คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ~ดาว การหลงทางและความเหงา~
"สวัสดีค่ะ" ฟ้ากรอกเสียงใสๆของเธอลงไปตามสายโทรศัพท์
"ฟ้าเหรอ นี่พี่เองนะ" เสียงพี่ชายของเธอดังลอดมาตามสาย
"พี่กันต์เหรอค่ะ" เด็กสาวพูดด้วยความดีใจ
"ใช่พี่เอง พี่มาถึงที่ญี่ปุ่นแล้วเลยโทรมาหา เป็นยังไงบ้านอยู่คนเดียวได้ไหม
"ชินจู....ชินจู" เสียงของคิมจินซองดังลอดออกมาจากห้องนอนของพี่ชายเธอ ฟ้ารีบลดโทรศัพท์ลงมาพร้อมกับเอามือปิดตรงหูฟังโทรศัพท์ทันที "นี่คนหลงทางนายเงียบไปก่อนได้มั้ย"
"อ๋อ เอ่อค่ะ แล้วพี่กันต์เป็นไงบ้างค่ะ"
"เมื่อกี้เสียงอะไรน่ะ" พี่กันต์อดถามไม่ได้
"อ้อ เสียงทีวีนะค่ะ พอดีเอ่อ ฟ้าดูเอ่อ ทีวีไงทีวี"
เธอคุยโทรศัพท์กับพี่ชายของเธอต่ออีกสองสามประโยค จากนั้นก็วางสายและเดินกลับเข้ามาหาคิมจินซองชายหนุ่มที่เพิ่งหลงทางมา
"ชินจู คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ" เด็กสาวที่ยังไม่ค่อยคุ้นกับชื่อ ชินจูที่ชายหนุ่มเพิ่งตั้งให้ใหม่นั้นหันกลับมาพยักหน้าแล้วก้มตัวลงเก็บกะละมังใส่น้ำพร้อมกับผ้าขาวที่ไว้เช็ดหน้าชายหนุ่มเมื่อคืนนี้
"คิมจินซองนายชื่อนี้ใช่มะ" เด็กสาวเอ่ยขึ้น "นายมาเที่ยวเมืองไทยเหรอ"
"ใช่ครับ ผมเป็นคนธรรมดามาเที่ยวเมืองไทย แล้วก็ถูกทำร้ายทำให้มาเจอกับชินจูไงครับ" คิมจินซองยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี "ผมมาจากกรุงโซลครับประเทศเกากลีครับ แต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองอินชอนแล้วก็ย้ายมาเมืองจุนนำครับ"
"เหอๆ นี่ที่นายพูดมาฉันไม่รู้จักสักที่เลยละ"
"เหรอครับ ไว้ผมจะพาชินจูไปเที่ยวที่เกาหลีนะครับ" เขาพูดพลางจ้องหน้าเธอ
"นี่นายจะจ้องหน้าฉันทำมัย ว่าแต่นายสัญญาแล้วนะว่าจะพาฉันไป" เด็กสาวพูดไปแบบ ขำๆเล่นๆ แต่กลับหารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายได้เก็บบันทึกไว้เป็นสัญญาที่จริงจัง
ตอนบ่ายวันนั้นเธอจัดแจงเก็บข้าวของภายในบ้านให้เรียบร้อย บ้านของเธอเป็นบ้านหลังเล็กสภาพธรรมดาไม่ใหม่ไม่เก่า ปกติแล้วเธออยู่กับพี่กันต์ผู้เป็นพี่ชายแค่สองคนเท่านั้นเพราะพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว ทรัพย์สมบัติที่พอมีก็ถูกนำมาใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียนจนใกล้จะหมดเต็มทน ฟ้าจึงได้สมัครเข้าทำงานพิเศษที่ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่งและอย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องรบกวนเงินค่าขนมที่เธอนำไปโรงเรียนกับใคร
"หน้าของชินจูเปื้อนแหละ" คิมจินซองที่นั่งจ้องหน้าเธออยู่นานในขณะที่เธอใช้ไม้ขนไก่ปัดซอกตู้
"หือเหรอ" เด็กสาวพูดพลางเอามือปาดเช็ดใบหน้า "นี่นายขำอะไรฮะคนความจำเสื่อม"
"ก็ชินจูสิครับ ยิ่งเช็ดยิ่งเปื้อน" คิมจินซองพูดพลางหัวเราะขำๆ ฟ้าหันไปส่องกระจกทันทีแล้วก็รู้ว่าที่ คิมจินซองพูดนั้นไม่ผิดเลยสักนิด หน้าเธอเปื้อนเป็นรอยดำด่างไปหมด
"ผมช่วยทำไหมครับ ชินจู"
"ไม่ต้องหรอก แผลนายยังไม่หายดีเลย ถ้ามาทำเดี๋ยวอาการจะหนักไปกันใหญ่แล้วอีกอย่างนะถ้าอาการของนายหนักขึ้นอีก นายก็ต้องอยู่ที่นี่นานขึ้นอีกอ่าสิ"
คืนนั้นเธอให้คิมจินซองนอนในห้องของพี่ชายเธอ โดยที่คืนนั้นฝนตกหนักอีกแล้ว ทุกวันหากฝนตกหนักและมีฟ้าร้องพี่กันต์จะคอยมาปลอบใจเธอตลอดแต่วันนี้เธอกลับต้องอยู่คนเดียว เสียงฟ้าร้องทำเอาเด็กสาวนอนไม่หลับเข้าจริงๆ แม้เธอจะพยายามข่มตาและบอกตัวเองเสมอว่าพรุ่งนี้จะต้องไปโรงเรียนแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ ฟ้าจึงตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนอนโดยที่ไฟในห้องรับแขกก็เสียเปิดไม่ได้
"จ๊ะเอ๋ ชินจู" คิมจินซองพูดพลางยื่นหน้าขาวที่ตอนนี้วอกไปด้วยแป้ง
"นี่นายทำอะไรของนาย" เด็กสาวตกใจเมื่อเห้นใบหน้าที่เหมือนผีเกาหลีอย่างนั้น
"ก็คนไทย ชอบปะแป้งไม่ใช่เหรอ นี่ไงอยู่บ้านชินจูชินจูเป็นหญิงไทยผมก็เลยทำให้เหมือนชายไทยไง" คิมจินซองให้คำตอบเด็กสาวกลับมา
"เฮ้อ แล้วใครเขาทำกันแบบนั้นละ" ชายหนุ่มทำแก้มป่องอีกแล้ว "แล้วนี่นายออกมาทำมัย ไม่นอนพักผ่อนละ"
"ผมกลัวเสียงฟ้าร้องนี่นา" เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ
"ฮ่าๆ เหมือนกันเลยนายก็กลัวเสียงฟ้าเหมือนกันเหรอ" ฟ้าพูดพลางหัวเราะ "ฉันก็กลัวเหมือนกัน เลยออกมายืนดูน้ำฝนอยู่นี่ไง"
"ชินจูอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวเหรอครับ"
"แต่ก่อนไม่แต่เดี๋ยวนี้ใช่ เมื่อวานตอนเช้าพี่ชายของฉันเพิ่งไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นเอง"
"แล้วทำมัยชินจูไม่ไปด้วยละ อยู่คนเดียวเหงาแย่เลย"
"พี่ชายฉันไปเรียนต่อนะ ไม่ได้ไปเที่ยว ว่าแต่นายเถอะ ไม่คิดถึงบ้านบ้างเหรอไง"
"ไม่เลย ก็บอกแล้วไง ว่าบ้านไม่มี ว่าไปแล้วอยากอยู่กับชินจูจังเลย เพราะชินจูใจดี" เด็กสาวหัวเราะร่า "แต่ฉันไม่อยากให้นายอยู่ด้วยแล้วฉันนี่นะ ใจดีผิดแล้วละจินซอง"
"ไม่หรอกชินจูใจดีจะตาย มีน้ำใจด้วยแล้วถึงชินจูไม่ให้ผมอยู่ด้วยผมก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหนแล้ว"
"เฮ้อ ฉันไปนอนก่อนละคิมจินซอง นายก็รีบไปนอนละ เดี๋ยวแผลจะไม่หายสักที" ฟ้าพูดพลางเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของเธอ
เช้าวันต่อมา ฟ้าตื่นขึ้นอย่างอ่อนเพลีย เพราะเมื่อคืนกว่าเธอจะหลับก็นานอยู่เพราะต้องฟังเสียงฟ้าคำรามอยู่จนทำให้สะดุ้งตัวอยู่บ่อยครั้ง ว่าแต่ใครอีกคนหนึ่งที่บอกว่ากลัวเสียงฟ้าร้องเหมือนกันป่านนี้จะนอนหลับเป็นยังไงบ้างน้า
ฟ้ารีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เป็นวันจันทร์เธอต้องไปเรียนหนังสือแต่เช้า เธอได้ลางานกับเจ้าของร้านเบเกรรี่ที่เธอทำงานอยู่ด้วยแล้วเป้นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้การสอบปลายภาคที่ใกล้เข้ามานี้ผ่านไปก่อน เธอสวมชุดนักเรียน ม.ปลาย ตามมาตรฐานนักเรียนหญิงไทยทั่วไป เครื่องแบบนักเรียนของเธอนั้นสะอาดสะอ้านและถูกระเบียบตั้งแต่ศรีษะยันเท้า เมื่อทำธุระเสร็จแล้วเธอจึงเดินไปยังห้องของพี่ชายเธอแล้วก็พบว่าชายหนุ่มคิมจินซองไม่ได้อยู่บนเตียงนอนแล้ว แถมเตียงนอนยังถูกเก็บอย่างเรียบร้อยอีกต่างหาก
"จินซอง นายอยู่ไหนเหรอ" ชายหนุ่มคิมจินซอง เดินออกมาจากห้องน้ำ ท่าทางยังงัวเงียอยู่เลย
"ชินจูใส่ชุดอะไร ทำมัยน่ารักจังเลยอะ" จินซองพูดพลางยิ้ม
"นี่เหรอ ชุดนักเรียนไง ประเทศนายคงไม่ใส่อย่างนี้หรอก"
คิมจินซองจ้องมองเด็กสาว แล้วลุกเดินออกไปจากห้องเพื่อตาม ชินจูของเขาออกไป จินซองมองสาวน้อยถักเปียทั้งๆ ที่ปากต้องคาบหนังยางเอาไว้ "ผมถักให้มั้ยครับ" จินซองพูดขึ้น "นี่นายทำเป็นเหรอ ไม่น่าเชื่อ ฉันทำเองดีกว่า" แต่ช้าไปแล้ว คิมจินซองแย่งหวีจากมือเธอไปแล้ว "ชินจูอยู่นิ่งๆนะ เดี๋ยวผมไม่สวย"
คิมจินซองลงมือถักผมเปียให้สาวน้อย และเมื่อเสร็จเรียบร้อย
"โอ้โหจินซอง ทำมัยนายถักเปียเก่งจัง" เด็กสาวแทบไม่เชื่อสายตาในฝีมือการถักผมเปียของ หนุ่มน้อยชาวเกาหลีผู้นั้น
"ว่าแต่ ก็ขอบคุณนะ อืมนี่นาย ช่วยฉันยกถาดนั้นออกไปหน้าบ้านหน่อยสิ"
"เอ๋ ชินจูจะทำอะไรเหรอ" จินซองทำหน้างง
"ก็ใส่บาตรไงละ" จินซองไม่เข้าใจแต่ก็ยกถาดออกมาตามที่เด็กสาวบอก พระสงฆ์รูปหนึ่งที่เด็กสาวนิมนต์ไว้ กำลังยืนรับบาตรอยู่ จินซองได้แต่มองตามว่าชินจูของเขากำลังจะทำอะไร เด็กสาวยืนพนมมือด้วยท่าทีนอบน้อมและสงบนิ่งเมื่อเสร็จจากการใส่บาตรเธอและจินซองช่วยกับเก็บของเข้าบ้าน
"วันนี้นายต้องอยู่แต่บ้านรู้มั้ย"
"แล้วชินจูจะไปไหนอะ ไปด้วยดิ" จินซองทำหน้าตาออดอ้อน
"ไม่ได้หรอก ฉันไปเรียนหนังสือ" เด็กสาวเรียนโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่งที่มีระยะทางไม่ไกลจากบ้านนัก "นายอยู่นี่แหละ อย่าออกไปไหน เพราะถ้านายไม่รู้เส้นทางอาจจะหลงทางได้"
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
"นี่ฟ้า พี่กันต์ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นแล้วเหรอแล้วเหรอ" รินซี่เพื่อนสนิทของเธอถามขึ้น
"ใช่จ่ะ ไปแล้วเมื่อวันเสาร์นี้เอง"
"งั้นเธอก็อยู่คนเดียวไม่เหงาแย่เหรอ" แต่ก่อนที่เธอจะหันไปตอบคำถามเพื่อนของเธอ
"หวัดดีชินจู" คิมจินซองนั่งเอง เพื่อนๆของเธอได้แต่ตะลึงค้างเพราะอะไรก็ไม่ทราบได้
"อ้าวจินซอง ทำมัยมานี่ละ" จินซองทำหน้าทะเล้น พร้อมทั้งโชว์บัตรนักเรียนของเธอขึ้นมา "ผมถามคนแถวนี้ เค้าบอกว่าชินจูอยู่ที่นี่" เด็กสาวเดินเข้าไปพลางบอกกับจินซองว่า "นายอย่ามาที่นี่อีกนะ ไปได้แล้ว"
ฟ้าลากชายหนุ่มคิมจินซองมาตามทาง แล้วปล่อยมือเขาลง "นายมาที่นี่ทำมัย ไม่รู้เหรอว่าห้ามมา" ฟ้าทำเสียงโกรธ และเมื่อเห็นเด็กสาวโกรธ จินซองจึงก้มหน้าลง "ขอโทษ ชินจูก็ได้ วันหลังจะเชื่อฟัง แต่ว่าวันนี้ ชินจูไปเที่ยวกันเถอะนะ น้าๆๆ" จินซองอ้อนวอน "ไปไหนก็ได้นะ ที่ชินจูชอบไป"
"กลับบ้านเถอะ จินซองวันนี้ฉันไม่ว่างจริงๆ การบ้านเยอะด้วย" จินซองทำสีหน้าเข้าใจและเดินตามชินจูของเขากลับบ้าน
"ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ" จินซองเงยหน้าขึ้นถามขณะที่เห็นฟ้าเข้าไปอยู่ในห้องนอนตั้งนาน
"อืม เรียบร้อยแล้วละ นี่ว่าแต่นายน่ะหิวรึยัง"
"ยังเลย แต่ผมอยากให้ชินจูพาไปเที่ยวครับ" จินซองทำสีหน้าออดอ้อนต่อ
"ไว้วันเสาร์ได้มั้ย รออีก 4 วันนะ ฉันขอเรียนก่อน เพราะอาทิตย์หน้าฉันก็ต้องสอบปลายภาคแล้ว"
คืนนั้นฟ้ารู้สึกคิดถึงพี่กันต์ผู้เป็นพี่ชายอย่างจับใจ เอจึงลุกออกจากเตียงและลงมานั่งดูดาวที่ระเบียงบ้าน ดาวบนท้องฟ้านั้นในยามค่ำคืนเช่นนี้ช่างสวยงามยิ่งนัก ถ้านี่เป็นยอดเขาสักแห่งในดินแดนอันแสนไกล เธอคงจะมองเห็นดาวได้ชัดเจนและสวยงามกว่านี้ ป่านนี้ที่ญี่ปุ่นพี่ชายของเธอจะนั่งดูดาวคิดถึงเธออยู่หรือเปล่าน้า เธอคิดในใจ
"ชินจู ยังไม่นอนอีกเหรอ" คิมจีซองนายนี่ก็ยังไม่นอนเหมือนกัน
"ไม่ละ ฉันนอนดึกเป็นประจำอยู่แล้ว เอ้า นั่งสิจินซอง" เธอพูดพลางเขยิบที่ให้เขานั่ง "นายชอบดูดาวเหมือนกันเหรอ"
"อืม ก็ชอบนะ เวลาหลงทางไง" เขาพูดพลางหัวเราะ "เธอเองก็คงชอบดูนะเวลาที่เหงาๆไง"
"การดูดาวทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีเพื่อนไง นี่พี่ชายของฉันก็ต้องไปเรียนต่อฉันละเหงาจะแย่"เด็กสาวพูดพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า "แล้วนายละ ครอบครัวนายที่โน่นเป็นยังไงบ้าง"
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันอยู่กับแม่ ส่วนพ่อไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่หรอก" จินซองพูดพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้าเช่นเดียวกัน แววตาของเขาเวลานี้ดูเศร้าจนฟ้าสังเกตได้ "ฉันมีน้องชายด้วยนะ มีอยู่คนเดียวและฉันก็รักเขามากด้วย"
"จริงเหรอ หล่อเหมือนนายรึเปล่า" เด็กสาวแซวขึ้น
"ทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มีอะไรที่เราแตกต่างกันเลย" จินซองหันมาทำหน้าทะเล้นใส่เธอแต่ แววตาของเขายิ่งดูเศร้าขึ้นไปอีก
"เหมือนกันทุกส่วน เลยเหรอ อย่างงี้นายก็มีพี่น้องฝาแฝดนะสิ"
"อืมใช่ ฉันมีน้องชายฝาแฝดอยู่คนนึง เป็นน้องชายคนเดียวที่ฉันมี เราเหมือนกันทุกส่วนยกเว้น" จินซองหยุดพูดเพียงเท่านั้น
"อ้าวทำมัยหยุดพูดละจินซอง กำลังฟังอยู่เลย เธอนี่ดีนะ มีพี่น้องด้วยแถมยังเป็นฝาแฝดอีก คงสนิทกันมากเลยใช่มั้ย" เด็กสาวหยุดเมื่อเห็นว่าจินซองไม่ได้รู้สึกดีไปกับคำพูดของเธอเลย
"รู้มั้ย อะไรที่เราต่างกัน แววตาไง เราต่างกันที่แววตาแล้วก็ความรู้สึกนึกคิด" จินซองหันหน้ามาจ้องตากับเธอ แววตาของเขาช่างดูอ่อนโยนเสียจริง แววตาที่เต็มไปด้วยความสดใสและความสุข "ความคิดที่ต่างกัน ทำให้เราต่างกัน และมันจะแสดงออกที่แววตา" เขาพูดเพียงแค่นี้แล้วจึงลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งเดินเข้าห้องนอนไป
ฟ้าลุกขึ้นยืนบ้าง พรุ่งนี้เธอต้องไปเรียนหนังสือแต่เช้าเธอไม่ควรมานั่งโอ้เอ้อยู่แบบนี้ ไม่งั้นพรุ่งนี้เธอจะตื่นสายไปเรียนไม่ทัน
ความคิดเห็น