คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Character of สมาพันธ์รั่ว : Reres Raphaelis(แก้ไขประวัติรอบ3)
ประเภทตัวละคร NPC
ชื่อตัวละคร: เรเรส ราฟาเอลิส [Reres Raphaelis]
ชื่อเรียก(ชื่อเล่น) : เรส
อายุ : 17ปี
ชั้นเรียน : ปี5
วันเดือนปีเกิด : 6 ธันวาคม ไม่ระบุปี
กรุ๊ปเลือด : AB Negative
เพศ: ชาย
เผ่าพันธุ์: อินคิวบัส
สายการเรียน : Mystic Class แผนการเรียน Necromancer
ลักษณะรูปลักษณ์ตัวละคร: รูปร่างผอมสูง ผิวขาวแต่ไม่ซีด ผมสีน้ำเงินเข้มซอยระต้นคอ ตาสีเทาเข้มไม่โตมาก หล่อมาก ปกติชอบทำหน้ามึนๆยิ้มๆ แต่เวลาโกรธจะยิ้มกว้างกว่าเดิมและต่อจากนั้นก็จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เพราะอินคิวบัสมีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ผู้หญิงหลงรัก
การแต่งกาย (ไปรเวท) : เสื้อยืดคอกว้างทั้งแบบคอกลมและแบบคอวี(คอปาดน่ะค่ะ เห็นแผงอกนิดๆ) กางเกงขายาวสีดำหรือสีที่เข้ากับเสื้อ(ส่วนมากจะใส่เป็นผ้าหนังสีดำ) ชอบใส่สีเข้มๆ แต่บางครั้งก็ใส่สีขาวบ้าง ใส่กำไลหนังกับสร้อยสีดำที่พันรอบคอหลายทบ จี้เป็นรูปประกายดาวสีเงิน *แต่ตอนนอนใส่แค่กางเกงขายาวตัวเดียว (เซะซี่ชิมิล่ะ!)
อุปนิสัย : เป็นพวกชอบยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่ตาไม่ค่อยยิ้มด้วยเท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่ เป็นพวกพูดจามีหางเสียง แต่คำพูดสถุลมาก เช่น “หืมม์ อะไรนะครับ? ให้ไปช่วย? ปล่อยแม่งให้ตายไปเถอะครับ” เป็นคนตั้งใจทำงาน(ถึงแม้ภายนอกจะแลดูขี้เกียจและเฉื่อยๆไปนิด) เป็นพวกเปลือกนอกเหมือนเทวดาแต่เนื้อในอย่างกับปีศาจ(ก็เป็นปีศาจนี่หว่า) นิสัยโหดเหี้ยม ทารุณ แต่ใจดี(?) ชอบเล่นคุณไสยใส่คนที่เหม็นขี้หน้า เคยเล่นคุณไสยใส่ประธานนักเรียนไปรอบนึง แต่ไม่ได้ผล ปัจจุบันก็ยังพยายามเล่นคุณไสยต่อไป เคยโดนคนหาว่าไม่มีหัวใจ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด แถมยังขำอีกตะหาก เป็นคนไม่ค่อยแคร์สื่อ เก็บกด และมักระบายด้วยความรุนแรง.... ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่นัก แต่จริงๆแล้วเป็นคนอ่อนโยนแต่เพราะเหตุการณ์ที่เคยประสบมาทำให้กลายเป็นคนที่เฉยชาและไม่สนใจชีวิตของใครทั้งนั้น แต่ถ้าคิดว่าใครเป็นคนสำคัญล่ะก็ เขาจะปกป้องด้วยชีวิตของตัวเองทันที *เพิ่มเติม* ถูกคนในโรงเรียนให้ฉายาว่า "ปีศาจบ้าเลือดแห่งเซนต์เบริเอล"
*เพิ่มเติมรอบ2* เรสถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเป็นคนอ่อนโยน สุภาพ แต่จริงๆแล้วเขาไม่คิดจะยุ่งกับใคร ไม่คิดจะหาเหาใส่หัวด้วย และถ้ามีใครมาทำให้เขารำคาญ เขาจะจัดการเชือดทิ้งทันทีโดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ในตอนนี้เขายังไม่คิดว่าใครเป็นคนสำคัญของเขา เพราะยังฝังใจอยู่กับอดีต ดังนั้นใครจะเป็นตายร้ายดียังไง เค้าก็จะทำเฉยๆ ไม่ยุ่งด้วย
และอีกอย่าง เป็นคนที่ซาดิสม์ในสายเลือดมากๆ...ชอบเห็นคนทรมาน ยิ่งถ้าตัวเองได้ทรมานเองยิ่งชอบ
เรียกตัวเองว่า : ผม / เรียกคนอื่นว่า : นาย เธอ คุณ แล้วแต่อารมณ์(แต่ส่วนมากจะเรียกเป็นตำแหน่งไม่ก็ชื่อเลย)
อาวุธ :-คฑาสีดำยาว(ยาวเลยหัวไป10เซน) ด้ามไม้ทำจากไม้เนื้อดีลงอักขระโบราณไว้ ลูกแก้วที่อยู่บนหัวคฑาเป็นสีม่วงเข้ม เป็นอัญมณีของเผ่าปีศาจ ตรงส่วนล่างของหัวคทาผูกด้วยริบบี้นสีแดงสดกับกระดิ่งสีทอง
-เครื่องทรมานในยุคกลางเกือบทุกชนิด (ซึ่งไม่รู้พี่แกไปเอามาจากไหน)
-ตุ๊กตาวูดู
ท่าต่อสู้/วิธีการสู้: 1.Voodoo Curse - เป็นการใช้ตุ๊กตาตัวแทนในการทำร้ายอีกฝ่าย โดยจะต้องมีสิ่งที่เป็นของศัตรู1อย่างเพื่อทำพิธี ซึ่งของนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ แม้แต่เลือด เศษเล็บ หรือผมแค่เส้นเดียว เมื่อได้มาแล้ว คนที่ถูกท่านี้จะต้องตกอยู่ในคำสาปของผู้ใช้และจะเป็นไปตามที่ตุ๊กตาตัวนั้นเป็นทุกอย่าง หากผู้ใช้หักแขนตุ๊กตาทิ้ง นั่นก็หมายถึงว่าคนที่ถูกสาปจะต้องแขนขาดตามไปด้วย *เป็นท่าที่เรเรสถนัดที่สุด แต่ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะมันอันตราย แต่เรเรสก็ยังใช้อยู่ ด้วยเหตุผล “แค่ไม่ตายก็พอแล้วสินะครับ”*
2. Undead Resurection เป็นการปลุกโครงกระดูกหรือศพให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ ซึ่งจะปลุกขึ้นมาได้เท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับพลังของผู้ใช้ *เรเรสมีพลังปีศาจเยอะ* ตามชื่อท่าเลย อันเดธ ศพที่ปลุกขึ้นมาไม่ตายง่ายๆ วิธีแก้คือทำให้ตัวผู้ใช้หยุดชะงักในการปล่อยพลังเวทให้กับพวกศพ(แน่นอน ทำไม่ได้ง่ายๆ)
3.คำสาปต่างๆ ยิบย่อยเยอะแยะมากมาย(พวกคำสาปนิทรา คำสาปสะกดหิน บลาๆๆ พวกนี้ก็ใช้บ่อยเหมือนกัน)
วิธีต่อสู้ของเรเรสจะไม่ได้บู้ล้างผลาญ แต่จะค่อยๆทำให้อีกฝ่ายอ่อนแรงลงเรื่อยๆจนไม่มีแรงสู้ต่อ แล้วต่อจากนั้นก็จะทรมานเล่น ชอบพูดจากวนตีนให้อีกฝ่ายเข้ามาหาแล้วจัดการอัดสลบทันที
จุดแข็ง: มีพลังเวทมาก(โดยเฉพาะพลังความมืด) ดวงแข็ง จิตแข็งสุดๆ ถ้าฮีเข้าโหมดดาร์กเมื่อไหร่ ก็ไม่มีใครหยุดได้ *เพิ่มเติม* และเพราะมีจิตแข็งมาก ทำให้เวลาร่ายเวทเขาจะมีสมาธิมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครมาหยุดการร่ายเวทของเขาได้ แถมยังร่ายได้เร็วด้วย
จุดอ่อน: (สอดคล้องกับอาชีพ) แรงกายไม่ค่อยมี จะไม่ค่อยเคลื่อนไหวมากถ้าไม่จำเป็น เพราะจะทำให้เสียสมาธิในการร่ายเวท ถ้าเจอสายดาบที่พลังถึกๆควายๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน *แก้ไขรอบ3*ถึงแม้จะมีพลังกายน้อย แต่เพราะเป็นปีศาจ ถ้ามีบาดแผลเกิดขึ้นบนร่างกายก็จะหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่มันขึ้นอยู่กับพลังในตอนนั้นด้วย(ถ้าเวทเหลือน้อยบาดแผลก็จะหายช้ามาก) แต่ถ้าโดนอัดเวทแสงใส่หรือเจอสายดาบถึกๆก็เดี้ยงเหมือนกัน
ความสามารถ (แบบคนธรรมดา) :วิ่งเร็ว(หมายถึง หนีเอาตัวรอดเก่ง) นอนได้ทุกที่ทุกเวลา ทำขนมได้อร่อยจนทุกคนต้องตกตะลึง และ ด่าคนได้อย่างเจ็บแสบทั้งๆที่ยังยิ้มอยู่
ความสามารถ (แบบพิเศษ) : ทำให้เพศตรงข้ามตกอยู่ใต้มนต์สะกดของตัวเอง(เพราะเกิดมาเป็นอินคิวบัส) ทรมานคนอื่นเพื่อขูดรีดข้อมูลที่ตนต้องการ *เพิ่มเติม*ใช้เวทหลอนประสาทเพื่อให้ศัตรูอยู่ในความฝันที่แสนโหดร้าย
สิ่งที่ชอบ : ขนมหวานทุกชนิด และ สัตว์เลี้ยงของตัวเอง
สิ่งที่เกลียด : พวกทำตัวรกหูรกตา พวกบ้าอำนาจ และของที่มีกลิ่นฉุน(พวกกระเทียม) *เพิ่มเติม*พวกที่ชอบมาตื้อ มาทำเสียงน่ารำคาญใส่หู และไม่ค่อยชอบเด็กที่พูดจาไม่รู้เรื่อง
สัตว์เลี้ยง : เป็นหมาป่าที่สืบเชื้อสายมาจากเฟนริร์ หมาป่าในตำนานของเทพยุโรปเหนือ ขนสีดำสนิททั้งตัว ตาสีทอง ชื่อนีนี่ เป็นตัวผู้ มักเรียกเรเรสว่า”แด๊ดดี้”เสมอๆ
Background(ภูมิหลัง ที่มาของตัวละคร) : เคยสูญเสียคนสำคัญไปเมื่อประมาณอยู่ม.ต้น จึงหาทางแก้แค้นแล้วเขาก็ทำสำเร็จ....โดยการไล่ฆ่าคนที่ทำให้คนสำคัญของตนต้องตายไปทีละคนๆอย่างโหดเหี้ยม *เพิ่มเติม* เป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าเผ่าอินคิวบัส แต่ไม่ค่อยจะสนใจในตำแหน่งหัวหน้าเผ่าที่ตนเองต้องเป็นต่อจากพ่อซักเท่าไหร่ รวยและใช้เงินเก่ง....จะหมดเงินไปกับพวกขนมนมเนยต่างๆ
เหตุผลที่เข้าโรงเรียน(เป้าหมายที่อาจจะนอกเนื้อจากธีมเรื่อง) : อยู่มาตั้งแต่ปี1....
ความปรารถนา : ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ขอแค่ไม่น่าเบื่อก็พอ
Intro Reres :: Unreasonable World
โลกนี้น่ะ
ไม่เคยมีเหตุผลหรอก
เพราะไม่ว่าจะมีคนตายไปมากเท่าไหร่
ถ้าไม่ใช่คนสำคัญของตัวเอง...
ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย..
‘เรส...ขอโทษนะ....แต่ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว...’
‘ขอโทษนะ...’
แฮ่ก...แฮ่ก
เสียงหอบหายใจของเด็กหนุ่มในชุดไปรเวทสีเทาเข้มกำลังวิ่งเข้าไปในป่าด้วยความหวาดกลัว ความมืดเริ่มโรยตัวจนทำให้รอบด้านกลายเป็นสีดำสนิท ร่างผอมๆนั้นหันไปมองก้านหลังด้วยสายตาหวาดผวาราวกับว่ากำลังมีปีศาจไล่ตามตัวเองอยู่ เขาหันกลับไปมองด้านหน้าอีกครั้งก่อนที่จะล้มลงไปด้วยอะไรบางอย่าง เขามองที่ขาของตนแล้วก็ต้องตาเบิกกว้างเพราะขาทั้งสองข้างของเขากลับบิดเบี้ยวไปอย่างผิดธรรมชาติ
“อ๊ากกกกกก!!!”
ความเจ็บปวดจากการถูกหักขาเริ่มเสียดแทงไปทั่วทุกอณูของร่างกาย เด็กหนุ่มพยายามใช้แขนทั้งสองข้างพาร่างของตนขยับไปด้านหน้าด้วยความยากลำบาก
ไม่...ไม่เอานะ..ฉัน...ฉันยังไม่อยากตาย
แซ่ก...แซ่ก...
เขาหันไปมองด้านหลังอีกครั้งก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว ริมฝีปากซีดเผือดขยับกึกๆราวกับคนเป็นไข้ เมื่อเห็นร่างสูงของเด็กหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีน้ำเงินเข้มในชุดเสื้อยืดคอกว้างสีดำกำลังเดินย่างสามขุมมาทางเขา ดวงตาสีขี้เถ้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆราวกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต แต่ริมฝีปากบางกลับขยับยิ้มกว้างประหนึ่งว่าเรื่องตรงหน้าเป็นเรื่องที่ทำให้เขาสนุกที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในมือขวาถือตุ๊กตารูปเด็กผู้ชายเอาไว้แน่น
“ยะ...อย่าทำฉันเลย! ได้โปรด...ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ!!”
เด็กหนุ่มผมน้ำเงินเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงร่าเริงเป็นคำถามว่า
“จริงเหรอครับ?”
“จะ...จริงสิ ฉันน่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะเรเรส ฉันไม่ได้ทำให้เขาตายนะ!!”พอมาจนถึงตรงนี้ ดวงตาสีเทาเข้มของเรเรสก็วาวโรจน์ขึ้นด้วยเพลิงแห่งความเคียดแค้น แต่กระนั้น น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ยังคงนุ่มนวลราวกับสายน้ำเย็นระรื่น
“เหรอครับ...งั้นผมก็....”เรเรสขยับยิ้ม
“ไม่มีธุระอะไรกับแกแล้ว”
มือซ้ายจับเข้าที่แขนของตุ๊กตาก่อนจะหักแขนทั้งสองข้างและดึงทิ้งลงไปที่พื้น
อ๊ากกกกกกกกกก
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นไปทั่วผืนป่า แต่ผู้กระทำกลับขยับยิ้มมองร่างตรงหน้ากำลังกระเสือกกระสนร่างที่ไร้ซึ่งแขนทั้งสองข้างหนีห่างตนอย่างเลือดเย็น นิ้วเรียวสวยค่อยๆบรรจงควักลูกตาของตุ๊กตาออกมาพร้อมกับขยี้ลูกตานั่นแหลกคามือ
อ๊ากกกกก
“นี่คือความเจ็บปวดของเซนที่พวกแกทำกับเขา....”
เป๊าะ....
“นี่คือความทรมานของเซนที่พวกแกทำให้เซนต้องฆ่าตัวตาย....”
มือขาวจับเข้าที่ศีรษะเล็กๆของตุ๊กตาก่อนจะขยับยิ้มเหี้ยมเกรียม เด็กหนุ่มที่ถูกกระทำอย่างทารุณส่ายหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดอย่างหวาดกลัว
“ไม่....ไม่ อย่า....อย่าฆ่าฉัน...”
“และนี่....”
เรเรสหลุบตาต่ำลง ก่อนจะพูดตะคอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแค้น
“...คือความแค้นของผมที่พวกแกทำให้เขาต้องตายยังไงล่ะ ไอ้พวกเวรตะไล!!!”
ป็อก!!!
คลุก...
ศีรษะซึ่งปกคลุมไปด้วยเส้นไหมสีดำกลิ้งหลุนๆหายไปในพงหญ้า ท่ามกลางความเงียบสงบของผืนป่าในยามค่ำคืน เรเรสมองร่างที่ไร้แขน และไร้ศีรษะตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา ร่างสูงทรุดลงไปที่พื้นก่อนจะกุมใบหน้าของตนด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
ทำไม...ทำไมกัน
“หึหึ...หึหึ...”
ทั้งๆที่ฆ่าพวกมันหมดแล้วแท้ๆ....
“ฮะฮะ...ฮ่าๆๆๆๆ!!!!!!”
แต่ทำไมถึงยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่แบบนี้กัน...
“นั่นนายทำอะไรอยู่น่ะ เรเรส!!”เสียงหวานแหลมดังขึ้นจากเด็กสาวผมสีฟ้าม้วนเป็นโรลผู้มีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานนักเรียน เจ้าหล่อนชี้มาทางเด็กหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีน้ำเงินเข้มที่กำลังนั่งไขว่ห้างทำตุ๊กตาที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับประธานนักเรียนที่กำลังนั่งดูละครอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยท่าทางตกใจสุดขีด
จะไม่ให้ตกใจได้ไง ก็หมอนี่มันเรียนสายเนโครแมนเซอร์นี่!! พวกตุ๊กตานี่แหละน่ากลัวที่สุดเลยถ้าอยู่ในมือมัน!!
เรเรส ราฟาเอลิส เงยหน้ามองเจ้าหล่อนเล็กน้อยก่อนจะก้มลงทำภารกิจของตัวเองต่อไป
“การบ้านครับรองประธาน...”
“ฉันจำได้ว่าอาจารย์ไม่ได้สั่งงงงง”
“งานอดิเรกคร๊าบ~”
“ฉันเกลียดงานอดิเรกนาย!! แล้วงานเอกสารของสภาก็มีทำไมไม่ทำเล่า!!”
“มือไม่ว่างคร๊าบ~ ประธานครับ ช่วยเปลี่ยนช่องกลับเป็นรุกฆาตด้วยครับ ผมจะดู”
“โทษทีนะ แต่ฉันจะดูชิงชัง”
“แต่ฉันจะดูน้ำตาลไหม้....เฮ้ย ไม่ใช่แล้ว!! นายน่ะอย่าเอาเวลาทำงานไปทำงานอดิเรกได้มั้ย! นายเป็นเลขาประธานนักเรียนนะ!! หัดเป็นตัวอย่างที่ดีของนักเรียนคนอื่นบ้างสิ!!”
เรเรสทำหน้ามึนใส่ก่อนจะชี้ไปที่ประธานเฟโร่ที่กำลังนั่งดูชิงชังอย่างใจจดใจจ่อ
“ขนาดประธานยังดูแต่ละครเลยครับ....จะมาเอาอะไรกับเลขาอย่างผมล่ะ ประธาน ผมบอกแล้วไงว่าจะดูรุกฆาต เดี๋ยวพ่อตื๊บเลยนี่”
“ก็ฉันจะดูชิงชังนี่นา...”
“แต่ฉันจะดูบอลแล้ว...เฮ้ย ไม่ใช่!! นี่เฟโร่ นายเองก็ทำงานบ้างเซ่!! แล้วนี่เดลฟี่ไปไหนอีกแล้วห๊ะ?”
“ไปตบกับนักเรียนข้างล่างมั้ง โอ๊ย! อย่าใช้กำลังสิ!!”
เรเรสลุกขึ้นหนีออกจากการวางมวย(ข้างเดียว)ของรองประธานมาหาชายหนุ่มผมสีดำขลับที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นอยู่ห่างๆ เด็กหนุ่มวางมือลงบนโต๊ะส่งผลให้ร่างที่กำลังก้มลงทำงานอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วย ดวงตาสีเขียวจางอมฟ้าอ่อนราวกับอัญมณีชั้นดีส่งสายตาประมาณว่า ‘มีอะไรวะ’ มาให้เด็กหนุ่มสายพันธุ์อินคิวบัสที่ยืนยิ้มหน้าเป็นอยู่ตรงหน้า
“ผมทำเค้กแบบใหม่ไว้พอดี...สนใจไปชิมมั้ยครับ?”
ความรัก
กลับกลายเป็นความเกลียดชัง
ความใจดี
กลับกลายเป็นคมดาบที่หันกลับมาฟาดฟันตนเอง
ความคิดเพียงชั่ววูบ
กลายเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลบเลือนไปจากหัวใจ
สำหรับผมแล้ว...
โลกนี้น่ะ ไร้เหตุผลมาตั้งนานแสนนานแล้ว
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเพียงใด
ก็ไม่เห็นมีใครทุกข์ร้อน...
ถ้านั่น
ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
เห็นแก่ตัว
นั่นแหละ สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด
และเพราะสัญชาตญาณนั้น...
ที่ทำให้ใครหลายๆคน
ต้องตาย
‘เรส...เรส....’
‘ฉันรักเธอ.....รักเธอที่สุดเลย....’
'เพื่อนคนสำคัญที่สุดของฉัน...'
เพล้ง
เสียงอะไรบางอย่างปริแตกดังขึ้นท่ามกลางเสียงดนตรีคลาสสิคที่กำลังบรรเลงออกมาจากวิทยุในห้องพักส่วนตัวของเลขาประธานนักเรียน เรียกความสนใจจากเอลาเรนทิส ฌานเนร์ ฟอน คลาเรนซ์ได้ทันที ดวงตาสีเขียวจางอมฟ้าอ่อนๆตกใจเล็กน้อยก่อนจะจางหายไปเหลือเพียงความนิ่งเรียบ
“เรเรส มือนาย...”
เจ้าของชื่อก้มลงมองแก้วน้ำหวานสีแดงสวยในมือที่บัดนี้เหลือเพียงซากของแก้วที่แตกกระจายไปทั่ว เลือดสีสดหลั่งรินออกมาจากบาดแผลที่ถูกความคมของแก้วที่เขาบีบแตกไปเมื่อครู่ ดวงตาสีเทาทอประกายขุ่นเคืองเล็กน้อย
“เสียดายจัง....พึ่งซื้อมาแท้ๆเชียวน้า...”
นั่นมันไม่ใช่ประเด็น!!
เอเลสคิดในใจ เขาก้มลงกินเค้กสตรอเบอร์รี่ตรงหน้าต่อโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา เรเรสลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปที่ตู้เก็บของเพื่อหาอุปกรณ์มาทำแผล
“นายใจลอยนะวันนี้”
เอเลสเปิดประเด็นพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน(เพราะมัวแต่กินเค้กอยู่) ส่วนคนถูกหาว่าใจลอยก็นั่งทำแผลอยู่ที่โซฟา ใบหน้าคมคายที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มพรายอยู่เสมอซีดลงเล็กน้อย
‘เรส...ฉันขอโทษ’
“พอดีนึกถึงเรื่องเก่าๆน่ะครับ”
“งั้นเหรอ คงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์ซักเท่าไหร่สินะ “ก็เล่นบีบแก้วซะแตกคามือเลยนี่หว่า...เอเลสคิดในใจ เรเรสหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะหลุบตาต่ำลง
“ก็...ประมาณนั้นแหละครับ”
เขาตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา มือซ้ายหยิบผ้าก็อซขึ้นมาพันแผลไว้ลวกๆ ก่อนจะโยนมันเก็บลงไปในกล่อง ทันใดนั้นเอง ร่างเล็กของหม่าป่าตัวหนึ่งก็กระโดดลงมานอนอยู่บนตักเรเรสทันที ขนสีดำยาวและดวงตาสีทอง ส่งผลให้หมาป่าตัวนี้ดูไม่ธรรมดาเอาเสียเลย เรเรสมองสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนตักของตัวเองด้วยสายตามึนๆ ก่อนจะขยับยิ้ม
“ไง นีนี่ ไปไหนมาล่ะ”
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้บาดเจ็บ แด๊ดดี้ๆ”เจ้าหมาป่าน้อยส่งเสียงร้อง พร้อมกับใช้ขาหน้าตบๆที่แขนข้างที่มือของเรเรสบาดเจ็บ ชายหนุ่มหัวเราะเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอกนีนี่ เดี๋ยวก็หาย ฉันเป็น ‘อินคิวบัส’ นะ”
“แต่ว่ามือของแด๊ดดี้มีแผลนี่นา งื่ออ พันแผลดีๆสิครับแด๊ดดี้”ว่าจบ นีนี่ก็จัดแจงพันผ้าพันแผลให้ ‘แด๊ดดี้’ ของตัวเองใหม่โดยใช้ปากพันให้ การกระทำนั้นเรียกความสนใจจากเอเลสที่นั่งมองอยู่ได้ทันที
“เป็นหมาป่าที่เก่งดีนะ”
เรเรสลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่นอนแหมะอยู่บนตักด้วยสีหน้าเอ็นดู
“เก่งเหมือนแด๊ดดี้ไงล่ะครับ”
อืม...ก็จริง เฮ้ย นี่มันแอบชมตัวเองนี่หว่า!! แม่งร้ายยย
เอเลสกระแอมเล็กน้อยราวกับมีอะไรติดคอก่อนจะกระดกน้ำหวานเข้าไปแก้วใหญ่ จริงๆเขาสองคนไม่ได้สนิทกันหรอกนะ ก็แค่ชอบของหวานเหมือนกันเท่านั้นเอง!!!
“นายรู้เรื่องแล้วใช่มั้ย...อาญาสิทธิ์สั่งอสูรน่ะ”ชายหนุ่มผมดำถาม เรียกให้ร่างสูงเจ้าของเส้นผมสีน้ำเงินเข้มเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีเทาไม่ฉายอารมณ์ใดๆ
“ก็พอรู้ครับ”
“แล้วนาย....”
“ผมไม่สนใจหรอกครับ ของแบบนั้นน่ะ”เรเรสบอกพร้อมกับลูบหัวนีนี่เล่น “แค่สั่งคนได้ผมก็ทำเป็นนะ”
มันไม่ใช่ประเด็นเว้ย!!!เอเลสค้านในใจ
“ช่างเถอะ พูดกับนายแล้วเหนื่อยเป็นบ้า”เรเรสหัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มหวาน แต่ดวงตาสีขี้เถ้าคู่คมกลับฉายรอยเจ้าเล่ห์ไม่เข้ากับรอยยิ้มนั่นเอาซะเลย
“ผมไม่สนใจอาญานั่นหรอกครับ แต่สิ่งที่มันชักพามาต่างหากที่น่าสนใจ...เนอะ นีนี่”
เหล่าผู้คนที่ต้องการพลังของอาญาสิทธิ์สั่งอสูรเอย...
จงอย่าลืมว่า...
เมื่อใดที่เจ้าพลาดพลั้ง
นั่นหมายถึง ‘ชีวิต’ ของพวกเจ้า
ที่จะสูญสลายไป
......................................................
ความคิดเห็น