ตอนที่ 2 : -01- Part1
-01-
Part1
ผมยืนหาวอยู่ ณ ลานกิจกรรมของคณะที่แทบไม่มีคนเดินไปเดินมาเนื่องจากว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้า อย่าว่าแต่มาเดินเลย บอกให้ตื่นยังไม่ค่อยอยากจะตื่นกัน ถ้าไม่มีกิจกรรมของปีหนึ่งวันนี้ผมคงไม่มาหรอก
ง่วงฉิบหายเลยเถอะ
“ไอ้มาร์ชมันมาป่ะวะ” หันไปถามโน้ตกับทองที่เดินเข้ามาหา เมื่อกี้พวกมันเพิ่งไปเช็คของที่เอาไว้แจกน้องและความเรียบร้อยอย่างอื่นมา
“มาดิ เห็นว่าไอ้เก้นท์กำลังขับรถพาเข้ามอละ”
“เออ มันก็เจ๋งสัดว่ะ เมาเหมือนหมาขนาดนั้นยังตื่นไหว” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับทอง คิดว่าไอ้เก้นท์คงหาอะไรแก้แฮงค์มายัดใส่ปากไอ้มาร์ชอีกแน่ๆ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ไงครับ มาร์ชแม่งคออ่อนแล้วเมาง่ายยังจะเสือกชอบแดกเหล้าเป็นงานอดิเรกอีก
“ไม่ไหวก็ต้องไหว่อ่ะ กูก็เตือนมันแล้วนะว่าวันนี้มีงานต้องทำอีก”
“ให้มันหน่อยเถอะ วันเกิดมันทั้งที”
“ก็รู้แหละเลยไม่ได้ว่าอะไรมันไง” โน้ตมันมีตำแหน่งอีกอย่างหนึ่งคือพ่อของกลุ่ม มันชอบช่วยเหลือ พูดปลอบคนเก่ง ให้กำลังใจเก่งที่หนึ่ง แล้วก็คอยตักเตือนพวกผมบางครั้งก็แทบจะเทศนาให้ฟัง ความฝันในบั้นปลายชีวิตคือการไปบวชแล้วไม่สึก ผมนี่แทบจะยกมือไหว้มันทุกวัน
ถ้าอยู่กับเพื่อนมันก็จะขี้เล่นเฮฮา ตั้งฉายาคนไปทั่วแต่พอเป็นเรื่องงานเมื่อไหร่ความเป็นผู้นำเข้าสู่กระแสเลือดทันที
มันทำงานเก่งครับ เวลามีปัญหาก็จะนิ่งก่อนแต่ถ้าปัญหามันไม่จบโน้ตก็พร้อมฟาดให้แตกทั้งปัญหาทั้งคนเอาปัญหามาให้เลย
ที่บอกว่ามันมีความเป็นผู้นำเพราะโน้ตมันชอบสั่งให้คนอื่นทำมาก บางครั้งทำงานกลุ่มก็แทบจะตีกันเอง
“ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ” ผมถามทองที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านนิยาย เพื่อนคนนี้มันติดทั้งเกมและนิยาย ซึ่งนิยายนี่ผมคิดว่ามันคงอ่านนิยายทั้งโลกแล้ว ล่าสุดเมื่อกี้ยื่นหน้าไปดูเห็นมันอ่านนิยายภาษาอังกฤษอยู่
“จะเจ็ดโมงละ”
“เราเริ่มเช็คน้องกันเลยไหมมึง เจ็ดโมงจะได้แบ่งกลุ่มกันไปทำความสะอาด”
“เออๆ เดี๋ยวกูไปบอกเพื่อนคนที่เหลือก่อน”
ผมพยักหน้าให้โน้ต ก้มลงมองกระดาษรายชื่อในมือ พลิกไปพลิกมาอยู่สักสองครั้งเพื่อดูจำนวนเด็กทั้งหมดก่อนเงยหน้าขึ้นสำรวจปีหนึ่งที่กำลังนั่งหน้าสลอนกันอยู่
“พี่คะ ตอนไหนจะได้ทำคะ หนูง่วงแล้วอ่ะอยากรีบกลับไปนอน”
อย่าว่าแต่น้องเลย พี่ก็ง่วงเหมือนกัน ถ้าไม่เกรงใจว่าเพื่อนจะด่านะผมหลับกลางอากาศโชว์น้องไปแล้ว
“เดี๋ยวอีกสักแป๊บพี่จะมาเช็คจำนวนน้องๆนะครับ เพื่อนใครขาด เพื่อนใครไม่มาก็แจ้งกันได้เลย”
ปีหนึ่งรับคำก่อนจะหันไปคุยเจื้อยแจ้วกันต่อ บางคนก็ง่วงจนเอาหัวซุกหลังเพื่อนไว้ ผมเข้าใจตอนปีหนึ่งผมก็เป็น ถ้าไม่เกรงใจพี่คงจะนอนราบกับพื้นล่ะครับ
ไม่นานไอ้เก้นท์กับไอ้มาร์ชก็โผล่มา หน้าไอ้มาร์ชคือแบบว่าง่วงจัดๆเลย ในมือมันถือเครื่องดื่มแก้แฮงค์เอาไว้
สภาพแม่งดูไม่ได้ เสื้อที่ใส่มาก็ไม่ใช่ตามที่เขาบอกเอาไว้อีก ช่างมันเถอะครับมันโผล่หัวมาได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
“มึงพามันไปนั่งไป กูว่าถ้ามันยืนนานกว่านี้น่าจะล้มตึงได้อ่ะ” ทองมันบอกเก้นท์ที่กำลังคุยกับหลานรหัสมันอยู่
“แป๊บๆ ไอ้ห่ามาร์ชเอ้ยไม่น่าแดกเยอะเลยสัด สุดท้ายเป็นไงใครที่ต้องดูแลมึงฮะ” เก้นท์มันบ่นแบบนี้ประจำแต่พอคนอื่นจะช่วยดูแลไอ้มาร์ชก็ไม่ยอมให้ช่วย
ทำเป็นบ่นไปงั้นแหละแต่มันน่ะดูแลไอ้มาร์ชโคตรดี
“เพื่อนเก้นท์ มึงอย่าบ่นได้ป่ะ กูปวดเฮด”
“เออๆ แล้วไอ้นั่นก็แดกให้หมดสักที มึงถือมาเป็นชั่วโมงละ” มันคงหมายถึงเครื่องดื่มแก้แฮงค์ที่อยูในมือของมาร์ช
“ไม่ได้ๆ กูเสียดายค่อยๆจิบให้สมราคา”
“สิบสองบาทอ่ะนะ”
“อือฮึ สิบสองบาทก็มีค่าอย่ามาซ่ากับกูนะครับ”
เก้นท์มันเกาหัวแกรกจากนั้นก็เดินไปหาโน้ตที่กวักมือเรียกมัน ผมเลยเดินไปหาไอ้มาร์ชแล้วนั่งลงข้างกัน ยืนโคตรนานเริ่มจะเมื่อยขาแล้ว
“ไงมึง”
“ไม่ไงว่ะ ปวดหัวสัดอ่ะ อยากจะอาเจียนซะเดี๋ยวนี้”
“เฮ้ยๆ ใจเย็นห่ามาร์ช ถ้าอยากอ้วกเดี๋ยวกูพาไปห้องน้ำ”
“กูไม่ได้ปวดเยี่ยว”
“เออรู้ แต่มึงจะอ้วกไง”
“อ่อ แต่อ้วกแถวๆนี้ก็ได้ป่ะ”
“ไม่ได้สาดดด สรุปมึงสร่างเมายังวะ ทำไมพูดเพ้อเจ้อฉิบหายเลย”
“แหะๆ กูหยอกเล่นน่า ใครมันจะอ้วกตรงนี้วะ ไม่ใช่กุอ่ะคนนึง”
ผมจะคอยดูว่ามันจะเป็นตามที่ไอ้มาร์ชพูดไหม ไม่ใช่ผ่านไปไม่กี่นาทีอ้วกแตกคาพื้นตรงนี้นะมึง
“เอาล่ะครับน้องๆ ก่อนที่ทุกคนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ ตอนนี้พี่ขอเช็คยอดน้องๆก่อนนะครับ เพื่อนใครไม่มาแจ้งกับพี่ได้เลย หลังจากนั้นเราจะทำการแบ่งกลุ่มเพื่อที่จะแบ่งโซนกันนะ โดยแต่ละกลุ่มจะมีรุ่นพี่ไปด้วยทุกกลุ่ม น้องๆเข้าใจไหมครับ”
“เข้าใจครับ/ค่า”
เมื่อน้องตอบรับก็ถึงเวลาเช็คยอด ปีหนึ่งนับเรียงหันจากคนแรกไปจนถึงคนสุดท้าย มีคนไม่มาประมาณห้าคน โดยที่เพื่อนก้แจ้งว่าป่วยไม่ก็ติดธุระกับที่บ้าน
“เดี๋ยวพี่จะแบ่งตามแถวนะ พี่ๆประจำกลุ่มเดินมายืนข้างหน้าแถวน้องๆเลยครับ” โน้ตที่เป็นรองเฮดสาขาเอ่ยบอก ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมรองเฮดถึงมาทำแทน พอดีว่าไอ้เฮดมันประสบเหตุรถล้มข้างทางเมื่อสองวันก่อนเลยไม่สามารถมาดูแลงานวันนี้ได้
โน้ตจึงเป็นตัวแทนมันมาทำ
“ไอ้มาร์ชไหวป่ะมึง ถ้าไม่ไหวก็นั่งนี่ไป”
“ไหวๆ ว่าแต่กูอยู่กลุ่มไหน”
“มึงอยู่กับกู มาๆ”
ผมช่วยพยุงไอ้คนปากบอกไหวแต่ขาอ่อนเปลี้ยมายืนอยู่หน้าน้องๆ ดีหน่อยที่ข้างหน้าผมมีคนบังไอ้มาร์ชไว้มิด น้องๆเลยไม่ต้องเห็นสภาพของไอ้มาร์ช
“น้องๆตามพี่กลุ่มไปเลยนะครับ หากใครมีปัญหาหรือรู้สึกว่าไม่ไหวรีบแจ้งพี่เลยนะครับ ย้ำอีกทีว่าถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนนะครับ”
“ครับ/ค่า”
ผมกับไอ้มาร์ชเดินรั้งท้ายน้องๆ ปล่อยให้คนอื่นเดินข้างหน้าไป ผมก็อยากเดินหน้าแหละแต่ไอ้มาร์ชมันคงไม่ไหว กลัวมันจะนอนตายกลางถนนก่อน เดี๋ยวได้กลายเป็นมาร์ชตากแห้ง
“แดดแม่งพูดเพราะสัด” จู่ๆมาร์ชก็พูดขึ้นมา ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน
“อะไรของมึง”
“ก็แดดจ้าไง”
แม่งเอ้ย!! กูปล่อยมันนอนแห้งนี่แหละ คิดว่าตัวเองหน้าแห้งมากแล้วนะ พอเจอมุกไอ้ห่ามาร์ชนี่แห้งยิ่งกว่าหน้ากูอีกครับ
อยากจะทำหน้าเอือมระอาแต่กลัวเพื่อนเสียใจเลยหัวเราะแหะให้มันสักหน่อย ไอ้มาร์ชก็เดินอมยิ้มอย่างมีความสุขเพราะคิดว่าผมฮามุกมันจริงๆ
เฮ้อ...คิดได้ไง
โซนที่พวกผมได้เป็นโซนที่อยู่หน้าหอพักยาวไปถึงโรงอาหารหอพัก จิตอาสาที่ว่าก็ทำความสะอาดเก็บขยะอะไรประมาณนี้ ได้หน่วยกิจกรรมหนึ่งจุดห้าหน่วยถ้วน คาดว่ากิจกรรมน่าจะเสร็จก่อนเที่ยง เพราะถ้าแดดร้อนๆนี่คงได้มีคนเป็นลม ต้องเซฟไว้ก่อนครับถึงอย่างนั้นก็มีเป็นลมทุกปี
“น้องๆมารับถุงที่พี่ได้เลยน้า แบ่งสามคนต่อหนึ่งถุงนะคะ” เพื่อนผู้หญิงที่รับหน้าที่เป็นเฮดกลุ่มนี้บอกน้องๆและแจกจ่ายถุงดำไว้ใส่ขยะพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่างไม้กวาดสามคนต่อหนึ่งด้าม “ถ้าใครเสร็จแล้วก็มารอเพื่อนตรงจุดนี้น้า เอาล่ะแยกย้ายกันไปทำตามจุดที่พี่แบ่งให้ได้เลย”
ปีหนึ่งเดินแยกไปตามจุดที่รุ่นพี่แบ่งให้ ผมกับไอ้มาร์ชได้ดูแลกลุ่มน้องที่ไปทำความสะอาดแถวโรงอาหาร ไอ้มาร์ชก็ดูสดชื่นขึ้นมาหน่อย สงสัยเครื่องดื่มแก้แฮงค์คงเพิ่งออกฤทธิ์
“พี่ครับ”
“ครับ?”
“เอ่อ ผมขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหม”
“อ่อได้ๆ เข้าเสร็จแล้วรีบกลับมานะ”
“ครับพี่”
ผมมองตามหลังเด็กปีหนึ่งที่เดินไปทางห้องน้ำ หันมาช่วยเก็บขยะกับน้องต่อบ้างจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงวี้ดว้ายจากกลุ่มที่ไปเก็บแถวๆหน้าหอพักซึ่งข้างๆบริเวณนั้นจะเป็นป่า
ผมจึงรีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไปหาเพราะกลุ่มนั้นมีแต่ผู้หญิง
“มีอะไรน้อง”
“งูค่ะพี่ เมื่อกี้มันเลื้อยผ่านหน้าพวกหนู”
“ลืมบอกไปให้ระวังงูด้วย” ผมเกาหัวแกรก หันไปหาเพื่อนที่ดูแลกลุ่มนี้ก็เห็นมันปีนขึ้นไปยืนบนโต๊ะหินอ่อนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ เวรตะไลมึงนี่ไม่ดูแลน้องเลย “งั้นพวกน้องไปทำแถวโรงอาหารแล้วกัน สลับกับกลุ่มพี่ ไอ้ห่ากิ้นมึงลงมาได้ละครับ ดูแลน้องด้วย”
“กูไม่ได้กลัวนะมึง แค่ตกใจนิดนึง”
“สาดดด”
นี่ขนาดไม่กลัวหนีเร็วกว่าน้องผู้หญิงอีก ถ้ามึงกลัวมันจะขนาดไหนวะ
สรุปก็คือผมต้องสลับโซนกับกลุ่มของไอ้กิ้นทำ น้องกลุ่มผมมีแต่ผู้ชายครับเลยน่าจะโอเคกว่าทว่าผมก็คอยดูแลความปลอดภัยให้น้องเป็นอย่างดี
“มาร์ช”
“ว่า?”
“กูไปเยี่ยวแป๊บนะ ดูน้องด้วย”
“เออๆ”
ผมเดินไปเข้าห้องน้ำบ้าง สงสัยเมื่อเช้ากินน้ำเยอะอั้นฉี่ไม่อยู่เลย พอฉี่เสร็จก็เดินมาล้างมือ ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองกระจกผมกลับเห็นผู้ชายคนหนึ่งหน้าไม่ค่อยคุ้นแต่พอจำได้ลางๆ
“เฮ้ยๆ” เอ่ยเรียกไว้ก่อนที่มันจะเดินออกไปจากห้องน้ำ
“....” มันขมวดคิ้วมอง ทำหน้านิ่งบวกกับแผลบนหน้ามันโคตรนักเลงเลยครับ มีไม้หน้าสามอีกนิดมันคงเอามาตีหัวผมอ่ะ
“นายคนที่มีเรื่องเมื่อคืนใช่ไหม”
“....”
“แผลเป็นไงบ้างอ่ะ แล้ว...”
“ยุ่ง”
เหยดแหมมมม ทำดีไม่เคยจะได้ดี คำว่ายุ่งเท่ากับคำว่าสาระแนชัดๆ แต่ก็ยอมรับว่ายุ่งจริงๆครับไม่ปฏิเสธหรอก
“ใช่ๆ แล้วตอบได้ไหมอ่ะอยากยุ่ง”
“....”
“อ่ะโธ่ ตอบไม่ได้นี่หว่า”
มันมองผมนิ่งแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงว่าระอาจากนั้นก็เดินหนีออกไป ผมได้แต่มองตามหลังมัน ไม่วิ่งตามหรอกครับเพราะผมคิดว่าถ้าวิ่งไปก็ไม่ทันมันอยู่ดีและอาจจะโดนมันด่ากลับมาอีกก็ได้
“ไปนานสัด นึกว่ามีใครกดมึงลงชักโครกแล้ว”
“ทักทายกูได้ดีมากครับมึง”
ไอ้มาร์ชหัวเราะพอใจ กับอะไรแบบนี้ล่ะชอบนัก ไม่เคยจะพูดอะไรที่ดีและมีเหตุผลกับเพื่อนหรอก มีดีอย่างเดียวก็ตอนดูดวงให้เพื่อนนี่แหละ
เห็นมันแบบนี้มันดูดวงแม่นนะครับ ได้ตำแหน่งหมอดูประกลุ่มไปครอบครองมาสองปีซ้อนแต่จริงๆมันไม่ได้ชอบดูดวงหรอก ที่ดูก็เพราะอยากศึกษานิสัยคนเพื่อระวังตัวเองต่างหาก แล้วคือมันเสือกดูแม่นอ่ะครับคนเขาก็เลยแห่มาดูกับมัน
สุดท้ายแม่งกลายเป็นหมอมาร์ชนักดูดวงประจำสาขาเฉยเลย
“ไอ้เข็มๆ มึงมาช่วยกูหน่อย”
“ไรวะกิ้น”
ไอ้กิ้นเจ้าเดิมคนกลัวงูวิ่งหน้าตาตื่นมาหาผม เห็นแล้วก็ตื่นเต้นไปกับมัน
“น้องกลุ่มกูขาแพลงอ่ะ มาช่วยหน่อย”
“เอ้า! เออๆมึงนำไปเลย” ไม่ลืมหันไปบอกไอ้มาร์ช “มึงดูน้องดีๆด้วย ถ้าน้องเสร็จแล้วก็พาน้องไปจุดที่เพื่อนเรานัดไว้”
“โอเคๆ”
ผมวิ่งตามไอ้กิ้นไปหาน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ น้องเงยหน้าขึ้นมามองผมที่ยืนอยู่
“เป็นยังไงบ้างครับ ไหวไหม?”
“เจ็บค่ะพี่”
“ข้างไหน”
“ขวาค่ะ”
ผมพยักหน้า ไม่กล้าจับหรือแตะเพราะกลัวจะทำให้น้องเจ็บกว่าเดิม
“เดี๋ยวกูเรียกกู้ชีพมา มึงดูน้องไปก่อน”
ผมไม่ได้พกวอร์มาด้วยเลยต้องวิ่งไปหาเพื่อนผู้หญิงที่มีวอร์ติดตัวตลอด
“ฟ้าๆ วอร์บอกให้กู้ชีพมานี่หน่อย น้องขาแพลง”
“ให้ไปตรงไหน”
“โรงอาหาร”
ผมกับฟ้าวิ่งไปดูน้องอีกครั้ง ระหว่างนั้นฟ้าก็วอร์ไปหาให้กู้ชีพมาดูน้อง พวกนี้ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ดังนั้นเวลาที่เด็กในมหา’ลัยประสบอุบัติเหตุอะไรก็จะได้รับการปฐมพยาบาลจากคนกลุ่มนี้ก่อนจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล
ไม่นานนักกู้ชีพก็เปิดหวอมาซะใหญ่โต คนก็ยืนมองกันสิครับแต่พวกผมไม่ได้สนใจ รีบวิ่งไปหาแล้วนำทางพามารับน้องที่ขาแพลง
“ค่อยๆนะครับ”
น้องถูกหามขึ้นเตียงแล้วขึ้นรถไปโดยมีฟ้าขึ้นตามไปด้วย ไอ้กิ้นที่ยืนข้างผมถอนหายใจก่อนจะทำหน้าหงอย
“กูดูแลน้องไม่ดีเลยว่ะ โทษทีนะมึง”
“ไม่เป็นไรมึง ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก”
“อืม”
ไอ้กิ้นคือหงอยไปเลย มันคงจะรู้สึกผิดแต่ถ้าพูดตามจริงแล้วกิ้นมันก็ดูแลน้องดีแหละและมันก็คงไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
หลังจากนั้นก็พาน้องๆกลับไปยังที่นัดหมาย มีกลุ่มอื่นกลับมาแล้วสองกลุ่มรวมกลุ่มผมก็เป็นสาม ระหว่างที่รอกลุ่มอื่นๆผมก็เดินไปหาไอ้เก้นท์กับไอ้ทองที่เตรียมของไว้แจกน้องอยู่
“เป็นไงมึง”
“ร้อนดิสัด แดดกับนรกอันไหนร้อนกว่ากันวะกูอยากรู้”
“มึงก็ลองไปนรกดูแล้วค่อยเอามาเทียบกัน”
“สัดทอง พูดเหมือนไปง่ายๆ”
“คนอื่นกูไม่รู้แต่กับมึงน่าจะง่ายอยู่แหละ”
ไอ้มาร์ชนี่ก็ชอบล่อให้ไอ้ทองหลอกด่าตลอด พอเขาด่าหน่อยก็หน้าหงิกหัวเราะแห้งใส่ ทองมันก็ทำหน้ามึนๆของมันไป มันเป็นพวกที่พูดตรงครับและที่มันพูดมาเมื่อกี้ไม่ได้ด่าแต่บางคนที่ไม่รู้ก็จะคิดว่าด่า
คือดูไม่ออกหรอก มึงต้องประมวลผลอีกสิบชั้นถึงจะรู้ว่ามันไม่ได้ด่าจริงๆ
“เก้นท์ๆ ไอ้โน้ตเรียกหามึงอ่ะ” เพื่อนคนหนึ่งเข้ามาตามเก้นท์มันเลยเดินไปหาโน้ตที่กำลังทำหน้าเคร่งเครียดอยู่
“มีอะไรให้กูช่วยไหมมึง” ระหว่างนั้นผมก็หันไปถามไอ้ทอง
“มีๆ ช่วยแจกน้ำกับขนมน้องหน่อย”
“ได้”
ผมรับของทั้งหมดแล้วนำมาแจกน้องๆทีละคนแต่ละคนก็คือไม่อยากแดกแต่อยากนอนกันหมดแล้ว ผมก็บอกให้รับไปเถอะ ตอนกลับหอไปนอนพอตื่นขึ้นมาจะได้มีอะไรกินรองท้องแต่ขนมนี่ไม่น่ากินเลยจริงๆนะ ไม่รู้ว่าใครไปเลือกซื้อมา
พอแจกขนมเสร็จผมก็ไปหาน้ำมากินบ้าง อากาศร้อนๆนี่ทำให้หิวน้ำไวขึ้นประมาณร้อยเท่า กลุ่มอื่นๆทยอยกันกลับมาจนครบและจากนั้นโน้ตมันก็พูดสรุปงานและปล่อยน้องไป ก่อนน้องกลับก็ไม่ลืมที่จะให้ปีหนึ่งเซ็นชื่อกันอีกครั้ง
น้องกลับไปได้แต่พี่ยังต้องอยู่เคลียร์ของและประชุมต่อ ประชุมเสร็จก็ปาไปเที่ยงแล้วเพื่อนๆมันเลยชวนไปกินข้าวด้วยกัน
“ใครก็ได้พาก็ไปเอารถหน่อยดิ”
“เอารถที่ไหนวะ”
“ร้านเหล้าเมื่อคืนอ่ะ”
เกือบลืมไปเลยว่าตัวเองยังไม่ได้ไปเอารถ พอรอดตีนจากนักเลงพวกนั้นได้และไอ้คนๆนั้นมันพาวิ่งหนีมาผมก็เดินกลับหอ ขี้เกียจย้อนกลับไปทางเดิมและกลัวว่าพวกนักเลงนั่นมันจะยังอยู่เลยคิดว่าค่อยไปเอาตอนเช้าของวันนี้แต่ตอนเช้าไม่ว่างอ่ะครับ พอเสร็จงานก็เกือบลืมอีก ดีหน่อยที่เพิ่งมาคิดได้ตอนเห็นมอ’ไซค์ที่คล้ายของผมจอดอยู่แถวนี้
“เมื่อคืนมึงไม่ได้ขับรถกลับเหรอ”
“อ...อืม พอดีกูดื่มไงเลยไม่อยากขับ”
“อ่อ งั้นไปกับไอ้เก้นท์เลยแล้วกัน ไปทั้งกลุ่มนี่แหละ กินข้าวเสร็จค่อยให้มันพาไป”
“เออตามโน้ตว่าเลย”
****
ฝากติดตามด้วยนะคะ
เรื่องนี้จะเขียนเกี่ยวกับสาขานิติฯสอดแทรกมาบ้างนะคะ แต่อาจจะไม่มากเดี๋ยวเครียดกันเพราะเราก็เครียด ฮ่าๆๆ
สนุกหรือไม่สนุกบอกกันได้น้าาา
พระเอกพูดน้อยค่ะและนายเอกก็วอแวเก่ง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

77 ความคิดเห็น
-
#48 Somluck2510 (จากตอนที่ 2)วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 / 14:00ชอบชอบชอบ#480
-
#44 myyirbb:) (จากตอนที่ 2)วันที่ 30 เมษายน 2563 / 01:14เป็นกำลังใจให้คุณไรท์ค่ะ;♡;#440
-
#13 pinzx (จากตอนที่ 2)วันที่ 25 เมษายน 2563 / 14:41น่ารักก เป็นกำลังใจให้น้า /นักเขียนเรียนนิติแน่เลยย#130
-
#6 Mukuik (จากตอนที่ 2)วันที่ 24 เมษายน 2563 / 21:09สู้ๆค่าชอบมากแง#60