คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : จากไกล หายลับสู่ฟากฟ้า ~ ~ คำมั่นสัญญาที่ไม่อาจจะคงเดิม
เมื่อฟ้ารู้สึกตัวอีกครั้งเธอถูกนำตัวเข้ามาอยู่ในโกดังล้าง มือทั้งสองข้างของเธอถูกมัดแน่นด้วยเชือกเส้นใหญ่ ปากของเธอนั้นไม่สามารถพูดหรือส่งเสียงอะไรออกมาได้เพราะถูกแปะด้วยเทปกาวอย่างหนา เสียงฝีเท้าที่เดินจากรองเท้าส้นสูงกระทบลงบนพื้น มือเย็นๆของใครคนหนึ่งจิ่กเข้าที่คางของเธอ
"นังเด็กนี่น่ะเหรอ จะเป็นคนล่อมันให้ออกมา" เจ้าของมือนั้นเป็นผู้หญิงสวมแว่นตาสีดำ แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางสีเข้มจัด ปากที่ถูกทาด้วยลิปติกสีแดงเป็นมันวาว กำลังสนทนากับชายร่างยักษ์อีกคนที่ยืนอย่างสงบอยู่ไม่ไกลนัก
"ใช่ ก็นังผู้หญิงคนนั้น มันบอกเราอย่างงี้นี่" ชายร่างยักษ์กล่าวขึ้น น้ำเสียงของฟังดูน่ากลัวมาก
"งั้นก็ดี ติดต่อมันไปหรือยังละ"
"เรียบร้อยแล้วครับอีกไม่นานมันคงจะมากัน"
"ชอน"
"ครับ"
"แกกำจัดไอ้บอดี้การ์ดสองคนที่ตามมันมาจากกรุงโซลได้หรือยัง"
"คือ....ผมให้พรรคพวกไปตามสืบมาแล้วแต่พวกมันบอกว่าหาไม่เจอครับ"
"ไอ้โง้" หญิงสาวพูดนั้นพูดขึ้นเธอลุกขึ้น พร้อมกับถอดรองเท้าส้นสูงปาใส่หน้าชายร่างยักษ์ทันที "แกมันไง้มาก แกรู้ไหมว่าถ้าเกิดว่า บอดี้การ์ดสองคนนั้นยังไม่ออกไปจากโลกใบนี้ เราก็ยังถือว่ามีเสี้ยนหนามอยู่ดี"
"ผมขอโทษครับ" ชายร่างยักษ์พูดขึ้น พร้อมทั้งก้มลงเก็บรองเท้าส้นสูงของหญิงสาวและเดินกลับมาหาเธอ หญิงสาวนั่งลงบนแท่นสังกะสีและยื่นเท้าอันเรียวงาม ให้ชายร่างยักษ์นั้นใส่รองเท้ากลับคืนให้
"ขอบใจมาก" หญิงสาวพูดพลางสะบัดเท้ากลับมาทำเอาส้นรองเท้า กระหวัดเอาเข้าที่หน้าของชายร่างยักษ์จนเกิดเป็นรอยแผลมีเลือดไหลซิบ
"แต่ยังไงเจ้านายไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ" จู่ๆชายร่างยักษ์ก็กล่าวขึ้น "ไม่มีใครตามหาพวกมันเจอนานแล้ว สงสัยว่าพวกมันคงจะหลงทางประเทศไทย"
"เฮอะ ยังไงก็ตามที ฉันก็ยังไม่ไว้ใจ ถ้าวันนี้มันโผล่มา เราก็พลาดนะสิ"
คนทั้งคู่คุยกันอยู่อย่างนั้นนานพอสมควร ฟ้ารู้สึกว่าเธอเจ็บที่บริเวณหลังและศรีษะอย่างยิ่ง อาจจะเป็นเพราะแรงกระแทกจากไม้หน้าสามก็เป็นได้
"พ่อหนุ่ม หายไปไหนมา มีคนฝากจดหมายเอาไว้ด้วยนะ" คุณลุงคนเฝ้าห้องพักกล่าวขึ้น
"ใครจะมาฝากจดหมายถึงผมครับ"
"อ้าว ก็กิ๊กพ่อหนุ่มไง คนที่สวยๆ หน่อยชื่ออะไรน้า อ้อ แพทตี้น่ะ"
"งั้นเหรอครับ"
แพทตี้จะมาฝากจดหมายถึงเขาทำมัยกัน ซองจดหมายนั้นเป็นซองกระดาษสีน้ำตาลอ่อน ไม่มีการจ่าหน้าซองถึงใคร คิมจินซองค่อยๆเปิดจดหมายนั้นอย่างไม่ใส่ใจ แต่ก่อนที่เขาจะเปิดมันออกมาอ่าน
"ขึ้นไปอ่านบนห้องเถอะ ลุงจะปิดไฟตรงนี้แล้ว ตอนนี้รัฐบาลเขารณรงค์ให้ประหยัดไฟ"
"ครับ" คิมจินซองเดินกลับเข้ามายังห้องพักของตนเอง เขาลืมเรื่องจดหมายของแพทตี้ไปเสียสนิท และเมื่อเข้าไปถึงเขาก็ตรงเข้าอาบน้ำเพราะความร้อนทันที โดยที่จดหมายนั้นถูกเปิดทิ้งไว้บนเตียงนอน
เมื่ออาบน้ำเสร็จ เขาจึงเดินมาที่เตียงพร้อมทั้งดึงผ้าปูที่นอนออก ฉับพลันทันใด ซองจดหมายสีน้ำตาลอ่อนที่ไม่มีผู้จ่าหน้าซอง ก็ร่วงพลิ้วลงตามแรงสะบัดของผ้า กระดาษใบหนึ่งร่วงออกมาจากซองจดหมาย แต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจมากที่สุดนั้นก็คือ จดหมายนั้นถูกเขียนด้วยภาษาเกาหลี ซึ่งไม่ใช่ภาษาที่แพทตี้จะเขียนได้ คิมจินซองเดินเข้าไปและหยิบกระดาษแผ่นนั้นกางออกอ่านทันที
"นี่พ่อหนุ่มจะไปไหนน่ะ ดึกแล้วนะ" เสียงลุงเจ้าของหอพักตะโกนตามไล่หลังเมื่อเห็นคิมจินซองวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตออกไปอย่างนั้น 'ชินจูจะต้องไม่เป็นไร' เขานึกและภาวนาอยู่ในใจ
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นยังอีกฟากหนึ่งของพุ่มไม้ เสียงแหบต่ำของชายที่สนทนากันด้วยภาษาเกาหลี ชายสองคนนั้นนั่นเอง สองคนนั้นที่พยายามจะพาจินซองกลับเกาหลีตั้งแต่วันแรกที่เห็น พวกเขาตามจินซองมาเพราะรู้ข่าวว่าเขากลับมาจากการหายไปเมื่อตอนถูกนักฆ่ายิงและตามล่า หน้าที่ของพวกเขาจากกรุงโซลคือเดินทางมาตามหาและรักษาชีวิตของคุณชาย ฮันจินซอง
"คุณชาย วิ่งออกไปไหนไม่รู้ รีบตามไปกันเถอะ" ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้น ซึ่งอีกคนก็พยักหน้ารับโดยดี
ชายชุดดำสองคนวิ่งออกรถตามชายหนุ่มไปในทันที รถคันนั้นหยุดลงที่โกดังร้าง คิมจินซองวิ่งเข้าไปข้างในแล้ว
ชายหนุ่มหยุดหอบหายใจก่อน เหงื่อที่ไหลโทรมกาย ภาพเบื้องหน้าคือภาพของผู้หญิงที่เขารักปานดวงใจ ถูกมัดไว้ ร่างกายของเธอดูบอบช้ำและทรมาน เมื่อฟ้าลืมตาขึ้นมาอีกทีเธอเห็นคิมจินซองยืนอยู่เบื้องหน้า เธอรีบส่ายหน้าเป็นเชิงสั่งให้เขาไปซะ
"ชินจู" แต่ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาเด็กสาวนั้น ปากกระบอกตะกั่วหรือปืน ถูกจ่อหลงกลางศรีษะด้านหลังของชายหนุ่ม คิมจินซองดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านอะไรแม้แต่น้อย
"ปล่อยเธอซะ แล้วผมจะยอมทุกอย่าง"
"ทุกอย่าง" หญิงสาวที่นั่งอยู่บนแท่นสังกะสีหัวเราะขึ้น "ทุกอย่างเลยเหรอค่ะ คุณฮันจินซอง"
"ใช่ผมยอม ขอแค่พวกคุณปล่อยเธอซะ" เขาพูดพลางชี้มือมาทางฟ้า
"แม้แต่ชีวิต คุณก็ยอมงั้นเหรอ"
"ใช่ผมยอม" ฟ้าได้แต่ส่ายหน้าแรงๆ เป็นเชิงว่าอย่าทำอย่างนั้นเชียวนะ
"ชอน แก้มัดเธอซะ"
ชายร่างยักษ์ตรงเข้าแก้มัดฟ้า เขาดึงเทปกาวออกจากปากของเด็กสาว และผลักเธออย่างแรง ร่างของเด็กสาวถูกผลักกระเด็นมากองอยู่ที่ปลายรองเท้าส้นสูงของผู้ที่นั่งอยู่บนแท่นสังกะสี มือเย็นๆบีบเข้าที่แก้มของฟ้า
"อย่าทำอะไรเธอนะ" จินซองตะโกนสุดเสียง
"โอ้ว จุ๊ๆๆ คุณฮันจินซอง คุณเลิกเล่นได้แล้ว สิ่งที่เราต้องการคือชีวิตของคุณ"
"หนีไปซะจินซอง หนีไป" ฟ้าพูดดั่งลั่น เพ๊ยะ!!! เสียงตกฉาดใหญ่เข้าที่หน้าของเด็กสาว
"ไม่ใช่เรื่องของเธอ อย่าแส่ไม่เข้าเรื่อง"
"พวกแกนั้นแหละ แส่ไม่เข้าเรื่อง" สิ้นเสียงปืนอีกกระบอกหนึ่งถูกจ่อเข้าที่ท้ายทอยด้านหลังของหญิงสาวเจ้าของปลายรองเท้าส้นสูง หน้าตาของหญิงสาวแสดงความตกใจกลัว เพราะชายชุดดำผู้เป็นบอดี้การ์ดของจินซอง ขณะนี้กำลังถือปืนจ่อรอระเบิดศรีษะของเธออยู่
"เราตามดูความปลอดภัยของคุณชายมานานแล้ว พวกแกตายใจเกินไปรึเปล่า"
"จินซอง นี่มันอะไรกัน" ฟ้าถามขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ แต่เธอเองก็ต้องการคำตอบสำหรับบางเรื่อง
"อ้อ นี่แกยังไม่รู้เหรอ น่าสมเพชจริงๆ" หญิงสาวคนนั้นพูดต่อ "ฮันจินซอง น่ะเป็นถึงลูกชายนักธุรกิจ และที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะฆ่าเขา"
"แกหุบปากได้แล้ว" ชายผู้เป็นบอดี้การ์ดสั่ง เขายิ่งกดปลายปืนลงไปให้หนักอีก "ถึงตาแกที่จะต้องตายแล้ว"
"เฮอะ ถ้าลองพวกแกฆ่าฉัน คุณชายของแกก็ต้องตายด้วย" หญิงสาวนักฆ่าพูดด้วยอาการเหมือนว่าตนถือไพ่เหนือกว่า
"แต่นี่ก็ไม่แน่เสมอไปหรอก" โป้ง!!! เสียงปืนดังสนั่นลั่นโกดังขึ้น ชายชุดดำอีกคนซึ่งเป็นบอร์ดี้การ์ดอีกคนที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่ง ระเบิดกระสุนปืนเข้าทางด้านหลังของชายร่างยักษ์ จนบัดนี้ร่างนั้นได้สูญสิ้นลมหายใจไปแล้ว
"ขอบใจมากยุนเฮ" บอดี้การ์ดที่ถือปืนจ่อศรีษะของหญิงสาวกล่าวขอบคุณเพื่อน
"ขอบใจมากยุนเฮ" บอดี้การ์ดที่ถือปืนจ่อศรีษะของหญิงสาวกล่าวขอบคุณเพื่อน
"ชอน" หญิงสาวระเบิดเสียงกรี๊ด ภาพผู้ติดตามทำงานอาชีพนักฆ่าเพียงคนเดียวของเธอถูกฆ่าตายอยู่ต่อหน้า
"ถึงตาแกบ้างแล้ว" เมื่อบอดี้การ์ดอีกคนกำลังจะลั่นไกปืนใส่หัวของหญิงสาว
"พอเถอะ ดองวอน" คิมจินซองกล่าวขึ้น
"แต่คุณชายครับ" ดองวอนยังคัดค้านต่อ
"ผมบอกให้พอ ไงดองวอน ปล่อยเธอไปซะ"
"ไปให้พ้น" บอดี้การ์ดดองวอนตะโกนไล่ หญิงสาวนักฆ่านั้นไปสุดเสียง เธอรีบลุกขึ้นวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
"ชินจู" คิมจินซองเรียกเธอ และทันใดนั้นร่างของฟ้าก็อ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรง คิมจินซอง รีบตรงเข้ารับล่างของเธอเอาไว้ และช้อนร่างของเธอใส่อ้อมแขนทันที
"คุณชายจะเอายังไงครับ"
"ผมจะพาเธอกลับบ้าน"
"แต่คุณต้องกลับไปกับพวกผม มันมีความจำเป็นมากและนี่เป็นคำสั่งของคุณพ่อของคุณ"
"ผมทราบแล้ว ดองวอน ผมจะไปกับพวกคุณ แต่ไม่ใช่เวลานี้"
"แค่เช้าของวันนี้เท่านั้น คุณสนุกมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่คุณจะต้องรู้หน้าที่ของตัวเองบ้าง" บอดี้การ์ด ดองวอนพูดเสียงเด็ดขาด
ชายหนุ่มคิมจินซอง กล้ำกลืนน้ำตาและความเจ็บปวดในใจอย่างแสนสาหัส เขาไม่อยากจะจากชินจูที่เขารักไป แต่เพื่อสิ่งที่ควรจะเป็นเขานั้นต้องทำ จดหมายลาแผ่นสุดท้ายที่เขาไหว้วานให้คุณลุงหน้าห้องพักเขียนให้เขาในตอนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น และก่อนที่ฟ้าจะตื่นนอนจดหมายนั้นก็ถูกวางไว้พร้อมกับรูปวาดของไข่มุก หรือในภาษาเกาหลีเรียกว่าชินจูนั่นเอง
ชายหนุ่มคิมจินซอง กล้ำกลืนน้ำตาและความเจ็บปวดในใจอย่างแสนสาหัส เขาไม่อยากจะจากชินจูที่เขารักไป แต่เพื่อสิ่งที่ควรจะเป็นเขานั้นต้องทำ จดหมายลาแผ่นสุดท้ายที่เขาไหว้วานให้คุณลุงหน้าห้องพักเขียนให้เขาในตอนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น และก่อนที่ฟ้าจะตื่นนอนจดหมายนั้นก็ถูกวางไว้พร้อมกับรูปวาดของไข่มุก หรือในภาษาเกาหลีเรียกว่าชินจูนั่นเอง
และเมื่อถึงเวลา บอดี้การ์ดดองวอน เดินประกบตัวชายหนุ่มจอมทะเล้นคิมจินซอง ที่ตอนนี้สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงที่ดูหรูหราสวยงาม แต่อีกใจของชายหนุ่มกลับอาลัยอาวรณ์เสื้อผ้าเก่าๆมากกว่า เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าแสดงถึงความจากลาที่ไกลแสนไกล เด็กสาวที่นอนไม่รู้ตัวอยู่นี้จะรู้สักนิดไหมนะว่าตอนนี้ความรักได้หลุดลอยหายไปแล้ว ความสุขที่เธอบอกว่าร่วมกันสร้างได้ทุกวันเหมือนกับสร้างปราสาททรายริมทะเลนั้น วันนี้มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เธอพูดก็ได้
และเมื่อถึงเวลา บอดี้การ์ดดองวอน เดินประกบตัวชายหนุ่มจอมทะเล้นคิมจินซอง ที่ตอนนี้สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงที่ดูหรูหราสวยงาม แต่อีกใจของชายหนุ่มกลับอาลัยอาวรณ์เสื้อผ้าเก่าๆมากกว่า เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าแสดงถึงความจากลาที่ไกลแสนไกล เด็กสาวที่นอนไม่รู้ตัวอยู่นี้จะรู้สักนิดไหมนะว่าตอนนี้ความรักได้หลุดลอยหายไปแล้ว ความสุขที่เธอบอกว่าร่วมกันสร้างได้ทุกวันเหมือนกับสร้างปราสาททรายริมทะเลนั้น วันนี้มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เธอพูดก็ได้
ความคิดเห็น