ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ᴅ ᴀ ᴛ ᴀ ᴅ ᴇ ɴ ᴀ s ᴄ ɪ ᴍ ᴇ ɴ ᴛ ᴏ

    ลำดับตอนที่ #3 : Puppet

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 61


                 



    These feeling in within me
    your touch and your temptations
    chained on misunderstanding’s poker face


    All piling on upon me
    looking for imitations I know will lead to merry chase 


    The moment then when our eyes met
    unknowing still yet 
    That something so crystal clear and so
    wanting could beset



    Even right before the start 
    there you hear my beating heart 
    A signal like a nerve impulse 
    The sky stays afloat sweeping off my stains,
    holding on me tight… away from night 







    Late in the pitch-black night
    Waiting for the arrival of daylight, thinking for the seventh time


    Who whispers in my dreams?
    Who are you? What are you looking for?
    The dark confusion of now


    To fill the hollowness of my heart
    Idly chattering, blindly gathering
    Taking those lonely memories
    Trying to discard them all in the next world



    One question, combined into two 
    In the third geng, caged in four directions Wearing five robes,
    transcending the six paths, but those are just seven shadows


    The mouth's questioning voice 
    Who am I? Asking in doubt 
    Clad in eternal darkness 
    Lead me to the asura path









        


    " People think they know me well, but they don’t. 
    It’s just me behind the mask. 
    What a ridiculous thought, don’t you think so? “


    『彼らは私のことを知っていると思い込んでいる、
    実は被っている仮面しか知らないくせに。
    笑えるね、そう思わない?』





         บทบาทที่ต้องการ ::  ll เพศชาย / เพศหญิง ; อายุ 15 ปี ll BO - Bold II

         ชื่อ-นามสกุล :: ทามายูระ โนวา II Tamayura Nova II 玉響 ノバ      ชื่อเล่น :: โนวา ll Nova  

                               ทามายูระ II Tamayura II 玉響 II fleeting moment II ชั่วขณะหนึ่ง

                               โนวา II Nova II ノバ II Chases butterfly II ไล่จับผีเสื้อ

                                     แปลโดยรวม II ห้วงเวลาหนึ่งที่ได้ไล่จับผีเสื้อ


            อายุ :: 15
            เพศ :: หญิง
            สัญชาติ :: ญี่ปุ่น
            รูปร่างหน้าตา ::


                เด็กสาวที่มีขนาดตัวเล็กราวกับตุ๊กตา ร่างกายนั้นบอบบางและผอมจนเห็นได้ว่าเรียวแขนและรูปร่างของหล่อนนั้นดูเด็กไปกว่าอายุจริง เค้าโครงที่หากไม่มีเสื้อผ้าใหญ่ๆสวมก็จะเห็นเค้าโครงกระดูกอย่างชัดเจน และเพราะเธอที่มาจากเอเชียยิ่งทำให้เธอนั้นดูบอบบางยิ่งกว่าผู้คนทั่วไป ผิวขาวเหลืองที่ขาวจนซีดราวกับไม่ถูกตากแดดที่ไหนมาก่อน ดวงหน้าหวานที่ไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตาด้วยใบหน้าที่น่ารักน่าชั่ง ถึงจะไม่งดงามจนชวนสรรเสริญหรือต้องเปรียบเทียบให้เหมือนพรของพระเจ้า แต่ความน่ารักและความงดงามของหล่อนก็หยุดสายตาของผู้คนมานักต่อนัก โดยเฉพาะอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเอ่ยได้มันช่างหอมหวาน และ งดงาม

                ใบหน้าของหล่อนเป็นรูปทรงไข่ พวงแก้มนั้นค่อยข้างไปทางตอบมากกว่ามีน้ำมีนวลมันไม่ค่อยขึ้นสีแดงระเรื่อเหมือนคนอื่นหนำซ้ำยังค่อนข้างไปทางซีดเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง คิ้วเป็นทรงสวยที่ไม่หนาไม่บางเกินไปอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาคู่สวยนั้นไม่สะท้อนความรู้สึกเหมือนมันเป็นเพียงแค่ลูกแก้ว ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเธอกำลังจ้องมองอะไรเพียงแค่สะท้อนภาพยามที่หล่อนจ้องมอง แสงที่กระทบมายังดวงตาแตกกระจายออกมาเป็นหลากหลายสีราวกับอัญมณีอเล็กซานไดรท์ บางครั้งก็เห็นหล่อนมีนัยนตาสีแดงก่ำราวกับเลือดนก บางครั้งก็เห็นนัยน์ตาของหล่อนเป็นสีเขียวมรกตกรอบล้อมด้วยขนตาแพหนางอนงาม จมูกโด่งรั้นปลาย ริมฝีปากกระจับคู่สวยที่มักจะหยักเป็นรอยยิ้มบางๆ แม้ดวงตาจะไม่ยิ้มตามรอยยิ้มเลยสักนิด ใบหน้าของหล่อนถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์เบาๆ แป้งกลิ่นหอม ริมฝีปากที่ทาเบนิเครื่องสำอางค์แบบญี่ปุ่นโบราณ(คลิก) น้ำหอมที่เธอมักจะใช้เป็นน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆกลิ่นสะอาดๆเหมือนแป้ง


                เส้นผมเส้นละเอียดสีดำขลับไม่มีสีใดมาเจือปน ความยาวของมันแทบจะเลยสะโพกแต่ก็ถูกรวบผมหลวมๆเอาไว้ เธอมักจะประดับด้วยดอกไม้สีแดงสดไว้บนเรือนผม เป็นดอกสึบากิสีแดงก่ำ ส่วนใหญ่เธอมักจะสวมกิโมโนญี่ปุ่นอยู่เสมอหากไม่ได้สวมยูนิฟอร์ม บางครั้งเธอก็มักจะสวมฮาโอริซ้อนทับยูนิฟอร์มและออกเดินเล่นไปทั่ว ฮาโอริของเธอนั้นแขนจะยาวเหมือนแขนเสื้อฟุรุโชเดะในขณะที่ตัวเสื้อนั้นจะสั้น เธอมักจะชอบเดินเท้าเปล่า โดยมิใส้ถุงเท้า ไม่ว่าตรงนั้นจะเป็นพื้นหญ้า พื้นหินที่ขรุขระหรือผืนทรายที่ร้อนรุ่ม




            ลักษณะนิสัย ::






    กระต่ายเดือนสามที่หลงมาจากวันเดอร์แลนด์ 

    mad as a March Hare



                มีพฤติกรรมที่ไม่สามารถคาดเดาได้ บิดเบือน เธอไม่เหมือนบุคคลธรรมดา แม้ภายนอกของเธอนั้นจะงดงามชวนหลงใหล แต่สภาพจิตใจของเธอนั้นราวกับถูกทารุณมาอย่างหนักหน่วง จนไม่รู้จักการใช้ชีวิตของตน มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะต้องสงบสติอารมณ์ หนำซ้ำยังสมาธิสั้น ไม่สามารถจดจ่อกับอะไรนานๆได้ หากได้รับแรงกดดันที่มากเกินไปนั้นจะทำให้เธอสติแตกได้ง่ายๆ และเธอตื่นกลัวทุกอย่างแทบบนโลกใบนี้เสียจนน่าแปลกใจว่า เหตุใดเธอถึงใช้ชีวิตได้จนถึงอายุ15ปี นับเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างหนึ่ง แต่ โนวาก็พยายามใช้ชีวิตให้เหมือนคนปกติ



                โนวานั้นแทบจะตัวสั่นเหมือนกวางแรกเกิดอยู่เกือบตลอดเวลา เธอไม่สามารถมองตาใครตรงๆได้ หรือแม้แต่จะห้ามเสียงไม่ให้ตนเองพูดเสียงดัง เธอมักจะหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลาหรือทุกอย่างที่มีโอกาสทำร้ายเธอได้ ผลพวงก็คือเธอไม่กล้าออกจากบ้าน และกักตัวเองอยู่ภายในคอมฟอร์ทโซน ในใจของโนวานั้นรู้ดีว่าตนไม่ปกติ และ อยากหายจากโรคนี้ เธอพยายามต่อสู้อยู่บ่อยครั้ง แต่เธอไม่สามารถทนต่อความหวาดกลัวของตนเองได้ จึงกลับไปอยู่ในคอมฟอร์ทโซนตลอด



                รือจะเรียกง่ายๆว่า เธอเป็นคนที่พยายามไม่สุด และ ท้อแท้กลับไปก่อน หากไม่มีแรงกระตุ้นที่ดีมากพอ โนวาก็จะย่ำอยู่กับที่ เปรียบเทียบก็เหมือนการพับกระดาษ คนทั่วไปสามารถพับได้ตามแบบ แต่โนวานั้นไม่สามารถทำได้ เธอจะตื่นกลัวไปก่อนเหตุว่ามันยาก ด้วยความกลัวจึงทำให้มันตะกุกตะกัก มันจะยับยู่ยี่ และอีกนิดเดียวเธอก็จะทำสำเร็จ แต่คิดเองเออเองไปก่อนว่า เธอทำไม่ได้แน่ๆ สุดท้ายก็ล้มเลิกไปทั้งๆที่ยังเหลืออีกแค่สองสามขั้นตอนแล้ว ดังนั้น โนวานั้นต้องการแรงผลักดัน หรือ คำพูดที่ให้กำลังใจ คำพูดที่ฟังแล้วสามารถทำให้โนวาอุ่นใจ และ ลองที่จะก้าวผ่านมันไปได้ การกระตุ้นเธอโดยการดุด่านั้นมันจะส่งผลให้ทางที่แย่ลง ยกตัวอย่างเช่น เพราะแบบนี้ไงเธอถึงทำไม่ได้ มันจะทำให้โนวารู้สึกไร้ค่าแต่ถ้าพูดกับเธอว่า ลองทำแบบนี้ดูมั้ย พับแบบนี้ และ ตามด้วยแบบนี้ แนะนำและสั่งสอน โนวาจะรู้สึกอุ่นใจ และ ทำตามคำแนะนำของอีกฝ่าย






    เชื่อฟัง และ มักคำตามคำสั่ง




    เปรียบเสมือนนายทหาร เธอมักจะปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่ว่าใครจะชักชวนหรือหลอกล่อเธอ มันก็จะไม่ได้ผล เธอยึดฟังคำสั่งแรกที่สมองรับผล มากกว่าคำสั่งที่สองจากคนล่ะคน เช่น หาก a สั่งให้ระบายสีฟ้า แล้ว b ก็แย้งว่าต้องทาสีแดง โนวาก็จะยืนยันที่จะทาสีฟ้า เพราะ a เป็นคนบอกให้ทา โนวามักจะอยู่ในกฏระเบียบได้อย่างดีเยี่ยม รักษาเวลา ตรงต่อเวลา ปฏิบัติตนตามตารางที่กำหนด และจะรู้สึกไม่สบายใจมากๆ หากได้ทำอะไรก็ตามที่นอกเหนือสิ่งที่เธอกำหนด ไม่ว่าจะจำเป็นหรือไม่ นั้นก็อาจจะทำให้เธอแพนิคได้



    เธอเชื่อเรื่องที่ผู้อื่นพูดได้ง่ายมาก หนำซ้ำยังเป็นคนที่หากได้จำอะไรแล้วจะไม่มีวันลืม โรค HSAM หรือ Hyperthymesia เป็นอาการที่สามารถจำได้แม้ตั้งแต่แรกเกิด รสชาติของน้ำนม ความรู้สึกในตอนที่เธอเป็นวัยเยาว์ ความเจ็บปวดที่หกล้มตอนอายุ 1 เดือน บางอย่างที่เธอกลัวตอนเด็กตอนนี้ก็กลายเป็นเรื่องฝั่งใจ เธอสามารถจำได้ละเอียด รวมถึงจำเนื้อหาหนังสือที่ตนเคยอ่านได้ แต่โรคนี้สร้างความเดือดร้อนให้เธอเป็นอย่างมาก หากมีคนถามถึงความทรงจำของเธอ ต้องชี้แจ้งอย่างละเอียด เช่น ข้าวเที่ยงกินอะไรไป ข้าวเที่ยงในวันไหน เมื่อวาน ปีที่แล้ว? ตอนอายุเท่าไร? เธอสามารถจดจำได้หมด และสมองก็จะขุดความทรงจำที่เธอทานไปเมื่อกัน ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง เหมือนกับฉายวนไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุด มันแทบทำให้เธอคลั่ง เช่นวันที่2 ตอนเที่ยงเธอทาน คาโบนา่รา วันที่15 เธอก็ทาน คาโบนาร่า สมองก็จะเปรียบเทียบสองวันนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนจิตหลอน เหมือนทุกเช้าเราลุกจากเตียงแล้วก็จำได้ว่าเมื่อวานเราก็ลุกจากเตียงแบบนี้แล้ววนลูปไปเรื่อยๆ เหตุการณ์เดิมซ้ำๆ


    จะเหมือนเดจาวู เหมือนเคยเจอเหตุการณ์นี้มาแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็จะฉุดคิดขึ้นได้ว่า วันก่อน วันนั้น ปีที่เท่าไร เธอทำแบบนี้มานี้เอง โนวาเจอเดจาวูแบบนี้ทุกวันจนหลอน ดังนั้นส่วนใหญ่ เธอมักจะอาศัยอยู่โดยที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งและ ใช้สัญชาตญาณตัวเองเป็นหลัก

    แยกแยะเรื่องถูกผิดอย่างชัดเจน และจะไม่กระทำตัวที่เป็นสิ่งที่ผิดในความคิดของเธอ






    หูเบาและเชื่อคนง่าย ไม่ว่านั้นจะเป็นคำพูดที่หอมหวาน หรือ คมลึกราวกับคมมีด





    ราวกับหุ่นยนต์ที่เมื่อป้อนคำสั่งเธอก็คล้อยตามอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดใครคนแปลกหน้า คนที่ไม่รู้จัก คำพูดต่อปาก ตัวอักษรในหนังสือราวกับไม่มีหัวคิด เพราะความอ่อนไหวแม้จะพยายามปิดกั้นยังไงคำพูด ตัวอักษร วาจาทุกอย่างทิ่มแทงมาที่หล่อนไม่ต่างอะไรกับมีด เธอเปิดรับทุกคำพูดโดยไม่สนว่านั้นเป็นคำพูดที่ดีหรือเป็นคำพูดที่เลวร้าย แม้จะดูโง่ที่เชื่อทุกคำพูดของผู้อื่นแต่เธอฉลาดเสียจนน่าตกใจ แม้จะโดนหลอกได้ง่ายๆ แม้จะวิ่งเต้นไปบนน้ำมือของคนอื่นได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ค้นพบว่าเธอไม่ได้ถูกล่อลวงเหมือนกับมีเสียงกระซิบที่ข้างหูคอยบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งหล่อนนั้นเชื่อน้ำเสียงข้างใบหูมากกว่าพวกคุณ



    มันเป็นอะไรที่บ้าคลั่งไปมากกว่าคำว่าเชื่อคำพูดของคนอื่น เธอไม่ต่างอะไรกับม้าที่ถูกล่อด้วยแครอท ทั้งคำยั่วยุ ทั้งคำชื่นชม ทั้งคำด่า คำสั่งที่ถูกป้อนหากเป็นบุคคลที่เธอไว้ใจมาก ต่อให้มีคำสั่งว่า'ฆ่า'เธอก็คงทำโดยไม่ต้องคิด เธอราวกับน้ำที่ตามลำธารไปยังเส้นทางที่ถูกสร้างเอาไว้ เหมือนเธอที่ตามผู้อื่น โดยไม่คิดที่จะขัดขืน เธอมีอาการแพนิค เนื้อตัวมันจะสั่นเทาหวาดกลัว แตกตื่นราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังตื่นกลัว โนวาเธอมีมองในมุมมองที่ทุกคนไม่มอง ช่างสังเกตุ และ ค่อนข้างคิดมาก แต่ขอย้ำกว่าเธอไม่ได้เชื่อฟังทุกคนเธอเชือเฉพาะบางคนที่หล่อนไว้ใจเท่านั้น


    โนวานั้นมีข้อเสียมากกว่าข้อดี เธอไม่ใช่คนที่ค่อนข้างไปทางขาว เธอกลับค่อนไปทางสีดำ ทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนอยู่รอดปลอดภัยจากสังคมไม่ว่ากลวิธีนั้นจะเป็นการปลดชีวีตนเองหรือผู้อื่น พยายามจิตนาการให้ทุกอย่างสวยงามเพื่อชนะความคิดในแง่ลบ หลอกตัวเองว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นสิ่งที่ดี โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง ทั้งๆที่ดูสงบ แต่ภายใต้ความสงบนั้นคือพายุอันบ้าคลั่ง คุยกับตัวเอมองโลกในแง่ลบ และ ตื่นกลัวไปกว่าเหตุ มองทุกอย่างเป็นพิษเป็นภัย ขี้กลัว ชี้ขลาด และหูเบา เธอพร้อมจะเชื่อทุกอย่างจากเสียงกระซิบภายในหัว แม้ว่าจะเป็นคำลวงหรือกับดัก ฟังคำสั่ง และ ทำตามอย่างว่าง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดี แม้ต้องช่วงชิงชีวิตคนอื่นก็จะทำ







    แต่ทั้งหมดนี้เป็นนิสัยก่อนที่เธอจะพบเจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล




    ความบิดเบี้ยวที่ดำมืด



    นิสัยที่เคยกล่าวขึ้นมาขั้นต้นสามารถลืมเลือนไปได้เลย เธอเป็นความดำมืดราวกับก้นบึ้งใต้ท้องทะเลภายใต้รอยยิ้มจางๆที่มุมปาก ดวงตาคู่สวยที่ไม่มีแววตาใดๆ ทำทุกอย่างที่ตนพอใจ ทำอะไรตามอารมณ์ของตัวเองโดยไตร่ตรองมาแล้ว ชมชอบสิ่งใหม่ ๆ ไม่เคารพกฎระเบียบของสังคม รักอิสระ ทั้งอารมณ์ร้อน ไร้ยางอาย พึ่งพาตนเอง ไม่ใส่ใจ ไม่โอ้อวด คาดเดาทั้งอารมณ์และความต้องการได้ยาก ทะนงตัว ถือทิฐิ รังเกียจกฎเกณฑ์และกฎระเบียบทางสังคมทุกอย่าง แต่ถึงกระนั้นก็วางตัวดีในสังคมเพื่อซ่อนเขี้ยวเล็บของตนเอง ชื่นชอบความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้ดิ้นรนหรือใช้ความรุนแรง พูดง่ายๆว่าชอบเฝ้ามองความรุนแรงและการขัดแย้งต่างๆ หล่อนไร้ซึ่งน้ำตาที่หลั่งให้แก่ผู้คน หรือแม้แต่ไร้ซึ่งความรักที่จะมอบให้ ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะให้ความร่วมมือกับความเลวร้าย(ตัวร้าย) หรือด้านมืด


    เป็นคนที่เห็นแก่ตัว ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตัวเอง ก้าวไปข้างหน้าได้โดยไม่คำนึงถึงคนอื่น ชอบที่ทุกคนให้ความเคารพและให้เกียรติหล่อน ตัดตัวเองออกจากความบริสุทธิ์และความเรียบง่าย ผูกพันมิตรภาพมากกว่าความซื่อสัตย์ ว่าง่ายๆคือว่าไม่ว่าจะถูกหรือจะผิดอย่างไร เธอก็เลือกพวกพ้องมากกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มองทุกอย่างเป็นผลประโยนช์ให้แก่หล่อน






    ดูลึกลับ เหมือนปริศนาหรือภาพจิ๊กซอว์ภาพหนึ่ง




    คาดเดาบุคลิกโดยแท้ได้ยาก ไม่ค่อยแสดงอะไรที่เป็นอัตลักษณ์จริงๆของตัวเองออกมามากนัก เธอไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง แม้จะมีคนถามเธอก็มักจะเฉไฉไปเรื่องอื่นโดยคำพูดนั้นก็น่าฟังหรือกิจกรรมเบี่ยงเบนความสนใจ ในขณะที่พูดบ่ายเบี่ยงเธอก็เกี่ยวปลายนิ้วเล่นไปกับเรือนผมของอีกฝ่าย ริมฝีปากก็ยกยิ้มพร้อมเอ่ยเสียงหวานที่สุภาพ " คุณคิดว่ายังไงล่ะ? " จากนั้นหล่อนก็ปิดปากเงียบไม่เอ่ยตอบอีก สงวนความเป็นส่วนตัว


    เธอมักจะแย้มยิ้มราวกับเหมือนรู้อะไรบางอย่างซึ่งอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้? แต่บางครั้งหากมีเรื่องอะไรที่หล่อนต้องการจะช่วยเหลือ คำพูดคำจาที่เธอเอ่ยขอร้องอาจจะไม่เป็นประโยคขอร้อง แต่เป็นประโยค......ข่มขู่ก็ได้นะ? แม้จะไม่ได้พูดตรงๆในเชิงข่มขู่ แต่แค่เธอเกริ่นลอยๆพร้อมสีหน้าที่ไม่ยิ้มตามดวงตาก็บ่งบอกแล้วล่ะว่าเธอรู้อะไรบางอย่างแน่นอน เธอรู้ความลับของทุกคน แต่หากว่ารู้ได้ไง เธอก็จะบอกแค่ว่าเธอมีหูมีตาอยู่ทุกหนแห่งและที่เธอบอกว่ามีอยู่ทุกหนแห่งนั้นมันก็เป็นเรื่องจริง แต่จะจริงยังไง รอติดตามตอนต่อไปนะคะ


    เหมือนเป็นคนตรงไปตรงมาแต่วาจากลับเต็มไปด้วยคำลวง พูดจริงบ้างหลอกบ้าง ความจริงก็พูดนะ แค่พูดไม่หมด ดังนั้นต้องแยกแยะให้ดีเพราะบางทีเธอก็แค่ปั่นหัวผู้ฟังเล่นไปพร้อมๆกับรอยยิ้มหวานๆไปพลางๆ






    สงวนคำพูด แบ่งเขตชัดเจนว่าไม่ให้รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว




    เธอไม่ค่อยได้อ้าปากคุยกับใครเท่าไร แต่ก็ไม่ใช่พวกพูดน้อยแต่อย่างใด เธอชอบการอยู่คนเดียวเงียบๆมากกว่าที่จะนั่งคุยกับใครไปเรื่อย โดยเฉพาะการพูดสัพเพเหระโดยไร้แก่นสาร อากาศดีเนอะ สบายดีรึเปล่า อะไรเช่นนี้จะไม่ค่อยเห็นโนวาอยู่ร่วมบทสนทนาเท่าไร เพียงแค่จะนั่งยิ้มที่มุมปากด้วยดวงตายากที่จะอ่านความรู้สึกว่ากำลังกร่นด่าหรือสาปแช่งในใจรึเปล่า ดังนั้นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเด็กเธอจับกลุ่มคุยกับใครเท่าไร แบ่งอาณาเขตของตนเองกับผู้อื่นอย่างชัดเจน หากมีคนรบกวนเธอมากๆหรือตอแยหล่อนมากๆ ก็จะโดนคำพูดที่ชวนขนคอลุกอยู่เป็นประจำ โดยส่วนใหญ่จะหักเหไปเป็นคำพูดที่หลอกด่าเนียนๆ ยากที่จะตีความออก " Has Anyone Told You You're Beautiful Today? " " NO " " Well theres always tomorrow. " หรือบางครั้งเธอก็จะหันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายและจ้องอีกฝ่ายไปเรื่อยๆก็จะมีบทสนทนาสนุกๆ " What are you doing " " Facing my problem " บางครั้งก็แซะเนียนๆบางครั้งก็แซะตรงๆขึ้นอยู่กับความหงุดหงิดในช่วงนั้นด้วย



    ไม่เข้าหาใครก่อน แต่ก็ไม่ปฏิเสธการเข้าหา แต่การเข้าหาหล่อนก็ไม่ต่างอะไรกับเหยียบเส้นความชิบหาย แต่เพียงแค่คุณไม่ได้เข้ามาตอแยรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของหล่อนมากเกินไปหรือสร้างความเดือดร้อนให้หล่อนก็อาจจะโดนเบาลงหน่อย แต่ยังไงก็โดนหลอกใช้อยู่ดี ซึ่งการโดนหลอกใช้อาจจะเป็นอะไรก็ได้ทั้งใช้ให้ถือของหรืออาจจะกลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ก็ได้


    เธอจัดอยู่ในประเภทปากจัด แต่ก็ไม่ถึงกับขวานผ่าซากเธอไม่ค่อยพูดกับใครมากกว่าจึงไม่ค่อยได้ยินคำพูดเสียดสีหรือคำพูดร้ายๆ แต่หล่อนก็แซะทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ว่ามันจะสะบั้นน้ำใจของคนหรือฟังแล้วทำให้โกรธเคือง แต่โนวาก็ไม่เคยที่จะเกรงกลัวหากถูกลงโทษหรือต่อว่า ซึ่ง..จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นเธอโดนทำโทษสักครั้งอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แม้บางครั้งเธอจะเป็นตัวเริ่มเรื่องแต่เมื่อพอถูกอาจารย์กำลังจะเข้ามาพบหรือถูกเรียกเธอจะไม่อยู่ตรงนั้นให้เรียกและไม่โดนทำโทษด้วยสิ หนำซ้ำยังตีหน้าว่าเธอไม่ได้มีส่วนตัวอย่างแนบเนียนเสียด้วย







    อยู่กึ่งกลางระหว่างการผ่าฝืนกฏต่างๆ




    ไม่ใช่คนที่เคารพกฏเท่าไร ถึงกระนั้นก็ไม่ได้พยายามต่อต้านหรือทำหน้าไม่พึงพอใจแต่อย่างใด โชคยังดีที่กฏที่นี้มีเพียงแค่สองข้อเท่านั้นเลย แถมยังเป็นเนื้อหาที่เธอไม่ถึงขนาดที่บังคับและควบคุมหล่อน หล่อนชื่นชอบการเป็นอิสระ แต่หากถามว่าทำไมถึงออกตัวว่าไม่ชอบกฏทั้งๆที่กฏยังไม่ได้ทำอะไรเลยล่ะ เธอก็แค่เกลียดอะไรที่จะต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งคัดเพราะมีคนกำหนดมาก็เท่านั้น ฟังดูแล้วอาจจะพาลไปเอง แต่ถือเถอะถ้ามีกฏอย่างอื่นที่คุมประพฤติหรืออย่างอื่น เธอก็จะแอบทำลับหลังหรือไม่ก็ใช้ช่องว่างระหว่างกฏให้เป็นประโยนช์ หนำซ้ำหากเป็นกฏที่งี่เง่าไร้สาระเธอก็จะทำและหมางเมินไป



    ไม่ฝ่าฝืน แต่ก็แสดงท่าทีที่ไม่ชอบอยู่ในกฏ ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อก้าวไปข้างหน้า เพราะหากแหกกฏมากๆ(โดยที่มีคนรู้) คนเสียหายก็คือตนเอง เธอต้องการคะแนนที่ดีเพื่อจะได้ออกไปยังสถานที่แห่งนี้และชื่อเสียงในหัวข้างหน้า








    หน้ากากเป็นรอยยิ้ม แต่ดวงตาของหน้ากากกลับมืดมิด





    ไร้อารมณ์ ใบหน้าของเธอนั้นมีเพียงแค่หน้ายิ้มจางๆเพียงอย่างเดียว เธอไม่แสดงความรู้สึก โกรธ โมโห เศร้าเสียใจราวกับมีเพียงแค่สีหน้าเดียวรอยยิ้มที่มุมปากทำให้เดาใจยากมาก ใบหน้าท่าทางที่ดูสงบ ภาพลักษณ์เหมือนเด็กสาวที่อ่อนโยนด้วยท่าทางนุ่มนิ่ม ทั้งสงวนคำพูดทั้งวางตัวดีมีมารยาทเหมือนเด็กสาวหัวแก่กว่าที่เป็นอยู่ ทั้งการสำรวมตน ตามมารยาทไปทางฝั่งตะวันตก ไม่นิยมการจับมือเธอมักจะค้อมศรีษะให้ผู้อื่นเป็นการเคารพและเลือกปฏิบัติตนไปตามธรรมเนียมญี่ปุ่น ประสานมือไว้ที่เอวและค้อมศรีษะอย่างอ่อนน้อม ปฏิเสธการแตะเนื้อต้องตัวไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอาจารย์ หรือ ผู้ใหญ่.. แน่นอนว่าแค่ต่อหน้า ลับหลังแม้เธอจะยิ้มปากจนถึงหูแต่อารมณ์ด้านในไม่เคยเป็นเฉกเช่นใบหน้า




    หลังหน้ากากนั้นเป็นเพียงหญิงสาวที่อารมณ์แปรป่วน เอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้จะไม่แสดงออกนอกหน้า เธอเก็บความรู้สึกที่แสนบ้าคลั่งเอาไว้ในใจ ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่คิดที่จะระเบิดความรู้สึกนี้ให้ใครได้รู้ เธอไม่เคยปล่อยให้อารมณ์ครอบง่ำ หรือโมโหไปกว่าเหตุ เพราะทุกอย่างทุกการกระทำเหมือนเธอคิดที่จะหว่านเมล็ดแหละรอให้กำพืชโต ดังนั้นส่วนใหญ่ที่เธอถูกต่อว่าหรือด่าทอเป็นเรื่องที่หล่อนรู้ว่าจะโดนอยู่แล้ว อีกอย่างเธอเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะไม่โกรธเด็กๆ เธอมักจะปฏิบัติตัวกับคนอื่นด้วยดี คำพูดที่สุภาพแต่ก็สั้นห้วน มีเว้นระยะห่างจนสัมผัสได้ บางครั้งก็มาทำดีกับคุณ บางครั้งก็กลั่นแกล้งทำให้คุณทรมานเหมือนอยู๋ในนรก


    ส่วนใหญ่แล้วการเอ็นดูของเธอนั้นคือการกลั่นแกล้ง ปั่นหัว หลอกให้สับสน ยิ่งหล่อนเอ็นดูใคร คนนั้นก็ยิ่งโดนหนัก ทั้งพูดเย้าหยอก สร้างข่าวลือผิดๆ ถือหากหล่อนรู้จักความลับของคุณ..ก็อาจจะโดนเอามาแกล้งซวยหน่อยนะ








    ดูเหมือนเรื่อยๆ เอื่อยๆ เคลื่อนไหวไปตามผู้คน แต่สุดท้ายมักจะใช้คำพูดที่ยั่วยุบงการผู้คนเสมอทิ้งท้ายเสมอ






    " ตามแต่เจ้าเลย " " ย่อมได้ " มักจะเป็นคำพูดติดปากของหล่อนในขณะที่เธอยอมทำตามคนอื่นโดยไม่คิดที่จะเสนออะไรขึ้นมาเอง แน่นอนว่าวางท่าไปแบบนั้นแหละ หากมีโอกาสเธอก็พร้อมจะคว้าเอาไว้ ไม่ว่าจะกลั่นแกล้งพาหลง หรือหนักๆหน่อยก็คือพูดเป่าหูพร้อมเสนอรางวัลอะไรบางอย่าง หากเผลอใจคิดที่จะตกลงหรือเห็นด้วยกลับคำพูดของหล่อนก็เหมือนกับติดกับดับที่ก้าวออกไม่ได้ ทั้งหอมหวาน เย้ายวนอย่างไม่สามารถบอกได้ เธอชอบชี้นำให้ผู้คนไปทำสิ่งผิดๆโดยหล่อนไม่ค่อยลงมือให้สกปรกเอง แต่โดยปกติเธอก็ชอบลงมือด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าได้คนรับเคราะห์แทนก็ไม่เลวเหมือนกัน


    ฉลาด เจ้าเล่ห์แกมโกง จอมวางแผน ในหัวสมองของหล่อนนั้นมีแผนการที่นับไม่ถ้วนขึ้นอยู่กับว่าเธอจะลงมือทำอะไรรึเปล่า ทั้งหัวใจ ตีความเก่ง หนำซ้ำยังชอบไขปริศนา หรือแม้แต่จับคำพูดคำโกหกคนอื่นเก่งเหมือนคำว่า ผีมักจะเห็นผี คนประเภทเดียวกันหรือคนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจกันอยู่ ดังนั้นเธอมักที่จะดักทางเก่ง ทำอะไรรอบคอบในการสัญญาครั้งหนึ่งเธอจะถามรายละเอียดทุกอย่าง เพราะถ้าจะให้เธอสัญญากลับใคร หากเธอให้สัญญาที่คลุมเครือเธอก็มักจะหาช่องว่างที่จะสอดแทรกประเด็นหนีได้ เช่นสัญญาว่า หากอีกฝ่ายทำตามคำที่เธอขอ เธอจะมอบเงินให้ ซึ่ง เธอจะมอบให้แน่นอนแต่ในสัญญาไม่ได้ระบุนี่ว่าให้เงินเมื่อไร เธอสามารถให้เงินได้ทุกเมื่อที่เธอต้องการ และไม่ได้บอกจำนวนเงินด้วย แต่พอมาเป็นเธอเธอก็จะขอรายละเอียดเป็นวงแคบ ได้เท่าไร จะให้วันไหน เงินสกุลอะไร ต้องเป็นเงินแท้ไม่ใช่ของปลอม เป็นต้น







    ไม่แสดงออกความชั่วร้ายทั้งหมดทีเธอมี

    . This person will lie, cheat, and kill anyone to attain her personal goals.






    เหมือนเราซ่อนอาวุธลับเอาไว้ไม่เปิดเผยให้ใครได้รับรู้ ก็เหมือนโนวาที่ซ่อนคมเล็บเอาไว้ แต่ทุกคนก็รับรู้ว่าเธอนั้นมีคมเล็บที่ยังไม่กางออกจากอุ้งมือนั้น ตราบใดที่ไม่ทำให้เธอหงุดหงิด อารมณ์เสีย รำคาญ คมเล็บนี้ก็จะไม่แว้งใส่ใคร โดยไม่สนใจวิธีที่จะทำให้คนพวกนั้นหยุดการกระทำที่หล่อนไม่พอใจ บอกแล้วว่าเธอใช้ช่องว่างทางกฏของที่นี้เป็นอย่างดี ตัวเธอนั้นไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เธอไม่มีความรู้สึกผิดเกี่ยวกับการทรยศต่อเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานเพื่อประโยชน์ส่วนตัว หลอกใช้ ทอดทิ้ง เธอสามารถตัดได้อย่างง่ายดาย ตัวเธอนั้นสนใจแต่หมากที่ให้เธอเหยียบเพื่อก้าวไปข้างหน้า โดยไม่สนใจคำด่าท้อแต่อย่างใด



    สนใจแค่อย่างเดียวคือการก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่สกปรกหรือวิธีไหน หากมีวิธีลัดให้เธอก้าวไปอย่างรวดเร็วเธอก็จะใช้ อำนาจความรุ่งเรืองมั่งคั่งตำแหน่งและสิ่งที่จะทำให้ชีวิตของเธอสะดวกสบายมากขึ้น เธอรักการมีอำนาจ ถูกเคารพ ราวกับชาวบ้านที่ต้องการเป็นใหญ่ แต่เธอไม่ใช่ชาวบ้านเอธรรมดาทั่วไป เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวที่พร้อมจะทรยศผู้อื่น ไม่ว่าเธอจะต้องพูดโกหก หลอกลวง คดโกง หรือแม้แต่ทำร้ายร่างกาย ทั้งพร้อมจะแย่งชิ่งหรือแม้กระทั่งถีบอีกฝ่ายออกจากตำแหน่งและยึดครอง ครอบครอง เธอก็ยินดีที่จะทำด้วยรอยยิ้มกว้าง หากเธอต้องการอะไรเธอต้องได้ ไม่ว่ามือคู่นี้จะเปื้อนเลือดเท่าไร ลำคอ ความต้องการก็ไม่มีวันดับกระหาย ความโลภนั้นเป็นแสงนำทางให้เธอก้าวไกลไปสู่อนาคตที่สว่างไสว ยอมโกหกเพื่อตัวเอง ยอมทำร้ายผู้อื่นเพื่อตนเอง




    เธอมีความพยายามและความตั้งใจ มุ่นมั่น ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการและหลอกล่อ เธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ตั้งใจเรียนและทำคะแนนได้ดีเกินคาด แต่แค่คะแนนดีนั้นไม่เพียงพอที่จะก้าวไปยังอนาคตของหล่อน เส้นสาย ความสามารถเธอเองก็ปรารถนา ดังนั้นเธอจึงแสวงหา ขยันขันแข็งและเกลียดพวกที่ขี้เกียจสันหลังยาวเป็นอย่างมาก เป็นคนเลือดเย็น จิตใจโหดเกินมนุษย์ ไม่อ่อนข้อ ไม่หวั่นไหว ไม่สงสาร ไม่มีจิตใจเมตตาหรือเห็นใจ เด็ดขาดกับการจัดการกับการทำร้าย โดยเธอมักจะชอบทรมานมากกว่าจบชีพให้สิ้นภายในครั้งเดียว







    ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเท่าไร และไม่ยอมให้ใครยุ่งเรื่องของตนเอง




    ยุ่งเรื่องของชาวบ้าน = ยุ่งเรื่องส่วนตัว เช่นหากมีคนทะเลาะกัน เธอก็จะเป็นคนที่นั่งดูโดยไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด เธอไม่ยอมยื่นมือไปยุ่งเสียเท่าไร แหมจะชอบความครื้นเครงในยามที่มีคนทะเลาะกัน แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้ไกรเกลี่ยหรือมีความจำเป็นต้องห้าม หากไม่ลากเธอไปเกี่ยวข้องทุกอย่างก็โอเคทั้งหมด แต่หากเป็นการทะเลาะกันอย่างไร้สาระ เธอก็ไม่นำมาใส่สมอง หนำซ้ำยังไม่สนใจแม้จะเสียงดังแค่ไหนเธอก็อ่านหนังสือโดยไม่เมนชั่น เอ่ยถึงแต่อย่างใดเหมือนอยู่คนล่ะโลก ไร้สาระที่ว่าคืออะไร ทะเลาะกันเพราะเรื่องเล็กน้อย แย่งขนม ทะเลาะกับแฟน เธอมองว่าเป็นเรื่องตลกและเขลาปัญญา


    แต่ถึงเธอจะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านเพียงใด ก็ไม่ทำให้เธอขาดตกบกพร่องกับความลือหรือการกระทำต่างๆให้รอดพ้นสายตา ราวกับเธอมีดวงตาที่3ถึง4อยู่รอบโรงเรียน และ หูที่ติดอยู่ทั่วรอบโรงเรียน หนำซ้ำเธอยังยินดีที่นำความลับพวกนี้ให้เกิดผลประโยชน์แก่ตนเอง และ เพื่อความสนุกสนานอีกตั้งหาก เพราะส่วนใหญ่ประวัติและที่มาที่ไปของเธอเป็นความลับ ต่อให้มาสืบหรือแอบฟังหล่อนกลับ ก็ไม่ได้ข่าวคาบอะไรกลับไปหนำซ้ำยังโดนจับได้และรู้สึกเหมือนถูกสายตาหลายคู่จ้องมองหากรุกล้ำเข้าอาณาเขตของหล่อน และถูกจับได้อย่างง่ายดายแน่นอนว่าสำหรับเด็กไม่ดีก็ต้องมีบทลงโทษนั้นแหละเนอะ


    ไม่ได้รังเกียจในการทำงานร่วมกับผู้คน ไว้ใจแค่ตัวเอง และ เคลือบแคลงคนอื่น น้อยคนนักที่จะไว้ใจ จะเต็มใจให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ถ้าเรื่องนั้นมีผลประโยนช์แก่ตัวเอง ในขณะเดียวกันหากไม่ได้ผลประโยนช์ที่มากเพียงพอหล่อนก็ไม่ช่วยเหลือ ให้เกียรติคนที่เข้มแข็ง ไม่แสดงความเมตตาต่อศัตรู หนำซ้ำเห็นแบบนี้ก็มีเพื่อนเหมือนกัน แต่ไม่ได้คบแบบที่เป็นเพื่อน มากกว่าเพื่อนก็ไม่ใช่ น้อยกว่าเพื่อนตั้งหาก เธอคบเพื่อหลอกใช้เท่านั้น และการที่มีเพื่อนมันก็ไม่ได้ดูเด่นมากกว่าเป็นหมาป่าผู้โดดเดียวจริงมั้ย?





    รังเกียจความโง่เขลา




    ปลาเล็กต้องเป็นเหยื่อให้ปลาใหญ่ นั้นคือความเป็นจริงบนโลกใบนี้ หากไม่แข็งแกร่งพออย่าหวังว่าจะอยู่รอด เธอเกลียดคนอ่อนแอ เกลียดคนที่ทำอะไรไม่เป็น ไม่รู้สา ทำตัวโอดครวญ ไม่รู้จักแก้ปัญหา หรือพวกที่เอาแต่ง่องแง่งน่ารำคาญ เห็นแล้วอยากจะบดขยี้ให้แหลกคาเท้า เธอนับถือคนฉลาด คนเก่ง หากจะเสวนาเธอก็คงเลือกคบกับคนเหล่านั้น ผลการเรียนดีๆ ฉลาดๆ ไม่พูดจาเหลวไหล มากกว่า แน่นอนว่าหากคนเหล่านั้นยื่นมือไปช่วยคนอ่อนแอเธอก็จะกลับลำเป็นเกลียดขี้หน้าทันที เธอจะไม่ช่วยคนที่อ่อนแอ และจะไม่ช่วยเหลือผู้ที่ปกป้องผู้ที่อ่อนแอ การกระทำที่โง่เขลายิ่งนัก การช่วยเหลือต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน เธอมองว่าผลประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ยอมช่วยเหลือเปล่าๆแน่นอน มันต้องคุ้มค่าเท่านั้นเธอจึงยื่นมือเข้าช่วย



    พร้อมที่จะกำจัดวัชพืชอ่อนแอและไร้ประโยชน์ออกจากสังคม ถามสาเหตุก็แค่รกหูรกตาเท่านั้น เธอไม่เคยใยดีกับบุคคลที่ร้องไห้โยเย ทำอะไรไม่ได้ก็ยกให้คนอื่นโดยไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่ใยดีและพยายามหาทางให้พวกนั้นพ้นสายตาของเธอ ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางๆประดับบนสีหน้า อาจจะซ้ำเติม ว่าร้าย หรืออะไรก็ได้ แต่ไม่ถึงขั้นลงมือหรอกนะ








    หน้ากากที่เธอสวม หลากหลายใบหน้า หรือ การแสดง?





    เมื่อเธอสวมหน้ากาก บุคคลิกของหล่อนก็เปลี่ยนไปตามสีหน้านั้นๆ อย่างหน้ากากอุบะ เป็นสีหน้าของหญิงชรา เป็นหน้ากากที่สื่อในความมงคล เวลาเธอสวมหน้ากากของอุบะจะเป็นผู้หญิงที่สุภาพและอ่อนหวาน ในขณะเดียวกันก็ถือตัวและถือทิฐิราวกับหญิงสาวสูงวัย ปากจัด ขี้จุกจิก เข้มงวด เด็ดขาดเหมือนกับยายแก่ที่ดุ วากาโอโตโคะ 若男 เวลาสวมเธอมักจะมีท่าทางเป็นผู้ชายซุกซน ดูแก่กว่าตัวแค่นิดหน่อย ทะลึงตึงตัง อวดดี และมักจะโมโหร้าย หน้ากากจิ้งจอก 狐面 เป็นลักษณะของบุคคลที่สุขุม ฉลาดหลักแหลม แกมโกง สุขุม เจ้าเล่ห์ ดูเป็นมิตรที่สุดแต่โหดร้ายที่สุด ชอบเริงระบำจิ้งจอก นามานะริ 生成 โมโหร้าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งร้องไห้ อาละวาด เจ้าคิดเจ้าแค้น เธอสวมบทบาททุกครั้งที่สวมหน้ากาก และ มันไม่เหมือนตัวตนของเธอเลยแม้แต่น้อยจนชวนขนหัวลุก หนำซ้ำพอคุยเรื่องตอนที่ใส่หน้ากากกับหล่อนตอนปกติ เธอก็จะยิ้มๆแต่ก็พอรู้ได้ว่าเธอปะติดปะต่อไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เกิดอะไรขึ้นนะ?








    เสียงกระซิบที่ข้างใบหูตลอดเวลา





    โนวานั้นมีด้านที่แปลกอยู่อย่างหนึ่งคือเธอมักจะพูดคนเดียว ส่งเสียงหัวเราะทั้งๆที่ไม่มีใครพูดอะไรราวกับเธอฟังอะไรอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็อารมณ์ดี บางครั้งก็หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดราวกับเสียงนั้นตีกันในหัว แต่เธอก็ไม่เคยพาลใส่ใคร ในยามที่เธอคุยกับตนเองนั้นเธอเหมือนเธอได้ข้อมูลต่างๆเสมอโดยไม่รู้ว่าวิธีไหน บางครั้งก็เป็นข้อมูลส่วนตัว บางครั้งก็เป็นการเรียน แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด







            ลักษณะการพูดจา :: โดยปกติแล้วเธอเป็นคนที่น้ำเสียงไพเราะไม่ต่างอะไรกับเสียงนกและภาษาอังกฤษของเธอนั้นชัดเจนฉะฉานจนไม่เหมือนกับชาวญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้สำเนียงอังกฤษเป๊ะแต่อย่างใด ก็ดีกว่าสำเนียงคนญี่ปุ่นทั่วๆไปนี่แหละ ไม่มีปัญหาเรื่องนึกคำไม่ออก เก่งภาษาอังกฤษมากๆทั้งอ่านทั้งเขียนทั้งฟังเพราะความพยายามในการเรียนรู้จึงทำให้เธอไม่ติดขัดอะไรเลย และไม่ยอมให้มีใครมาหัวเราะสำเนียงภาษาอังกฤษของเธอเด็ดขาด เธอแทนตนด้วยข้า เรียกคนอื่นด้วยเจ้า โดยไม่มีคำใดๆนำหน้า แม้กระทั่งอาจารย์ เธอก็ไม่มี ศ. คุณใดๆนำ ไม่มีหางเสียง บางครั้งหากเธอโมโหหรือไม่พอใจขึ้นมา เธอก็เปลี่ยนมาภาษาถิ่นโต้ตอบอีกฝ่ายไม่ให้ตั้งตัว ทั้งคำด่า และ บ่น



            ยกตัวอย่างเช่น : ในยามปกติ



    ร่างบอบบางของอิสตรีที่มาจากต่างแดนเดินอยู่ริมหน้าต่างโอบหนังสือเล่มโตเอาไว้ในขณะที่สองเท้าก้าวไปตามทาง เธอเผอิญสังเหตุเห็นคุณตามทางเดินแทนที่เธอจะส่งเสียงทัก ใบหน้านั้นกลับยกยิ้มขึ้นมาอย่างเบาบาง แต่ดวงตาคู่สวยกลับไม่ได้ยียิ้มตามนัยน์ตานัก เธอค้อมศรีษะลงอย่างเชื่องช้า ก่อนฝีเท้าจะเดินเร่งผ่านไปโดยมิได้เอื้อนเอ่ยใดๆ



            ยกตัวอย่างเช่น : ในยามพูดคุย



    " กำลังทำอะไรอยู่? " เสียงนั้นเอ่ยในขณะที่ร่างเล็กนั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร ดวงตาสีแดงก่ำนั้นช้อนขึ้นเพื่อสบสายตา เธอกลับวาดแค่มุมปากในขณะใช้ช้อนตักซุปข้าวโพดข้นๆขึ้นมาจรดที่ริมฝีปาก เธอกลับไม่ได้โต้ตอบไปในทันที แม้จะไม่มีท่าทีรำคาญที่ถูกชวนคุยและถามคำถามเขลาความคิด ไร้สาระบนโต๊ะอาหาร โนวาก็ยังรักษามารยาทบทโต๊ะอาหารเป็นอย่างดี และเมื่อช้อนนั้นถูกวางลง เสียงหวานก็เอ่ยตอบไปอย่างสุภาพ " เจ้าเห็นว่าข้าทอผ้าอยู่หรือไร ไม่มีตาให้มองรึเจ้า?  "



            ยกตัวอย่างเช่น : เลือดร้อน(20เปอร์)



    " แหมแหม ตายจริง " เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าที่งดงามนั้นเธอยกแขนเสื้อที่ยาวขึ้นมาปกป้องริมฝีปาก แขนเสื้อจากผ้าฮาโอริพรื้วไหวคลอเคลียกับเรือนร่างที่ดูบอบบางของหล่อน เธอหลับตาลงแต่ที่น่าแปลกนั้น คือดวงตาคู่สวยนั้นแย้มยิ้มอย่างหาได้ยากนัก ทั้งๆที่น้ำเสียงที่กดลงต่ำไม่ได้บอกถึงความยินดีเหมือนใบหน้าที่ปรากฏ เมื่อหล่อนปรือตาสีแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้งมันกลับทอประกายอย่างอันตราย สองเท้านั้นค่อยๆย่างก้าวอย่างสุขุมเข้าไปหาอีกฝ่ายเรื่อยๆจนร่างของหล่อนนั้นประชิดกับเขา ใบหน้านั้นก็ยังคงแย้มยิ้มด้วยออร่าอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้


    " หากไม่มีใครสั่งสอนเรื่องมารยาท ให้ข้าสอนให้เจ้ามั้ย? รับรอง...จะไม่มีวันลืมจนตัวตายเลยล่ะ "



            ยกตัวอย่างเช่น : เย้าหยอก


    " ฮ่ะๆๆ อะไรของเจ้า " ชายแขนฮาโอริยกขึ้นมาป้องริมฝีปากอีกครั้ง ริมฝีปากที่แดงดูเคลือบด้วยเบนิระเรื่อเป็นสีสวยหยักเป็นรอยยิ้มที่น่ามอง ดวงตาสีแดงก่ำยียิ้มอย่างหาได้ยากนัก ใบหน้านั้นแม้ไม่ได้ระเรื่อขึ้นเท่าไร แต่ใบหน้าที่เอียงไปด้านซ้ายนิดหน่อยช่างดูบริสุทธิ์สมกับเป็นเด็กวัย15 แต่สายตาที่จ้องมองไปที่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ดูน่ารักอย่างที่คิด " น่ารักสิ้นดี อยากโดนกินไปทั้งตัวรึอย่างไร? "


    สิ้นเสียงนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับสองเท้าที่ขยับเข้าไปใกล้ถึงกระนั้นก็ยังคงเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสมไม่เข้าไปใกล้ชิดจนเกินงาม แต่ก็ใกล้จนได้กลิ่นถึงแป้งหอมที่เธอมักใช้เป็นประจำ เธอยกมือขึ้นมาเกี่ยวเรือนผมของอีกฝ่ายนิดหน่อยก่อนจะผละออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูซุกซน " ข้าหลอกเล่น เจ้าอย่าคิดมากเชียว "



            ยกตัวอย่างเช่น : อับอาย UR * โคตรพ่อโคตรแม่แรร์ *



    " .....สิ่งที่เรียกว่าทวิตเตอร์คืออะไร? " เสียงหวานกล่าวขึ้นในขณะที่ย่นใบหน้า เป็นครั้งแรกที่ใบหน้านั้นดูสมเด็กมากกว่ารอยยิ้มจอมปลอมที่เธอสร้างขึ้น ดวงตาสีเลือดนกนั้นฉายแววไม่พึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด โดยปกติแล้วเธอมักจะปิดปากเงียบทันทีที่ไม่รู้จักคำศัพท์ใดแล้วค่อนกลับไปค่อนหาที่ห้อง สิ่งที่เรียกว่าทวิตเตอร์ตั้งแต่เมื่อวานที่เธอค้นหาในพจนานุกรมที่เธอพบมาด้วยก็ไม่มีบอก ไอ้ตัวเธอนั้นก็ไม่ถนัดค้นหาเจ้าสิ่งที่เรียกว่าเว็บไซต์ทำให้เธองุนงงไปเสียหมด และเมื่อโดนหัวเราะเยาะหางตาที่กลมโตนั้นก็ชี้ขึ้นด้วยท่าทางไม่พึงพอใจนัก เธอยกแขนเสื้อฮาโอริขึ้นมาป้องริมฝีปากในขณะที่หันหน้าไปทางอื่น " ....พวกเจ้าไม่มีมารยาทเสียจริง... "




            ประวัติ :: 


    “ อยากจะให้ข้าเล่าเรื่องของข้างั้นหรือ..?  ...แหม.. ” น้ำเสียงนั้นบรรจงกดเสียงให้หวานใส ริมฝีปากนั้นคลี่เป็นรอยยิ้มที่อยากจะอ่านได้ แต่ดวงตาแดงก่ำของโนวากลับไม่ยิ้มเลยแม้แต่น้อย แขนเสื้อฮาโอริยกขึ้นป้องปากเล็กน้อย “ เช่นนั้น...เจ้ามีอะไรมาแลกเปลี่ยนล่ะ..? ”


    เสียงหัวเราะลอดผ่านริมฝีปากมันช่างเป็นเสียงหัวเราะที่ยากจะจะรู้สึกดี มันเป็นเสียงหัวเราะที่ไม่ได้มาจากใจจริงชวนขนหัวลุก ไม่เหมือนใบหน้าที่แย้มยิ้มอย่างงดงามของโนวา นัยน์ตานั้นไม่ต่างอะไรกับลูกแก้วไม่แสดงความรู้สึกเหมือนไม่มีชีวิตอยู่ ร่างที่ผอมจนเห็นเค้าโครงกระดูกผายมือลงที่นั่งข้างๆ “ เรื่องเล่าที่เจ้าได้ยินต่อไปนี้...มันคือด้านมืดของผู้คน..... ”


    ปลายนิ้วชึ้ยกขึ้นแนบกับริมฝีปากที่ยักเป็นรอยยิ้มจางๆ ดวงตาสีแดงก่ำนั้นทำได้เพียงจับจ้องร่างของคุณโดยไม่มีแว่วที่จะเคลื่อนไหวหรือยิ้มตามรอยยิ้มนั้น เสียงที่ถูกกดจนหวานกระซิบอย่างนุ่มนวลในขณะเดียวกันก็ชวนขนหัวลุก มันทั้งไร้หัวใจ ทั้ง..ไร้แสงสว่าง “ ขอให้เจ้าพึงตระหนัก มินำไปเอ่ยต่อที่ใด ”



    “ หากยังอยากมีคออยู่บนบ่าของเจ้า "


    ทามายูระ เป็นตระกูลที่อดีตแล้วเคยเป็นผู้วิเศษมาก่อน ใช่แล้ว 'เคย' เป็นนักเวทย์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเวทมนตร์แต่ถึงกระนั้นชื่อเสียงก็ยุฒิลง เมื่อเขาพบรักกับหญิงสาวธรรมดา แต่กลับไม่สามารถถือกำเนิดผู้วิเศษเฉกเช่นตัวเขาออกมาได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักลูกชายของเขาเสมอ......จนกระทั่ง...เติบใหญ่และมีครอบครัว ตระกูลทามายูระนั้นเป็นศาลเจ้าชื่อดังที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนารา คิซารางิ ปู่ของโนวาดำเนินสืบทอดศาลเจ้ามาตั้งแต่ยุคเฮย์เซย์ เขาไม่ได้เป็นผู้วิเศษ พ่อของคิซารางิก็ไม่ได้มีพลังเวทย์ ราวกับหมดยุคของตระกูลทามายูระไปแล้ว จนกระทั่ง โนวา..ได้ถือกำเนิดขึ้นมา


    เรื่องเล่าของผู้วิเศษถูกกล่าวขานสืบทอดมาแต่ยาวนาน จนไม่ต่างอะไรกับเรื่องเล่า ทั้งบิดาของหล่อน มุราคามิหรือมารดาของหล่อน ฮายาริ ต่างก็เล่าระทึกเรื่องตำนานเล่านี้ให้ลูกๆฟัง โนวา และ พี่ชาย เรียวยะ ต่างก็ฟังตำนานจนจำความได้ตั้งแต่เยาว์วัย ทั้งสองต่างก็อยากเป็นผู้วิเศษอยากให้เวทมนตร์ปกป้องทุกคน สนุกสนานไปกับวัยเด็กและครอบครัวที่อบอุ่น จนกระทั่ง.. โนวาย่างก้าวเข้าสู้อายุ5ขวบ มันเป็นเรื่องปกติประจำปีของตระกูลทามายูระ นั้นคือการทำความสะอาดโกดังเก็บของ ตระกูลของพวกเธอนั้นเป็นถึงตระกูลสมัยโบราณ ดังนั้นจึงมีของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์เยอะแยะนับไปถ้วน ดังนั้นจึงต้องดูแลรักษาข้าวของเป็นอย่างดี โนวาที่ยังเล็กก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมชมได้ มันควรไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่ง


    หน้ากากละครโนห์แขวนอยู่บนพนังเรียงรายในตัวบ้าน มีทั้งหน้ากากของมนุษย์และสัตว์ เธอจับรู้ได้ว่าสายตาทุกคู่นั้นจับจ้องมาที่เด็กวัย5ขวบ ไม่ว่าเธอจะขยับไปไหนดวงตาที่ดำมืดนั้นก็เคลื่อนไหวไปตามเธอมันเป็นความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ แต่มันก็หายไปเมื่อเธอเห็นพ่อแม่เข้ามาในห้องนี้ด้วย จากนั้นความรู้สึกที่เหมือนโดนจ้องมองตลอดเวลาก็มลายหายไปเหลือเพียงความอบอุ่นที่ได้รับจากพ่อแม่ เธอจำได้คำสั่งในวันนี้คือขอให้ช่วยนับจำนวนหน้ากากโนห์มันเป็นงานง่ายๆสำหรับเด็กวัยห้าขวบอย่างเธอ และแน่นอนว่าเธอทำได้แต่โดยดี หน้ากากคนแก่ 1 หน้ากากจิ้งจอก 2 หน้ากากยักษ์ 3 หน้ากากผู้ชาย 4 หน้ากากผู้หญิง 5! 


    " มี5อันค่ะ คุณแม่! " เสียงของเด็กสาวดังขึ้นพร้อมกับชูมือห้านิ้วขึ้นฟ้า พวงแก้มของหล่อนนั้นแดงก่ำเอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจ แต่แม่กลับยิ้มแหย่ๆ เธออุ้มลูกสาวของตนขึ้นในขณะที่ลูบเรือนแก้มของเด็กสาวคนนั้นอย่างแผ่วเบา " โนวานับผิดแล้ว นับยังไงให้ได้5อัน มีสี่เองจ้ะ "

    สีหน้าของเด็กสาวปรากฏขึ้นความงุนงง เธอยื่นมือขึ้นมาอีกครั้ง ขวาสุดคือหน้ากากคนแก่ ถัดมานั้นคือหน้ากากจิ้งจอก หน้ากากยักษ์ หน้ากากผู้ชาย เธอเอ่ยในขณะที่ยกนิ้วขึ้นชี้ไล่ให้คุณแม่ของเธอฟังนิ้วชี้ของหล่อนขึ้นไปที่พนังบนเหนือศาลเจ้าเล็กๆที่ตั้งอยู่ " หน้ากากหญิงสาว "



    ทันใดนั้นมารดาก็ได้เงยหน้าขึ้นมองตามที่ลูกสาวของตนชี้ เธอกลับไม่พบอะไรตามที่เด็กสาวบอก เมื่อเธอลองถามลูกสาวอีกครั้ง โนวาก็ยืนยันว่ามีหน้ากากผู้หญิงอยู่นั้นทำให้หล่อนขนลุก ลูกสาวเธอกำลังพูดอะไร และเมื่อเธอเรียกสามีของตนมาดูด้วย สามีก็ไม่ค้นพบหน้ากากอันที่5 เฉกเช่นกับบุตรชายที่เดินตามบิดาของเขามา.. แต่เรียวยะกลับพูดจากหยอกล้อน้องสาวว่าเรียกร้องความสนใจจากแม่ จากนั้นโนวาก็เริ่มร้องไห้ออกมา " โนวาไม่ได้โกหกนะ โนวาพูดความจริง! "


    สิ้นเสียงตะคอกทุกอย่างก็แปรผันทั้งพื้นในโกดังก็เริ่มสั่นไหวไปพร้อมๆกับข้าวของราวกับแผ่นดินไหว ดวงตาของโนวาที่เป็นสีมรกตก็แปรผันเป็นสีแดง และหน้ากากที่แขวนอยู่กลับไม่ได้สั่นไหวไปตามโกดัง ดังสร้างความกวาดกลัวให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก และเมื่อโนวากลับมาสงบสติ เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็ค้นพบถึงสายตาของครอบครัวที่มองเธอไม่ต่างอะไรกับตัวประหลาดนั้นคือจุดเริ่มต้นของความโหดร้ายทั้งหมด พ่อแม่ของเธอนั้นแทบไม่มองหน้าเธอ ไม่พูดคุยกับเธอ ส่วนพี่ชายก็เอาล่อว่าเธอเป็นตัวประหลาดและเมื่อเธอควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ เธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้จากผู้เป็นแม่...และเริ่มขังเธอเอาไว้ภายในห้องนอนแคบๆ


    โนวาผู้ซึ่งถูกกักบริเวณโดยไม่ได้ตั้งใจในช่วงแรกเธอก็พยายามจะเรียกร้องออกไป จากประตูที่ถูกล็อคเฉยๆ ก็กลายเป็นถูกโซ่ล่าม อาหารที่เคยส่งมาให้ก็ลดน้อยลงจนบางครั้งเธอก็แทบไม่ได้รับมัน ร่างกายของเธอก็ค่อยๆผอมแห้งลง เธอไม่แม้แต่มีเรี่ยวแรงที่จะส่งเสียงดัง เธอเคยลองพยายามใช้พลังวิเศษทำร้ายกลอน แต่เธอก็ควบคุมมันไม่ได้ ทั้งๆที่ในยามไม่จำเป็นนั้นพลังนี้ก็มันจะแสดงออกมา เธอเคยอาละวาดยังไง ข้าวของก็ไม่พังลง จนไม่แน่ใจว่าวันเวลาผ่านไปเท่าไร บานประตูก็ถูกเปิดออก โดยปกติแล้วจะเห็นคุณแม่ของหล่อนนำอาหารมาให้ แต่คราวนี้กับเป็นเรียวยะ หน้าตาที่มีเค้าโครงของการเป็นผู้ใหญ่ เรียวยะเดินเข้ามาในห้องด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาคว้าเรือนผมของเธอและลากออกจากนอกประตู


    ความเจ็บปวดจากศรีษะทำให้เธอหลั่งน้ำตา ภายในบ้านเธอก็ไม่พบใครเลย ในขณะเดียวกันบ้านนั้นก็มีความทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ขวดเหล้าเรี่ยราดทั้งบนโต๊ะและซิงค์น้ำ แต่ก่อนที่เธอจะกวาดสายตามองรายละเอียดทั้งหมด เธอก็ถูกพี่ชายแท้ๆของตนเองกระชากออกไปจนเธอรู้สึกได้ว่าเส้นผมบนศรีษะนั้นหลุดออกไปบางเส้น เธอถูกลากตัวออกไปอยู่หน้าโกดัง เรียวยะเหวี่ยงร่างเธอกับพื้น เงาดำๆนั้นชะโงกหน้ามองหล่อนราวกับสัตว์ในสวนสัตว์



    " โนวานี่ " " โนวาใครอะ " 
    " น้องสาวของเรียวยะไง ไหนบอกว่าไปอยู่กะญาติอะ "




    ท่ามกลางความวุ่นวายเด็กผู้ชายสามสี่คนรุมรอบหล่อน สายตาทุกคู่นั้นกวาดสายตามองหล่อนอย่างมีนัยยะแต่ก่อนที่จะได้เอ่ยปากถามอะไร พี่ชายแท้ๆของตนก็เอ่ยขึ้นมาก่อน " ยัยนี้เป็นแม่มดแหละ "




    " หา? " " เมายาตัวไหนมารึเปล่ามึง "




    " ไม่เชื่อก็ลองทำให้โกรธดูสิ เตะมันสักทีสิเดียวก็รู้ " แต่นอนว่าไม่มีใครกล้าทำ เด็กสาวที่ผมรุงรังจากการจิกผมของพี่ชายเมื่อสักครู่นี้ ไหนร่างกายที่ผอมบาง และใบหน้าที่ตื่นกลัวจนพูดอะไรไม่ได้ เขากลับตกตะลึงคำพูดให้เตะจากปากพี่ชายของเรียวยะมากกว่า " อะไรกัน ปอดชิบหาย ดูกูนี่ "


    จากนั้นความเจ็บปวดก็ถูกอัดเข้ามาจากสีข้าง เท้าของเรียวมะกระแทกข้างลำตัวจนเธอแทบจุกร่างนั้นกลิ้งตลบหน้าฟุบกับพื้นดินแข็งๆ ร่างที่บอบบางนั้นงอตัวด้วยท่าทางทรมานแต่คนเป็นพี่กลับไม่จบ รองเท้าหนังเหยียบย่ำแผ่นหลังของหล่อนอย่างรุนแรงย้ำและซ้ำเติม ทั้งเตะ ทั้งกระทืบจนเนื้อตัวของเธอนั้นคลุกกับฝุ่น เสียงตวาดและเสียงก่นด่าดังจากริมฝีปากผู้เป็นพี่ " รีบๆแสดงออกมาสิวะ อีน้องเวร ไหนๆก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว! "


    ความเจ็บปวดทะลั่กออกมาจากทรุกอนู ของเหลวนั้นถูกขับออกมาจากกระเพาะ เธอไม่แน่ใจว่าเธออ้วกอะไรออกมาเพราะสองวันมานี้เธอไม่ได้ทานอะไรลงกระเพาะเลยแม้แต่น้อย เจ็บปวด...สายตาของเพื่อนๆนั้นกระหน่ำทิ่มแทงหล่อน แต่ก็ไม่มีใครคิดจะขยับตัวเข้ามาช่วยแม้แต่น้อย มีเพียงแค่เสียงที่ดูเหลือเชื่อและเสียงห้ามที่เบาหวิว " นี่มึงเรียกมาที่นี้เพื่อดูมึงซ้อมน้องเหรอวะ ไม่อยากเชื่อ.. "




    " ไม่ใช่นะเว้ย ยัยนี้เป็นแม่มดจริงๆ "
    " พอเหอะ ได้ยินว่ามีอะไรสนุกๆ ที่ไหนได้ แม่งน่ารังเกียจว่ะ ไปกันเหอะ "




    สิ้นเสียงเหล่านั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ออกมาไกล แต่ความเจ็บปวดทุกอย่าง ความหิว ความทรมาน ความรู้สึกน้อยใจทะลั่กออกมาจนเธอไม่อยากจะขยับตัวไปไหน แต่กระนั้นแล้วเหมือนจะไม่หนำใจผู้เป็นพี่ เธอได้ยินเสียงสบถและฝีเท้าหนักๆที่เหยียบลงบนร่างของเธอที่ชาจนแทบไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป " อะไรว่ะ ไหนๆการเป็นแม่มดของมึงก็ทำแต่ความชิบหาย ทำไมไม่ทำให้เกิดประโยนช์บ้างล่ะวะ " " เพราะแกคนเดียวเพราะแกคนเดียว " 


    เธอไม่ได้นับว่าเธอถูกกระทำอีกครั้ง เธอรับรู้ได้ว่าเธอถูกยกร่างนั้นขึ้นมา ใบหน้าและลำตัวถูกอะไรบางอย่างกระแทกจนรับรู้สึกของเหลวข้นพร้อมเสียงหอบหายใจหนักๆของพี่ชายจากนั้นเธอก็ถูกโยนเข้าไปในโกดังเก็บของและขังเอาไว้.. ในตอนนั้น โนวาคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย


    ภายในโกดังนั้นมืดมิด อากาศช่างหนาวเย็น เธอไม่สามารถรับรู้อะไรได้ ไม่แม้แต่กระดิกปลายนิ้ว หรือขยับร่างกาย เธอสัมผัสได้ว่าพื้นนั้นค่อยๆเปียกชื่นอย่างเชื่องช้าร่างกายของเธอก็ค่อยๆเย็นเชียบ.. ความทรงจำในวันวานที่มีความสนุกกับผู้เป็นพ่อเป็นแม่ เล่นกับพี่ชาย คุยทุกเรื่องกับพ่อแม่ย้อนกลับมา น้ำตาที่เคยคิดว่าจะแห้งเหือดก็รินไหลที่หางตา..



    " เด็กน้อยของข้า.. "


    เสียงบางอย่างก็สะท้อนจากแก้วหู มันเป็นเสียงที่ยะเยือกราวกับถูกของเย็นๆราดจนสะดุดตื่น เธอลุกขึ้นท่ามกลางความมืดทั้งๆที่ร่างกายนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกแท้ๆ เพราะก่อนหน้านั้นแม้แต่ขยับปลายนิ้วเธอก็ยังทำไม่ได้ " เด็กน้อยของข้า.. " เสียงในแก้วหูดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างสงบ เมื่อเธอลองหันซ้ายหันขวาความเสียง เธอก็ค้นพบว่ามีบางอย่างอยู่ตรงหน้า มันเป็นหน้ากากสีขาว ดวงตาคู่นั้นดำมืดจนน่ากลัว ริมฝีปากแดงก่ำจับจ้องมาที่หล่อน


    " เด็กน้อยผู้น่าสงสาร "

    " คุณ...เป็นใคร.. "



    " โคโอโมเตะ.. หน้ากากหญิงสาวของเจ้า.. "


    สิ้นเสียงนั้นเธอกลับมีฟ้าผ่ากลางใจ หน้ากากที่ไม่มีผู้ใดในครอบครัวของหล่อนเห็น เจ้าหน้ากากหญิงสาวนั้นค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้มันค่อยๆลอยวนรอบกายของหล่อนราวกับสำรวจ จนหยุดกระทั่งมันหยุดต่อหน้าหล่อนอีกครั้ง " เด็กน้อยของข้า....เจ้าเด็กน้องผู้น่าสงสาร.....เจ้าเคียดแค้นหรือไม่..? "


    คำถามของหน้ากากผู้หญิงทำให้เธอหยุดหายใจ หากถามว่าเธอเคียดแค้นหรือไม่ เหตุใดจะไม่ เธอถูกรังเกียจ ทำร้ายร่างกาย เธอเองก็ไม่ได้อยากมีร่างกายแบบนี้ ความโกรธนั้นทะลุขึ้นมาจากใบหน้า ความทรงจำทั้งหมดราวกับถูกบิดเบือน ทั้งๆที่หล่อนยังไม่ได้ทำอะไร ทั้งๆที่หล่อนไม่ได้ลงมือทำ แต่ทุกต่างก็หวาดกลัวหล่อน ทรมานหล่อน... หยาดน้ำตารินไหลที่หางตาอีกครั้ง 


    " พวกนั้นช่างไร้ความรับผิดชอบ แค่ผู้วิเศษก็ยังรับมือไม่ได้ "


    " เจ้าไม่ต้องห่วง...นับจากนี้ข้าจะปกป้องเจ้าเอง.. "
    " นับแต่นี้พวกข้าจะปกป้องเจ้าเอง "


    " ทุกอย่าง " " ทุกสิ่ง " " ไม่ว่าจะอะไร " " ปล่อยมัน " " ให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา "


    " และเจ้าจักรเป็นอิสระ " " เจ้าจะมีความสุขเฉกเช่นพวกข้า " " ข้าจักรมิให้ใครได้แตะต้องเจ้า " 
    " ทำร้ายเจ้า เพราะฉะนั้น " " ผ่อนเรี่ยวผ่อนแรง ฝากกายของเจ้าให้ข้า "



    เสียงนั้นไม่ต่างอะไรกับน้ำผึ้งที่หลอกล่อแมลง หน้ากากที่เธอเคยเห็น หน้ากากอุบะ หน้ากากวากาโอโตโคะ หน้ากากจิ้งจอก หน้ากากนามานะริ และ โคโอโมเตะโอบล้อมรอบกากของหล่อน โนวานั้นค่อยๆปรือตาลงอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกต่างๆที่แทรกเข้ามานั้นกระตุกให้เธอหลับใหล ความเจ็บปวดที่ด้านชาก็มลายหายไปจมดิ่งสู่ก้นบึ้งของจิตใจ... ดวงตาสีเขียวมรกตก็แปรผันเป็นสีแดงคั่งเลือด ร่างกายที่นอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตูกลับยันตนเองลุกขึ้น เสื้อผ้าสีขาวถูกย้อมไปด้วยสีแดงสด เธอสางผมตนเองให้เรียบร้อยปลายนิ้วชี้จรดกับเลือดสีแดงตวัดที่รอบริมฝีปากของหล่อน พร้อมกรีดรอยยิ้มที่กว้างออกมา



    " พวกเจ้า เลือดเนื้อพวกนี้...ข้าขอสังเวยให้แก่เจ้าเสียแล้วกัน "
    " ถือว่าเป็นการฉลอง...ที่พวกเราได้ร่างกายที่มีเลือดมีเนื้อ! "



    ร่างของเด็กสาวนั้นเปิดประตูกว้าง หน้ากากสีขาวทั้งหมดวนเวียนอยู่รอบกายของหล่อนในขณะที่สองเท้านั้นเดินมุ่งหน้าสู่ภายในตัวบ้าน และ ภาพทุกอย่างของโนวาก็ถูกตัดมืด.. เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเธอก็ค้นพบว่ากากของเธอนั้นถูกไฟเผามอด ร่างของพี่ชาย บิดา มารดานั้นเป็นตอตะโกอยู่ที่ห้องครัวจนไม่สามารถตรวจสอบความเสียดายได้ ส่วนเธอนั้นถูกขังไว้ในโกดังสภาพปางตาย โชคดีแค่ไหนที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ปู่ของเธอ...กล่าวเช่นนั้น เธอต้องพักฟื้นบนเตียงอยู่หลายวัน อย่างเงียบเชียบท่าทางโศกเศร้ากับการศูนย์เสียทั้งหมดของครอบครัว คุณปู่คุณยายมาเฝ้าเธอทุกวัน เพราะเธอไม่เหลือใครแล้วในครอบครัว และเมื่อถามว่าเธออยากจะได้อะไร ดวงตาสีแดงก่ำนั้นก็หันไปมองทั้งสอง 


    " .........หนู.......อยากได้...หน้ากากโนห์ที่อยู่ที่โกดังค่ะ.....คุณปู่.... "




    " และนั้นคือเรื่องราวทั้งหมด "



    เจ้าของนัยน์ตาที่แดงก่ำประสานมือบนตักด้วยรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนสีหน้า ใบหน้าหวานนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกเกินกว่ารอยยิ้มเธอยังนั่งอยู่เบาะอย่างเงียบขรึม หน้ากากโนห์ทั้งหลายยังหมุนเวียนรอบกายของหล่อนราวกับเป็นเกราะกำบังอะไรบางอย่าง " เรื่องราวของคุณพ่อที่ไม่ได้ความสติแตก ดื่มสุราจนเมาอาละวาด สุดท้ายก็ทุบตีภรรยา กล่าวอ้างว่าให้กำเนิดปีศาจออกมาจนสิ้นสติ ในขณะที่ภรรยาก็หันไปลงกับลูกชาย พาลใส่ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการเรียน หรือเพื่อนจนลูกชายผลันตัวเป็นเด็กไม่ดี....สุดท้ายก็มาโทษน้องสาว "



    เสียงหวานนั้นกล่าวขึ้นอย่างกลั้วหัวเราะ ชายแขนฮาโอริยกขึ้นมาป้องริมฝีปากดวงตาคู่นั้นยียิ้มแต่แววนั้นกลับไม่ยิ้มเลยแม้แต่น้อย " สมควรแล้วล่ะ เจ้าไม่คิดว่างั้นหรือ..? "



    " หืม? อะไรนะ? แล้วข้ามาอยู่ที่นี้ได้ยังไงอย่างงั้นหรือ? " เธอเอนกายพิงกับเบาะที่นุ่มนิ่มดวงหน้าหวานนั้นเชิ่ดขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ค่อยๆเท้าศอกกับที่ตักและวางคางบนมือของตนเอง " หน่วยวิเศษน่ะสิ ป่านนี้เพิ่งค้นพบว่ามีการทำร้ายผู้วิเศษ'ผู้เยาว์' สุดท้ายก็ตามหาญาติผู้วิเศษที่หลงเหลืออยู่ที่น่าตลกคืออะไรรู้มั้ย เธอได้ไปอยู่กับญาติโคตรเง้าเลยน่ะสิ " 


    ดวงตาคู่สวยนั้นยีจนแทบจะปิด ใครจะไปรู้ล่ะว่าโนวานั้นมีเชื้อสายอังกฤษอยู่ในตัว แต่กระทั่งมันก็น้อยจนเรียกได้ว่าเป็น 00.50 เปอร์เซนต์ และที่ตลกไปมากกว่านั้นคือเธอไม่มีญาติคนไหนที่มีเชื้อสายแม่มดในประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไปแล้ว เธอถูกพรากจากปู่ (ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกแย่ถึงขนาดต้องใช้พราก) มาอยู่ต่างแดน เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยวัย 12ปี เธอพัฒนาได้อย่างรวดเร็วจนคนอื่นๆต้องตกตะลึง (เพราะเธอไม่มีแผลใจต้องรักษานี่) และเมื่อเธออายุ15 เธอก็มาอยู่ในโรงเรียนนี้ ครอบครัวคนอังกฤษก็รักเธอดี ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร 



    " เจ้านี่คำถามเยอะเสียจริง ตอนนี้ตัวจริง..ยังอยู่อยู่รึเปล่า? " รอยยิ้มถูกวาดขึ้นจนพวงแก้มนั้นดันเข้าไปใกล้กับดวงตาคู่สวยมือที่โอบรอบเรือนแก้มของหล่อนในขณะที่เธอเอียงศรีษะเท้าแขนกับขานั้นช่างเป็นภาพที่น่ามอง " ...ยังอยู่รึเปล่านะ เจ้าคิดว่าอย่างไรกัน? "



            ชอบ :: 

    อำนาจ - อำนาจคือความเป็นใหญ่ คือผู้คนที่สามารถควบคุมผู้อื่นได้โดยแม้จะฝืนใจก็ตาม มันคงเป็นภาพที่ตลกที่หากได้ก้มลงมองบนที่สูงๆและผู้คนนั้นราวกับมดแมลง


    โดนการเคาพ - นั้นคือหลักฐานของการมีอำนาจ หวาดกลัว นับถือ หนำซ้ำยังไม่มีใครรบกวน อยู่อย่างเป็นสุข เชื่อฟัง ไม่ตอแย 


    เงินทอง - เงินซื้ออำนาจได้ ซื้อได้สิ ซื้อความสะดวกสบายได้มั้ย ได้อีก มีอะไรบางที่เงินซื้อไม่ได้ บางครั้งก็ซื้อได้แม้กระทั่งเงิน ดังนั้นมีเรื่องอันใดที่จะเกลียดเงิน ไม่มี


    คนฉลาด / คนเก่ง - คนเก่งคนฉลาดคือบุคคลที่ทรงคุณค่า หากคุยกับรู้เรื่องด้วยก็ยินดี เธอชอบคนฉลาดคนเก่งเพราะพวกเขาไม่น่ารำคาญ ต่อให้น่ารำคาญก็ยังน่ารำคาญน้อยกว่าคนพูดไม่รู้เรื่อง โง่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้


    ข้าวสวย - เม็ดข้าวย่อมดีกว่าขนมปัง นั้นเป็นสิ่งที่เธอกล้าเอ่ยออกมา เม็ดขาวญี่ปุ่นร้อนๆเรียงตัวสวยๆ กินกับอะไรก็อร่อย ขนมปังนั้นสากทั้งแห้งแถมยังเลียนอีก


    อาหารรสจืด - เธอไม่ชอบอาหารรสจัด มันจัด เผ็ดจัด หรือ เค็มจัด เปรี้ยวจัด หากถามว่าทำไม ส่วนใหญ่อาหารของญี่ปุ่นมักจะมีรสชาตินุ่มนวลอยู่แล้ว และเธอก็คุ้นชินกับรสชาติแบบนั้นมากกว่า


    หนังสือ - อย่างน้อยมันก็ไม่น่ารำคาญแหละเนอะ พูดก็ไม่ได้ แต่สามารถศึกษาได้ เธออ่านมันหมดทั้งหนังสือเรียนหรือนิยาย ยกเว้นรักหวานแววอันนั้นทำใจเข้าใจไม่ได้


            ไม่ชอบ :: 


    คนตอแย - น่ารำคาญ ถ้าอยากพูดก็พูดด้วยแล้ว เธอไม่ชอบคนจำจี้จ้ำไช ส่วนใหญ่หน้าก็ยังยิ้มได้อยู่ แต่ปากก็แซะไปแล้ว

    คนที่แกล้งแล้วไม่มีปฏิกิริยาสนุกๆ - ก็มันน่าเบื่อนี่นา แต่ยังไงต่อให้ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบก็หาเรื่องแกล้งใหม่อยู่ดี

    ผู้ชายปาดจัด - ปากจัดแบบนี้ไม่เป็นผู้หญิงไปเลยล่ะ? นั้นมันจะเป็นคำพูดโต้ตอบของโนวาเสมอ บางครั้งก็จับใส่กระโปรงเลยล่ะ เหมาะดี เป็นผู้หญิงเถอะอย่าเป็นผู้ชายเลย

    เทคโนโลยี - ปีศาจสมัยเฮซ์เซย์จะมานั่งจับมือถือจิ้มๆงงๆกับแอพมือถือเหรอ ฝันไปเถอะ แค่ทุกวันนี้เปิดทีวียังเปิดไม่ได้เลย เลยชอบอ่านหนังสือและอ้างว่าทีวีเสียงดังไม่ชอบมากกว่า



            เกลียด ::


    คนโง่ - ไม่ควรค่าที่จะคุยด้วยด้วยซ้ำ บางทีก็อยากจะพูดตรงๆว่า โง่อะ ไม่คุยด้วย แต่ใบหน้าที่ยิ้มแล้วเลือกเดินเมินผ่านไปมันก็สื่อความหมายเดียวกันโดยไม่ต้องพูดใดๆนั้นแหละ

    คนอ่อนแอ - อาจจะเพราะแค่ว่าดูขัดหูขัดใจล่ะมั้ง เอะอะอะไรก็ร้องไห้ โนวาที่เธอเหยียดในใจว่าอ่อนแอแล้วพอมาเจอคนที่ร้องไห้ เอะอะอะไรก็ทำตาคลอ เอะอะอะไรก็แหกปาก ยิ่งทำให้เธอรำคาญเลยล่ะ

    เด็ก/คนแก่ก็นับ - ยิ่งเด็กแบบคุยไม่รู้เรื่องขัดใจไรหน่อยก็ร้องไห้ เธอยิ่งเกลียดเลยล่ะ ยิ่งทำอะไรเองไม่ได้อีก ไม่ต่างอะไรกับคนอ่อนแอเลย คนแก่ก็เช่นกัน



            กลัว :: 

    ถูกผนึก - เธอที่ต้องการภาชนะมาตลอด(เพราะเป็นวิญญาณร้ายไม่มีร่างสิง)และเพิ่งได้ร่างมาครอบครองหากถูกขับไล่ หรือผนึกให้อยู่เฉยๆเธอคงรับไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงมักทำตัวไม่เด่นสะดุดตา หรือไม่ทำให้คนเบื้องบนไม่พอใจ และแอบทำลับหลังเอาเพื่อจะได้อยู่รอดในสังคม

            แพ้ ::  -

            อาวุธ :: หน้ากากทั้งห้า | หน้ากากทั้งห้าก็มีความสามารถต่างกันออกไป แม้อาจจะไม่ได้มีพลังเวทย์เยอะเท่าโนวา แต่ก็พอที่จะใช้ได้ ทั้งป้องกัน สะท้อนกลับ ใช้เวทโจมตี หรือ บัฟต่างๆ แต่พวกเขาสามารถใช้เวทได้วันล่ะสองครั้งเท่านั้นซึ่งโดยปกติก็ไม่ค่อยยุ่งอะไรมากนักหรอก อุบะนั้นถนัดในการร่ายคาถาสนับสนุน วากาโอโตโคะ ร่ายเวทย์การโจมตีระยะใกล้ จิ้งจอกจะถนัดร่ายเวทย์อำพรางกาย  นามานะริ จะถนัดการเพิ่มพลังโจมตี 

            งานอดิเรก :: อ่านหนังสือ / เย็บปักผ้า / ระบำโนห์ญี่ปุ่น / จับผิดคน?

            เพิ่มเติม ::


    - เธอเอาหน้ากากโนห์ทั้ง4มาด้วย และ เมื่อโนห์ที่ไม่ได้สิงร่างกาย มันก็เคลื่อนไหวไปทั่วโรงเรียน และนี่ก็เป็นหน่วยหาข่าวสารให้โนวานั้นเอง

    - หากเข้าสิงร่างกายนั้นจำเป็นที่จะต้องสวมหน้ากาก ดังนั้นโคโอโมเตะจะต้องออกจากร่างโนวาก่อนถึงจะให้คนอื่นสวมรอยต่อได้

    - ทุกวันนี้คนที่สิงร่างโนวาทุกวันคือ โคโอโมเตะ แต่หากถามว่าทำไมตนอื่นเข้าร่างโนวาได้เฉพาะสวมหน้ากาก เพราะโคโอโมเตะนั้นไม่ใช่ภูติผีนั้นเอง | หน้ากากของญี่ปุ่นยิ่งเก่ายิ่งแก่แค่ไหน มันจะทำการแปรผันตนเองให้เป็นภูติผี และ เมื่อภูติผีรวมตัวกันเยอะๆ มันก็จะเรียกปีศาจ(วิญญาณร้าย)เข้ามา นั้นเป็นสาเหตุว่าทำไม โคโอโทเตะถึงเข้าสิงได้โดยไม่ต้องสวม เพราะเธอไม่มีร่างภาชนะนั้นเอง

    - การจะถอดร่างของหน้ากากจำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากหน้ากากก่อน หากถูกกระชาก มันก็ไม่ยอมออกราวกับติดอยู่กับใบหน้า

    - เวลาสวมหน้ากากบางครั้งก็จะพูดอังกฤษไม่ได้ คนแก่แล้วเรียนปะกิดยาก

    - ทุกวันนี้โนวายังอยู่ใต้จิตใจของโคโอโมเตะ แต่เธอไม่ยอมดิ้นรนออกมาราวกับพึ่งพิงอีกฝ่าย และ โคโอโมเตะก็ยอมให้พึ่งพิงเพื่อครอบครองร่างกาย

    - เป้าหมายของโคโอโมเตะนั้นคือเป็นใหญ่ในโลกเวทมนตร์ดังนั้นแม้จะเป็นก้าวเล็กๆเธอก็ทำทุกอย่างเต็มที่

    - ความทรงจำหากถูกดูดก็คนเป็นความทรงจำของเจ้าของร่าง โนวานั้นเอง แต่ดูดไปก็ดีนะ น้องอาจจะฟื้นเป็นผู้เป็นคนกับเขา

    - อื่นๆไว้จะเพิ่มอีกที่คราวหลัง เช่นความสัมพันธุ์ของเหล่าหน้ากาก ระดับการใช้ภาษาอังกฤษ หรือ อื่นๆ..


     

    _________________________________________
     INTERVIEW CHARACTER 
    (แสดงออกถึงความเป็นตัวละครให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้)

    หลังจากชายผู้สวมปลอกแขนสีทองคำพาตัวเธอมาที่ยังห้องแห่งนี้เเล้ว สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้าจึงเป็นหญิงสาวร่างสะโอด สวมแว่นตากรอบเหลี่ยม ใบหน้าแต่งแต้มสีเข้มทำให้ดูจริงจังมีระเบียบ หล่อนปรายสายตามองผู้มาใหม่เล็กน้อย กล่าวเชื้อเชิญนักเรียนใหม่แห่งสถาบันโรเซียให้ทรุดกายนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวโตตรงหน้าตน

    "ช่วยกรุณาแนะนำตัวด้วยค่ะ" หญิงสาวกล่าวเรียบง่าย แสนสั้น และไม่ได้มากมายไปกว่านั้น แต่จากการศึกษามาก่อนบ้างก็คงทำให้ทราบกันดีว่า การแนะนำตัวที่แสดงออกถึงบุคลิกของตนที่สุดคือตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างมากในเวลานี้


              ร่างในชุดญี่ปุ่นกิโมโนที่พอดีตัว แขนฟุริโซเดะที่ยาวจนแทบจะลากพื้นเธอวางมือไว้บนเหนือเอวในขณะที่ดวงหน้าหวานแย้มยิ้มอย่างงดงาม ดวงตาสีแดงเลือดนกนั้นจับจ้องไปที่อีกฝ่ายอย่างไม่คร่าสายตา เรือนผมสีดำขลับถูกรวบเอาไว้หลวมๆแต่ก็แใงไปด้วยความเรียบร้อย เธอโค้งลำตัวในขณะที่ค้อมใบหน้าลงอย่างนอบน้อมและเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เสียงหวานก็กล่าวด้วยถ้อยคำที่ฟังดูฉะฉาน " ดิฉันทามายูระ โนวาค่ะ "




    ดวงตาหลังกรอบแว่นทรงเหลี่ยมปรายมองเล็กน้อย "จุดประสงค์อะไรที่ทำให้คุณเลือกสถาบันโรเซียจากตัวเลือกมากมายของคุณกันคะ?" เธอถาม มีเสียงเคาะด้ามปากกาลงบนแผ่นรองกระดาษตลอดเวลาดังเป็นจังหวะต่อเนื่อง ขับเน้นให้ความรู้สึกราวถูกเร่งเร้าดั่งเสียงเข็มนาฬิกาเคลื่อนกายถอยหลัง นับรอเวลาสุดท้ายมาเยือนไม่มีผิด


              รอยยิ้มนั้นยังคงประดับกว้างขึ้นเมื่อได้ยินประโยคคำพูดของอีกฝ่าย เธอเอียงใบหน้านั้นเล็กน้อยจนเรือนผมนั้นคลอเคลียกับใบหน้าของหล่อน เธอยังคงสงวนท่าทีได้อย่างงดงามแม้จะขบขันกับคำพูดของอีกฝ่ายในใจและไม่หลุดสีหน้าออกมาเลยแม้แต่น้อย " ดิฉันได้รับจดหมายเชิญมาค่ะ สถาบันแห่งนี้น่าสนใจไม่ใช่น้อย ทั้งการเรียนการสอน...แล้วก็...ตาถึงขนาดส่งจดหมายเชิญดิฉันนี่คะ..สายตากว้างไกลเช่นนี้คงเป็นโรงเรียนที่ยอดเยี่ยมมากมากเป็นแน่แท้.. "



    "รู้รึเปล่าคะว่าสถาบันของเรามีกฎอะไรบ้าง"

              เธอฟังแบบนั้นร่างบอบบางก็หลุบสายตาลงพื้น เธอแทบไม่ต้องใช้เสี้ยวเวลาคิดหนำซ้ำเธอยังพูดทันทีหลังอีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบประโยคดีด้วยซ้ำ " โปรดกรุณารักษา ความทรงจำ ของคุณไว้ให้ดียิ่งกว่าชีพ และ ภารกิจทุกชิ้นคือสิ่งที่ถูกคัดสรรมาอย่างเหมาะสม ไม่สามารถ ปฏิเสธ ได้ ถูกต้องใช่มั้ยคะ? "



    คำตอบที่ได้รับไม่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดบนดวงหน้าสวยเข้ม หญิงสาวครือเสียงในลำคอเล็กน้อย จดอะไรบางอย่างลงบนกระดาษสีขาวบนแผ่นรองตรงหน้าเธอ "ค่ะ" เสียงเอ่ยราบเรียบไร้อารมณ์ไม่แยแสสักเท่าไหร่นัก พลันใบหน้างามเงยขึ้นสบสายตากับผู้อ่อนเยาว์กว่า ส่งสัญญาณให้เธอกล่าวเท้าเดินไปหา ก่อนหยิบตราปั๊มสีแดงขึ้นประทับลงบนข้อมือซ้าย

    "ขออวยพรให้คุณโชคดี มิส ทามายูระ โนวา หวังว่าคุณจะไม่ด่วยตายก่อนจะถึงวันสุดท้ายที่เราได้พบกันนะคะ"

    _________________________________________


     INTERVIEW PARENT 

    สวัสดีค่ะท่านผู้ปกครองที่เคารพรักส์ทุกท่าน รันรันเองนะคะ หรือจะเรียกอาร์ซีก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!
    :: แคนดี้คนเดิมเพิ่มเติมคือจะตายแล้วค่าา

    ขอถามแรงบันดาลใจในการสร้างลูกๆ หน่อยได้รึเปล่าคะ
    :: เม็งเรย์กิค่ะ!! จากองเมียวจินั้นเองง ภาพก็เป็นภาพน้องแก แล้วก็ประวัติภูติผีญี่ปุ่นด้วยค่ะ!

    นิยามของน้องนี่เป็นคนแบบไหนเอ่ย
    :: เป็นผู้หญิงที่ถูกภูติผี4ผีร้าย1รุมทึ่งค่ะ /โศกา/ แต่ถ้านับแค่ผีร้ายคือเป็นคนชั่วร้ายมั่กๆๆ

    ถ้าน้องไม่ติด สนใจรับบทเสริมหรือว่ารับน้องกลับบ้านดีคะ
    :: ยังไงก็ขอรอดูดีกว่าเนอะะะะะ

    เรื่องการจับคู่ บอกก่อนน้าว่าไม่ได้มีคู่กันทุกคน เราถือว่าถ้าเคมีเข้าเราถึงจะชงให้ (?) ทั้งนี้ทั้งนั้นจะคละกันไปทั้งYaoi,Normal ดังนั้นเราจึงอยากถามหน่อยค่ะ ว่าทางผู้ปกครองโอเคกับสองแนวนี้รึเปล่าเอ่ย?
    ::เราโอเคนะคะ แต่ถ้ายังไงก็ขอNormal---

    พล็อตหลากหลายมากค่ะ ยำสารพัดแนวมากๆ ดังนั้นบางทีเนื้อเรื่องก็จะทวิสหน่อย..รันไม่ใช่สายสุขนิยม แต่เรื่องนี้จะพยายามนิยมสุขให้เกียตริคุณคอเมดี้กับโรแมนซ์เขา รับได้ใช่ไหมคะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ต้องรับค่ะ รันบังคับ (อ้าว---)
    :: บังคับแบบนี้มีเซย์โน่วมั้ยอะ ไม่แล้วให้นุ้งเลือกม้าย--

    ยังไงก็โชคดีมีชัยนะคะ ขอให้ติด ขอให้โดน ขอให้ปัง เพี้ยง ๆ!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×