ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไป๋หลานยอดหญิงสกุลถง(มีE-BOOKแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #9 : ไป๋หลาน9

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 64



     

     

    ทั้งสองมาถึงแผงขายผักและเริ่มจัดวางผักที่นำมาจะมี ผักกาดขาว ผักบุ้ง ปวยเล้ง กวางตุ้ง ฮ่องเต้

    อย่างละ20มัด ไป๋หลานตั้งใจขายที่ราคาเดิมถึงผักจะหายากในช่วงนี้แต่เธอตั้งใจจะแบ่งปันให้ทุกคนได้ทานผักบ้าง

     

    "พวกเจ้ายังมีผักเหลือด้วยหรือ นี่มันเยี่ยมมาก"

     

    "พวกข้าปลูกไว้ทานเองไม่มาก ตั้งใจนำมาขายให้ทุกคนได้ทานผักบ้างเจ้าค่ะ"

     

    "พวกเจ้าทำได้อย่างไรกัน ปลูกในอากาศที่เย็นแบบนั้น เหลือเชื่อมาก"

     

    "พวกข้าแค่ลองปลูกดูเจ้าค่ะ ไม่คิดว่ามันจะงอก"

     

    "ข้าขอซื้ออย่างละ1มัด"

     

    "มัดละ5อีแปะทั้งหมด25อีแปะเจ้าค่ะ

     

    "ข้าขออย่างละ1มัดเช่นกัน"

     

    "แบ่งกันไปนะเจ้าคะ ยังมีอีกมาก"

     

    "ข้า2มัด"

     

    "ข้า4มัด"

     

    และก็เป็นอีกครั้งที่แผงขายผักนี้วุ่นวาย ผู้คนต่างมาแย่งชิงผักสดกันอย่างล้นหลาม ไป๋หลานแก้ปัญหาให้แต่ละคนซื้อไปอย่างละ1มัด และสัญญาว่าวันพรุ่งนี้จะนำผักมาขายอีกครั้ง คนที่มาซื้อไม่ทันจึงทำการจ่ายเงินจองล่วงหน้า ไป๋หลานที่รู้ว่าจะมีเหตุการนี้ก็นำกระดาษที่เธอทำเป็นสมุดและแท่งถ่านที่เฉิงกงทำให้ออกมาเขียนให้คล้ายกับบิลสั่งของพรุ่งนี้เวลามารับของจะได้มั่นใจว่าได้ของที่ตนสั่งแน่นอน เมื่อทุกคนเห็นว่ามันสะดวกกว่าการจองปากเปล่าจึงเห็นด้วยและถือกระดาษการจองผักกลับบ้าน

     

    "ยังคงวุ่นวายเหมือนเดิม"

     

    "สนุกดีเจ้าค่ะ"

     

    "แค่เห็นเงินเจ้าก็สนุกทุกเรื่องแหละหนา"

     

    "ข้ากำลังหาเงินแต่งภรรยาให้ท่านอยู่เจ้าค่ะ"

     

    "....."

     

     

     

    "ข้าต้องการมัน ข้าจ่ายให้เจ้า20ตำลึงทอง"คุณหนูชุดชมพูเสนอขึ้นมาทันที

     

    "ข้ามาก่อน ข้าให้เจ้า50ตำลึงทอง" คุณหนูชุดส้ม

     

     

    "70ตำลึงทองและนำมันมาให้ข้า"คุณหนูชุดม่วง

     

    ตอนนี้เกิดการแย่งชิงผ้าคลุมไหล่ที่ไป๋หลานนำมาฝากให้เถ้าแก่เนี้ยร้านประจำขายแต่ไม่คิดว่าขณะที่กำลังเจรจาราคาอยู่หน้าโต๊ะคิดเงินอยู่นั้นกลับมีผู้หญิงแต่งตัวด้วยผ้าไหมเนื้อดีลายปักงดงามเดินมาขอดูเนื้อผ้าและยังตามมาด้วยอีก2คนที่ดูแล้วคงจะเป็นลูกคนใหญ่คนโต ทะเลาะกันเพื่อซื้อผ้าคลุมไหล่ของเธอจนตอนนี้ ราคาที่ทั้งสามเสนอมามันเริ่มเข้าข่ายเป็นการประมูลขนาดย่อมในร้านผ้าขนาดกลาง

     

    "มีใครให้มากกว่านี้หรือไม่" คุณหนูชุดม่วงถามอย่างผู้ชนะและจ่ายเงินให้ไป๋หลาน70ตำลึงทองตามที่บอกและเดินออกจากร้านพร้อมสาวใช้อย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้คุณหนูชุดชมพูกับชุดส้มกระทืบเท้าอย่างเจ็บใจ ก่อนจะหันมาจับจ้องไป๋หลานจนเธอรู้สึกอึดอัด ไม่น่าเอามาขายเลย แต่ใครจะรู้เล่าว่าอากาศหนาวเย็นแบบนี้พวกคุณหนูทั้งหลายจะพร้อมใจกันออกมาเดินเล่น

     

    "เจ้า.... ยังมีผ้าแบบนั้นอีกหรือไม่ ถ้าข้าสั่งเจ้าจะนำมันมาอีกเมื่อไหร่" คุณหนูชุดส้มถามไป๋หลานด้วยความหวัง สายตาทุกคู่ที่อยู่ในร้านจ้องมองมาที่ไป๋หลาน เมื่อได้ยินแบบนั้นในหัวน้อยเริ่มคิดถึงจำนวนเงินที่จะได้จากการขายผ้าคลุมไหล่ให้คุณหนูที่เงินหนาพร้อมจ่ายแบบนี้ได้ยังไง

     

    "ระยะเวลาตามความยากง่ายของงานเจ้าค่ะ"

     

    "ข้าต้องการให้เจ้าปักชุดให้ข้า เจ้ารับทำหรือไม่" ยังเป็นคุณหนูชุดส้มที่เจราจากับไป๋หลาน

     

    "ข้าขอดูชุดก่อนได้ไหมเจ้าคะ"

     

    "ได้ เสี่ยวจิงไปนำชุดมา"

     

    "แต่ว่า....เจ้าค่ะ"

     

    รอไม่นานสาวใช้ที่ชื่อเสี่ยวจิงของคุณหนูชุดส้มก็เดินยกกล่องใบหนึ่งเข้ามา เมื่อไป๋หลานเห็นชุดในกล่องที่สวมใส่ในหน้าหนาวก็รู้สึกว่ามันสวยดีแต่ไม่มีลวดลาย นี่คืองานใหญ่ของท่านแม่

     

    "ข้าให้ค่าแรงเจ้าในการปักชุดนี้100ตำลึงทอง"

     

    "จะดีหรือเจ้าคะคุณหนู" เสี่ยวจิงตั้งใจเอ่ยคัดค้านชุดนี้เป็นไหมชั้นสูงที่ได้รับพระราชทานจะมาให้ชาวบ้านทั่วไปปักลวดลายลงไปเธอทำใจไม่ได้แต่เมื่อคุณหนูตัดสินใจแล้วเธอจึงต้องเงียบปาก

     

    "นี่คือมัดจำส่วนแรก เมื่องานเสร็จให้มารับส่วนที่เหลือจากจวนเจ้าเมือง ข้าชื่อต่งอี้หวา บอกพ่อบ้านว่ามาพบคุณหนูใหญ่ต่ง ข้าจะกำชับพ่อบ้านให้"

     

    "เจ้าค่ะ" ไป๋หลานรับเงินมัดจำ50ตำลึงทองมาอย่างงุนงง ง่ายถึงขนาดนี้ นึกว่าจะคุยยากเพราะเห็นท่าทางเอาแต่ใจที่คุณหนูต่งแสดงออกมาในทีแรกจึงคิดวิธีต่างๆ ในการรับมือมากมาย แต่ง่ายดายแบบนี้ก็ดีและเธอก็เชื่อมือท่านแม่ว่าจะต้องทำได้นี่มันคือการค้าที่ทำเงินได้มากอีกอย่างหนึ่งเลยนะ อ่า กลิ่นเงินตำลึงจากตัวคุณหนูต่งช่างรุนแรงเหลือเกิน เฉิงกงที่เห็นสายตาของน้องสาวที่ดูงุนงงในทีแรกแต่ก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์แล้วได้แต่ส่ายหัว นิสัยนี้ช่างเปลี่ยนได้ยากยิ่งนัก

     

    "1เดือนข้าจะนำชุดไปหาท่านที่จวนเจ้าเมืองเจ้าค่ะ" ไป๋หลานกอดกล่องใส่เงินไว้แน่นก่อนจะนัดวันส่งอย่างร่าเริง

     

    "ดีข้าจะรอ" ต่งอี้หวาส่งยิ้มละลายใจให้พี่น้องบ้านถงก่อนจะเดินออกไปพร้อมสาวใช้อย่างอารมณ์ดีไม่สนใจคุณหนูชุดชมพูที่ยืนอยู่เลยสักนิดงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินจางที่จะถึงนี้ ข้าจะต้องโดดเด่นกว่าเจ้าแน่ จือหลิ่งฟาง

     

    "วันนี้อากาศช่างดีเสียจริง ว่าไหมเจ้าคะพี่ใหญ่" เฉิงกงเริ่มหมดคำที่จะพูดกับนิสัยหอมกลิ่นเงินของน้องสาวตัวเอง เจ้าบอกว่าอากาศดีในวันที่อากาศติดลบหรือ น้องข้าเจ้าช่างเห็นแก่เงินยิ่ง

     

    "พี่ใหญ่ข้าอยากกินซาลาเปาไส้เนื้อเจ้าค่ะ ซื้อไปฝากคนที่บ้านด้วยนะเจ้าคะ"

     

    "ซาลาเปาไส้เนื้อ4ลูกขอรับ"

     

    "8อีแปะ"

     

    เฉิงกงจ่ายเงินและรับซาลาเปานำมาให้น้องสาวและตัวเองทาน ทั้งสองนั่งกินอยู่ข้างร้านขายซาลาเปาอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อทานหมดก็ตรงไปที่ร้านขายเนื้อหมู ซื้อหมูสามชั้นติดมัน กระดูกหมู เครื่องในหมูและซี่โครง วันนี้เธอจะทำอาหารไทย ที่แค่คิดถึงรสชาติที่เพื่อนชาวไทยเคยทำตอนเรียนด้วยกันมันรู้สึกเหงาและคิดถึงขึ้นมาทันที เพราะแบบนั้นต้องทำอาหารที่เคยกินด้วยกันมันก็พอจะทำให้คลายความคิดถึงขึ้นมาบ้าง

     

    'ท่านต้องการหมุนวงล้อโชคชะตาหรือไม่'

     

    'หมุนเลย'

     

    'ท่านได้รับโสมคนอายุ10,00ปี กำลังเก็บเข้าช่องเก็บของ'

     

    หื้ม เหมือนว่ายิ่งเธอทำงานหาเงินได้เยอะเท่าไหร่การหมุนวงล้อแต่ละครั้งก็จะได้รับของสำคัญหรือของมีค่าเพิ่มมากขึ้นทุกครั้งไป อย่างเมื่อวานก็หมุนได้ผ้าไหมเมฆาที่มีค่าควรเมือง เอ่อ ระบบมันบอกอีกที แต่ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไป๋หลานก็จนปัญญาที่จะหาคำตอบ ได้ของดีจะมัวมาสงสัยทำไมกัน ถ้าขายโสมคนอันนี้จะได้ราคาเท่าไหร่กันนะ ไหนจะไหมเมฆาถ้าให้ท่านแม่นำลายปักชั้นสูงปักลงไปมันจะทำเงินให้เธอเท่าไหร่ คงต้องนำเรื่องนี้ไปปรึกษาท่านปู่เจียงอีกที

     

    ขณะที่กำลังคิดถึงยอดเงินจากการขายสองสิ่งล้ำค่าอยู่นั้น รถม้าก็หยุดลงอย่างกระทันหันไป๋หลานต้องหาที่จับด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะรีบเดินออกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

     

    "พี่ใหญ่เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ"

     

    "มีคนบาดเจ็บนอนขวางทางรถอยู่ เจ้ารออยู่บนรถม้าพี่จะไปดูเอง"

     

    "ระวังด้วยนะเจ้าคะ" ไป๋หลานมองอย่างกังวล และคอยมองหาสิ่งป้องกันตัวไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาจะได้รับมือได้ถูก เฉิงกงเดินไปถึงคนชุดดำที่นอนขวางทาง เมื่อพลิกตัวมาก็เปิดผ้าปิดหน้า วงหน้าที่ซีดเซียวน่าจะเกิดจากการบาดเจ็บและเสียเลือดเป็นจำนวนมาก เมื่อเห็นดังนั้นลมหายใจที่เคยกลั้นไว้ก็พลั่งพลูออกมา ถ้าเกิดมันเป็นกลลวงเขาไม่อยากคิดเหตุการณ์ต่อจากนั้นได้เลย

     

    "เราช่วยเขาดีหรือไม่"

     

    "ข้าคิดว่าจำเป็นเจ้าค่ะ คนก็บาดเจ็บคงจะทำอันตรายเราไม่ได้ อีกอย่างเราเห็นคนเจ็บจะให้ทิ้งไม่ช่วยเหลือก็คงจะใจดำเกินไปหน่อย"

     

    "คงต้องพาไปโรงหมอ"

     

    "พากลับบ้านก่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าตรวจบาดแผลแล้วไม่ได้น่ากลัวมาก ที่มานอนสลบตรงนี้ก็เพราะเสียเลือดเป็นเวลานาน อีกอย่างก็ใกล้จะถึงบ้านแล้ว จะให้พาไปโรงหมออีกข้ากลัวว่าจะไม่ใช้เวลานาน"

     

    "แต่มันเสี่ยงมากเกินไป"

     

    "พวกเราก็แค่ต้องจัดเวรยามดูแลเมื่อเขาตื่นก็ให้คนที่เฝ้าตะโกนดังๆ ก็ได้นี่เจ้าคะ" ไป๋หลานมีความรู้สึกว่าคนๆ นี้ไม่อันตรายแต่จะนำเม็ดเงินที่มหาศาลมาให้เธอมากกว่า และเธอเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองเสมอ

     

    อาการเห็นเงินแล้วตาโตของน้องก็ยังแก้ไม่หายตามเคย อย่าด่าน้องว่าโง่นะคะ น้องแค่งกเองค่ะ???????? ความฉลาดและความเจ้าเลห์จะแสดงออกมาเมื่อเห็นเงินค่ะ อนุญาตให้ด่าได้แต่อย่าแรงนะคะน้องใจบางมาก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×