คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : ตัวตนแห่งจอมเวท
Magic Quest Ep.3
"ตัวตนแห่งจอมเวท"
"ขอโทษด้วยนะ แต่ถ้ำของข้าตอนนี้ คงไม่เหมาะสำหรับค้างแรมสักเท่าไหร่น่ะ"
ถ้ำมังกรในตอนนี้มีมังกรอาศัยอยู่เต็ม ทุกห้อง ดังนั้นด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทำให้ ผมไม่สามารถค้างแรมอยู่ที่นั่นได้
"ไม่เป็นไรครับ ผมนอนในป่าก็ได้"
"งั้นเหรอ...จะอยู่แถวนี้งั้นเหรอ"
"ไม่หรอกครับ ยังพอมีเวลา ผมอยากจะ ไปอีกซักระยะน่ะครับ"
ผมกับท่านจ้าวมังกรกำลังคุยอะไรกัน เล็กน้อยก่อนที่ผมจะเดินทางต่อ ตอนนี้อีก ไม่นานก็จะค่ำแล้ว ผมจึงต้องหาที่พัก
"งั้นก็ไม่เป็นไร แต่ข้ามีเรื่องอยากขอ หน่อย"
"ครับ?"
และแล้ว เด็กชายคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา จากด้านหลังของจ้าวมังกร
"พ่อครับ! คนนี้คือคุณเมอร์ซี่เหรอ ครับ?"
"ใช่แล้วล่ะ"
"ว้าว! คุณเมอร์ซี่ ขอผมออกเดินทาง ไปด้วยได้มั้ยครับ?"
"เอ๋?!"
ผมตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆก็มีคน ไม่สิ มี มังกรมาขอเดินทางไปด้วย
"ขอโทษทีนะที่กะทันหันไปหน่อย เด็กคนนี้ชื่อดราโก้ อายุ 9 ปีแล้ว เขาอยาก จะฝึกฝนเพื่อเป็นพญามังกรต่อจาก ข้าน่ะ เพราะฉะนั้นฉันถึงได้แนะนำเขาว่าให้ออก เดินทางเพื่อสั่งสมประสบการณ์ต่างๆก่อน จะถึงวันที่ได้เป็นจ้าวมังกรต่อจากข้า"
"เพราะงั้นถึงได้ฝากผมไว้งั้นเหรอ ครับ?"
"ฝากตัวด้วยนะครับคุณเมอร์ซี่!"
มังกรน้อยยิ้มอย่างร่าเริง ผมคิดอยู่ครู่ หนึ่งจึงตอบกลับไป
"ที่จริงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะ จะไปด้วยก็ได้"
"เย้!!!"
"ขอบใจมากนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ว่านะดราโก้ เรียกฉันว่าเมอร์ซี่ก็พอ"
"ครับ! คุณเมอร์ซี่!"
ผมรู้สึกปวดหัวตึ๊บๆ
"เอาเป็นว่าถ้าจะไปกับฉันก็ระวังตัวให้ มากหน่อยก็แล้วกันนะ เพราะนายมีสิทธิ์ เจออันตรายได้ทุกเมื่อ"
"ครับ! จะจำไว้คร้บ!"
โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็ได้เพื่อนร่วม ทางมาหนึ่งคน ไม่สิ มังกรหนึ่งตัว...แต่ก็ น่าจะเรียกเป็นคนได้มั้ง ผมเริ่มรู้สึกสับสน กับการใช้ลักษณะนามซะแล้วสิ...
"ถ้าอย่างนั้นก็ฝากลูกชายข้าด้วยนะ"
"ได้ครับ ผมจะดูแลดราโก้ให้เอง"
***
นักเดินทางคนนั้น ไม่รู้ทำไมถึงได้ เดินเข้ามาใกล้ที่นี่เรื่อยๆ แต่เดินเข้ามาหา ฉันแบบนี้ก็เหมือนแกว่งเท้าหาเสี้ยนละนะ
"เฮ้! นายนักเดินทาง!"
"หือ? นั่นใครเหรอ?"
ดูท่าเจ้าตัวจะมองเห็นฉันได้ไม่ดีนักจึง ร้องถามออกมา น้ำเสียงนั้นฟังดูน่าสมเพช
"มาสู้กัน!"
"ฮะ เฮ้ย! เดี๋ยว!"
ฉันไม่เปิดโอกาสให้นายได้ตั้งตัว หรอกน่า คิดได้อย่างนั้นฉันก็พุ่งเข้าไป หาด้วยความเร็วสูง
"เสร็จฉันล่ะ!!!"
"ว้ากกก!!!"
หมัดที่ฉันออกไปถูกรับเอาไว้ได้ แต่ก็ เกือบโดนแล้วเหมือนกัน
"อะไรกัน เธอเองหรอกเหรอ?"
"สีหน้าเบื่อโลกแบบนั้นมันอะไรกัน ห๊ะ? ตั้งใจสู้หน่อย!"
ฉันกระโดดถีบตัวออกไปตั้งรับและ เตรียมจู่โจม
"แล้วทำไมฉันต้องมาสู้กับเธอด้วย?"
"นายทำฉันไว้แสบมาก~ ฉันจะ~ ไม่ยกโทษให้เด็ดขาด~!!!"
แค่นึกถึงก็เริ่มรู้สึกร้อนไปทั้วทั้งใบ หน้าที่ตอนนี้คงเปล่งประกายสีแดงเรื่อๆ ไม่รู้ว่าเพราะโกรธที่โดนสอยหรือเขิน เพราะโดนจับถอดเสื้อกันแน่
"ดะ เดี๋ยว!"
"หนวกหู!!! ย้ากกก!!!"
ฉันพุ่งเข้าไปและรัวหมัดเข้าใส่เขา แต่ เขาก็ตั้งรับด้วยมือของเขาเท่านั้น หมัดที่ รับไว้ไม่ทันแล้วพุ่งไปโดนตัวเขาก็มี
"ดะ เดี๋ยวก่อนสิครับทั้งสองคน!"
"หุบปากไปเลย! ฉันจะสำเร็จโทษเจ้านี่ ที่บังอาจทำกับฉันขนาดนี้~!"
"แล้วจะให้ปล่อยให้เธอตายอย่างงั้น เหรอยัยบ้า!"
"หุบปาก!!!"
เสียงร้องตะโกนของฉันเริ่มสูงและเล็ก แหลมลงเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไมจู่โจมไปตั้งเป็น ชุดขนาดนี้เขากลับไม่ตอบโต้กลับมาเลย เพียงแค่ใช้มือรับไว้เท่านั้น ดาบที่ฉันเคย ขโมยไปก็ไม่ยักกะหยิบออกมาใช้
"เป็นอะไรไปล่ะ?! ไม่คิดจะสู้รึไง?!!"
"ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องสู้กับเธอ นี่นา!"
"อย่ามาทำปากเก่งนะยะ!!!"
คราวนี้ฉันทั้งเตะทั้งต่อยและค่อยๆรุก ไล่หมอนั่นไปเรื่อยๆ
"ย้าก!!!"
"ระวังหน่อยสิ! เห็นกางเกงในหมด แล้ว!"
"ว้าย! นายมองเหรอยะ?!"
"ก็จะให้ทำยังไงเล่า?!! มันเป็นเหตุสุด วิสัยนะ!!!"
"นายนี่มันบ้าที่สุด!!!"
ฉันเขินเพราะถูกเห็นของที่ไม่ควรจะ เห็นก็เลยออกหมัดและเตะเร็วขึ้น แต่ไม่ ว่าจะรุกไปเท่าไหร่เขาก็เอาแต่ตั้งรับและ หลบไปเรื่อยๆโดยไม่คิดจะสู้เลย
"พลังสายฟ้าของนายน่ะหัดใช้ออกมา ซะมั่งเซ่! ไม่งั้นได้โดนฉันเสยคอแน่!"
"จะให้ใช้พลังกับเธอเนี่ยนะ? ไม่มี ทาง!"
"จะปากดีได้อีกนานเท่าไหร่กันเชียว!"
ในตอนนั้น ฉันได้แต่คิดว่าเขาแค่ทำ เป็นอวดเก่งไม่อยากโจมตีผู้หญิงหรือคนที่ อ่อนแอกว่า น่าสมเพชสิ้นดี
ทันใดนั้น เสียงอันคุ้นหูก็ดังขึ้นมาจาก ด้านข้างของบริเวณพื้นที่สนามประลอง
"คิฟุโคะ! หยุดเดี๋ยวนี้!!!"
"หวะ หวาย~ ปู่!"
ปู่ของฉัน'พิสคินส มาโฮสึไค' เขาคือ จอมเวทย์ผู้ปราดเปรื่องและเก่งกาจที่สุด เท่าที่ฉันเคยเห็นมา แต่นับเฉพาะนักเวทย์ นะ ถ้าเทียบจากการใช้อาวุธละก็เคยเห็น คนเก่งกว่าเหมือนกัน
"มาทะเลาะอะไรกันดึกดื่นเอาป่านนี้!"
"ชิ!"
ฉันได้แต่จุ๊ปากอย่างไม่พอใจ
"เอ่อคือ...เธอไม่ผิดหรอกครับ ผมเองนี่แหละที่ไปทำให้เธอโกรธน่ะ ถึงจะไม่ ตั้งใจก็เถอะ"
"ทีงี้รีบยอมร้บเชียวนะยะ!"
"อะไรของเธอนักหนาเนี่ย จับผิดคน อื่นเขาอยู่เรื่อย"
คนที่เข้ามายุติสงครามปากที่กำลังจะก่อ ตัวขึ้นก็คือปู่ของฉัน
"พอได้แล้วทั้งสองคน! อย่าส่งเสียงดัง ให้มันมากนัก นี่มันกลางคืนแล้วนะ!"
"ครับ..." "ค่า..."
ไม่รู้ทำไมถึงได้ตอบกลับไปพร้อมกัน น่าหงุดหงิดจริงๆ
"เจ้าเป็นใครงั้นรึ?"
"ผมชื่อ'เมอร์ซี่ ทันเดรียส'มาจาก พัลเลเทียด้วยธุระบางอย่างน่ะครับ"
วินาทีนั้นปู่ทำหน้าตกใจอย่างดูไม่จืด ไปครู่นึง ส่วนฉันก็แซวกลับไป
"เมอร์ซี่(Mercy)งั้นเหรอ มิน่าถึงเอา แต่รับ พวกปอดแหกละสิ"
"เมอร์ซี่แปลว่าเมตตาเฟ้ย!"
หลังจากที่ปู่กลับมาทำหน้าแบบปกติ เขา ก็เข้ามาห้ามพวกเราอีกครั้ง จากนั้นก็หัน ไปคุยกับคุณนักดาบที่ชื่อว่าเมอร์ซี่อะไร พิลึกๆนั่น
"แล้วทำไมมาอยู่แถวนี้มืดค่ำเอาป่านนี้ ล่ะ?"
"ผมกำลังออกเดินทางแล้วก็ยังหาที่พัก ไม่ได้น่ะครับ"
ครู่ต่อมาปู่ก็ทำท่าเหทือนกับจะนึกอะไร ออกแล้วก็ยิ้มแบบมีเลศนัยเล็กน้อยจนฉัน เสียวสันหลังไป ปู่ต้องหาเรื่องเทศนาฉัน อีกแน่เลย
"งั้นมาพักที่บ้านฉันมั้ยล่ะ?"
"เอ๋?!" "หา??!!!"
ไม่รู้ทำไมถึงได้ร้องอุทานออกมาพร้อม กันอีกแล้ว น่าโมโหชะมัด ไม่สิ! ก่อนหน้า นั้นทำไมปู่ถึงจะให้ตานี่มานอนอยู่ใต้ชาย- คาเดียวกับฉันล่ะ?!
"เดี๋ยวสิปู่! หมายความว่ายังไงกันน่ะ ?!!"
"ใจเย็นหน่อยสิคิฟุโคะ ไม่รู้ว่าไปมี เรื่องอะไรกันนะแต่เจ้าอยากสู้กับเขาไม่ใช่ เรอะ?"
"ค่ะ!"
"งั้นก็ค่อยสู้กันพรุ่งนี้ก็ได้นี่ ถ้าเขาได้ มาค้างที่บ้านเราตอนเช้าก่อนเขาจะไปก็ มีโอกาสจะทำอะไรกับเขาก็ได้นี่เนอะ"
"เป็นประโยคที่ฟังดูล่อแหลมชะมัด"
"หา?"
ฉันได้แต่งงกับสิ่งที่ตานั่นพูด
"ตกลงได้มั้ยล่ะ? แล้วจะงดเรียนพรุ่งนี้ ซักวันนึง"
"ก็ได้ค่ะ..."
เจอแบบนี้ฉันก็ได้แต่ตอบตกลงไปโดย ไม่เต็มใจนัก แต่จะได้หยุดพักวันนึงก็ดี เหมือนกัน จะได้หัวโล่งๆซักวัน
"อ่ะ ไม่เป็นไรหรอกครับ เกรงใจนิด หน่อยน่ะครับ..."
"ไม่เป็นไรหรอก นายมาพักที่บ้านฉันก็ ได้นะฉันไม่ว่า"
"เมื่อกี้ยังมีปัญหาอยู่เลย..."
"ไม่ดีเหรอครับคุณเมอร์ซี่? ได้ที่พัก ฟรีๆนะ"
"เล่นกดดันกันอย่างนี้ก็คงต้องขอพัก ซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย..."
เขาสบถออกมาอย่างเซ็งๆเล็กน้อยแต่ก็ ดูเหมือนจะไม่ได้มีปัญหาอะไร สีหน้าก็ยัง คงดูหน้าสมเพชเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
...
"งี้นี่เอง เรื่องมันเป็นอย่างนี้สินะ..."
"ก็ประมาณนั้นล่ะครับ"
ทั้งสองคนกำลังทานมื้อเย็นไปพลาง คุยกันถึงเรื่องเมื่อเช้าไปพลาง ฉันเองก็ได้ แต่นั่งกินเงียบๆแล้วก็นึกแค้นใจที่โดน เล่นงานซะได้ แถมยัง...
"เป็นอะไรไปคิฟุโคะ?"
"นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องฉันหรอก!"
ก่อนที่จะมาที่นี่ปู่บอก(แกมบังคับ)ให้ฉันแนะนำตัวกับเขาไปแล้ว เขาถึงได้เรียก ฉันว่าคิฟุโคะ ส่วนฉันก็ได้รู้จักชื่อจริงของ เขานั่นคือเมอร์ซี่ ทันเดรียส ชื่อต้นฟังดู เห่ยแต่นามสกุลเท่ชะมัด...
"ที่จริงเจ้าควรจะขอบคุณเขาด้วยซ้ำนะ คิฟุโคะ ไม่งั้นเจ้าอาจจะไม่ได้มานั่งสวาปามมื้อเย็นสบายๆอยู่อย่างนี้หรอก"
"รู้แล้วน่า...ขอบคุณนะ..."
ฉันฝืนบอกขอบคุณไปตามที่ปู่ว่าพลาง ก็หันหน้าไปทางอื่น ไม่รู้ทำไมเจ้าบ้านั่นถึง ได้นิ่งไปพักใหญ่ๆ
"แล้ว...ไปวิ่งเล่นอยู่ในป่าไม่เป็นไร งั้นเหรอ?"
"ฉันจำทางกลับได้หรอกน่า..."
"ฉันเคยอ่านนิยาย มาหลายเรื่องนะ ที่ นางเอกมักจะชอบเกิดเรื่องเดือดร้อนแล้ว พระเอกต้องมาช่วยน่ะ..."
"นายคิดว่าฉันกับนายเป็นคู่พระนางในนิยายรึไงยะ?!"
"ไม่ได้คิด แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ พวกเราก็นั่งอยู่นี่จะไปอยู่ในนิยายที่ไหนได้ไงเล่า?"
ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแหม่งๆกับไอ้ประโยค ที่ว่าเราไม่ใช่ตัวละครในนิยายยังไงไม่รู้ แฮะ...
"ตอนนี้ที่พัลเลเทียคงวุ่นกันน่าดูสินะ"
"ก็คงประมาณนั้นล่ะครับ"
"งั้นเจ้ารีบเข้านอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ เสร็จธุระแล้วจะได้รีบไป ที่นอนก็นอนกับ คิ..."
"ผมนอนโซฟาได้ครับ" "ไม่เอาเด็ด ขาดค่ะปู่!"
วินาทีที่ฉันรีบตอกกลับคุณปู่ที่ฉันเริ่ม จับทางได้ว่าจะพูดอะไร ปู่ก็นิ่งอึ้งไปพัก ใหญ่ราวกับตกใจที่พวกเราพูดกันคนละ เรื่องแต่กลับสอดคล้องกันและมีเป้าหมาย คือปฏิเสธคุณปู่
"งัะ งั้นก็ไม่เป็นไร..."
สีหน้าแบบนั้นดูเหมือนกับคนที่กำลัง สำนึกผิดว่า'เล่นมากไปสินะ'ยังไงยังงั้น ไม่นานนักสีหน้าของปู่ก็กลับมาเคร่งขรึม อีกครั้ง
"งั้นเอาตามนั้นก็ได้"
...
ชักง่วงแล้วสิ คิดว่าน่าจะได้เวลาแล้ว
"ฉันไปนอนละ"
"ราตรีสวัสดิ์"
"อย่างนายไม่ต้องมาราตรีสวัสดิ์อะไรนั่นเลยนะยะ หลับให้เต็มอิ่มก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะซัดให้ร่วงเลยคอยดู"
สีหน้าของคุณนักดาบดูเซ็งๆเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นในแววตาที่ดูตลกของเขาดู เหมือนจะมีความรู้สึกหดหู่ปรากฏขึ้น ราว กับว่าก่อนหน้านี้ก็เคยพูดทุกวันอะไรอย่างนั้น หมอนี่คงจะมีน้อง เพื่อนหรือคนรักล่ะ สินะ
"งั้นฉันก็นอนดีกว่าแฮะ"
ยอมทำตามซะดื้อๆ...ไม่รู้ว่าตั้งใจทำ ตามหรือแค่ง่วงเหมือนกัน เป็นคนที่จับ ทางไม่ถูกจริงๆ เขาเป็นใครกันแน่นะ
'เมอร์ซี่ ทันเดรียส' ไม่ว่านายจะเป็น ใคร แต่ฉันจะล้มนายให้ได้คอยดู!
...
แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้า มาในหน้าต่างห้องนอนของฉัน แสงนั้น ทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ความรู้สึก นี้มันเหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปในวัย เด็ก ความอบอุ่นที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแม้ แต่กับพ่อหรือแม่ ความอบอุ่นอันแปลกและ ประหลาดราวกับ...
แสงสว่างในความมืด
"ฮ้าว~! หลับสบายจัง"
หมู่นี้ฉันมักจะฝันอย่างนี้บ่อยๆ ฝันว่า ตัวเองอยู่ท่ามกลางความมืด ทันใดนั้นก็มี แสงสว่างเปล่งประกายเจิดจ้าจนที่นั่นกลาย เป็นสถานที่อันสวยสดงดงามสุดที่โลกใบนี้ จะมีอยู่ได้ แต่ความมืดเองก็ไม่ได้จางหาย ไปโดยสิ้นเชิง
"ฝันแปลกๆอีกแล้วแฮะ ช่างเถอะ"
ตราบใดที่ฉันยังเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ที่ยังเป็นแค่นักเวทฝึกหัด ฉันก็คงไม่ได้ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรที่มันยิ่งใหญ่เหมือน การเปลี่ยนความมืดให้กลายเป็นแสงสว่าง หรือเรียกง่ายๆก็คงจะเป็นการทำลายความ ชั่วและดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องอะไรยังนั้น ฉะนั้นฝันนั้นมันหมายความว่าอย่างไรฉัน ก็ไม่อาจจะรับรู้ได้
ฉันเดินออกจากห้องนอนของตัวเอง บ้านฉันเป็นบ้านทรงตะวันออก ให้พูดให้ มันง่ายๆก็เป็นบ้านแบบวัฒนธรรมนิฮงนั่น แหละ เมื่อเทียบกับบ้านหลังอื่นๆในหมู่ บ้าน บ้านฉันก็ถือว่าใหญ่พอสมควร มีสอง ชั้น มองโดยรวมแล้วสร้างจากไม้ มีประตู เลื่อนที่สามารถทะลุไปยังสวนขนาดใหญ่ ได้ พอเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยูกาตะสั้นเอวสูง สีชมพูสดใส ผูกโอบิสีขาวปลอด แล้วก็สวม กระโปรงสีเดียวกัน ผ้าพันคอสีแดงสดนั่น ก็ไม่ลืมที่จะพันเอาไว้ตลอดเวลา จากนั้น ฉันก็เดินลงบันไดมาฉันก็มุ่งไปยังห้อง ครัวที่อยู่ถัดจากห้องอาหารเรียบๆ
หน้าที่งานบ้านเพียงหนึ่งเดียวของฉัน ในบ้านหลังนี้คือการทำอาหาร เวลานอก เหนือจากเวลาทำอาหารจนถึงทานมื้อนั้น เสร็จฉันก็มักจะนอนเอกเขนก ไปเที่ยว เล่นในป่า หรือไม่ก็เรียนกับคุณปู่ ฉันใฝ่ ฝันจะเป็นสุดยอดจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ จะเป็นตัวตนที่เรียกว่า'จอมเวทผู้ไร้เทียมทาน' แต่ ปู่มักจะพูดว่าด้วยนิสัยของฉันคงจะเป็นได้ ยาก
แต่ถึงกระนั้นฉันก็มีอีกฝันหนึ่ง ฝันที่ เป็นตัวจุดประกายฝันที่พูดถึงเมื่อครู่ มันคือ เหตุผลที่ฉันชอบที่จะเที่ยวเล่นไปในป่า ฝันที่มอบแสงสว่างให้กับจิตใจของฉันที่ เคยมืดมนอย่างรุนแรง แสงสว่างนั้นมัน เปล่งประกายอยู่ในใจฉันเสมอมา
เพื่อจะทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ สถานที่ ที่ฉันต้องไปก็คือพัลเลเทีย ตลอดเวลาที่ฉัน เริ่มพอจะดูแลตัวเองได้ฉันก็เที่ยวสำรวจ ป่าไปทั่วทุกซอกทุกมุมเพื่อจะหาทางไปยัง พัลเลเทีย จริงๆตอนนี้โอกาสที่ว่าก็มาถึง แล้ว ฉันสามารถออกเดินทางไปพัลเลเทีย ได้ทันทีเพียงแค่ฉันเอ่ยปากถาม'เขา' แต่ คิดดีๆแล้วสำหรับฉันมันก็อาจจะยากหน่อย เพราะตอนนี้ฉันมองเขาเป็นศัตรูที่ต้องเอา ชนะให้ได้ คงจะถามเรื่องนั้นลำบาก
"อ้าว! คิฟุโคะ ตื่นเช้าจังเลยนะ"
"เอ๋? งั้นเหรอคะ?"
ที่ห้องที่ถูกออกแบบไว้คล้ายๆห้องโถง สำหรับฝึกฝนขนาดเล็กมีนาฬิกาฟันเฟือง ที่ดูเหมือนจะใช้เหล็กเวทมนต์ตีเป็นเข็ม นั่นบ่งบอกเวลา 6 นาฬิกา 36 นาที มันถือ ว่าเช้ามากสำหรับฉันที่ปกติจะตื่นสายๆ
"เอ๋?! อะไรกัน?! ทำไมวันนี้เราถึงได้ ตื่นเช้าแบบนี้ล่ะ?!!"
ฉันได้แต่ยืนอึ้งกับภาพที่ปรากฏอยู่บน นาฬิกาที่กำลังบ่งบอกเวลาที่ฉันตื่นซึ่งปกติ จะต้องสายกว่านี้ ดังนั้นทั้งฉันทั้งปู่ถึงได้ งงไปตามๆกัน
"ละ แล้ว...หมอนั่นล่ะคะ?"
"อยู่ที่สวนน่ะ"
...
"แฮ่!!!"
"จะดูยังไงก็แค่ไฟย่อมๆเองแฮะ...คง ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่กำลังกายล่ะมั้ง?"
"ผมก็ว่างั้นครับ ผมพยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังจุดไฟไม่ได้เลย..."
เสียงนั้นฟังดูเศร้าๆ
"เฮ้! พวกนายทำอะไรกันน่ะ?!"
ฉันร้องถามเขาไปเมื่อเห็นเขายืนอยู่ใน สวนหลังบ้านของฉัน
"อ๋อ! จัดตารางฝึกช่วงเช้าอยู่น่ะ ไม่ใช่ ของฉันหรอก ของดราโก้น่ะ"
"คือว่าผมอยากจะเก่งขึ้นเร็วๆน่ะครับ"
เด็กผู้ชายคนนั้นเมื่อเช้าของเมื่อวานยัง ไม่เห็นเลย ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกมังกรซะ ด้วย คงจะแวะไปถ้ำมังกรก่อนมาที่นี่สินะ
"ยังไงก็เถอะ พร้อมรึยัง?"
"พร้อม?"
"ก็พร้อมสำหรับการประลองไง!"
พอเห็นเขาทำท่าเหมือนลืมก็เลยเผลอ ตวาดเขาไปราวกับว่าจะเตือนสติ
"อ้อ! นั่นสินะ งั้นเริ่มเลยมั้ย?"
"ตกลง!"
ฉันรีบกระโดดลงไปในสวนทันทีแล้ว วิ่งไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา
"ไม่คิดจะกินข้าวเช้าก่อนเหรอเมอร์ซี่คุง?"
อะไรกันน่ะ เพิ่งรู้จักกันแต่ปู่ก็ไปเรียก เขาแบบนั้นซะแล้ว
"ไม่เป็นไรครับ ถือซะว่าเป็นการออก กำลังกายช่วงเช้าละกัน"
"มั่นใจจริงนะ"
"ไม่เลยซักกะตี๊ด~!"
"อุ๊บ..."
เสียงสูงๆติดตลกท้ายประโยคที่เขาเปล่ง ออกมาทำเอาฉันถึงกับต้องกลั้นหัวเราะเอา ไว้
"เอ๊ะ?! นายไม่ใช้ดาบเหรอ?"
พอสังเกตดูดีๆที่กลางหลังเขาไม่มีฝัก ดาบเล่มนั้นสะพายอยู่
"อ๋อ ก็กะจะสู้กับเธอมือเปล่าน่ะ ถึงได้ ไม่มั่นใจไง"
"แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?! ฉัน อยากสู้กับเพลงดาบของนายนะไม่ใช่เพลง มวยตลกๆของนาย"
หมอนั้นตั้งท่าเตรียมต่อสู้ได้ดูตลกพิกล แต่ก็ดูเท่ดีเหมือนกัน เห็นแล้วฉันก็ต้อง กลั้นขำอีกครั้ง
"แต่จะให้ใช้ดาบจริงกับเธอมันก็..."
"ไม่อยากใช้ดาบจริงงั้นเหรอ?"
คุณปู่กำลังนั่งดูสถานการณ์อยู่ที่ริมชาน บ้าน ไม่รู้ไปเทชาใส่แก้วแล้วมานั่งจิบตั้ง แต่เมื่อไหร่ หรือจะใช้พลังเวทเสกมานะ?
"ก็...ประมาณนั้นล่ะครับ"
"งั้นก็เอานี่ไปสิ!"
คุณปู่โยนบางอย่างไปให้เขา เจ้าแท่ง นั่นหมุนเคว้งอยู่ในอากาศก่อนที่มือขวา ของหมอนั่นจะรับไว้ได้
มันคือดาบไม้ ความยาวประมาณครึ่ง เมตรกว่าๆเห็นจะได้
"โอ้! เจ้านี่ละของโปรดเลย ขอบคุณ ครับ"
"ถ้ายังไงจะเก็บไว้เลยก็ได้นะ"
"ครับ"
ไม่รู้ทำไมเขาถึงแสดงสีหน้าดีใจออก มากระทันหันขนาดนั้น
"งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วสินะ?"
"อ่า ไม่มีแล้วล่ะ"
"งั้นไปละนะ!"
ฉันพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วที่ฉันถนัด ตั้งใจจะต่อยใส่หมอนั่นไปเป็นหมัดแรก แต่ก็คิดไว้แล้วว่าหมอนั่นจะต้องหลบได้
"ฮึบ!"
"โอ๊ะ!"
ทันที่ที่หมอนั่นเยี่ยงตัวไปทางขวา เขา ก็ฟาดดาบไม้ในมือลงมา แต่ฉันก็ตั้งการ์ด ได้ทัน
"เป็นอะไร แรงนายมีแค่นั้นเหรอยะ?"
"โอ้! ป้องกันได้ด้วยแฮะ"
สีหน้าเหมือนจะชื่นชมจากใจของหมอ นั่นกับสีหน้าของปู่ที่เหมือนจะจับอะไรได้ ทำให้ฉันรู้สึกกดดันแปลกๆ
"อย่ามาดูถูกกันนะ!"
คราวนี้ฉันหมุนตัวตามเข็มนาฬิกา หัน มาฟาดขาขวาใส่ แต่เขาก็ใช้ดาบรับไว้ทัน พลางถีบตัวออกไป ฉันเลยสวนไปด้วย หมัดขวา คราวนี้หมัดเฉี่ยวหน้าเขาไป หมวกใบใหญ่ของเขาหลุดลอยไป
"โอ๊ะ เกือบไปแล้วแฮะ"
"คราวนี้โดนแน่!"
ฉันกระโดดหมุนตัวกลางอากาศ สร้าง แรงเหวี่ยงเตะขาขวาใส่เขา ซึ่งก็โดนเต็มๆ อย่างไม่น่าเชื่อ
"แอ้ก!!!"
"ไงล่ะ เข้าเป้าแล้วหนึ่งดอก!"
"หึ เพราะฉันไม่ได้มองหรอกน่า"
"ทำเป็นพูดไป!"
ฉันกระโดดถอยหลังไปเล็กน้อยตั้งท่า เตรียมต่อสู้
"งั้นคราวนี้ฉันบุกเข้าไปมั่งล่ะนะ!"
"อะ เอ๊ะ?!"
ไม่ทันได้ตั้งตัว หมอนั่นก็พุ่งมาด้วย ความเร็วสูงราวกับประกายแสงสายฟ้าเปล่ง ประกายสีฟ้าคราม ดาบนั่นฟาดรัวลงมาจน ฉันมองแทบไม่ทัน
"อะไรกัน! ทำไมถึงเร็วแบบนี้!"
ฉันไม่มีเวลาจะละสายตาจากคมดาบที่ฟาดลงมารัวๆได้เลย เพราะจะเป็นต้องตั้ง รับพายุคมดาบนั่นอย่างจริงจัง ไม่งั้นโดน ฟาดกลิ้งแน่
"นี่แหละ มันต้องอย่างนี้!"
เลือดเดือดพล่าน เลือดในตัวมันเดือด พล่านราวกับจะระเบิดออกมา ไม่เคยรู้สึก ตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน
"เมอร์ซี่ ทันเดรียส! ฉันจะต้องล้มนาย ให้ได้!"
"ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มก็ได้มั้ง"
ฉันเล็งช่องว่างที่เกิดขึ้นเพียงพริบตา ต่อยสวนกลับไปจนเขากระโดดออกห่าง ไปจากฉัน
"ใช้ไม้ตายของนายออกมาได้เลย!"
ฉันตั้งใจจะท้าทายให้เขาออกไม้ตายมา แต่เขากลับทำหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วก็ เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าน่าสมเพช
"มะ ไม้ตาย?! ไม่ดีมั้ง? พลังของฉันคือสายฟ้านะ"
"แล้วมันทำไม?"
"ดาบไม้ถือเป็นฉนวนไฟฟ้าไงล่ะ เจ้า ไม่ตั้งใจเรียนสิท่า"
"อึก!"
เจอจิกกัดเข้าไปฉันเลยได้แต่กลืน น้ำลายลงไปหนึ่งอึก
"งี้นี่เอง...นายใช้พลังได้ไม่เต็มที่งั้นสิ"
ฉันพยายามกลบเกลื่อนความอายของ ตัวเองด้วยการพูดเยาะเย้ยคู่ต่อสู้ตรงหน้า
"ช่างมันเถอะน่า..."
"งั้นก็เจอนี่หน่อนเป็นไง!"
ฉันรัวหมัดเข้าหาเขาไปชุดใหญ่ ขณะ เดียวกันก็สังเกตเห็นว่าหมอนั่นก็รัวดาบมาหาฉันเช่นกันจึงต้องคอยป้องกันเอาไว้
"ย้ากกกกก!!!"
"ย้ากกกกก!!!"
ในที่สุดทั้งดาบไม้และหมัดของฉันก็ หยุดนิ่ง คมดาบของหมอนั่นตอนนี้จ่ออยู่ที่ คอของฉัน ขณะเดียวกันหมัดของฉันก็ กางออกกลายเป็นฝ่ามือที่นิ้วทั้งห้าเรียงชิด ติดกันและจ่ออยู่ที่คอหอยของคู่ต่อสู้เช่น กัน
"เอาไงต่อละทีนี้..."
"อ่ะ เอาไงต่อน่ะเหรอ..."
ทั้งฉันและหมอนั่นต่างก็ไม่รู้จะทำยัง ไงในสถานการณ์นี้ ในเมื่อพวกเราพิฆาต จุดตายได้พร้อมกัน ถ้ามีใครเร็วกว่าซักนิด ล่ะก็คงรู้ผลไปแล้ว
เอาไงดีหว่า...
จังหวะนั้นเอง ฉันก็สังเกตได้ว่าท่าทาง ของเจ้าหมอนั่นเริ่มหละหลวม และแล้วจากบรรยกาศที่เคยตึงเครียดก็เริ่มสงบลง เปิดช่องว่างให้เห็นจนได้
"นี่แน่!"
"เหวอ!!!"
ฉันเตะขัดขาจนเขาล้มลง จากนั้นก็ใช้ ฝ่ามือของตัวเองบีบคอของเขาไว้เบาๆแต่ เกร็ง
"รู้ผลแพ้ชนะแล้ว!"
"เอ่อ...'ทานโทษนะ นี่เราพัฒนาความ สัมพันธ์กันไปถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ?"
จังหวะที่ฉันเงื้อหมัดขวากำลังจะตะบั้นหน้าคุณนักดาบจอมวางท่า(มั้ง?) สีหน้าน่าสมเพชของหมอนั่นก็เตือนให้ฉันรู้ว่า ตอนนี้ฉันกำลังคุกเข่าขึ้นคร่อมตัวเขาที่ นอนอยู่บนพื้นหญ้า
"วะ ว้าย!!!"
ฉันเผลอเปิดช่องว่างให้เห็นไปพัก หนึ่ง ดวงตาของเขาจึงเปล่งประกาย
"เสร็จล่ะ!"
"อะ หวา!!!"
เขาจับมือฉันดึงออกมา ฉันตกใจจึง ดึงตัวขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะถูกจับมือไว้อีก ข้างแล้วดันไปข้างหลัง ฉันล้มลงนอนบน พื้นหญ้าอย่างไม่พึงประสงค์นัก
นี่มัน'ยูกะดง'โดยสมบูรณ์เลยนี่นา...
"ยังไงซะก็ถือว่าต่อสู้ได้ดีมากเลยล่ะนะ คิฟุโคะ"
ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจอะไรซัก อย่างนั่น บวกกับถูกเขาเรียกชื่อต้นซึ่งปกติ แล้วชาวนิฮงจะนิยมเรียกเฉพาะคนที่สนิท มากๆ แถมยังอยู่ในท่านี้อีก ฉันจึงระเบิด ความเขินออกมาสุดขีด
"วะ ว้าก!!!"
"เอ๊อะ?!!"
ฉันกระทุ่งเข่าแทงท้องเขาจนลงไป นอนฟุบคว่ำหน้าหลังจากที่ฉันรีบลุกออก มา
"ทะทะทะทะทะ ทำอะไรของนายน่ะ?!"
ฉันไขว้มือเอาไว้ราวกับจะปกป้องร่างกายของตัวเองเต็มที่ ตะโกนถามไปด้วยความเขินอายสุดขีด แต่เขาก็ไม่ตอบอะไร ได้แต่นอนฟุบหน้าคว่ำอยู่อย่างนั้นราวกับสิ้นสติไปแล้ว
"อ่ะ...จ่ะจ่ะ...เจ็บ..."
และแล้วฉันก็นั่งแหมะลงตรงนั้น สติ แทบจะจางหายไปจากร่างกายโดยสิ้นเชิง
...
"ทานละนะคะ~!"
"ดูมีความสุขจังนะ..."
ฉันในตอนนี้ยิ้มหน้าบานพลางใช้ตะเกียบคีบข้าวเข้าปากจำนวนหนึ่ง ตามด้วย เนื้อหมูทอด
"ก็ได้ออกกำลังซะขนาดนั้นนี่นา คุ้มแล้วล่ะที่งดเรียนให้เจ้าวันนึงนะคิฟุโคะ"
ผลการต่อสู้ออกมาเสมอกัน เพราะต่าง ฝ่ายต่างก็พิฆาตจุดตายได้พร้อมกันแถมยัง สะกดอีกฝ่ายให้ตกอยู่ในสภาพเหมือนพ่าย แพ้ได้ทั้งคู่ แต่แค่นั้นฉันก็ดีใจแล้วล่ะ เพราะที่ผ่านๆมาไม่เคยได้ต่อสู้กับใครจริงๆจังๆเลย
"คุณเมอร์ซี่นี่เก่งจังนะฮะ"
"ไม่หรอก..."
"แล้วจากนี้จะเอาไงต่อ?"
ฉันนั่งทานมื้อเช้าไปเรื่อยๆพลางนั่งฟัง บทสนทนาระหว่างปู่กับเมอร์ซี่(และดราโก้ ด้วย)เงียบๆ
"ก็คงต้องออกเดินทางต่อน่ะครับ ผม ไม่ค่อยจะมีความสามารถในการจับพลัง เวทของลูกแก้วได้ก็เลยต้องรีบหน่อย"
"ทั้งๆที่นายมีพลังสายฟ้าขนาดนั้นเนี่ยนะ?"
ฉันยังไม่เคยลืมเหตุการณ์อันน่าอับอายครั้งนั้น แค่ก้อนหินก้อนเล็กๆที่เจ้านั่น จว้างมาก็อัดแน่นไปด้วยพลังงานที่เอ่อล้น อย่างน่ากลัวจนถูกเล่นงานเข้าจนได้
"คนเรามันก็ต้องมีเรื่องที่เก่งและไม่เก่งกันบ้างล่ะน่า..."
"นั่นสิเนอะ..."
ไม่นานหลังจากที่เรากินมื้อเช้าเรียบ ร้อย หมอนั่นก็กล่าวอำลาแล้วก็เดินออกไป ก็นะ เขายังมีภารกิจที่ต้องไปทำอีกนี่นา...
"งั้น ผมไปละนะครับ"
"เดี๋ยว! เมอร์ซี่!"
"หืม?"
ประโยค(ที่จริงควรจะเรียกว่ากลุ่มคำ) ต่อไปนี้คงจะเป็นประโยคที่หลายๆคนที่รู้ จักฉันคงจะตกใจที่ได้ยิน
"ขอบใจนะ"
"อะ อืม..."
ความคิดเห็น