ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปฏิบัติการซ่า ตามหาอาร์ตติส

    ลำดับตอนที่ #5 : งานชิ้นใหม่[ที่ไม่เต็มใจ]

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 49


    งานชิ้นใหม่[ที่ไม่เต็มใจ]

            เช้านี้มันเซ็งมากเลย  ผมรู้สึกถึงลางไม่ดี เหมือนว่าลางสังหรณ์ของรัตติจะดีจริงๆ เพราะมันเป็นแบบนี้ทุกวันวาเลนไทน์   ปีที่แล้วรัตติกลับบ้านเหมือนร้านขนมเดินได้ เพราะเขามีช็อกโกแล็ตทุกรส ทุกกลิ่น ทุกยี่ห้อ หอบอยู่ในอ้อมแขน  ไม่รู้ว่าปีนี้เด็กสาวพวกนี้จะฮิตอะไร  เพราะนั่นหมายถึงเขาต้องหอบมันกลับบ้าน   ขออย่าเป็นอะไรที่แย่เลย  บางที...มันอาจจะเป็นช็อกโกแล็ตเหมือนปีที่แล้ว

                รัตติยังคงนั่งรำพึงรำพันอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่  จนปรากฏร่างของใครคนหนึ่งเดินผ่านมา

                "นี่ยังมีคนมาเช้าเท่าเราอีกหรอเนี่ย" เขาพึมพำ ขณะที่เด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้าประตูโรงเรียนมา ด้วยลักษณะทางกายภาพที่กำลังได้เปรียบเพราะมองเห็นฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจนโดยทางนั้นไม่รู้ รัตติจึงจ้องมองเด็กสาวคนนั้นอย่างไม่วางตา

                หน้าไม่เห็นคุ้นเลย ถ้าเป็นคนที่มาเช้า เขาก็ต้องเห็นทุกวันนี่นา  สิ่งที่สะดุดตาคือ เด็กสาวคนนั้นหอบของมาพะรุงพะรัง  นอกจากกระเป๋าเป้แล้ว ยังมีถุงผ้าดิบสีขาวใบใหญ่  ถุงพลาสติกใส ใส่ปึกกระดาษขนาดโปสการ์ดจำนวนมาก และปึกกระดาษ A4 สีสันสดใส ในอ้อมแขน  ยัง!! ยังไม่พอ ยังมีกระดาษสมุดวาดเขียนขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งโผล่พ้นออกมาจากเป้ที่หลัง  และม้วนกระดาษร้อยปอนด์ แผ่นใหญ่ อยู่ในอ้อมแขนอีกข้าง

                เอามาทำอะไรวะ นั่นคือความคิดแรกที่เข้ามาในหัวผม ดูจากผมสีดำยุ่งเหยิง ที่ถักเป็นเปียอย่างลวกๆ และท่าเดินเหมือนคนอดนอน  ยัยเพิ้งนี่มาอยู่ในโรงเรียนเราได้ยังไงเนี่ย  แต่...

                เฮ้ย!!  ทั้งๆที่เดินเข้ามาคนเดียว ในพื้นที่โล่งแจ้ง แต่เงานั่น!! ไม่ได้มีเพียงเงาโซเซของเด็กสาวคนนั้น  กลับมีเงาร่างสูงโปร่งทอดยาวไปยังพื้นด้านหลังเคียงข้างกับเงาของยัยเพิ้ง แล้วเจ้าของเงา!?   

    ใครจะบอกผมว่าแสงเข้าสองทาง เงาจึงแยกเป็นสอง จะบ้าเรอะ โลกเรามีดวงอาทิตย์สองดวงรึไง  และตรงนั้น ก็มีคน...แค่คนเดียว

                ผมขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำอีก  แต่ก็ยังคงเห็นเหมือนเดิม และก่อนที่สมองจะประมวลผล ร่างกายผมก็ไปซะแล้ว

                รัตติลุกจากเก้าอี้ แล้ววิ่งตรงไปกระชากแขนเด็กสาวคนนั้นทันที  

                "นี่เธอ.."  เด็กสาวคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่าง งง งวย  ทันทีที่เห็นหน้าเขา ตาของเธอก็เบิกกว้าง แล้วกระดาษในอ้อมแขนของเธอก็ตกลงกระจาย

                เฮ้ย!!! เงานั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงเงาของยัยเพิ้งที่กำลังก้มลงเก็บกระดาษอย่างเงอะๆ งะๆ หรือว่าจะเป็นภาพลวงตาที่เกิดจากการสะท้อนของเงาแดดแบบในทะเลทราย!?

                "ขอโทษค่ะ" เธอสังเสียงเหมือนแมวเจ็บคอออกมา  ท่าทางเหมอๆ เหมือนคนไม่มีสติ แต่แล้วก็นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น สายตามองตรงไปข้างหน้า ยัยนี่กำลังหลับใน =_= ^

                "นี่เธอ" เขาสะกิดทำให้ เด็กสาวสะดุ้งแล้วลืมตาขึ้นมา  พอเห็นหน้าเขาเธอก็รีบก้มหน้าก้มตาเก็บกระดาษต่ออย่างรวดเร็ว  รัตติจึงตัดสินใจนั่งลงช่วยเธอเก็บ เขารวบรวมพู่กันหลากหลายขนาด  ขวดสีมากมาย และดินสอขนาดต่างๆ ใส่ถุงผ้าดิบของเธอซึ่งตกอยู่ข้างๆ ยัยนี่เป็นจิตรกรหรอเนี่ย  ท่าทางไม่ให้เลย  พอเรียบร้อยเขาจึงหันไปช่วยเธอเก็บกระดาษที่ปลิวว่อน แต่นั่น ให้ตายเถอะ!?...


     

                ผมสะดุ้ง  รู้สึกถึงบรรยากาศเย็นเยียบนี่ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย  เสียงต่างๆเริ่มเข้ามาในโสตประสาท 

                "เธอทำเขา เธอทำเขาเกือบตาย  ขาดออกซิเจนเชียวนะ  ถ้าเขาเป็นอะไรไปล่ะ" เสียงนั่น รุ่นน้องของผมที่ชื่อไพชน..

                "ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่ คนมันเลือดขึ้นหน้าอ่ะ ใครใช้ให้กวนประสาทฉันล่ะ" เสียงงอนๆ ของเด็กสาวคนหนึ่งเถียงขึ้น

                "นี่ใคร นี่ใคร นี่พี่รัตตินะ  เธอรู้มั๊ยว่าเขายิ่งใหญ่แค่ไหน เราลำบากกันหมดแน่"

                "ใหญ่แค่ไหนล่ะ ก็คนเหมือนฉันนี่แหล่ะ ไหนนายบอกไม่สน ว่าพ่อเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่พ่อนายทำงานอยู่ไง แล้วแคร์ทำไ..."

                "มันคนละเรื่องกันนะ ญา"

                "ยังไงฉันก็ผิดใช่มั๊ยล่ะ ไพชนนายเป็นเพื่อนฉันรึเปล่า" ผมทนฟังสองคนนี้ทะเลาะกันเรื่องผมไม่ไหว จึงค่อยๆลืมตาขึ้น

                "เฮ้ยๆ พี่รัตติฟื้นแล้ว" ไพชนเอ่ยขึ้นทันที  ผมมองรอบตัวช้าๆ ที่นี่ ห้องพยาบาล

                "พี่เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ" ไพชนรีบวิ่งมาดูทันที

                "ไม่ล่ะ" ผมมองไปที่มุมห้องเห็น ยัยเพิ้งเมื่อเช้า หรือยัยบ้าที่บีบคอผม หรือสาวอารมณ์ร้าย หรือยัยขี้เซา หรือก็คือปรีชญานั่นแหล่ะ  ยืนกอดออก มองผมด้วยสายตาเย็นชา

                "ขอโทษ.." เธอพูดออกมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงแกมประชด ผมนึกถึงเหตุการณ์ก่อนที่จะหมดสติไป   ทั้งๆที่ เมื่อเช้าผมเจอเธอไปรอบถึงแล้ว  หลักฐานก็ยืนยันนอนยันอยู่ ผมตามหาเธอทั่วทั้งโรงเรียน ถึงขั้นไปขอดูทะเบียนนักเรียนกับประธานนักเรียนเลยจนหาเธอเจอในที่สุด   แต่เธอก็ไม่ยอมรับว่าเธอวาดรูปผม  อย่างนี้ต้องเรียกว่าผู้ร้ายปากแข็ง  แต่ไม่นึกเลย ว่าจะเป็นคนเดียวกับเจ้าของภาพเมื่อปีที่แล้ว  อีกอย่าง ผู้หญิงอะไรแรงเยอะชะมัด ตัวก็นิดเดียว  เล่นเอานักกีฬาอย่างผมลมจับเลยหรอเนี่ย

                "เน่..ก็บอกว่าขอโทษไง! ไม่พอใจรึไง" ปรีชญาพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแข็ง

    กร้าว

                "อยากให้ฉันยกโทษให้รึไง"

                "งั้นฉันจะขอโทษทำพระแสงอะไรล่ะ นี่เห็นแก่พ่อไอ้ไพชนมันนะ ชิส์" เธอเบะปากแล้วหันหน้าไปอีกทาง ยัยเพิ้งเอ๊ย

                "งั้นทำอะไรอย่างสิ"

                "เห๊อะ เรื่องอะไร" พอเธอทำท่าจะเดินออกไป ไพชนก็รีบวิ่งไปดึงเธอไว้ทันที

                "เอาเหอะน่าญา คงไม่เกินความสามารถเธอหรอก ใช่มั๊ยครับ" ตอนท้ายไพชนหันมาถามรัตติ

                "อืม...ฉันจะขอให้เธอ  ..ช่วยวาดรูปให้หน่อย" ผมพูดออกมาช้า

                "ห๊ะ ฉันเนี่ยนะ  นายไม่กลัวฉันวาดปิศาจโลกที่สามให้รึไง"  เจ้าคิดเจ้าแค้นซะด้วย  =_=^

                "ไถ่โทษไง"

    "ญา...น๊า แกทำเพื่อฉ้าน" ไพชนทำเสียงน่าถีบแบบนี้ได้ไงเนี่ย

    "เออ  แล้วจะให้วาดอะไรล่ะ ปิศาจมั๊ย" เอาอีกละ

    "วาด...รูปเหมือน  ของฉันน่ะ"

    "เฮ้ย! เอาไปทำไมอีกอ่ะ  ที่แฟนคลับนายจ้างฉันวาดตั้งมากมายนั่น  มือฉันก็จะหงิกอยู่แล้วนะ  ฉันแทบจะหลับตาวาดได้อยู่แล้ว  นายจะเอาไปทำไมอีก"

    "ทำรึไม่ทำ อย่าลืมนะ ว่าเธอพยายามฆ่าฉัน" ผมเลี่ยงที่จะบอกเหตุผล

    " T^T " 

    เหตุผลน่ะเหรอ ไม่รู้สิ วันนี้ผมเพี้ยนๆน่ะ เชื่อมั๊ยตอนพวกแฟนคลับแห่เอาภาพเหมือนที่เธอวาดมาให้ผม   ผมคิดว่าผมเห็นบางรูปยักคิ้วให้ผมด้วย แต่พอมองอีกที่ก็ไม่มีอะไร  พระเจ้าผมควรจะไปให้จิตแพทย์ได้แล้วใช่มั๊ย   แล้วยังเงาเมื่อเช้า  ทุกอย่างมันเกี่ยวกับเธอทั้งหมด มันคือะไรกันแน่?   แล้วยังสายตานั่นที่เธอมองผม   ผมรู้สึกว่านั่นไม่ใช่ตัวตนของเธอ  ฉันจะต้องรู้จักตัวตนจริงๆ ของเธอให้ได้...ปรีชญา!!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×