ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The King Of Robot

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 วาแกน ทิฟฟี่

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 49


                                                                              ตอนที่1

                                                               "วาแกน ทิฟฟี่":เด็กน้อยผู้โชคร้าย



                   "ใครคล้อยตามข้าอยู่ ใครขวางทางข้าตาย ตอนนี้โลกเป็นของข้า--อเมซอน กฏของข้าคือกฏของโลก ข้าจะรออยู่ที่นี่ รอไอ้พวกที่ขัดขืนแข็งข้อ ใครคิดว่าแน่พอจะล้มข้า ใครไม่พอใจกฏของข้ามาหาข้าได้ทุกเวลา แต่ทั้งโลกนี้คงไม่มีใครจะมาเทียบกับเจ้าแห่งโลกอย่าข้าได้สักคน 5555 !!"



                    ปีจักรกลที่ 15 ยุคที่หุ่นยนต์อยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ ยุคที่ทุกสิ่งที่อย่างกลับสู่ยุคพึ่งพาธรรมชาติ หุ่นยนต์เป็นวิวัฒนาการเพียงสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่หลังจากอุกกาบาตแม๊กโนเลียพุ่งเข้ามาทำลายโลกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว การที่หุ่นยนต์เป็นวิวัฒนาการเดียวที่เหลืออยู่ ทำให้มนุษย์สมองเพชรบางคนสามารถพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความคิดและอารมณ์เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์



                    --หน้ารูปปั้น คิง ออฟ โรบอท รูปปั้นวีรบุรุษหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ยักษ์ สูงตะหง่าน ทุกเย็น วาแกน หนุ่มน้อยอาภัพแม่เสียไปตั้งแต่ยังจำความไม่ได้วัย 17 ปี ลูกชายคนเดียวของ โรแบร์ สุดยอดนักประดิษฐ์แห่งเมืองโทราปิค จะต้องมานั่งซึมทอดอารมณ์กับโชคชะตาชีวิตที่ถูกโรแบร์ผู้เป็นพ่อเคี่ยวเข็ญให้เรียนรู้แต่เรื่องราวของหุ่นยนต์ ตั้งแต่เค้าจำความได้มือของเค้าก็อยู่แต่กับไขควง อะไหล่ และฟันเฟื่อง เวลาที่เค้าจะได้สนุกสนานกับเพื่อนๆรุ่นเดียวกันแทบจะไม่มี วาแกนได้แต่นั่งคิดในใจว่าเค้ากลายเป็นเด็กที่โชคร้ายที่สุดในหมู่บ้าน เป็นเด็กวัย 17 ปีที่แทบจะไม่มีเพื่อนคบด้วยเลยสักคน มีก็แต่ ร็อบ หุ่นยนต์เพื่อนสนิทที่พ่อของเค้าสร้างมาให้เป็นของขวัญวันเกิดนั่งอยู่ข้างๆเค้ามาโดยตลอด

        

                    "เฮ้อ...ทำไมฉันต้องเกิดมาเป็นลูกพ่อด้วยนะ ทำไมฉันต้องมีชีวิตแบบนี้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทุกวันๆต้องมานั่งเรียนมานั่งทำอะไรก็ไม่รู้ เพื่อนก็ไม่มี มีแต่แกเท่านั้นแหละร็อบที่ฉันพอจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคนเดียวของฉัน" วาแกน พูดตัดพ้อ

        

                    "อย่าคิดมากเลยวาแกน ท่านพ่อของนายอาจจะมีเหตุผลที่ต้องเคี่ยวเข็ญนายขนาดนั้นก็ได้ "ร็อบ หุ่นยนต์เพื่อนสนิทพูดสวนทันควัน

        

                    "จะไม่ให้ฉันคิดได้ไงล่ะ!! วันๆฉันต้องมาฟังพ่อสอนเรื่องที่ฉันไม่อยากจะรู้ ฉันจะไปเล่นกับใครก็ไปไม่ได้ ทุกคนไม่กล้ามาคุยกับฉันก็เพราะพ่อนี่แหละ ดูสิเดี๋ยวนี้ไปไหนไม่มีใครคบเลยสักคน แกเป็นแค่หุ่นยนต์จะไปรู้อะไร การไม่มีเพื่อนมันแย่แค่ไหนแกรู้มั๊ย" วาแกน พูดปลดปล่อยอารมณ์

        

                    "…" ร็อบ รู้สึกอึ้งกับคำพูดของวาแกน ในสมองจักรกลของเขาได้แต่คิดว่าทำไมวาแกนต้องว่าเขาถึงขนาดนั้น ถ้าวาแกนไม่ใช่ลูกชายของผู้มีพระคุณเขาคงเอามือซ้ายเขกกะโหลกสักทีสองที เพราะถึงแม้เขาจะเป็นหุ่นยนต์แต่ก็เป็นหุ่นยนต์ที่เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบคนนึงไม่ต่างอะไรจากวาแกนเลยแม้แต่น้อย

        

                   "เฮ้อ...ช่างมันเหอะ กลับหมู่บ้านดีกว่า พูดกับแกไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น กลับไปถึงบ้านแกก็ต้องถูกปิดสวิซ นิ่งเป็นเศษเหล็กที่ไม่รับรู้อะไรอยู่แล้ว ไป!!~กลับๆๆ กระต๊อบนรกรออยู่" วาแกนพูดสั่งพร้อมกับลุกขึ้นเดินหลังหันให้กับ คิง ออฟ โรบอท รีบจ้ำอ้าวจากที่นั่งประจำของเขาไปอย่างรวดเร็ว

        

                   ร็อบ ที่ได้รับคำสั่งจากหนุ่มน้อยเจ้าอารมณ์ก็ลุกขึ้นเดินตามหลังไปติดๆ ก่อนจะหันหลังชำเลืองมองรูปปั้นหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่ตั้งสู้แดดสู้ฝน ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าตามวาแกนไปติดๆ



                    หมู่บ้านโทราปิค--หมู่บ้านที่ถูกซ่อนอยู่ในหุบเขา อะโวคาลบี้ ในทวีปบารอนีโอ โทราปิคเป็นหมู่บ้านธรรมดาๆ คนในหมู่บ้านใช้ชีวิตแบบพึ่งพาธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างในหมู่บ้านกลับสู่ยุคที่คล้ายกับยุคหิน ต่างกันตรงที่ยุคหินเป็นยุคที่มนุษย์อยู่กับสัตว์กับต้นไม้ใบหญ้า แต่ที่หมู่บ้านนี้มนุษย์อยู่กับหุ่นยนต์ ใช้ชีวิตเป็นเพื่อนสนิทกับหุ่นยนต์ และจะเป็นใครไม่ได้ที่เป็นคนสร้างหุ่นยนต์พวกนี้ขึ้นมาถ้าไม่ใช่ โรแบร์ ทิฟฟี่ นักประดิษฐ์สมองเพชรแห่งหมู่บ้านโทราปิค



                    โรแบร์ ทิฟฟี่ หนุ่มใหญ่วัย 60 ผมขาวทั้งหัว ไว้หนวดเครารุงรังคล้ายกับซานตาคลอส แต่ถ้าเค้าเป็นซาตานคลอสจริงคงจะเป็นซานตาคลอสในคราบซาตาน หน้าตาของเค้าเต็มไปด้วยริ้วรอยและบาดแผล จากการหลบหนีมหันตภัยอุกกาบาตแม๊กโนเลีย ที่ตาข้างขวาของเค้าถูกปิดด้วยผ้าปิดตาเล็กๆ มองเผินๆ ถ้าใครเจอกับเค้าบนเรือพาลจะคิดว่าเป็นโจรสลัดจอมโหด ท่าทางของโรแบร์เหมือนกับเป็นคนเถื่อนๆดิบๆ กิริยาท่าทางการพูดการจาดุดันแข็งกร้าว ใครจะไปคิดว่าท่าทางอย่างกับโจรสลัดของโรแบร์ ในสมองของเค้าจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่องหุ่นยนต์ ผสมกับจินตนาการอันกว้างไกล โรแบร์ถือว่าเป็นคนชุบชีวิตหมู่บ้านโทราปิคขึ้นมาด้วยไขควงและฟันเฟื่อง แต่กับวาแกนแล้วเค้าเป็นแค่พ่อจอมโหด พ่อจอมยัดเยียด พ่อจอมทำลายความสุขของลูกชายเท่านั้น

                    

                     "ไปไหนมา!! กลับซะมืดค่ำแบบนี้ หา!!" โรแบร์ ตั้งคำถามต่อลูกชายทันทีเหยียบเข้าบ้าน

                    

                      "เอ่อ..อ..อ ไปเดินเล่นมาครับ พอดีอากาศมันดีเลยเดินคิดอะไรไปเรื่อย พอรู้ตัวอีกทีก็..."

                    

                     "พอๆๆ!! มานี่ พ่อมีไรจะให้แกดู แล้วไอ้ร็อบไปไหนซะล่ะ ไปกับแกด้วยรึเปล่า หา!!" โรแบร์ ถาม

                    

                     "ผมอยู่นี่ครับท่าน ขอโทษครับที่มาช้า" ร็อบ ตอบรายงานตัว ทันทีที่เดินเข้ามาในบ้านที่วาแกนเรียกว่ากระต๊อบนรก

                    

                     "มาพร้อมหน้ากันแบบนี้ก็ดีแล้ว ฉันมีอะไรจะให้พวกแกดู เขยิบเข้ามามาใกล้ๆนี่ แล้วตั้งใจดูให้ดีนะ โดยเฉพาะแก--วาแกน !!" น้ำเสียงของโรแบร์ยังคงดุดันตามสไตล์

                    

                     ที่โต๊ะทำงาน มีกระดาษแผ่นนึงวางอยู่บนโต๊ะ เป็นกระดาษที่ดูเหมือนกับเป็นแบบแปลนของอะไรสักอย่างที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับร็อบ กระดาษดังกล่าวเต็มไปด้วยรายละเอียดสำคัญที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆของโรแบร์ ซึ่งทั้งโลกนี้น่าจะมีแค่โรแบร์คนเดียวเท่านั้นที่อ่านออก แต่ตัวอักษรที่วาแกนและร็อบเห็นและสามารถอ่านออกได้ทันทีถูกเขียนอยู่ตรงส่วนบนของกระดาษ เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ 3 ตัว "R-O-B" ซึ่งทั้งวาแกนและร็อบยังคงงงๆกับแผ่นกระดาษที่พ่อจอมโหดเอามาให้ทั้งคู่ดู

                    

                     "วาแกน แกเอากระดาษแผ่นนี้ไปศึกษาให้ละเอียด แล้วพรุ่งนี้ฉันจะถามแกเองว่ามันคืออะไร ดูดิว่าแกจะรู้มั๊ยว่ามันคืออะไร" โรแบร์ บอกสั่ง พร้อมกับยื่นกระดาษให้กับลูกชายของเค้า

                    

                     "ครับ" วาแกนรับปากพร้อมกับรับกระดาษมาดูแบบตั้งอกตั้งใจ ช่วงเวลาเดี๋ยวเดียวเค้าก็ต้องยอมแพ้ เพราะลายมือของพ่อช่างสุดแสนจะยึกยือ เหมือนไส้เดือนเป็นร้อยๆตัวมารวมตัวกันบนกระดาษเก่าๆใบนั้น

                    

                     พอรู้สึกว่ามันเริ่มจนปัญญาแล้วที่จะแกะลายมือในกระดาษโดยง่าย วาแกนจึงเดินกลับห้องนอน เพราะกฏระเบียบของพ่อจอมเฮี้ยบคนนี้ก็คือการให้ลูกชายผู้สืบทอดมรดกความรู้ของเค้าเข้านอนแต่หัวค่ำ ปิดประตูให้มิดชิด ห้ามออกจากห้องโดยพลการถ้าไม่ใช่คำสั่งจากพ่อ และเค้าก็ทำตามกฎเหล็กของพ่อจอมเฮี๊ยบมาโดยตลอด

                  

                    "เดี๋ยวพ่อจะปิดสวิซเจ้าร็อบเอง แกรีบอาบน้ำอาบท่าแล้วรีบไปนอนไป!!" โรแบร์พูดไล่หลังลูกชายไปติดๆ

                    

                    "คร้าบบ..บ" วาแกนตอบรับแบบจำใจ ด้วยในใจพาลคิดต่อว่าผู้เป็นพ่อว่า...จอมโหดๆๆ



                   เข็มนาฬิกากระดิกในลักษณะเข็มสั้นตรงพอดีกับเข็มยาว บอกเวลาเที่ยงคืน วาแกนนอนหลับสนิทอยู่ภายในห้อง แสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงสาดแสงลงมายังตัวของวาแกนจนโรแบร์สามารถมองเห็นได้รางๆว่าวาแกนกำลังทำอะไรอยู่ในห้องจากช่องตาแมวแบบพิเศษที่โรแบร์ประดิษฐ์ขึ้นมา เป็นช่องตาแมวที่คนข้างในจะไม่เห็นไม่รู้ว่ามีมันติดอยู่ที่ประตู โรแบร์สร้างตาแมวพิเศษอันนี้ขึ้นมาไว้แอบดูความเคลื่อนไหวของลูกชายภายในห้อง โดยที่วาแกนเองไม่รู้เรื่องสักนิดว่ามีของประดิษฐ์สิ่งนี้ติดอยู่ที่ประตูห้องของเค้า วาแกนผู้โชคร้ายนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดพอดีตัว มือซ้ายของเค้ายังคงถือกระดาษแบบแปลนที่พ่อให้มาศึกษา ดูท่าแล้ววาแกนคงยังไม่สามารถตีความหมายออกว่าแบบแปลนที่พ่อให้เค้ามาศึกษามันหมายถึงอะไรจึงหลับไปพร้อมกับปัญหาคาใจที่เค้าไม่สามารถตีโจทย์แตกได้...ดูท่าแล้วความเป็นพ่อลูกของครอบครัวทิฟฟี่ท่าจะมีปัญหาซะแล้ว

                  

                     "หลับไปแล้ว...ได้เวลาสักที ขอโทษนะลูกที่พ่อต้องทำกับแกแบบนี้ แกยังเด็กแกไม่ควรเห็นภาพแบบนั้น รอถึงเวลาพ่อจะบอกแกแน่ พ่อสัญญา" โรแบร์ บ่นพึมพำ

                  

                    "ไป ร็อบ!! ได้เวลาแล้ว" โรแบร์ หันไปมองร็อบที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่

                  

                    "ครับ...นายท่าน" ร็อบตอบรับ จากนั้นก็เดินตามโรแบร์ออกไป หุ่นยนต์เพื่อนสนิทอย่างร็อบมีความลับปิดบังเจ้านายน้อยเค้าซะแล้ว

                  

                    โรแบร์และร็อบเดินออกจากบ้านอย่างเงียบที่สุดเพื่อไม่ให้วาแกนรับรู้ ทั้งคู่กำลังจะไปไหน แล้วทำไมโรแบร์ถึงต้องปิดบังเรื่องดังกล่าวกับวาแกน หนุ่มชราวัยไม้ใกล้ฝั่งกับหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มีธุระอะไรที่ต้องออกไปในยามดึกสงัดขนาดนี้ แต่เท่าที่เดาคงเป็นธุระที่สำคัญสุดๆเพราะที่มือขวาของโรแบร์นักประดิษฐ์ถือกล่องเครื่องมือ และสวมเสื้อประจำตระกูลที่ข้างหลังปักคำว่า "ทิฟฟี่" ออกไปด้วย



                     วาแกนหนุ่มน้อยก็ยังคงนอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น พอตื่นมาตอนเช้าทั้งโรแบร์และร็อบไม่เคยพูดถึงเหตุการณ์ที่ทั้งคู่แอบออกไปตอนดีกให้เค้าฟังเลยสักนิด เหมือนกับว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น ร็อบก็ได้รับคำสั่งห้ามปริปากบอกเรื่องนี้แก่วาแกนเป็นอันขาดถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากโรแบร์...ช่างน่าสงสารวาแกน หนุ่มน้อยผู้โชคร้ายแห่งตระกูลทิฟฟี่เสียจริง...  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×