ตอนที่ 4 : Chapter : 03 โอ้ ตอนนี้มีคนพร่ำเพ้ออยู่
Chapter : 03
โอ้ ตอนนี้มีคนพร่ำเพ้ออยู่
ธาวินพรูลมหายใจออกทางปากเบาๆเพื่อคลายความอึดอัดที่ก่อขึ้นภายในจิตใจ
รับปากไปแล้วว่าจะไปหาทว่าความคิดบางอย่างทำให้เขายังอยู่ที่เดิม
ไม่กล้าแม้กระทั่งจะก้าวขาออกไปไหน ขี้ขลาดจนเกินไป และสุดท้ายสิ่งที่เขาพูดไว้มันก็ได้กลายเป็นเพียงแค่ลมปาก
กลัวเกินกว่าที่จะเข้าไปหาในบ้าน กลัวว่าที่บ้านของธามจะถามว่าเขามาในฐานะอะไร ไม่มีคำตอบให้และไม่รู้ว่าหากตอบไปว่าแฟนเก่ามันจะสมเหตุสมผลมากพอที่จะไปหาได้หรือเปล่า
จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจส่งข้อความไปบอก
หายไวๆนะ
หวังว่าจะพอบรรเทาความผิดที่ก่อขึ้นไว้ได้บ้าง...ไม่มากก็น้อย
00 : 15 AM.
ความรู้สึกผิดยังคงติดอยู่ในใจมาจนถึงเช้าอีกวัน ธาวินมั่นหมายเอาไว้ว่าหลังเลิกเรียนคงต้องไปหาธามที่ร้าน ไม่สิ เขาไม่ได้ไปหาแค่จะแวะไปอุดหนุนเครื่องดื่มเย็นๆอีกตามเคย
"ไอ้วิน วันนี้มีนัดไหมวะ" กรกันต์เอ่ยถามขึ้นมา ตั้งใจไว้ว่าหากธาวินไม่มีนัดที่ไหนเขาจะได้พาตัวเพื่อไปเที่ยวร้านเหล้าด้วยกัน ส่วนพีระน่ะหรือไม่ต้องถามรายนั้นก็ว่างให้ตลอด
"ไม่แน่ใจ"
"ไปไหนวะ?"
"ที่เดิม"
คำว่าที่เดิมทำให้คำถามถูกกลืนลงไปในลำคอ กรกันต์หันมองพีระที่นั่งข้างกัน
"จะว่าไปแล้วมึงกับเขาเลิกกันไปเป็นเดือน ทำไมตอนนี้มึงยังไปวอแวกับเขาวะ ไม่กลัวเขารำคาญหรือไง?"
"กลัว"
แต่ก็ไม่เคยห้ามการกระทำและความรู้สึก ณ เวลานั้นๆได้เลยสักครั้ง
"แล้วทำไม?"
"ตอบไม่ได้ ไม่มีคำตอบ"
สมกับเป็นธาวิน
พีระถอนหายใจยกมือขึ้นตบบ่าเพื่อนรัก
"เอาเหอะๆ อยากทำไรก็ทำแต่ก็เผื่อใจไว้บ้างแล้วกันนะมึง"
"อืม"
เผื่อใจหรือ?
ถ้าทำได้เขาคงจะเก่งน่าดู
00 : 15 AM.
ประตูหน้าร้านถูกผลักออกโดยฝีมือของธาวิน ข้างหลังนั่นมีเพื่อนทั้งสองคนเดินตามเขาเข้ามาในร้าน
หน้าที่สั่งเครื่องดื่มกลายเป็นของธาวินคนเดียว
ขาสองข้างก้าวเดินอย่างไม่มั่นคงเหมือนในยามปกติ แม้ภายนอกจะนิ่งเพียงไหนทว่าภายในใจกลับร้อนรนและรู้สึกผิดผสมปนเปกัน
“สวัสดีครับ รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ”
คำทักทายที่แสนคุ้นหู บางคืนก็แอบกลัวว่าตนเองจะเก็บคำนี้ไปฝันเหมือนกัน
เมนูเครื่องดื่มเดิมๆที่เขาดื่มเป็นประจำถูกเปล่งออกจากริมฝีปาก เพิ่มอีกสองเมนูที่เป็นของเพื่อนทั้งสองคน เจ้าของร้านอย่างธามก้มหน้าก้มตากดเครื่องคิดเงิน ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองธาวินแม้สักวินาทีเดียว
ทุกๆอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาพูดคุยกันในบริบทของลูกค้าและผู้ใหบริการ ไม่มีอะไรเกินกว่านั้นและไม่ได้ถามไถ่กันและกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“วันนี้พี่เขาดูแปลกๆนะ” พีระเอ่ยทักเมื่อธาวินมาถึงโต๊ะโดยมีกรกันต์พยักหน้าเห็นด้วยอีกคน “ดูตึงๆเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง”
“อาจจะเครียดเรื่องงาน”
“เหรอวะ”
“อืม”
กรกันต์นิ่งคิดก่อนจะเอ่ยออกมา “ไม่ใช่ว่าเขากำลังไม่พอใจใครเหรอ ใครสักคนน่ะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็ใครสักคนที่อาจจะหมายถึงคนพิเศษ อย่างเช่น แฟน?” ใบหน้าของธาวินเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาเพียงนิด พีระใช้เท้าเตะรองเท้าของกรกันต์ให้รู้ตัวว่ากำลังพูดอะไร เพื่อนปากไวจึงรีบตะครุบปากแล้วเริ่มแก้ตัว “คืออาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้เนอะ”
พีระส่ายหน้า กรกันต์คิดว่าทันหรือไงที่จะแก้ไขคำพูดตัวเอง
“ก็คงจะอย่างนั้น เขาโสดอยู่แล้วจะมีใครก็ไม่แปลก” คราวนี้เป็นธาวินที่เอ่ยขึ้นมาด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย เพื่อนสองคนได้แต่มองหน้ากัน ทำปากพะงาบๆไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะพูดอะไรดีต่อจากประโยคนั้น
“ได้ยินมาว่าอาจารย์ตั้วสั่งแก้งานเด็กทุกคนเลยเหรอวะ”พีระเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องทันที แม้จะรู้ว่ามันไม่เนียนนักแต่เขาคิดว่าดีกว่าปล่อยให้บทสนทนาเดดแอร์ไปเฉยๆ
หากเป็นแบบนั้นคงได้อึดอัดกันทั้งหมดนี่แหละ
00 : 15 AM.
ธาวินอยู่ไม่เป็นสุขตั้งแต่กลับมาจากร้านกาแฟ เขารอเวลาเพื่อที่จะได้โทรหาธามแต่เขาไม่แน่ใจนักว่าธามจะกดรับเหมือนที่ผ่านมาหรือเปล่า
ตอนแรกเขามั่นใจว่าธามคงโกรธเขาแต่เมื่อได้ยินสิ่งที่กรกันต์พูดความมั่นใจนั้นกลับเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆ
จริงอยู่ที่ว่าธามโสดและจะมีใครก็ได้ แต่เขาเองนั่นแหละที่จัดการตัวเองไม่ได้ ความรู้สึกตอนนี้จึงกลายเป็นความไม่พอใจในส่วนลึกเมื่อนึกถึงตอนที่ธามมีคนอื่น
เขามันแย่ที่ไม่อยากยกธามให้ใครและแย่ยิ่งกว่านั้นคือยังไม่สามารถกลับไปหาธามได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์
แม้การมองกระบองเพชรจะสามารถทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้แต่ทว่าเวลานี้เขากลับไม่นึกอยากชื่นชมมัน หากถามว่าสิ่งที่อยากทำที่สุดคืออะไร เขาตอบได้ง่ายๆเลยว่า…
โทรหาธาม
ล่วงเลยมาจนถึงสองทุ่มเขาทำธุระส่วนตัวและออกไปกินข้าว แวะซื้อของใช้ในร้านสะดวกซื้อและเบียร์อีกสองกระป๋อง บุหรี่อีกหนึ่งซองจากนั้นก็เดินกลับขึ้นห้องตนเอง
สามทุ่มเขาออกไปสูบบุหรี่ที่นอกระเบียง กลิ่นของมันไม่พึงประสงค์ต่อคนอื่นเท่าไหร่ทว่ารสชาติที่ได้สูดมันเข้าไปทำให้หัวสมองของเขาโล่งไปชั่วขณะหนึ่ง
มวนแรกหมดลงภายในเวลาไม่กี่นาที เขายืนมองวิวข้างนอก ลมพัดโกรกจนรู้สึกหนาวขึ้นมาเพียงนิด เวลาผ่านไปอีกไม่ถึงสี่สิบนาทีเขาก็หยิบบุหรี่มวนที่สองขึ้นมา
สมองโล่งได้เพียงไม่นานบุหรี่อีกตัวหมดลง เขายังอ้อยอิ่งกับการทอดสายตามองวิวข้างนอกไปอย่างไร้จุดหมาย กลางคืนมันทั้งมืดและหนาวจับใจ หากเป็นตอนที่อกหักใหม่ๆการมายืนอยู่ตรงนี้คงทำให้คิดสั้นได้ทีเดียว
เม็ดฝนเม็ดเล็กโปรยปรายตกลงมาจากท้องฝ้าสีดำทะมึน เขาเงยหน้ามองมัน กะเอาไว้แล้วว่าวันนี้ฝนคงตกเพราะวันนี้ทั้งวันทั้งอบอ้าวและมืดครึ้มเป็นสัญญาณการมาเยือนของฤดูฝน
ไม่คิดแม้แต่จะเดินกลับเข้าไปในห้อง ธาวินยืนอยู่ที่เดิม ฝนตกกระทบลงบนตัวของเขา หวังว่าคงจะชำระล้างความรู้สึกบางอย่างของเขาออกไปได้
ไม่มากก็น้อย
เวลามันช่างยาวนาน การรอคอยของเขาสิ้นสุดลงในเวลาเที่ยงคืนสิบห้านาที ตัวของเขาเปียกปอนและฝนข้างนอกไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
สายตาคมมองเบอร์โทรศัพท์ที่เขาเป็นคนกดไว้ เขาจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ คล้ายกับว่าการรอคอยของเขาจะสูญเปล่าเพราะตอนนี้เขากำลังลังเลที่จะกดโทรออกไป
เสียงถอนหายใจดังขึ้นภายในห้องที่เงียบงัน ล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้ สายตาจังจ้องกระบองเพชร เขามองมันสลับกับโทรศัพท์มือถือกระทั่งตัดสินใจกดปุ่มโทรออก
มุมปากของเขายกขึ้นเพียงนิด รอยยิ้มเยาะปรากฏขึ้นที่มุมปากเมื่อรอสายอยู่นานจนสายตัดไป
ไม่รับสาย
ใจเขาเจ็บและผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลองกดโทรไปอีกครั้งเผื่อว่าเขาคนนั้นอาจจะพลาดสายแรกจากเขา
และเหมือนเดิม การคาดหวังมักจะทำให้คนเราเจ็บปวด เช่นเขาที่กำลังเจ็บปวดเพราะกำลังคาดหวังกับการรับสายของธาม
ธามอาจจะโกรธ
หรือ
ธามอาจจะมีคนพิเศษแล้ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้และเขาได้แต่คาดเดา
00 : 15 AM.
บางตอนสั้น บางตอนยาว จะบอกว่าแล้วแต่ตอนและช่วงอารมณ์ ณ เวลานั้นๆนะคะ
#เที่ยงคืนสิบห้านาทีที่คิดถึงเธอ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เเเงงงง
เขาถึงไงว่าถ้าทำไม่ได้ก็อย่ารับปากใครนึกถึงคนคอยบ้างแคร์ความรู้สึกเขาหน่อยวินเอ้ย
บอกจะไปหาเเต่ไม่ไปคนรอมันเจ็บน่ะวินนนน