เฉาะประเด็น 'นางบำเรอหลวง' เรื่องจริงไม่อิงนิยาย!

ลำดับตอนที่ #3 : เฉาะประเด็นร้อน เลิฟซีนนางบำเรอหลวง สาลิกาปัด ไม่ได้มือถือสากปากถือศีล!

เฉาะประเด็นร้อน เลิฟซีนนางบำเรอหลวง สาลิกาปัด ไม่ได้มือถือสากปากถือศีล!

***************************

ใกล้เวลาเปิดตัวนางบำเรอหลวงเล่ม 2 เข้ามาทุกที ในขณะที่นักอ่านยังจำได้ถึงฉากเลิฟซีนที่โดดเด่นและได้รับการกล่าวขวัญมาตั้งแต่เล่ม 1 ซึ่งดูจะตรงข้ามกับพฤติกรรมของผู้เขียน ที่ตอนนี้หันมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ออกแนวธรรมะธรรมโมจนเป็นที่สังเกตได้ของคนใกล้ชิด วันนี้ทางเราจึงต้องออกมาเฉาะประเด็นร้อน ให้คุณสาลิกาได้เปิดอกตอบคำถาม

ถาม: ทำไมถึงหันมานั่งสมาธิ เขาว่าหายป่วยเพราะถือศีลใช่ไหม

สาลิกาตอบ: ที่จริงหายป่วย (ทางใจ) เพราะมีท่านผู้หนึ่งช่วยให้เรารู้จักตัวเอง ว่าที่จริงแล้วเราเป็นคนฟุ้งซ่าน ท่านให้ปฏิบัติสมาธิทุกวันพระ ดังนั้นถ้าจะพูดให้ถูกคือสาลิกาหายป่วยเพราะปฏิบัติสมาธิค่ะ หลังจากเริ่มนอนหลับและตัดความกังวลได้ก็มีสมาธิทำงานเพิ่ง สาลิกาเพิ่งเข้าใจตอนนั้นเองว่าคำพูดติดปากของเราที่ว่า เราไม่มีอารมณ์เขียนนิยายน่ะ มันไม่จริงเลย ความจริงแล้วเราแค่ไม่มีสมาธิ เหตุเพราะปล่อยวางไม่ได้ พอหันมาปฏิบัติสมาธิได้สักสี่ห้าเดือนก็เริ่มคิดได้ว่าศีลห้าจะช่วยดับเหตุแห่งความว้าวุ่น เช่น ถ้าเราโกหก เราก็ต้องมานั่งว้าวุ่นใจว่าจะปิดมันยังไงให้ตมิด เพราะฉะนั้นก็ตัดปัญหา พยายามไม่ทำผิดศีล ความว้าวุ่นมันก็ลดลงและทำให้เราโฟกัสกับงานได้มากขึ้น

ถาม: เขียนเลิฟซีนไม่ผิดศีลหรือ

สาลิกาตอบ: สำหรับเลิฟซีนในนางบำเรอหลวงเรามองว่าการเขียนนิยายภาษาสวย มีบทอัศจรรย์บ้างตามสมควร ยังคงเป็นการประกอบสัมมาอาชีพ และที่สำคัญที่สุด คือ มันเป็นความรับผิดชอบที่คนเขียนมีต่อคนอ่าน ในเมื่อเริ่มเขียนเล่มแรกก็ต้องเขียนให้จบ เราจึงกลับมาสู้อีกครั้งค่ะ

ถาม: คุณสาลิกาเคยพูดเองว่านางบำเรอหลวงเป็น ‘โลกียนิยาย’ ต่างกันตรงไหนกับอาชีพ ‘ขายกาม’ ที่คุณสาลิกาออกตัวว่าเป็นหนึ่งในห้าอาชีพต้องห้ามที่ตัวเองจะไม่ทำเด็ดขาด

สาลิกาตอบ: ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่าที่บอกว่านางบำเรอหลวงเป็นโลกิยะนิยาย ก็เพราะโลกิยะนิยายตรงข้ามกับโลกุตระนิยาย โลกุตระนิยายเป็นนิยายทางธรรม ส่วนโลกิยะนิยายเป็นเรื่องรัก โลภ โกรธ หลง ตามวิสัยมนุษย์ ยอมรับค่ะว่านางบำเรอหลวงเป็นการตอบสนองกามของมนุษย์ ซึ่งกามในที่นี้ไม่ใช่ ‘ราคะ’ เพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึง สิ่งที่ทำให้เกิดรัก โลภ โกรธ หลง ทุกชนิดค่ะ

ส่วนที่ถามว่าต่างกับขายกามยังไง ถ้ากามหมายถึงรัก โลภ โกรธ หลง ก็ไม่ต่างค่ะ ธุรกิจแทบทุกประเภทตอบสนองกามในความหมายนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าต่างจากขาย ‘กามราคะ’ ยังไง ก็ต้องตอบว่านางบำเรอหลวงไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อก่อกำหนัดโดยตรง ฉากเลิฟซีนภาษาสวยเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ส่วนตัวแล้วคิดว่านางบำเรอหลวงไม่ได้มีฉากเลิฟซีนเป็นตัวชูโรง เพราะในเนื้อเรื่องก็มีทั้งความรัก ศักดิศรี ความภักดี ความเศร้า สาลิกาเชื่อค่ะว่าแฟนคลับทุกคนชอบนางบำเรอหลวงที่ความสนุกของเนื้อเรื่องค่ะ

ส่วนห้าอาชีพต้องห้ามที่สาลิกาไม่ทำนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอาชีพผิดศีล หนึ่งในห้าอาชีพต้องห้ามของสาลิกาคือค้าประเวณี เพราะทำให้คนผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารา แต่การเขียนนิยายในเชิงศิลปะไม่ได้ทำให้คนอ่านผิดศีลข้อกาเมฯค่ะ

ถาม: ฉายา ‘เจ้าแม่อิโรติก’ ของสาลิกาได้มายังไง เป็นเพราะเลิฟซีนในนางบำเรอหลวงเล่มแรกใช่ไหม

สาลิกาตอบ: ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่านางบำเรอหลวงไม่ได้เป็นนิยายอิโรติก จะนับว่าเป็นโรม๊านซ์ก็ยังยาก เพราะถึงพริกถึงขิงทุกอารมณ์ เศร้าก็เศร้าจนปวดใจ ร้ายก็ร้ายจนเกลียด เจ็บก็เจ็บจนน่าสงสาร ดังนั้นก็ไม่ทราบว่าจะให้คำจำกัดความว่าเป็นนิยายประเภทไหน แต่ที่แน่ๆไม่ใช่อิโรติก

ส่วนคำว่า ‘เจ้าแม่อิโรติก’ นี่เพื่อนๆเรียกเล่นกันเฉยๆค่ะ เหตุเพราะตัวเองพอจะมีความสามารถในการเขียนฉากเลิฟซีนอยู่บ้าง เวลาที่เพื่อนๆเขียนติดขัดก็มักจะมาขอความช่วยเหลือ สาลิกาก็ยินดีช่วยค่ะ ที่จริงฉายานี้ ถ้าจำไม่ผิดได้มาตอนที่ยุคเอ็มเอสเอ็นเฟื่องฟู เพื่อนๆลากตามๆกันมาขังรวมไว้ในห้องเดียว รู้จักกันบ้างไม่รู้จักกันบ้าง แล้วพอดีมีนักเขียนคนหนึ่งบ่นออกมาว่าเขียนฉากเลิฟซีนติดขัด ใครก็ได้ช่วยที เพื่อนรุ่นน้องของสาลิกาก็บอกไปว่า ‘มาถามอะไรเราล่ะ เจ้าแม่อิโรติกอยู่นี่ทั้งคน ไปถามเจ๊เขาซิ’ สาลิกาก็ยังงงๆว่าเจ้าแม่อิโรติกนี่ใคร น้องเขาก็โพล่งออกมาว่า ‘ก็เจ๊สาลิกาแหละ งงอยู่ได้’ นี่ล่ะค่ะจุดเริ่ม จากนั้นก็ช่วยเพื่อนๆมาตลอด จนกระทั่งเขาเรียกต่อกันเป็นทอดๆไปแบบนั้น แต่ช่วงสองสามปีหลัง กระแสนางบำเรอหลวงซาลงไป ประกอบกับสาลิกาหันมาออกหนังสือเล่ากฎหมายง่ายๆด้วย ช่วงหลังนี้ก็เลยมีเพื่อนนักเขียนมาปรึกษาปัญหากฎหมายมากกว่า

หลังจากตอบสามคำถามสุดหินที่ทางเรารวบรวมมา คุณสาลิกาก็ฝากมาบอกอีกว่าคุณสาลิกายินดีเปิดใจตอบตรงทุกคำถาม เพื่อจบข่าวลือที่โจษขานกันไปต่างๆนาๆ อย่างนี้ต้องขอตัวไปรวบรวมคำถามมาใหม่ แล้วจะรีบนำมาให้ทุกท่านในแฟนเพจอ่านกันเป็นที่แรกค่ะ