คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : อ่านปากของฉันนะว่า.. "รักเธอ"
“แตงกวา!!! แตงกวาๆๆๆๆ ตื่นสิ เทอเป็นอะไรไปน่ะ แตงกวา!!!!! ตื่นสิ!!!!!!!!!!!!!” ท่ามกลางสายตาเป็นสิบคู่ภายในตลาด ยอตตะกำลังนั่งลงกอดร่างของแตงกวาแล้วแหกปากโวยวายอย่างไม่อายใคร
“อือ...” ฉันครางในลำคอเบาๆ ด้วยไม่มีแรงจะออกเสียงใดๆ ทั้งสิ้น นัยน์ตาที่เบิกโพลงขึ้นมาอย่างฉับพลันนั้น ทำให้ฉันไม่สามารถมองภาพด้านหน้าได้ชินตานัก จึงจำต้องกะพริบตาถี่ๆ อีกหลายครั้งเพื่อปรับสภา จากครั้งแรกที่ฉันเห็นเงาคนมัวๆ ครั้งที่สองและครั้งที่สามก็เริ่มชัดเจนว่าคนที่อยู่ข้างหน้าฉันเป็นผู้ชายอย่างแน่นอน และพอหลังจากนั้นไปเรื่อยๆ เค้าหน้าของเขาก็เริ่มคุ้นหน้าขึ้นเรื่อยๆ
“แตงกวา... เทอจำฉันได้มั้ย??” เขาถามฉันพร้อมชี้หน้าตัวเองอย่างไม่มั่นใจ เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบ สีหน้าของเขาก็เริ่มซีดลงๆ อย่างเป็นกังวล ว่าฉันตื่นขึ้นมาแล้วจะลืมเขาไปอีกหรือไม่ ก่อนที่เขาจะคิดมากไปกว่านี้ ฉันจึงรีบพยักหน้าให้เขา แล้วอ้าปากพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ยัดตด...”
“^ ^;”
“ยัดตด... ฮึก.. ยัดตด...”
“- -;”
“ยัดตด... ยัดตดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...”
“-*- ++”
“ยัดตด ฮึก... ฮือ... ยัดตดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!”
“>.<* พอแล้ว!!! ฉันอายเค้า” เขาเงยหน้ามาบอกฉันอย่างเครียดๆ แต่ทว่าฉันสังเกตเห็ใบหูเขาเป็นสีแดงจัดทำให้ฉันรู้ว่าเขากำลัง... อาย แถมอายมากซะด้วย...
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ฉันเปล่งเสียงหัวเราะอย่างไม่อายใครส่งผลให้เขาทำหน้าหวาดๆ แล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉันพลางกระซิบถามว่า
“เอ่อ... แตงกวาตอนที่เธอเป็นลมไปอ่ะ มีใครมาเหยียบหัวเธอ หรือ เอ่อ... หรือเดินเตะหัวเธอจนสมองไหลออกทางรูหูมั่งป่ะ??” เขาถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่สมมติฐานแต่ละอย่างที่เขาเสนอมานั้นมันทำให้ฉันหัวเราะหนักกว่าเดิมอีก... ยอตตะเริ่มหน้าซีดลง ซีดลงอีกครั้ง แล้วสักพัก หน้าก้อเริ่มขึ้นสีแดงเรื่อขึ้นเรื่อยๆๆ เมื่อพบว่าสายตานับสิบคู่กำลังจ้องมองเราอยู่ โดยที่เขาไม่ต้องพูดเราก้อรู้ได้ทันทีว่าเขาคิดยังงัยกัน ลองนึกสภาพสิคะ
... ผู้หญิงและผู้ชาย ...
... สวยและหล่อ ... (เขาป่าวหลงตัวเองน้า)
... และ เปียก ...
... คนผู้ชายแหกปากลั่น ...
... คนผู้หญิง (เสือก) หัวเราะ ...
ฉันนึกเองยังรู้สึกอายๆ เลย ว่าแต่ หน้ายอตตะนี่มีหลายสีจังแฮะ สนุกดีจริงๆ ^ ^
“แว้กกกกกกกกกกกกกก” อยู่ๆ เค้าก็ยกตัวฉันลอยขึ้นมา ซึ่งฉันก้อได้แต่ร้องอย่างตกใจแค่ครั้งเดียว เพราะกลัวว่าถ้ามากกว่านั้น ฉันจะพูดไม่เป็นภาษาเอาอ่ะดิ - -“
“นี่ พรุ่งนี้เราจะไปไหนกันดีล่ะ ฮึ??”
ฉันส่ายหัวแทนคำตอบ ฉันยังอยากอยู่เล่นน้ำทะเลที่นี่อยู่เลย น้ำที่นี่เค็มดีเป็นบ้า >.<~ (ก็น้ำทะเลนี่หว่า)
“นี่แตงกวา กะจะอยู่ที่นี่สักกี่วันล่ะเนี่ย”
เง้อ จะตอบไงดีล่ะ... เอางี้ดีกว่า ฉันยกมือขึ้นมาชูเลข 4 ฮี่ๆๆๆๆๆ (เล่นง่ายเนอะ -*-)
“อืมๆๆๆ เอ๊ะ!! เดี๋ยวก่อนนะ อีก 4 วัน งั้นก็วันเกิดเธอพอดีน่ะสิ แล้วเธออยากได้อะไรล่ะ หรืออยากไปไหน ฉันจะเป็นไกด์พาทัวร์ไปให้หมดทุกที่เลยนะ เธออยากได้อะไรบอกฉันเลยนะ ฉันจะให้เธอหมดเลย ไม่ต้องกลัวนะว่าจะตังค์ไปพอ แบบว่า ฉันเบิกมาเตรียมพร้อมแล้วแหละ แบบว่าก็คิดๆ อยู่พอดีว่ามันใกล้วันเกิดเธอแล้วต้องทำอะไรให้สักหน่อยน่ะ แล้วก้อออ...” แล้วเค้าก็พล่ามต่อไป - -; เรื่อยๆ เรื่อยๆ และ เรื่อยๆ โดยไม่รู้เลยว่าฉันที่ยืนฟังอยู่ตรงนี้ แทบจะร้องไห้เพราะความแสนดีของเค้า จริงอย่างที่ใครๆ ว่า การที่เราจะรักใครสักคนนั้น ไม่ได้ต้องการให้เขาจำวันเกิดเราได้ ไม่ได้ต้องการให้เขาทำอะไรให้เราในวันเกิด ไม่ต้องการให้เค้าดีเลิศเลอ ขอเพียงจริงใจ และเอาใจใส่กันแค่นั้นก้อเพียงพอ
ยอตตะ นายแน่มากเลยรู้ตัวมั้ย?? แม้แต่ตอนที่ฉันยังจำนายไม่ได้ นายก็สามารถทำให้ฉันรักนายได้อีกครั้ง จนวันนี้ฉันก็ยิ่งรู้ตัวว่า ฉันคงไม่สามารถหนีจากนายได้แล้วล่ะ... และตอนนี้ความทรงจำของฉันก็ได้กลับมาแล้ว ความรักที่ฉันมีต่อยอตตะ กลับไม่เหมือนเดิม... มันเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย จนเมื่อไหร่ไม่รู้ที่ในหัวใจของฉันมีแต่เขา แต่เขาคนเดียว
ไม่ใช่เหงา ไม่ใช่เผลอ ที่ฉันนั้นรักเธออย่างง่ายดาย
ไม่ใช่ฉัน แค่อ่อนไหว ไม่ใช่ฟ้ามาดลใจให้รักเธอ
ไม่ใช่เหงา ไม่ใช่ฝัน ที่ฉันนั้นทำไปก็รู้ตัว
แปลกใช่มั้ย?? ที่ไม่กลัว ไม่รุทำไมเหมือนกัน
อยู่ๆ น้ำตาของฉันก็ไหลรินออกมา เมื่อยอตตะหันกลับมามองหน้าฉันและเห็นน้ำใสใสที่ไหลเป็นทางอยู่นั้น ก็เหวอจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว เขารีบเอามือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน ก่อนจะทำท่าเงอะๆงะ อย่างคนทำอะไรไม่ถูก ทำเอาฉันหลุดขำออกมาเล็กน้อย และพอเค้าเห็นฉันยิ้มออก ก็เริ่มใจชื้นขึ้น แล้วค่อยๆยื่นมือมาโอบกอดฉันอย่าแผวเบา...
ก็เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยหอ
แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ
เสียงหัวใจเรียกร้องแปลกๆ ให้รู้สึกดีที่มีเธอ
ขอเชื่อหัวใจตัวเอง แค่สักครั้งนึง
ถึงแม้ว่ามันดูเสี่ยง ที่ตัดสินใจ ขอเชื่อในความรักสักหน่อย
แม้รักนั้นอาจทำ... ให้ช้ำใจ
“ฉันรักเธอนะ แตงกวา”
สิ่งที่เขาพูดทำเอาฉันเงียบ พูดอะไรไม่ถูก รักหรอ?? ฉันก็รักเขา แล้วทำไม เมื่อก่อนในตอนที่ฉันสามารถพูดอะไรได้อย่างที่ใจคิด ทำไมล่ะถึงไม่ยอมพูด และพออยากจะพูด ก็เหมือนถูกลงโทษ ให้ไม่สามารถพูดได้ ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมฉันถึงต้องพูดคำผวนอยู่อย่างนี้ มันคงเป็นบทลงโทษ ที่ฉันไม่ยอมพูดคำๆ นั้น จนทำให้ผู้ชายที่แสนดีคนนึงต้องมาเศร้าเสียใจ และไม่มั่นใจ ในความรักที่ฉันมีให้
แต่ตอนนี้ฉันรู้วิธีแล้วที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม มีอยู่ทางเดียวนั่นก็คือ บอกรักเค้า ถึงแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ฉันว่าต้องมีทางใดทางหนึ่งที่ทำให้เขาเข้าใจได้แน่ ดังนั้นยอตตะรอหน่อยนะ คงอีกไม่นานที่นายจะได้ยินคำบอกรัก จากปากของฉันเอง...
หลังจากนั้นมา 3 วัน ก็มาถึงวันเกิดฉันจนได้ ซึ่งเราก็ตกลงกันเรียบร้อยว่าจะไปเที่ยวสวนสนุกกัน ^-^ เย้!!!!!!! ยอตตะดูท่าทางมีความสุขกว่าฉันซะอีก นี่มันวันเกิดใครฟระ!?
“แตงกวาๆๆๆ ไปเล่นนู่นกัน” อ่าฮะ = =;
“แตงกวาๆๆ อันนั้นก็น่าเล่น” เออๆๆๆๆๆๆ
“แตงกวาๆๆ บ้านผีสิง” ไม่เคยเห็นรึไงยะ -*-
“แตงกวาๆๆๆๆ อยากเล่นไวกิ้ง” เรียกอยู่ได้ชื่อฉันไปซ้ำกับชื่อป้าแกรึไง - -++
“แตงกวาๆๆๆ เล่นนะๆๆๆ” และอีกหลายๆ แตงกวา เยอะซะจนสวนสนุกแห่งนี้จะลายเป็นแปลงผักสำหรับปลูกแตงกวาซะแล้ว ฉันชักเกลียดพ่อกับแม่ที่ตั้งชื่อนี้มาให้ฉันซะแล้วสิ (แหม... ทำเป็นบ่น แต่พอยอตตะบอกนู่นบอกนี่ก็ไปกับเค้าหมดแหละ - -*)
เป็นอันว่าเครื่องเล่นล่าสุดที่เรากังเล่นอยู่นี้คือไวกิ้ง อย่างจะเปลี่ยนชื่อเป็น กลิ้งไว ซะจริง -*- โห เรือบ้าอะไรฟระ แล่นหยั่งกะจะขึ้นไปเกาะที่อยู่บนท้องฟ้า และแถวที่ฉันนั่งนั้น อยู่ประมาณแถว มัธยมอ่ะค่ะ แล้วพอมันแกว่งไปแกว่งมาไปได้สักพัก สารพัด ออ ก็ดังขึ้น ทั้ง อ๊ากกก แอ้กกกก โอ้กกกก อุ๊บบบ อ๊อกกกก แอวะ อ้วกกกกก - [] - !! โคดน่ากลัวเรยยย ส่วนฉันกับยอตตะน่ะหรือ...
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” <= ยอตตะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” <= ฉัน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” <= ยอตตะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” <= ฉัน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” <= ยอตตะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” <= ฉัน
“ขอโทษนะครับ คุณครับ... คุณครับ หมดรอบตั้งนานแล้วครับ ช่วยรีบออกหน่อยได้มั้ยครับ คนเค้าต่อคิวกันอีกยาวครับ” พนักงานหลอกด่าพวกเราด้วยใบหน้ายิ้มๆ แหม.. เห็นว่าหล่อนะเรยให้อภัย -*- แล้วฉันกับยอตตะก็หันไปพบกับสายตาอีกหลายๆ คู่ที่มองพวกเรา อย่างหลากหลายควมคิด ทั้งโมโห ทั้งสงสัย ทั้งขำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฉันขอประกาศไว้เลยว่า จะไม่ไปขึ้นไวกิ้งอีกเป็นอันขาด!!!! (ก้อมันอายอ่ะ)
“นี่ก็จะเย็นแล้วนะ อยากไปที่ไหนอีกรึเปล่าแตงกวา” ยอตตะถามฉันอย่างเอาใจ ฉันหันกลับไปยิ้มให้แล้วชี้นิ้วไปที่เครื่องเล่นสุดโรแมนติกแห่งปี!!!!!!!!!!!!!
เฮอริเคน...
“เอ่อ... แบบว่าอย่างอื่นได้มั้ยอ่ะ แค่ไวกิ้งเมื่อกี้ฉันก็จะอ้วกอยู่แล้วอ่ะ = =;”
ฉันจึงเงียบอย่างใช้ความคิดอีกครั้ง แล้วสายตาของฉันก็พลันไปสบเข้ากับ ชิงช้าสวรรค์ นี่แหละ ความโรแมนติกที่แท้จริงงง!!!
และแล้วพวกเราก็ขึ้นไปนั่งอยู่บนชิงช้าสวรรค์ ฉันจะใช้โอกาสนี้แหละพยามยามบอกเค้าให้ได้ว่าฉันรักเค้า คอยดูแล้วกัน...
“ยัดตดดด”
“หืม?? อะไร”
“เอ่อออ... ชายรักนั้น!!!” ฉันหลับตาปี๋แล้วพูดออกมาจากใจจริงโดยไม่คำนึงเลยว่าคำพูดที่ออกมาจะเป็นอะไร >.<
“ง่า ฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย” ป่อยยยย... เวรกรรม ทำยังไงดีล่ะเนี่ยยยย
และแล้ว ชิงช้าที่ฉันและยอตตะนั่งก็วนขึ้นมาจนมาถึงจุดบนสุด จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นสวนสนุกได้เกือบหมดทุกที่เลยทีเดียว แต่ฉันก็ไม่มีโอกาสได้เห็นทั้งหมด เพราะมีเพลงๆหนึ่ง ดังขึ้นมาทำให้ฉันต้องหยุดมองแล้วตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ
เคยมั้ยบางทีที่เทอต้องการพูดอะไรออกไป
เคยมั้ยบางทีคำพูดมันไม่ยอมตรงกันกับใจ
ทั้งที่พยายาม และไม่ว่าจะเตรียมตัวสักขนาดไหน
เหมือนฉันอย่างที่กำลังเผชิญหน้าความเป็นจริง
และถึงแม้ข้างในพยายามพูดออกไปให้หมดทุกสิ่ง... อย่างที่ตั้งใจ
แต่มันก็เหมือนเคย ไม่ว่าจะเปิดเผยสักเท่าไหร่
เมื่อต้องพูดคำนั้น เสียงฉันมันก็หายไป
อ่านปากของฉันนะว่า... อยากจะพูดอีกครั้งว่า...
และจะเป็นอย่างนี้ กับเทอไม่ว่านานสักเท่าไหร่
ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะรักใคร ไม่ต้องห่วงว่าฉันเปลี่ยนหัวใจ
ฉันจะเป็นอย่างนี้ จะ... ตลอดไป
จริงสินะยังมีวิธีนี้อยู่อีกนี่นา
“ยัดตดดด”
“อะไรหรอ??”
“คือ...”
“หมดรอบแล้วครับ ขอบคุณที่มาใช้บริการนะครับ โอกาสหน้าเชิญใหม่ครับ”
ฉันล่ะเบื่อพนักงานที่นี่จริงๆ เลยง่ะ ขัดจังหวะทู้กที... ฮึ้ย คราวนี้แหละฉันต้องบอกให้ได้
“ยัดตดดดด” ฉันตะโกนเรียกเค้าท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่คนที่ได้ยินเสียงนั้นกลับมีแต่เค้า
“อะไร”
- ฉันรักนายนะ ยอตตะ - ในเมื่อฉันไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าฉันรู้สึกเช่นไร นายก็อ่านปากของฉันเอาเองแล้วกันนะ ส่วนยอตตะ ตอนนี้เค้าทำหน้าอึ้งนิดๆ แล้ววิ่งเข้ามากอดฉันไว้ แต่เอ... มันมึนๆ อยู่นะ ทำไมรู้สึกตาลายยังไงก็ไม่รู้ แล้วจู่ๆ ภาพทุกอย่างก็เลือนหายไป
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยย แตงกวา”
ติ๊ด... ติ๊ด...
“คนไข้รอดแล้วค่ะ”
ฉันลืมตาขึ้นมาช้าๆ ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำเอาฉันงงงันอย่างปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูก มีคนอยู่ประมาณ 4 5 คน ใส่หมวกเหมือนหมวกอาบน้ำ (-*-) สีเขียวๆ มีผ้าคาดปาก และสวมถุงมือสีเดียวกันกับหมวก เอ... ที่นี่มันที่ไหนล่ะเนี่ย??
“ที่นี่มันที่ไหน” ฉันถามเสียงอ่อยๆ ทำไมรุสึกไม่ค่อยมีแรงเลยแฮะ
“หา!!!!!” คนที่อยู่รอบๆฉันต่างพร้อมใจกันตะโกนโวยวาย โว้ย... จะเสียงดังอะไรกันนักหนา โวยวายกันอยู่ได้ แถมยังไม่ยอมตอบอีกไอ้พวกนี้นี่ ฉันว่าฉันถามภาษาไทยนะ
“ฉันถามว่า ที่นี่มันที่ไหน!!!” ฉันตะคอกใส่ไอ้พวกนั้น แล้วก็นึก เอ... ทำไมมันดูคุ้นๆ แฮะ
“แตงกวา!! เทอฟื้นแล้ว”
“อื้อ ^ - ^”
แล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ความทรงจำที่เคยมีมาก็ไม่ได้หายไปเหมือนครั้งที่แล้ว เพียงแต่ อีตายอตตะกลับความจำเสื่อม เสื่อมเฉพาะช่วงซะด้วย อีตานั่นทำเป็นจำไม่ได้ว่าฉันเคยบอกรักเค้าแล้ว!!!
“แตงกวาเธอยังไม่ได้บอกรักฉันเลยนะ”
“บอกแล้วย่ะ นายอย่ามามั่ว”
“ยังงงงงง!!!!”
“เฮ้อออ... อืมๆๆ ยังก็ยัง”
“งั้นเธอก็บอกฉันซะทีสิ”
“อือ... ฉันรักนายนะ ยอตตะ”
“แตงกวา ฉันก็รักเธอ”
แล้วคุณล่ะคะ เคยบอกคำๆนี้กับคนที่คุณรักรึยัง?? ในเมื่อปากคุณก็ยังสามารถพูดได้ตามที่ใจต้องการ แล้วจะรออะไรอยู่อีกล่ะคะ ระวังเถอะคนที่มีคนสำคัญอยู่กับตัวแล้วไม่ยอมพูดอะไรเนี่ย จะโดนลงโทษให้เป็นเหมือนฉันนะคะ ส่วนคนที่เคยพูดไปแล้ว ยินดีด้วยนะคะ และขอให้ทุกๆคนที่มีคู่มีความสุขตลอดไป...
จะย้ำด้วยคำคำนี้ ว่ารักเธอ... ไม่ยอมรักใคร
- จบค้าฟฟฟฟฟ -
ความคิดเห็น