได้ดีถึงความมึนงง  และความปวดหัวที่แทบจะทำให้เขา หรือเด็กชายในเมื่อหลายปีก่อนคลั่ง  เขาได้ยินเหมือนเสียงคนพูดอะไรสักอย่างที่แผ่วเบา  จับใจความไม่ค่อยได้  แต่เขากลับรู้สึกว่าเสียงนั้นรบกวนจิตใจของเขาอย่างประหลาดจนทำให้ไม่อยากนอนอีกต่อไป  สติของเขาจึงค่อยๆ กลับมาเรื่อยๆ  เลวิสลืมตาช้าๆ ภาพที่เห็นในตอนแรกนั้นดูไม่ชัดเจน  จนไม่สามารถดูออกว่าใครเป็นใคร  เขาพยายามที่จะลุกขึ้น  แต่ราวกับทุกส่วนในร่างกายหนักอึ้งทำให้เขาลุกขึ้นไม่ได้  และต้องล้มตัวลงไปนอนอีกครั้ง
\"รู้สึกตัวแล้วสินะ\" เสียงที่เลวิสได้ยินเป็นเสียงที่แผ่วเบา แต่ทว่ากลับชัดเจน  น้ำเสียงก็เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน \"ลุกไหวมั้ย\"
แล้วก็มีมือของใครสักคนมาคอยช่วยพยุงให้เลวิสลุกขึ้นนั่ง  ภาพที่เห็นก็ค่อยๆ เด่นชัดขึ้นมาทำให้เห็นว่าเสียงที่เขาได้ยิน และมือที่ช่วยพยุงเขาเป็นของผู้ชายคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาลอ่อน  กับแววตาสีฟ้าที่ดูแล้วเหมือนเป็นห่วงเขาจากใจจริง  เลวิสพยายามนึกหน้าของชายคนนี้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนรึเปล่า  เพราะเด็กชายคิดว่าถ้าไม่ใช่คนรู้จักกัน  เขาคงไม่แสดงท่าทีเป็นห่วงขนาดนี้ 
\"เจ้าเป็นอะไรมากมั้ย  ยังเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า\" เจ้าของดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววอ่อนโยนพูดขึ้นอีกครั้ง \"รู้มั้ยว่าหัวของเจ้ากระแทกพื้นซะแรงเลย\"
 
\"ท่านแซคคาเรี่ยน  เด็กคนนั้นคือ...\" ชายที่ดูมากด้วยวัยและความรู้ที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเลวิสเอ่ยถามชายคนแรก
\"ข้าเจอเขาที่ตอนที่ไปดูหมู่บ้านแถบชายแดน\" แซคคาเรี่ยนตอบเรียบๆ \"หมู่บ้านนั้นกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปแล้ว  ข้าเลยไม่คิดว่าครอบครัวของเขาจะมีคนเหลืออยู่...เขาเดินมาล้มตรงหน้าข้า  ข้าก็เลยพาเขามา\"
\"ถ้าเขาหายแล้วก็หาครอบครัวที่จะคอยดูแลเขาใช่มั้ยขอรับ  ข้าจะได้ช่วยท่านหา\"
\"ไม่ต้องหรอก\"
\"แล้วท่าน...จะทำยังไง\"
\"ข้ารู้สึกถูกดวงกับเด็กคนนี้  ข้าจะเป็นคนเลี้ยงเขาเอง\" แซคคาเรี่ยนพูดพลางลูบหัวเลวิสเบาๆ อย่างอ่อนโยน
\"แต่...\"
\"ข้าตัดสินใจแล้ว\" แซคคาเรี่ยนเอ่ยอย่างแน่วแน่  ก่อนจะหันไปถามเด็กชายที่อยู่บนเตียง \"เจ้าชื่ออะไร\"
\"...เลวิส\" เลวิสตอบไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา
\"ความหมายดี  เลวิส  นักรบที่มีชื่อเสียง\" แซคคาเรี่ยนยิ้มน้อยๆ \"ต่อไปนี้เจ้าจะเป็นลูกชายของข้า แซคคาเรี่ยน  เฟอร์ดินานด์แห่งคานาล  และชื่อของเจ้าคือเลวิส  เฟอร์ดินานด์\"
ถ้าตอนนั้นข้าไม่ได้เจอท่าน...ข้าคงกลายเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง  และตายไปอย่างไม่มีใครเหลียวแล...
------------------------------------------------------------------
\"ท่านเฟอา  แย่แล้วขอรับ\" เสียงคนงานคนหนึ่งพูดอย่างเร่งร้อน  ทำให้เลวิสตื่นจากภวังค์
\"มีอะไรกันหรือขอรับ\" เฟอาถามอย่างสุภาพ
\"พายุทรายขอรับ  พายุทราย\" เหล่าคนงานมีท่าทีตื่นตระหนก \"เราเจอพายุทรายขอรับ\"
------------------------------------------------------------------
\"เลวิส  นี่ไงเฟอา\" ไคล์บุ้ยปากไปที่เด็กหนุ่มในเครื่องแต่งกายคล้ายพ่อค้าคนนั้น \"พ่อค้าที่เราจะต้องเดินทางไปด้วย\"
\"ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ\" เฟอาบอกอย่างเป็นมิตรแล้วยิ้มออกมา
\"เช่นกัน\" เลวิสวางมือบนไหล่ของเฟอาตามประเพณีทักทายของแคว้นคานาล 
\"แล้วเรื่องฝากม้าก็เรียบร้อยแล้วล่ะ\" ไคล์พูดพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี \"เจ้าของโรงแรมจะคอยดูแลม้าให้ในระหว่างที่เราไปทำธุระน่ะนะ\"
\"ก็ดีแล้วนี่\"
\"ดูแล้วท่านเลวิสเป็นคนง่ายๆ ดีนะขอรับ\" เฟอาเอ่ยแล้วหันไปถามไคล์ \"ใช่มั้ยขอรับ ท่านไคล์\"
\"ข้าว่าเจ้าดูเป็นคนที่นิสัยเรียบง่ายมากกว่าเลวิสซะอีก  ยกเว้นคำพูดเพราะๆ ของเจ้าที่ฟังดูไม่ค่อยเรียบง่ายสักเท่าไหร่นะ  พูดจบก็ต้อง \'ขอรับ\' เรียกชื่อคนอื่นก็ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า \'ท่าน\' น่ะ  ไม่เคยมีคนเรียกข้าว่าท่านไคล์เลยนะ\" ไคล์ตอบแล้วหัวเราะเบาๆ
\"ข้าไม่เห็นรู้ตัวเลยนะขอรับ\" เฟอาหัวเราะผสมโรงไปกับไคล์
\"นั่นไง  ขอรับอีกแล้ว\" ไคล์ท้วงเฟอาแล้วก็หัวเราะต่ออย่างอารมณ์ดี
เลวิสได้ยินเจ้าของโรงแรมพูดถึงเฟอาว่าเป็นลูกชายคนเล็กของพ่อค้าที่ร่ำรวยคนนึง  กำลังจะออกไปค้าขายกับแคว้นเทรนต์  ตอนแรกเขาก็ไม่รู้สึกกังวลอะไรมากนักเพราะนึกว่าเฟอาจะมีอายุมากกว่านี้  แต่พอเห็นตัวจริงเข้า  เลวิสก็รู้สึกเป็นห่วงโดยไม่รู้สาเหตุ  และตั้งข้อสังสัยในใจว่านี่เป็นการนำขบวนสินค้าออกไปค้าขายเป็นครั้งแรกรึเปล่า  เพราะดูท่าทางอย่างเฟอาไม่น่าจะเชี่ยวชาญในการเดินทางเท่าไหร่นัก  เพราะเป็นคนอายุน้อย และยังดูเหมือนเป็นคนบอบบางอีกด้วย  ทำให้เลวิสอดสังหรณ์ใจไม่ได้
\"จะเป็นการรบกวนรึเปล่าที่พวกเราจะเดินทางไปกับเจ้าด้วย\" เลวิสถามขึ้นหลังจากที่ไคล์กับเฟอาหยุดหัวเราะแล้ว
\"ไม่หรอกขอรับ\" เฟอายิ้มอย่างอารมณ์ดี \"การที่มีผู้ร่วมเดินทางเพิ่มไปสักคนสองคนไม่ทำให้ลำบากหรอกขอรับ  อีกอย่างพวกท่านก็ไปที่ผาแลนดิส  ไม่ได้ร่วมเดินทางกับพวกเราไปไกลเท่าไหร่นี่ขอรับ\"
\"ถ้าเจ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ดี\" ไคล์พูด  แล้วหันมากระซิบกับเลวิส \"พวกเราจะได้ไม่โดนรีดไถด้วย\"
\"ว่าอะไรนะขอรับ\" เฟอาถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นไคล์กระซิบอะไรให้เลวิสฟัง  แล้วทั้งสองก็ยิ้มออกมา
\"ไม่มีอะไรหรอก\" ไคล์รีบปฏิเสธ  แม้สีหน้าจะบอกอีกอย่างที่ตรงข้ามกับคำกล่าวอ้างก็ตาม  แต่เฟอาก็ดูท่าทีไม่ติดใจสงสัยอะไรมากนัก  เฟอายังคงยิ้มแล้วถามอีกฝ่ายอย่างสุภาพ
\"แล้วเราจะออกเดินทางกันเลยมั้ยขอรับ\"
\"ไปเลยสิ\" ไคล์ตอบอย่างกระตือรือร้น
\"ขบวนสินค้าของเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ\" เลวิสหันไปถามเฟอา
\"อยู่ตรงทางออกเมืองนั่นแหละขอรับ  ตามข้ามาก็แล้วกันนะขอรับ\"
แล้วเลวิสกับไคล์ก็เดินตามเฟอาออกจากโรงแรม  แล้วก็เดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงทางออกของเมืองที่มีสินค้าพวกเครื่องเทศ  อาหารแห้ง  เสื้อผ้า  และห่อผ้ารวมเป็นห่อใหญ่ๆ  มีคนงานพื้นเมืองง่วนอยู่กับการลำเลียงของขึ้นบนหลังอูฐ
\"พวกท่านนั่งอูฐสองตัวนี้ไปก็แล้วกันนะขอรับ\" เฟอาชี้นิ้วไปที่อูฐสองตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด
แล้วเฟอาก็เดินออกไปบอกอะไรซักอย่างกับคนงานซักพัก  แล้วพวกนั้นก็รีบนำของขึ้นบนหลังอูฐ  แล้วปีนขึ้นไปบนอูฐของตนเอง  ไคล์ก็ขึ้นไปนั่งบนอูฐแล้ว
\"ขึ้นอูฐสิ\" ไคล์หันมาบอกเลวิส  เลวิสจึงปีนขึ้นไปนั่งบนหลังอูฐบ้าง
เมื่อพวกคนงานลำเลียงพวกสินค้าขึ้นบนหลังอูฐเสร็จหมดทุกคนแล้ว  เฟอาที่อยู่บนหลังอูฐตัวหน้าสุดตะโกนให้ทุกคนในขบวนสินค้าได้ยิน
\"เราจะไปกันแล้วนะขอรับทุกคน\" แล้วเฟอาก็นำอูฐของตนเดินนำหน้าไป 
\"พูดกับคนงานยังมีขอรับเล้ย  ให้ตายสิ\" ไคล์บ่นพึมพัมเบาๆ
\"ไปกันเถอะน่า\" เลวิสหันไปบอกไคล์เบาๆ  แล้วทั้งสองก็ขี่อูฐตามอูฐของเฟอาและขบวนสินค้าไป
------------------------------------------------------------------
\"เดี๋ยวเราพักกันสักหน่อยดีกว่ามั้ยขอรับ\" เฟอาที่ขี่อูฐนำไปข้างหน้าหันมาถามหลังจากเดินทางกันมาได้นานพอดูแล้ว  ไม่มีใครตอบคำถามของเฟอา  แต่เฟอาก็หยุดอูฐของตนเองเป็นการตัดสินใจแทนทุกคนในคณะ
\"รีบไปไม่ดีกว่าเหรอ\" เลวิสรู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆ จึงถามเฟอา
\"ท่าทางเหมือนทุกคนดูเหนื่อยๆ น่ะขอรับ\" เฟอากวาดสายตาไปมองรอบๆ \"หยุดพักกินน้ำ  กับอาหารที่นี่สักครู่แล้วค่อยไปต่อก็คงไม่ได้เสียเวลามากเท่าไหร่หรอกขอรับ\"
เฟอาลงจากหลังอูฐก่อนจะหันไปพูดกับคนงาน  แล้วพวกคนงานทุกคนก็ลงจากหลังอูฐกันมาเกือบหมด  ส่งผลให้เลวิสกับไคล์ก็ลงจากหลังอูฐตามคนอื่นด้วย  ไคล์มีท่าทีเหนื่อยล้าเช่นกัน  และสีหน้าของไคล์ก็แสดงออกชัดว่าดีใจที่ได้พัก  พวกคนงานจับกลุ่มกันนั่งลงกับพื้นทรายแล้วหยิบเสบียงที่เตรียมไว้ออกมานั่งกินไปคุยไป  เลวิสกับไคล์ก็หาที่นั่งและนำเสบียงออกมากินเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ  เฟอาเดินไปดูอูฐสักพักหนึ่ง  แล้วก็ลงมานั่งร่วมวงกับเลวิสและไคล์ด้วย  ไคล์กับเฟอาพูดอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย  ทำให้เลวิสไม่ค่อยสนใจทั้งสองนัก
\"เดี๋ยวข้าไปเดินยืดเส้นยืดสายหน่อยนะ\" ไคล์พูดพร้อมกับบิดขี้เกียจทันทีที่กินเสร็จแล้ว
\"อย่าไปไกลนักล่ะ\" เลวิสอดเตือนไคล์ไม่ได้  เพราะหลายครั้งที่รู้สึกว่าไคล์เป็นพวกชอบเดินไปเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยมีจุดหมาย และที่สำคัญเป็นคนจำทางไม่ค่อยแม่นด้วย
\"ท่านไคล์ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะขอรับ  ท่านเลวิส\" เฟอายิ้มออกมา \"ท่านไคล์คงไม่เดินไปไกลเท่าไหร่หรอกมั้งขอรับ\"
\"เจ้าไม่รู้อะไรหรอก\" เลวิสถอนหายใจอย่างหนักอกและพูดออกมา \"เวลาไคล์อยู่ที่บ้านแล้วขอออกไปเดินเล่น หรือซื้อของข้างนอก  ก็จะบอกว่าไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับ  แต่กว่าจะกลับก็เย็นซะแล้ว  พอถามว่าไปที่ไหนก็บอกว่าไปเดินเล่นที่เมืองข้างๆ ที่อยู่ไกลจากเมืองหลวงมา\"
\"ข้าเพิ่งรู้นะขอรับ  ว่าท่านไคล์เป็นนักเดินเรื่อยเปื่อย\" ฟาร์เอลก็ยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดีต่อ  จนทำให้เลวิสอดคิดไม่ได้ว่าพ่อค้าหนุ่มคนนี้ทำเป็นแต่ยิ้มรึเปล่า \"ไม่แน่นะขอรับ  ท่านไคล์อาจจะเดินไปถึงผาแลนดิสก่อนพวกเราก็ได้นะขอรับ\"
ไคล์กับเฟอาหัวเราะออกมา  มีเพียงแต่เลวิสคนเดียวที่ขำไม่ออกกับเรื่องล้อเล่นพรรค์นี้
\"ข้าไม่ทำให้พวกเจ้าเป็นห่วงหรอกน่า\" ไคล์โบกมือไปมาแล้วก็เดินออกจากบริเวณที่ทุกคนในขบวนสินค้ากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่
\"พวกท่านเป็นเพื่อนสนิทกันใช่มั้ยขอรับ\" เฟอาหันมาถามกับเลวิส  เพราะเมื่อไคล์ออกไปเดินเล่น  เฟอาก็ไม่รู้จะพูดกับใครดี
\"ก็ใช่  เรารู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว\"
\"ท่านเลวิสมีเพื่อนสนิทอยู่คนเดียวรึเปล่าขอรับ\"
\"ไม่หรอก  มีเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงน่ะ\" เลวิสอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าแสนงอนของฮิลเลที่ถือเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของเขากับไคล์ \"เจ้าจะถามไปทำไมเหรอ\"
\"เอ่อ...ข้าไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องส่วนตัวของท่านเลวิสหรอกนะขอรับ\" เฟอาก้มหน้านิ่ง  ก่อนจะพูดต่อ \"แค่รู้สึกว่าท่านนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเพื่อนสนิท  แล้วยิ่งรู้สึกว่าท่านโชคดียิ่งขึ้นอีก  ที่มีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ถึงสองคนน่ะขอรับ\"
\"พูดอย่างกับเจ้าไม่มีเพื่อนสนิทอย่างนั้นแหละ\"
\"เพื่อนธรรมดายังไม่ค่อยจะมีเลยขอรับ\" ฟาร์เอลยิ้มออกมาเศร้าๆ \"พวกคนอื่นๆ ไม่ค่อยอยากจะพูดกับข้าเพราะคิดว่าข้าเป็นลูกเศรษฐีที่โดนตามใจจนเสียคน  แล้วพวกส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็หวังผลประโยชน์เกือบทั้งนั้นขอรับ\"
\"แล้วครอบครัวล่ะ\"
\"ข้ามีพี่ชายสี่คนขอรับ  พวกท่านพี่ก็เก่งในด้านค้าขายทั้งนั้น  ส่วนข้าไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่  แล้วอายุข้ากับพวกท่านพี่ก็ค่อนข้างห่างกันมากด้วย  ข้าเลยไม่สนิทกับพี่ขอรับ  ท่านพ่อก็ชอบออกไปค้าขายต่างแดนบ่อย  ข้าก็เลยไม่ค่อยได้พูดกับพ่อ  ส่วนท่านแม่ก็สิ้นใจหลังจากคลอดข้าได้ไม่นานน่ะขอรับ\" เฟอาดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด  จนเลวิสรู้สึกว่าเขาไม่ควรพูดเรื่องนี้เลย
\"ข้าขอโทษ\"
\"ท่านเลวิสไม่ต้องขอโทษข้าหรอกขอรับ\"
แล้วหลังจากนั้นเลวิสกับเฟอาก็นั่งเงียบไปนาน  ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก  ทำให้บรรยากาศในการสนทนาอึดอัดพอสมควร  เมื่อเลวิสมองเฟอาครั้งแรก  เลวิสก็นึกว่าเฟอาจะเป็นลูกพ่อค้าที่ร่ำรวย  และโดนตามใจจนเสียคน  แต่เมื่อมาได้นั่งฟังสิ่งที่เฟอาพูดเมื่อครู่แล้ว  เลวิสก็รู้สึกราวกับว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นผิดไปจากความจริงโดยสิ้นเชิง  เพราะภายใต้หน้าตาที่ดูยิ้มแย้มมีความสุขนั้น  เฟอากลับซ่อนความเหงา  และโดดเดี่ยวเอาไว้มากมาย  และนั่นทำให้เลวิสอดนึกถึงตนเองเมื่อก่อน...ในตอนนั้นไม่ได้...
------------------------------------------------------------------
เลวิสยังจำได้ดีถึงความมึนงง  และความปวดหัวที่แทบจะทำให้เขา หรือเด็กชายในเมื่อหลายปีก่อนคลั่ง  เขาได้ยินเหมือนเสียงคนพูดอะไรสักอย่างที่แผ่วเบา  จับใจความไม่ค่อยได้  แต่เขากลับรู้สึกว่าเสียงนั้นรบกวนจิตใจของเขาอย่างประหลาดจนทำให้ไม่อยากนอนอีกต่อไป  สติของเขาจึงค่อยๆ กลับมาเรื่อยๆ  เลวิสลืมตาช้าๆ ภาพที่เห็นในตอนแรกนั้นดูไม่ชัดเจน  จนไม่สามารถดูออกว่าใครเป็นใคร  เขาพยายามที่จะลุกขึ้น  แต่ราวกับทุกส่วนในร่างกายหนักอึ้งทำให้เขาลุกขึ้นไม่ได้  และต้องล้มตัวลงไปนอนอีกครั้ง
\"รู้สึกตัวแล้วสินะ\" เสียงที่เลวิสได้ยินเป็นเสียงที่แผ่วเบา แต่ทว่ากลับชัดเจน  น้ำเสียงก็เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน \"ลุกไหวมั้ย\"
แล้วก็มีมือของใครสักคนมาคอยช่วยพยุงให้เลวิสลุกขึ้นนั่ง  ภาพที่เห็นก็ค่อยๆ เด่นชัดขึ้นมาทำให้เห็นว่าเสียงที่เขาได้ยิน และมือที่ช่วยพยุงเขาเป็นของผู้ชายคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาลอ่อน  กับแววตาสีฟ้าที่ดูแล้วเหมือนเป็นห่วงเขาจากใจจริง  เลวิสพยายามนึกหน้าของชายคนนี้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนรึเปล่า  เพราะเด็กชายคิดว่าถ้าไม่ใช่คนรู้จักกัน  เขาคงไม่แสดงท่าทีเป็นห่วงขนาดนี้ 
\"เจ้าเป็นอะไรมากมั้ย  ยังเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า\" เจ้าของดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววอ่อนโยนพูดขึ้นอีกครั้ง \"รู้มั้ยว่าหัวของเจ้ากระแทกพื้นซะแรงเลย\"
 
\"ท่านแซคคาเรี่ยน  เด็กคนนั้นคือ...\" ชายที่ดูมากด้วยวัยและความรู้ที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเลวิสเอ่ยถามชายคนแรก
\"ข้าเจอเขาที่ตอนที่ไปดูหมู่บ้านแถบชายแดน\" แซคคาเรี่ยนตอบเรียบๆ \"หมู่บ้านนั้นกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปแล้ว  ข้าเลยไม่คิดว่าครอบครัวของเขาจะมีคนเหลืออยู่...เขาเดินมาล้มตรงหน้าข้า  ข้าก็เลยพาเขามา\"
\"ถ้าเขาหายแล้วก็หาครอบครัวที่จะคอยดูแลเขาใช่มั้ยขอรับ  ข้าจะได้ช่วยท่านหา\"
\"ไม่ต้องหรอก\"
\"แล้วท่าน...จะทำยังไง\"
\"ข้ารู้สึกถูกดวงกับเด็กคนนี้  ข้าจะเป็นคนเลี้ยงเขาเอง\" แซคคาเรี่ยนพูดพลางลูบหัวเลวิสเบาๆ อย่างอ่อนโยน
\"แต่...\"
\"ข้าตัดสินใจแล้ว\" แซคคาเรี่ยนเอ่ยอย่างแน่วแน่  ก่อนจะหันไปถามเด็กชายที่อยู่บนเตียง \"เจ้าชื่ออะไร\"
\"...เลวิส\" เลวิสตอบไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา
\"ความหมายดี  เลวิส  นักรบที่มีชื่อเสียง\" แซคคาเรี่ยนยิ้มน้อยๆ \"ต่อไปนี้เจ้าจะเป็นลูกชายของข้า แซคคาเรี่ยน  เฟอร์ดินานด์แห่งคานาล  และชื่อของเจ้าคือเลวิส  เฟอร์ดินานด์\"
ถ้าตอนนั้นข้าไม่ได้เจอท่าน...ข้าคงกลายเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง  และตายไปอย่างไม่มีใครเหลียวแล...
------------------------------------------------------------------
\"ท่านเฟอา  แย่แล้วขอรับ\" เสียงคนงานคนหนึ่งพูดอย่างเร่งร้อน  ทำให้เลวิสตื่นจากภวังค์
\"มีอะไรกันหรือขอรับ\" เฟอาถามอย่างสุภาพ
\"พายุทรายขอรับ  พายุทราย\" เหล่าคนงานมีท่าทีตื่นตระหนก \"เราเจอพายุทรายขอรับ\"
------------------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น