ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~My love is Destiny~ รักสุดใจของนายทะเล้น

    ลำดับตอนที่ #4 : ~ ก็เพราะว่าโลกใบนี้ มีรักของเธอใช่ไหม ??? ~ ^เหอๆ แอบเน่าแฮะ^

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 49


    เย็นของอีกวันหนึ่งหลังเลิกเรียน คิมจินซองไม่ได้มารอรับฟ้าหน้าโรงเรียนเหมือนเมื่อวาน ส่วนวันนี้เธอเองต้องนั่งตอบคำถามเพื่อนๆถึงชายหนุ่มที่มารับเธอเมื่อวานนี้ทั้งวันโดยที่เพื่อนๆหาว่าเธอมีแฟนแล้วไม่ยอมบอก  

    "นี่ยัยฟ้ามีแฟนแล้วไม่บอกเลยนะ" รินซี่ต่อว่าขึ้น


    "อะไรกัน ไม่มีนะ" ฟ้าแก้ตัว

    "อ้าวแล้วเมื่อวานนี้ละ โอ้วเจ้าข้าเอ้ย ยัยฟ้าเราขายออกแล้ว" วีนาเพื่อนอีกคนตะโกนดังทั่วห้องเรียน

    ฟ้าได้แต่นั่งหน้าแดงก่ำเพราะความเขินอาย เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอเองก็ยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิต  หลังจากเลิกเรียนเธอรีบเก็บของเพื่อกลับบ้าน

     

    สวัสดีค่ะ  จินซองโผล่หน้าออกมาพร้อมทั้งยกมือไหว้เธอ  ฟ้าได้แต่ขำกลิ้งกับท่าทางแปลกของเขา ชินจู ขำอะไรเหรอ       จินซองถามด้วยความสงสัย

     

    นี่ นายคิดยังไงมาไหว้ฉันเนี่ย 

     

    อ้าวก็เห็น  ชินจูไหว้พระตอนเช้าเลยเอาบ้างไง  จินซองยังไม่เลิกเล่น

     

    นี่ นายไหว้อย่างนั้น ใช้ไม่ได้รู้ไหม แล้วอีกอย่างผู้ชายเขาไม่พูด สวัสดีค่ะหรอกนะ เค้าพูดว่า สวัสดีครับ จินซองทำหน้าทำตาสนใจฟังสิ่งที่เด็กสาวกำลังอธิบายอยู่

    ผมดูจากรูปในห้องนอนของชินจูอ่า  รูปนั้นนั่นเอง เธอได้รับรางวัลชนะเลิศประกวดมารยาทงามของโรงเรียนเลยมีรูปเธอกำลังยืนไหว้อยู่

     

    ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวผมจะฝึกต่อไปเรื่อยๆ คอยดูนะชินจู ผมจะไหว้ให้สวยเหมือนชินจู  จินซองพูดจบก็ไม่สนใจอะไรเอาแต่นั่งไหว้ยืนไหว้ ฝึกหัดตามแบบ โดยมีฟ้าหรือชินจูของเขา คอยนั่งดูและแนะนำวิธี   ขณะนี้จิตใจของเด็กสาวเบิกบานเสียเหลือเกิน  เพราะความน่ารักของคิมจินซอง ชายหนุ่มตรงหน้านั้นทำให้เธอยิ้มได้อย่างมีความสุข

     

    นี่จินซองว่าแต่นายอายุเท่าไหร่เหรอ  เด็กสาวถามขึ้น  ชายหนุ่มยกนิ้วชี้ขึ้นมาหนึ่งครั้งแล้วก็ยกมือทั้งสองข้างชูนิ้วทั้งหมดแปดนิ้ว

     

    18 เหรอ อายุมากกว่าฉันตั้ง 3 ปีแนะ เด็กสาวที่ตอนนี้เธออายุ 15 ปี แต่จะ 16 ในปลายปีที่จะถึงนี้  งั้นฉันต้องเรียกจินซองว่าพี่รึเปล่า

     

    ไม่ต้องหรอก ผมก็ยังไม่ 18 ดีเลยครับ ตอนปลายปีโน่นแนะจะ 18 

     

     

    วันนี้เป็นวันเสาร์แล้ว  คิมจินซองตื่นแต่เช้ามานั่งรอชินจูของเขา วันนี้ฟ้าสัญญากับเขาว่าจะพาเขาไปเที่ยว  เด็กสาวเปิดประตูออกมา      เธออยู่ในชุดไปรเวทแบบสบายๆ  ในมือของเธอหอบหนังสืออยู่ สองสามเล่น

     

    ไปกันยาง ชินจู  คิมจินซองที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นเอามากๆกับการไปเที่ยวครั้งนี้ ชินจูจะพาผมไปไหนเหรอ

     

    ฉันกำลังจะถามนายว่า นายจะไปซื้อของใช้ส่วนตัวของนายไหม เพราะว่าเสื้อผ้าของนายๆ ก็ใส่วนอยู่แค่ 2 ชุดเท่านั้นเอง  คิมจินซองทำหน้าหน้าครุ่นคิดแล้วก็ตอบพยักหน้าตกลง เราไปขี่ จักรยานกันไหม ถ้านายอยากเที่ยว ฉันไม่มีเงินมากเท่าไหร่ แบบนี้สิประหยัดสุด

     

    ก็ได้ครับ แล้วแต่ชินจูเลย  ผมไปไหนก็ได้ที่มีชินจูไปด้วย   ฟ้าพาจินซองเดินออกมา  และเธอเองก็เพิ่งสังเกต จินซองทำมัยนายต้องใส่หมวกกับแว่นตากันแดดด้วยละ นี่ยังไม่ไม่แดดเลยนะ คิมจินซองที่ตอนนี้ ใส่แว่นกันแดดรวมถึงสวมหมวกปิดหน้าปิดตายังกับพวกดารา ไม่งั้นก็เป็นผู้ร้ายข้ามชาติยังไงยังงั้น

     

    อ๋อ ผมแพ้แดดเมืองไทยครับ ก็เลยต้องปิดหน้าปิดตา  ช่างเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นน้อยมาก แต่เด็กสาวก็ไม่ได้ติดใจอะไรเท่าไหร่  เธอนำชายหนุ่มเดินมายังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

     

    ชินจู ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมไม่ซื้อของแล้ว  คิมจินซองหันมาพูดกับเด็กสาว
     

    อ้าวทำมัยละ นายทนใส่ตัวเก่าของพี่ชายฉันต่อไปได้เหรอ เด็กสาวส่งสายตาถามเป็นเชิงว่านายแน่ใจแล้วเหรอ

    ครับ ไปเที่ยวกันดีกว่า ชายหนุ่มลากข้อมือของหญิงสาวออกมาจากบริเวณห้างสรรพสินค้าทันที ไปเที่ยวกันเถอะชินจู ไปกันนะๆเด็กสาวส่ายหน้าอย่างอ่อนใจพร้อมทั้ง เดินนำพาเด็กหนุ่มเข้าไปยังสวนสาธารณะ   เธอและคิมจินซองไปเลือกจักรยานยังร้านให้เช่ามาคนละคัน และเริ่มต้นขี่ออกไป

     

    ทำมัยต้องเช่า 2 คันด้วยหงะ    คิมจินซองพูดขึ้นขณะที่ทั้งสองกำลังขี่จักรยานอยู่

    อ้าว หรือว่านายจะเดินละ เด็กสาวพูดขำๆ

    ก็ไม่มีใครเดินทั้งนั้น เช่าคันเดียว ผมขี่แล้วชินจูก็ซ้อนไง ผมจะได้ไม่ต้องกังวลว่าชินจูจะหายไปไหนด้วย เด็กสาวเลือกหยุดรถบริเวณใต้ร่มไม่ที่แสนจะร่มรื่นแห่งหนึ่ง   เธอและจินซองเอาจักรยานมาจอดหลบไว้ข้างทาง ชินจูจะทำอะไรเหรอ จินซองชะโงกหน้ามาถาม

    ก็อ่านหนังสือไงละ ฉันจะสอบแล้ว ถ้าไม่เตรียมตัวเดี๋ยวสอบไม่ผ่าน

     

     

    เด็กสาวตั้งต้นนั่งลงอ่านหนังสือและเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เธอรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรหนักๆซบลงตรงไหล่ของเธอ

    นี่ จินซองนายทำอะไร ศรีษะของจินซองนั่นเองเขาซบลงตรงไหล่ของเธอและหลับไป ตื่นนะ จินซอง ตื่นมานอนดีๆสิ ฉันอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลย   ฉับพลันทันใดศรีษะของชายหนุ่มก็เปลี่ยนตำแหน่งมาหนุนนอนที่ตักของเธอแทน

    แบบนี้ ชินจูไม่ว่ากันนะ ว้าวสบายจังเลย จินซองตั้งต้นหลับต่อ ชินจูของเขาได้แต่มองการกระทำนั้นแต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรพร้อมทั้งตั้งต้นอ่านหนังสือต่อ
     

    ในอีกมุมหนึ่งที่ซึ่งลึกลับที่สุดไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ ชายชุดดำผู้หนึ่งได้แต่จ้องมองพฤติกรรมของฟ้าและคิมจินซองอยู่อย่างเงียบๆ  โดยที่ชายคนนั้นพยายามจ้องแล้วเก็บรายละเอียดของภาพเบื้องหน้าอยู่

     

     

    เมื่อยามบ่ายผ่านไปแล้ว จินซองตื่นเถอะกลับบ้านกัน นี่จะเย็นแล้วนะ  ชายหนุ่มค่อยๆลืมตา ความจริงแล้วเขายังไม่ได้หลับเลยด้วยซ้ำเพียงแต่อยากหาเรื่องอยู่ใกล้กับชินจูของเขาเท่านั้นเองชายหนุ่มลุกขึ้นยืน โอ้ย เด็กสาวล้มลง เธอชาบริเวณต้นขามากเพราะเกิดจากสาเหตุที่ว่าจินซองนอนตักเธออยู่หลายชั่วโมงอยู่

    ชินจูเป็นไรไป ลุกไม่ไหวเหรอ คิมจินซองนั่งยองๆลงกับพื้นและจับมือหญิงสาวมาพาดไว้บนไหล่ของตัวเอง

    นี่นายจะทำอะไรน่ะ จินซอง  ชายหนุ่มพาร่างของเด็กสาวขึ้นหลังไว้ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำชินจูตกพื้นเด็ดขาด

     

    นี่นาย  แล้วทำมัยต้องให้ฉันขี่หลังละ

     

    อ้าวก็ชินจู เจ็บขานี่นาเดินไม่ไหวหรอก ขี่หลังผมเถอะนะ รับรองปลอดภัย” 


    คิมจินซองยืนกรานว่าอย่างไรเสียก็จะไม่มีทางวางเธอลงเด็ดขาดให้เธอหลับไปได้เลยแล้วพอถึงบ้านแล้วจะปลุกขึ้นมาทำอาหารให้เขากิน    เด็กสาวที่ตอนนี้มองเห็นความน่ารักของชายหนุ่มแล้วได้แต่มีความสุขอยู่ภายในใจ

     

     

    4 วันผ่านไป นี่เป็นวันที่สามของการสอบปลายภาคของฟ้า เธอเองตั้งหน้าตั้งตาดูหนังสือแทบตาย โดยที่จินซองรับอาสาทำงานบ้านรวมถึงทำอาหารให้เธอกินเอง   ว่าไปแล้วการที่มี คิมจินซองมาอยู่ที่บ้านหลังนี้นั้นก็ถือเป็นเรื่องดีอยู่มากทีเดียว

     

     

    พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ฟ้า สอบเสร็จวันสุดท้ายแล้วก็เป็นวันที่ที่เธอสัญญาว่าจะไปเที่ยวกับจินซอง ก่อนที่เขาจะตัดสินกลับบ้านเกิดเมืองนอนของเขาที่ กรุงโซล ประเทศเกาหลี

     

    พรุ่งนี้ สอบเสร็จแล้ว จะรออยู่หน้าประตูนะครับ  คิมจินซองกล่าวขึ้นก่อนที่ เด็กสาวจะออกจากบ้านไป   เด็กสาวได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ   เมื่อเด็กสาวเดินทางไปไกลจนลับสายตาแล้ว  แววตาที่สดใสและเต็มไปด้วยความสุขเมื่อสักครู่นี้พลันเลือนหายไป   เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเป็นภาษาเกาหลี

     

    พวกคุณไปยืนทำอะไรตรงนั้น  ออกมาสิครับ  คิมจินซองกล่าวขึ้น

     

    ฉลาดนี่ครับคุณคิมจินซอง ที่รู้ว่าพวกเราอยู่นี่กับคุณด้วย  ชายชุดดำ 2 คน ก้าวออกมาจากพุ่มไม้ข้างบ้านของฟ้า พวกเราหาคุณซะแทบแย่  คุณกล้าทิ้งงานมาเชียวเหรอครับ

    "ผมเปล่าบอกนี่ครับ ว่าผมทิ้งงานมา ผมเห็นคุณตั้งแต่ 5 วันที่แล้ว ที่สวนสาธารณะ  พวกคุณจะตามผมมาทำมัย"

    "เฮอะ" หนึ่งในชายใส่ชุดดำสบถเป็นน้ำเสียงเย้ยหยัน

    ผมไม่อยากเชื่อว่าคุณไม่รู้เหตุผล  แต่ที่แน่ๆ คุณกำลังตกอยู่ในอันตราย

     

    อันตรายจากอะไรละครับ  ผมไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แล้วผมก็จะไม่ไปไหนด้วย  คิมจินซองย้ำเสียงเข้ม

     

     

    แต่เพื่อผลประโยชน์ของบริษัท และคำสั่งของแม่คุณ ผมจำเป็นต้องทำ ชายชุดดำผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้ มิฉะนั้น ผมจำเป็นต้องมีข้อต่อรอง

     

    ชายชุดดำสองคนนั้นย่างสามคุมเข้ามาหาชายหนุ่ม   แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ถอยห่างหรือขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

    เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันแต่ไม่ใช่ที่นี่  คิมจินซองเดินนำหน้าออกไป ชายชุดดำสองคนนั้นจึงเดินตามหลังเขาไปในทันที

     

     

    เย็นวันนั้นหลังโรงเรียนเลิก

     

    นี่ฟ้า วันนี้แฟนเธอจะมารับมั้ย  เสียงของเพื่อนๆแซวขึ้น

     

    แฟนเฟิน อะไรไม่มีซะหน่อย

     

    ก็อีตาคนนั้นไง  แต่ว่านะฉันยังไม่เห็นเขาเวลาถอดหมวกถอดแว่นเลย หล่อรึเปล่าอะฟ้า  เพื่อนๆ ของเธอยังถามขึ้นต่อ

     

    ฉันไปละ พวกเธอนี่ไร้สาระกันจังเลย ฟ้าเดินออกจากกลุ่มเพื่อนไป

     

    เธอเดินมายังหน้าประตูโรงเรียน เมื่อเช้าจินซองบอกกับเธอว่าวันนี้ จะมาหาที่นี่หลังโรงเรียนเลิก

     

    จ๊ะเอ๋  ชินจู  เสียงของจินซองดังขึ้น พร้อมกับแววตาที่ยังดูสดใสเหมือนเดิม

     

    อ้าว  นายมานานแล้วเหรอ เด็กสาวทักทาย และก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ


    นี่สำหรับชินจู ตอบสอบเสร็จ  จินซองนำดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งขึ้นมา อะ ให้ชินจู  เขาพูดพลางยิ้มให้เธอ  ชินจูของเขารับดอกกุหลาบดอกนั้นไป  พลางกล่าวขอบคุณ

     

     

    ทั้งสอง ออกเดินเล่นมาตามทางเรื่อยๆ นี่ชินจู มานี่สิ วันนี้จะพาไปดูดาวแหละ

     

    เอ๋ ที่ไหนกัน ในกรุงเทพไม่มีที่ไหนเห็นดาวสวยๆหรอกนะ

     

    มีสิ ก็ที่ๆผมกำลังจะพาชินจูไปไงครับ

     

    ชายหนุ่มออกวิ่งนำไปข้างหน้า เฮ้ รอก่อนสิจินซอง วิ่งเร็วจังเลย ฟ้าพูดพลางออกวิ่งตาม  คิมจินซองวิ่งมาหยุด ณ ตึกสำนักงานแห่งหนึ่ง  เป็นตึกสำนักงานที่สูงมากเลยทีเดียว  บริเวณรอบนอกอาคารสำนักงานนั้นประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์

    ที่นี่นี่นะ ที่เธอจะพาฉันมาดูดาว ฟ้าเงยหน้าขึ้นถาม

    ใช่ชินจู รีบไปเถอะ แต่ก่อนที่เธอจะถูกลากไปตามแรง

    นี่จินซอง นี่เพิ่งจะ 6 โมงเย็นเองนะ ดาวอะไรยังไม่มีซะหน่อย   จินซองทำแก้มป่องในยามที่เขาทำแก้มป่องนี่น่ารักไม่เบาเลย 

    ผมอยากนั่งคุยกับชินจูก่อนไง  รีบไปกันเถอะนะชินจู  จินซองลากเธอไปแล้วโดยไม่ฟังเสียงเธอก่อนเลย   พวกเขาเข้ามายังสำนักงานพนักงานที่นี่กำลังเลิกงานและเดินทางกลับบ้านกัน  คิมจินซองพาเธอขึ้นลิฟต์ไป   เขาเอื้อมมือไปกดยังชั้น 15  ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของตึกแห่งนี้   ผมอยากให้ชินจูเห็นดาวสวยๆ  ชินจูจะได้เก็บไปฝันทุกวันเลยไง  เด็กสาวได้แต่ส่ายหน้ากับความคิดที่นับวันจะดูเหมือนเด็กชายน้อยลงไปเรื่อยๆ   เมื่อถึงชั้น 15 คิมจินซองจับมือชินจูของเขา

     

    ฟ้าก้มลงดูเวลาที่นาฬิกาของเธออีกครั้ง

    นี่ เพิ่งผ่านมา 15 นาทีเองนะอีกตั้งนานกว่าฟ้าจะมีดาวนะ  คิมจินซองหันหน้ามาหาเธอ

    แล้วใครว่าละว่าเราจะนั่งกันอยู่เฉย  จินซองทำหน้าทะเล้นอีกแล้ว  เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเขาแล้วหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำออกมากล่องหนึ่ง    จินซองเบือนหน้าไปยังทางข้างหน้า พระอาทิตย์ที่ตอนนี้กำลังจะตกดินอยู่แล้ว เขาลึกขึ้นเดินไปยังสุดขอบระเบียงดาดฟ้า เห็นพระอาทิตย์กำลังจะตกไหม เขาเอ๋ยถามขึ้น และเด็กสาวที่นั่งเหม่ออยู่นานก็เหมือนเพิ่งจะรู้ตัวเป็นผู้ถูกถาม


    อะอื้ม เคยสิจินซอง เด็กสาวตอบกลับไป

     

     

    ชินจูรู้ม่า  ว่าก่อนที่ฟ้าจะมีดาวได้ พระอาทิตย์ก็ต้องตกก่อน  แล้วพอพระอาทิตย์ตกลงนะ ก็เป็นสัญญาณให้มนุษย์รู้ว่าฟ้ากำลังจะมีดาวไง  คิมจินซองเงยหน้าขึ้นมองสายลมในตอนเย็นพัดกระทบใบหน้าของเขา   ทำให้ปอยผมปลิวขึ้นตามแรงลม  แววตาที่ไร้เดียงสาเหมือนเด็กชายน้อย กำลังจ้องมองบรรยากาศที่อยู่เบื้องหน้า ฟ้ารู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวผู้ชายคนนี้ 

    จินซอง อีกไม่นานนายก็จะได้กลับไปดูพระอาทิตย์ที่บ้านนายแล้วละสิ  

    จินซองหันมายิ้มให้เธอ  คงงั้นแหละ แต่ยังไงผมก็จะคิดถึงชินจูตลอดไปเลย จินซองหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างมีความสุข


     

    มานั่งนี่สิ ชินจู จินซองพูดพลางกระโดดขึ้นไปนั่งที่ขอบระเบียงดาดฟ้า

     

    จินซอง อย่านะ เดี๋ยวนายตก เด็กสาวรีบเข้ามาห้ามเพราะกลัวชายหนุ่มจะพลัดตกลงไป

     

    ไม่น่ากลัวหรอกนะ ชินจูแค่ไม่ต้องมองลงไปข้างล่างก็เท่านั้นเอง จินซองพูดพลางส่งมือของเขามาให้ และเมื่อเห็นเด็กสาวยังลังเลอยู่ ผมสัญญา ว่าถ้าทำชินจูตกลงไป จะกระโดดตามลงไปด้วย แต่ถ้าผมตกลงไปแล้วชินจูไม่กระโดดตาม ผมก็จะไม่โกรธ ชินจูเลยครับ  เด็กสาวอมยิ้ม แม้เธอจะกลัวๆอยู่บ้างแต่ ความกล้าจากที่ไหนสักแห่งมาทำให้เธอกล้าที่จะจับมือของจินซองแล้วขึ้นไปนั่งเคียงข้างกัน วิวที่นี่สวยจังเลยเนอะ

     

    อย่ามองลงไปข้างล่างนะชินจู จินซองรีบพูดเมื่อเห็นเด็กสาวกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบๆตัว ชินจู หลับตาสิมีอะไรจะให้แหละ   เด็กสาวทำสีหน้าชั่งใจก่อนหลับตาลง  ชายหนุ่มค่อยๆ บรรจงเปิดกล่องกำมะหยี่สีดำ แล้วหยิบบางสิ่งออกมา

    ลืมตาสิ  เบื้องหน้าเป็นสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งที่ทำจากไข่มุก

    จินซอง เด็กสาวตะลึง ผมให้ชินจู ผมไม่รู้เหมือนกันว่านี่ในภาษาไทยของชินจูเรียกว่าอะไรแต่รับไว้เถอะนะ นี่ถ้าชินจูไม่ใส่ก็ไม่ว่าอะไร แค่เก็บเอาไว้แทนใจผมก็พอ"

    " นี่ลองดูนะ ชินจูว่า ถ้าเอาสร้อยชินจูเทียบกับ สีพระอาทิตย์ตกดิน กับสีของดาว อันไหนจะสวยกว่ากันน้า
      จินซองพูดพลาง หยิบสร้อยข้อมือเส้นนั้นออกมา แล้ว หรี่ตาลงมอง

     

    แล้วอันไหนสวยกว่ากันละ  ฟ้าตัดสินใจถาม เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเพ่งพิศอยู่นาน

     

    ชินจู  คนนี้ต่างหากที่สวยที่สุดเลย  ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ได้สนใจเลย ว่าความรู้สึกของเด็กสาวเบื้องหน้าจะเป็นอย่างไร  ตอนนี้เธอทั้งดีใจ และอบอุ่นไปพร้อมๆกัน

     

     

    ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ที่แห่งนั้นจนกระทั้งดึกดื่น อากาศตอนกลางคืนแม้จะอยู่ใจกลางเมืองหลวงแต่ก็หนาวเหมือนกัน ปิ๊ปๆ เสียงนาฬิกาของจินซองดังขึ้น 


    อธิษฐานเร็วชินจู เที่ยงคืนแล้ว  เด็กสาวรีบทำตามที่จินซองบอกทันที เธอกุมมืออธิษฐานอยู่นาน

     

    นี่ชินจู ขอพรอะไรจากดวงดาวเยอะจัง ดาวให้ชินจูไม่หมดหรอกนะ  ฟ้าค่อยๆลืมตาขึ้นมอง  คืนนี้ช่างเป็นคืนที่เธอมีความสุขเหลือเกิน เธอได้แต่ภาวนาขอให้คำขอพรของเธอเป็นจริงขึ้นมา

    ชินจู คิดอะไรอยู่เหรอ บอกกันบ้างสิ จินซองถามขึ้นและเหมือนความรู้สึกอะไรบางอย่าง ทำให้แววตาของเขาเศร้าสร้อยลงทันที ผมต้องไปแล้วนะ เขาพูดพลางลุกขึ้นแล้วนำพาตัวเองพร้อมทั้งช่วยเหลือเด็กสาวให้เข้ามายืนในบริเวณระเบียงอย่างปลอดภัย  คิมจินซองคว้าตัวชินจูของเขาเข้ามากอดไว้

    ซารังเฮโย  ~~ "ผมไม่รู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อไป คำพูดสั้นๆแค่นี้ บอกความในใจของผมหมดแล้ว"

     

    คิมจินซองและฟ้าเดินลงมายังอาคารสำนักงานชั้นล่าง  พวกเขาเดินออกมายังถนนซึ่งเวลานี้ ไม่มีแม้แต่ผู้คน ชายหนุ่มคว้าตัวเด็กสาวเข้าไปกอดไว้อีกครั้ง


    ผมต้องไปแล้ว  ซารังเฮโยนะ  ผมจะขอคิดถึงชินจูตลอดไป คิมจินซองผละออกจากตัวของเด็กสาวและแล้วร่างของชายหนุ่มก็วิ่งหายเข้าไปยังถนนที่มีแต่ความมืดมิด

     

     

    พลันเมื่อร่างของชายหนุ่มหายไป น้ำตาของเด็กสาวก็ไหลพราก ไม่รู้ทำมัยเหมือนกับว่าเมื่อ คิมจินซองจะไปแล้วจริงๆ มันทำให้เธอรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×