ตอนที่ 6 : -03- Part1
-03-
Part1
วินาทีหนีตายของผมจบสิ้นลงเพราะมีไอ้พ่อพระมาช่วยแต่จะเรียกว่าพ่อพระก็ไม่ถูก น่าจะเรียกว่ายักษ์มารที่ชอบตีหน้าขรึมซะมากกว่า คิดว่าถ้าผมไม่ได้โตกว่ามันมันคงด่าผมเยี่ยวเล็ดแล้วล่ะมั้งครับ
หมายถึงมันเยี่ยวเล็ดอ่ะเหรอ เหอะ! กูนี่แหละครับ หน้าแม่งโหดจัด มองตาขวางเหมือนจะกระโจนเข้ามาแดกหัวผมให้ได้อ่ะ
“ขอบคุณนะภพที่ช่วยอ่ะ”
“ถ้าไม่เข้ามายุ่งแต่แรกก็คงไม่โดนแบบนี้หรอก”
เอ้าๆ ผมผิดอีกเหรอวะ ใครมันจะไปรู้ว่าการเป็นคนดีวันนั้นทำให้ผมต้องมาโดนตามกระทืบในวันนี้ แล้วอีกอย่างผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่ถูกรุมกระทืบนี่มีสาเหตุมาจากอะไร
ก็ไอ้ภพมันไม่ยอมบอกผมอ่ะ ผมไปแจ้งขอความยุติธรรมที่ไหนได้บ้างครับ ไม่บอกนั่นไม่เท่าไหร่นะแต่เวลากูถามไปด่ากูกลับมาตลอดเลย สาดดดดด
“แล้วบอกได้ยังว่าทำไมถึงโดนตามกระทืบ”
ภพมันนั่งเงียบ ความจริงมันเงียบตั้งแต่พาผมออกมาจากพุ่มไม้ที่มันดึงผมเขาไปแล้วแหละ ตอนนั้นเป็นวินาทีเฉียดตายมาก เหมือนในหนังสงครามที่ระเบิดกำลังจะลงแต่เราก้มหมอบแล้วหลบลูกระเบิดทันอ่ะ ของพวกผมก็เช่นกัน
จะบอกว่านั่งหมอบจนปวดหลังในตอนที่ไอ้พวกนักเลงนั่นกำลังจะเดินมาแหวกโพรงหญ้าที่ผมกับภพอยู่ ดีที่มันมืดและพวกมันก็คิดว่าผมวิ่งไปทางอื่นจึงตัดใจแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
หลังจากรอดมาได้ผมก็ให้ภพมันช่วยเข็นรถไปที่ร้านซ่อมก่อน ตอนนี้ก็พากันมานั่งกินข้าวด้วยกันงงๆแต่ช่างมันเถอะ วันนี้ผมต้องรู้ให้ได้เลยว่าทำไมไอ้พวกนั้นถึงตามไล่ล่าจะกระทืบผมกับภพขนาดนี้
“จะไม่บอกจริงๆเหรอวะ นี่พี่ก็โดนหางเลขไปด้วยนะเว้ย”
“ก็ใครใช้ให้เข้ามายุ่งแต่แรก”
“เออๆ ความผิดพี่เองแหละ แต่ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วอ่ะ จะให้โดนกระทืบฟรีๆโดยไม่รู้สาเหตุนี่ก็ไม่ค่อยแฟร์ป่ะวะ”
ไอ้เราก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะหยุดยุ่งเรื่องของภพแล้วแต่ดันมาเกิดเหตุการณ์โดนตามกระทืบซ้ำสองผมก็คิดว่าคงจะหยุดไม่ได้เพราะผมได้กลายเป็นเป้าหมายหนึ่งของพวกมันซะแล้ว
ภพมันสนใจผมซะที่ไหนล่ะครับ มันล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบรูบิกอันเล็กมาหมุนไปบิดมาจนผมก็มองตามเพลินๆ
เฮ้ย! มึงสนใจกูหน่อยสิไอ้ภพ กูถามมึงเนี่ย ยังมีหน้าจะเอารูบิกขึ้นมาเล่นอีกเหรอวะ
ชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันเป็นคนเงียบขรึมหรือเป็นคนชอบกวนประสาทกันแน่
“มันก็แค่เรื่องปัญญาอ่อน”
จู่ๆภพมันก็พูดขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทว่าผมก็ให้ความสนใจโดยทันทีในขณะที่ภพมันก็เล่นรูบิกของมันไปเรื่อย ๆ
“ขอขยายความหน่อย แค่นี้ไม่เข้าใจหรอก”
มันทำหน้าหงุดหงิดใส่แต่ก็ยอมเล่าต่อ
“มันคิดว่ากูไปแย่งแฟนมัน มันเป็นฝ่ายมาหาเรื่องแล้วบอกว่าถ้ายอมให้มันกระทืบมันจะจบให้แต่ว่า...”
แหม...ก็ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมองกันตาเขียวขนาดนั้นป่ะวะ รู้แล้วน่าว่ามันจะบอกว่าผมดันเข้ามาเสือกก่อนเรื่องมันก็เลยไม่จบตามที่ตกลงกันไว้
แล้วใครมันจะไปรู้ได้วะ ก่อนมึงจะกระทืบกันอ่ะก็ติดป้ายไว้ดิว่าห้ามยุ่ง ผมจะได้ไม่ต้องวิ่งเข้าไปหาสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนั้น
“แล้วตกลงได้ไปแย่งแฟนเขาจริงๆป่ะล่ะ”
“เปล่า”
“อ่าว ทำไมไม่บอกมันไปว่าไม่ได้แย่ง”
“คิดว่ามันจะฟังหรือไง ถามอะไรไม่คิด”
โอ้โห เหมือนโดนมันด่าแต่ไม่ค่อยแน่ใจ ขอถามอีกที
“เมื่อกี้ด่าว่าโง่ใช่ป่ะ”
“อืม”
ชัดเลย เข้าใจแล้วล่ะขอโทษทีนะภพที่กูคิดน้อยไป
“เออๆ โทษทีแล้วกันที่เข้าไปยุ่ง ก็ไม่ได้คิดนี่ว่าจะตกลงอะไรกันไว้”
“ไม่เป็นไรหรอก” มันตอบปัดๆ เงยหน้าขึ้นมองสายฝนที่เริ่มตกลงมา ได้ยินเสียงถอนหายใจของภพเบาๆจากนั้นรูบิกในมือของมันก็ถูกเก็บกลับไปในกระเป๋ากางเกง “ทีหลังก็อย่าไปไหนคนเดียว ไม่รู้ว่าพวกมันจะกลับมาอีกเมื่อไหร่”
“ไม่ได้หรอก จะให้เพื่อนมาคอยตามตลอดมันก็ไม่ใช่เรื่องป่ะ” กลุ่มของผมทุกคนมีแฟนยกเว้นไอ้ทองแต่ทองมันคงไม่มาตามตูดผมต้อยๆหรอกเสียเวลาเล่นเกมกับอ่านนิยายของมัน อีกอย่างผมก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้นด้วย บางทีก็อยากจะไปไหนมาไหนคนเดียว มันคล่องตัวกว่า
“ถ้าถูกกระทืบมาก็ช่วยไม่ได้นะ”
“เอ้า แล้วเป็นความผิดกูที่ไหน” ในเมื่อมันพูดกูได้ผมก็พูดได้เหมือนกัน ผมไม่ถือสาหรอกเรื่องที่คนเด็กกว่าอย่างมันมาคุยกูมึงกับผม “เออๆ ผิดครึ่งนึงก็ได้วะ”
ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกลัวสายตานิ่งๆของไอ้ภพมันด้วย มันชอบจ้องเวลาที่มันไม่ได้ดั่งใจ เป็นคนที่ดูท่าแล้วโคตรจะเอาแต่ใจใครก็ขัดมันไม่ได้ ความคิดมันเป็นใหญ่ที่สุด
นิสัยเหมือนไอ้โน้ตเพื่อนผมเลย
“ถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วยก็โทรมา” มันว่าพร้อมกับหยิบปากกาที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมา ยื่นมือมาจับมือของผมที่กำลังมองมันงงๆ จากนั้นปลายปากกาก็จรดลงบนผิวเนื้อทำเอาจั๊กจี้เลยทำท่าจะชักมือกลับแต่ไอ้ภพมันเงยหน้ามาทำตาดุใส่อีก ผมก็เลยต้องกลั้นขำไว้ กลั้นใจจนมันเขียนเสร็จ “แต่ถ้าไม่มีธุระก็อย่าโทรมากวน”
กำลังจะอ้าปากเถียงมันเลยว่าผมไม่ใช่คนที่ขอเบอร์มันสักหน่อยแต่โอกาสที่จะได้พูดนั้นกลับลอยหายไปเมื่อภพมันตั้งเงินค่าข้าวของมันเอาไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปจากร้านโดยไม่มีคำบอกลาสักคำ
ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้วะ หลายทีแล้วนะไอ้เด็กภพเนี่ย
“ปากไปโดนไรมาวะเข็ม” เสียงเพื่อนเก้นท์ลอยมาทำเอาคนที่ทำเป็นก้มหน้าก้มตากินข้าวเงียบๆอย่างผมจำใจต้องเงยหน้าขึ้นมอง ยิ้มแหยๆใส่มันอีกหน่อยแล้วตอบออกไป
“ไม่มีไรหรอกมึง”
“ไม่มีอะไรล่ะ ช้ำขนาดนั้นอ่ะไปโดนใครต่อยมา”
คราวนี้ไอ้พ่อโน้ตมันถามบ้าง ตอนแรกที่โน้ตไม่เห็นเพราะผมใส่ผ้าปิดปากอยู่ ตอนกินข้าวก็ก้มหน้าก้มตากินซึ่งเพื่อนผมมันไม่ค่อยเป็นคนช่างสังเกตหรอกยกเว้นไอ้เก้นท์กับไอ้มาร์ชแต่ไอ้มาร์ชไม่มาเรียนเลยมีแค่ไอ้เก้นท์ที่เห็นคนแรก
“ต่อยเต่ยอะไรของมึงโน้ต กูเดินชนขอบประตูอ่ะก็เลยช้ำ”
“แน่ใจนะ?”
“เออ มึงคิดว่าคนอย่างกูจะไปมีเรื่องกับใครได้วะ ขนาดมดกัดกูยังไม่ด่าเลย”
“ไม่เกี่ยวเลยสัด ถ้าไม่ได้มีเรื่องกับใครก็ดีแล้ว”
มันเหมือนจะเชื่อแต่ก็ไม่เชื่อ ประมาณว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่เพื่อนผมมันไม่ได้เป็นพวกที่ชอบเซ้าซี้อยู่แล้ว ถ้าอยากบอกก็บอกแต่ถ้าถามแล้วไม่บอกมันก็ปล่อยไป เพราะกลุ่มเรารู้กันได้เองว่าบางเรื่องก็ไม่มีอะไร ปล่อยไปคงจะดีกว่าไม่อยากรื้อฟื้นมันขึ้นมาอะไรประมาณนั้น
ซึ่งเรื่องนี้อ่ะผมบอกเพื่อนได้นะแต่ไอ้เจ้าของเรื่องตัวจริงน่ะจะยอมให้ผมบอกหรือเปล่าเถอะ
“ว่าแต่มาร์ชมันเป็นอะไรวะทำไมถึงไม่มาเรียน” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้เพื่อนลืมๆเรื่องของผมไป แม้พวกมันจะรู้ว่าผมตั้งใจเปลี่ยนเรื่องก็ไม่ได้มีใครว่าอะไรผม
“เห็นบอกว่าเป็นไข้แต่แฟนมันให้กินข้าวกินยา พักผ่อนแล้วแหละ” ทองเงยหน้าขึ้นตอบ
“อ่อ งั้นแสดงว่าเมื่อคืนมันไม่ได้นอนกับมึงเหรอเก้นท์”
“เออ มันไปเฝ้าแฟนมันกินเหล้ากับเพื่อนอ่ะมันเลยบอกว่าจะนอนหอแฟนแต่พอเช้ามาก็เป็นไข้ นี่แฟนมันก็เพิ่งโทรมาลาให้”
“เมื่อวานฝนตกนี่หว่า อาจจะตากฝนมั้งก็เลยไม่สบาย”
“คงงั้นแหละ”
คุยกันได้ไม่เท่าไหร่ก็ถึงเวลาเข้าเรียน ผมบอกเพื่อนให้เดินขึ้นห้องไปก่อนส่วนตัวเองก็ไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวเดินตามไปทีหลัง ไม่คิดว่าการมาห้องน้ำของผมจะเจอเข้ากับไอ้ภพที่หายเข้าไปในกลีบเมฆตั้งแต่เมื่อวาน
มันยืนพิงกำแพงห้องน้ำด้วยท่าทางเท่ๆในขณะที่มือของมันกำลังบิดรูบิกเล่นคนเดียว
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปไหนคนเดียว”
“มาได้ไงวะ”
ผมถามมัน เดินเข้าไปในห้องน้ำเพราะปวดเยี่ยวมากให้ทนยืนคุยกับมันผมว่าไม่ไหว
“....”
ผมน่าจะชินกับการที่ไอ้เด็กนี่เงียบใส่แต่ก็ยังไม่ชินสักที มันตามเข้ามาในห้องน้ำ เก็บรูบิกกลับไปในกระเป๋ากางเกงและยืนมองผมที่ยืนเยี่ยวอยู่หน้าโถ
คือแบบ...จ้องขนาดนั้นเยี่ยวผมแทบหด
พอจัดการธุระส่วนตัวเสร็จผมก็เก็บน้องเข้ากางเกง รูดซิปและเดินไปล้างมือโดยที่ภพมันก็ยืนข้างๆผมแต่ไม่พูดอะไรสักทีเป็นผมเองที่ทนไม่ไหว เลยต้องหันไปถามมัน
“แล้วตกลงมาได้ไงอ่ะ”
“เดินมา”
เฮ้อ....กูคงไม่คิดว่ามึงกระโดดตบมาจนถึงหน้าห้องน้ำหรอกมั้งไอ้ภพ กวนประสาทดีจริงๆ ถามอะไรไม่เคยจะได้คำตอบดีๆสักอย่าง
“โอเค ขอโทษที่ถามแบบนี้แล้วกัน กูผิดเองแหละ” ผมว่าอย่างประชดประชันแต่ภพมันไม่สนใจหรอก มันเดินนำผมออกจากห้องน้ำซึ่งผมก็เดินตามมันไป
“เรียนไหน”
“ห้ะ?”
ที่ห้ะไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินแต่ห้ะเพราะงงว่ามันถามผมทำไม
“หูหนวกเหรอ”
วันไหนมันไม่ได้ด่าผมมันจะนอนไม่หลับเหรอครับ ผมงงกับมันจริงๆนะ เจอหน้าไม่ด่าผมก็เงียบใส่ ตกลงแล้วมันเป็นคนยังไงกันแน่ผมอยากรู้จริงๆ
“ก็เรียนที่ตึกดิจะให้ไปเรียนไหน”
ภพมันหันกลับมาทำหน้าหน่ายใส่ก่อนที่มันจะผลักหลังให้ผมเดินข้างหน้า ผมหันหลังกลับไปมองมันงงๆ ไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรกันแน่
“เดินไป เดี๋ยวไปส่ง”
“หา?”
“จะหาอะไร รีบเดินดิ เดี๋ยวก็เข้าเรียนสายหรอก”
ถึงแม้จะงงแต่ก็เดินไปตามที่มันสั่ง ตลอดระยะทางขึ้นตึกเรียนผมรู้สึกได้ว่าภพมันยังคงเดินตามหลังผมอยู่ ขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองผมเลยถามมันโดยที่ไม่ได้หันไปมอง
“ไม่มีเรียนเหรอ”
“มี”
“เอ้า! ทำไม...”
“เดินไปเหอะน่า พูดมากอยู่นั่น”
ผมยอมสงบปากสงบคำ ผมไม่เข้าใจอะไรสักอย่างแต่พอถามภพมันก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องผมเลยหันหลังเพื่อจะบอกลาแต่ทว่าผมกลับพบแต่ความว่างเปล่า ภพมันไม่ได้ยืนอยู่ข้างหลังผมอย่างที่ผมคิดไว้
มันหายไปตอนไหน หายไปได้ยังไง ทำไมมันถึงไปเร็วจังเลยวะหรือว่าไอ้ภพมันจะมีวิชาล่องหน
เออ...ผ้าคลุมล่องหนในแฮรี่พอตเตอร์ไงครับ
ส่ายหัวให้กับความคิดเป็นตุเป็นตะของตัวเองก็เดินไปเปิดประตูเข้าห้องเรียน อาจารย์หันมามองนิดหน่อยแต่ไม่ได้ว่าอะไรที่เข้าห้องช้า วันนี้เรียนวิชารัฐธรรมนูญซึ่งวันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาเอางานมาพรีเซนต์หน้าชั้น กลุ่มของผมเป็นคิวของเดือนหน้า วันนี้ก็มาเรียนสบายๆชิลๆเลยครับ
เลิกเรียนไอ้เก้นท์มันชวนไปเยี่ยมไอ้มาร์ชที่กลับมานอนหอของตัวเองแล้วเรียบร้อย ผมว่ามันน่าจะหายดีแล้วแหละเพราะมันสั่งพวกผมว่าอยากกินหมูกระทะให้ซื้อของมาทำที่ห้องด้วย
พวกผมไม่ได้ทำตามที่มันต้องการ กวนประสาทมันด้วยการซื้อผัดไทยและหอยทอดมากินเป็นมื้อเย็น ไอ้มาร์ชมันนั่งหน้าบึ้ง พอจะยึดผัดไทยคืนแม่งดึงกลับไปอย่างไว
“ไม่พอใจอะไรก็บอกมาอย่ามาทำหน้าตูดใส่พวกกูเพื่อนมาร์ช” ผมบอกขำๆ ไอ้มาร์ชหน้านี่ย่นแสดงออกโจ่งแจ้งเลยว่าอยากกินหมูกระทะแต่ผัดไทยที่ซื้อมาก็ไม่อยากคืนให้เพราะเจ้านี้อร่อย
“สาบานเหอะนะว่าพวกมึงไม่รู้ แล้วไอ้ที่ซื้อมานี่ไม่ใช่ว่าจะรวมหัวแกล้งกูหรอกนะสัด”
“บ้าน่า มึงอ่ะคิดมาก”
“มึงนั่นแหละตัวดีไอ้เก้นท์”
“มาร์ชอย่าใส่ร้ายเพื่อนเก้นท์” โน้ตมันปกป้องด้วยสีหน้าที่โคตรเฟค ไอ้เก้นท์ยื่นตีนไปถีบมันแต่ไอ้โน้ตไม่ถือสาหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข “ก็พวกกูไม่อยากกินหมูกระทะนี่หว่า อีกอย่างนะถ้าจะกินหมูกระทะไปนั่งกินที่ร้านดีกว่าอีก”
“ทำไมวะ”มาร์ชถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ขี้เกียจล้างจาน”
“กูว่าแล้ว”
“หรือมึงจะล้าง”
“ม่ายยยยยยย”
สัดเอ้ยนึกว่าจะแน่ สุดท้ายไอ้มาร์ชก็ยอมแดกผัดไทยที่พวกผมซื้อมาให้สักทีโดยที่ไม่ปริปากบ่นอะไรสักคำ
มันก็สมควรจะเป็นแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้วป่ะ เรื่องมากดีนักเดี๋ยวก็ไม่ให้กินอะไรสักอย่างหรอกมึงน่ะ
“เออมึงแล้วสรุปเขาเลือกเฟรชชี่สาขาเราวันไหนวะ”
“เขาเลือกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” ทองตอบโน้ตที่โพล่งถามขึ้นมา
ไอ้เก้นท์ส่ายหน้าก่อนว่าต่อ “ไม่นะ เห็นว่าวันศุกร์นี้”
“อ่อ สงสัยกูจำผิดมา แล้วมึงคิดว่าใครจะได้วะ”
“ถ้าตาตั้นมันเลือกมันก็น่าจะเลือกน้องมาร์อ่ะ คือครบเครื่องดีด้วย แล้วยิ่งเฟรนลี่คนก็ยิ่งชอบ” ผมพูดไปตามที่คิด ตั้งแต่เห็นน้องมาร์ครั้งแรกก็เหมือนมีออร่าฟุ้งกระจายจากตัวมันและผมมั่นใจมากว่ามันจะได้เป็นตัวแทนไปประกวดเฟรชชี่แน่นอน
“สไตล์นั้นก็พิมพ์นิยมด้วย มีสิทธิ์ลุ้นอยู่”
“เห็นว่าตัวเกร็งสามคนนี่หว่า”
“ใครบ้างอ่ะ”
“มีน้องกี้ที่เก่งๆอ่ะ กล้าแสดงออกโคตรๆ แล้วก็ไอ้น้องภพที่ได้ลงเพจไง คนชอบเยอะนะแต่แม่งดูหยิ่งไปหน่อยอาจจะไม่เข้ารอบหรอกแต่กูชอบสไตล์น้องมันว่ะ คูลสัดๆอย่างกับอมฮอลคูลไว้ในปาก ไม่เคยจะพูดจาพูดน้อยเหมือนกลัวลูกอมหล่นออกจากปาก กูล่ะอย่างชอบเลยครับ”
“อืม...จริงของไอ้มาร์ช น้องนั่นมันหล่อแบบมีเอกลักษณ์อ่ะ สมัยนี้บางคนก็ชอบแบบไอ้น้องภพนี่แหละแต่ถ้าจะเอาไปประกวดกูว่าเลิกคิดได้เลย” เก้นท์ตัดความหวังจนไอ้มาร์ชต้องหันขวับมามอง มันก็เชียร์ของมันอ่ะครับผมเข้าใจ อวยไส้แตกฉิบหายเลยไอ้มาร์ช
“งั้นลงขันเป็นไอ้น้องมาร์” ประโยคของโน้ตทำพวกผมต้องหันไปมอง
“เดี๋ยวก่อนนะนี่คือจะพนัน?” ถามก่อนเพื่อความแน่ใจ
“ป้าวววว”
เสียงไม่สูงเลยมั้งสาดดดดด
“ก็ถ้าใครแพ้เลี้ยงหมูกระทะ แฟร์ๆเลยป่ะ” ไอ้มาร์ชก็ยังตัดใจจากหมูกระทะไม่ได้สักที เสนอแบบนี้ก็แจ่มหมูสิครับ
“เออเอาดิ”
“งั้นจัดไป ใครเชียร์ใครรบกวนพิมพ์ลงมาในไลน์กลุ่มด้วยครับจะได้มีหลักฐานเวลาผลออก”
“เฉียบแมว”
พวกผมหยิบโทรศัพท์ออกมาคนละเครื่อง ต่างคนต่างก็ก้มหน้าพิมพ์คนที่ตัวเองเชียร์ลงไปในไลน์
โน้ต ผมและไอ้เก้นท์เชียร์น้องมาร์
ทองเชียร์น้องกี้
และไอ้มาร์ชเชียร์ไอ้เด็กภพซึ่งดูท่าทางว่ามันจะถูกใจไอ้ภพมาเนิ่นนานแล้ว เอาแต่อวยไม่หยุด
ผมเชื่อมั่นเลยว่าไอ้มาร์ชแม่งต้องแพ้และได้เลี้ยงหมูกระทะพวกผมแน่ๆ ก็เห็นๆกันอยู่หรือเปล่าครับว่าไอ้ภพน่ะมันคงไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องแสดงออกขนาดนี้หรอก
แม่งเอ้ยพูดแล้วเจ็บใจ วันไหนที่มันพูดดีๆกับผมเมื่อไหร่ผมจะเอาหัวหมูมาเซ่นมันเลย
****
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆค่า
#ภพเพียงรัก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

77 ความคิดเห็น
-
#72 jeerapans834 (จากตอนที่ 6)วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 / 23:14ลุ้นไปกับเข็ม#720
-
#37 ซีเอชโอเอ็มพียู..yy.. (จากตอนที่ 6)วันที่ 28 เมษายน 2563 / 15:30ตามพี่เขาอยู่แหละ ดูออก#370
-
#36 0818770547 (จากตอนที่ 6)วันที่ 27 เมษายน 2563 / 08:23ภพ สายคูล ของแม่จิงๆๆ#360
-
#35 IamonRead (จากตอนที่ 6)วันที่ 27 เมษายน 2563 / 00:39รอตอนต่อไป~#350
-
#34 Nanana- (จากตอนที่ 6)วันที่ 26 เมษายน 2563 / 22:52รอตอนต่อไปเลยค่า ~~#340
-
#32 xxxiYixxx (จากตอนที่ 6)วันที่ 26 เมษายน 2563 / 21:48น้องภพก็มีมุมน่ารักอยู่นะ#320
-
#31 godxmeii (จากตอนที่ 6)วันที่ 26 เมษายน 2563 / 21:43คือไม่น่าจะห่วงว่าจะไปโดนตีนแล้วล่ะแบบนี้ ตามซะ 24 ชม55555#310
-
#30 phurichaya25 (จากตอนที่ 6)วันที่ 26 เมษายน 2563 / 19:35น้องภพมีความเเอบเป็นห่วงพี่อยู่น้าาาาา#300