ตอนที่ 4 : ขอให้ดาวตกครั้งที่ 3
ขอให้ดาวตกครั้งที่ 3
//
รักเธอแล้วจับจองไม่ได้อย่างนี้
//
งานวันเกิดของฝนเป็นงานที่จัดขึ้นเล็กๆภายในบ้านของภุชงค์ ภุชงค์มันมีบ้านจัดสรรที่ชานเมือง มันยินดีให้ฝนใช้เป็นสถานที่จัดงานวันเกิดเลยเป็นเรื่องดีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ต้องไปเมามายกันข้างนอก กินเหล้าในบ้านภุชงค์เวลาเมาก็แค่ขึ้นไปนอนบนห้องที่มันจัดไว้ให้ ทั้งสะดวกและสบายกว่าการไปกินร้านเหล้าเป็นไหนๆ
แต่ปัญหามันติดอยู่อย่างเดียว ติดอยู่ที่เมฆ เมฆาซึ่งใครหลายๆคนในงานไม่ค่อยชอบหน้ามัน บางคนจึงมีท่าทางไม่ต้อนรับเมฆแต่ดูเมฆมันก็ไม่ได้แยแสอะไรเพราะคนที่มันตั้งใจมาหาวันนี้เป็นฟ้าต่างหาก
“ไม่รู้ฝนจะชวนไอ้ห่านั่นมาทำไม”
“เอาเถอะ อย่าหงุดหงิดเลยมึง ยังไงฝนก็เป็นคนที่ชวนเมฆมา”
“รู้งี้กูถามฝนก่อนก็ดีว่าจะเชิญใครมาบ้าง ถ้ากูรู้แล้วอย่าได้คิดว่ามันจะได้เข้าบ้านกู”
คนที่ไม่พอใจที่สุดในงานก็ยังคงเป็นภุชงค์เพื่อนในกลุ่มของผม มันดูหงุดหงิดเวลาเห็นเมฆเข้าไปวอแวฟ้า ฟ้ารายนั้นก็ยิ้มแย้มพูดคุยธรรมดาปกติเหมือนเมฆเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่ง ผมเข้าใจในเมื่อฟ้าไม่ได้คิดอะไรกับเมฆจึงพุดคุยได้ปกติไม่ได้แสดงท่าทีอะไรที่มากกว่านั้น
บางครั้งผมก็เดาใจฟ้าไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงผมจะสนิทกับฟ้าที่สุดในกลุ่มแต่ผมก็ไม่ใช่คนที่อ่านใจคนอื่นเป็นสักเท่าไร
งานวันนี้นอกจากกลุ่มผมแล้วก็ยังมีเพื่อนๆของฝนอีกเกือบสิบคนเข้ามาร่วมงาน คนที่มาก็คุ้นหน้าคร่าตากันดีเพราะเห็นบ่อยๆตอนทำกิจกรรม แต่ละคนก็เป็นตัวเด่นๆทั้งนั้นยกตัวอย่างเช่นยูมิที่พกความมั่นใจมาเสมอ เป็นตัวเด่นและตัวนำทำกิจกรรมของเพื่อนๆในคณะเลยก็ว่าได้
ยูมิจริงๆแล้วเป็นผู้ชายที่ชื่อว่ายู แต่อย่าไปเรียกเขาว่าไอ้ยูล่ะไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน
ผมกวาดสายตาหาเมฆที่เขาน่าจะอยู่ในงานแต่เมื่อมองไปเรื่อยๆก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา แล้วมันหายไปไหนกัน เมื่อกี้ยังเห็นคุยกับฟ้าอยู่เลยแต่ว่า...
ฟ้าก็ไม่อยู่หรือจะหายไปด้วยกัน
พอคิดได้แบบนั้นใจผมก็ยิ่งลนลานและเต้นแรงขึ้น ภาพในหัวของผมกำลังคิดไม่ดีถึงฟ้ากับเมฆ ผมไม่ควรคิดแบบนี้แต่การหายไปของเขาสองคนทำให้ผมคิดอะไรที่ดีๆไม่ได้
ไม่ได้ ผมจะให้เมฆทำอะไรฟ้าไม่ได้
ผมไม่ใช่คนดีแต่การที่ฟ้ายอมเมฆนั่นอาจแปลว่าผมเริ่มหมดหวังที่จะทำให้เมฆมองผมบ้าง ถ้าเมฆสมหวังกับฟ้า ผมก็จะกลายเป็นเพื่อนของเขาโดยสมบูรณ์และผมไม่สามารถมีความหวังในเรื่องของเมฆได้อีกเลย
ผมทำทีขอตัวออกจากลุ่มเพื่อนอย่างแนบเนียนที่สุดในการตามหาเมฆและฟ้า ใจผมเบาได้ไปเปราะหนึ่งเพราะสถานที่แห่งนี้เป็นบ้านของภุชงค์ซึ่งผมคิดว่าทั้งสองคนอาจจะคิดอะไรได้อยู่
รู้สึกผิดที่คิดกับฟ้าไม่ดีแต่ผมก็ไม่รู้ต้องทำยังไงให้เลิกคิดแบบนี้ ฟ้าคือเพื่อนสนิทส่วนเมฆก็คือคนที่ผมชอบ ผมสับสนไปหมด
เสียงพูดคุยแผ่วเบาดังขึ้นจากข้างบ้านซึ่งห่างจากสถานที่ที่เราใช้จัดงานอยู่นิดหน่อย เป็นพื้นที่ที่ใช้หลบมุมได้สบายหากใครคิดจะทำอะไรคงทำได้ง่ายๆเลย
“เมฆชอบฟ้าจริงๆนะ ฟ้าคบกับเมฆไม่ได้เหรอ”
ผมเผลอหยุดชะงัก ยิ่งเดินเข้าใกล้เรื่อยๆเสียงของเมฆยิ่งชัดเจน หัวใจผมเต้นแรงขึ้น ผมควรต้องทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี ควรเข้าไปเลยหรือว่าจะแอบดูเงียบๆดี
“ขอโทษนะเมฆแต่ฟ้ามองเมฆเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งจริงๆ ขอบคุณเมฆที่มีความรู้สึกดีๆให้ฟ้านะแต่ฟ้าไม่อยากให้เมฆเสียเวลารอฟ้าเลย”
“เมฆไม่เคยอยากได้คำขอบคุณจากฟ้า สิ่งที่เมฆทำให้ฟ้าทุกอย่างก็เพื่อหวังว่าสักวันฟ้าจะรักเมฆกลับบ้าง”
“ขอโทษแต่เรามีคนที่ชอบแล้ว”
ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยินฟ้าตอบ ต้นไม้สูงใหญ่ที่ตั้งใกล้บริเวณนี้ทำให้ผมหลบพวกเขาได้โดยมิดชิด
แต่ฟ้า...ฟ้าชอบใครทำไมไม่เคยเห็นบอกผม
“ใคร...มันเป็นใครคนที่ฟ้าชอบ”
“ช่างเถอะแต่เมฆพอได้ไหม เราไม่อยากให้เมฆต้องมารอเราอีก เมฆยังมีคนที่พร้อมจะรักเมฆอยู่อีกมาก อย่าเสียเวลากับเราเลยนะ เพราะยังไงเราก็ให้กับเมฆได้แค่คำว่าเพื่อนจริงๆ”
ฟ้าเดินหายไปแล้ว เหลือเพียงแค่เมฆที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่นานมันก็เตะกระถางต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆจนล้มลง มือมันชกเข้ากับกำแพงด้วยความรุนแรง
ตลอดมาผมคิดว่าเมฆคงจีบฟ้าเล่นๆและเพราะท้าทายที่ฟ้าได้ยากเลยทำให้มันยังจีบฟ้าต่อแต่ตอนนี้ผมรับรู้แล้วว่ามันเจ็บปวดกับคำปฏิเสธของฟ้า เมฆเสียใจและผมเห็นมันร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียว
ผมคิดว่าเมฆมันเป็นคนเข้มแข็ง โดนใครต่อใครเกลียดมันก็ทนได้เสมอมา ใครจะพูดจาถากถางมันก็ไม่สนแต่เพราะฟ้าปฏิเสธคำว่ารักของมัน เมฆที่เคยเข้มแข็งในสายตาผมจึงดูเปราะบางจนใจผมเริ่มรวดร้าว
เมฆรักฟ้าขนาดนั้นเลยเหรอ..รักฟ้ามากใช่ไหม ไม่อยากให้เสียใจเลยแต่ถ้าเข้าไปปลอบจะหายเสียใจรึเปล่า
เท้าผมหยุดลงตรงหน้าของเมฆ ไม่รู้ว่าเผลอตัวเดินมาหามันตั้งแต่เมื่อไรเพียงเพราะเห็นน้ำตาของเขาผมก็อยากกอดปลอบไม่ให้เขาจมอยู่กับความเศร้า เมฆที่มีแต่ความสุขและรอยยิ้มเป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุด
“ไม่เป็นไรนะ”
ผมกอดเมฆไว้แน่น ลูบหลังมันเพื่อเป็นการปลอบปะโลมหัวใจที่พึ่งโดนปฏิเสธของเมฆ ผมก็เจ็บไม่ต่างจากเขาหรอก การเห็นคนที่ชอบมาบอกชอบเพื่อนตัวเองต่อหน้ามันก็เจ็บมากแล้ว ยิ่งคนที่ชอบร้องไห้เจ็บปวดเพราะเพื่อนสนิทของผมมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากกว่า
หรือคงถึงเวลาที่ผมควรจะทำอะไรสักอย่างจริงๆ
“กูต้องทำยังไงฟ้าถึงจะรักวะ กูทำทุกอย่างแล้วศินแต่เขาก็ไม่เคยมองกูเลย”
กูก็ทำทุกอย่างเพื่อมึงเหมือนกันเมฆแต่นั่นแหละมึงก็ไม่เคยมองกูเลยสักครั้งเดียว
“อืม ไม่เป็นไร”
ไม่รู้ว่าคำพูดนั้นใช้ปลอบเมฆหรือตัวเองกันแน่ ยิ่งเห็นมันเจ็บเพราะคนอื่นเท่าไรใจของผมก็ยิ่งปวดร้าวลึกมากขึ้นเท่านั้น
ผมยืนปลอบเมฆอยู่แบบนั้นจนมันสงบลง มันผละออกจากผมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยตาแดงก่ำ ผมเผลอยกมือขึ้นแตะใบหน้าของมัน เมฆมันชะงักและนิ่งมองว่าผมจะทำอะไร
“อย่าร้อง”
แค่เห็นน้ำตาของมันผมก็เสียใจตามไปด้วย ไม่อยากเห็นมันร้องไห้ เมฆที่ไม่มีความสุขไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลย
“คืนนี้...อยู่เป็นเพื่อนกูได้ไหมศิน” มันยกมือขึ้นมาจับมือผมออกจากใบหน้าเอ่ยถามผมเสียงแผ่วอย่างคนสิ้นหวัง
“อืม”
เมฆพาผมมาที่คอนโดของมัน หลังจากที่มันบอกความต้องการของตัวเองผมก็ไปล่ำลาเพื่อนและมอบของขวัญให้ฝน ผมเห็นฟ้าเหลือบมองทางเมฆนิดหน่อยแต่เธอก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเมฆก็ได้แค่ยืนเงียบๆเอาแต่ก้มหน้าไม่สมกับเมฆที่เดินสง่าเข้ามาในงานตอนแรก
“กินเยอะขนาดนี้ได้ตายพอดี”
“ไม่ตายหรอก ก็แค่เมา เผื่อจะทำให้กูลืมๆเขาไปบ้าง”
“มึงก็รู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร”
“ก็แค่ตอนนี้ เสียงปฏิเสธของฟ้ายังดังก้องในหูกูอยู่เลยศิน”
“ตามใจ”
ผมสงสารมัน ถ้าอะไรที่พอจะทำให้ทุเลาความเจ็บปวดของมันไปได้ผมก็จะยอมให้
“มึงรู้ไหม..” มันยกเหล้าขึ้นกินเพียวๆจนหมดแก้วแล้วเติมใส่ใหม่ทำแบบนั้นหลายๆรอบจนมันก็ตัดสินใจพูดขึ้น “ตอนแรกกูก็ไม่คิดว่าจะชอบเขาขนาดนี้ เหอะ...อาจจะพูดว่ารักได้เต็มปากเต็มคำเลย”
“....”
“ไม่รู้ทำไมการที่ได้อยู่ใกล้เขาก็ทำให้กูกลายเป็นหลงรักเขาแบบไม่รู้ตัว เขาเป็นคนที่ดี เป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง เขาแตกต่างจากคนที่กูเคยคบหา กูคิดว่าถ้าได้เขามาเป็นแฟนมันคงจะดี”
“....”
“แต่กูก็พอรู้ว่ากูมันเหี้ย ทั้งมั่วหญิงทั้งเจ้าชู้สารพัด ผู้หญิงที่ไหนเขาจะรับได้ เพื่อนฟ้าแต่ละคนก็เกลียดกูจะตายแน่นอนว่ากูรู้ตัวมาตลอดว่าวันนึงจะต้องเสียใจ”
“....”
“ไม่คิดว่าการเสียใจมันจะเจ็บปวดขนาดนี้ ถ้ากูรู้ว่าจะเจ็บกูก็คงไม่เลือกที่จะรักเขาตั้งแต่แรก”
“....”
“ครั้งแรกเลยเชื่อไหมที่กูโดนผู้หญิงปฏิเสธ แม่งโคตรแย่ว่ะ”
ผมปล่อยให้มันพูดไปเรื่อยๆโดยไม่คิดแทรก มันคงต้องการใครสักคนเพื่อระบายความในใจ ผมมีหน้าที่ฟังก็ทำเพียงนั่งนิ่งๆ อย่าคิดว่าการมาฟังเมฆพล่ามถึงฟ้าจะไม่ทำให้ผมเจ็บ ผมเจ็บมากและคิดว่าต่อจากนี้ก็คงยังเจ็บได้อีก
“ขอบคุณมึงนะศินที่ไม่เกลียดกู มีแค่มึงคนเดียวที่ช่วยกูมาตลอด ขอบคุณมึงจริงๆแต่ต่อจากนี้กูคงไม่ไปยุ่งกับพวกมึงอีกแล้ว กูจะล้มเลิกความพยายามของกูแล้ว”
“ไม่ได้!” ผมเผลอเสียงดัง คิดแค่ว่าถ้ามันเลิกจีบฟ้า การพยายามใกล้ชิดกับมันก็จะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
“หึ...กูรู้ว่ามึงอยากให้กูพยายามจีบฟ้าใช่ไหมล่ะ” มันแค่นยิ้ม หันหน้ามามองผมตรงๆ “แต่กูเหนื่อยว่ะ กูเกลียดที่กูเป็นแบบนี้ กูไม่อยากเสียใจให้ใคร มันทั้งเหนื่อยทั้งเจ็บ กูไม่อยากเป็นแบบนี้”
“มึงก็ลองพยายามมากกว่านี้ วันหนึ่งฟ้าต้องรักมึงได้”
เหมือนที่ผมพยายามเพื่อเมฆ ผมคิดว่าวันหนึ่งเมฆมันจะหันมามองผมบ้าง
“พอว่ะ กูพอแล้วจริงๆ”
“เมฆ...”
“ขอบคุณศิน กูไม่เอาแล้ว”
ผมไม่รู้ต้องพูดโน้มน้าวมันยังไง ผมรู้ว่าพูดไปมันคงไม่มีประโยชน์ เมฆมันเชื่อแค่ตัวเองและมีแค่ตัวมันเองที่รู้ดีว่าควรต้องทำยังไงต่อไป
เหลือเพียงแค่ผม ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะได้กลับมาใกล้ชิดกับเมฆเหมือนเดิมหากไม่มีฟ้าเป็นข้ออ้าง
เมฆยังคงนั่งดื่มไปเรื่อยๆ มันเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง มือเริ่มเลื้อยมาแตะตัวผมจนทำผมสะดุ้ง สัมผัสของมันทำให้ผมตื่นเต้นเสมอ แค่มันแตะนิดหน่อยใจผมก็เต้นแรงแล้ว
“อืม”
“ไปนอนเมฆ เดี๋ยวกูพาไปนอนในห้อง”
ผมเคยมาห้องเมฆอยู่หลายครั้งแต่แค่มาแวะมาเอาของจากมันแต่นั่นก็ทำให้รู้ว่าห้องนอนของมันอยู่ตรงไหน
“ฟ้า...”
ชื่อของฟ้ายังคงหลุดรอดออกจากปากเมฆตลอดระยะทางที่ผมพยุงตัวมันอย่างทุลักทุเลเข้ามาในห้องนอน ขนาดเมาคนที่มันคิดถึงยังเป็นฟ้า แทบทุกเวลาความคิดเมฆก็มีแต่ฟ้าเท่านั้น
ผมวางมันลงบนเตียง มองสภาพคนเมาที่ปัดป่ายตัวไปเรื่อย ถอนหายใจมองสภาพของมันได้ไม่นานก็ตัดสินใจหากะลังมังและผ้าชุบน้ำเพื่อมาเช็ดตัวให้เมฆ
ผมกลั้นหายใจตอนที่ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา ถึงจะเป็นผู้ชายแต่เมฆก็เป็นผู้ชายที่ผมชอบ การมานั่งมองร่างกายของมันอยู่ตรงนี้ก็ทำเอาผมหน้าร้อนขึ้นมาดื้อๆ
ผ้าขนหนูสีขาวเริ่มไล้อยู่บนหน้าอกของเมฆแผ่วเบา คนเมาฮึมฮัมขัดใจ พยายามปัดมือผมให้ออก ผมไม่ได้สนใจยังคงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเมฆไปเรื่อยๆ
“ฟ้า...”
“เมฆ!”
ผมโดนเขาฉุดลงมา โดนเมฆคร่อมอยู่ข้างบน ผ้าผืนนั้นล่วงหล่นไปกองอยู่ที่พื้น ผมใช้มือยันที่หน้าอกเมฆไว้เพื่อไม่ให้เขาเข้าใกล้ผมมากกว่านี้
“ฟ้า...”
แรงของผมน้อยนิด ตอนเมฆดื่มผมก็ดื่มเป็นเพื่อนเขาแต่ดื่มน้อยกว่าจึงไม่เมา เรี่ยวแรงผมหมดไปทันทีเมื่อเขาเริ่มจูบ ริมฝีปากเขาขบเม้มกับปากผม สัมผัสของเมฆอ่อนโยนจนผมโอนอ่อน ผิวเนื้อตรงซอกคอคือจุดต่อมาที่เขาใช้ปากสัมผัส
ผมครางเสียงแผ่ว ความเสียวซ่านและความรู้สึกดีทำให้ผมเริ่มคิดเรื่องแย่ๆ
ถ้าผมเป็นของเมฆแล้วใช้ข้อนี้อ้างในการที่จะอยู่ใกล้เขาผมจะทำได้ใช่ไหม? ผมคงมีข้อต่อรองมากมายที่เมฆไม่อาจจะปฏิเสธผม ผมจะดูเป็นคนเลวร้ายในสายตาเขารึเปล่า
แต่ช่างมันเถอะ ในเมื่อครั้งนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะเรียกร้องจากเมฆ ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นผมคงต้องรับผลของการกระทำตัวเอง
“เมฆ” ผมเรียกชื่อเขาด้วยเสียงสั่นเทา มือสองข้างยื่นไปคล้องคอเขาก่อนจะเป็นฝ่ายเริ่มจูบบ้าง
จูบของผมไม่ประสีประสา เมฆไม่ทันใจเขาจึงขบกัดริมฝีปากผมเหมือนเป็นการลงโทษที่ทำให้เขาไม่ได้ดั่งใจ ก่อนเขาจะใช้ปลายลิ้นเรียวแทรกเข้ามาในปากผม รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เขาสัมผัสผมไปทั้งตัว เสื้อผ้าเราหลุดและเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ สิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้ก่อนที่เมฆจะแทรกตัวตนของเขาเข้ามา คือเสียงกระซิบแหบพร่าข้างใบหูพร้อมกับความเจ็บปวดของช่วงล่างที่มันคงเจ็บปวดน้อยกว่าใจของผมเมื่อได้ยินสิ่งที่เมฆพูดให้ฟัง
“เมฆรักฟ้า...”
ความรู้สึกแรกหลังจากตื่นขึ้นมาคือความรู้สึกปวดหน่วงที่ช่องทางด้านหลัง ผมกัดฟันกรอดเมื่อต้องพยุงตัวเองลุกขึ้น หลังจากเมื่อคืนเมฆปล่อยเสร็จในตัวผมทั้งเขาและผมก็หลับไปพร้อมกัน
สิ่งที่คั่งค้างข้างในยังไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างที่ควรจะเป็น ผมเจ็บไปหมด เมื่อคืนเมฆรุนแรงกับผมจนผมรับเขาไม่ไหวจริงๆ
“อือ ปวดหัว” เสียงคนข้างตัวที่ยังคงนอนอยู่ดังขึ้น
ผมหันไปมองเขาก่อนจะเห็นเปลือกตาของเมฆขยับไปมา เขายกมือขึ้นมากุมหัวของตัวเองไม่นานก็ได้สติ เมฆมองเพดานเพียงชั่วครู่ก็หันมามองผมที่ยังคงจ้องเขาอยู่
“ศิน?”
เขาดูตกใจ มึนงง ความสับสนผสมปนเปกันไปหมดในแววตาของเมฆ
“อืม” เสียงผมค่อนข้างแหบ เมื่อคืนผมใช้เสียงไปกับการครวญครางอยู่ใต้ร่างเมฆเกือบทั้งคืน
“ทำไม...ไม่จริง”
ผมยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง หลักฐานทุกอย่างชัดเจนตามเนื้อตัวผมขนาดนี้เขายังปฏิเสธความจริงทุกอย่างได้ลงคอ การปฏิเสธของเขายิ่งทำให้ผมรู้สึกสมเพชตัวเองเข้าไปใหญ่
“มึงต้องรับผิดชอบ”
“กู...แต่เมื่อคืนกูเมา กูจำไม่ได้”
“แล้วคนที่จำได้อย่างกูล่ะ ต้องยอมปล่อยผ่าน?”
“ศิน กูขอโทษแต่เรื่องนี้ขอให้มึงทำเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นได้ไหมวะ กูเมาจริงๆ”
“พูดง่ายเนอะ คนโดนเสียบมันกูนี่ มึงคิดว่ากูจะยอมหรือไง”
“แล้วมึงจะยอมกูทำเหี้ยไรวะถ้าเมื่อคืนมึงไม่เมา!” มันเริ่มอารมณ์เสีย ขยับตัวขึ้นนั่งเพื่อลุกมาเถียงกับผม
“ก็กูสู้มึงไม่ได้ มึงบังคับกู”
ผมโกหก ทุกอย่างผมโกหกทั้งหมด ผมเต็มใจยอมเป็นของมันเพื่อที่จะได้ทำเรื่องงี่เง่าของตัวเองต่อไป
“แล้วมึงจะให้กูรับผิดชอบอะไร มึงชอบกูหรือไง!”
“เออ!”
เราทั้งคู่เงียบสนิทเมื่อผมยอมรับกับสิ่งที่เมฆถาม ในเมื่อเรื่องมันก็ดูจะเลวร้ายมาถึงขนาดนี้แล้วแค่ยอมรับว่าชอบเมฆคงจะไม่สะเทือนอะไรเท่าไร
“มึง...มึงว่าไงนะ” มันยังคงอึ้งเหมือนไม่เชื่อว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องจริง
“กูชอบมึงเมฆ ชอบมึงมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งก่อนที่เราจะรู้จักกัน ก่อนที่มึงจะจีบฟ้า ขนมที่ทำให้มึงเจอฟ้าก็เป็นของกูที่ทำให้มึง”
เมฆยังเงียบ มันเหมือนครุ่นคิดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันคงนึกไม่ถึงว่าคนที่มันบอกว่าเป็นเพื่อนจะชอบมันและชอบก่อนที่มันจะได้ใช้คำว่าเพื่อนกับผมซะอีก
“นี่มันเรื่องเหี้ยไรวะ” มันขยี้ผมตัวเอง มันคงสับสนผมเข้าใจแต่ผมก็ปล่อยเรื่องนี้ให้จบง่ายๆไม่ได้ ผมยอมมอบทั้งกายและใจเพื่อให้มันเป็นของผมคนเดียว
“มึงรับผิดชอบกูแค่ง่ายๆ”
“ยังไง?”
“แค่มึงเป็นของกู”
.·°∴ ☆.
แงงงง อย่าด่าแรงนะ ฮือ เป็นครั้งแรกที่ลองแต่งดราม่าเพื่ออยากออกนอกกรอบตัวเองบ้าง ถ้าดีไม่ดียังไงบอกกันได้นะ //ไหว้ย่อ
ฝากคอมเม้นติชมด้วยนะคะจะได้นำไปปรับปรุงต่อไป ขอบคุณค่าาา
แฮชแท็ก #ผมขอให้ดาวตก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

81 ความคิดเห็น
-
#37 ลมมรณะ (จากตอนที่ 4)วันที่ 14 มิถุนายน 2562 / 09:54น้องก็ไม่เบา5555#370
-
#27 yuki5555 (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 มิถุนายน 2562 / 23:09ศินเห็นแก่ตัวอยู่น่าาา มันต้องขนาดนี้เลยเหรอออ#270
-
#26 nong339 (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 มิถุนายน 2562 / 21:36ทำไมเป็นแบบนี้ ติดตามๆ#260
-
#25 patalee_bonus (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 มิถุนายน 2562 / 20:20คือควรสงสารใครก่อนดี#250
-
#24 godxmeii (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 มิถุนายน 2562 / 19:10ฮื่ออออออ ไม่เอาาแบบบนี้แงงงง#240
-
#23 JvrsM_s (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 มิถุนายน 2562 / 19:01ไรท์!!!!! ไม่ไหวแล้วววว ฮื่อ ไม่เอาแบบเน้ ~/// เป็นกำลังใจให้ค่า รอตอนต่อไปอยู่จ้า#230