ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรักเจต์ม - อากิ

    ลำดับตอนที่ #1 : แม้คืนวันจะเปลี่ยนผันแต่ฉันยังรักเธอ [1]

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 48


                                                                                             1





    ผมขยับเนคไทน์เหมือนกับว่าจะจัดให้มันดูดี แต่ความจริงแล้วผมเพียงแต่หาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายความกังวล แล้วหันมาปีบมือที่สั่นเทาของตัวเองพร้อมกับนับเสียงลมหายใจที่เร่งถี่ขึ้นตามจังหวะหัวใจเต้นระรัว ดวงตาของผมจับจ้องอยู่กับประตูทางเข้าห้องพิจารณาของศาลยุติธรรมแห่งมลรัฐเทนเนซซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา  



    การเป็นนักเรียนทุนหัวดำๆที่นี่ไม่ใช่เรื่องสนุก โดยเฉพาะเมื่อคุณพ่อของผมเป็นข้าราชการธรรมดา มีรายได้ไม่มากนัก แต่ผมกลับต้องถูกตัดทุนการศึกษาปริญญาโทในเทอมสุดท้ายและถูกไล่ออกจากงานเพราะความสะเพร่าของคนบางกลุ่ม นั่นเป็นเหตุให้ผมต้องมานั่งใจสั่นอยู่ในห้องเก็บตัวพยานที่แสนอึดอัด แต่แล้วความกระวนกระวายกลับต้องสะดุดหยุดลง เมื่อเสียงใสของทนายประจำตัวแว่วผ่านประตูเข้ามา ผมใช้คำว่า ‘ทนายประจำตัว’ ก็เพราะว่าเธอเป็นแฟนสาวลูกครึ่งไทย - ญี่ปุ่นของผมซึ่งอยู่กินกันมาตั้งแต่ตอนเข้าเรียนปริญญาโทใหม่ๆ



    “...ศาลที่เคารพคะ” น้ำคำแผ่วหวานแต่เด็ดขาดเล็ดรอดเข้ามา “หลังจากที่ได้สืบพยานโจทก์มาสี่ปากแล้ว บัดนี้ลูกความของดิฉันพร้อมที่จะขึ้นให้การในฐานะพยาน ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อแห่งความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงที่สุดของทางโรงพยาบาลจำเลย เขาต้องสูญเสียชื่อเสียง ทุนการศึกษา หน้าที่การงาน และความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ ดิฉันขอเบิกตัวมิสเตอร์เจต์ม เทียนส่องแสงค่ะ”



    สิ้นคำกล่าวของเธอ จ่าศาลร่างใหญ่จึงกระชากประตูห้องพิจารณาเปิดออก เขาพาผมมานั่งที่คอกพยานและนำสาบานต่อสิ่งศักดิสิทธิที่ผมนับถือ จากนั้นอากิ ทนายสาวสุดที่รักของผมจึงเริ่มการซักถาม ดวงหน้าของเธอช่างเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและกำลังใจซึ่งผมตระหนักดีว่าคงจะไม่อาจผ่านเรื่องร้ายๆมาได้หากไม่มีเธอคนนี้



    “เมื่อวันที่15 กันยายน ปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับคุณคะ” อากิเริ่มซักพยานตรงตามรูปแบบทนายที่เพิ่งจะได้รับใบอนุญาต

    “ผมได้ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลจำเลยครับ” ผมตอบ



    “ทำไมคุณต้องตรวจเลือดคะ”



    “ผมเป็นซีสต์ที่มือครับ หลังจากที่ตรวจอุลตร้าซาวด์แล้ว หมอบอกว่ามันเป็นก้อนแคลเซี้ยมไปเกาะที่เส้นเอ็นควรที่จะเข้ารับการผ่าตัด จึงต้องตรวจเลือดก่อนเข้ารับการผ่าตัดครับ”



    “กรุณาเล่าเหตุการณ์ที่ห้องแล็บของทางโรงพยาบาล ก่อนเข้ารับการตรวจเลือดด้วยค่ะ”



    “ผมพบกับชายคนหนึ่งที่หน้าห้องแล็บ เขากำลังรอตรวจเลือด เขาชวนผมคุยแล้ว...” ผมพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ “...แล้วเราคุยกันซักพัก จากนั้นจึงมีนางพยาบาลออกมาเรียกให้เขาเข้าไปตรวจเลือด ประมาณสองสามวินาที นางพยาบาลคนเดิมก็ออกมาเรียกให้ผมเข้าไป”



    “เขาคนนั้นชื่ออะไรคะ”



    “เขาบอกว่า...” ผมนึกถึงชายร่างผอม หนวดเครายาว แต่งตัวเหมือนพวกหนุ่มฮาเล่ แก๊งซิ่งมอร์เตอร์ไซค์



    “ว่า...” อากิกระตุ้นเตือน



    “เขาแนะนำตัวว่าเขาชื่อ จิม เทอร์รินสกี้ ใครๆมักจะเรียกเขาว่า เจ.ที.”



    “ชื่อย่อของเขาคือ เจ.ที.” อากิย้ำคำของผมแต่กลับถูกทนายฝ่ายตรงข้ามกระแทกเสียงคัดค้านพร้อมทั้งผุดลุกยืนขึ้นอย่างทันควัน

    “คัดค้านครับศาลที่เคารพ เธอใช้คำถามนำ  ”



    ไอ้ทนายวัยกลางคนแผดเสียงดัง ดูดุดันจนผมแทบจะสะดุ้งขึ้นมาจากเก้าอี้ แต่สีหน้าของอากิยังเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด ความเข้มแข็งของเธอเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผลักดันให้ผมมีชีวิตอยู่มาได้ แม้ในช่วงเวลาที่ต้องประสบกับเรื่องราวที่เลวร้ายที่สุดก็ตาม



    “ศาลที่เคารพคะ ดิฉันยังถามไม่จบประโยค และคำถามของดิฉันไม่ใช่คำถามนำ”



    “คำคัดค้านตกไป เชิญถามต่อได้” ศาลประกาศก้องกังวานไปทั่วห้องพิจารณา ทนายวัยทองได้แต่ทรุดตัวลงนั่งปล่อยให้คลื่นลูกหลังทำหน้าที่ต่อไป



    “ชื่อย่อของจิม เทอร์รินสกี้ คือ เจ.ที. และของคุณคืออะไรคะ” อากิยิงลูกเด็ด



    “เจ.ที. ครับ เจต์ม เทียนส่องแสง คือ เจ.ที. เช่นเดียวกัน”



    เจต์ม เทียนส่องแสง คือ เจ.ที. ใช่ ! นั่นแหละคือต้นเหตุของทุกสิ่งทุกอย่าง









    ****************



    คำถามนำ คือ คำถามที่ทนายถามเพื่อให้พยานตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ในบางประเทศห้ามใช้คำถามนำในการสืบพยานเลย แต่ในบางประเทศห้ามใช้คำถามนำเฉพาะการซักถามในครั้งแรกของทนายฝ่ายที่เบิกพยานปากนั้นมาสู่ศาล – สาลิกา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×