ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 4 New university
คืนนั้นชินจูนอนไม่หลับเลย เธอพยายามไม่คิดมากแล้วแต่ก็ยังทำไม่ได้ เธอจำได้ไม่ผิดแน่เขานั้นแหละคือเขาไม่ผิด แต่ทำมัยเขาถึงจำเธอไม่ได้ บาดแผลจากการโดนแก้วบาดนั้นเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ อากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นยิ่งทำให้บาดแผลเจ็บลึกเข้าไปอีก หญิงสาวพลิกตัวไปมาอยู่นาน สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมา และกดเบอร์โทรหาลีซองมินเพื่อนของเธอทันที
"ฮัลโล" ซองมินรับสาย รอบๆกายของเขามีเสียงดังเอะอะโวยวายดังไปทั่ว
"ซองมิน นายทำอะไรอะ ทำมัยเสียงดังจัง"
"ฉันทำงานอยู่แปปนึงนะ"
ซองมินเดินออกมาหาที่เงียบสงบเพื่อคุยโทรศัพท์ "เธอมีอะไรเหรอ"
"คือฉันแค่ นอนไม่หลับละเลยโทรมาคุย"
"เฮ้อ คิดได้แค่นี้เองเหรอ เธอน่ะบาดเจ็บอยู่นะแทนที่จะนอนพักผ่อน"
"ก็มันนอนไม่หลับนี่นา" เธอเถียงต่อ
"อะๆ พอๆ คุณผู้หญิง มีอะไรก็คุยมาสิ" ซองมินกล่าว
"อืม แล้วนายทำงานพิเศษที่ไหนละ"
"ที่ผับ The nine ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่หรอก"
"เหรอ นายคงเหนื่อยแหละ"
"ใช่เหนื่อย เธอจะได้รู้แล้วเลิกกวนฉันเสียที" ซองมินพูดแหย่เล่น แต่อีกฝ่ายกลับเงียบไปจริงๆ "นี่ฉันพูดเล่นน่า คิดมากไปได้ ยังไงก็เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอมีอะไรก็พูดมาสิ"
"ซองมิน นายเคยมีความรักไหม" ชินจูเอ่ยถามขึ้นเพราะตอนนี้ในหัวสมองของเธอนั้นมีแต่คำว่า ความทรงจำเก่าๆเท่านั้น
"คิดยังไงถามแบบนี้เนี่ย" ซองมินตอบไม่ถูกเขาไม่เคยรู้จักว่าความรักคืออะไร แล้วก็ไม่มีใครเคยถามเขาด้วยว่ารู้จักหรือต้องการความรักไหม
"ฮ่าๆ ก็ตอบมาสินายเขินละสิท่า"
"ใช่เขิน ฉันไม่เคยมีความรักหรอก"
"ว๊า นายนี่แย่จังเนอะ"
"ทำมัยกัน แค่ไม่มีความรักนี่ผิดมากนักเหรอ"
"เปล่าซะหน่อย" ทั้งสองหัวเราะขึ้นพร้อมกัน จากนั้นซองมินและหญิงสาวก็คุยเรื่องทั่วๆไป ซองมินนั้นเล่าถึงวิธีการจีบสาวแบบให้เร็วทันใจให้หญิงสาวฟัง เธอหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว และเมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งการคุยดำเนินใกล้จะจบ
"ชินจู ฉันถามอะไรเธออย่างสิ" จู่ๆซองมินก็กล่าวขึ้น น้ำเสียงของเขาดูจริงจังมากๆ จนชินจูเองยังผิดสังเกต
"อะอื้ม ถามมาสิ นายอยากถามอะไรละ"
"วันนี้ ทำมัยเธอต้องวิ่งตามรถสปอร์ตคันนั้นด้วยละ" และเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอของหญิงสาวเธอไม่ได้เตรียมคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ "ว่าไงละ เล่าให้ฟังไม่ได้เหรอ เราเป็นเพื่อนกันนะ"
คำว่าเพื่อนที่เธอและซองมินใช้และไว้ใจซึ่งกันและกัน ทำให้ฟ้าไม่อยากจะปิดบังอะไรเขา แต่เหตุผลสำคัญคือเธอไม่อยากจะเล่าหรือพูดมันออกมาเพราะนั่นอาจจะทำให้เธอเสียใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
"อืม เอาไว้ถึงเวลาก่อนได้ไหมซองมินแล้วฉันจะเล่าให้ฟัง"
"เวลาไหนอีกละ ฉันรอฟังอยู่นะ"
"อีกไม่นานหรอกนะ มันขึ้นอยู่ที่ตัวนาย"
"หือ ตัวฉันยังไงเหรอ ฉันพร้อมจะรับฟังปัญหาจากเธอนะ"
"ใช่ฉันรู้แต่ฉันจะเล่าก็ต่อเมื่อ......." เธอหยุดพูด
"เมื่ออะไรละ" ซองมินยังเซ้าซี้ต่อ
"ฮ่าๆ ก็เมื่อเธอมีความรักไงละ ปัญหานี้ของฉันนายคงไม่เข้าใจ เพราะนายไม่เคยรู้เลยว่าความรักมันเป็นยังไง"
ดูเหมือนว่าเหตุผลของหญิงสาวจะฟังขึ้นสำหรับซองมิน เขาได้แต่ตอบตกลงเป็เชิงว่ายอม ทำมัยนะเพื่อนสาวคนนี้และคนเดียวในชีวิตของเขาถึงได้ใช้เหตุผลแบบที่เขาไม่สามารถเถียงออกได้ ใช่ ตัวเขาไม่เคยมีความรักและก็คงไม่มีวันเข้าใจว่าปัญหาของเพื่อนคืออะไร
เช้าวันต่อมา
ชินจูตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพราะอาการปวดแผลที่เท้า เธอพยายามอาบน้ำแต่งตัวเพราะวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคการศึกษาใหม่ ที่ มหาวิทยาลัย มินชอนซอง ลีซองมินเพื่อนคนเดียวของเธอที่โซล สัญญากับเธอไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าวันนี้จะมารับ และเขาก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้
"เสร็จแล้วเหรอ" ซองมินเดินเข้ามาทักทายเธอ เส้นผมของเขาเริ่มยาวและยุ่งเหยิง เขาคงลืมหวีผมตอนเช้ามาแน่นอน
"เสร็จนานแล้วละ รอแต่เธอนี่แหละ"
"แต่ฉันรีบมาแล้วนะ เธอยังบ่นอีกเหรอ"
"อ่าจ่ะๆ รีบไปเถอะเดี๋ยวสาย"
ซองมินพยุงเธอจากในบ้านมาขึ้นแท็กซี่ยังริมถนน
"มหาลัย มินชอนซองครับ" ซองมินกล่าวกับคนขับแท็กซี่
รถแท็กซี่วิ่งมาตามทางที่จะไปยังมหาลัยมินชอนซอง แต่ก่อนที่จะถึงนั้นรถแท็กซี่ก็ต้องวิ่งผ่านสี่แยกยองมุน สถานที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ ชินจูหันมองสี่แยกนั้นจนกระทั่งรถแท็กซี่วิ่งมาไกลจนลับตาเธอค่อยๆเบือนหน้ากลับมาและพบว่าซองมินจ้องมองเธออยู่นานพอสมควรแล้ว หญิงสาวได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับชายหนุ่ม
ที่ Minshonsong University
วันนี้เป็นวันเปิดภาคการศึกษาใหม่ นักศึกษาหลายคนค่อยๆทะยอยกันมาเรียน
"เดินไหวไหม" ซองมินถามเธออีกครั้ง
"อื ก็พอได้แล้วละ" เธอตอบเพราะเธอเองก็เดินพอได้แล้วจริงๆเพียงแต่ยังเจ็บอยู่บ้างเท่านั้น
ช่วงเช้าของวันนั้นผ่านไปโดยดี ตอนนี้เธอเองเป็นนักศึกษาใหม่ชาวไทย เพื่อนๆของเธอในคลาสก็ดัและมีน้ำใจกับเธอทุกคน การเรียนการสอนของที่นี่ดีมากๆ ภาษาไม่ได้เป็นอุปสรรคกับหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย
"เธอเป็นนักศึกษาใหม่ของที่นี่เหรอ" เสียงเหยียดๆของผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น
"อืม ใช่จ๊ะ" ชินจูหันไปตอบ
"เป็นคนไทยเหรอ ชื่ออะไรละ" เสียงนั้นถามต่อในเนื้อเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
"ชื่อฟ้า อืมเรียกชินจูก็ได้"
"อ๋อเหรอ ยินดีที่ได้รู้จักนะ" เมื่อพูดจบผู้หญิงคนนั้นก็เดินกระแทกไหลของหญิงสาวไป ชินจูเองที่ตั้งใจจะยิ้มตอบรับกับมิตรภาพใหม่กับต้องยิ้มเก้อ
"เธออย่าไปยุ่งกับพวกนั้นเลยนะ" นักศึกษาสาวข้างโต๊ะของเธอหันหลับมาบอก "พวกนั้นไม่เคยจะหวังดีอยู่แล้ว" เธอพูดเป็นเชิงหวังดี"
"เหรอ แต่ก็ไม่เห็นต้องกลัวนี่นา" ชินจูยังคงพูดต่อ
"อืม ฉันก็ไม่กลัวเพียงแต่ว่าทางที่ดีอย่าไปยุ่งเลยจะดีกว่านะ"
"จ๊ะ ขอบคุณที่เตือนนะ เราชื่อฟ้าถ้าเรียกยากเรียกว่าชินจูก็ได้"
"จ่ะ เราชื่อปาร์คโยรีนะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
ชินจูสามารถหาเพื่อนใหม่ได้อีกคน โยรีเป็นคนดีมีน้ำใจแต่เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดและค่อนข้างจะดูยาก เธอไม่มีเพื่อนคนไหนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกเลย ชินจูจึงตัดสินใจเป็นเพื่อนกับเธอ
เมื่อถึงเวลากลางวัน ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
"ว่าไงชินจูเรียนเป็นยังไงบ้าง" ซองมินส่งเสียงทักทาย เขาไม่ได้เรียนคลาสเดียวกับหญิงสาวเพียงแต่เมื่อพักเขาก็รีบมาทันที
"ก็ดีนะ นี่เพื่อนใหม่ฉัน ปาร์คโยรี .....อ้าว โยรีละ" เธอหันมองรอบๆก็พบว่าเพื่อนสาวที่เดินมาด้วยกันเมื่อสักครู่หายลับไปแล้ว
"ใครเหรอ" ซองมินถามขึ้น
"อ๋อ เพื่อนใหม่ฉันน่ะ แต่เธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้สิ"
"ช่างเค้าเถอะ ไปกินข้าวกัน เธอจะเอาอะไรแซนวิชไหมเดี๋ยวไปซื้อให้"
"อะอืม ตามใจละกันซื้ออะไรมาก็ได้แหละ"
"งั้นรอแปปนึงนะ"
ซองมินวิ่งหายลับเข้าไปในฝูงคนที่โรงอาหาร ชินจูพยายามมองหาโยรีเพื่อนใหม่ของเธอไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย ครู่หนึ่งซองมินกลับมาพร้อมกับอาหารมากมาย
"นี่กินกันกี่คนเนี่ย" ชินจูถามขึ้นเมื่อเห้นอาหารบนโต๊ะมันช่างเยอะเกินไป
"ก็ 2 คนไง เอาเถอะไม่หมดเดี๋ยวก็เก็บไว้กินเป้นมื้อเย็นก็ได้" ซองมินไม่สนใจลงมือกินอาหารตรงหน้าอย่างอเร็ดอร่อย
"ค่อยๆกินสิซองมิน เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก" ชินจูเตือนเพื่อนชายที่กำลังกินอาหารอย่างมูมมาม
"ช่างฉันเถอะน่า เธอรีบกินของเธอต่อเถอะ" ซองมินเงยหน้าขึ้นมาพูดแวบหนึ่งก่อนก้มลงกินต่อ
หลังเลิกเรียน
ลีซองมินและชินจูจะต้องไปทำงานพิเศษต่อที่ร้าน Blueberry Lover เมื่อเลิกเรียนแล้วทั้งสองจึงรีบไปทำงานต่อทันที วันนั้นร้านเบเกอรี่นั้นเต็มไปด้วยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมินชอนซองเสียส่วนมาก ซองมินกับหญิงสาวเลยต้องทำงานเหนื่อยหนักเป็นพิเศษ และในขณะที่ชินจูกำลังก้มลงตัดชีสเค้กในตู้นั้น พลันสายตาของเธอก็มองเห็นรถสปอร์ตสีดำคันหรูที่ดูคุ้นตา วิ่งโฉบผ่านหน้าร้านของเธอไปอย่างรวดเร็ว เธอเงยหน้าขึ้นมาทันที แต่ช้าไปรถสปอร์ตคันนั้นรถกว่ามันวิ่งไปไกลแล้ว ชินจูส่ายหัวแรงๆ เพื่อบอกกับตนเองว่ารถในโลกนี้อาจจะซ้ำกันได้ละ
"ฮัลโล" ซองมินรับสาย รอบๆกายของเขามีเสียงดังเอะอะโวยวายดังไปทั่ว
"ซองมิน นายทำอะไรอะ ทำมัยเสียงดังจัง"
"ฉันทำงานอยู่แปปนึงนะ"
ซองมินเดินออกมาหาที่เงียบสงบเพื่อคุยโทรศัพท์ "เธอมีอะไรเหรอ"
"คือฉันแค่ นอนไม่หลับละเลยโทรมาคุย"
"เฮ้อ คิดได้แค่นี้เองเหรอ เธอน่ะบาดเจ็บอยู่นะแทนที่จะนอนพักผ่อน"
"ก็มันนอนไม่หลับนี่นา" เธอเถียงต่อ
"อะๆ พอๆ คุณผู้หญิง มีอะไรก็คุยมาสิ" ซองมินกล่าว
"อืม แล้วนายทำงานพิเศษที่ไหนละ"
"ที่ผับ The nine ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่หรอก"
"เหรอ นายคงเหนื่อยแหละ"
"ใช่เหนื่อย เธอจะได้รู้แล้วเลิกกวนฉันเสียที" ซองมินพูดแหย่เล่น แต่อีกฝ่ายกลับเงียบไปจริงๆ "นี่ฉันพูดเล่นน่า คิดมากไปได้ ยังไงก็เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอมีอะไรก็พูดมาสิ"
"ซองมิน นายเคยมีความรักไหม" ชินจูเอ่ยถามขึ้นเพราะตอนนี้ในหัวสมองของเธอนั้นมีแต่คำว่า ความทรงจำเก่าๆเท่านั้น
"คิดยังไงถามแบบนี้เนี่ย" ซองมินตอบไม่ถูกเขาไม่เคยรู้จักว่าความรักคืออะไร แล้วก็ไม่มีใครเคยถามเขาด้วยว่ารู้จักหรือต้องการความรักไหม
"ฮ่าๆ ก็ตอบมาสินายเขินละสิท่า"
"ใช่เขิน ฉันไม่เคยมีความรักหรอก"
"ว๊า นายนี่แย่จังเนอะ"
"ทำมัยกัน แค่ไม่มีความรักนี่ผิดมากนักเหรอ"
"เปล่าซะหน่อย" ทั้งสองหัวเราะขึ้นพร้อมกัน จากนั้นซองมินและหญิงสาวก็คุยเรื่องทั่วๆไป ซองมินนั้นเล่าถึงวิธีการจีบสาวแบบให้เร็วทันใจให้หญิงสาวฟัง เธอหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว และเมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งการคุยดำเนินใกล้จะจบ
"ชินจู ฉันถามอะไรเธออย่างสิ" จู่ๆซองมินก็กล่าวขึ้น น้ำเสียงของเขาดูจริงจังมากๆ จนชินจูเองยังผิดสังเกต
"อะอื้ม ถามมาสิ นายอยากถามอะไรละ"
"วันนี้ ทำมัยเธอต้องวิ่งตามรถสปอร์ตคันนั้นด้วยละ" และเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอของหญิงสาวเธอไม่ได้เตรียมคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ "ว่าไงละ เล่าให้ฟังไม่ได้เหรอ เราเป็นเพื่อนกันนะ"
คำว่าเพื่อนที่เธอและซองมินใช้และไว้ใจซึ่งกันและกัน ทำให้ฟ้าไม่อยากจะปิดบังอะไรเขา แต่เหตุผลสำคัญคือเธอไม่อยากจะเล่าหรือพูดมันออกมาเพราะนั่นอาจจะทำให้เธอเสียใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
"อืม เอาไว้ถึงเวลาก่อนได้ไหมซองมินแล้วฉันจะเล่าให้ฟัง"
"เวลาไหนอีกละ ฉันรอฟังอยู่นะ"
"อีกไม่นานหรอกนะ มันขึ้นอยู่ที่ตัวนาย"
"หือ ตัวฉันยังไงเหรอ ฉันพร้อมจะรับฟังปัญหาจากเธอนะ"
"ใช่ฉันรู้แต่ฉันจะเล่าก็ต่อเมื่อ......." เธอหยุดพูด
"เมื่ออะไรละ" ซองมินยังเซ้าซี้ต่อ
"ฮ่าๆ ก็เมื่อเธอมีความรักไงละ ปัญหานี้ของฉันนายคงไม่เข้าใจ เพราะนายไม่เคยรู้เลยว่าความรักมันเป็นยังไง"
ดูเหมือนว่าเหตุผลของหญิงสาวจะฟังขึ้นสำหรับซองมิน เขาได้แต่ตอบตกลงเป็เชิงว่ายอม ทำมัยนะเพื่อนสาวคนนี้และคนเดียวในชีวิตของเขาถึงได้ใช้เหตุผลแบบที่เขาไม่สามารถเถียงออกได้ ใช่ ตัวเขาไม่เคยมีความรักและก็คงไม่มีวันเข้าใจว่าปัญหาของเพื่อนคืออะไร
เช้าวันต่อมา
ชินจูตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพราะอาการปวดแผลที่เท้า เธอพยายามอาบน้ำแต่งตัวเพราะวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคการศึกษาใหม่ ที่ มหาวิทยาลัย มินชอนซอง ลีซองมินเพื่อนคนเดียวของเธอที่โซล สัญญากับเธอไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าวันนี้จะมารับ และเขาก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้
"เสร็จแล้วเหรอ" ซองมินเดินเข้ามาทักทายเธอ เส้นผมของเขาเริ่มยาวและยุ่งเหยิง เขาคงลืมหวีผมตอนเช้ามาแน่นอน
"เสร็จนานแล้วละ รอแต่เธอนี่แหละ"
"แต่ฉันรีบมาแล้วนะ เธอยังบ่นอีกเหรอ"
"อ่าจ่ะๆ รีบไปเถอะเดี๋ยวสาย"
ซองมินพยุงเธอจากในบ้านมาขึ้นแท็กซี่ยังริมถนน
"มหาลัย มินชอนซองครับ" ซองมินกล่าวกับคนขับแท็กซี่
รถแท็กซี่วิ่งมาตามทางที่จะไปยังมหาลัยมินชอนซอง แต่ก่อนที่จะถึงนั้นรถแท็กซี่ก็ต้องวิ่งผ่านสี่แยกยองมุน สถานที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ ชินจูหันมองสี่แยกนั้นจนกระทั่งรถแท็กซี่วิ่งมาไกลจนลับตาเธอค่อยๆเบือนหน้ากลับมาและพบว่าซองมินจ้องมองเธออยู่นานพอสมควรแล้ว หญิงสาวได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับชายหนุ่ม
ที่ Minshonsong University
วันนี้เป็นวันเปิดภาคการศึกษาใหม่ นักศึกษาหลายคนค่อยๆทะยอยกันมาเรียน
"เดินไหวไหม" ซองมินถามเธออีกครั้ง
"อื ก็พอได้แล้วละ" เธอตอบเพราะเธอเองก็เดินพอได้แล้วจริงๆเพียงแต่ยังเจ็บอยู่บ้างเท่านั้น
ช่วงเช้าของวันนั้นผ่านไปโดยดี ตอนนี้เธอเองเป็นนักศึกษาใหม่ชาวไทย เพื่อนๆของเธอในคลาสก็ดัและมีน้ำใจกับเธอทุกคน การเรียนการสอนของที่นี่ดีมากๆ ภาษาไม่ได้เป็นอุปสรรคกับหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย
"เธอเป็นนักศึกษาใหม่ของที่นี่เหรอ" เสียงเหยียดๆของผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น
"อืม ใช่จ๊ะ" ชินจูหันไปตอบ
"เป็นคนไทยเหรอ ชื่ออะไรละ" เสียงนั้นถามต่อในเนื้อเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
"ชื่อฟ้า อืมเรียกชินจูก็ได้"
"อ๋อเหรอ ยินดีที่ได้รู้จักนะ" เมื่อพูดจบผู้หญิงคนนั้นก็เดินกระแทกไหลของหญิงสาวไป ชินจูเองที่ตั้งใจจะยิ้มตอบรับกับมิตรภาพใหม่กับต้องยิ้มเก้อ
"เธออย่าไปยุ่งกับพวกนั้นเลยนะ" นักศึกษาสาวข้างโต๊ะของเธอหันหลับมาบอก "พวกนั้นไม่เคยจะหวังดีอยู่แล้ว" เธอพูดเป็นเชิงหวังดี"
"เหรอ แต่ก็ไม่เห็นต้องกลัวนี่นา" ชินจูยังคงพูดต่อ
"อืม ฉันก็ไม่กลัวเพียงแต่ว่าทางที่ดีอย่าไปยุ่งเลยจะดีกว่านะ"
"จ๊ะ ขอบคุณที่เตือนนะ เราชื่อฟ้าถ้าเรียกยากเรียกว่าชินจูก็ได้"
"จ่ะ เราชื่อปาร์คโยรีนะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
ชินจูสามารถหาเพื่อนใหม่ได้อีกคน โยรีเป็นคนดีมีน้ำใจแต่เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดและค่อนข้างจะดูยาก เธอไม่มีเพื่อนคนไหนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกเลย ชินจูจึงตัดสินใจเป็นเพื่อนกับเธอ
เมื่อถึงเวลากลางวัน ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
"ว่าไงชินจูเรียนเป็นยังไงบ้าง" ซองมินส่งเสียงทักทาย เขาไม่ได้เรียนคลาสเดียวกับหญิงสาวเพียงแต่เมื่อพักเขาก็รีบมาทันที
"ก็ดีนะ นี่เพื่อนใหม่ฉัน ปาร์คโยรี .....อ้าว โยรีละ" เธอหันมองรอบๆก็พบว่าเพื่อนสาวที่เดินมาด้วยกันเมื่อสักครู่หายลับไปแล้ว
"ใครเหรอ" ซองมินถามขึ้น
"อ๋อ เพื่อนใหม่ฉันน่ะ แต่เธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้สิ"
"ช่างเค้าเถอะ ไปกินข้าวกัน เธอจะเอาอะไรแซนวิชไหมเดี๋ยวไปซื้อให้"
"อะอืม ตามใจละกันซื้ออะไรมาก็ได้แหละ"
"งั้นรอแปปนึงนะ"
ซองมินวิ่งหายลับเข้าไปในฝูงคนที่โรงอาหาร ชินจูพยายามมองหาโยรีเพื่อนใหม่ของเธอไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย ครู่หนึ่งซองมินกลับมาพร้อมกับอาหารมากมาย
"นี่กินกันกี่คนเนี่ย" ชินจูถามขึ้นเมื่อเห้นอาหารบนโต๊ะมันช่างเยอะเกินไป
"ก็ 2 คนไง เอาเถอะไม่หมดเดี๋ยวก็เก็บไว้กินเป้นมื้อเย็นก็ได้" ซองมินไม่สนใจลงมือกินอาหารตรงหน้าอย่างอเร็ดอร่อย
"ค่อยๆกินสิซองมิน เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก" ชินจูเตือนเพื่อนชายที่กำลังกินอาหารอย่างมูมมาม
"ช่างฉันเถอะน่า เธอรีบกินของเธอต่อเถอะ" ซองมินเงยหน้าขึ้นมาพูดแวบหนึ่งก่อนก้มลงกินต่อ
หลังเลิกเรียน
ลีซองมินและชินจูจะต้องไปทำงานพิเศษต่อที่ร้าน Blueberry Lover เมื่อเลิกเรียนแล้วทั้งสองจึงรีบไปทำงานต่อทันที วันนั้นร้านเบเกอรี่นั้นเต็มไปด้วยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมินชอนซองเสียส่วนมาก ซองมินกับหญิงสาวเลยต้องทำงานเหนื่อยหนักเป็นพิเศษ และในขณะที่ชินจูกำลังก้มลงตัดชีสเค้กในตู้นั้น พลันสายตาของเธอก็มองเห็นรถสปอร์ตสีดำคันหรูที่ดูคุ้นตา วิ่งโฉบผ่านหน้าร้านของเธอไปอย่างรวดเร็ว เธอเงยหน้าขึ้นมาทันที แต่ช้าไปรถสปอร์ตคันนั้นรถกว่ามันวิ่งไปไกลแล้ว ชินจูส่ายหัวแรงๆ เพื่อบอกกับตนเองว่ารถในโลกนี้อาจจะซ้ำกันได้ละ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น