คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : >>> Passion attractive
คาบเรียนวิชาประวัติศาสตร์เวทมนต์จบลงอย่างสวยงาม กับอาการหลับเป็นตายของนักเรียนพ่อมดน้อยหอองค์ชายพระอาทิตย์
“ฮันคยอง นายกลับหอไปก่อนนะเดี๋ยวชั้นมา” ชีวอนบอกเพื่อนรัก
“นายจะไปไหนเหรอ”
“ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาเรียกชั้นพบหนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร”
“อืม ไว้เจอกัน”
“โอเค”
ชีวอนเดินแยกออกมาจากเพื่อนๆที่ทยอยกันเดินออกมา ชีวอนรู้ดีว่าอาจารย์เรียกเขาไปคุยเรื่องตัวแทน อีทึกเป็นตัวแทนของหอองค์ชายพระอาทิตย์ ฉะนั้นเขาเองต้องรับหน้าที่คอยฝึกให้
“ไง” เสียงนึงดังขึ้นอย่างกวนอารมณ์ พ่อมดหนุ่มเชื้อสายเทพหันไปมองตามเสียง และก็พบพ่อมดหนุ่มอีกคนที่ผิวขาวสะอาดราวหิมะหน้าตาคมเข้มราวกับรูปปั้น ดวงตาสุกประกายวาบด้วยพลังอำนาจกับเส้นผมที่น้ำตาลเข้ม ชุดคลุมดำขลิบแดงทำให้รู้ว่าเป็นเด็กของหอเทพเจ้าฝั่งตะวันออก
“นายมีอะไร” ชีวอนหันไปพูดตอบ
“เปล่าหรอก แต่ชั้นได้ข่าวมาว่าหอของนายส่งตัวแทนเป็นไอ้คนปัญญาอ่อนมาเหรอไง” พ่อมดยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก
“นายพูดดีๆนะ ใครที่ปัญญาอ่อนอีทึกเป็นเพื่อนชั้น”
“เพื่อนนายงั้นเหรอ 5555+ คิดไงจะส่งหมอนั่นมาตาย”
“แล้วนายรู้ได้ไงว่าเขาจะต้องตาย ในเมื่อคนที่ตายอาจเป็นตัวนายเอง”
“5555555+ ไม่มีทางใครๆก็รู้ว่าหมอนั่นมีระดับความสามารถแค่ไหน ไม่ต้องถึงคนระดับอย่างชั้น เอาแค่รยูตัวแทนจากป้อมอัศวินก็ล้มหมอนั่นได้ง่ายๆแล้ว”
“งั้นเหรอ แล้วชั้นจะคอยดูว่าใครกันแน่จะเป็นฝ่ายล้ม”
ชีวอนหันหลังเดินกลับไป แต่ก่อนที่จะกลับไป อีกฝ่ายก็ตะโกนตามหลังไปว่า
“ถ้านายไม่อยากเดือดร้อนอย่ามายุ่งกับคนของชั้น”
คนของนาย??? เหรอชีวอนคิดในใจ หึหึ แล้วถ้าชั้นจะยุ่งละใครจะทำไม หวงก้างซะขนาดนี้มันน่าจะแหย่ให้เข็ดหลาบซะบ้าง
ชีวอนเดินมาเรื่อยๆตามระเบียงทางเดิน เขาเข้าพบอาจารย์ประจำวิชาที่ฝากฝังให้เขาช่วยดูแลอีทึกมากเป็นพิเศษเพราะอาจารย์ต่างไม่มั่นใจในฝีมือ ชีวอนรับปากอย่างดี
ช่วงเวลาเย็นหลังเลิกเรียน ปราสาทเอสเอ็มทาวน์ค่อนข้างจะมีพ่อมดบางตา ป่านนี้พวกเพื่อนๆคงรวมตัวกันอยู่ที่ห้องอาหารกันหมดแล้ว
โครมมมมมม!!!!! เสียงดังเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่งใกล้ๆนี้
“เพื่อนแกคิดว่าเจ๋งมากนักเหรอไง” เสียงใหญ่ตะโกนลั่น
“ชั้นไม่ยอมพวกนายหรอกน่า เอาสิมาสู้กันตัวต่อตัวเลย”
“เฮอะไอ้พ่อมดหน้าหวาน หัดดูตัวเองซะบ้าง วันนี้พวกชั้นจะสั่งสอนแกเอง”
นักเรียนชายพ่อมดสามคนยืนล้อมแจจุงอยู่ คนนึงตรึงคอเสื้อของเขาไว้ติดกำแพง อีกคนกำลังตั้งท่าและเล็งไม่กายสิทธิ์มาที่เขา
“เอนกอจิเอร่า” คาถาถูกเสกและพุ่งออกไปจากไม้กายสิทธิ์ตรงไปหาพ่อมดแจจุง
“ฟิออนี เซมิเนร่า” คาถาจากไม้กายสิทธิ์ของชีวอนถูกปล่อยไปปะทะกับไม้กายสิทธิ์ของพ่อมดคนนั้น พลังของชีวอนเหนือกว่าทำเอาไม้กายสิทธิ์ของอีกฝ่ายหักแหลกเป็นผงลงกับพื้น
“แกยุ่งอะไร” พวกมันแผดเสียง
“นี่เพื่อนชั้น”
“อย่ามาเสือกได้ไหม ถ้าไม่อยากซวย”
“ซวยเหรอ ใครกันแน่ที่จะซวย” สามคนนั้นเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงรีบเดินหนีไป
แจจุงทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
“พวกมันทำอะไรนายเหรอ” คนตัวสูงเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าลงข้างๆและเอ่ยถาม
“เปล่าพวกมันแค่มาขู่เฉยๆ”
“ขู่ แล้วทำไมนายไม่ใช้พลังจิตบอกเพื่อนนายละ”
“พวกเขาปิดพลังจิต ยุนโฮ ชางมิน ยูชอน จุนซูไม่มีใครเปิดรับพลังจิตชั้นเลย อาจเป็นเพราะว่ามีพลังจิตที่แข่งแกร่งของใครสะกัดพลังจิตของชั้น”
“พวกมันขู่นายเรื่องอะไร”
“เรื่องยุนโฮ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาแหละ ชั้นมันดันอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม พวกนั้นไม่กล้าไปแหยมกับชางมินหรือยุนโฮตรงๆหรอก แม้แต่จุนซูกับยูชอนก็ยังหน้ากลัวเลย”
“แต่นายก็เก่งหนิ”
“เก่งแต่เก่งน้อยที่สุด ก็โดนรังแกง่ายที่สุดไงละ” แจจุงเงยหน้าขึ้นยิ้มบางก่อนที่เปลือกตาจะปิดสนิทหมดสติไป ณ ที่นั้น
“แจจุงๆ” ชีวอนเขย่าร่างที่ไร้สติก่อนจะรีบช้อนร่างนั้นขึ้นในอ้อมแขนและรีบเดินตรงไปยังห้องพยาบาล มาดามสเตฟานี่ กำลังง่วนอยู่กับการพยาบาลเด็กปี 2 ที่พลัดตกจากไม้กวาด
“ศาสตราจารย์ครับเพื่อนผมหมดสติ”
“งั้นเหรอ พาไปวางไว้ที่เตียง”
ชีวอนอุ้มร่างของแจจุงเข้าไปไว้ในเตียงในสุด
“นี่ชั้นจะบอกว่าตอนนี้ชั้นไม่ว่าง นายพยาบาลเพื่อนของนายเองไปก่อนนะ”
“พยาบาล???”
“ใช่ นั่นผ้า นี่อ่างน้ำเอาผ้าชุบน้ำชุดหน้ากับลำตัวเช่นตรงหน้าอกและต้นแขน เสร็จแล้วก็เอายานี่ให้เพื่อนของเธอสูดหายใจเข้าไปแล้วอาการจะดีขึ้น”
“ครับ” พ่อมดหนุ่มรับคำ ทำไมมือของเขาถึงได้สั่นแบบนี้นะ สายตาของชีวอนมองจรดไปยังใบหน้าของร่างบางที่นอนไร้เรี่ยวแรง มาดามสเตฟานี่เดินออกไปแล้ว เหลือเพียงขากับแจจุงเท่านั้นในห้องนี้ มือเรียวหยิบผ้าชุบน้ำขึ้นมาบรรจงเช็ดลงไปบนใบหน้าสวยหวานราวนางฟ้า มือเลื่นไปปลดเสื้อคลุมออก เสื้อตัวในสีขาว ชีวอนปลดกระดุมเผยให้เห็นหน้าอกสีขาวสะอาดและสิ่งนึงที่เป็นสีชมพูสะดุดตา
ใจของร่างสูงเต้นไม่เป็นส่ำขณะที่จรดผ้าชุบน้ำค่อยๆไล้เช็ดไปตามผิวนวลนั้น ร่างกายนี้ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน หน้าอกและหน้าท้อง ไม่ชีวอนนายไม่ต้องเช็ดลงไปถึงขนาดนั้น แต่ช้าไปแล้วอารมณ์ของร่างสูงอยากรู้อยากเห็นจนเกินห้ามใจ เสื้อผ้าของแจจุงถูกถอดออกมากองไว้ ปล่อยให้ชีวอนใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามใจชอบ ทุกซอกทุกมุมที่เขาต้องการ
ผิวขาวนวลทุกอณูกับกลิ่นกายอ่อนๆของแจจุง ทำให้ชวนหลงใหลและน่าสัมผัส ตอนนี้ไม่มีส่วนใดที่โดนปกปิด เจตนาของร่างสูงที่ตั้งใจจะปฐมพยาบาลแต่เคลือบแฝงไปด้วยอารมณ์ธรรมชาติที่โหยหาและต้องการมองชมสิ่งสวยงาม
มือเรียวลูบไล้ยังท้องน้อยที่เรียบเนียน ส่วนนั้นที่ยังคงนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ร่างสูงจับจ้องที่ใบหน้าของร่างบางเบื้องหน้า รริมฝีปากที่อิ่มแดงประดุจดอกกุหลาบในฤดูหนาว ช่างเชิญชวนเย้ายวนให้น่าสัมผัสเหลือเกิน ใบหน้าของร่างสูงเลื่อนเข้าไปใกล้ร่างบางทุกทีและจนกระทั่ง
ความหอมหวานที่ได้สัมผัสช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะลืมเลือน ความหวานและความอ่อนนุ่มซึมแทรกผ่านเข้าไป สายเลือดเทพของชีวอนที่บัดนี้สูบฉีดด้วยอารมณ์รุนแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ชั้นอยากจะทำมากกว่านี้จังเลย ชีวอนคิดในใจแต่ก็ต้องห้ามใจไว้ก่อน เขาถอนริมฝีปากออกมาและจ้องมองร่างกายนั้นด้วยอารมณ์โหยหาก่อนจะเริ่มปฐมพยาบาลแจจุงต่อรวมถึงใส่เสื้อผ้าให้ร่างบางจนเรียบร้อย
“อืม..........อ่า” แจจุงเริ่มได้สติรู้สึกตัว
“นายฟื้นแล้วเหรอ” ร่างสูงส่งยิ้มถามอย่างสุภาพ
“นายช่วยชั้นไว้เหรอ”
“นายเป็นยังไงบ้าง”
“รู้สึกดีขึ้นแล้ว”
“แจจุง”
“หือ”
“วันหลังถ้านายโดนรังแกอีก แล้วส่งกระแสจิตบอกเพื่อนนายไม่ได้ ให้นายส่งหาชั้นก็ได้นะ ชั้นจะมาช่วยนายเอง”
“นายมีพลังจิตด้วยเหรอ”
“ก็นิดหน่อย อย่างน้อยก็พอรู้ถ้านายอยากจะขอความช่วยเหลือ”
“อื้มได้ ขอบคุณมากๆนะชีวอน ถ้าไม่ได้นายชั้นคงแย่ไปแล้ว”
หอนอนองค์ชายพระอาทิตย์เต็มไปด้วยนักเรียนพ่อมดลิง อีทึกที่กำลังเครียดอยู่กับการได้เป็นตัวแทนไปประลอง วันนี้อาจารยืใหญ่ ศาสตราจารย์ลีซูมานได้ประกาศวันแข่งขันก็คือวันที่ 3 มกราคม หลังจากหยุดพักผ่อนวันคริสมาตร์ที่ใกล้จะถึงในอีกไม่นานนี้
“อีทึกนายเป็นอะไรหรือเปล่า” พ่อมดเฮที่สังเกตได้ถึงอาการผิดปกติของเพื่อนถามขึ้น
“เปล่าหรอก” อีทึกยิ้มบาง
“จะเปล่าได้ยังไง” พ่อมดเฮพูดต่อ “นายเครียดเรื่องที่นายต้องเป็นตัวแทนไปประลองใช่ไหม”
“ก็ใช่”
“ไม่เอาน่าอีทึก” พ่อมดเฮนั่งลงและสวมกอดเพื่อนรักเอาไว้ ฮยอกแจไม่ว่าอะไรหรอกถ้าจะเห็นดงเฮสวมกอดกับคนอย่างอีทึก “ยังไงพวกเราก็ไม่ทิ้งนายหรอก พวกเราจะช่วยนายเอง”
“แค่พวกนายเป็นกำลังใจก็พอแล้ว”
“พวกเรารักนายนะอีทึกยังไงเราก็ไม่ปล่อยให้นายเป็นอะไรหรอก”
ในคืนนั้นขณะที่บรรดาพ่อมดน้อยหลับใหลกัน แน่ละมันต้องมีการสลับห้องนอน โดยที่พ่อมดน้อยโดนจัดรูมเมทให้ไม่ถูกคู่เอาเสียเลย เริ่มจากพ่อมดคยูฮยอนที่ถูกจัดเป็นรูมเมทกับพ่อมดอีทึก
พ่อมดซองมินกับพ่อมดคิบอม
พ่อมดเซซองกับพ่อมดชินดง
พ่อมดรยออุคกับพ่อมดชินดง
พ่อมดชีวอนกับพ่อมดดงเฮ
พ่อมดฮันคยองกับพ่อมดฮยอกแจ
ดูสิใครกันนะช่างจัดออกมาได้สลับคู่จนน่าปวดหัวแบบนี้ และทุกคืนก็ต้องมีการสลับห้องนอน แต่มาวันนี้............................
“คิบอมถ้าคยูฮยอนขอสลับห้องกับนายไม่ต้องยอมนะ” พ่อมดมินพูดด้วยใบหน้บึ้งตึงขณะที่นั่งจังก้าอยู่บนเตียงสีชมพู
“อืมก็ดีชั้นจะได้ไม่ต้องย้ายห้อง”
อืมดีคยูกับซองมินทะเลาะกันทีไรเป็นอย่างนี้ทุกทีเลย
“ดงเฮนายจะไปไหน” พ่อมดฮยอกแจเอ่ยถามร่างบางที่ลุกขึ้นจากเตียงนอนที่ทั้งสองนอนกอดกันอยู่อย่างอบอุ่น
“ชั้นนอนไม่หลับ” พ่อมดเฮตอบ “ชั้นขอออกไปเดินเล่นซักแปปนึงจะได้ไหม”
“แต่ข้างนอกมันหนาวนะ ร่างสูงใช้วงแขนรวบร่างบางเอาไว้ ไม่ให้ไปเดี๋ยวนายไม่สบาย”
“ฮยอกแจแปปเดียวเอง”
“ไม่เอาดงเฮนายไม่สบายง่ายอยู่ ไม่ให้ไป” ฮยอกแจงอแงเหมือนเด็กน้อย
“แปปเดียวเองนายนอนไปก่อนเถอะเดี๋ยวชั้นมา”
เมื่อดงเฮดื้อดังนั้นแล้วฮยอกแจก็ไม่รู้จะพูดยังไงนอกจากปล่อยให้คนรักเดินออกไป ห้องนั่งเล่นรวมของหอองค์ชายพระอาทิตย์เงียบสงัดมีเพียงไฟจากเตาผิงที่คุกรุ่นอยู่ พ่อมดเฮกระชับเสื้อคลุมกันหนาวและเดินลงบันไดเวียนไป
ใครคนนึงกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพลังจิตขึ้นสูงอยู่
“อ้าวคิบอมนายยังไม่นอนอีกเหรอ” พ่อมดเฮทักทายเสียงใส
“อืมยัง” คิบอมเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“นี่มันดึกแล้วน้า นายจะขยันไปไหนของนาย”
“ชั้นนอนไม่หลับหรอก ซองมินทะเลาะกับคยูฮยอนเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายน่ารำคาญเป็นบ้า”
“555+ งั้นเหรอ แต่ช่างถเอะเดี๋ยวสองคนนี้ก็ดีกันเองแหละ”
“ว่าแต่นายละดงเฮทำไมถึงยังไม่นอนอีก ฮยอกแจละไม่มาด้วยเหรอ”
“ไม่ละชั้นนอนไม่หลับ อากาศมันเริ่มหนาวแล้วเพราะช่วงนี้หิมะตก ชั้นจะไม่ค่อยสบายนอนลำบาก” ดงเฮตอบยิ้มๆ
“มานายมานั่งตรงที่ชั้นนี่ มันใกล้เตาผิงจะได้อุ่นๆ” คิบอมขยับลุกขึ้นให้ดงเฮเข้าไปนั่งแทนที่
“ขอบคุณมากนะ คิบอม”
“หือ”
“ปีหน้าเราก็ต้องย้ายไปเรียนที่มหาลัยพ่อมดแล้ว นายคิดหรือยังว่าจะเรียนอะไร”
“5555+ ชั้นเหรอ คงจะเรียนพลังจิตละมั้ง นายละ”
“ชั้นอยากเรียนหมอ เพราะร่างกายชั้นไม่ค่อยสบาย ชั้นเลยอยากจะเรียนจะได้รักษาตัวได้”
“เอาสิ นายก็พยายาม”
“คงไม่ไหวหรอกชั้นเรียนไม่เก่งเท่าไหร่”
“แต่นายก็มีฮยอกแจคอยดูแลยังไงก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว”
“แต่ชั้นก็อยากแข็งแรงนี่นา จะได้อยู่กับฮยอกแจได้นานๆ ทุกวันนี้ฮยอกแจจะต้องเป็นห่วงและก็กังวลเรื่องสุขภาพของชั้นมาก”
“ชั้นเห็นอยู่หมอนั่นหวงนายมากเลยละ”
“คิบอมแล้วนายละ เป็นห่วงใครกับเขาบ้างไหม”
คำถามของพ่อมดเฮสะกิดหัวใจที่ด้านชาของคิบอม “ก็มีสิพื่อนๆไง ชั้นเป็นห่วงเพื่อนๆทุกคน”
“ดีเนอะ เป็นห่วงเพื่อนๆทุกคน นายอย่าลืมห่วงตัวนายเองละ หัดยิ้มซะบ้างหน้าตาจะได้ดูดี ความจริงนายก็เป็นคนที่หล่อมาก ถ้านายยิ้มซักหน่อยชั้นคงกล้าพูดกับนายมากกว่านี้”
พ่อมดคิบอมเงยหน้าขึ้นไปมองพ่อมดเฮ ความอ่อนโยนจริงใจคือนิสัยของพ่อมดเฮ
“ชั้นไปละเดี๋ยวฮยอกลงมาตาม ชั้นรู้สึกคิดถึงฮยอกแจแล้วละเราห่างกันแค่ 5 นาทีชั้นก็เหมือนตัวชั้นขาดอะไรไปแล้ว”
ดงเฮลุกขึ้นยืนและส่งยิ้มให้คิบอมอีกรอบก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดเวียนไปทิ้งให้พ่อมดคิบอมเกิดความรู้สึกดีๆอยู่ในใจ
ความคิดเห็น