ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~My love is Destiny~ รักสุดใจของนายทะเล้น

    ลำดับตอนที่ #1 : When we first met !!!!

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 49


    ณ   สนามบินดอนเมือง ประเทศไทย


    สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มผู้หนึ่งได้เดินทางมายังสนามบินดอนเมืองเพื่อมาส่งพี่ชายสุดที่รักของเธอที่เพิ่งสอบชิงทุนไปศึกษาต่อปริญญาโทสาขาวิศวกรรมศาสตร์ที่ญี่ปุ่นได้  พี่ชายของเธอได้รับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศไทยมาได้ไม่นานจึงตัดสินใจไปสอบชิงทุนเพื่อไปเรียนต่อและจะได้สร้างอนาคต

    พวกเขาทั้งสองเดินทางมาถึงสนามบินก่อนกำหนดเครื่องออกเกือบ 2 ชั่วโมง และนั่นทำให้พี่ชายของเธอต้องหากิจกรรมอะไรสักอย่างทำเพื่อฆ่าเวลา

    "ฟ้าพี่หิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ อีกตั้งนานกว่าเครื่องจะออก"  ชายหนุ่มหน้าตาดีผู้เป็นพี่ชายของเด็กสาวกล่าวชักชวนขึ้น ความจริงเขาเองก็ตื่นเต้นมากไปหน่อยอาจเพราะว่าไม่เคยไปเมืองนอกเมืองนากับเขา จึงทำให้รีบปลุกน้องสาวให้มาส่ง

    "ค่ะ" เด็กสาวตอบอย่างว่าง่าย เธอไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้นเพราะขณะนี้จิตใจของเธอดูห่อเหี่ยวชอบกล สองพี่น้องเดินมายังร้านอาหารร้านหนึ่งในตัวของอาคารสนามบิน  วันนี้ท่าทางของเด็กสาวดูเศร้าซึมอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเธอจะต้องจากพี่ชายสุดที่รักของเธอไป

    "นี่เป็นอะไรไป นั่งเขี่ยข้าวอยู่นั้นแหละ กับข้าวไม่อร่อยเหรอ" พี่กันต์พี่ชายของเด็กสาวดูเหมือนจะสังเกตท่าทางแปลกของน้องสาวได้จึงถามขึ้น

    "เปล่านี่ค่ะ"  เด็กสาวตอบในขณะที่ดวงหน้ายังเหม่ลอยอยู่

    "นี่เราอย่าบอกนะฟ้า ว่าเรายังทำใจไม่ได้เรื่องที่พี่จะไปเรียนต่อ" พี่ชายพยายามคาดคั้นต่อเพราะเขาเองก็ไม่เคยสบายใจเลยที่จะทิ้งน้องสาวเอาไว้ที่นี่คนเดียว

    "ไม่ค่ะ ฟ้าทำใจได้แล้ว" เธอตอบคำถามด้วยเสียงหนักแน่น "เอ่อ งั้นเดี๋ยวฟ้าขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะค่ะ" เธอหาวิธีเลี่ยงเพราะพี่ชายของเธอชอบใช้วิธีจับผิดเธอโดยการจ้องตาอยู่เสมอๆ

    ฟ้าเด็กสาววัย 15 ปีเศษเจ้าของแววตาที่แสนเศร้าหมองใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาวที่ขณะนี้มีแต่ความเศร้าที่ปรากฎเป็นแววอยู่บนใบหน้า เมื่อเธอเดินลับสายตาของพี่ชาย น้ำตาของเธอก็ไหล่เอ่อคลอสองตาทันที  เธอไม่อยากอยู่คนเดียว พี่ชายของเธอคือญาติคนสุดท้ายที่เธอมีหลังจากที่พ่อแม่ของเธอที่เสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว เธอไม่เคยทำใจได้เลยกับการที่ต้องอยู่โดยไม่มีพี่ชายของเธอคอยดูแล วันนี้พี่ชายของเธอต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นจึงเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกัน แม้ฟ้าเองจะเป็นเด็กที่มีจิตใจเข้มแข็งแต่การอยู่คนเดียวก็มิได้เป็นการวัดหรือบอกได้ว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้


    ในขณะที่ฟ้ากำลังเดินอย่างเหม่อลอยมาตามทางที่ป้ายบอกนำชี้เส้นทางไปยังห้องน้ำของสนามบินนั้นอารามเหม่อลอยของเธอทำให้ไม่ทันระวังตัว สร้อยข้อมือของเธอที่ร้อยเป็นชื่อของเธอกับพี่ชายรั้นเลยไปเกี่ยวเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้ตัวอักษรที่ร้อยอยู่ในสร้อยข้อมือหลุดร่วงลงกับพื้น

    "อุ้ย" เสียงอุทานเบาๆของเด็กสาวเธอรีบนั่งลงก้มตัวลงเก็บตัวอักษรที่ขณะนี้กระจายอยู่เต็มไปหมด น้ำตาที่ไหล่เอ่ออยู่ในเบ้าตาของเธอขณะนี้ที่เธอก้มหน้าอยู่ มันได้ไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอแล้ว  แต่ก่อนที่เธอจะรู้ตัวอีกที่ ร่างอันบอบบางของเธอก็ถูกกระชากออกไปจากบริเวณนั้น ด้วยแรงฉุดของใครสักคนหนึ่งก่อนที่ฝูงคนมากมายจะวิ่งกันอย่างแตกกระเจิงมาตามทางที่เธอเพิ่งนั่งเก็บของอยู่เมื่อกี้

    "นะนายเป็นใคร ปล่อยนะ" ฟ้าหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของอ้อมแขนนั้น เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูง ผิวขาวสะอาด ผมสีน้ำตาลอ่อนของเขาดูเงาสวยลับกับใบหน้า เขาสวมแว่นตากันแดดสีดำทำให้ไม่สามารถเห็นแววตาของเขาได้

    "คุณนี่ไม่กลัวเจ็บเลยเหรอครับ คนเค้าวิ่งไล่กันอยู่ ยังนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น" เสียงของชายหนุ่มตอบกลับมาด้วยสำเนียงภาษาไทยที่ดูแปลกๆ ดูเหมือนว่าเขาไม่น่าที่จะเป็นคนไทยเพราะดูจากการใช้ลิ้นที่ออกจะดูติดขัดอยู่บ้าง

    เมื่อเด็กสาวหันหลังกลับมาดู ก็เห็นทันทีว่ารั้วสนามบินนั้นล้มลงระเนระนาดแล้วถ้าเธอยังนั่งอยู่ตรงนั้นเธออาจจะโดนเหยียบไปแล้วก็ได้ และเมื่อเธอเพิ่งนึกได้ถึงบุคคลที่เธอควรจะขอบคุณนั้นเป็นใคร เธอจึงรีบหันหลังกลับมา แต่ร่างของชายหนุ่มผู้นั้นก็ได้หายลับไปแล้วฟ้าได้แต่ทำหน้างงๆ พร้อมทั้งมองหาร่างของชายหนุ่มไปรอบๆ แต่ก็ไม่เจอ หวังว่านี่คงไม่ใช่ผีหลอกตอนกลางวันหรอกนะ เธอคิดในใจ


    ฟ้าเดินกลับมายังร้านอาหาร พี่ชายของเธอกินข้าวเสร็จแล้ว   อีกอย่างฟ้าเองก็ไม่มีอารมณ์จะกินต่อด้วย พี่ชายของเธอก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ

    "ฟ้า พี่ต้องไปแล้วนะ ใกล้เวลาเครื่องออกแล้วละ" พี่ชายของเธอเดินนำเธอมาตามทางและไปพบเพื่อนของพี่ชายเธอ

    "สวัสดีครับ น้องฟ้า" เสียงของพี่น๊อตเพื่อนของพี่กันต์ทักทายเธอขึ้น

    "สวัสดีค่ะ" เธอตอบเสียงเศร้า

    "นี่ยังเศร้าอยู่เหรอ เรื่องที่ไอ้กันต์จะไปเรียนต่อเนี่ย มันไปกับพี่ฟ้าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ดูแลมันเอง"

    ฟ้าได้แต่ยิ้มๆ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันแล้วจริงๆ พี่ชายของเธอเข้ามาสวมกอดเธอเอาไว้ น้ำตาของเธอที่ปกติไม่เคยจะไหลง่ายๆ แต่ตอนนี้มันกลับไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่แล้ว

    "ดูแลตัวเองดีๆนะฟ้า แล้วพี่จะรีบกลับมาอยู่ที่นี่ก็ตั้งใจเรียนละ" พี่ชายของเธอพูดจาเป็นการสั่งลา

    "ค่ะ ฟ้าจะเป็นเด็กดีพี่กันต์ก็เหมือนกันนะค่ะ ดูแลตัวเองดีดีด้วย"


    สองพี่น้องล่ำลากันอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งพี่ชายของเธอต้องขึ้นเครื่องบินจากเธอไป เธอยืนมองแผ่นหลังของพี่ชายไปจนกระทั่งประตูของห้องพักผู้โดยสารปิดลงและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความเข้ามแข็งที่เธอต้องเริ่มเผชิญเองแล้ว

    ฟ้าเดินออกมายังสนามบิน เธอจะต้องข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ฟ้าเดินมาเรื่อยๆขณะนี้ ฝนเริ่มตกปอยๆแล้ว อีกฝั่งหนึ่ง เป็นร้านค้าที่บางร้านก็ยังไม่เปิดทำการ ผู้คนในที่นั้นดูบางตาหรือแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำไป

    "ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที มีคนถูกทำร้าย" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ค้าอยู่ในละแวกนั้นดังลอดออกมาจากซอยข้างๆ  ฟ้าหยุดมองครู่หนึ่งเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ๆเผื่อมีอะไรที่เธอพอจะช่วยได้


    "หนูจ๋าช่วยป้าที คนๆนี้ถูกทำร้าย" ภาพเบื้องหน้าเป็นภาพของชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายบริเวณร่างกายและศรีษะนอนจมกองเลือดอยู่ ฟ้าจำได้ทันทีว่าเขาคนนั้นคือคนที่ช่วยเธอที่สนามบินไม่รอช้าเด็กสาวตรงเข้าไปช่วยเหลือเขาทันที

    "งั้นป้าฝากด้วยนะหนู" หญิงคนที่ร้องเรียกให้เธอช่วยดูเหมือนว่าตัวเองจะหมดภาระแล้วเลยรีบฝากฝังชายนหุ่มผู้นั้นให้กับเธอทันที

    "แต่ป้าค่ะคือหนู........" หญิงคนนั้นเดินลับตาไปแล้ว ทิ้งให้เธออยู่กับร่างที่มีเลือดไหลเต็มไปหมดโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาตายหรือยัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×