คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อยากครองโลก
อยากครองโลก
ในปี ........สักปีหนึ่งนี่แหละ ได้มีเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งก็คือผมเอง ตอนนั้นยัง อายุ12ปีอยู่เลย และได้ถูกเล่าต่อๆกันมาถึงความเป็นอัจฉรียะในการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ และแล้วผมก็ได้สร้างผลงานชิ้นหนึ่งขึ้นมาถือว่าเป็นผลงานเปิดตัวในฐานะนักประดิษฐ์เลยก็ว่าได้ สิ่งนั้นคือ “พลังงานเทียม” ใช่แล้วพลังงานที่ใช้แทนน้ำมัน พลังงานทางเลือกใหม่ที่จะมีบทบาทอันยิ่งใหญ่ต่ออนาคตของโลก แต่เรื่องนี้ก็รู้กันแค่ในแวดวงนักประดิษฐ์เท่านั้น และนั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น
อยู่ๆมาวันหนึ่ง เหมือนเรื่องนี้จะไปเข้าถึงหูพ่อค้าน้ำมันรายใหญ่รายหนึ่ง พี่แกคงคิดว่าถ้าเรื่องพลังงานเทียมนี้ถูกเผยแพร่ออกไม่เมื่อไหร่ เศรษฐกิจการค้าน้ำมันของเขาคงจะตกต่ำลงในทันที เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลมมันเลยจ้างนักฆ่ามาฆ่าผมและขโมยผลงานวิจัยนั้น
มันทำให้ผมรู้สึกแย่เอามากๆเลย แบบว่า เฟลมากๆ ในฐานะนักประดิษฐ์แล้ว เราก็ต้องการให้คนอื่นชอบและยอมรับในผลงานของเรา แต่ผลงานเปิดตัวของผม มาถึงก็มีคนไม่ชอบทันที แถมคนนั้นน่าจะมีอำนาจเอามากๆด้วย
ในตอนนั้นนักฆ่าได้ บุกเขามาในบ้านของผมที่เป็นศูนย์วิจัยชื่อดังแห่งหนึ่ง การที่ผมบอกว่าศูนย์วิจัยเป็นบ้านก็เพราะว่า ผมเป็นเด็กกำพร้าที่ทางศูนย์วิจัยรับมาเลี้ยงยังไงละ ผมจึงมาอาศัยในศูนย์วิจัยซะเลย ซึ่งผมได้รับการเรียนรู้สิ่งต่างๆและเข้าในมันได้รวดเร็ว สามารถนำความรู้เหล่านั้นมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอย่างนี้รึปล่าว พวกเขาถึงรับผมมาดูแล
เล่าต่อนะคับ พวกนักฆ่ากบุกเข้ามาในสูญวิจัยอย่างโจ่งแจ้ง ลุงๆที่ผมรู้จักถูกฆ่าไปหลายคน พ่อของผมที่เป็นผอ.ศูนย์วิจัยนั้น รู้ว่าเป้าหมายของพวกมันคืออะไร เขาจึงพาผมหนีออกมาและทำลายข้อมูลวิจัยนั้นไป
ผมกับพ่อหนีออกมาได้สำเร็จ ถึงแม้จะไม่มีคนบอกแต่ผมก็รู้ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากผม และงานวิจัยของผม ตอนนั้นผมนี่แทบขี้ไม่ออกไปหลายวันเลยทีเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นข่าวใหญ่ด้วยซ้ำ ประมาณมีคนบุกศูนย์วิจัยชื่อดังอะไรแบบนั้น แต่ข่าวกลับเงียบผิดหูผิดตา แสดงว่าพวกมันต้องมีเส้นใหญ่มากแน่ๆ
แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ในการเป็นนักประดิษฐ์หรอกนะเพราะผมเห็นถึงประโยชน์ของอาชีพนี้มันสามารถทำอะไรได้อีกมาก พ่อของผมก็คิดเช่นกันจึงเลือกทำงานสายนี้ ถึงแม้ยังมีคนตามล่าพวกผมอยู่ก็ตาม
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ พวกผมก็ยังถูกตามล่าเหมือนเดิมอยู่ดี เพราะถึงแม้ว่าผลงานวิจัยจะถูกทำลายไปแล้วก็ตาม แต่ความรู้เหล่านั้นยังอยู่กับตัวผมไม่หายไปใหนพวกมันจึงยังไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องของผมนัก แต่ก็ถือว่าพวกมันส่งคนมาน้อยลงมากในช่วงหลังๆนี้ พวกผมก็เลยเบาใจได้พักนึง
หลังจากนั้นไม่นาน่า ผมก็ประดิษฐ์ผลงานใหม่ได้อีกครั้ง และผลงานครั้งนี้ก็คือ หุ่นยนต์ ไม่ใช่หุ่นยนต์ธรรมดานะ เป็นหุ่นยนต์ที่คิดและเครื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์ แอนดรอยด์นั้นเอง ผมนึกว่าครั้งนี้จะไม่น่าเกิดเรื่องแบบเดิมอีกเพราะ มีคนประดิษฐ์หุ่นยนต์อยู่ถมไป ไม่น่ามีปัญหา
แต่สุดท้ายมันไม่เป็นอย่างนั้น พวกมหาอำนาจรู้ข่าวเข้าก็อยากจะได้เอาไว้ใช้ทำสงคราม ไอตัวผมมันก็ไม่ได้สร้างมันให้เป็นอาวุธสักหน่อยจึงไม่ขายข้อมูลพวกนี้ แล้วก็มาอีรอบเดิม พวกมันส่งคนมาล่าอีก ซึ่งครั้งนี้มันเล่นล่ากันทั้วโลกเลยมีการประกาศว่าผมเป็นอาชญากรหลบหนีบ้าง เป็นจอมวายร้ายที่คิดจะทำลายโลกบ้าง แถม+ค่าหัวไปอีกตั้ง 1000ล้าน ผมก็เสียพ่อไปตอนนั้นแหละคับ พ่อของผมถูกจับและประหารในฐานะผู้สวมรู้ร่วมคิดของจอมวายร้าย คิดแล้วก็เศร้า
ทำไมชีวิตผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ถ้าผมมีอำนาจบ้างนะ.......
ใช่แล้ว อำนาจไงละ สิ่งที่เกิดขึ้นมันมาจากพวกบ้าปัญญาอ่อน ที่ใช้อำนาจที่พวกมันมีกดขี่ผมและทำลายชีวิตอันสงบสุขของผม
ผมต้องมีอำนาจ………นั้นคือสิ่งที่ผมคิดตอนนั้น
แล้วผมจะสร้างอำนาจยังไงนะเหรอ ในเมื่อพวกมันต้องการให้ผมเป็นจอมวายร้ายนัก ผมก็จะเป็นมัน และครองโลกนะซะ เคี๊ยกๆๆๆๆๆๆ+ (หัวเราะแบบชั่วร้าย)
นั้นคือเรื่องราวฉบับย่อของผม และกลับมาสู่ความจริงอีกครั้ง ตอนนี้ผมก็อยู่ที่เดิมไม่ใช่ที่ใหน
ใน คุก!!
“ @%&#&$#@*()W…” เสียงของชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมกำลังพูดอะไรสักอย่าง
จริงๆแล้ว ในขณะที่ผมเล่าชีวะประวัติของผมให้พวกคุณฟัง ก็มีคนพูดอยู่กับผมเช่นเดียวกัน แต่ผมไม่สนใจหรอก มันก็มาแนวๆเดิม ยื่นอิสระภาพให้ แลกกับข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดของผม ซึ่งผลตอบรับจากผมก็คือ
..................ฝันไปเถอะ
“เราจะรอคำตอบของคุณเสมอ ถ้าหากคุณเปลี่ยนใจก็บอกเราได้เสมอ” เหมือนมันจะพูดเสร็จแล้ว มันก็เดินจากไปเลย
ดีจริงๆไม่ได้ฟังมันพูดเลย 55555+
ตอนนี้ก็ผ่านมา2วันแล้วอาการในตอนนี้ของผมถือว่าดีขึ้นมาก อยากจะรู้กันสินะว่าเกิดอะไรขึ้นกับ[ระเบิดเรียกหนู ver.007 +ระบบจับเวลา] ต่อ ก็เป็นไปตามคาดอีกเช่นเคย มันไม่ระเบิด และตอนนี้ถูกเก็บไวอย่างดีที่ใหนก็ไม่รู้ ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการให้ผมรู้ ไอผมมันก็ไม่ได้ใส่ระบบติดตามไว้ด้วยสิ ทุกทีมันระเบิดตลอดอะ แต่คราวนี้ก็นึกว่ากดแล้วมันจะระเบิดเหมือนกัน เลยไม่กด ลืมจริงๆแบบไม่น่าให้อภัย สงสัยคราวหน้าลองใส่ระบบระเบิดอัตโนมัตดีกว่าจะได้ไม่ต้องมาห่วงว่าจะกดไม่กด 5555+
ส่วนยัยสั้นนั้นหลังจากที่ซัดผมไปแล้วก็หายไปเลย สงสัยจะรีบกลับไปนอน จำได้ว่าบ่นๆว่ามีเรียนอะไรนี่แหล่ะ
จะถามว่าผมจะทำอะไรต่อจากนี้เหรอ ก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่รอ….
ใช่แล้ว.......แค่รอ…..
กรี๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หวอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…
เสียงเตือนภัยในเรือนจำที่ผมอยู่ก็ดังขึ้นมา หึหึ ถึงเวลาแล้วสินะ
ผมยืนขึ้นพร้อมกับเดินไปที่อ่างล้างหน้าที่อยู่ในห้อง ผมเปิดก๊อกแล้วก็ทำการล้างหน้าตัวเอง เสร็จแล้วก็ส่องกระจกสักหน่อย ภาพในกระจกฉายให้เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่า กับใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ บวกดวงตาขี้เล่นสีฟ้าสดใส ผมนี้ดูดีจริงๆเลย
แก็งๆๆ
เสียงเคาะลูกกรงดังขึ้น3ที เหมือนกับเป็นสัญญาบอกว่า มาถึงแล้ว
ผมหันไปมอง ก็เป็นไปตามคำนวน คนที่เคาะไม่ใช่ใครที่ใหน เซบาสเตียนนั้นเอง พวกคุณคงยังไม่รู้จักสินะ เซบาสเตียนเป็นแอนดรอยพ่อบ้านที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆรวมทั้งการช่วยผมแหกคุกด้วย เพราะผมคนแหกคุกเองไม่ได้หรอกระบบรักษาความปลอดภัยที่นี้แข็งแกร่งมาก แต่ถ้าเซบาสเตียนมาก็หายห่วง
“กระผมมารับแล้วครับนายท่าน” เสียงสำเนียงหุ่นยนต์ ที่มันสั่นๆหน่อยดังออกมาจากเขา พร้อมกับกระชากลูกกรงออกอย่างง่ายดาย
“กลับบ้านกันเถอะ เซบาสเตียน”
“ขอรับนายท่าน”
ผมเดินออกมาไปยังทางออกอย่างสบายใจ ซึ่งเซบาสเตียนก็เดินตามหลังผมมาเช่นกัน
ซึ่งต้านหน้าผมเต็มไปด้วยผู้คุมของเรือนจำที่ถือปืนยืนเรียงแถวกันหน้าสลอนอยู่
“จงยอมจำนนซะ แฮมเตอร์ ก่อนที่เราจะใช้มาตการขั้นเด็ดขาดกับคุณ” เดจาวูมาก
“จัดการ”
ผมสั่งเสร็จ เซบาสเตียนที่อยู่ข้างหลังผมก็พุ่งเข้าไปกลางวงผู้คุม
plasma field on
รอบๆร่างของเซบาสเตียนก็มีม้านกระแสไฟฟ้าวิ่งวนอยู่ สักพักก็ตัวม้านนั้นก็ระเบิดขึ้น ผลของการระเบิดได้ผลักให้ผู้คุมทั้งหมดกระเด็นออกไปอย่างหมดสภาพ คนที่ยังได้สติอยู่ก็มองเซบาสเตียนอย่างตื่นตระนก ส่วนผมก็เดินออกไปจากเรือนจำอย่างง่ายดาย 55555++ เซบาสเตียรก็เดินตามมาเช่นกัน
จบเรื่องนี้ ไม่มีใครตายเพราะผมไม่ต้องการฆ่าใคร แนวทางของผมคือนักประดิษฐ์ไม่ใช่ฆาตกร ถึงแม้จะเป็นมหาวายร้ายก็เถอะ ตั้งแต่ที่ผมรับบนนี้ก็ยังไม่เคยฆ่าใครเลย ส่วนใหญ่ก็แค่บาดเจ็บหนักแค่นั้นเอง แต่พวกเขาก็ไม่ตายนิ ถือว่าผมยังไม่ได้ฆ่าละกัน อิอิ
อากาศนอกเรือนจำนี้มันช่างสดชื่นจริงๆ ผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่สว่างสดใส พร้อมกับคิดแผนการใหม่ที่ดียิ่งกว่า
“เฮ้อ....อยากครองโลกจัง”
สักพักก็มีรถรูปร่างประหลาดสีดำวิ่งมาจอดตรงหน้าผม ประตูรถเปิดเอง โดยข้างในไม่มีคนขับอยู่ ผมเดินขึ้นไปนั่งกัยเซบาสเตียน และจากไป
พร้อมกับพรุ่งนี้ที่สดใสกำลังเราอยู่......
*มุมมองของเรื่องจะเป็นแบบบุคคลที่ 1 ซึ่งเราเห็นในสิ่งที่ตัวเอกเห็นเท่านั้น เช่นถ้าตัวเอกไม่ส่องกระจกก็จะไม่เห็นหน้าตัวเองอะไรแบบนั้น
มหาวายร้าย แฮมเตอร์ ผมเอง อิอิ
ฮีโร่ สาวกระโปรงสั้น หรือ ยัยสั้นแรงช้างจอมจุ้น
เซบาสเตียน
ความคิดเห็น