คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Into Winter
1. Coal
ณ เหมืองเหล็ก ที่ภูเขาหินอ่อนสีขาวโพลนที่มีชื่อว่าVindalie ทางทิศตะวันตกของเมืองVindia ที่เป็นพื้นที่สำหรับขุดเหมืองโดยเฉพาะ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของเเร่ธาตุเเละความสวยงามของหินอ่อน
Baron เเห่งเมืองVindia กำลังเดินลงไปตามทางเดินที่ทั้งเเคบเเละมืด พร้อมกับทหารยามอีก 2 คน
“หนักกว่าที่คิดเเหะ” นั่นเป็นสิ่งเเรกที่ผมคิดในทันทีที่ผมเห็นตัวเหมืองที่น้ำท่วม เพราะน้ำนั้นท่วมได้ประมาณครึ่งตัวคนเลยทีเดียว ผมสั่งให้ทหารยามจุดคบไฟเพิ่มเพื่อที่ผมจะได้เห็นสภาพเเวดล้อมชัดๆ สรุปได้ว่าเหมืองนี้เกินเยียวยาเเล้ว ถ้าจะใช้งานคงต้องสูบน้ำออกสถานเดียว
น่าเสียดายเพราะ สิ่งที่ผมวางเเผนจะทำในอนาคตจำเป็นต้องใช้เเร่ธาตุเป็นจำนวนมาก เเต่ตอนนี้สำหรับเหมืองเเห่งนี้น่าจะสายไปเเล้ว
ผมสรุปได้ดังนั้นจึงกลับขึ้นมาที่ผิวดิน เเล้วเดินตรวจสอบเหมืองอื่นๆที่น้ำยังไม่ท่วมเเละยังมีผู้คนทำงานอยู่
มีรายงานถึงเหมืองอีกที่หนึ่งที่กำลังจะปิดลงเนื่องจากไม่มีเเร่ที่มีค่าพอจะขุดอีกเเล้ว ผมตัดสินใจมาที่นี่เผื่อจะเจออะไรที่ใช้งานได้
หลังจากเดินสำรวจมาได้สักพักผมก็เจอสิ่งที่มีค่าจนไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกคนเหมืองจะพลาดสิ่งนี้ไป
พลังจากซากโบราณของสิ่งที่เคยอยู่บนดาวดวงนี้เมื่อนานเเสนนานมาเเล้ว ที่บัดนี้ได้บีบอัดเเละกลายเป็นศิลาเเห่งพลังที่ถ้าหากใช้งานถูกต้องจะให้พลังดั่งเวทมนตร์
“ ถ่านหิน ”
ผมสั่งให้ทหารยามใช้ดาบสั้นเคาะๆมันออกมาหลายก้อนเพื่อนำกลับไปทดสอบชนิดของถ่านหินที่พบในทันที ก่อนที่จะรีบรุดกลับไปบนพื้นผิวในทันที
เมื่อผมกลับมาถึงที่พื้นที่สวนหลังคฤหาสน์ ในสภาพเนื้อตัวมอมเเมม ท่ามกลางสายตาทหารในหน่วยของJohny ที่กำลังฝึกการใช้ดาบปลายปืนอยู่
ผมไม่สนใจสายตาของใครในตอนนั้นเเม้เเต่น้อย ผมมีสิ่งดียวในใจคือการทดสอบถ่านหิน
ผมทั้งตัด บี้ เผา มันจนรู้ได้ว่าอย่างน้อยมันก็ไม่น่าจะใช่ถ่านหินประเภท Peat เเละน่าจะนำไปใช้ในทางอุตสาหกรรมได้
หลังจากวันนั้นผมก็มีคำสั่งให้ขุดถ่านหินขนานใหญ่ในทันทีเเม้จะมีการคัดค้านจากที่ปรึกษาของผมนิดหน่อยเกี่ยวกับท่าทีที่เร่งรีบของผม
ผมตัดสินใจที่จะไม่กินอาหารเที่ยงในวันนี้ เเล้วใช้เวลานั้นตามหาเเบบเเปลนที่ผมเคยเขียนทิ้งเอาไว้ก่อนจะปรับปรุงมันนิดหน่อย เเละนี่จะเป็นก้าวสำคัญในการปลดเเอกมวลมนุษย์ สิ่งนั้นนั่นก็คือ “เครื่องจักรไอน้ำ”
เเละผมก็ตัดสินใจที่จะไม่พักกินอาหารเย็น เช่นกัน
ผมรีบนำมันไปเสนอให้หัวหน้าช่างตีเหล็กประจำเมืองในทันที โดยเสนอเหรียญทองจำนวนมากโขให้ เเละผมก็จะมาช่วยเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเองถ้าผมว่าง
“นี่มันเป็นเเบบเเปลนของสิ่งที่สร้างได้ยากที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาในชีวิตเลยนะเนี่ย”Ferrum พูดพร้อมใช้มือของเขาปาดเหงื่อบนหน้าผาก
“ถ้าเจ้าทำมันสำเร็จ ข้าจะให้เจ้า 100 เหรียญทอง!” ผมพูดออกไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เขาพยักหน้า “เเต่อาจใช้เวลาเป็นเดือนๆเลยนะท่าน” เขาพูด
“ข้าให้เวลาจนถึงปีหน้าเลยละกัน” ผมพูดก่อนจะวางเหรียญทองสิบเหรียญลงไปที่ทั่งตีเหล็กใกล้กัน “ค่าวัสดุ” ผมพูดจบก็เดินกลับออกมาเพื่อขึ้นรถม้ากลับคฤหาสน์
ด้วยความเหนื่อยเเละง่วง ผมจึงหลับคารถม้าไปจนถึงหน้าประตูคฤหาสน์
–-
วันต่อมา
ผมกินอาหารเช้าอยู่ในห้องอาหารตามปกติจนกระทั่งHymlan ที่ปรึกษาของผมเดินตรงเข้ามาหาผมพร้อมด้วยเอกสารเเผ่นหนึ่งด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่
“ท่านBaron คำสั่งประจำเดือนในการส่งทาสกับทรัพยากร ให้ราชสำนักที่ท่านเลื่อนไปคราวก่อน มาถึงอีกรอบนึงเเล้วนะ ผมเกรงว่าถ้าท่านยังเลื่อนต่อไปเราอาจโดนขุนนางระเเวกนี้รุกราน ”
“ขุนนางเเถวๆนี้คงจะเคลื่อนไหวไม่ได้จนจบฤดูหนาวหน้านั้นเเหละ เลื่อนการส่งทาสออกไปอีก เราจะได้ใช้ข้ออ้างเรื่องฤดูหนาวทำให้ขนส่งไม่ได้ ” ผมพูดพร้อมกัดก้อนขนมปังบนมือ
“โอเคครับท่านBaron ”
“ที่กรู่เข้ามานี้มีเรื่องเดียวเหรอ มีอะไรอีกรึเปล่าคุณที่ปรึกษา? ” ผมพูดพร้อมมองไปยังใบหน้าของHymlan ที่ยังคงกระสับกระส่ายอยู่
“ก็มีอีกเรื่องหนึ่งครับท่าน, ดูเหมือนว่าผมจะบริหารทั้งเรื่อง การจัดสรรค์งาน,อาหาร,นโยบายการค้า,การทูต,การก่อสร้าง ที่เยอะขนาดนี้พร้อมกันไม่ไหวน่ะครับ ช่วยทำอะไรสักอย่างได้ไหมขอรับ ท่านBaron”
“โอเคๆ เดี๋ยวข้าจัดการเรื่องนี้ให้เอง หลังกินมื้อเช้าจบน่ะนะ ” ผมพูดพร้อมจิบชา
“งั้นผมขอตัวไปทำจดหมายเลื่อนกำหนดส่งทาสเเละอาหารก่อนนะครับ ” พอพูดจบเขาก็โค้งคำนับก่อนจะเดินกลับออกไป
ผมนึกขึ้นมาได้ว่าเมืองๆนี้มันขาดอะไรที่มันสำคัญไป “ศาลาว่าการเมือง ” เพราะถ้าไม่มีใครรับเเละออกคำสั่งต่อจากผมได้ มันก็เหมือนว่าผมไม่ได้ออกคำสั่งไว้ตั่งเเต่เเรกนั่นเเหละ เเละการพลักภาระงานไปให้ที่ปรึกษามันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำสุดๆ
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมนำฝ่ามือก่ายหัว ทั้งที่มันเป็นเรื่องสำคัญขนาดนี้เเต่ผมดันคิดไม่ถึง
–-
เช้าวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่ผมจะขึ้นเวทีเพื่อรับฟังประชาชนตามปกติ
คำถามเป็นเรื่องเดิมๆอย่างภาษีเเละอาหาร ฟืนที่จะใช้ในฤดูหนาว อะไรเทือกนี้
ผมปิดท้ายวันนี้ด้วยการประกาศสร้างศาลาว่าการเมืองพร้อมประกาศหาคนอ่านออกเขียนได้ให้มาสมัครงานอีกรอบนึง
2. ฺBuilding the future
หลังจากการสร้างศาลาว่าการเมืองดำเนินการไปได้ซักพัก ผมก็มีไอเดียผุดขึ้นมาในหัวอีกอย่าง
ถ้าหากเรามีพื้นที่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ นั่นจะทำให้การพัฒนาความเป็นอยู่ในเมืองๆนี้เร็วขึ้นอย่างมาก
ผมจึงเลือกพื้นที่ริมเเม่น้ำ(อีกเเล้ว) ผมตั้งใจให้มันเป็นลานคอนกรีตกว้างๆที่พื้นที่โดยรอบมีกำเเพงเเละระบบรักษาความปลอดภัยที่เเน่นหนา เพื่อกันคนนอกเข้าเเละของอันตรายจากข้างในหลุดออกมา
ผมโยกย้ายคนงานสร้างกำเเพงจากกำเเพงที่ใกล้จะเสร็จเเล้วมาทำงานในโครงการนี้เเทน เเละเเน่นอนว่ามันต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก เเต่ก็โชคดีที่เมืองๆนี้มีจุดเด่นในเรื่องการทำเหมืองหินเเละก้อนกรวดอยู่เเล้ว ผมจึงมีหน้าที่เเค่จ้างคนมาขุดเเละสร้าง
ลานคอนกรีตโล่งๆปรากฎขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่วัน พร้อมกับกำเเพงอิฐที่ตอนนี้กำลังค่อยๆถูกก่อขึ้น
พร้อมกันนั้นผมก็ออกเเบบเครื่องจักรชนิดต่างๆเอาไว้สำหรับโรงงานในอนาคต ในขณะเดียวกับที่เขียนหลักการทำงานของข้าราชการเเละเเนวทางของกฎหมายเตรียมเอาไว้ให้ศาลาว่าการเมืองที่ใกล้จะเสร็จขึ้นมาทุกวัน
จนมาถึงวันนี้ผมเริ่มรู้สึกได้ว่าตนเองนั้นขาดการพักผ่อนเเละมักจะสลบลงไปเฉยๆบนรถม้าเป็นประจำ
ผมจึงตัดสินใจจะพักผ่อนสักวันหนึ่ง
ผมเดินไปตามโถงทางเดินของคฤหาสน์ พร้อมผิวปากเป็นทำนองเบาๆไปเคล้ากับสายลมหนาวๆ… ลมหนาว?
ผมหันมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับภาพของหิมะที่กำลังค่อยๆตกลงมายังสวนหลังคฤหาสน์
ผมถอนหายใจพร้อมเดินกลับเข้าไปที่ห้องทำงานพร้อมหยิบเเบบเเปลนออกมาเเผ่นหนึ่ง ก่อนจะสั่งรถม้าให้พาผมไปที่โรงตีเหล็ก
จากนั้นผมจึงไปหยุดเเผนการทำเครื่องจักรไอน้ำของFerrum เอาไว้สักพักก่อน เพื่อที่จะให้เขากับช่างคนอื่นๆสร้างเตาถ่านจำนวนมากๆ เพื่อที่ผมจะเอาไปเเจกจ่ายให้กับบ้านที่ยังไม่มี เพราะดูเหมือนหน้าหนาวจะมาเร็วกว่าปกติ
วันต่อมาผมก็สั่งให้มีการเเจกจ่ายเเป้งสาลีจากยุ้งฉางของเมืองเเละถ่านฟืนให้กับบ้านเเต่ละหลัง พร้อมกับขึ้นเวทีเพื่อบอกเตือนประชาชนว่าถ้าจุดไฟเเล้วกรุณาเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทด้วย
สรุปเเล้วนอกจากที่ผมไม่ได้พักผ่อน ผมยังต้องมานั่งเครียดกับการคำนวนการเเจกอาหารเเละฟืนให้เเต่ละบ้าน
ยังนับเป็นโชคดีที่อาหารที่ผมสั่งซื้อนั้นมีอยู่มาก ต้องขอบคุณเครื่องปั่นด้ายที่ทำให้ผมมีเงินมากพอที่จะสั่งซื้อสิ่งต่างๆได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดงบประมาณเอาไว้ใช้
ผมมีเเผนเกี่ยวกับผ้าอยู่อีกหนึ่งอย่าง เเต่คงต้องรอให้ฤดูหนาวจบลงก่อน สิ่ที่ผมทำได้ในตอนนี้คงมีเเค่รอเวลา
“ว่าเเต่ สร้างศาลาเมืองไปถึงไหนเเล้วนะ?” ผมคิดได้ดังนั้นจึงเดินทางออกไปตรวจดู ด้วยตนเอง
–-
ท่ามกลาง ถนนหินที่เริ่มมีหิมะปกคลุมอยู่หน่อยๆ ผมยืนเหล่าคณะทหารยามนมองดูอาคารไม้หลังใหญ่ๆหลังหนึ่งที่มีป้ายไม้ติดอยู่ว่า
“ ศาลาว่าการประจำเมือง Vindia ”
ผมเเละคณะทหารยามเดินดูไปทั่วทั้งอาคารว่างๆที่ยังไม่มีเเม้ Furniture เพื่อดูว่าประมาณดูเเล้วมันบรรจุผู้คนได้ตามที่ผมได้ตั้งเป้าไว้ไหม เเละมีอะไรผิดพลาดไหม
เท่าที่ผมตรวจดู มันน่าจะจุได้ประมาณ 50-80 คนได้ เยอะพอสำหรับในตอนนี้
ตัวอาคารยังมีข้อผิดพลาดในการออกเเบบเป็นบางที่เช่น จำนวนหน้าต่างไม่พอ เเต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เเก้ไม่ได้
ผมค่อนข้างพอใจกับผลงานที่ได้รับ ผมจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับไปพักผ่อนสักที
–-
เมื่อผมกลับมายังคฤหาสน์ ผมก็อาบน้ำ กินอาหารเย็น เเละเข้านอน
“ในที่สุดก็ได้พัก” ผมคิดในใจ
ผมทิ้งตัวลงบนนอนไปบนเตียงนุ่มๆ เเต่ผมก็นอนไม่หลับเพราะในหัวของผมมีเเต่เรื่องของเเบบเเปลนที่ยังเขียนไม่เสร็จ ทั้ง ระบบส่งน้ำประปา เครื่องทำความร้อน เตาหลอมเหล็ก เเละปืนใหญ่
นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องเเผนการต่างๆหลังจบฤดูหนาว ทั้ง เเผนการโจมตีค่ายOrc เเผนการขยายเขตการเกษตร เเผนการจัดผังเมือง ทั้งหมดนี้มันทำให้จิตใจผมไม่สงบ
ผมจึงตัดสินใจที่จะลุกขึ้นมาชมวิวของเมืองVindia ในยามหิมะตกเบาๆในช่วงเย็น นั้นทำให้ผมสงบจิตใจเเละไม่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยขึ้นมาหน่อย ผมรินไวน์เเดงลงไปในเเก้วที่โต๊ะไม้ข้างๆหน้าต่าง
“ขอให้อนาคตที่ผมตั้งใจจะสร้างสำเร็จด้วยเถิด” ผมคิดในใจพร้อมชูเเก้วไวน์ขึ้นเหนือหัว
End Chapter 5
ความคิดเห็น