ตอนที่ 3 : -01- Part2
-01-
Part2
ช่วงเทอมแรกนี่กิจกรรมเยอะมากเพราะทำขึ้นมาเพื่อเฟรชชี่ปีหนึ่ง อย่างวันนี้ก็เป็นกิจกรรมไหว้ครูและเปิดโลกกิจกรรมซึ่งเป็นการให้สมัครชมรมแต่ของมหา’ลัยผมไม่ได้บังคับ ใครอยากจะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้ ไม่มีผลอะไรและถ้าใครอยากเข้ามากกว่าหนึ่งชมรมก็ได้
ผมสมัครชมรมเกี่ยวกับท่องเที่ยวจนถึงปีสามกูก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยอ่ะครับ
อารมณ์แบบมีก็เหมือนไม่มี
อ้อ แล้วอีกอย่างก็คือกิจกรรมโฮมรูมในสาขา จัดขึ้นมาเพื่อให้รุ่นพี่และรุ่นน้องรู้จักกันแต่ผมว่ามันไม่ค่อยช่วยอะไรหรอกครับ แค่เดินมาแนะนำชื่อตัวเองจังหวัดที่มาแล้วก็เดินกลับไปนั่ง พอออกจากห้องก็ลืมชื่อกันแล้วแหละ
ไหว้ครูของทางมหา’ลัยเสร็จก็ถึงเวลาไหว้ครูในสาขาบ้าง แต่ละคนพกประมวลกฎหมายมาตั้งไว้ข้างๆเพราะสาขาผมเชื่อกันว่าถ้าอาจารย์เซ็นประมวลให้จะเป็นสิ่งที่มงคลช่วยในเรื่องการเรียน
ตอนแรกผมนี่เชื่อสุดใจแต่พอเห็นเพื่อนคนหนึ่งในสาขามันติดเอฟและเกรดโคตรดิ่งลงเหวความเชื่อนั้นก็เหมือนจะเจือจางลง
“คนเยอะว่ะ” ผมพูดขึ้นมากวาดตามองคนในห้องไปพลาง
“เยอะก็ดีแล้วป่ะ ไม่งั้นอาจารย์ได้บ่นให้เหมือนปีที่แล้วอีก”
“เออจริงของไอ้เก้นท์”
“ปีหนึ่งทำไมเรียบร้อยจังวะ ดูดิ”
“เมื่อก่อนพวกเราก็เป็นแบบนั้น มึงคอยดูปีสองเถอะ”
“ผีบ้าเข้าสิงอ่ะ อาจารย์ทำหน้าเอือมแล้วเอือมอีกโดยเฉพาะปีเรา”
“คนเยอะสุดไงเลยโดนว่าเยอะสุด”
“แต่เราคือเป็นหน้าเป็นตาให้กับสาขานะเว้ยมึง ตอนปีหนึ่งกวาดรางวัลมาเพียบ”
“จริงที่สุดจ้ะเพื่อน พวกเรานี่แม่งสุดยอดจริงๆ”
นั่งอวยกันได้ไม่นาน อาจารย์ก็บอกให้หาคนที่จะมาเป็นตัวแทนถือพานของแต่ละชั้นปี ของผมก็ไอ้โน้ตเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนคู่เป็นแอ๋มที่น่ารักๆอัธยาศัยดีและเฟรนลี่เป็นอย่างมาก คนนี้ผมปลื้มเป็นพิเศษ
ส่วนปีอื่นๆผมก็ไม่ค่อยได้สนใจ นั่งคุยกับพวกไอ้เก้นท์ได้ไม่เท่าไหร่พิธีการต่างๆก็เริ่มขึ้นมา
พิธีไหว้ครูก็เหมือนเดิมทุกปี ไหว้ทุกปีและแอบหลับทุกปี มันง่วงนี่ครับ ตื่นมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้บ่ายแล้วยังไม่ได้กลับหอไปนอน ใช่ว่าไหว้ครูตรงนี้เสร็จจะได้กลับ ต้องไปเข้าโฮมรูมอีก
“โฮมรูมห้องไหนวะ”
“ห้องเดิมอ่ะแหละ แล้วนี่พวกมึงจะไปไหน” โน้ตถามพวกผมที่ทำท่าจะชิ่งหนี มันง่วงอ่ะโน้ต คือโน้ตต้องเข้าใจพวกกูหน่อย
..อ่ะไม่ต้องเข้าใจพวกกูก็ได้แต่เข้าใจกูคนเดียวก็พอ
“ไปเข้าห้องน้ำ/ไปหาของกิน”
สัดเอ้ย พวกมึงต้องนัดกันก่อนเว้ย ไอ้โน้ตด่าแหลกแน่
“กูขออีกที เอาให้ตรงกันและห้ามโกหก”
พ่อแม่งดุสัดแล้วใครจะกล้าโกหกมึงวะโน้ต
“ไปหาของกิน”
ดีหน่อยที่รอบสองตอบตรงกัน โน้ตมันหรี่ตามองก่อนจะพยักหน้าให้ไม่วายกำชับพวกผมเสียงดุขึ้นอีกนิด
“กูให้สิบนาที ถ้าเกินนั้นไม่เห็นพวกมึงกูตามถึงหอแน่”
เหยดแหมมม มันจะโหดไปแล้ว คิดว่าพวกกูจะทำตามที่มึงบอกเหรอโน้ต บอกเลยนะว่า
“ได้ครับเพื่อน”
ก็ถ้าไม่ทำตามไอ้โน้ตมันด่าแหลกจริงๆอ่ะ เวลาเลือดผู้นำขึ้นหน้ามันนี่ผมไม่ค่อยกล้าสู้หรอก มันโหดอ่ะ
พากันเดินหน้าหงอยมายังโรงอาหาร ได้กลิ่นซาลาเปากับลูกชิ้นนึ่งพวกผมเลยเดินตามกลิ่นไป ทั้งกลุ่มผมจึงได้ลูกชิ้นกับซาลาเปามากิน
“เก้นท์วาดไรวะ” ถามเก้นท์ที่นั่งวาดรูปในไอแพดอยู่
“วาดไอ้มาร์ช”
“วาดกูทำไมเพื่อนเก้นท์”
“วาดสภาพมึงตอนเมา เอาไว้เบิดเดย์”
“มึงก็ลงทุนเนอะเพื่อน”
“เออ”
หันไปมองฝีมือวาดรูปไอ้เก้นท์ในไอแพดก็ตาวาว มันวาดรูปสวยอยู่นะ ยิ่งวาดไอ้มาร์ชก็ยิ่งอุบาทว์ตา เริ่มสงสารไอ้มาร์ชขึ้นมาอีกนิดเลยหันหน้าไปมองไอ้มาร์ชบ้าง ก็คือมันนั่งยิ้มภูมิอกภูมิใจและดูจะชอบรูปที่ไอ้เก้นท์วาดอยู่ด้วยซ้ำ
กูก็ลืมไปครับว่าเพื่อนมาร์ชมันชอบอะไรแปลกๆ สวยๆไม่ชอบแต่ถ้าอันไหนฮาล่ะของรักมันเลย
“มึงอ่านนิยายภาษาจีนแล้วเหรอวะเดี๋ยวนี้”
“อือ”
ทองแม่งสกิลอัพขึ้นทุกวัน สองอาทิตย์ก่อนอ่านนิยายภาษาอังกฤษ วันนี้อ่านภาษาจีน อาทิตย์หน้ามันคงจะอ่านนิยายภาษาญี่ปุ่นแล้วครับ
“แล้วนิยายของประเทศไหนสนุกสุดวะ”
“ก็สนุกหมดอ่ะแต่มันก็สนุกคนละแบบ แล้วแต่แนวด้วยแหละ”
“อ่อ แล้วนี่อ่านฟรีหรือซื้อมา”
“ของต่างประเทศก็มีลงเว็บฟรีบ้าง บางอันก็ต้องซื้อบ้างอ่ะ”
“เรื่องนี้มีกี่ตอนวะ”
“ไมค่อยแน่ใจว่ะ คร่าวๆก็สองร้อยกว่า”
เดี๋ยวนะ มึงอ่านได้ไงสองร้อยกว่าตอนวะ ทำไมเก่งฉิบหาย ผมเคยอ่านนิยายแต่อ่านแค่สิบกว่าตอนก็ขี้เกียจแล้วหรือคงเพราะเนื้อหามันยังไม่ดึงดูดพอที่จะอ่านต่อล่ะมั้ง งั้นแสดงว่าไอ้สองร้อยกว่าตอนนี้คงสนุกน่าดูเลย
“มึงอ่านถึงตอนไหนแล้ว ตอนอย่างเยอะอ่ะ”
“นี่ก็ร้อยกว่า”
“ถามจริงเลยนะ มึงได้นอนบ้างเปล่า?”
“นอนดิ ตื่นมาก็อ่านนิยาย ขี้ก็อ่าน กินข้าวก็อ่าน ขนาดในฝันกูยังอ่านเลย”
“โอเคกูเชื่อมึงแล้วเพื่อน”
งานอดิเรกแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ของผมคือการนอนสบายๆหลับได้ทุกที่ทุกเวลา ของโน้ตคือการทำงานช่วยสังคมและคนอื่น ทองคือการเล่นเกมส์และอ่านนิยาย เก้นท์คือการที่ได้วาดภาพที่มันรักและไอ้มาร์ชที่ไม่ได้ชอบดูดวงแต่ตอนนี้ก็กลายเป็นงานอดิเรกของมันไปแล้วเพราะดันดูแม่น
ไม่มีอะไรที่คล้ายคลึงกันสักนิดแม้กระทั่งนิสัยแต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็โคจรมาเป็นเพื่อนกันได้
อาจจะเป็นเพราะมีแรงดูดดูดบางอย่างระหว่างกันล่ะมั้งครับ
กิจกรรมโฮมรูมเริ่มต้นขึ้นโดยที่ปีหนึ่งต้องออกมาแนะนำตัวกันก่อนและจากนั้นก็ค่อยๆเรียงชั้นปีไป ผมมองน้องๆที่ค่อยๆทยอยออกมา บางคนก็คุ้นหน้าบางคนก็ไม่ค่อยคุ้นเลย
“สวัสดีครับ ผมนายกชกร อารักษา ชื่อเล่นชื่อ มาร์ มาจากจังหวัดเชียงใหม่ครับ” น้องคนนี้เป็นหนุ่มขาวตี๋ ตัวสูงมากและเป็นอีกคนที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็นเดือนสาขา ตอนนี้มีท็อปห้าและจะค่อยๆคัดออกอีกที
พวกหล่อเยอะครับแต่พวกที่กล้าแสดงออกมีน้อยเท่าจิ๋มมด
“มึงว่าคนไหนมีสิทธิได้เป็นตัวแทนสาขาเราวะ” เก้นท์ถามขึ้นมา สายตาก็มองน้องๆที่ออกไปแนะนำตัว
“สำหรับกูก็คนเมื่อกี้อ่ะ น้องมาร์อ่ะ ดีอยู่นะดูเหมือนจะกล้าแสดงออกด้วย” ผมออกความเห็นไปตามที่คิด
“ของกูคิดว่าน้องกี้ว่ะ ถึงมันจะไม่ได้หล่อมากแต่ความมั่นความสามารถต่างๆก็ไม่แพ้กันเลย”
“คนนี้กูว่าก็มีลุ้น”
ลืมน้องกี้ไปเลย ไอ้เด็กที่ชอบแหกปากร้องเพลงดังๆจนพวกผมต้องปรามๆให้มันเบาเสียงหน่อย คือไม่ได้ยินเสียงคนอื่นร้องเลย เสียงของมันกลบหมด
“ส่วนกูคิดว่าน้องคนนั้นว่ะ” ไอ้มาร์ชมันชี้ไปด้านหน้าที่มีการแนะนำตัวอยู่ พวกผมมองตามทิศทางที่มันชี้ก่อนดวงตาของผมจะเบิกกว้าง กลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก
เชี่ย! ผู้ชายคนนั้นที่โดนกระทืบวันนั้นนี่หว่า แล้วทำไม...
“สวัสดีครับผมณภพครับ ขอบคุณครับ”
เดี๋ยวๆ คือมึงจะพูดแค่นี้จริงดิ
“น้องครับ ยังไม่บอกชื่อเล่นกับจังหวัดที่มาเลยนะ”
มันพยักหน้าก่อนจะบอกสั้นๆ
“ภพครับ มาจากกรุงเทพฯ” แล้วมันก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม
เออนะ
“กูว่าไม่ได้ว่ะคนนี้ แม่งดูกวนตีนพูดน้อย มาในลุคส์ผู้ชายนิ่งๆอ่ะซึ่งไม่เหมาะกับการเป็นเดือนเท่าไหร่”
อันนี้เห็นด้วยกับไอ้เก้นท์เลย คนที่จะเป็นเดือนได้ไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวแต่ต้องกล้าแสดงออกด้วยถึงจะมีสิทธิลุ้นเป็นตัวแทนไประกวดเดือนมหา’ลัย
ว่าแต่เด็กนั่นมันอยู่สาขาผม เป็นเด็กปีหนึ่งซึ่งผมไม่เคยเห็นหน้ามันในกิจกรรมสักครั้งและมันก็มีชื่อว่าภพ..ใช่ไหม
อืม...แม่งโคตรจะบังเอิญเลย
ปีหนึ่งแนะนำตัวเสร็จก็เป็นคิวของเด็กปีสองจนกระทั่งมาถึงปีสามอย่างพวกผม ตอนออกไปก็จะมีเสียงแซวหน่อยๆเพราะปีเริ่มสูงก็รู้จักคนเยอะ ไอ้พวกวี้ดว้ายใส่กูนี่ก็เพื่อนกันทั้งนั้นครับ อยากจะตะโกนบอกให้หุบปากแต่ก็ปล่อยๆมันไปเหอะ
“สวัสดีครับ พี่ชื่อเขมรัตน์นะ เรียกว่าเข็มก็ได้ครับ” ผมไม่ได้บอกว่ามาจากจังหวัดไหนเพราะคิดว่าคงไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ กวาดสายตาไปรอบๆห้องก็สะดุดตากับปีหนึ่งที่ชื่อภพ มันก้มหน้าเล่นรูบิกของมันคนเดียว ผมเลิกสนใจมันแล้วหันมาสนใจสิ่งที่เพื่อนถามแทน
“พี่เข็มมีแฟนยังคะ” ผมมองบนใส่เพื่อนผู้หญิงในสาขา แกล้งกูอีกแล้วใช่ไหม
“ยังครับ โสดสนิท ใครอยากมีคนดูแลติดต่อพี่มาได้ทางอินบล็อกเลยครับ”
“วู้วๆๆ แล้วสเป็คพี่เข็มเป็นยังไงครับ” อันนี้เป็นไอ้มาร์ชที่แม่งเริ่มสนุกใหญ่เลย
“ก็เป็นคนอ่ะครับ”
“ว้าวๆ สเป็คธรรมดาทั่วไปเลยนะครับเนี่ย”
“เออครับ”
ทุกคนหัวเราะครืนหลังจากนั้นผมก็ปิดไมค์แล้วส่งให้กับคนต่อๆไปที่ยืนหลังผม ส่วนตัวเองก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม
“เพื่อนกูจะมีแฟนก็คราวนี้แหละว้า”
พวกมันแปะมือกันแล้วหัวเราะใส่ผมที่ชักสีหน้าใส่มัน ก็ทำเล่นขำๆแหละไม่ได้จริงจัง สงสัยเพื่อนอยากจะให้มีแฟนจริงๆเพราะตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสามผมก็ไม่เคยมีแฟนกับเขาสักที
ไม่นานนักก็แนะนำตัวกันจนหมด ตัวแทนเฮดแต่ละชั้นปีเดินออกมาพูดคุยข้างหน้า ถามถึงปัญหาที่น้องเจอหรือเรื่องที่อยากจะพูดกับทุกคนวันนี้ ใครมีอะไรอยากพูดก็ออกไป
ส่วนผมก็นั่งหลับข้างๆไอ้ทองที่เล่นเกมในมือถือ ข้างหลังนั่นเป็นไอ้เก้นท์ที่วาดรูปของมันและไอ้มาร์ชที่ดูดวงเบอร์โทรให้เพื่อนที่นั่งข้างหลังมันอีกที และโน้ตที่หายหัวไปไหนไม่รู้ เห็นว่าไปคุยกับอาจารย์แต่ยังไม่กลับมา
ช่วงสุดท้ายคือการที่ปีสี่มาพูดให้กำลังใจ มันก็คือคำพูดเดิมๆ ที่ผ่านหูผมไปเหมือนกับสายลมจนปีสี่พูดจบก็ปล่อยเลิก ผมได้ยินแบบนั้นจากที่หลับอยู่ก็เด้งตัวขึ้นอย่างเร็ว อยากกลับห้องและอยากไปนอนมาก รอเวลานี้มานานจะช้าอยู่ใยครับ
“กูกลับก่อนนะเว้ย”
“เออเจอกัน”
ผมโบกมือลาเพื่อน กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปเอารถตัวเองและโคตรจะบังเอิญ ถ้าเป็นฉากในละครเพลงพรหมลิขิตของสุนทราภรณ์คงขึ้นมาแล้ว
ผมเจอเด็กที่โดนกระทืบคนนั้นซึ่งมันมีชื่อว่าภพ มันเดินผ่านหน้าผมไปแต่ผมไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆ จับชายเสื้อที่มันปล่อยออกนอกกางเกงไว้มันเลยหยุดแล้วหันมาหาผม
“นี่ๆ ไม่ทักกันหน่อยเหรอ” ผมก็เป็นพวกไม่ได้ติดใจอะไรกับคำว่ายุ่งของภพหรอก คือผมอยากรู้เรื่องที่มันโดนกระทืบบวกกับมันเป็นน้องในสาขาก็อยากรับรู้ปัญหาเผื่อจะช่วยได้บ้าง
“ทัก”
มันว่าแค่นั้นก็ทำท่าจะเดินไป ผมถลาตัวไปจับมันแทบไม่ทัน คือถ้ามึงทักแค่นั้นมึงก็เงียบไปเลยดีกว่าไหมภพ
“รู้จักชื่อพี่แล้วใช่ป่ะ”
“เข็ม”
“พี่เข็ม”
“อืม”
ไรวะ แค่เนี้ย มึงคีพลุคส์เหรอหรือขี้เกียจพูดกับกูอ่ะภพ
“แล้วนี่แผลหายแล้วใช่ป่ะ” ผมสำรวจดูใบหน้าของมัน “ทำไงถึงโดนพวกนั้นกระทืบอ่ะ”
“ก็ยืนนิ่งๆ”
อ่อ...สัดเอ้ย คำตอบอะไรของมึงเนี่ย
“เหตุผลอ่ะ ขอเหตุผล ใครมันจะมากระทืบคนที่ยืนเฉยๆวะ”
“ไม่”
“ไม่มีเหรอ”
“ไม่ยุ่งดิ”
“โอเค...เฮ้ยเดี๋ยว!”
แล้วมันก็ขายาวซะด้วยนะครับผมก็ตามมันไม่ทันเหมือนกัน ได้แต่ตามมองแผ่นหลังมันตาปริบๆ จะมีสักครั้งไหมที่มึงจะคุยกับกูดีๆน่ะภพ
****
ลงตามใจฉันมาก
ไม่เป็นไรหรอกน่าจะมีคนอ่านแหละ แหะๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

77 ความคิดเห็น
-
#71 g_gunnaruk (จากตอนที่ 3)วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 / 17:36ดูจากนิสัยแล้วก็น่าจะเดาเหตุผลได้นะว่าทำไมถึงโดนกระทืบ🤣🤣🤣#710
-
#49 Somluck2510 (จากตอนที่ 3)วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 / 15:18ชอบชอบชอบ#490
-
#46 Nenula_la (จากตอนที่ 3)วันที่ 30 เมษายน 2563 / 22:37ภพ55555555555555#460
-
#26 IamonRead (จากตอนที่ 3)วันที่ 26 เมษายน 2563 / 15:25เดี๊ยววววว ได้หร๊อออออออ ภพคุยกับพี่เค้าหน่อยลูกกกก //ทำไงให้โดนกระทืบอ่ะ...ก็ยืนนิ่งๆ... เงิบเลยจ่ะ คนอ่านเนี่ย#260
-
#24 ซีเอชโอเอ็มพียู..yy.. (จากตอนที่ 3)วันที่ 26 เมษายน 2563 / 15:12เอ่อ ภพ ได้เหรอ ได้แหละเนอะ#240
-
#14 pinzx (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 เมษายน 2563 / 14:52นิ่งๆมาก เดี๋ยวพอไปนานๆก็หลงเค้า อะโธ่ - เป็นกำลังใจให้นักเขียนน้าาา#140
-
#11 godxmeii (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 เมษายน 2563 / 08:03ตลก555555555 ภพๆเธอใจเย้นก่อน#110
-
#9 janjao_jann (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 เมษายน 2563 / 01:50ช้อบบบ รอน้าาาาา#90
-
#8 phurichaya25 (จากตอนที่ 3)วันที่ 24 เมษายน 2563 / 22:07น้องภพหนูคุยกับพี่เค้าก่อนลู๊กกกก#80
-
#7 phurichaya25 (จากตอนที่ 3)วันที่ 24 เมษายน 2563 / 22:07น้องภพหนูคุยกับพี่เค้าก่อนลู๊กกกก#70