ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction Fighting [ เทิร์นบอสเริ่มลงบางรายแล้วจ้า ]

    ลำดับตอนที่ #19 : Player character : Carlos Warblade

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 52


    ของ : ฮีโร่ซัง

    แบบฟอร์ม

     

    ประเภทตัวละคร : Player

     

    ชื่อตัวละคร: Carlos   Warblade    (คาร์ลอส    วอร์เบลด)

     

    ชื่อเรียก(ชื่อเล่น) : ไม่มี

     

    อายุ :  18  ปี

     

    ชั้นเรียน : ปี 6

     

    วันเดือนปีเกิด :  29/9/XXXX

     

    กรุ๊ปเลือด : B

     

    เพศ: ชาย   สรรพนาม แทนตัวเองว่า: ข้า(ตัวเอง) เรียกแบบห้วนๆ หรือไม่ก็คุณ(คนอื่นๆ)

     

    เผ่าพันธุ์: มนุษย์

     

    สายการเรียน : Swordsman

     

    ลักษณะรูปลักษณ์ตัวละคร: ผมสีทองอร่ามยาวถึงติ่งหู นัยน์ตาสีแดงฉาน ผิวสีขาว รูปร่างสมส่วนดี

     

    การแต่งกาย (ไปรเวท) : ชอบสวมสไตล์แบบตะวันออกอย่างชุดกิโมโนสีน้ำตาล สวมเกี๊ยะ ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบใส่ชุดแบบนี้

     

    อุปนิสัย : :เยือกเย็น ไม่มีความลังเล รักอิสระ ไม่มีความเป็นมนุษย์สัมพัน์ ชอบเอาแต่ใจ รักศักดิ์ศรีในตัวเองมาก มีความมั่นใจและความทะนงในตัวเองสูง ชอบแสวงหาความแข็งแกร่งกับการต่อสู้คนที่เก่งๆ ฉลาดเป็นกรด ชอบพูดตรงไปมา(ไม่ได้มีเจตนาดูถูก)

     

    อาวุธ : ดาบคาตานะยาว 180 ซม. มีอยู่2เล่ม  ดาบเล่มแรกเป็นดาบที่ใช้กระบวนท่าวิถีแห่งนภา อีกเล่มหนึ่งใช้ในกระบวนท่าวิถีแห่งปฐพี  ทั้ง2เล่มทำมาจากแร่ชั้นดีที่หายาก และมีลูกเล่นซ่อนไว้

     

    ท่าต่อสู้/วิธีการสู้:

    วิชากระบวนท่าที่ใช้ประจำอยู่เป็น2ประเภทคือ วิถีแห่งนภา  วิถีแห่งปฐพี

    วิถีแห่งนภา เป็น กระบวนท่าที่ผู้ใช้ดาบกับจิตใจรวมเป็นหนึ่งเดียวกับนภา และมีรูปแบบพลิกแพลงท่าที่
    หลากหลายท่า ใช้ได้อย่างรวดเร็วกว่าวิถีแห่งปฐพี
    1. รุ่ง อรุณ เป็นเพลงดาบที่ใช้ประโยชน์ประยุกต์ต่างๆได้มากที่สุดในบรรดาในวิถีแห่งนภา   ใช้ใบดาบสะท้อนจากแสงอาทิตย์ใส่ตาคู่ต่อสู้ (ดาบนั้นมีใบดาบที่ใสแววาวสะท้อนแสงได้)
    2.อัสนีบาต  เป็นเพลงดาบที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาในวิถีแห่งนภา  โดดเด่นในเรื่องใช้ดาบฟันอย่างรวดเร็วและรุนแรงราวกับอัสนีบาตร ในการฟันในแต่ละครั้งจะเกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นมา
    3.วายุ  เป็นเพลงดาบที่รวดเร็วที่สุดในบรรดาในวิถีแห่งนภา  และมีกระบวนท่านี้ท่าเดียวเท่านั้นที่ฟันศัตรูจากระยะไกลเหมือนราวกับคาไมทา จิฟัน หรือไม่ก็การหมุนตัวอย่างรวดเร็วจนเกิดพายุที่รุนแรง รวมถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วด้วย
    4.วรุณ  เป็นเพลงดาบที่ลื่นไหลที่สุดในบรรดาในวิถีแห่งนภา  การฟันนั้นฟันราวกับเหมือนกับฝนที่ไม่มีวันตัดให้ขาดได้(ประมาณฝนกัดกร่อน หินจนแตก)  และใช้น้ำที่อยู่บริเวณนั้นอำนวยช่วยในการต่อสู้
    5.หมอก  เป็นเพลงดาบที่ดูลึกลับที่สุดในบรรดาในวิถีแห่งนภา  โดยใช้หมอกใช้อำพรางร่างกายไว้  ทำให้ศัตรูไม่รู้ตำแหน่งที่ไม่แน่นอน  และลอบฟัน
    6.เมฆา  เป็นเพลงดาบที่ไม่ยุ่งยากที่สุดในบรรดาในวิถีแห่งนภา  โดยการใช้เทคนิคตามใจของตัวเองไม่ตายตัว  ยากที่จะศัตรูคาดเดาได้

    วิถีแห่งปฐพี เป็นกระบวนท่าที่ผู้ใช้ดาบกับจิตใจรวมเป็นหนึ่งเดียวกับปฐพี มีรูปแบบที่ทรงพลังกว่าวิถีแห่งนภา
    1. อัคคี (ไฟ)  เป็นเพลงดาบที่รุนแรงที่สุดในบรรดาวิถีแห่งปฐพี  ซึ่งการฟันแต่ละครั้งจะฟันใส่สิ่งนั้น  และสิ่งนั้นจะเกิดระเบิดขึ้นมา(คุณสมบัติพิเศษของดาบ)  สามารถฟันสิ่งของติดไฟได้ง่ายด้วย
    2.ธรณี (ดิน)  เป็นเพลงดาบที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาวิถีแห่งปฐพี ซึ่งใช้พละกำลังล้วนๆในการฟันแต่ละครั้ง ซึ่งหลักๆใช้ดาบแทงทะลวงใส่คู่ต่อสู้หรือไม่ก็ใช้ดาบผ่าแผ่นดินขาดเป็น2ส่วน
    3.ทอง(โลหะ) เป็นเพลงดาบที่คมกริบที่สุดในบรรดาวิถีแห่งปฐพี โดยการรวบรวมสมาธิทั้งหมดและจิตสงบลงไปที่ดาบเดียว ซึ่งสามารถทำลายโลหะในดาบเดียว เป็นการทำลายสิ่งที่ไม่น่าจะทำลายได้(ใช้พลังน้อยกว่าธรณี)
    4.วารี (น้ำ) เป็นเพลงที่นุ่มนวลทีสุดในบรรดาวิถีแห่งปฐพี  เป็นการฟันราวกับสายน้ำ ใช้ปัญญาตัดสินใจได้เฉียบขาด  และฟันสวนกลับได้อย่างแม่นยำ  ซึ่งสามารถปลิดชีพในการสวนกลับได้
    5.พง ไพร(ไม้)  เป็นเพลงดาบที่สวยงามที่สุดในบรรดาวิถีแห่งปฐพี  ซึ่งโน้นการเคลื่อนไหวในการต่อสู้ซึ่งรูปแบบหลายหลาย แต่รูปแบบการเคลื่อนไหวที่ใช้บ่อยสุดคือ   การเคลื่อนไหวเหมือนกับการโปรยปรายของต้นซากุระ ซึ่งยากต่อการคาดเด่การเคลื่อนไหวที่สุด 

     

    จุดแข็ง: เพลงดาบหลายรูปแบบ(ทีทั้งใกล้  กลางและไกล)  รวดเร็ว และรุนแรง  เคลื่อนที่ได้ไว รับรู้ภัยอันตรายได้ไว

     

    จุดอ่อน: ไม่ถึก มีพลังป้องกันน้อยด้วย

     

    ความสามารถ (แบบคนธรรมดา) :

    เก่งทางด้านวิชาดาบแบบเก่งกล้ามาก   มีความอดทนดี

     

    ความสามารถ (แบบพิเศษ) :

    ประสาทสัมผัสทั้ง5 อยู่ในระดับสูง
    สามารถปรับเปลี่ยนเพลงดาบในขณะการฟันได้ทันทีเพื่อพลิกสถานการณ์ได้ทันทีเกินขีดจำกัดของมนุษย์

     

    สิ่งที่ชอบ :

    ชัยชนะ  ศักดิ์ศรีของนักดาบ คนที่เก่งๆ

     

    สิ่งที่เกลียด :

    คนที่วุ่นวาย เสียงดัง ทำให้เสียสมาธิ

     

    Background(ภูมิหลัง ที่มาของตัวละคร) :

    คาร์ลอสมีฐานนะปานกลาง เป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ด้านเชิงดาบมาก  และเขาได้คิดค้นวิชาดาบต่างๆจากการเรียนรู้จากคนอื่น ปัจจุบันมีกลุ่มองค์กรกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวกับภารกิจลับต่างๆ เต็มไปด้วยเด็กอายุใกล้ๆคาร์ลอสทั้งนั้น  รับเลี้ยงคาร์ลอสไว้  ซึ่งคาร์ลอสเองไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ไม่ค่อยชอบสุ่มสิงกับคนอื่นๆ

     

    เหตุผลที่เข้าโรงเรียน(เป้าหมายที่อาจจะนอกเนื้อจากธีมเรื่อง) :

    โดนองค์กรที่รับเลี้ยงคาร์ลอสส่งไปเรียน เพื่อสร้างความทรงจำให้กับที่โรงเรียนนี้  (เก็บอาญาสิทธิ์สั่งอสูรมาครอบครอง)

     

    ความปรารถนา : อยากสู้กับคนเก่งๆเท่านั้น (อยากมีเปลี่ยนแปลงในอนาคตก็ได้)

     

    Intro :

     

     

    ณ สถานที่แห่งหนึ่ง  ห้องของคนใดคนนึง

     

    มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวๆ 20กว่า กำลังจัดแฟ้มเกี่ยวกับการสมัครเข้าโรงเรียนเซนต์ เบลิเบล สีหน้าของเธอเหมือนดีใจซักอย่างแฝงเอาไว้

     

     

     

     

    ฟิ้ว!!!!~

     

     

     

    ว๊าย!!!

     

     

     

     

    จู่ๆมีสายลมพัดอย่างรุนแรงออกมา ทำให้ของที่เธอจัดเตรียมไว้ปลิวไปจนหมด หลังจากสายลมสงบลงไป มีเงาคนโผล่ออกมาต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น

     

    คิดจะส่งข้าไปโรงเรียนงั้นเหรอ คุณฟลาสก้า(Flaska)ชายหนุ่มผมทองโผล่ สวมชุดกิโนโมสีน้ำตาล และที่เอวมีดาบคาตานะเล่มยาวไว้2เล่ม

     

    อ้าวคาร์ลอสเองเหรอคนที่ชื่อฟลาสก้ามองไปยังเด็กหนุ่มนามคาร์ลอส

     

    ข้าบอกไปตั้งไม่รู้ว่ากี่ครั้งกันนะว่า ฉันไม่อยากไปโรงเรียน!!!”คาร์ลอสแสดงท่าทางต่อต้านเหมือนไม่ต้องการไปโรงเรียน

     

    ทำไมล่ะค่ะฟลาสก้าถามด้วยความมึนงง

     

    เพราะว่าข้าอยากจะพัฒนาวิถีแห่งดาบให้ถึงแก่นแท้น่ะสิคาร์ลอส บอกถึงเหตุผลของตัวเองให้กับ

     

     

     

    เพราะเป็นแบบนี้น่ะสิ มันสมควรไปเรียนอย่างนะคะ คุณพี่คาร์ลอส

     

     

     

    ซึ่งเสียงของคนที่3นั้น ทำให้ คาร์ลอสและฟลาสก้าหันไปยังต้นเสียงนั้น  เจ้าของเสียงเป็นเด็กอายุราวๆ14ปี ผมสิเทาอ่อน สวมเสื้อเชิ้ตสีเขียว กระโปรงสั้น ข้างหลังของเธอแบกคทาที่ท่าทางเกรงขามไว้อยู่  รอบๆข้ามเด็กสาวคนนั้นมีวัตถุคล้อยๆมีดบินสีทองลอยไปมาอยู่

     

    อ่ะ ฮานาลก้าจังฟลาสก้าเอ่ยชื่อเด็กสาวคนนั้น

     

    เสียงนี้มัน ฮานาลก้า เบรคเกอร์(Hanalka Breaker) นี่นาคาร์ลอสพูดออกมาอย่างตึงเครียดขึ้นมา

     

    เพราะว่าฮานาลก้าเป็นผู้ที่มีพลังเวทมนต์ธาตุแสงที่ทรงพลังและรุนแรงมาก แถมมีอุปกรณ์ทุ่นแรกอย่าง แฟนธ่อมวิงค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คล้อยๆมีดบินแต่สามารถเคลื่อนที่อากาศได้อย่างอิสระ สามารถยิงเวทมนต์ของฮานาลก้าได้เช่นกัน ซึ่งเป็นคนที่รับมือยากคนหนึ่งในองค์กรนี้  ส่วนทางด้านคาร์ลอสนั้นเป็นผู้ถนัดสายนักดาบ ซึ่งเสียเปรียบกันเห็นๆ แต่ได้คาร์ลอสได้เปรียบเรื่องประสบการณ์ในเรื่องการประลองมากกว่า

     

    เพราะคุณพี่น่ะไม่มีมนุษย์สัมพันธ์กับเพื่อนๆคนอื่นในองค์กรเลย

     

    คุณลุงมาสเตอร์(เจ้าขององค์กรที่สังกัดอยู่) เห็นท่าไม่ดีว่าคุณพี่จะโดดเดี่ยว จึงคิดส่งคุณพี่ไปโรงเรียนเพื่อสร้างความทรงจำที่นี่ไงล่ะคะคำพูดของฮานาลก้าเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยพร้อมกับน้ำตา

     

    ไม่มีทางหรอกฮานาลก้าคาร์ลอสตอบอย่างไม่มีทางลังเลแม้แต่น้อย สายตาคาร์ลอสไม่มีแววจะเปลี่ยนแปลง   และคาร์ลอสหยิบดาบคาตานะคู่ออกมาตั้งท่าเพลงดาบเตรียมรับมือฮานาลก้า

     

    ข้าชอบอยู่แบบสไตล์ตัวเองเท่านั้น   คำว่าเพื่อนน่ะไร้ความหมายสำหรับข้าคาร์ลอสพูดค้านจนถึงที่สุด

     

     

     

    สมกับเป็นคุณพี่คาร์ลอสนะคะ เอาแต่ใจจนถึงวินาทีสุดท้ายน่ะ

     

    แบบนี้มีแค่ใช้กำลังบังคับล่ะนะคะคุณพี่ฮานาลก้าเริ่มโกรธขึ้นมา จากนั้นหยิบคทาขึ้นมา

     

     

     

    เอ็กเชนจ์  ใช้ไชน์นิ่งเซเบอร์ฮานาทก้าออกคำสั่งกับคทาคู่ใจ

     

     

     

    Yes, My Master

     

     

     

    Shining Saber

     

     

     

    ส่วนด้านบนของคทาเริ่มกางออกมา  และมีลำแสงสีขาวพุ่งออกมาเป็นใบดาบขนาดใหญ่

     

     

     

    แฟนธ่อมวิงค์คุ้มกันด้วย

     

     

     

    Yes, Master

     

     

     

    แฟนธ่อมวิงค์เคลื่อนที่รอบๆของฮานาลก้าขึ้นมา เคลื่อนที่กลางอากาศได้เร็วมาก

     

    ไม่คิดจะใช้เวทย์โจมตีระยะไกลในแบบที่เธอถนัดนักล่ะ ฮานาลก้าคาร์ลอสพูดออกมาเหมือนจะแทงใจดำฮานาล  เพราะว่าสถานที่นี้เป็นองค์กรทั้งฮานาลก้า คาร์ลอส และฟลาสก้า สังกัดอยู่  ทำให้ฮานาลก้าลังเลอย่างมาก

     

    ถ้าข้าเป็นเธอล่ะก็จะใช้อย่างไม่ลังเลเลยคาร์ลอสพูดออกมาแบบตรงไปมา

     

    คำพูดครั้งนี้เหมือนจะไม่มีเจตนาร้าย แต่ว่าสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจหนักเท่าที่ควร ฮานาลก้าพยายามตั้งสมาธิ แต่ว่าเธอสามารถตั้งหลักความมั่นใจจนได้

     

    งั้นเริ่มเลยนะคะฮานาลก้าพุ่งเข้าไปหาคาร์ลอส

     

    บุกแบบนั้นมันยังอ่อนหัดนะ ฮานาลก้า

     

     

     

    วิถีแห่งนภา หมอก” ……

     

     

     

    คาร์ลอสตั้งท่าแบบวางท่าทางเหมือนจะยืนรอรับการโจมตีของฮานาลก้า ในขณะเดียวกันฮานาลก้าไม่ทันสังเกตจากคาร์ลอสเลยแม้แต่น้อย

     

     

     

     

    ฉัวะ!!!

     

     

     

     

    ฮานาลก้าก็ฟันร่างของคาร์ลอสแบบไม่ให้ตั้งตัว  ทว่าร่างกายของคาร์ลอสเริ่มแตกสลายคล้อยราวกับสายหมอก

     

    ฮานาลก้าคงเห็นเพลงดาบที่ข้าฝึกฝนมาไหม

     

    จู่ๆมีเสียงของคาร์ลอสผุดโผล่มาจากด้านหลังทำให้ฮานาลก้าตกใจ

     

    นี่มัน  เพลงดาบที่คุณพี่คาร์ลอสสร้างขึ้นมาน่ะเหรอคะ

     

    นี่คือ 1 ในเพลงดาบวิถีแห่งนภา (หมอก) ไงล่ะคาร์ลอสเริ่มอธิบายขึ้นมา  จากนั้นเริ่มรุกฟันใส่จากด้านข้างขวาของฮานาลก้าทันที

     

    ทว่าแฟนธ่อมวิงค์ 1 ในอาวุธประจำตัวของฮานาลก้า รู้ภัยอันตรายที่เข้าหาฮานาลก้าจึงระดมยิงลำแสงใส่คาร์ลอสราวกับปืนกลขนาดใหญ่ ส่วนคาร์ลอสหลบได้อย่างเฉียบฉิว

     

    แบบนี้แสดงว่ายังมีรูปแบบอื่นสินะคะฮานาลก้าถามด้วยความสงสัย และเปลี่ยนตั้งท่าป้องกันไว้

     

    ถูกต้อง!!!”คาร์ลอสหลบออกจากลำแสงออกมาได้ 

     

    ถึงคาร์ลอสหลบลำแสงได้หมด แต่ว่าลำแสงของแฟนธ่อมวิงค์ยิงทำลายวัตถุสิ่งของภายในห้องพังหมด แต่ว่าฮานาลก้าไม่สนใจสิ่งรอบด้านของเธอ สายตาของฮานาลก้าตอนนี้มุ่งไปที่

     

    ฮานาลก้านี่ไม่มีจุดบอดระยะประชิด สมกับเป็นฮานาลก้า เบรคเกอร์ จอมเวททรงพลังที่สุดในองค์กรจริงๆคาร์ลอสเอ๋ยชมขึ้นมาสรุปง่ายๆว่า

     

     

    รูปแบบการป้องกันของฮานาลก้านั้นไร้จุดบอดเลยซักดิ

     

     

            ถ้าเป็นข้าเมื่อก่อนนะคาร์ลอสตั้งท่ากระบวนใหม่ทันที

     

     

     

    วิถีแห่งนภา  “วายุ”……..

     

     

       สายลมพายุคลั่ง

     

     

     

            จู่ๆร่างของคาร์ลอสหายไปไร้ร่องรอย  ส่วนฮานาลก้าไม่ทันสังเกตเห็น 

     

     

     

    ฉัวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

     

     

     

     

    แฟนธ่อมวิงค์ถูกดาบฟัน ซึ่งได้รอยดาบแบบนับไม่ถ้วน เพราะดาบของคาร์ลอสฟันได้เร็วมากจนมองไม่เห็นกระทั่งใบดาบ ถูกฟันจนกระทั่งแฟนธ่อมวิงค์ร่วงลงมาราวกับเป็นขนนกร่วงลงมา ฮานาลก้ารู้สึกถึงสายลมที่พัดโปรยมา

     

    แฟนธ่อนวิงค์ฮานาลก้าเห็นแฟนธ่อมวิงค์ที่ถูกฟันทำลายอย่างง่ายดาย

     

              “ข้ากับเธออยู่กันต่างระดับกันคาร์ลอสโผล่ออกมาที่ด้านหน้าของฮานาลก้า

     

            สิ่งที่คาร์ลอสทำนั้นแสดงให้ถึงความต่างชั้นระหว่างคาร์ลอสและฮานาลก้า

     

           

        พวกเธอทั้ง2คนพอได้แล้ว!!!!

     

     

     

                จู่ๆมีเสียงออกมาห้ามการต่อสู้ระหว่างคาร์ลอสและฮานาลก้าไว้  เป็นเสียงที่ทรงพลังมาก และมีแรงกดดันอย่างมาก เป็นชายแก่อายุราวๆ 80 กว่าๆ มีกล้ามเป็นกำยำ สวมผ้าคลุมคลุมไว้

     

    มาสเตอร์คะ...ฮานาลก้าหันไปทางผู้ที่เป็นมาสเตอร์ขององค์กรนี้

     

            คราวนี้เป็นมาสเตอร์งั้นเหรอคาร์ลอสพูดออกมาอย่างไม่พอใจมาก ที่มีคนออกมาขัดขวางไว้

     

            ฮานาลก้าเธอไปซ่อมอาวุธของเธอซะมาสเตอร์พูด

     

            ค่ะฮานาลก้าเก็บซากของแฟนธ่อมวิงค์ จากนั้นวิ่งออกจากห้องออกไปโดยเร็ว

     

            มาสเตอร์เดินไปหาคาร์ลอส เข้ามาใกล้ๆ ซึ่งรอบด้านของมาสเตอร์นั้นเต็มไปด้วยแรงกดดันอย่างมหาศาลจนเห็นเป็นออร่า 

     

            คาร์ลอส ข้ามาพูดเรื่องของเจ้าน่ะแหละ

     

            เรื่องโรงเรียน ข้าไม่เอาหรอกคำพูดของคาร์ลอสพูดด้วยน้ำเสียงคัดค้านเหมือนเดิม

     

              “คาร์ลอสเจ้าจำเป็นต้องไปโรงเรียนนั่นซะนะ

     

            ทำไมล่ะมาสเตอร์!!!!”

     

              “เจ้าน่ะยังไม่รู้เรื่องอาญาสิทธิ์สั่งอสูรในโรงเรียนเซนต์ เบริเอล  จากฟลาสก้าและฮานาลก้าสินะมาสเตอร์ถามคาร์ลอส

     

            อาญาสิทธิ์สั่งอสูร?????”

     

    ดูเหมือนคาร์ลอสไม่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

     

    อาญาสิทธิ์สั่งอสูรน่ะ เป็นสิ่งที่สามารถสั่งสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ตั้งแต่มนุษย์ที่ต่ำต้อย ไปถึงจน เทพที่แข็งแกร่ง แม้แต่สั่งทำลายโลกได้อย่างง่ายดายมาสเตอร์อธิบายให้กับคาร์ลอสแบบคร่าวๆ

     

    สิ่งนั้นน่ะ ทางองค์กรอย่างพวกเราต้องการเก็บสิ่งนั้นไว้น่ะ  เพื่อไม่ให้ใครนำมาใช้ทางที่ผิดมาสเตอร์พูดความจริงเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริง

     

    ตอนแรกคิดจะส่งคนอื่นออกไปนะ แต่ว่าตอนนี้เหลือแค่เจ้าเท่านั้นแหละ(เดี๋ยวฟลาสก้าและฮานาลก้าไปทำภาระกิจที่อื่นแล้วล่ะ)

     

     

    ฮึมๆๆๆๆ

     

     

     

    คาร์ลอสเริ่มหัวเราะขึ้นมา เหมือนคาร์ลอสเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง

     

            น่าสนุกนี่นาคาร์ลอสมีสีหน้าที่ดีขึ้นมา

     

              “แบบนี้แสดงว่าต้องมีคนที่เก่งๆมาแก่นแย่งชิง อาญาสิทธิ์สั่งอสูร   ใช่ไหมล่ะ คาร์ลอสพูดโดยสรุปโดยรวม

     

            แน่นอน แล้วเธอจะไปไหมล่ะมาสเตอร์ชูนิ้วตั้ง2ให้กับคาร์ลอส

     

    ตกลง งั้นข้าจะเข้าโรงเรียนเซนต์ เบริเบลคาร์ลอส

     

    จริงสิคาร์ลอส เจ้าต้องเอาสิ่งนี้ไปด้วยนะมาสเตอร์โยนถุงใบโตๆใบหนึ่งให้กับคาร์ลอส

     

    นี่ใส่อะไรน่ะคาร์ลอสเปิดถุงออกมา

     

    สิ่งคาร์ลอสเห็นคือ ตุ๊กตาสีขาวขนาดประมาณ 20 ซม. มีทั้งหมด 4 ตัว  หน้าทั้งสี่ตัวจะมีรูปร่างแบบนี้

     

     

    หวัดดี

     

    มีอยู่ 2 ใน 4 นั้นทักทายคาร์ลอส จากนั้นคาร์ลอสปิดถุงไป

     

    นี่มัน 1 ในกลุ่ม Controller ซีรี่ย์พวก B.O.K.E นี่!!!!!”คาร์ลอส์ตะลึงกับสิ่งที่เห็น

     

    Controller ซีรี่ย์คือ มนต์อัญเชิญอสูรชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกสร้างด้วยกระบวนการพิเศษต่างๆ แต่เดิม Controller นั้นเป็นหนึ่งเดียวกันมาก่อน แต่ว่ามันเริ่มคลั่งอาละวาด ทางองค์กรจึงทุ่นเทพลังทั้งหมดจนทำให้ พวก Controller แยกออกจากกันกลายเป็น 9 ส่วน(ตัว)ในที่สุด เพื่อให้หายคลั่ง ปัจจุบันได้นำไปทำภารกิจต่างๆไป

     

    อืม...เอาเจ้าพวกนี้ไปโรงเรียนด้วยนะ  เดี๋ยวฉันไปทำภาระกิจของฉันให้เสร็จก่อนล่ะมาสเตอร์ก็เดินหายจากไปโดยทันทีแบบดื้อๆเลย

     

    เฮ้ย.....คาร์ลอสตะลึงกับการกระทำของมาสเตอร์

     

    ก็ใช่น่ะสิ  เจ้าพวกนี้น่ะใช้ทำประโยชน์ต่างๆได้ดีด้วยนะ

     

    อย่าปิดเร็วสิเฟ้ย!!!”โอเมก้า(วงกลม)กางถุงออก จู่ๆมีอีกตัวพุ่งออกจากถุงออกมาก่อน ซึ่งตัวนั้นเป็นหน้ากากบาท ดูเหมือนท่าทางจะไม่ชอบเสียงดัง

     

    เอ็กคาลิเบอร์(กากบาท)สงสัยไม่ชอบแฮะ เพราะเจ้าบ้า(โอเมก้า)นี่หนวกหูยังเหมือนเดิมเมอร์มิวด้า(สามเหลี่ยม) โผล่ออกจากถุงอย่างช้าๆ

     

    ส่วนฉัน....คีปเปอร์(สี่เหลี่ยม)กำลังจะพูด ทว่าถูกคนอื่นพูดตัดหน้าไปแล้ว....

     

    ว่าไงนะ เจ้าหน้าสามเหลี่ยมโอเมก้าเริ่มโกรธ จู่ๆมีลำแสงออกมารวมเป็นจุดเดียวที่หน้า

     

              โอเมก้า อิมแพ็ค!!!

     

    ไม่มีทางโดนฉันหรอกน่า เจ้าทึ่มโอเมก้าเมอร์มิวด้าใช้ประตูมิติรูปสามเหลี่ยมออกมา ทำให้ลำแสงของโอเมก้าเข้าไปในประตูนั่น

     

    พอได้แล้วพวกนาย ฉันเองก็รู้ชื่อเสียงของพวกนายหมดน่า ไม่ต้องห่วงหรอกน่า

     

    วงกลมนี่คือโอเมก้า กากบาทก็เอ็กซ์คาลิเบอร์ และ สามเหลี่ยมคือเมอร์มิวด้าที่เป็นหัวหน้าใช่ไหมล่ะคาร์ลอสพูดสรุปโดยรวม

     

     

    ทุกคนลืมฉันอีกแล้วง่า…….. ฉันเป็นหัวหน้าเจ้าพวกนี้น้า

     

     

    คีปเปอร์นั่งงอนเศร้าด้วยความสิ้นหวังไปแล้ว.....

     

     

    ล้อเล่นน่า เจ้าคือ คีปเปอร์ ผุ้ที่เป็นหัวหน้าของ B.O.K.E.”คำพูดของคาร์ลอสทำให้คีปเปอร์มีกำลังใจขึ้นมา

     

    ฝากด้วยนะ เจ้าพวกB.O.K.E.”คาร์ลอสพูด

     

    ได้เลยทั้ง 3 (ยกเว้นเอ็กซ์คาลิเบอร์) ประสานเสียงพร้อมกัน

     

    แบบนี้จะดูแลเจ้าพวกนี้ไวไหมล่ะนั่น

     

     

     

    INTRO END

    แถมข้อมูล NPC (ติดตาม)

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=553829&chapter=2

     

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=553829&chapter=5

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×