คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : >>> My last memory
เสียงฝีเท้าเดินมาตามทางเดินยาวตรงไปยังห้องโถง ผ่านรูปปั้นสัตว์ในตำนานต่างๆ พร้อมทั้งน้ำพุไททัน ชีวอนพ่อมดหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อเหลาประดุจดั่งเทพในนิยาย มันก็แน่สิในเมื่อเขามีเชื่อสายของเทพอีรอสอยู่ในตัว พ่อมดหนุ่มเดินช้าๆมาเรื่อยๆสายตาทอดมองไปเบื้องหน้าอย่างว่างเปล่า
เบื้องหน้าคือประตูปราสาท ชีวอนเลือกที่จะหยุดยืนอยู่ ณ ที่นั้นสักครู่ก่อนจะหันหลังมามองน้ำพุไททันที่ขณะนี้น้ำในนั้นกำลังไหลออกมาเป็นสายอย่างสม่ำเสมอ
“ชีวอน นายว่าน้ำพุไททันสวยมั้ย” เสียงหวานของพ่อมดฮีซอล ที่เอ่ยถามเขาในคืนงานวันคริสมาตร์เมื่อปีที่แล้ว
“อืมสวยดีนะ” พ่อมดชีวอนตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่
“แต่ชั้นว่ามันสวยนะ ยิ่งในคืนนี้มันประดับไฟด้วยยิ่งสวยใหญ่เลย”
“อืม”
“นี่ถ้ามีคนมาบอกรักชั้นที่น้ำพุไททันนะ คงจะดีสิ”
พ่อมดชีวอนที่ไม่ได้สนใจกับคำพูดนั้นกลับจ้องมองลงไปในน้ำพุ “ชีวอน” ฮีซอลเรียกเมื่อรู้ว่าร่างสูงไม่ได้ฟังคำพูดที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย
“นายรู้ไหมชีวอน คริสมาตร์นี้เป็นคริสมาตร์ที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตชั้น”
พ่อมดหนุ่มอีกคนเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางตรงหน้า พลางส่งยิ้มให้ อย่าฮีซอล อย่านะ อย่าพูดคำนั้นได้โปรด ชีวอนพยายามห้ามปรามอยาในใจ แต่ช้าไป......
“ชั้นรักนายจังเลยชีวอน” ฮีซอลพูดพลางยิ้มหวาน ดวงตาเป็นประกายด้วยความอบอุ่น
ชีวอนฝืนยิ้มให้กับคนตรงหน้า
บอกสิชีวอน บอกสิว่านายก็รักชั้นมากเหมือนกัน เสียงของฮีซอลภาวนาอยู่ในใจ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขอให้นายมีความสุข เมอร์รี่คริสมาตร์ฮีซอล ชั้นต้องไปละ” ชีวอนพูดพลางลุกขึ้นจากขอบอ่างน้ำพุไททันที่กำลังเจิดจรัสด้วยแสงสิบสองสี กับน้ำที่ไหลพุ่งออกมาเป็นรูปสัตว์ในตำนานชนิดต่างๆ สีหน้าของคนอีกคนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ทำไมละชีวอน????
ทำไมนายไม่บอกรักชั้น????
เหมือนกับที่ชั้นรักนาย--------
เพราะอะไรกัน หรือว่านายไม่รักชั้น???????
พ่อมดชีวอนถอนสายตาจากน้ำพุไททัน เขาเลือกที่จะเดินออกไปยังสนามหญ้าหน้าปราสาท ปล่อยให้ความทรงจำเกี่ยวกับเพื่อนรักหลุดลอยไปกับอดีต ชั้นรักนายไม่ได้ฮีซอล ชั้นรักนายไม่ได้จริงๆ
สายตาที่เหม่ลอยและสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำเอาพ่อมดหนุ่มต้องเดินชนเข้ากับใครคนนึง
“โอ้ย” ร่างสูงกระแทกเข้ากับร่างบางทำเอาร่างนั้นเซล้มลง
“นายเป็นอะไรรึเปล่า” ชีวอนรีบถาม
“เดินบ้าอะไรของนาย มองไม่เห็นคนหรือไงกัน” เสียงหวานที่ทำเป็นดุกำลังว่าเขาอยู่
“ชั้นขอโทษ ชั้นไม่เห็นนี่ว่านายเดินมา”
“โอ้ยยย” ร่างบางร้องเมื่อพยายามลุกขึ้น ก็เมื่อกี้นะสิตอนเซล้มลงเท้าขวามันดันไปสวะดุดเข้ากับก้อนหิรพอดี ขอแพลงเลย
“นายเป็นอะไร” ชีวอนขมวดคิ้วเมื่อเห็นหน้าตาเจ็บปวดของร่างบาง
“เท้าชั้น นายทำเท้าชั้นแพลง”
“งั้นเหรอ ไหนงั้นดูหน่อยสิ” ชีวอนเดินเข้ามาพลางรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมทั้งก้มลงดูข้อเท้า
“จะทำอะไรอะ ปล่อยนะ” ร่างบางพยายามดิ้น
“อยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวก็เจ็บมากขึ้นหรอก”
“นายแย่ที่สุดเลย”
“ขานายแพลงจริงๆด้วย มาเดี๋ยวชั้นพาไปห้องพยาบาลเอง” ชีวอนพูดพลางใช้แขนช้อนร่างของพ่อมดหน้าสวยเบื้องหน้า
“อ๊าๆๆ ปล่อยนะๆ” พ่อมดหน้าสวยดิ้นเร่าๆในอ้อมกอด “นายจะอุ้มชั้นทำไมกัน”
“ก็อุ้มอะดีแล้ว ถ้าพาเดินเดี๋ยวไปกระแทกอะไรอีกนายจะเจ็บมากขึ้น”
ชีวอนอุ้มร่างบางตรงหน้าเดินเข้ามาในปราสาทเพื่อจะพาอุ้มไปยังห้องพยาบาล หน้าที่ขาวใสอมชมพูเพราะอากาศหนาว ริมฝีปากที่อ่อนบางเหมือนกลีบกุหลาบ เหมือน เหมือนฮีซอลจังเลย พ่อมดที่หน้าหวานแบบนี้จะมีซักกี่คน แต่คนนี้จะต่างจากฮีซอลตรงที่ว่า แววตานั้นดูหวานและอ่อนโยน ผิดกับฮีซอลที่ตาจะเป็นประกายระริกและทะเยอทะยาน
“ชั้นคุ้นหน้านาย นายมาจากหอไหนเหรอ” พ่อมดชีวอนเอ่ยถามคนที่กำลังโดนอุ้ม
“หอเทพเจ้าฝั่งตะวันออก”
“งั้นเหรอ นายอยู่ปีอะไร”
“ปีหก”
“เท่ากับชั้นเลย เป็นเด็กหอเทพเจ้างี้นายก็ต้องเรียนเก่ง และก็เชี่ยวชาญด้านพลังจิตนะสิ”
คำพูดของชีวอนทำเอาพ่อมดหน้าหวานแอบยิ้มเพราะคำชมไม่ได้ “ชั้นไม่เก่งเท่าไหร่หรอก เพื่อนๆของชั้นเก่งกว่าเยอะ”
“5555+ แต่แค่นายได้อยู่หอเทพเจ้านายก็เก่งแล้ว”
“ขอบใจ”
“แล้วนายจะไม่ถามชั้นเหรอว่าชั้นอยู่หอไหน”
“ไม่ละ ชั้นรู้แล้ว นายหนะออกจะดังในหมู่สาวๆ เพื่อนของชั้นก็ชอบพูดถึงนาย”
“เออนะ ลืมไปว่าชั้นดัง555+”
“แหวะคนหลงตัวเอง” ร่างบางทำหน้าสะบัดไป ดูแล้วหน้าเอ็นดูเป็นบ้า
“อืม ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ”
“แจจุง คิมแจจุง”
“ชั้นชีวอน เชวชีวอน”
พ่อมดชีวอนพาร่างบางเลี้ยวเข้ามาในห้องพยาบาล มาดามสเตฟานี่กำลังง่วนอยู่กับการเสกต้นรูทบีทให้กลายเป็นยาแก้ปวดท้อง
“ศาสตราจารย์ครับ เพื่อนผมขาแพลง”
“ขอบใจนะที่พาชั้นมาที่นี่”
“ไม่เป็นไร แต่นายอยู่คนเดียวได้นะ ชั้นต้องไปก่อนละ”
“อืมได้”
“จะให้ชั้นบอกเพื่อนนายให้ไหม ว่านายบาดเจ็บ”
“ไม่ต้องหรอก ชั้นใช้พลังจิตบอกเพื่อนของชั้นตั้งแต่ตอนชั้นล้มแล้ว อีกไม่นานพวกเขาจะมากันที่นี่”
“ว้าว พวกนายนี่ใช้วิธีติดต่อสื่อสารกันดีนะ”
และไม่ทันขาดคำ ก็เกิดเสียงดังขึ้นหน้าห้องพยาบาล เด็กนักเรียนพ่อมดสี่คนวิ่งเข้ามาในห้องทำเอามาดามสเตฟานี่หันไปทำหน้าตาไม่พอใจใส่ทันที
“แจจุงนายเป็นอะไรรึเปล่า”
“แจจุงเจ็บตรงไหน”
“แจจุงนายโอเคไหม”
“แจจุง เป็นอะไรมากมั้ย” เสียงของนักเรียนพ่อมดสี่คนถามกับเซงแซ่
“พอๆแล้วพวกนาย ชั้นสบายดี ยุนโฮนายทำหน้าดีๆหน่อยสิชั้นไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” พ่อมดแจจุงหันไปบอกคนตัวสูงที่ยืนทำหน้าเป็นห่วง
“โอ้วโหมาดประธานนักเรียนหายไปเลย” พ่อมดอีกคนที่หน้าตาคล้ายไก่แซวขึ้น
“แจจุงนายไม่เป็นไรก็โอเคแล้ว แล้วนี่” สายตาของพ่อมดยุนโฮเลื่อนมาหยุดที่ชีวอน
“เค้าเป็นคนอุ้มชั้นมาที่นี่เองละ”
“๐อุ้ม๐”
“ใช่ทำไมเหรอ เขาช่วยชั้นไว้นะ”
พ่อมดยุนโฮหรี่ตามองชีวอนอย่างไม่ไว้ใจ “นายทำอะไรเพื่อนชั้นรึเปล่า”
“ชั้นเดินชนเพื่อนนายเองแหละ แล้วก็พาเค้าอุ้มขึ้นในอ้อมกอด เดินจากสนามหญ้ามาที่นี่ เพื่อนนายคุยสนุกมากเลยละ” ชีวอนยิ่มกว้างอย่างสุภาพ แต่ทำเอายุนโฮเดือดเป็นไฟ
“ขอบคุณนะที่ช่วยแจจุง” พ่อมดที่สูงที่สุดดูคงแก่เรียนที่สุดกล่าวขึ้น พ่อมดชางมินนั่นเอง
“เอาละไหนๆพวกนายก็มาแล้ว ชั้นไปก่อนนะ” ชีวอนบอกลา แต่ก่อนไปเขาก็ก้มหน้าลงไปหาแจจุงที่นั่งอยู่ “แล้วเจอกันนะแจจุง หายไวๆละ”
หอนอนองค์ชายพระอาทิตย์กลับกลายเป็นกองขยะย่อมๆ ที่เทศบาลเมืองพ่อมดถึงกับอนาถและเซงถ้ามันเกิดไปปรากฎอยู่กลางถนน
“นี่พวกนายยยยยยยยยยย” พ่อมดเฮลากเสียงยาว
“นี่กี่โมงแล้วอะ”
“นี่เหรอ บ่าย 3 แล้วละ”
โครมมมมมมมมมมม!!!!! เกิดเสียงดังขึ้นที่หน้าประตูหอเมื่อผู้คุมซึงฮวานเดินเข้ามา
“พวกนายคัดเลือกตัวแทนกันรึยัง”
“ตัวแทน? ตัวแทนอะไรเหรอ” ดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมมัน ผู้คุมซึงฮวานหน้าเครียด
“ก็ตัวแทนประลองชิงสุดยอดพ่อมดไงละ”
“ครับ จำได้แล้ว แหะๆ แล้วไงละครับ”
“ก็พวกนายจะต้องคัดเลือกตัวแทนนะสิ”
“แต่พวกเราไม่มีใครอยากประลองนี่ครับ” ทุกคนเห็นด้วย
“เอาละๆ พอๆ ไม่มีข้อแม้พวกนายจะต้องคัดเลือกตัวแทน เพื่อส่งเข้าแข่งขัน ถ้าพวกนายไม่ส่งชั้นจะบอกอาจารย์ประจำวิชาว่าให้พวกนายสอบตกยกหอ”
และนั่นคือประกาศิตพ่อมดน้อยทั้งหลายทำหน้าตาทราบซึ้งในคำสั่ง
“มากันครบหรือยัง หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ สิบเอ็ด”
“ผมมาแล้วครับ” ชีวอนที่เดินเข้ามาทีหลังบอกผู้คุมซึงฮวาน
“โอเค เวลาต่อจากนี้จนถึงวันนี้เที่ยงคืนพวกนายทำการคัดเลือกตัวแทนซะ ชีวอนนายู้ใช่ไหมว่านายลงแข่งขันไม่ได้เพราะนายมีเชื้อสายเทพ ฉะนั้นมันจะเป็นข้อได้เปรียบ”
“ครับผมทราบดี”
“โอเคงั้นทำทุกอย่างให้เรียบร้อยละ ชั้นหวังว่าชั้นจะหวังอะไรจากพวกนายได้บ้าง” ผู้คุมซึงฮวานพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากหอ
พ่อมดน้อยทั้งหมดนั่งมองหน้ากัน ใคร ใครละจะเป็นตัวแทนไป
“ชั้นบอกไว้ก่อนนะ” พ่อมดมินแผดเสียง “ว่าชั้นจะไม่ยอมให้คยูจ๋าลงแข่งขันแน่นอน เพราะถ้าคยูจ๋าของชั้นเป็นอะไรไปชั้นจะอยู่ยังไง”
“อะไรเนี่ยซองมิน พูดอย่างนี้ก็เห็นแก่ตัวสิ”
“ไม่รู้ละ แล้วทำไมนายไม่ไปเองละเยซอง”
“ไม่นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”พ่อมดรยอแผดเสียงบ้าง “เรื่องอะไรจะเอาเยซองของชั้นไปละ ชั้นไม่ยอมเด็ดขาด ไม่มีทางยอม”
“งั้นนายก็ไปเองสิรยออุค”
“ไม่อะนายก็รู้ว่าในบรรดาพวกนายทั้งหมดชั้นเก่งน้อยสุด”
พ่อมดอีทึกที่นั่งฟังเพื่อนๆเถียงกันพยายามหาทางออกให้
“เอาละฟังก่อนนะ” อีทึกเริ่ม “ตัวแทนจะต้องป็นคนที่เก่ง แต่ในเมื่อชีวอนมีเชื้อสายเทพ เลยลงแข่งไม่ได้ ฉะนั้นก็เหลือพวกเราสิบเอ็ดคน”
“ดงเฮเก่งเรื่องการใช้ไม้กายสิทธ์ที่สุด ทำไมไม่ให้เขาไปละ”
“จะมากไปแล้วคังอิน” พ่อมดฮยอกแจรีบห้ามความคิดนี้ เรื่องอะไรจะให้ดงเฮคนที่เขารักที่สุดไปลงสนามแข่งขันที่มีแต่อันตราย
“ฮันคยองนายเก่งเรื่องการใช้คาถาไม่ใช่เหรอ ชั้นเห็นนายพลิกแพลงคาถาได้เก่งและแม่นยำ นายเป็นตัวแทนของเราสิ”
“ไม่ละ คาถาที่ชั้นถนัดมีแต่คาถาแบบโกงๆ ชั้นไม่ถนัดคาถาที่มันมีในบทเรียนเท่าไหร่”
“คิบอมไง นายเก่งเรื่องการใช้พลังจิต พอๆกับพวกเด็กหอเทพเจ้าเลยนะ”
“ไม่ละ งานนี้ชั้นขอตัว”
และแล้วบรรดาพ่อมดน้อยทั้งหลายก็ไม่สามารถตกลงกันได้ และทำให้เกิดการทะเลาะกันขึ้น ระหว่างซองมินกับรยออุค ที่พยายามกันไม่ให้สุดที่รักของตัวเองลงแข่ง
และฮยอกแจกับคังอินที่ไม่ยอมให้ดงเฮลงแข่ง
พ่อมดอีทึกมองเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างเหนื่อยใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จนกระทั่ง.................
“เงียบบบบบบบบบบบบบได้แล้ว” เสียงที่เสกจากเวทมนต์ดังขึ้น “ชั้นคิดวิธีได้แล้ว”
“เหรอวิธีอะไรอะ”
“เราจะต้องมีการวัดและทดสอบความสามารถ ใครที่เก่งที่สุดยกเว้ณชีวอนจะต้องเป็นตัวแทนออกไปแข่งขัน”
ทุกคนนั่งเงียบเพื่อฟังท่านหัวหน้า
“แล้วเราจะวัดกันยังไง”
“ไม่ยากหรอกน่าเดี๋ยวพวกนายก็รู้เองแหละ”
ความคิดเห็น