ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction Fighting [ เทิร์นบอสเริ่มลงบางรายแล้วจ้า ]

    ลำดับตอนที่ #2 : Intro : Fiction Fighting

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 337
      0
      5 ต.ค. 52

    +Fiction Fighting+

     

    By : +สมาพันธ์รั่ว+

     

                    Special intro : ฤกษ์เบิกม่านรัตติกาล

     

                    ความปรารถนาเจ้าเอ๋ย ความปรารถนา...

     

                    ความปรารถนาอันเป็นที่สุด เจ้ายอมแลกทุกสิ่งเพื่อความปรารถนานั้นหรือไม่?

     

     

              ความมืดครอบงำไร้สิ้นสุด ละเลงพื้นปฐวีอันงดงามให้กลายเป็นน่าผวาชั่วพริบตา สายน้ำแปรเป็นสีเลือด สายลมแผ่วเบากลายเป็นพายุเกรี้ยวกราดพร้อมทำลายทุกสิ่งสรรพ ฝนเลือดหลั่งเท ต้นไม้ใบหญ้าแห้งตาย สรรพชีวิตน้อยใหญ่หลีกลี้หนีภัยแม้รู้ดีว่าไม่มีที่ใดในโลกที่จะอยู่ได้อย่างปลอดภัยอีกต่อไป

     

                    เวลานี้... วินาทีนี้...

     

                    มันกำลังแผ่อำนาจเสียงหวานพึมพำแผ่ว ภายในถ้ำอับชื้นมืดทึมกำลังส่องสว่างด้วยแสงสีชาดจากต้นกำเนิดแสงหนึ่งเดียวภายในถ้ำเล็กๆบนแนวเขาสูงชัน ต้นกำเนิดนั้นคืออัญมณีแผดแสงสีทับทิมเรืองรองดูเปี่ยมไปด้วยพลังลึกลับ อัญมณี... ที่ประดับบนแผ่นป้ายสี่เหลี่ยมสีทองคำสลักเสลางดงามประณีตจากฝีมือช่างชำนาญ

     

                    อาญาสิทธิ์สั่งอสูร... นึกว่าเอามาโยนทิ้งไว้ที่นี่แล้วก็จบเสียอีก อีกเสียงหนึ่งว่า

     

                    ของวิบัติอัปรีย์ เสียงหนึ่งเปรยอย่างติดจะหงุดหงิด

     

                    จริงของเธอ แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันเป็นของที่ทำลายกันไม่ได้นี่นะ เสียงแรกเห็นด้วยกับเสียงที่สาม หลังจากจบประโยคนั้นเสียงหัวเราะคิกคักก็แทรกขึ้น

     

                    คิก... ของวิบัติ ของวิบัติ สาเหตุเภทภัยบนโลกที่สมควรจะลบให้หายไป แต่ก็ทำไม่ได้ ในท่อนท้ายของน้ำเสียงทอดลงอ่อนเหมือนปลงอนิจจัง ของอย่างนั้นกลับกลายเป็นสิ่งวิเศษในสายตาบางคนไปได้ เฮ้อ

     

                    จะอัปรีย์หรือวิเศษตอนนี้ไม่เกี่ยวกัน เสียงต่อมาแย้งขวับ ก่อนที่มันจะอาละวาดโลกจนเละไปมากกว่านี้หาทางทำอะไรกับมันเข้าสักอย่างสิ!”

     

                    สิบบุคคลในคูหาผู้ยืนล้อมตัวการภัยพิบัติต่างมองหน้ากันเหมือนรอให้ใครคนใดคนหนึ่งเสนอความคิดเงียบๆ

     

                    ...ต้องย้ายที่อยู่ เสียงแรกสุดที่กล่าวบทสนทนาออกความเห็น อีกเก้าคนที่เหลือให้ความสนใจมาที่เธอทันที ต้องส่งไปที่ที่มีเวทมนตร์คุ้มครองกล้าแข็งพอให้มันสงบ

     

                    ที่ไหนล่ะ?

     

                    จะมีที่ที่แข็งแกร่งพอ ปลอดภัยพอเหลืออยู่อีกเร้อ~” หนึ่งในนั้นเปรยลากเสียงยาวอย่างละเหี่ย

     

                    ที่นี่กำลังจะตาย หญิงสาวเจ้าของเสียงแรกที่ดูเป็นผู้นำหลับตาลง แต่ยังไม่ตาย อะไรที่พอทำได้ก็ทำจะดีกว่า ...และเรายังมีที่แข็งแกร่ง แต่อาจไม่ปลอดภัยอยู่นะ

     

                    ตกลงว่าที่ไหน? หนึ่งในสิบคนถามย้ำ

     

                    โรงเรียนเซนต์ เบริเอล

     

                    ความเงียบเข้าครอบงำทันที มีแต่เสียงลมพายุกรีดร้องอยู่ข้างนอกกับเสียงฟ้าครวญครางให้ได้ยินแว่วๆในความคิดเท่านั้น นามของสถานที่ราวกับสาปทุกคนให้ตกลงสู่ห้วงคิดอีกครั้ง

     

                    อืม... มีอาคมแข็งแกร่งคุ้มกันที่นั่น... ปลอดภัย หนึ่งในนั้นครางเสียงให้เหตุผล

     

                    ผู้คนเยอะแยะอันตราย อีกเสียงแย้ง

     

                    ที่ที่อันตรายคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด

     

                    ของอันตรายยากจะคาดเดาเมื่ออยู่ในที่ที่อันตราย

     

                    ตอนนี้เราไม่มีที่ที่แข็งแกร่งและปลอดภัยเหลืออีกแล้ว... สิ้นคำโต้เถียงล่าสุด ทุกเสียงก็เงียบลงอย่างจำใจยอมรับ

     

                    ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!” เสียงหัวเราะไม่เกรงใจใครดังขึ้นถามกลางความเครียด สายตาทุกคู่หันมองต้นเสียงที่มุมหนึ่งของถ้ำ จะไปคิดอะไรให้ยาก ผู้คนที่เข้าออกได้ในโรงเรียนนั้นมีมากก็จริง แต่ใครอยากจะได้มันก็ให้มันมาเอาไปเสียสิ อ้อ ถ้ามีปัญญาล่ะก็นะ... หึๆ

     

                    งั้นตกลงตามนี้ เจ้าของเสียงที่เสนอสถานที่สรุป แล้วเอ่ยคล้ายจะภาวนา

     

                    เราคงต้องฝากความหวังให้พวกเขา... ขออย่าให้เกิดเรื่องขึ้นอีกเลย

     

     

                    ยามดวงตะวันสีชาดเคลื่อนขึ้นเยี่ยมรุ่งสาง ณ ปลายฟ้า แว่วเสียงหมู่สกุณาขับขาน สายลมพัดผ่านแผ่วเบารับบรรเลง ผ่านลอดช่องหน้าก่อด้วยอิฐหินก้อนใหญ่ ผ้าม่านกำมะหยี่ต้องลม ภายในห้องหรูหราบนชั้นสูงของหนึ่งในหอคอยนับร้อยของปราสาทหลังงาม

     

                    อะไรนะ!?” เสียงหวานแผดลั่นห้องในยามชาวอันสดใส เปลี่ยนเป็นเช้าที่แสนน่ารำคาญไปเลยสำหรับใครบางคน ข่าวเรื่องของนั่นรั่วออกไปแล้ว!? เป็นไปได้อย่างไรกัน

     

                    หึๆ รองประธานเสียงดังไปแล้วนะครับ ร่างสูงของชายหนุ่มผมสีน้ำเงินสั้นระต้นคอ เจ้าของดวงตาสีเทาดุจขี้เถาหลังกองเพลิงประกายพราวระยับราวถูกใจขึ้น เขาพาดขาขึ้นไขว่ห้างบนเก้าอี้พลางจิบชาด้วยท่าทีสบายๆ

     

                    นั่นสิ เบก ไม่เลวร้ายนักหรอก นัยน์ตาคู่คมสีแดงของชายผมน้ำตาลไฮไลท์สีขาวสลับแดงมองร่างหญิงสาวผมฟ้าม้วนเป็นลอนยาวสยายประเอวคอด เจ้าของนัยน์ตาสีแดงดุจดั่งทับทิมข้างขวาและสีฟ้าราวกับอะความารีนที่ข้างซ้าย คิ้วเรียวบนดวงหน้ามนมุ่นลงอย่างแรงบ่งบอกถึงความไม่พอใจกับความสบายเรื่อยๆเฉื่อยๆขอชายหนุ่มทั้งสอง

     

                    โดยเฉพาะ... เฟโรเบเอล  เอลอัลแลนเชอร์  เรพารอค ออฟ เธียทอร์เรี่ยน ที่20 ประธานนักเรียนแห่งโรงเรียนเซนต์ เบริเอล ที่ยังพูดถึงเรื่องใหญ่ว่าเป็นเรื่องไม่เลวร้ายนักออกมาหน้าตาเฉย!

     

                    มิน่า รายชื่อเด็กนักเรียนที่เข้าใหม่ปีนี้ถึงได้มากกว่าปกติ ...มีพวกย้ายมาจากโรงเรียนอื่นด้วย คงเพราะความลับเรื่องที่อยู่ของอาญาสิทธิ์สั่งอสูรหลุดออกไปสินะ เด็กสาวผมหางม้าถักแซมด้วยเปียเล็กๆสีส้มแดงราวกับพระเพลิงขนาดย่อมกล่าว ก่อนจะตวัดนัยน์ตาสีเขียวมรกตใส่หน้าสองบุรุษแรกอย่างเอาเรื่อง ฝีมือใคร?

     

                    ประธานนักเรียนหัวเราะหึๆอย่างแฝงนัย ส่วนชายหนุ่มผมน้ำเงินนั้นยกมือยอมแพ้ประมาณว่า ผมไม่รู้เรื่องไปเป็นที่เรียบร้อย กวาดตาไปมองผู้เข้าประชุมในห้องประธานนักเรียนที่เหลือทุกคนต่างก็พากันส่ายหน้าไม่รู้ไม่เห็นทั้งนั้น

     

                    เฮ้อ... หาเรื่องยุ่งจริงนะพี่เฟโร่ ร่างเล็กของเด็กสาวคนเดิมส่ายหน้าไปมาพลางวางรายชื่อเด็กนักเรียนเข้าใหม่ที่หนาเป็นตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานตามเดิม

     

                    เถอะน่าเดลฟี่ เผลอทำข่าวหลุดไปแล้วจะแก้ข่าวยังไงก็คงช่วยไม่ได้ ประธานนักเรียนหนุ่มยิ้มอมพะนำ ส่งผลให้หนุ่มผมน้ำเงินคนเดิมหรี่ดวงตาสีเทาลงอย่างจับทัน

     

                    มีแผนชั่วอยู่ในใจอยู่แล้วสินะครับ

     

                    ระวังคำพูดหน่อย เรเรส หรือไม่ก็มามีเรื่องกับฉันนี่ เดลฟี่ถลึงตาวาวโรจน์ใส่เจ้าคนพูดจาหยาบคายกับพี่ประธานนักเรียนของเธอ แต่ก่อนที่จะมีรายการปีศาจเจ้าเล่ห์ต่อยตีกับเอลฟ์ร่างเตี้ย รีเบกก้า ซาวิเอร่า รองประธานนักเรียนหญิงก็ยกมือห้ามทัพทั้งคู่ขึ้นก่อน

     

                    ตกลงว่ามีสินะ แผนในใจอย่างที่เรเรสพูดน่ะ เบกหันไปพูดกับเฟโร่ คนอื่นๆในที่ประชุมที่แม้จะเป็นพวกประเภทขี้เกียจ ไม่ไยดียังต้องหันมาสนใจ เราในที่นี้สมควรรับรู้แผนของนาย เฟโร่

     

                    ร่างสูงหน้าตาดีถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างจำนน ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มขึ้น พร้อมกับนัยน์ตาสีแดงสั่นระริกมองไปที่ผู้อยู่ใต้บัญชาทั้งเจ็ดคนภายในห้อง บรรยากาศอึดอัดลงในพริบตาหลังจากผู้มีอำนาจสูงสุดตอบคำถามสั้นๆแฝงไว้ด้วยปริศนาคลุมเครือที่ต้องขบให้แตกกันอีกรอบ

     

                    จากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุด... ถ้าไม่ปล่อยให้มันเริ่มแล้วเมื่อไหร่มันจะถึงที่สุดกันล่ะ

     

     

    ...อาญาสิทธิ์สั่งอสูร...

     

    นำพามาซึ่งอำนาจที่สั่งได้ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่มนุษย์ต่ำต้อยจวบจนปีศาจ อสูรโดยไม่มีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับใดๆ สั่งได้แม้กระทั่งยมทูตให้พาอริแห่งเราไปลงนรก หรือสั่งเทพยดาให้คืนวิญญาณแก่คนรักแด่เรา อำนาจที่จะทำให้ทุกๆความปรารถนาเป็นจริง...

     

    ความหอมหวานจากความลุ่มหลง ความสุขจากการได้มา ต้นเหตุของการเข่นฆ่าแย่งชิง

     

    โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย

     

    หากอยากได้จงแย่งเอามา เข่นฆ่าผู้อื่นแล้วเอาตัวเองก้าวไปอยู่ ณ จุดสูงสุดแห่งความปรารถนาทั้งมวล สู่อำนาจ สู่บาป สู่เส้นทางที่ตรงกันข้ามกับพระผู้เป็นเจ้า

     

    ...เดิมพันด้วยชีวิตของตัวเจ้าเอง...

     

    และขออวยพรให้ผู้สละตนสู่ความมืดมิดอันนิจนิรันดร์จงประสบความสำเร็จ

     

     

     

     

     

    มันอยู่นี่... อยู่ในนี้... จงหาเข้า... ที่โรงเรียนเซนต์ เบริเอล

     Fiction Fighting Start!!!

    -----------------------------------------------------------------



    อันนี้เป็นเรื่องราวคร่าวๆ ธีมหลักของเรื่องที่ดำเนิน
    ตัวละครของผู้เข้าแข่งขัน จะแสดงเป็นนักเรียนเข้าใหม่
    เป้าหมายนั้นอาจเป็นนอกเหนืออย่างอื่นได้แล้วแต่แต่ละคน
    แต่เมนหลักของเรื่องคือตามหาอาญาสิทธิ์สั่งอสูรที่เป็นรางวัลสุงสุด
    สิ่งที่ต้องทำคือดำเนินเรื่องตามโจทย์ ในส่วนนี้ดูได้ในรายละเอียดกติกาจะดีกว่า
    ไม่ขออธิบายในขั้นนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×