คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Character of สมาพันธ์รั่ว : Doll&Dolly [แถมภาพท้ายตอน]
แบบฟอร์มตัวละคร
ภาพตอนเฟล http://i306.photobucket.com/albums/nn254/kisajang/DDY0.png
**กรณีไม่ได้แยกส่วนเป็นสองท่อนแสดงว่าส่วนนั้นของทั้งคู่เหมือนกัน
ประเภทตัวละคร : NPC
ชื่อตัวละคร: ดอล [Doll] / ดอลลี่ [Dolly]
ชื่อเรียก(ชื่อเล่น) : (ตามด้านบน)
อายุ : เกือบ5ปีได้ (นับจากวันที่วิญญาณเข้าร่าง)
ชั้นเรียน : ปี 4
วันเดือนปีเกิด : 17 มิถุนายน
กรุ๊ปเลือด : -
เพศ: -
สรรพนาม แทนตัวเองว่า: เรา (มักใช้เรียกทั้งสองคน ไม่ค่อยจะเรียกตัวเองแค่คนเดียว) ดอลจะเรียกตัวเองว่าผม ดอลลี่จะเรียกตัวเองว่าฉัน
สรรพนาม แทนคนอื่นว่า: คุณ หรือชื่อของคนๆนั้น และตามยศศักดิ์
เผ่าพันธุ์: ตุ๊กตาหุ่นเชิด
ตำแหน่ง: เสนาธิการฝ่าย(รับ)หน้า
สายการเรียน : Mystic class (Magician)
ลักษณะรูปลักษณ์ตัวละคร: ดอล => รูปร่างเป็นเด็กชาย ผมหยักศกเล็กน้อยเรียบๆสีดำ ผมปัดยุ่งคล้ายหน้าม้าด้านหน้า นัยน์ตาสีอเมทิสต์ ใต้ตาขวามีรูปหยดน้ำสองหยดสีม่วงทึบ ผิวสีเนื้อซีด น้ำหนักเบา กลวง ทำจากไม้เนื้อดีสีอ่อน สูง 165-170
ดอลลี่ => รูปร่างเป็นเด็กหญิง ผมหยักศกเล็กน้อยเรียบๆสีดำมัดทวินเทลยกสูงยาวถึงสะโพก ผมปัดยุ่งคล้ายหน้าม้าด้านหน้า นัยน์ตาสีอเมทิสต์ ใต้ตาขวามีรูปหยดน้ำสองหยดสีม่วงทึบ ผิวสีเนื้อซีด น้ำหนักเบา กลวง ทำจากไม้เนื้อดีสีอ่อน สูง 165-170 สองคนนี้สูงเท่ากัน
การแต่งกาย (ไปรเวท) :
อุปนิสัย : โดยรวมจากภายนอกจะไม่ค่อยพูดค่อยจา ถามคำตอบถามตามความจำเป็น เงียบ ไม่ค่อยแสดงออกทางอารมณ์ เชื่อในเหตุและผลที่เป็นไปได้เท่านั้น (เชื่อใจคนยาก) ทีเล่นทีจริง โกหกไม่เป็น มั่นใจในตัวเองสูง (เช่น อะไรที่เป็นคำสั่งจะต้องปฏิบัติได้ทุกอย่าง) โดยส่วนใหญ่จะไม่คบพบปะคนอื่น มักอยู่ด้วยกันแค่สองคน ไม่ว่าทำอะไรก็ตาม หวาดระแวงสูง โลกส่วนตัวสูงเช่นกัน สรุปง่ายๆก็แฝดฮิคคิโคโมริดีๆนี่เอง
โดยลึกๆดอลลี่จะเป็นคนชอบถามแต่ไม่ค่อยตอบ อะไรที่เธอรู้ไม่ถ่องแท้ก็จะชอบซักไซ้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่เธอคาดไว้ ออกจากเอาแต่ใจตัวเองนิดหน่อย ส่วนดอลจะเป็นคนชอบตอบแต่ไม่ค่อยถาม(อะไรๆก็เก็บไปหาความจริงเอาเอง) เป็นคนว่าไงก็ว่าตาม
อาวุธ : เส้นเอ็นหุ่นเชิดบริเวณจุดที่เป็นข้อต่อทั้งหมด (ส่วนใหญ่รวมอยู่ที่นิ้วมือ) เปลี่ยนรูปร่างได้ตามความต้องการ (เช่นเป็นของแข็งคอยทิ่มแทง หรือจะอ่อนยวบเหมือนด้ายก็ได้ ยืดหดได้)
ท่าต่อสู้/วิธีการสู้: เป็นการประยุกต์อาวุธไปตามสถานการณ์เสียส่วนใหญ่ (เช่น เส้นเอ็น อาจใช้รัดคอ ทำให้แข็งแล้วฟันแทง หรือบังคับวัตถุที่เอ็นพัน เป็นต้น)
จุดแข็ง: การแก้สถานการณ์ฉุกเฉินตามสัญชาตญาณ ไม่ตาย (เป็นวิญญาณในหุ่น)
จุดอ่อน: รับการโจมตีแรงๆไม่ไหว (ร่างกายเสียหายจะทำให้การเคลื่อนไหวเสียสมดุล) คอยพะวงหลังตลอดเวลา (ถ้าคนใดคนหนึ่งเสียที จุดสนใจการต่อสู้จะถูกเปลี่ยนเป็นคอยห่วงอีกฝ่ายแทน)
ความสามารถ (แบบคนธรรมดา) : การป้องกันดี ไหวพริบดี เตะขาเก่ง (อะไรๆฟังแล้วไม่เข้าหูเตะให้หมด)
ความสามารถ (แบบพิเศษ) : บังคับวัตถุด้วยเส้นเอ็นได้ ไม่เกี่ยงเรื่องขนาด และน้ำหนัก (ยกเว้นกรณีวัตถุยึดกับพื้นลึกๆ เช่น บ้าน อาคาร เป็นต้น และกรณีวัตถุนั้นเคลื่อนไหวได้ ใครแรงเยอะกว่าก็ได้ชัยไป)
สิ่งที่ชอบ : ผีเสื้อ กลางคืน ความเงียบ กันและกัน (แบบพี่น้อง)
สิ่งที่เกลียด : คนที่จะมาพรากเราสองคน
Background (ภูมิหลัง ที่มาของตัวละคร): ทั้งสองคนเชื่อว่าร่างหุ่นนี้เคยเป็นตุ๊กตาเชิดข้างทางมาก่อน โดยมีคนย้ายวิญญาณและมอบร่างหุ่นนี้ให้ คนคนนั้นทำการนี้เพียงแค่ว่า "หุ่นที่ไม่มีใครเชิด คงไม่ต่างจากของมีค่าที่ไม่รู้จักใช้ มันน่าเสียดายออกไม่ใช่เหรอ?" ดังนั้นทั้งสองจึงอยากตอบแทนบางอย่างให้กับคนคนนั้น (ที่ทำให้ได้ร่างกายมา)
เหตุผลที่เข้าโรงเรียน(เป้าหมายที่อาจจะนอกเนื้อจากธีมเรื่อง) : 'เรียน'
ความปรารถนา : อยู่ด้วยกันตลอดไป
Intro:
Doll Dolly's Intro: We will be together forever.
เสียงเซ็งแซ่บนถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน ภายในตรอกชื้นๆที่มีตึกสูงขนาบข้างจนท้องฟ้าดูแคบลงไปถนัดตา ไม่มีใครสนใจขยะเก่าๆที่ถูกทิ้งร้างไว้ตามพื้น พวกเขาเดินผ่านไป...คนแล้ว คนเล่า
ตึก...ตึก
รองเท้าหนังเก่าๆมาหยุดอยู่หน้าตรอก เจ้าของรองเท้าจ้องมองลึกเข้าไปด้านใน ข้าวของต่างๆที่วางสะเปะสะปะอยู่ทั่วตรอกทำให้ยากแก่การเข้าถึง ไม่ได้ทำให้สายตานั้นหยุดจ้องมองตุ๊กตาหุ่นเชิดสองตัวนั้นแม้แต่น้อย มือทั้งสองสัมผัสสิ่งที่ต้องการอย่างทะนุถนอม ปลายนิ้วลูบไล้เรือนผมสีดำของหุ่นอย่างเบามือ ไล่ไปที่ใบหน้าของตุ๊กตาที่ถูกเกลาเกลี้ยงจนเรียบเนียนไร้ที่ติ
"ช่างเป็นตุ๊กตาที่งดงามอะไรเช่นนี้"ความพึงพอใจที่เปล่งออกมาเป็นคำพูด รอยยิ้มแผลงๆปรากฏขึ้นภายใต้ผ้าคลุมผืนเก่า ก่อนมือทั้งสองจะวาดวงเวทย์ขึ้นกลางพื้นที่นั้นอย่างรวดเร็ว แสงสีทองเรืองขึ้นบนอักขระที่บรรจงเขียน ริมฝีปากพึมพำบางอย่างออกมา ทันทีที่สิ้นประโยค แสงสีขาวพุ่งเข้าร่างตุ๊กตาจนเรือนผมสีดำนั้นสยายออก ก่อนทุกอย่างจะกลับสู่สภาพเดิมที่เคยเป็น
แกร๊ก
นิ้วมือที่ทำจากไม้ชั้นดีสีเสียดกันเล็กน้อย สิ่งที่เคยถูกเชิดขยับขึ้นลงเพื่อปรับให้เคยชิน ลูกแก้วสีอเมทิสต์สดใสแทนดวงตาลืมขึ้นอย่างช้าๆ ตึกเก่าๆที่ดูทรุดโทรม ท้องฟ้าที่สดใส กองขยะบนพื้นที่ระเกะระกะ และคนคนหนึ่งตรงหน้า...คือสิ่งแรกที่ทั้งคู่เห็น พร้อมกับเสียงที่อ่อนโยน
"อรุณสวัสดิ์...ดอล ดอลลี่"มืออีกฝ่ายลูบหัวผู้ที่ได้ชื่ออย่างกะทันหัน ดวงตาของทั้งสองจ้องมองคนตรงหน้าตามเสียงเรียก "ชอบชื่อนี้หรือเปล่า?" หุ่นทั้งสองพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนเอื้อมมือไปกุมผ้าคลุมของอีกฝ่าย ค่อยๆพยุงตัวขึ้น แต่ด้วยความที่ยังไม่ชิน จึงตกมาอยู่ในอ้อมแขนของบุคคลตรงหน้าแทน
"พึ่งถูกย้าย'วิญญาณ'มาหมาดๆ จะให้เคลื่อนไหวได้กระฉับกระเฉงคงไม่ไหวหรอก" เขาแอบหัวเราะในลำคออย่างช่วยไม่ได้ ดอลและดอลลี่เตะขาอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยพอใจในคำพูดนัก จนผู้ถูกกระทำถึงกับโอดครวญ ก่อนยกหุ่นทั้งสองให้ยืนจนทรงตัวได้ แล้วเดินจากไป แต่กระนั้น...
"...ไปไหน"
บุคคลที่ใกล้ลับสายตาหันมามองผู้พูดที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยความรู้สึกสงสัย ภายในดวงตาสีสวยจ้องมองเขาอย่างไม่วางตา ก่อนทั้งสองจะเข้ามาประชิดตัว
"คุณ...จะไปไหน?"เสียงเล็กๆของหุ่นที่ได้ชื่อว่าดอลลี่เอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่จับผ้าคลุมไว้แน่นราวกับไม่อยากให้ไปไหน ผู้ให้กำเนิดมองมือเล็กๆไล่ไปจนถึงดวงตาสีสวย การประมวลผลของสมองอย่างรวดเร็วทำให้เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
'เอาแล้วไง...'
"อย่าบอกนะว่าพวกเจ้า...จะตามข้าไป?"
หงึก...
มือหนากุมขมับตัวเองพลางส่ายหัวอย่างปวดเศียร เมื่อได้รับคำตอบที่ไม่น่าพอใจอย่างยิ่ง เพราะไม่คิดว่าการทำอะไรแผลงๆแบบนี้จะได้ภาระพ่วงเป็นของแถมในการเดินทางอย่างช่วยไม่ได้
"ข้ามอบร่างตุ๊กตานี้ให้วิญญาณของพวกเจ้าก็เพราะเสียดายเท่านั้นแหละ ไม่ได้มีความหม..."
"เราอยากไปกับคุณด้วย"ดอลเอ่ย พร้อมกระตุกผ้าคลุมอีกฝ่าย
"เราจะไม่ทำความเดือดร้อนให้..."ดอลลี่ขอร้อง
"เราสัญญา..."เสียงเล็กที่ดูเหมือนออดอ้อน ทำให้คนตรงหน้าคิดหนักยิ่งขึ้นไปอีก ดวงหน้านวลของหุ่นทั้งสอง แววตาที่ไร้พิษภัย มือเล็กๆที่กุมผ้าคลุมไว้ราวกับสิ่งสำคัญ คนอย่างเขาคงปฏิเสธไม่ลง...
"...ตามใจ"เขาสะบัดผ้าคลุมให้มือน้อยๆนั้นหลุดไป แล้วรีบเดินออกไปจากที่นั่นทันที หุ่นทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะรีบตามไปด้วยความยินดี
...และนี่คือจุดเริ่มต้นของสองชีวิตที่ได้เกิดใหม่...อีกครั้ง
กริ๊ง...
กระดิ่งสีทองหน้าร้านกาแฟกระทบกับประตูที่เปิดจนเกิดเสียงส่งสัญญาณบอกเจ้าของร้านในยามบ่ายว่าลูกค้าประจำกำลังเข้ามา ภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของผงกาแฟทำมือ ชุดโต๊ะกับเก้าอี้เรียบๆถูกจัดให้บรรยากาศในร้านดูสบายๆตัดกับภาพผู้คนพลุกพล่านที่ดูวุ่นวายด้านนอก เจ้าของมือเหี่ยวย่นที่กำลังเช็ดถ้วยกาแฟอย่างทะนุถนอมโค้งต้อนรับให้พวกเขาสามคนที่เข้ามาภายในร้านเช่นเคย พร้อมประโยคเดิมๆ
"วันนี้ก็รับเหมือนเดิมสินะ"รอยยิ้มของคุณลุงที่ไม่เคยโกหก ดูอ่อนโยนเหมือนเคย บุคคลใต้ผ้าคลุมพยักหน้า ก่อนพวกเขาจะเดินไปนั่งโต๊ะริมหน้าต่างมุมโปรดประจำตัว โดยปกติพวกเขาจะมานั่งจิบกาแฟในร้านนี้ก็ต่อเมื่อมีเรื่องสำคัญเท่านั้น ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน ทันทีที่กาแฟถูกเสิร์ฟ ดอลลี่ที่นั่งข้างๆดอลก็เปิดการสนทนาทันที
พรวด...
"เอ๋ อยากตอบแทนข้า??"เสียงหลงภายใต้ผ้าคลุมสำลักกาแฟแก้วร้อนทันทีที่ดอลลี่เอ่ย ก่อนหัวเราะเหมือนครั้งที่เจอสองแฝดเป็นหนแรก แต่สองแฝดก็ยังคงพยักหน้ายืนยันอย่างจริงจังในเรื่องที่กล่าวไป
"ไม่เอาน่าทั้งสองคน ข้าเคยบอกไปแล้วไงว่า ทำไปเพราะ'เสียดาย'น่ะ"เขาเริ่มอธิบายเหมือนครั้งก่อนๆราวกับจะปฏิเสธความหวังดีจากทั้งคู่ เพราะหัวข้อสนทนานี้ไม่ได้มีเป็นครั้งแรก แต่กลับนับไม่ถ้วนแล้ว ซึ่งก็ส่งผลให้ขาถูกกระแทกด้วยสิ่งที่เรียกว่ารองเท้าบวกด้วยแรงเหวี่ยงของขาฝาแฝด จนต้องลงไปกุมส่วนที่ถูกกระทำอีกเช่นเรื่องปกติ ก่อนดอลลี่จะพูดข่มขู่
"ถ้าไม่รับความหวังดี เราจะโดดแม่น้ำแล้วปล่อยให้ตัวเองขึ้นรา"ฟังดูเป็นประโยคที่น่าขันสำหรับคนตรงหน้า แต่กลับเป็นประโยคที่ชวนสยองในทันทีที่ดอลได้ยินพลางหันไปมองดอลลี่ แม้ในความจริงที่อะไรๆดอลก็เห็นด้วย และทำร่วมกันกับดอลลี่เสมอ แต่เรื่องนี้คงไม่ไหว
"เฮ้อ...ก็ได้ๆ แต่ที่พวกเจ้าช่วยข้ามาเป็นเดือนๆแล้วนี่ยังไม่พออีกเหรอ?"ทั้งสองคนพยักหน้า ก่อนดอลจะตอบ
"ยังไม่พอ...เพราะชีวิตนี้ที่ถูกมอบให้ มันมีค่ามากกว่านั้นครับ"ริมฝีปากที่จิบกาแฟในแก้วชะงักเล็กน้อย ก่อนเผยรอยยิ้มที่มุมปากอย่างเป็นสุข ใครจะไปคิดว่าจะได้รับคำขอบคุณทางอ้อมจากปากตุ๊กตา สายตาของเขาจ้องมองไปยังทั้งสองอย่างพินิจพิเคราะห์ พร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน ภายใต้ดวงตาที่ไร้แววนั้นจะคิดอะไรอยู่ เขาไม่อาจรู้ ได้เพียงแต่เชื่อว่า คงมีความหมายมากมายเกินกว่าเอ่ยอยู่เป็นแน่
"ข้าก็แค่คนเดินเท้าธรรมดาที่มอบชีวิตให้เจ้าด้วยเรื่องไร้สาระ แล้วเจ้ายังจะตอบแท..."
"คุณไม่ได้มอบแค่ชีวิตหรอก"ดอลลี่ขัด
"แต่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เราต่างหาก"ดอลตอบ
'คุณไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน...'
'เป็นแค่คนที่มอบรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสุข ความเป็นไปบนโลก และทุกๆอย่างให้เราได้สัมผัสอย่างหลากหลายในมุมมองที่แปลกตา'...
'และเป็นคนสำคัญของเรา...'
ทั้งสองมองกันและกันอย่างเข้าใจ ปลายนิ้วมือสอดประสานกันอย่างเหนียวแน่นและลึกซึ้ง พร้อมรอยยิ้มในจิตใจที่ต่างรู้กัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเคยเป็นฝาแฝดกันมาก่อนไหม เคยรู้จักกันหรือเปล่า แต่เพราะคนตรงหน้าพวกเขาทำให้มันเกิดขึ้น ทั้งสองจึงได้รู้จัก และมาเป็นฝาแฝดกันในชีวิตใหม่นี้
ดังนั้น...
"เราขออุทิศชีวิตนี้ให้คุณคนเดียว มาส..."
"ถ้าเรียกข้าด้วยความหมายที่ห่างเหินแบบนั้น ข้อเสนอที่กล่าวไปจะยกเลิก"บทซึ้งกินใจถูกทำลายลงด้วยคำพูดตัดเยื่อใยเพียงประโยคเดียว แต่ก็ไม่เสมอไป "เพราะข้าเป็นครอบครัวของพวกเจ้าต่างหาก" ความรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงจนทั้งสองเผลอยกมือขึ้นกุมหน้าอกซ้าย ทั้งๆที่รู้จักกันเพียงไม่กี่เดือนแท้ๆ แต่ทำไมสายใยระหว่างพวกเขาถึงแน่นแฟ้นได้ขนาดนี้กัน
"แสดงว่ารับข้อเสนอแล้วนะ?"ดอลลี่ถามเพื่อความมั่นใจ
"ก็...คงอย่างนั้น"แก้วกาแฟที่ถูกยกดื่มชั่วอดใจ ถูกวางลงพร้อมเงินสี่เหรียญ ก่อนคนจ่ายจะจ้ำอ้าวออกไปจากร้าน โดยมีสองแฝดตามไปติดๆ
"แล้วคุณจะให้เราตอบแทนด้วยอะไรครับ"ดอลเอ่ย เขาครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนสายตาจะเหลือบมองไปเห็นยอดหลังคาสูงเบื้องหน้าของตนเอง ทำให้เขาคิดอะไรได้ จึงหยุดเดินพลางโน้มตัวลงมากระซิบทั้งคู่ใกล้ๆอย่างไม่อยากให้ใครได้ยิน ก่อนชื่อๆหนึ่งจะก้องอยู่ในหู...
"เข้าเรียนที่'เซนต์ เบริเอล'ซะ"เขาพูดอย่างแผ่วเบา แต่ดังก้องเข้าไปในสมอง ฝาแฝดพยักหน้ายอมรับข้อเสนอนั้นอย่างว่าง่าย ก่อนมืออีกฝ่ายจะขยี้หัวฝาแฝดเบาๆ
"เข้าไปทำอะไรคะ"ดอลลี่ถาม
"ก็บอกอยู่นี่ไงว่าให้เข้าไป'เรียน'น่ะ"รอยยิ้มและคำตอบที่ได้ทำให้ทั้งคู่พร้อมใจกันเตะหน้าแข้งอีกฝ่ายอย่างแรง จนคนตรงหน้าเข่าทรุดลงไปกองกับพื้นทันที ดอลมองคนที่ลงไปทรุดด้วยสีหน้าครุ่นคิด ความรู้สึกโหวงเหวงในจิตใจอย่างประหลาดทำให้เขาต้องเอ่ยถาม
"จะไม่ทิ้งเราไปใช่ไหมครับ"ภาพความคิดของคนที่ลุกขึ้นยืนถูกย้อนไปในช่วงเวลาแรกที่พบเจอ เพราะเขาเคยคิดที่จะทิ้งให้สองคนนี้ไปมีชีวิตในโลกกว้างเอง จะได้ไม่เป็นภาระในการเดินทาง เขายิ้มให้ทั้งสองคน มือสัมผัสแก้มคนตัวเล็กกว่าอย่างนุ่มนวล ก่อนยกมือเล็กๆของพวกเขาขึ้นมา นิ้วก้อยเกี่ยวปลายนิ้วเล็กๆของอีกฝ่าย
"แน่นอน"ดอลและดอลลี่ก้มมองนิ้วก้อยของตนที่ถูกเกี่ยวไว้ ดวงตาสีสวยจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย "ถ้าทำแบบนี้จะทำให้สัญญาแน่นแฟ้นมากขึ้นน่ะ" ทั้งสองพยักหน้า และเกี่ยวนิ้วอีกฝ่ายไว้แน่น
"สัญญาแล้วนะ"
'ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน...ตลอดไป'
ซ่า...
สายลมที่พัดผ่านเข้ามาภายในโรงเรียน กระทบกลีบดอกไม้สีสวยให้ร่วงหล่นลงมา ฝีเท้าของคนสองคนที่ก้าวเดินผ่านหยุดชะงัก สายตาจ้องมาภาพต้นไม้ใหญ่ออกดอกบานสะพรั่งไหวไปตามลม เรือนผมสีดำที่ตัดกับกลีบดอกที่ปลิวมาติดถูกปัดออกอย่างลวกๆ มือของหญิงสาวข้างกายหยิบกลีบดอกไม้ที่ติดบนเอกสารที่ถืออยู่ขึ้นมาอย่างเบามือ
"สวยดีนะ"ดอลเอ่ย
"อยากให้เขาเห็นบ้าง"ดอลลี่มองภาพนั้นจากระเบียง ภาพของบุคคลใต้ผ้าคลุมแวบขึ้นมาในความคิด ทั้งรอยยิ้ม น้ำเสียง และความอบอุ่นจากฝ่ามือ
"เรียนจบก็ได้เจอแล้วล่ะ"ดอลลี่หันไปตามเสียง มือของอีกฝ่ายลูบหัวของเธอเบาๆ ถึงมือนั้นจะไม่ใหญ่และอบอุ่นเท่าคนคนนั้น แต่ก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนที่ส่งมา
"สัญญาไว้แล้วนี่"ดอลลี่พยักหน้า ใจที่รอคอยการกลับมาของครอบครัว ชวนให้รู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด ก่อนปลายนิ้วของคนข้างตัวจะสอดประสานเข้ากุมมืออีกฝ่าย และจูงมือเดินจากที่แห่งนั้นไป...
ความคิดเห็น