---
              ในสวนหย่อมเล็กๆ ที่มีดอกไม้สีสันสดใสถูกปลูกแซมกับพุ่มไม้ ของมหาวิทยาลัยในกรุงลอนดอน มีม้านั่งหินอ่อนวางไว้ให้นักศึกษานั่งพักกัน นาระ สาวน้อยปี 1 หน้าตาน่ารัก ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น กำลังนั่งอ่านอีเมลที่คุณพ่อของเธอส่งมาให้อย่างตั้งอกตั้งใจ พลางหยิบคุ้กกี้ชิ้นเล็กเข้าปาก เธอชอบมีโลกส่วนตัว ชอบที่จะอยู่ลำพังคนเดียว ไม่สังคมกับใครมากเป็นพิเศษ จึงทำให้เธอดูเป็นคนลึกลับในสายตาของคนอื่น
   
            เสียงไวโอลิน ฟังดูสบายๆ ลอยมาเบาๆกับสายลมโชยอ่อนๆ บรรยากาศในฤดูใบไม้ผลิ ช่างน่าหลงใหล บทเพลงที่ถูกบรรเลงเหมือนมีความหมายบางอย่างแอบแฝงอยู่ นาระเงยหน้าขึ้นจากจอโน้ตบุ๊ก มองชะเง้อหาต้นเสียง ราวกับถูกสะกดให้ต้องมนต์ เธอลุกออกจากม้านั่ง เดินตามเสียงไปเรื่อยๆ จนมาถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างสระน้ำ ชายหนุ่มชุดขาวผมสีเข้มยาวประบ่า กำลังยืนหันหลังเล่นไวโอลินสีดำ เธอยืนมองเขาอยู่นาน เสียงเพลงนั้นฟังดูคุ้นหู นาระยืนฟังจนบทเพลงที่บรรเลงได้จบลง สายลมพัดเบาๆปะทะเข้าที่หน้าของเขา ทำให้ผมที่ปิดบังใบหน้าเปิดเผยตัวตนของเจ้าของบทเพลง สายตาของเขาเหม่อลอยเหมือนไร้ความรู้สึก นาระขยับเดินเข้าไปใกล้เขาจนเห็นใบหน้าอันคมคายอย่างชัดเจน รูปร่างหน้าตาของเขาคล้ายกับคนเอเชีย เขาหันมามองเล็กน้อย แล้วก็หันหลังกลับไป  แต่สำหรับนาระ เธอรู้สึกผูกพันกับเขาในทันทีที่สบตากัน
    “ขอโทษค่ะ พี่ชื่ออะไรคะ” อะไรไม่รู้ที่ดลใจเธอให้ถามออกไปแบบนั้น เธอรู้สึกถูกชะตากับเขาคนนั้นเสียเหลือเกิน แม้จะรู้ว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่ถามออกไป และเขายังคงเฉย
    “พี่คะ เพลงเมื่อกี้ ชื่อเพลงอะไรเหรอคะ” เธอยังคงถามต่อ แต่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหันมาสนใจกับคำถามดังกล่าวเลย เธอยังไม่ลดละความพยายาม
    “เพลงเพราะนะคะ แต่ฟังแล้วเศร้าจัง เพลงนี้ชื่ออะไรเหรอคะ” นาระยังคงถามซ้ำ
   
                การที่เธอพูดอยู่กับคนแปลกหน้าที่ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ทำให้เธอตัดสินใจ หันหลังกลับ ในขณะที่เธอกำลังเดินจากไป เขาจึงค่อยหันหลังมามองเธอจนลับตา ใบหน้าเรียบเฉย แต่ดวงตาแสดงถึงความว้าเหว่ไม่น้อย 
    สองอาทิตย์กว่าแล้ว ที่ทุกๆวัน นาระยังคงไปนั่งที่ม้าหินตัวเดิม ฟังเสียงไวโอลินเพลงเดิม และพยายามพูดคุยกับเขาอย่างเดิม แต่เขาก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จนเธอคิดว่าเขาพูดไม่ได้ วันนี้คุณพ่อของนาระส่งอีเมลมาบอกกับเธอว่า คุณแม่ของเธอล้มป่วย ให้เธอรีบกลับมาด่วน บ่ายนี้นาระก็เดินมาหาเขาเช่นเคย
    “พี่คะ นาระคงจะไม่มารบกวนพี่อีกแล้ว เพราะนาระจะต้องกลับประเทศไทย รักษาตัวด้วยนะคะ....” เธอเว้นช่วง เพื่อให้ถ้อยคำที่พูดออกไปจบด้วยเสียงราบเรียบ ทั้งๆที่ เธออาลัยนัก “ลาก่อนค่ะ” เธอโค้งเล็กๆให้เขา ชายหนุ่มหยุดเล่นไวโอลินตัวเก่ง ค่อยๆหันมามองเธอ แววตาเศร้าๆ มองมาอย่างอาลัยเช่นกัน แต่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก นาระมองตอบพยายามค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาคู่นั้น ในที่สุดเธอก็หันหลังเดินจากไป ....
                เขาอยากพูด อยากบอกเธอทุกๆอย่างที่เธอถาม แต่เขาทำไม่ได้ ยกเว้นว่านาระจะเกิดความรู้สึกว่ารักเขา และบอกออกมาเป็นคำพูด เมื่อนั้นเขาก็จะสามารถตอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออยากรู้ได้ ดังนั้นตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่เล่นไวโอลินให้เธอฟัง คอยรับรู้เรื่องราวที่เธอพูดกับเขา และทำได้เพียงส่งสายตาสื่อความหมายเท่านั้น เขามีเวลาไม่มากนัก เพียงแค่ช่วงฤดูใบไม้ผลินี้เท่านั้น ที่เขากับเธอจะได้พบกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าตอนนี้เธอจะไปไหน อยู่ที่ไหน เขาก็จะตามเธอไปทุกหนทุกแห่ง --นาระที่รัก--
       
                ที่สนามบินดอนเมือง นาระเดินลากกระเป๋าออกมาจากประตู รถยนต์สีดำวิ่งมาเทียบตรงหน้าเธอ ชายหนุ่มมาดเข้มใส่แว่นกันแดดสีดำ เดินลงมารับกระเป๋าและเปิดประตูรถให้เธอ ทันใด นาระเหลือบไปเห็นชายคนนั้น เขาคนที่เล่นไวโอลินอยู่ทุกวันริมสระน้ำนั้น เธอวิ่งลงจากรถตรงไปหาเขาทันที
    “พี่คะ ใช่พี่จริงๆ ด้วย” เธอวิ่งหอบมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม เขาพยักหน้าเล็กน้อยรับรู้
    “นาระดีใจจริงๆ ที่ได้พบกับพี่ที่นี่” เธอยิ้ม ตอนนี้เธออยากจะตะโกนชื่อเขาออกไปดังๆ แต่ในเมื่อเธอไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร “พี่คะ นาระขอตั้งชื่อให้พี่ละกันนะคะ” เขาเฉย “ต่อไปนี้นาระจะเรียกพี่ว่า อาชิ นะคะ” เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจกับชื่อที่เธอตั้งให้กับชายหนุ่ม
    “แล้วนี่พี่พักที่ไหนล่ะคะ” เธอถาม และเขาก็คงเฉย
    “เอางี้ละกัน ถ้าพี่ยังไม่รู้ว่าจะไปพักที่ไหน ไปพักที่บ้านนาระก่อนก็ได้นะคะ” เธอว่าเอาดื้อๆ พร้อมกับลากเขาไปที่รถ
      อาชิได้เข้ามาอยู่ในชายคาบ้านเดียวกับนาระได้ 2 เดือนแล้ว ภายใต้การยอมรับจากทุกคนในบ้าน ทุกๆวันเขาจะไปยืนอยู่ริมระเบียงห้องของเขา บรรเลงไวโอลินเพลงเดิมๆ ที่มีท่วงทำนองลึกลับน่าค้นหา แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง นาระเองก็เฝ้าคอย ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะฟังเพลงๆนั้นอยู่เสมอแม้ว่าเธอจะต้องเรียนหนังสือหนักกว่าตอนเรียนอยู่ที่ลอนดอนก็ตาม ทุกๆคืน เสียงไวโอลินจะคอยกล่อมเธอนอนหลับฝันดี ตอนนี้นาระรู้สึกผูกพันกับเขามากเหลือเกิน มากจนไม่สามารถขาดเขาได้ เธอรักเขาเข้าแล้ว...
      อาชิเองก็รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น เขาเฝ้าวิงวอนให้เธอพูดคำๆ นั้นกับเขา คำว่า--รัก-- คำเดียวที่เท่า และเขาก็จะได้พูดคุย อธิบายเรื่องราวให้เธอฟังได้ วันเวลาก็ล่วงเลยใกล้จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ใบไม้บนต้นเริ่มเปลี่ยนสี หากนาระไม่รีบตัดสินใจบอกเขา ทั้งเขาและเธออาจจะไม่ได้พบกันอีกเลยก็ได้ บทเพลงช่วงหลังๆบรรเลงด้วยท่วงทำนองเว้าวอน เหมือนเธอเองก็รับรู้ พรุ่งนี้จะย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงอย่างเต็มตัวแล้ว เกือบเที่ยงคืนแล้ว นาระยังคงนอนกระสับส่าย รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เธอลุกพรวดขึ้นจากเตียงมุ่งตรงไปยังห้องของอาชิ ซึ่งเขากำลังรอเธออยู่
    ก๊อกๆ ก๊อก... “พี่คะ นอนรึยังคะ” นาระถามเบาๆ อาชิซึ่งพิงตัวอยู่กับอีกด้านของประตู เมื่อได้ยินเสียงเธอ เขาดีใจแทบตัวลอย ในใจหวังเพียงว่า เธอจะพูดคำนั้น อาชิค่อยๆ เปิดประตูออกมา
    “เอ่อ ... พี่คะ นาระ...นาระ เอ่อ” เธออายจัดจนแก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อๆ
    “นาระชอบพี่ค่ะ” เขาฟังคำนั้นนิ่งอึ้ง นี่ไม่ใช่คำที่เขาต้องการ แต่อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาพยายามใช้สายตาบอกความหมายเป็นนัย ขอร้องเถอะนาระ ขอร้อง เขาคิด
    “ชอบจน...เอ่อ นาระคิดว่า นาระ...รักพี่ค่ะ”ทันทีที่คำว่ารักหลุดออกจากปาก แววตาที่เคยเศร้าหมอง กลับดูมีชีวิตชีวา ราวกลับมนต์สะกดถูกถอนไปจนสิ้น เขาโถมเข้ากอดเธอ
    “นาระ พี่ก็รักนาระ ....พี่รอคำนั้นมานานเหลือเกิน จนเกือบจะสายไปแล้ว” นาระรู้สึกงุนงงเมื่อพบว่า อาชิ ชายหนุ่มที่เธอรักไม่ได้เป็นใบ้
    “แต่ทำไม เมื่อก่อนนาระพยายามชวนพี่คุยแทบตาย แต่พี่กลับไม่ตอบนาระเลยล่ะ”
                \"จริงๆแล้วพี่ไม่มีชีวิตจิตใจ เพราะคำสั่งให้ต้องเป็นแบบนั้น ซึ่งพี่จะสามารถพูดได้ ก็ต่อเมื่อนาระบอกรักพี่เท่านั้น แต่พรุ่งนี้ทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น พี่คงต้องจากไปจริงๆ แต่พี่ให้สัญญาว่าพี่จะหาทางกลับมาหานาระให้ได้” ดวงตะวันค่อยๆ ทอแสงริมขอบฟ้า แสงสีทองลอดผ่านช่องของกระจกหน้าต่างเข้ามา ร่างของอาชิค่อยๆ จางลงๆ เรื่อย
    “พี่คะ พี่เป็นอะไร พี่จะไปไหน” นาระคร่ำครวญ น้ำตาหยดน้อยๆ ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง เธอกับเขาเพิ่งจะได้พูดคุยกัน แต่แล้วก็มีบางสิ่งบางอย่างมาพรากพวกเขาแยกจากกัน ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งฟ้าสว่างแค่ไหน ร่างของเขาก็ยิ่งจางลงเท่านั้น
    “พี่ไม่ไปไม่ได้เหรอ นาระจะอยู่ยังไง” น้ำเสียงที่เปล่งออกฟังไม่ได้ศัพท์ เนื่องจากถูกกลบด้วยเสียงสะอื้นไห้ของเธอ
    “นาระ ที่รักของพี่ เธอคงจำพี่ไม่ได้จริงๆ เธอจำเรื่องราวเก่าๆในอดีตไม่ได้ หากไม่เช่นนั้น เธอคงรู้วิธีที่จะทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน\" เขาพูดทิ้งท้ายเป็นปริศนา
                หลังจากที่อาชิพูดจบ ร่างของเขาก็เลือนหายไปกับตา เหลือเพียงไวโอลินสีดำคู่ใจของเขาเท่านั้น ที่ทิ้งไว้ให้เธอดูต่างหน้า คำพูดที่ว่าเธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้หมายความว่าไง นาระนอนคิดเรื่องนี้ทั้งวัน พยายามนึกทุกสิ่งทุกอย่าง พยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล  จนเธอเผลอหลับไป เสียงไวโอลินดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของนาระ เธอเคลิ้มไปกับมันสักพัก จู่ๆ เธอก็รู้สึกตัว ไวโอลินสีดำที่ตอนนี้ถูกวางไว้บนเตียงที่เจ้าของเคยนอน แล้วความทรงจำเก่าๆ ก้อลอยเข้ามาในความคิดของเธอ
                --ภาพกามเทพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังบรรเลงเพลงไวโอลินด้วยกันในแดนแห่งความรัก ไวโอลินตัวหนึ่งสีขาว อีกตัวสีดำ เขาทั้งสองสัญญากันว่า ไม่ว่าชาติภพใด ก็ขอเกิดมาเพื่อรักกัน--เธอนึกขึ้นได้เรื่อยๆ--วันหนึ่ง กามเทพหนุ่มต้องพรากจากหญิงสาวที่รักไป เขาให้สัญญาว่า เขาจะกลับมาอยู่กับเธอเมื่อเธอต้องการ เพียงแค่เธอเล่นไวโอลินของเธอเท่านั้น เขาจะรีบมาหาทันที--วันหนึ่งกามเทพหญิง ทำผิดกฎ จึงถูกส่งลงมาเกิดบนโลกมนุษย์เพื่อรับโทษ และเมื่อใดที่เธอจำเรื่องราวในอดีตได้ เธอก็สามารถกลับขึ้นไปบนแดนแห่งความรักได้อีกครั้ง--
                นาระจำได้แล้ว เธอจำเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว ไวโอลินสีขาวนั่น ตัวที่อยู่ในห้องนอนของเธอ ของขวัญวันเกิดที่พ่อของเธอมอบให้เมื่อตอนที่เธอหัดเรียนไวโอลิน เธอค่อยๆ เปิดกล่องไวโอลินออก ไวโอลินสีขาวส่องประกายเงาวับเมื่อต้องกับแสงแดด นาระหลับตาลง เริ่มบรรเลงบทเพลงที่อาชิเคยเล่นให้ฟัง บรรยากาศรอบๆตัวตอนนี้ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแปลง จากน้องนอนสีขาว กลับกลายเป็นโถงกว้าง เพดานยกสูงจนมองไม่เห็นหลังคา เสาสีทองตั้งตระหง่านอยู่ทุกมุมห้อง หลังจากเพลงจบ เธอค่อยๆลืมตา เบื้องหน้าเธอ คือชายหนุ่มที่เธอรักและรักเธอ   
            “อาชิ...ที่รักของฉัน ในที่สุดเราก็ได้มาอยู่ด้วยกัน” เธอโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาพร้อมรอยยิ้มทั้งน้ำตา และทุกๆ ครั้งที่ทั้งสองบรรเลงบทเพลงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้นานพันธุ์บนโลกมนุษย์ก็จะค่อยๆ ผลิบานไปพร้อมๆกันด้วย.......
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น