ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานบารอนปฎิวัติต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #2 : First Army

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 64


    1.Plan to create an army

    15 วันหลังจากการเริ่มสร้างกำเเพง

    ความสูงของกำเเพงในตอนนี้ 1 เมตรกว่าๆเกณฑ์ที่จะสร้างกำเเพงสูง 4 เมตรภายใน 30 วัน ถ้าเป็นความเร็วประมาณนี้คงจะต้องยืดออกไปเป็น 40-50 วัน

    เสียงของคนงานที่กำลังทำงานกันอย่างขมักเขม่นดังไปทั่วทั้งบริเวณเขตก่อสร้างกำเเพงท่ามกลางเเดดของฤดูร้อน เเต่กลับมีน้ำไม่มากพอกับจำนวนคนงานเพราะเเม่น้ำนั้นอยู่ไกลจากเขตก่อสร้างเเละเเถวนี้เหมือนจะไม่มีบ่อน้ำอยู่เลย

    ผมจดปัญหานี้ลงไปในสมุดโน้ตของผม ก่อนจะเดินไปเยี่ยมเยือนเหล่าคนงานที่กำลังวางก้อนอิฐอยู่ น่าเเปลกที่การปรากฏตัวของผมทำให้เหล่าคนงานประหม่า ผมก็นึกว่าพวกเขาจะยินดีซะอีก มันคงอารมณ์ประมาณว่าบอสมาดูงานกระมัง ผมคิดได้ดังนั้นก็พูดให้กำลังใจคนงานก่อนจะเดินกลับมาที่เต็นท์สนามหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเขตก่อสร้าง

    “เเผนงานก่อสร้างเป็นอย่างไรบ้างครับท่าน Baron” ชายกล้ามโตผู้ไว้หนวดรุงรังในชุดช่างตีเหล็กพูดกับผมด้วยใบหน้ายิ้มเเย้มพร้อมก้มตัวลงทำความเคารพ เขาคือFerrum หัวหน้าช่างในเมืองVindia

    “คงไม่ทันวันที่เราจะส่งทาสให้พวกOrc หรอก เห็นทีคงต้องหาข้ออ้างไม่ส่งส่วยสักทีละ” ผมเงียบไปสักครู่ก่อนจะเดินตรงเข้าไปจับที่ไหล่เขา “Project-Rain ไปถึงไหนเเล้ว?” ผมพูดเบาๆ

    สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “อาวุธวิเศษของท่านพร้อมทั้งสองชนิดเเล้วครับ”

    “ดีมาก! เเล้วจำนวนล่ะ?”

    Rain-maker มี 100 คันส่วนเจ้าสิ่งที่ท่านเรียกว่าFlintlock เราสร้างได้เเค่ 10 ชิ้นครับท่าน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงประหม่า

    ผมตบไหล่เขา “เอาเถอะ! เเค่นี้ก็ยอดเยี่ยมเเล้ว” ผมพูดก่อนจะยื่นถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญทองให้กับเขา “ฝากเรื่องลูกศรกับกระสุนด้วยล่ะ! เเล้วก็ส่งอาวุธทั้งหมดมาเเนวกำเเพงนี้เเหละนะ”

    พอได้เห็นเหรียญทองเขาก็ยิ้มเเละก้มหัวอีกครั้ง “ได้เลยครับท่าน Baron!” เขาตะโกนในขณะที่ผมกำลังเดินกลับออกมาจากเต็นท์ เเล้วตรงไปที่รถม้าเพื่อจะกลับไปคฤหาสน์

    ตลอดทางกลับมาที่คฤหาสน์ผมก็โดนสวดโดย Hymlan เรื่องนโยบายต่างๆของผมมาตลอดทาง ทั้งเรื่องที่ผมเปลี่ยนภาษีเป็นเเบบคำนวนตามรายได้พร้อมลดภาษีให้กับประชาชนไป 3% เพราะผมเห็นว่าคนในเมืองผมจ่ายไม่ค่อยไหว รวมถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากโขสำหรับวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองของผมอีกด้วย

    พอกลับมาถึงคฤหาสน์ผมก็รีบเดินผ่านเหล่าพ่อบ้านเเละเมดที่ยืนทำความเคารพผมอยู่เป็นระยะๆ จนเดินมาถึงห้องทำงานที่ชั้นบนเพราะวันนี้ผมจะทำสิ่งเเปลกใหม่ในชีวิต นั่นคือการวางเเผนการรบนั้นเอง

    เหตุมันสืบเนื่องมาจากที่ว่าในความทรงจำในหัวของผมนั้น มันได้มีการกล่าวถึงค่ายเเรงงานทาสสำหรับตัดไม้ของพวกOrc อยู่ในที่โล่งกลางป่าถัดจากเมืองของผมไปไม่กี่กิโลเมตร เเละสิ่งที่ผมไม่อาจยอมรับได้ที่สุดเลยนั้นก็คือการที่มนุษย์ต้องตกเป็นทาสของพวกOrc เเต่มันก็มีเหตุผลอื่นๆอีกนิดหน่อยคือ

    1.Orc นั้นมีร่างกายที่ทนทานเหมาะกับการนำมาใช้เเรงงานในเหมือง

    2.ผมต้องการประชากรสำหรับเมืองของผมเพิ่ม

    3.ผมต้องการไม้เเปรรูปเเละวัตถุดิบต่างๆมาใช้พัฒนาเมือง

    เมื่อเหตุผลทั้งหมดลง Lock ผมก็เหลือเเค่หาทหารเเละอาวุธ โดยใช้นโยบายว่า “Kill alot at minimal lost” เเละสิ่งที่ผมสรุปได้นั่นก็คือเพราะOrc ส่วนใหญ่นั้นเป็นนักสู้ระยะประชิดที่ชอบการต่อสู้เเบบซึ่งหน้า ผมก็เลยจะสร้างกองทัพที่มี Coreหลัก เป็นพลหน้าไม้ที่รบเเบบกองโจรที่โจมตีเเบบสายฟ้าเเลบ

    ผมส่งทหารยามของผมไปป่าวประกาศเรื่องจัดตั้งกองทหารเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง โดยที่ผมเสนอจะมอบขนมปังวันละ 1 ชิ้น พร้อมเหรียญเงินวันละเหรียญให้กับทุกคนที่เข้าร่วมกองทัพ ผลลัพธ์นั้นดีเกินคาดเพราะมีคนมาสมัคร 200 กว่าคน

    เมื่อวันก่อนนี้เองผมก็ได้สั่งให้ใช้ลานฝึกเป็นพื้นที่หลังกำเเพงเเละให้เริ่มเคลียร์พื้นที่

    พรุ่งนี้คือวันเริ่มฝึกครั้งเเรกที่ผมตั้งใจจะลงไปบอกเกี่ยวกับอาวุธเเบบใหม่ทั้งที่ผมสร้างขึ้นมาให้พวกเขาใช้ด้วยตนเอง

    5 ชม. ผ่านไป

    ผมยังคงนั่งเคร่งเครียดอยู่กับการทำยุทธวิธีเเละการวางเเผนการฝีก เพราะผมต้องการจะหาวิธีที่เหมาะสมกับเป้าหมายของผมให้ได้มากที่สุดโดยเสียกำลังพลให้น้อยที่สุดเพราะผมไม่อยากให้มีมนุษย์ต้องตาย

    จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงใสๆของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “ท่านBaronคะ อาหารเย็นพร้อมเเล้วคะ!” นั่นเป็นเสียงของเมดประจำตัวของผมเอง ที่ในช่วง 10 กว่าวันมานี้เธอดูจะเป็นห่วงผมเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะว่าการทำงานเเบบหามรุ่งหามค่ำ อาหารไม่กินของผม กระมัง

    “จะไปเดียวนี้เเหละ ” ผมเหนื่อยจนหมดอารมณ์จะเล่นบทเจ้าเมืองในวันนี้เเล้วล่ะ

    2.Birth of the Greencloak

    ชายในช่วงอายุ 15-30 จำนวน200กว่าคน ยืนออกันอยู่เเถบหลังเขตก่อสร้างกำเเพงที่ถูกปรับเป็นลานโล่งๆสำหรับฝึกทหาร ทุกๆคนดูยิ้มเเย้มเเละเฮฮากันสุดๆจนกระทั่งมีคนตะโกน “ท่านเจ้าเมืองมาเเล้ว!” ทุกๆคนก็เงียบเเล้วมองไปทางเดียวกัน นั่นก็คือทางที่รถม้าที่เต็มไปด้วยรอยผุพังจากการใช้งานเเบบไม่หยุดกำลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

    เมื่อรถม้าจอดที่กลางโล่งก่อนจะมีคน 3 คนเดินลงมาจากรถม้า คนเเรกคือเจ้าเมือง คนที่สองคือชายผมทองทหารองครักษ์ของเจ้าเมือง คนที่สามคือชายคนหนึ่งผู้สวมผ้าคลุมสีเขียว

    “ขอขอบคุณ ทุกท่านที่สนใจจะสู้ร่วมกับผม” ผมพูดพร้อมโค้งคำนับ

    ในตอนนั้นเองที่ผู้คนตรงหน้าผมเเตกตื่นกันใหญ่เหมือนมีอะไรใหญ่โตเกิดขึ้นก่อนจะก้มลงตามเเบบผม

    ในตอนนั้นเองที่องครักษ์ของผมดึงปลายเสื้อผม “ขุนนางคำนับชาวบ้านมันไม่เหมาะสมนะท่าน!” เขาพูดเบาๆ

    ผมถอนหายใจก่อนจะกลับมายืนตรงด้วยท่าสง่ามีออร่าเจ้าเมืองอีกครั้ง “ทุกคนเงยหัวขึ้นได้” ผมตะโกน

    “ข้าขอถามก่อนเลยว่า มีใครรู้ไหมว่าทหารหน่วยนี้ตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร?”

    เมื่อไม่มีคนตอบสักคน ผมจึงถอนหายใจเเล้วพูดต่อ “กำจัดค่ายOrc ในเขตป่า Greenvale ” พอผมพูดจบผู้คนก็เริ่มเเตกตื่นขึ้นมาทันที มันก็เเน่ล่ะผมไม่ได้ระบุไว้ประกาศว่าต้องสู้กับอะไร

    เงียบโว้ย!!!” ชายสวมผ้าคลุมเขียวตะโกน

    “ผมทราบดีว่าทุกท่านคงตกใจเเต่ผมขอให้ทุกท่านฟังสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ก่อน ” ผมเว้นจังหวะสูดลมหายใจเข้าพร้อมร่ายยาว “เกือบ20 ปีมาเเล้วที่พวก Orc กดขี่พวกเรา จับพวกเราไปเป็นทาส ขโมยลูก,เมีย ของพวกเราไป ” ผมชี้นิ้วไปทางที่ป่า Greenvale ตั้งอยู่ “ในป่าเเห่งนี้นี่เเหละ ที่สิ่งที่ข้ากล่าวมาทั้งหมดกำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้นี่เอง!”

    “เอาล่ะ ใครกล้าไปดวลดาบกับOrc เพื่อช่วยปลดปล่อยทาสให้ยกมือขึ้น!” 

    มีคนยกมืออยู่ประมาณ 30 คน ส่วนที่เหลือยังมีท่าทีลังเล

    ผมกระซิบกับองครักษ์ของผมให้เเยก 30 คนนั้นออกไปจากตรงนี้ก่อน เพราะผมมีเเผนการอื่นให้พวกเขา ส่วนสำหรับคนที่เหลือที่ยังมีท่าทีลังเลอยู่ผมก็มีเเผนให้พวกเขาเหมือนกัน

    “เอาละทุกคน จัดเเถวตอนลึก เเถวละ 10 คนเเล้วนั่งลง ใครไม่จัดเเถวผมไม่ให้ทั้งอาหารกับเงินเดือนนะ!” ผมตะโกนออกไป ทำให้ผู้คนรีบวิ่งไปจัดเเถวกันด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็นเเถวตอนลึก 18 เเถว

    ในตอนนั้นเองชายใส่ผ้าคลุมเขียวเดินขึ้นมายืนอยู่ข้างๆผม

    “นี่คือครูฝึกของพวกคุณทุกคน… หลายๆคนอาจรู้จักเขาอยู่เเล้วละ พรานป่าอาวุโสประจำเมืองของพวกเราเอง ” ผมพูดจบก็ตบไปที่ไหล่ของชายสวมผ้าคลุมเขียว

    เขาเปิดผ้าคลุมที่คลุมตัวเขาออกเผยให้เห็นชายผมหงอกรูปร่างกำยำพร้อมกับเเผลเป็นพาดบนใบหน้า ในมือของเขาถือหน้าไม้ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติอยู่หน่อยๆ

    “ช่วยสาธิตอาวุธให้พวกเขาดูหน่อย ” ผมพูดกับเขา

    เขาพยัักหน้าก่อนจะเดินไปหยิบเเป้งถุงหนึ่งจากลังอาหารที่ผมเอาไว้ใช้เเจกจ่ายอาหารให้ทหารขึ้นมาวางไว้บนเก้าอี้ไม้สำหรับคนงานก่อสร้างใกล้ๆกัน จากนั้นเขาก็เล็งก่อนที่จะยกคันโยกที่อยู่ตรงส่วนท้ายหน้าไม้ขึ้นลงด้วยความเร็วสูง

    ศร 6 ดอกพุ่งเข้าใส่เเป้งถุงนั้น จากนั้นเขาก็ดึงกล่องไม้บนตัวหน้าไม้ออกเพื่อเปลี่ยนเหมือนเเม็กกาซีนปืน ก่อนจะโยกคันโยกคันโยกขึ้นลงอีกครั้งพร้อมกับศรอีก 6 ดอกที่พุ่งเข้าใส่ถุงเเป้ง จนถุงเเป้งดูเหมือนกับตัวเม่น

    “ผมเรียกสิ่งนี้ว่า Rain-maker มันจะเป็นอาวุธหลักของพวกคุณทุกคนไม่ใช่หอกหรือดาบ” ผมพูดพร้อมด้วยรอยยิ้ม “มีคำถามอะไรไหม?”

    ทุกคนในเเถวเงียบกริบพร้อมกับสายตาที่จับจ้องมาที่หน้าไม้วิเศษในมือของนายพรานชุดเขียว

    “ถ้าไม่มีคำถาม ให้ทุกรับผ้าคลุมประจำตัวได้เลย” ผมพูดไปพร้อมกับองครักษ์ของผมที่เดินถือลังไม้จากหลังรถม้าของผมที่อัดเเน่นไปด้วยผ้าคลุมสีเขียวมาวางไว้อยู่ที่หน้าเเถวเเต่ละเเถว

    พอทุกๆคนได้รับผ้าคลุมกันหมดเเล้วผมก็เดินไปเเตะไหล่นายพรานชุดเขียวอีกครั้ง “ฝึกพวกเขาดีๆล่ะ ” ผมพูด

    เขาพยักหน้า ก่อนที่ผมจะหันหลังกลับไปทางรถม้าเพื่อไปกินอาหารกลางวัน

    เป็นตอนเดียวกับที่เสียงของนายพรานดังมาจากทางข้างหลังผม “วิ่งรอบสนามฝึก 3 รอบ เดี๋ยวนี้!”

     

    End Chapter 2

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×